อิอิ มาแล้วววว
ตอน ห้าสิบสี่
เคยอยู่ใน ห้องมืดไหม ห้องที่รู้สึกว่ามันแคบแต่พยายามคลำหาผนังกลับกว้างใหญ่วิ่งยังไงก็ไม่ถึง ฝั่งฝา ห้องมืดที่ความหนาวเหน็บแผ่ปกคลุมไปทั่วทั้งร่างกาย หนาวจนปวดเข้าถึงกระดูก ยิ่งพยายามดิ้นรนหาทางออก ยิ่งพยายามคลำหาแสงสว่าง ยิ่งเจอแต่คมของแก้วหรือหนามคอยทิ่มตำให้ปวดร้าว ผมกำลังอยู่ในห้องนั้น คราใดที่หลับตาก็ช้ำใจ คราใดที่สูดลมหายใจก็ร้าวไปถึงทรวง ความเจ็บช้ำครั้งนี้จะมียาขนานใดเยียวยาได้ ผมพยายามรวบรวมสติที่มีอยู่น้อยนิดคิดทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้น คิดย้อนกลับไปภาพเด็กผู้หญิงคนนั้น คนที่เพิ่งเจอหน้ากันไม่ถึงนาที ทำไมใบหน้านั้นถึงคอยหลอกหลอนเรียกน้ำตาให้หลั่งไหลออกมาได้ไม่หยุดหย่อน สายตาที่เธอมองผมเหมือนเกลียดเข้าไส้เมื่อได้ยินคำที่เอ บอกว่า "เมียกู" คิดมาถึงตอนนี้ใจก็สั่นไหว นี่สินะความเป็นจริง นี่สินะสิ่งที่มันควรจะเป็นไปตามธรรมชาติ ผมมีอะไรให้เอนอกจากความรัก รักมันกินไม่ได้ มันเชิดหน้าชูตาให้เอไม่ได้ เพราะผมเป็นผู้ชาย เพราะผมเป็นเกย์ เป็นคนวิปริต!!!! ผมจะเอาอะไรไปสู้รบปรบมือกับเขา แค่คิดจะสู้ก็แพ้ตั้งแต่คิดแล้ว
ผมเคยอกหักจากพี่ตั้ม ครั้งนั้นก็เจ็บปวดเหมือนกันแต่มันไม่ร้าวรานมากมายถึงเพียงนี้ พอเห็นพี่ตั้มกับนัทอยู่ด้วยกันใจผมก็หมดจากพี่ตั้มทันที เสียใจอยู่ไม่นาน ทุกข์ใจอยู่ไม่เท่าไหร่ก็หายดี แต่เอผมยังรักมันอยู่หมดใจ แม้เห็นมันอยู่กับคนอื่น เด็กผู้หญิงคนนั้น ให้ตัดใจจากมันน่ะหรือผมทำไม่ได้ แค่คิดว่าวินาทีถัดไปผมจะไม่มีหัวใจเหลือให้มันแล้ว ผมก็เหมือนจะหมดลมสิ้นใจเสียตรงนี้ แค่คิดว่ามันจะเป็นแค่คนที่ผมเคยรัก ผมก็เหมือนโดนตัดพลังแห่งใจ ผมทำไม่ได้แค่คิดผมก็ไม่ทำ ไม่เคยจะหยุดรักมันเลย มีแต่รัก มีแต่ห่วงใยมีแต่มากขึ้นทุกๆวัน ทุกๆวินาที ผมประคบประหงมใจ คอยเติมพลังให้มันด้วยความหวัง แต่เหมือนผมจะวาดวิมานอากาศเพียงลำพัง และตอนนี้วิมานนั้นได้มลายหายไปแล้ว
"แกหักใจ บ้างนะ อย่าทำแบบนี้ ฉันไม่สบายใจเลย"
เสียงพลที่ ยังนั่งอยู่ข้างๆปลอบโยน ผมน้ำตาไหลร้องไห้อยู่ แม้จะเหนื่อยหอบแต่น้ำตาเจ้ากรรมมันก็ไม่ยอมหยุดไหลเสียที ร่างกายอ่อนแรงหัวใจเหนื่อยล้าแต่สมองมันกำลังทำงานอย่างเต็มที่ ภาพต่างๆที่เราเคยทำด้วยกันมา ฉายขึ้นเป็นฉากๆ ใบหน้าของมัน รอยยิ้มของมัน ไรหนวดบางๆนั้น โอย ผมไม่ไหวแล้ว ผมซุกหน้าลงกับมือสะอื้นออกมาอีกครั้ง ถามว่าเจ็บปวดหรือ มันเกินกว่าเจ็บปวด ผมกำลังเสียสติจิดผมหลุดลอยไปแล้ว
"โยๆ ตั้งสติหน่อยสิแก อย่าทำแบบนี้ ฉันรู้ว่าเสียใจ ร้องไห้ยังไม่พออีกเหรอ ต้องให้เจ็บกว่านี้เหรอแกถึงจะพอใจ รู้ไว้นะโย ไม่ใช่มีแต่แกคนเดียวที่เสียใจ ฉันเองก็เสียใจ แล้วไหนจะแม่อรอีก จะทำอะไรคิดถึงใจแม่บ้าง แกทุกข์แค่ไหนแม่อรทุกข์กว่าแกเป็นพันเท่า สงสารตัวเอง สงสารแม่บ้างโย แกคนเดิมมันหายไปไหน คนที่เป็นที่พึ่งทางใจให้พวกเรา เอากลับมาได้ไหมแก อย่าทำแบบนี้"
พลตวาดผม เสียงดัง เป็นครั้งแรกตั้งแต่คบกันมาที่พลตวาดผม เป็นครั้งแรกที่มันเตือนสติผม ใช่ แม่ แม่คือคนที่ผมควรจะห่วงความรู้สึกมากที่สุดไม่ใช่ตัวเอง นี่ความรักมันทำให้ผมเห็นแก่ตัวขนาดนี้เชียวหรือ ผมทำร้ายจิตใจแม่มานานเท่าไหร่แล้ว ผมทำให้แม่เสียน้ำตามากี่หยดแล้ว ผมเป็นลูกที่ไม่เอาไหนเสียเลย หัวใจตัวเองที่บอบช้ำพร่ำเพ้อพรรณา แต่หัวใจคนที่รักผมที่สุดอย่างแม่ อย่างเพื่อนๆล่ะเป็นอย่างไร ผมคิดย้อนวกกลับมายิ่งสะท้อนใจ
"พล ฉันเสียใจ ..... ฉันขอโทษ.....ฉันไม่รู้...ฉัน.....ไม่รู้.........ต้องทำยังไง"
ผมโผเข้ากอด พล ร้องไห้ออกมาหลายสิ่งหลายอย่างรวมกัน ทั้งเอ ทั้งแม่ทั้งเพื่อน ตัวผมเองจะเจ็บปวดสักแค่ไหนมันไม่สำคัญแล้ว แต่ตอนนี้ผมพอมีสติจากการตวาดของพล ว่าผมไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกใบนี้ ผมไม่ใช่คนตัวเปลี่ยวเดียวดายที่ไม่มีใครรักใครห่วง ผมแค่ถูกความรักบดบังตาให้บอดสนิท มองเห็นแต่สิ่งที่ตาเพ่งมอง ผมสะอื้นหนัก
"ไม่เป็นไร แก ฉันไม่อยากเห็นแกเป็นแบบนี้ โย ฉันเข้าใจแกทุกอย่าง ฉันเจ็บเหมือนกันนะแก ยิ่งแกทรมานฉันก็ยิ่งทรมาน พอเถอะแก พอได้แล้ว เจ็บมามากแล้ว"
พลสะอื้นไห้กอดผมแน่น ทั้งบ๊อบกับบอมยืนน้ำตาซึมอยู่ เรากอดกันนานจนผมคลายเศร้าลงบ้าง ไม่มีน้ำตาแล้วแต่ก็ยังสะอื้นลมอยู่ ผมมองหน้าทุกคนที่ส่งสายตาเห็นใจสมเพชเวทนามายังผม ทั้งดีใจที่มีคนคอยเฝ้าดูเวลาที่เราลำบาก ทุกข์ใจ ทั้งเสียใจที่ทำให้คนอื่นต้องเสียน้ำตาทนทุกข์ไปด้วย
"ฉัน....... ขอโทษนะ"
ผมพูดออกไปเสียงแหบแห้งเพราะร้องไห้เยอะเกินความ จำเป็น ผมเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าล้างตาชำระความทุกข์โศกออกไปบ้าง แล้วก็มาชวนพลออกไปกินข้าว เพราะเหลือบดูนาฬิกาเกือบจะบ่ายสามโมงแล้ว ผมคงนอนไปนาน พอได้ล้างหน้าล้างตาก็รู้สึกดีขึ้นมาบ้างแม้ไม่มากก็ตาม ตาผมแดงช้ำ ใบหน้าดูซีดเซียวกว่าเดิมเยอะ นี่ผมทำอะไรกับตัวเองอยู่นี่ผมทำร้ายตัวเองได้มากถึงเพียงนี้เชียวหรือ ผมออกไปข้างนอกทุกคนพร้อมอยู่แล้ว
เราตกลงกินข้าวกันในโรงแรม เพราะไม่อยากออกไปไหนตกลงกันว่ากินข้าวเสร็จก็จะกลับเลย เพราะไม่อยู่ต่อแล้ว ไม่มีจุดประสงค์ใดที่จะอยู่ต่อ ผมพยายามกลืนข้าวลงคอ ยังเหม่อลอยอยู่ แต่เวลาใดที่คิดถึงเอ ผมจะรีบคิดถึงหน้าแม่ เพราะอย่างน้อยที่พลพูดก็ตรงใจที่สุด ผมทำร้ายตัวเองได้ไม่มีใครว่า แต่ถ้าทำแล้วไม่ใช่ผมคนเดียวที่เจ็บ คนที่รักผมมากที่สุดในชีวิตที่เจ็บกว่า พอเรากินข้าวเสร็จก็มาเก็บของ ที่จริงไม่ได้เอาอะไรออกจากกระเป๋าเดินทางเลย มันยังคงสภาพเดิมอยู่ พลไปจัดการเรื่องค่าที่พัก ส่วนบ๊อบพาผมไปรอที่รถ บ๊อบประครองผมออกไปนอกโรงแรม ระหว่างทางเดินไปที่จอดรถ บ๊อบชะงักจนผมต้องเงยหน้าขึ้นตาม เพราะมัวแต่มองข้างทางเลื่อนลอยไป
"เอ"
ผมอุทาน ใจเต้นตึกตัก
"ตัวเอง ฟังเค้าหน่อยได้ไหม เค้าขอร้อง"
มันร้องไห้ หน้าตาดูไม่ได้เอาเสียเลย เหมือนคนไม่ได้อาบน้ำ ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง หน้าตาดูหมองคล้ำมีคราบน้ำตาไหลอาบหน้า กลิ่นเหล้าคลุ้งมาแต่ไกล ผมสั่นทำตัวไม่ถูก
"ไอ้เชี่ย มึงถอยไปเลย เดี๋ยวมึงโดนกู"
บ๊อบทำท่าจะ ผละเข้าไปหาเอ ผมดึงแขนไว้ น้ำตาของผมไหลออกมาอีกครั้ง ไม่ได้อยากให้มันไหลออกมาเลย แต่ผมห้ามมันไม่เคยได้
"อย่า บ๊อบ พี่ขอคุยกับเอหน่อย"
ผมดึงแขนมันเบาๆ บ๊อบถึงหยุดมันลังเลมองอยู่ครู่ใหญ่มันจึงยอมปล่อยมือผม ผมค่อยๆเดินเข้าไปหาเอ มันร้องไห้หนักขึ้นจนหลังงอ สงสารเหลือเกินจับใจ ผมเอามือกุมปากตัวเองไว้ไม่ให้สะอื้นออกมา
"เอ"
ผมเรียกได้ แค่ชื่อมันเพราะถ้าพูดมากกว่านี้ไม่ได้ เพราะคำแต่ละคำมันอยู่ในใจมันมากมายจนเรียบเรียงไม่ถูกว่าจะเริ่มจากคำไหน ก่อนดี
"ตัวเอง เค้าขอโทษ เค้าไม่ได้ตั้งใจ เค้าไม่ได้ตั้งใจ ตัวเอง อย่าทิ้งเค้าน้า เค้าขอโทษ"
มันสะอื้นพยายามเอื้อมมือมาคว้าตัวผมแต่ผมยัง ชะงัก ลังเลใจอยู่ อยากจะเอื้อมมือไปจับ คว้าตัวมันมากอดเหลือเกิน แต่ปมในใจมันก็ดีดแตกขึ้นมา
"ตัวเองให้อภัยเค้าได้ไหม เค้ารักตัวเองคนเดียว เค้าขอโทษ"
"แล้วน้องเขาล่ะ.......เอ"
เสียงผมแหบ พร่าจนแทบจะไม่ได้ยิน
"เค้าไม่ได้มีอะไรกันน้า ตัวเอง อย่าเข้าใจเค้าผิดน้า เค้าไม่ได้มีอะไรกัน ตัวเองฟังเค้าน้า"
"เพราะอะไร เอ.... เธอเห็นฉันเป็นอะไร......... ฉันเจ็บ.....รู้ไหม.........ไหนบอกว่ารัก ไหนบอกว่ารัก หา ไหนบอกจะฝ่าฟันไปด้วยกัน"
ผมลุด้วยโทสะปรี่เข้าไปตีมันที่ตัว ทั้งต่อยทั้งเตะ จนมันล้มลงไปนอนกลิ้งอยู่ที่พื้น มันกอดขาผมไว้ ผมไร้เรี่ยวแรง ทรุดตัวลง
"เค้าขอโทษ ตัวเองจะต่อยตีเค้ายังไงก็ได้ แต่อย่าเข้าใจเค้าผิด เค้าขอร้อง"
มันสะอื้นอยู่แทบเท้าผม ผมตัวสั่นสะอื้น พอทำลงไปก็สงสาร ผมทำร้ายมันมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว จะมันผิดหรือผมถูก แต่เอมันไม่เคยสู้ตอบเลย ผมห้ามตัวเองไม่ได้อีกแล้วผมนั่งลงกับพื้นกอดมันไว้
"เอ........ เอ...........ทำไม ทำแบบนี้.............ทำไม...........ทำแบบนี้............ฉันเจ็บรู้ ไหม................เอ..........ทำให้ฉันตาย..........ถ้าจะ.........ทำแบบ นี้.........ฆ่าฉัน..."
"โย พอแล้ว แก พอแล้ว เอ พอก่อน ปล่อยโยมันก่อน พี่ขอร้อง โยมันไม่ไหวแล้ว เอ"
เสียงพลร้องมาแล้วมาดึงผมออกจากเอ
"เอ........... ขอกอดหน่อยนะ พล.........ฉันขอกอด...เอ.....หน่อย"
ผมสะอื้นกอด ตัวเอไม่ยอมปล่อยปริ่มใจจะขาด สงสารคนที่กอดอยู่ สงสารตัวเองก็สงสาร ความรักที่มีต่อมันไม่ได้ลดน้อยถอยลงเลยแม้จะชอกช้ำใจกับสิ่งที่เห็น มันมีแต่เพิ่มมากขึ้น ยิ่งเห็นสภาพคนที่รักเป็นแบบนี้แล้วยิ่งร้าวลึกลงไปในใจ อยากจะประครองจูบโอบกอดไว้ ไม่น่าเลย ไม่น่ามาเลย ถ้าผมไม่รู้มันคงไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น อาจารย์ปริศนาจะห้ามยังไงสักวันก็ต้องใจอ่อน ผมเชื่อมั่นในใจนักว่าต้องมีสักวันถ้าหากว่าเรายังรักยังมั่นคงต่อกัน แต่เอปันใจมีคนอื่นผมถึงต้องฟูมฟายจวนเจียนตายอยู่อย่างนี้ แต่ถึงกระนั้นก็ตามผมก็ไม่ได้คลายความรักลงแม้สักเล็กน้อย
"เอ!!!!!!!! แล้วฉันล่ะ เอ ฉันไม่มีความหมายเลยใช่ไหม อีตุ๊ดนี่ดีกว่าชั้นตรงไหน"
เสียงแว๊ดดังมาจากข้างหลัง เสียงที่เหมือนมีดคมตัดสายใยรักบั่นหัวใจผมให้ขาดสะบั้นลง เด็กผู้หญิงคนนั้นยืนร้องไห้ชี้นิ้วด่าทออยู่ไม่ถึงสิบเมตร
"อย่ามายุ่งกับกู ไป!!!!!!!!!!!! เป็นเพราะมึง เมียกูถึงเข้าใจผิด ออกไป!!!!!!!!!!!!"
เอตะโกนด่าสุดเสียง ผมจากสะอื้นไห้สงสารมันจับใจเหมือนโดนไฟฟ้าแรงสูงฟาดเข้าที่ลำตัว ชา อึ้ง นิ่งอยู่
"เพราะอะไร เอ เพราะอะไร ทำไมเอชอบกระเทย ฉันไม่ดีตรงไหน"
เสียงนั้นกรีดร้องดังกว่าเดิมอยู่หลังผมนี่เอง
"มึงอย่าเข้ามานะอีชะนี มึงเข้ามากูจะเอาเลือดปากมึงออก หน้าด้าน มึงเห็นไหมว่าเขาไม่เอามึง ไปตายที่ไหนก็ไป"
พลชี้หน้าด่ากราดอยู่ข้างหน้าผม
"บ๊อบ บอม มาพาพี่โยไปที่รถ โยกลับบ้านเรา ไม่ต้องอยู่แล้ว"
พลหันไปสั่งบอมกับบ๊อบแล้วหันมาพูดกับผม ที่จริงผมไม่ได้ยินเสียงอันใดแล้วประสาทมันไม่สั่งงาน บ๊อบกับบอมมาดึงผมขึ้น
"อ๊ากกกกกกกกกกก ตัวเอง อย่าไป อย่าไป อย่าทิ้งเค้าไป ฟังเค้าก่อน"
เอดึงขาผมไว้ร้องไห้เหมือนคนไร้สติอย่างที่ผมเคยเป็น
"ไอ้สัตว์ มึงไปเอาอีเชี่ยนี่เถอะ"
บ๊อบพูดแล้วถีบเข้าที่ยอดอกของเอ มันล้มหงายหลังไป
"ตัวเอง เค้ารักตัวเองนะ เค้ารักตัวเองคนเดียว ฟังเค้าก่อน อย่าไป อย่าไป อย่าทิ้งเค้า อย่าทิ้งเค้าไป"
เสียงคร่ำครวญนั้นดังลอยห่างออกไปทุกทีๆ จนผมได้ยินเสียงอ้อนวอนนั้นเหมือนเสียงกระซิบที่มาจากที่ไกลแสนไกล นี่มันเกิดอะไรขึ้น นี่ผมทำอะไรอยู่ ผมคอยถามตัวเองเสมอ แต่คำตอบคือแผลในใจที่ไม่มีวันหายเสียที คำตอบคือผมกำลังจมลงไปกับบ่อแห่งทุกข์หุบเหวที่ผมแลเห็นแสงส่องอยู่ปลายหลุม แต่แสงนั้นดับมืดลงแล้ว
น้อมรับคำด่า เอ้ย คำติชมคร้าบบ
เขียนโดย eiky