Boy's Story ให้รักนำทางใจ ( พิเศษ ) ๒๔ มกราคม ๒๕๕๕ หน้า ๓๔
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ชอบเรื่องนี้หรือเปล่า

เฉยๆๆ
18 (5.9%)
ชอบ
280 (92.1%)
ไม่ชอบ
6 (2%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 181

ผู้เขียน หัวข้อ: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ( พิเศษ ) ๒๔ มกราคม ๒๕๕๕ หน้า ๓๔  (อ่าน 313606 ครั้ง)

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
อีป้าแก่ๆ ขอบอกว่าสนุก แต่เศร้ามาก thank u

fahsai

  • บุคคลทั่วไป
ขอให้ผ่านไปแบบ HAPPY ด้วยเถิดดดดดดดดดดด :call: :call: :call: :call: :call: :call:

ออฟไลน์ Na_RimKLonG

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 640
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1


มีความสุขมากๆนะค้าาา
ปล. แก่ขึ้นอีกปีแว้ววว 55+
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-04-2010 23:28:14 โดย atom_big »

salawinyeen

  • บุคคลทั่วไป
 o13   เสียดายเอามาลงแค่3ตอน วันหลังเอา 10 ตอนรวดนะครับ อิอิ





  HAPPY BIRTH DAY NA KUB  เย้ๆ

DexTunG

  • บุคคลทั่วไป
แวะมาส่งกำลังใจให้ครับ :L2:


อยากอ่านตอนต่อไปแล้วสิ


 :z2: :z2:

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
ขอบคุณทุกคนนะครับ สำหรับทุกคำอวยพร คนเขียนไม่มีปัญญาลงแล้ววันนี้ ไม่ไหว คิดอะไรไม่ออกเลย ฮือๆๆๆ เดี๋ยวดึกๆมาลงให้ใหม่นะครับ ขอตัวไปนอนก่อนเผื่อจะดีขึ้น

 :z3: :z3: :z3: :z3:

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจนะ  :L2:

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
เจอกันตอนดึกๆ น้า อีป้าจะรอต่อ  :pig4: +1 ด้วย

LifeTime

  • บุคคลทั่วไป
ตามอ่านวันเดียวเลย...แต่งดีนะ ยามเศร้าก็น้ำตาไหลพราก
ยามสุขหวานกันหยดย้อยก็อ่านไปยิ้มไป...  o13

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
  ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม คร้าบบบ ไปเล่นน้ำสีลม มา ไม่มันเท่าไหร่ อิอิ กลับมามึนหน่อยๆ


                        อัพให้ตามสัญญาคร้าบบบ





                                ตอน สี่สิบแปด



ปลายเดือน มีนาคม กว่าจะผ่านไปแต่ละวันช่างยากเย็นแสนเข็ญ เหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตดังมรสุมลูกใหญ่โถมกระหน่ำซัดใจให้แหลก ราญ แต่ในความมืดมิดนั้นก็ยังพอมีแสงสว่างเล็ดลอดมา การที่ผมได้เจอเอ ได้อยู่ด้วยกันเพียงไม่นานมันก็ผสานใจให้มีหวังขึ้นมาบ้าง หัวใจที่บอบช้ำยังพอมีแสงแห่งหวัง ยังมีแรงแห่งใจให้ก้าวเดินต่อไปในวันที่มืดมน ผมใช้ชีวิตแต่ละวันเกือบจะเป็นปกติไม่ซึมเศร้าล่องลอยไร้สติเหมือนก่อน เพราะเอมันโทรมาหาทุกวันแม้จะคุยกันไม่นานแต่เสียงของมันได้ต่อแรงใจให้ผม ได้มาก งานการก็เข้ารูปเข้ารอยกว่าแต่ก่อน เวลาเรามีความสุขไม่ใช่มีเพียงเราที่มีความสุข คนรอบข้างเองก็เป็นสุขไปด้วย แต่เวลาทุกข์คนที่รักเราเขาก็จมไปกับเราด้วยเช่นกัน จ๋าเองกำลังง่วนอยู่กับการเตรียมตัวเพื่อเป็นเจ้าสาว มันเดินสายหาโรงแรมจัดงาน ไปเฉพาะวันที่พี่ป้อมไม่มีเรียน ส่วนพลเองก็เจอกับบอมเกือบทุกวันเพราะบอมมันยังรู้สึกผิด แต่ก็ไม่เข้าใจว่ามันจะนัดเจอกันทำไมในเมื่อเวลาเจอกันมันก็กัดกันตลอดเวลา ไม่เคยถูกกันเลย วันนี้ก็เหมือนกันพลมาเร้าตั้งแต่บ่ายว่าจะไปเจอบอม ให้ผมไปเป็นเพื่อน

"เดี๋ยวนี้แกเจอมันทุกวันเลยเหรอ"

ผมถาม ขึ้นระหว่างทางหลังเลิกงาน

"ก็ไม่หรอกแก ก็มันบอกว่าอยากระบายที่ทำเรื่องเอาไว้ มันเสียใจนะแก มันไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้ แม้เอจะคุยกับมันแล้ว แต่เอมันก็ไม่เหมือนเดิม"

"มัน ไม่น่าคิดมากเลยนะ ที่จริงมันไม่ได้เกี่ยวกับมันเลย เอมันเปลี่ยนไปก็คงเพราะมันโดนบีบบังคับล่ะมั้ง มันไม่ได้เปลี่ยนไปหรอก"

ผม ออกความคิด แล้วเลื่อนมือไปกดเพลงฟังเหมือนเคย

"ก็บอกมันแล้ว แต่มันก็ยังคิดมากอยู่ ฉันก็เข้าใจมันนะแก เพื่อนที่เคยสนิทเพราะความลืมตัวของเราทำให้เพื่อนเปลี่ยนไปเลย ว่าไปก็สงสารมันเหมือนกันนะ"

"เริ่มใจอ่อนแล้วสิ ระวังนะแก จะรักมันเข้าสักวัน"

"ไม่มีทางแก เด็กปากเสียแบบนี้ กวนตีนอีกต่างหาก"

พลเถียงแต่ก็หน้าแดงๆ

"แหมแล้วเอล่ะแก ตัวพ่อมันเลยนะนั่น ฉันยังเป็นได้มากขนาดนี้เลย อย่าว่าไป คอยดูเถอะ"

"โอ๊ย ไม่เอาแล้ว แกนี่พูดอะไรก็ไม่รู้ เอมันน่ารักนี่ กวนตีนแค่ไหนใครๆก็ต้องละลายล่ะ แต่ไอ้นี่หน้าตาก็กวนตีน ไม่มีอะไรดีสักอย่าง"

"แหม ว่าไป บอมมันก็น่ารักดีออก ขี้คร้านจะติดงอมแงม"

ผมพยายามยุมัน

"ไม่เอาหรอกรักเด็กแล้ว เดี๋ยวมีปัญหา"

ผมสะท้อนลึกลงไปในใจ นั่นสินะ พลหันมามองมันหน้าเสียไปทันทีเพราะผมหน้าเจื่อนลง

"เฮ้ย แก ฉันขอโทษ ไม่เกี่ยวหรอกที่จริงน่ะ จะเด็กจะผู้ใหญ่ มันก็มีปัญหาทั้งนั้นล่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจนะแก"

พลเสียงอ่อยลงท้ายประโยค ผมพยักหน้า ไม่อยากให้เพื่อนคิดมากอีกแค่นี้พลก็แบกรับเรื่องของผมมามากพอแล้ว ผมไม่อยากให้ใครต้องมารับรู้ความทุกข์ในใจผมอีก ขอทรมานเจ็บปวดแค่คนเดียว เรามาถึงที่เดิมเกือบจะห้าโมง พอถึงก็ตรงไปที่นัดหมาย เห็นบอมนั่งรออยู่ก่อนแล้ว มันลุกขึ้นไหว้ทักทาย

"หวัดดีพี่"

"เป็น ไงบ้างบอม หล่อเชียววันนี้"

ผมแซวเพราะมันใส่กางเกงยีนส์วัยรุ่น ขากระบอกเสื้อยืดสีสดใส ผมตั้งใส่เจล มันทำหน้าเขินๆ

"แหมชมหน่อย ยิ้มเชียวนะ ทีเจอชั้นเห็นใส่ขาสั้นมาตลอด พอรู้ว่าพี่โยมาแต่งซะหล่อ"

พล แขวะแล้วนั่งลงข้างๆผม

"อ้าว ก็เป็นเรื่องธรรมดา คนมันหล่อ ไม่แต่งยังไงก็หล่อ"

"จ้า หล่อมาก อดใจไม่ไหวแล้วเนี่ย"

"ผม ไม่เอาพี่หรอก เสียใจ"

"ฉันประชดเว้ย แล้วคิดเหรอว่าฉันจะเอาแก หลงตัวเอง"

"แหม เจอหน้ากันก็เอาเลยนะ คุยกันดีๆไม่ได้เหรอ"

ผม แทรกขึ้นกลางปล้องเพราะคงทะเลาะกันอีกนาน ทั้งสองเชิดหน้าใส่กัน ผมได้แต่ส่ายหน้า นี่มันจะรอดเหรอเนี่ย

"เรียนพิเศษเป็นไงบ้างบอม"

ผม ถามขึ้นก่อนที่คอมันจะหักเพราะเชิดหน้าหักมุมเสียเหลือเกิน

"ก็ดีพี่ นี่ก็เพิ่งเรียนเสร็จ"

"แล้วไม่ไปไหนบ้างเหรอ ปิดเทอมทั้งที"

"ไม่ หรอกครับ อยากติวเยอะๆ จะได้ทันเพื่อน กลัวสอบไม่ได้ ผมหัวไม่ค่อยดี"

"เห็น มะ ในที่สุดก็ยอมรับว่า หัวไม่ดี"

"อ้าวพี่ กวนนะ หัวไม่ดีแต่มีความพยายาม ไม่ผิดนี่"

"จ้า ไม่ผิดหรอก แต่ผิดที่คิดจะสอบอะไรที่มันยากๆอ่ะนะ อย่างเธอน่าจะเรียนอะไรที่มันสอบง่ายๆ แต่เอ๊ะ ไม่ค่อยมีนะที่ว่าง่ายน่ะ แล้วจะเรียนอะไรล่ะเนี่ยหนักใจแทน"

"พี่"

"พล แกนี่ก็เหลือเกิน พยายามน่ะดีแล้วบอม พี่เองก็หัวไม่ดี เรื่องตัวเลขน่ะไม่เอาไหนเลย"

ผมปรามขึ้นเพราะบอมมันถลึงตาใส่พลแล้ว ผมหันไปพูดกับมันเสียงอ่อนโยน มันค่อยลดดีกรีลงมาหน่อย พอคุยกันสักพัก ก็ไปกินข้าว ที่จริงไม่น่าจะเรียกว่าคุยเพราะสองคนคอยจะกัดแทะกันตลอดเวลา ผมคอยห้ามอยู่ไม่รู้กี่รอบ พอเสร็จพลก็มาส่งที่บ้าน แล้วค่อยไปส่งบอม ผมเองพอถึงบ้านก็ตั้งหน้าตั้งตารอเวลาที่เอจะโทรมาใจจดใจจ่อ แต่คืนนี้แปลก รอนานจากสี่ทุ่มเป็นห้าทุ่ม ผมยังคงกุมโทรศัพท์ไว้ในมือ จากห้าทุ่มล่วงเที่ยงคืน ใจผมเริ่มกระสับกระส่าย เอมันมีอะไรหรือเปล่า คำถามต่างๆนานาผุดขึ้นกลางสมอง ผมนอนกลิ้งไปมา พยายามคิดว่ามันคงง่วงหรือไม่ก็ไม่มีเงินค่าโทรแล้ว หรือมันอาจจะไม่สบาย แล้วจะกินยาหรือยัง ใครจะคอยดูแลมัน แต่คงไม่เป็นไรเพราะอาจารย์ปริศนาคงไม่ปล่อยให้ลูกชายป่วยไข้ไม่สบายไป หรือมันจะไม่สบายมากจนเข้าโรงพยาบาล ผมหาคำตอบให้คำถามตัวเองไม่ได้สักอัน ได้แต่นอนกลิ้งไปกลิ้งมา ดูภาพบนหน้าจอที่เราสองถ่ายคู่กัน ขออย่าให้มีอะไรเลยนะ อย่าได้มีอะไรอีกเลย ใจฉันต้านทานรับมันไม่ไหวแล้ว ผมหลับไปตอนค่อนคืนแล้ว ไร้เสียงใดจากโทรศัพท์ ผมหลับไหลไปด้วยความกังวลใจ พอตื่นขึ้นมาโทรศัพท์ยังกุมไว้ในมือ สิ่งแรกที่ทำคือกดดูเผื่อว่าเอจะโทรเข้ามา แต่ก็เปล่าเลย ไม่มีอะไรบนหน้าจอ มันยังเป็นรูปผมกับมันอยู่อย่างเดิม ผมเดินลงมาข้างล่าง วันนี้วันเสาร์ แต่แม่ไม่ได้ไปวัดเพราะน้าสาไปต่างจังหวัด แม่เลยไม่มีเพื่อน ผมเห็นแม่ง่วนอยู่ในครัวผมจึงไปช่วย

"หน้าตาไม่ดีเลยลูก มีอะไรหรือเปล่า"

แม่ถามแล้วลูบหัวอย่างห่วงใย

"อ้อ ไม่มีอะไรครับแม่ เมื่อคืนนอนดึกไปหน่อย พอดีได้นิยายเรื่องใหม่มา"

เอา อีกแล้วผมโกหกแม่อีกแล้ว ไม่ได้อยากจะพูดแบบนี้เลย แต่ถ้าบอกว่ารอโทรศัพท์จากเอทั้งคืนแม่คงไม่สบายใจ ผมไปล้างผักที่แม่แช่น้ำไว้ก่อนแล้ว

"แม่ใส่บาตรแล้วเหรอครับ"

ผม ถามเพราะผมเองตื่นสายลงมาก็เกือบจะแปดโมงแล้ว

"จ๊ะ เห้นเราหลับอยู่แม่ก็เลยไม่ปลุก วันนี้ไปไหนไหมลูก"

"ยังไม่รู้เลย ครับแม่ ไม่อยากไปไหน อยากอ่านหนังสือ แล้วก็ว่าจะขัดหลังบ้านซะหน่อย"

ผม ล้างผักต่อไปใจก็ขุ่นมัว นี่ถ้าให้รออีกถึงคืนนี้ผมต้องเก็บอาการไม่อยู่แน่ๆ ผมจะทำยังไงดี พอดีเสียงโทรศัพท์ดัง ผมรีบคว้าออกมาดู บอมนั่นเอง มันมีอะไรนะทำไมโทรมาแต่เช้า ผมกดรับสาย

"ว่าไงครับบอม โทรมาแต่เช้าเลย"

ผมกรอกเสียงไปตามสาย

"ตัวเอง นี่เค้าเองนะ"

ผม อึ้ง มึนชาอยู่ พอได้สติก็ใจเต้นดีใจที่เอโทรมาเสียที

"เอ"

"ตัว เอง แม่บังคับให้เค้าไปอยู่เชียงใหม่อ่ะ ตัวเอง เค้าไม่อยากไป เค้าไม่อยากจะไปจากตัวเอง เค้าจะทำยังไงดี"

มันร้องไห้ ผมเหมือนโดนสาดด้วยน้ำเย็นความหนาวเหน็บนั้นวิ่งตรงไปที่ขั้วหัวใจ

"เค้า เกลียดแม่ เค้าจะทำยังไงดี ตัวเอง เค้าไม่อยากจะไป เค้าจะหนี"

มัน ร้องไห้พูดเสียงเครือน้ำตา ผมยังนิ่งอยู่เพราะพูดอะไรไม่ออก พอได้สติผมจึงพยายามรวบรวมพลังที่มีอยู่ในใจน้อยนิด

"เอ ใจเย็นๆนะ มันต้องมีทางออก เอ"

จบประโยคน้ำตาก็ทะลักออกมา สะอื้น จนแม่ตกใจ

"อะไร โย มีอะไรกัน"

แม่เข้ามาโอบไว้ ผมยืนร้องไห้อยู่

"เค้าเสียใจ ตัวเอง เค้าเกลียดแม่ เค้าเกลียดแม่"

มันร่ำไห้ปานใจจะขาด มันยิ่งทำให้ผมอ่อนไหว ผมไร้ซึ่งเรี่ยวแรง แม่แย่งเอาโทรศัพท์ไปจากมือ

"เอ เอเหรอลูกนี่แม่อรนะ"

แม่กรอกเสียงไปตามสาย น้ำเสียงเป็นกังวล

"ไม่ เอานะลูกอย่าพูดแบบนั้น อดทนไว้นะเอ อย่าทำอะไรแบบนั้นนะ แม่ขอร้อง"

เสียง แม่อ้อนวอน

"แม่เข้าใจลูกเอ พี่โยเองก็เสียใจ แต่อย่ายอมแพ้นะลูก อดทนไว้ สักวันแม่เขาต้องเข้าใจ ไม่เอาเอ ไม่เอาลุกอย่าพูดแบบนั้น ทำใจเย็นๆไว้นะลูก"

เสียงแม่ขรึม ผมสะอื้นไห้อยู่ข้างๆ อยากได้ยินเสียงมัน

"เอ ฟังแม่อรนะลูก ถือว่านี่เป็นบทพิสูจน์ความรักของลูกเอนะจ๊ะ อย่าคิดว่าแม่เขาไม่รัก เพราะแม่รักเขาถึงทำแบบนี้ แม่อรเชื่อว่าสักวันแม่เขาจะเข้าใจ แล้วยอมให้เอได้รักพี่เขาแบบเต็มใจ แต่ตอนนี้ลูกเอ ต้องเข้มแข็งนะ เข้มแข็งอดทนไว้นะลูก"

เสียงแม่นิ่งเย็นอย่างน่าประหลาด แม่ยังไม่หันมามองผมที่ทรุดลงไปนั่งกับพื้น สะอื้นไห้อยู่

"ลูกเอ แม่อรเห็นใจเราสองคนมาก แต่เราต้องสู้นะลูก เพื่อตัวเราเอง เพื่อพี่เขา อย่าเสียใจเลยลูก ทุกอย่างมันมีอุปสรรคทั้งนั้นล่ะ คิดให้มันเป็นกำลังใจอย่างน้อยสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นมันก็เป็นแรงใจให้เรา ทั้งสองคน ว่าเรารักกันมากแค่ไหน ได้ลูกเอ แป๊บนึงนะจ๊ะ"

แม่หันมา มองที่ผมแล้วเอามือปิดโทรศัพท์เอาไว้

"โย น้องอยากจะคุยด้วย เลิกร้องไห้ได้แล้ว"

แม่ดุ ผมพยายามกลั้นเสียงสะอื้นกลืนมันลงคออย่างยากลำบาก ผมพยายามอยู่นานแต่ก็ยังไม่หยุด ผมเอากำปั้นทุบอกตัวเองทุบหนักแรงให้มันคลายหายสะอื้น

"โย ทำอะไรน่ะลูก หยุดเดี๋ยวนี้นะ"

"โย.....ฮึก......อยาก....คุย กับ.....เอ"

ผมตอบออกมาทีละคำเพราะผมสะอื้นหนักเหลือเกิน พูดไม่เป็นคำผมกัดปากตัวเอง มือยังทุบหน้าอกตัวเองอยู่ แม่เข้ามาคว้ามือไว้

"อย่า ทำแบบนี้นะโย อย่าทำแบบนี้ แม่เจ็บ รู้ไหม"

แม่เสียงเครือแต่ยังดุ อยู่ ผมก้มหน้าลงซบกับพื้นครัว ไม่ไหวแล้ว ผมทนไม่ไหวแล้ว ผมบังคับตัวเองไม่ได้ ทรมานเหลือเกิน เจ็บปวดในใจ

"ลูกเอ รอพี่เค้าแป๊บนึงนะลูก"

"พี่เขาทำใจอยู่ รอพี่เขาหน่อยนะลูก"

แม่ หันไปพูดโทรศัพท์กับเอ ผมสะอื้นอยู่ไม่ยอมลงเสียที ในใจก็อยากจะคุยกับมันอยากได้ยินเสียงมัน แต่ทำไมผมหยุดไม่ได้ ผมลากตัวเองไปที่ก๊อกน้ำเปิดน้ำสาดเข้าหน้าตัวเอง พอโดนน้ำเย็นที่ไหลออกมา ผมพอดึงสติกลับมาได้บ้าง แม่คอยลูบตามหัวตามตัวผมอยู่ตลอดเวลา

"เอ นี่ฉันเองนะ"

"ตัวเอง เค้าคิดถึงตัวเอง เค้าอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีตัวเอง เค้าไม่อยากไป"

มันยังคงคร่ำครวญอยู่ ผมเม้มปากกัดมันเอาไว้ไม่อยากจะสะอื้นออกมาอีก แม่มองหน้าให้กำลังใจ

"เอ ฉันจะไม่ไปไหน จะอยู่ตรงนี้ จะรอเธอ เอ.......ไหนบอกว่าจะสู้ด้วยกัน ไหนบอก...........จะฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกัน"

ผมพยายามเปล่งเสียงพูด ให้มันกลบเสียงสะอื้นออกมา

"เค้าเสียใจเหลือเกิน เค้าอยากจะอยู่กับตัวเอง"

"เอ ฟังนะ ถึงเราจะอยู่ไกลกัน ใช่ว่าใจเราจะห่างกัน อย่าใจร้อน เอ ต้องอดทนนะ อดทนเพื่อนฉันได้ไหม เอ"

น้ำตา ไหลออกมา ผมกัดปากตัวเองจนเจ็บ

"ตัวเอง รอเค้าน้า ตัวเองอย่าลืมเค้าน้า เค้ารักตัวเองมากน้า"

ใจผมสลาย น้ำตาไหลออกมา เสียงอึกๆดังอยู่ในลำคอ

"ฉันสัญญา เอ ฉันสัญญา"

"เอ ไปได้แล้วลูก สายแล้ว"

เสียงอาจารย์ปริศนาดังแทรกเข้ามาในโทรศัพท์ เสียงลงทัณฑ์จากผู้เป็นเจ้าชีวิตสั่งให้หยุดการสนทนา

"ตัวเอง รู้ไว้นะ เค้ารักตัวเองมาก รักตัวเองหมดหัวใจ รอเค้าน้า"

เสียงมัน เครือปวดร้าวเหลือเกิน ผมไม่ทันจะได้พูดอะไรไป มันตัดสายไปแล้ว ผมสะอื้นจนตัวสั่นไหว แม่เข้ามากอดไว้

"โย ใจเย็นๆลุก มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้อีกแล้ว ใจเย็นๆลูก"

แม่กอดปลอบประโลม แต่ผมไม่ได้ยินเสียงของแม่แล้ว น้ำตากลบสายตามองไม่เห็นสิ่งใด มีเพียงความเจ็บปวดที่สุมอยู่ในอก ทรมานเหลือเกิน เรื่องราวแบบนี้มันจะจบลงเมื่อไหร่กัน ผมไม่มีที่พอให้เจ็บปวดอีกแล้ว บาดแผลจากใจมันยิ่งลุกลามเต็มหัวใจ ยิ่งหลับตาภาพของเอยิ่งกระจ่างขึ้นมา ในใจผมโดนเผาวายวอดไปแล้ว ไม่มีแรงใจ ไม่มีกำลังใจ

"พี่ปริศนาใจ ร้ายเหลือเกิน ตัวเองเจ็บปวดคนเดียวเสียเมื่อไหร่กัน"

แม่พูดขึ้นมา พลางลูบหลังกอดผมอยู่ไม่ยอมห่าง ผมซึมซับได้แห่งความอบอุ่นจากอกแม่ แต่ผมดึงตัวเองขึ้นมาจากบ่อลึกเหวร้ายนี้ไม่ได้เลย แม่ปลอบอยู่นานจนผมสงบลง ผมนั่งเหม่ออยู่ที่โซฟา นานเท่าไหร่ไม่รู้ แต่สักพัก พลกับบอมก็มาถึงบ้าน พลวิ่งเข้ามากอดทันที แม่ผละขึ้นบ้านไป ผมรู้ว่าแม่ไปทำอะไร แม่กำลังสวดมนต์ภาวนาให้ลูกชายของตัวเองให้พ้นจากห้วงทุกข์นี้เสียที แต่อานิสงส์มันไล่กิเลสหนาในใจไม่พ้นเลย กรรมเวรแต่เบื้องหลังมันถึงเวลามาทวงคืนผมแล้ว ยิ่งเห็นหน้าเพื่อน หนังเศร้าเรื่องเดิมก็กลับวนฉายได้อย่างไม่รู้จักเบื่อ พลพลอยร้องไห้ไปด้วย บอมเองก็ยืนน้ำตาไหลอยู่ พลปลอบผมต่างๆนานา ผมร้องไห้จนน้ำตามันไม่มีจะออกมา พอปวดใจมากๆก็กรีดร้องออกมา พลกอดผมแน่น ผมกำลังเสียสติ ผมควบคุมตัวเองไม่ได้เลย ความเจ็บปวดที่สะสมมานานมันเกินใจจะทนไหว แค่ร่ำไห้มันก็ระบายความเจ็บปวดออกมาไม่พอ




เขียนโดย eiky

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

กว่าจะเค้นแต่ละตอน ยากน้าาา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2011 02:48:15 โดย eiky »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ Up!!! ตอน 48 Apr 15, 2010
« ตอบ #429 เมื่อ: 15-04-2010 23:13:24 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ naiin

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2421
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-9
เอ้ามาทำให้ค้างดึกๆเนี่ยแล้วจะนอนหลับลงป่าวเนี้ย o12 o12 o12

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
 :monkeysad:
จะให้คนอ่านจมน้ำตายเลยนะ

ออฟไลน์ SoN

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2965
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-15
^^

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
 เศร้าอ่าาาาา  :sad4:
ว่าแล้วก้อวิ่งออกไปร้องไห้นอกทู้ :o12:

เป็นกำลังใจให้นะคะ


SPSJ

  • บุคคลทั่วไป
อ่านที่ไรน้ำตาไหลทุกที



ระยะทางอีกยาวไกล  ขอให้เอมั่นคงในรักด้วยครับบ












Phelyra

  • บุคคลทั่วไป
เศร้าเกินบรรยายเลยค่ะรอบนี้  :monkeysad: :m15: :o12:

ออฟไลน์ Vesi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +204/-3
 :sad4:
โถ่ เรื่องมันเศร้า

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
คงเป็นบทพิสูจน์อย่างที่แม่อรว่า แต่อย่างไงมันก็เศร้าเกินไปจริงๆ  :monkeysad:

ออฟไลน์ nidnoi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 558
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
 :เฮ้อ:

พูดไม่ออก

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
วันเวลาจะนำพาสู่บทสรุบเสมอ อีป้าแก่ๆ อ่านแล้ว น้ำตาเล็ดคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ Up!!! ตอน 48 Apr 15, 2010
« ตอบ #439 เมื่อ: 16-04-2010 01:55:42 »





Yellow Lilly

  • บุคคลทั่วไป
 :sad4: :sad4: :sad4:

..

...

....

เศร้าเกินไป๊.....

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
มากด + อ่างเดียว ไม่มีไร เพราะ เมื่อคืนออน กับ มือถือ กด + ไม่ได้ 555

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
                                     เหนื่อยจังเลย เล่นน้ำมาง่วงนอนมากมาย


                                       ตอน สี่สิบเก้า





พลพาผมขึ้นมาบนห้องตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ จำไม่ได้แม้มันพาขึ้นมายังไงพลนั่งกอดบ่าผมอยู่บนเตียง บอมมันนั่งดูเราอยู่ตรงโต๊ะเขียนหนังสือ มันไม่ร้องไห้แล้วแต่ยังดูเศร้าๆอยู่ ผมจะระบายความทุกข์ที่หนักอึ้งมืดแปดด้านนี่ออกจากใจยังไงดี พอหยุดร้องไห้แม้นั่งเฉยๆน้ำตาก็ไหลออกมา แค่คิดถึงหน้ามันสูดลมหายใจเข้า มันก็เจ็บแปลบในใจน้ำตาเอ่อล้นออกมา พยายามไม่คิดถึงแต่ผมทำไม่ได้ ผมหยุดคิดถึงมันไม่ได้ เหมือนหัวใจหมดแรง ไม่มีกำลังจะทำอะไรได้ต่อ

"มัน ต้องดีขึ้นแก มันต้องดีกว่านี้"

พลสะอื้นลูบบ่าผมอยู่ ผมเม้มปากกัดกลืนความเจ็บช้ำลงไปในคอ

"แกเข้มแข็งไว้นะโย"

ผม เข้มแข็งมาโดยตลอด แม้ตอนเลิกกับพี่ตั้มมันควรจะเจ็บช้ำกว่านี้แต่ผมก็เสียใจอยู่ไม่นาน แต่นี่ผมยังรักมันอยู่เต็มหัวใจ ผมรู้ว่ามันเองก็รักผมอยู่เต็มอกเช่นกัน แต่ทำไมมันเจ็บปวดยิ่งกว่าเลิกลาแยกจากกันเสียอีก ให้แยกจากกันแบบนี้ทำไมมันเจ็บปวดรวดร้าวเหลือเกิน เหมือนดังใจไม่เคยได้เจอแสงใดจะส่องนำทาง มืดมิด เหน็บหนาว ดึงตัวเองออกมายังไงดี พอแล้ว โย พอแล้ว ผมคร่ำครวญในใจ

"แก .....ฉัน....ฮึก......ฮึก....เสียใจ"

ผมพูดไม่เป็นคำสะอื้นออกมา

"ร้องไห้ ให้พอแก ร้องออกมา ถ้ามันจะทำให้แกรู้สึกดีขึ้น อย่าเก็บมันไว้"

ผม เม้มปากลูบหัวผม มันพยายามไม่สะอื้นออกมา คงสงสารสมเพชเวทนาผม ตั้งแต่รู้จักกันมาส่วนมากผมจะเป็นคนที่คอยปลอบเพื่อน คอยให้กำลังใจให้คำแนะนำ เพื่อนไม่เคยเห็นน้ำตาของผมเลย พลเคยบอกว่าผมมองโลกในแง่ดีเกินไป คงจะจริง แต่ตอนนี้สิ่งนั้นหายไปไหนแล้ว โลกนี้ช่างมืดมนโหดร้ายเสียเหลือเกิน แค่รักกันมันผิดมากนักหรือ แค่ผมรักมันผมก็วิปริตหรือ ถ้าผมหักห้ามใจได้ ถ้าผมทำได้ วันนี้ผมคงไม่มานั่งทนทุกข์อยู่แบบนี้ เพราะผมหักห้ามใจตัวเองไม่ได้ อานุภาพรักมันรุนแรงเกินกว่าที่ใจผมจะต่อต้าน พอรักแล้วผมกลับจมลงสู่ห้วงเหวแห่งความโทมนัสอดสู ภาพแผ่นหลังของเอที่ลับตาไปวันนั้นอยู่ในหัว ผมน่าจะคว้าแขนมันไว้ โอบกอดอีกสักเพียงวินาที แค่เพียงสักวินาที ให้ได้สูดเอากลิ่นกาย กลิ่นลมหายใจนั้น แต่ผมปล่อยให้มันเดินลับตาไป ผมสะอื้นหนักกว่าเดิม ยกกำปั้นขึ้นทุบหน้าอกตัวเอง เป็นกลายเป็นบ้าไปแล้ว ผมทำแบบนี้สามครั้งแล้ว ผมหายใจไม่ออก จุกอยู่ในใจ ทุบให้มันเจ็บ ทุบให้รู้ว่าผมยังมีชีวิตอยู่ ยังไม่ตาย ยังรับรู้รสของความเจ็บปวดอยู่ ผมทุบอกตัวเองพลจับมือห้าม

"โย แกอย่าทำแบบนี้ โย"

พลตะคอกใส่หู แต่ผมก็ไม่หยุด

"แก ฮือ ฮือ ทำไมทำแบบนี้ โย พอแล้วๆ ฉันขอร้อง"

"พี่โย อย่าทำครับ พี่"

ทั้ง พลและบอมเข้ามาจับมือผมไว้ ผมเสียสติไปแล้ว ดิ้นพล่าน

"อ้ากกกกกกกก กกกกก"

ผมกรีดร้องออกมาซุกหน้าลงบ่าของพล

"ทำไม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"

"โย อย่าทำแบบนี้ อย่าทำร้ายตัวเอง อย่าทำ............แบบนี้"

พลสะอื้น กอดผมแน่น ผมจับบ่ามันเขย่าหนักกว่าเดิม บอมเองก็ยืนนิ่งน้ำตาไหลอยู่มันคงไม่เคยเจอคนบ้าแบบนี้มาก่อน จิตผมหลุดลอยไปแล้ว แค่คิดถึงใบหน้ามัน รอยแผลเป็นที่คิ้วซ้าย รอยยิ้มอันนั้น เอาคืนมาให้ผมได้ไหม อย่าเอามันไปไหนเลย สงสารผมบ้าง สงสารผมเถิด ผมกำลังจะขาดใจตาย อย่าพรากสิ่งเดียวที่ใจผมรักไปจากผมเลย ยิ่งคิดยิ่งสะอื้น กรีดร้องออกมา ขยุ้มบ่าของพลจนบอมมันมาดึงออก

"เอ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! เอ "

ผมร้องครวญครางหามัน แค่หวังว่าเสียงนี้จะสื่อไปถึงใจมันว่าผมคิดถึงมันเหลือเกิน อยู่แห่งหนใด ขอให้รับรู้ไว้ ว่าคิดถึงเหลือเกิน ขอวอนสายลมใดจะพัดพาเสียงนี้ล่องลอยไป บอกเอให้ที ผมรักและคิดถึงมันมากเพียงใด ผมสะอื้นไห้อยู่นานพลกอดไว้แน่น บอมยืนลูบหลังผมอยู่ จนผมหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน ผมดึงพลังออกมาจากร่างเพื่อร้องไห้ พอเหนื่อยก็นอน ไม่ฝัน ไม่คิดถึง ไม่คิดอะไร ผมอยากจะนอนหลับอย่างนี้ไปนานแสนนาน เผื่อว่าใจมันจะได้พักบ้าง

ที่ ใดมีรักที่นั้นย่อมหนีไม่พ้นทุกข์ช่างเป็นสัจธรรมที่จริงแท้เสียนี่กระไร แต่ก่อนรักแต่เหมือนจะคิดว่าตัวเองโตเป็นผู้ใหญ่แล้วควบคุมความคิดและหัวใจ ได้ ปล่าวเลยแท้จริงผมก็แพ้หัวใจตัวเอง แต่หากให้เลือกว่าอยู่แบบไม่ได้รักมัน แล้วไม่เป็นทุกข์ กับการที่ได้รักมันหมดหัวใจแล้วมีสภาพแบบนี้ ผมก็ยังจะเลือกที่จะรักมัน พอรักแล้วถอดถอนยาก เป็นกรรมของผมโดยแท้ ไม่เพียงแต่ตัวเองที่ทนทุกข์คนรอบข้างพลอยทุกข์ไปด้วย

ผมลืมตางัว เงียขึ้นมา ภาพแรกที่ผุดขึ้นกลางใจ เอ ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างนะ อย่าเสียใจนะเอ เข้มแข็งไว้นะ อย่าเป็นเหมือนฉัน พอคิดน้ำในตาก็เอ่อท่วมท้นขึ้นมา พลนั่งอยู่เตียงมันคุยกับบอมอยู่

"ตื่น แล้วเหรอแก เป็นไงบ้าง"

พลเอื้อมมือมาจับที่ขา ผมไม่ตอบ ไม่รู้จะบอกมันว่ายังไงดี ให้บอกว่าไม่เป็นไรแล้วหรือ มันก็เห็นสภาพที่เอน็จอนาถอยู่แก่ตา ผมจึงเงียบอยู่อย่างนั้น

"ไปกิน อะไรหน่อยเถอะแก จะค่ำแล้ว"

จะค่ำแล้ว นี่ผมนอนไปนานขนาดนี้เชียวหรือ ผมส่ายหน้ารับรู้สิ่งที่เพื่อนพูด

"โย อย่าทำร้ายตัวเองแบบนี้เลย ฉันรู้ว่าแกเสียใจมาก แต่ทำร้ายตัวเองมันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาหรอก ถ้าน้องมันกลับมาเห็นแกเป็นอย่างนี้แล้วมันจะทนไหวเหรอ"

เสียงพลก้อง เข้ามาในหัว เตือนสติ จริงสินะ ผมจะมานอนทนทุกข์ทำไม เพื่ออะไร ถ้าเอมันกลับมาเห็นสภาพผมตอนนี้ล่ะ ผมยันกายลุกขึ้น มองหน้าพลกับบอม สายตาสองคู่ให้กำลังใจผมอยู่ แต่รื้นน้ำตามันปิดบังทำให้มองไม่ชัด ผมพยักหน้าพลเข้ามาประครองร่างที่ไร้วิญญาณของผมให้ลุกจากเตียง ผมเดินลงมาข้างล่างด้วยแรงพยุงของบอมกับพล ผมเหมือนคนป่วยไปแล้ว แม่นั่งอยู่ข้างล่างมองด้วยสายตาห่วงใย แววตาแม่ดูปวดร้าวกว่าผมหลายร้อยเท่านัก ผมเป็นลูกที่แย่ แม่เสียใจเพราะผม แม่ร้องไห้เพราะความเห็นแก่ตัวของผม เสียใจเหลือเกิน จะพร่ำพูดว่าเสียใจอีกสักพันล้านครั้ง มันจะทดแทนแววตาที่ฉายแววมาตอนนี้ได้ไหม โย ผมประนามตัวเอง

"กินข้าว กินปลาซะลูก แล้วไปนอนพัก อย่าทำร้ายตัวเอง"

แม่เข้ามาลูบหน้าลูบตา แววตาเศร้ารันทดบาดลึกลงไปกลางใจ ผมเม้มปากพยายามไม่ให้น้ำตามันไหลออกมา ผมกินข้าวไม่เยอะกลืนไม่ลง แม้แต่น้ำก็รู้สึกว่ากำลังกลืนทรายลงไปในลำคอ ทุกคนก็คอยลุ้นให้กำลังใจอยู่สายตาทุกคู่เป็นห่วงผมเหลือเกิน ผมพยายามไม่มองไม่อยากให้น้ำตาไหลออกมาอีก อยากจะขอโทษ ก้มลงกราบเท้าแม่ ให้สมกับที่ผมทำให้แม่ชอกช้ำใจ แต่ถ้าทำไปตอนนี้ผมคงมีอาการเดิมเหมือนเมื่อตอนกลางวัน ผมคิดว่าผมเป็นคนดีมีศีลธรรมอยู่ในใจเหมือนอย่างที่แม่คอยพร่ำสอนมา ไม่เคยให้กิเลสล่วงล้ำเข้ามาครอบงำใจได้มากมายเพียงนี้ แท้จริงแล้วกิเลสมันบังตาผมจนแยกแยะอะไรไม่ออก แค่คำว่ารักเขา คำเดียว มันกดผมลงต่ำจมพื้นได้ถึงเพียงนี้ แม้จะโงหัวเงยคอขึ้นมาดูแสงสว่างก็หนักถ่วงอยู่ ผมได้แต่ ขอโทษในใจกลืนมันลงไปกับความช้ำใจ

พลนอนเป็นเพื่อน มันไปส่งบอมก่อนแล้วค่อยกลับมา ผมนอนมองเพดานห้องสายตาไม่เปลี่ยนจุดศูนย์กลาง กระพริบตาช้ามองอยู่เนิ่นนานเหมือนต้องการหาคำตอบอะไรจากเพดาน ไม่มีอะไรเลย ว่างเปล่า พลเดินเข้ามาในห้องมันนั่งลงข้างๆมองอย่างห่วงใย

"แก กินยาก่อนจะได้หลับสบาย"

พลยื่นยาเม็ดสีขาวพร้อมแก้วน้ำให้ ผมเชื่อฟังมัน ที่จริงผมเป็นเหมือนหุ่นยนต์ไปแล้ว มันบอกอะไรก็ทำแต่ไร้ซึ่งจิตไร้ซึ่งชีวิต ผมกลืนยาลงคออย่างยากลำบากแล้วล้มตัวลงนอนท่าเดิม มองที่เดิม

"จ๋า มันก็จะแต่งงานแล้ว กลุ่มเราเริ่มแยกย้ายกันแล้วเนอะ อีกายกับอีกบก็แรดไปวันๆ อยากกลับไปเป็นนักศึกษาอีกจังนะแก"

พลนอนลง ข้างๆ มันพูดเสียงเรียบ

"ยังจำตอนที่เราเจอกันครั้งแรกได้ไหม ที่แกเดินเอ๋อหลงทางเข้าห้องน้ำหญิงน่ะ เพราะเขินรุ่นพี่ ถาปัตย์ ชื่ออะไรนะที่เป็นนักกีฬาทีมมหาฯลัยน่ะ อ้อ ไอ้พี่ทอม"

ผมนิ่งฟัง อยู่ จิตคิดตามที่พลพูด

"แหม ฉันต้องเข้าไปดึงเอาไว้ ตอนนั้นนะแก ฉันคิดว่าฉันชอบแกนะ เพราะแกน่ารักมาก แต่พอคุย ต๊าย เป็นเพื่อนสาวหรอกเหรอเนี่ย แต่ฉันก็ดีใจนะที่ได้รู้จักแก"

ผมอมยิ้ม ขึ้นมาได้ น่าแปลก แม้หัวใจจะหม่นหมองมืดมนอยู่ แต่อดีตที่งดงามมันก็ทำให้เรายิ้มได้เหมือนกัน

"ฉันรู้นะว่าแกแอบ ชอบพี่เค้าตอนนั้น แต่เอาไปเอามา พี่ทอม ดันมีผัวซะนี่ ต๊าย สปีชี่เดียวกัน แล้วจำตอนที่เจออีกบกับอีกายได้ไหม คิดแล้วขำ กล้ามาก อีกบนี่ทาปากแดงหน้าขาวมาเชียว ส่วนอีกายก็แต่งเครื่องราชย์มาระยับเต็มตัว ไม่ได้ดูหนังหน้าตัวเองเล๊ย"

พลพูดแล้วหัวเราะ ผมยิ้มออกมาได้ คิดถึงเพื่อนๆตอนนั้น ความจริงภาพมันก็ยังแจ่มชัดเช่นกัน ภาพอดีตที่งดงามระหว่างเพื่อน แล้วตอนนี้ผมเป็นอะไรไปภาพเหล่านั้นผมลบเลือนมันไปเอง ทั้งที่มันไม่ได้หายไปไหนเลย

"แกเองก็เวอร์เหมือนกันล่ะ ใส่กางเกงรัดติ้ว"

ผมพูดขึ้นมาบ้าง แต่สายตายังมองเพดานอยู่

"ต๊าย แก ก็มันเป็นเทรนนี่ เขาเอาฟิตธรรมดา ส่วนชั้นก็ต้องเยอะกว่าชาวบ้านเขาสิ ถ้าไม่เยอะไม่ใช่พลรัตนาหรอก อิอิ"

ผมหัวเราะออกมาเบาๆ พลเองก็หัวเราะ คุยกันสักพักตาก็เริ่มหนักจนหลับไปตอนไหนไม่รู้คงจะเหนื่อยกับสิ่งที่ผจญมา ทั้งวัน

ผมตื่นขึ้นมางัวเงียลุกขึ้น มึนๆหัว เหลือบดูนาฬิกา หกโมงเย็น อืม ห๊า หกโมงเย็น! นี่ผมนอนข้ามวันข้ามคืนเชียวหรือ ผมสะดุ้งรีบเดินเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตา นี่มันหกโมงเย็นของวันอาทิตย์ จำได้ว่านอนเมื่อคืนสามทุ่ม ตายจริง เมื่อคืนก็ไม่ได้อาบน้ำ ผมเดินลงไปข้างล่าง เห็นแม่นั่งดูข่าวอยู่ ผมเดินไปนั่งข้างๆแม่

"เป็น ไงบ้างลูก นอนหลับสบายไหม"

แม่หันมาถามแล้วลูบหัวเบาๆ

"โย หลับไปข้ามวันข้ามคืนเลยเหรอแม่"

"จ๊ะ โยคงเพลีย นอนเยอะๆน่ะดีแล้ว"

"แล้ว พล"

"อ้อกลับไปตั้งแต่บ่ายแล้วล่ะลูก เพราะเห็นบอกมีนัด หิวข้าวไหม แม่ทำกับข้าวเสร็จแล้ว"

แม่ถามแววตาห่วงใยยิ่งนัก ผมพยักหน้าเพราะหิวอยู่เหมือนกัน เราไปกินข้าว ผมกินเยอะกว่าปกติเพราะเมื่อคืนก็กินน้อยแล้วก็นอนข้ามวันอีก ในท้องโครกคราก

"โย ลองไปวัดกับแม่ไหมลูก เผื่อจะสบายใจขึ้น"

แม่ พูดขึ้นมากลางโต๊ะกินข้าว ผมสูดลมหายใจเข้า แม้จะตื่นมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ในใจก็ยังระบมอยู่

"ครับ"

"แม่ ทนไม่ได้นะโยที่เห็นเราเป็นแบบนี้ จะเจ็บปวดแค่ไหนแม่รู้ ถือว่าแม่ขอร้อง"

แม่ วิงวอน เป็นครั้งแรกที่แม่ขอร้องผม หลายอย่างที่ผมไม่เคยเห็นแม่ทำมาก่อน เพราะผมหรือนี่ผมทำให้แม่เสียใจขนาดนี้เลยหรือ ผมรีบกินข้าวแล้วเก็บกวาด ขึ้นห้องไป ร้องไห้อีกแล้ว คราวนี้ไม่ได้คิดถึงเอ แต่เป็นสายตาแม่คู่นั้น คู่ที่ผมเห็นมาตั้งแต่เด็ก สายตาที่ห่วงใยผมมาโดยตลอด เป็นรักที่บริสุทธิ์ปราศจากสารเคลือบแคลงใดๆ แต่วันนี้สายตาคู่นั้นหม่นหมองเจ็บปวดเศร้าสร้อยเหลือเกิน เพราะผมใช่ไหม เพราะผมคนเดียว ผมสะอื้นอยู่ใจจะขาด

"พ่อจ๋า...........พ่ออยู่ ไหน..........โย เจ็บเหลือเกิน พ่อ จ๋า........โยทำแม่เสียใจ โยทำให้พ่อผิดหวัง.......โย เสียใจ โยจะทำยังไงดี พ่อจ๋า....ฮึก ฮึก....โยเป็นลูกไม่ดี.........โยทำให้แม่ร้องไห้ พ่อจ๋า........โย ใจจะขาด"

ผมคร่ำครวญนอนพนมมืออ้อนวอน เผื่อว่าพ่ออาจจะเฝ้าดูอยู่ น้ำตาไหลอาบแก้มเปียกหมอน ความทรมานใจเช่นนี้เมื่อไหร่มันจะจบจะสิ้นไปเสียที ผมไร้เรี่ยวแรงจะสู้ต่อ ยิ่งรู้สึกผิดยิ่งเสียใจตรมในอกทนทุกข์หนักเพิ่มขึ้น ผมจะทำยังไงดี ผมมองไม่เห็นทางใดเลย

พี่ภาบังคับให้ผมลาพักร้อนหนึ่งอาทิตย์เพราะพล คงไปรายงานสภาพที่น่าอดสูของผม พี่ภาไล่ผมกลับบ้านตอนไปถึงที่ทำงานวันจันทร์ ทั้งที่ผมพยายามจะบอกว่าผมยังทำงานไหว แต่พี่ภาไม่ยอม พลเองก็ไม่ยอม ผมหงอยกลับบ้าน พอถึงบ้านจึงตัดสินใจไปวัดกับแม่ ผมเตรียมชุดขาวไปด้วย เราออกจากบ้านตรงไปวัดธรรมมงคล ขอให้แสงแห่งธรรมโปรดสาดส่องมาให้ทางลูกด้วยเถิด ผมตั้งจิตที่สั่นคลอนอธิษฐานหน้าพระประธาน นับจากนี้ถ้าหากกรรมใดที่ลูกก่อทั้งในอดีตชาติ ปัจจุบันชาติ ทั้งด้วยกายก็ดี วาจาก็ดี มโนจิตก็ดี โดยตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี ขอให้กรรมนั้นทุเลาเบาบางด้วยเถิด ให้ลูกมีแรงใจที่จะใช้ชีวิตต่อไป ให้ลูกได้มีชีวิตอยู่เพื่อชดใช้กรรมต่อไปด้วยเถิด ผมก้มลงกราบ


สัพ เพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ "สิ่งทั้งหลายทั้งปวง ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น"


เขียนโดย eiky

 :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:

ใครคิดว่ายังเศร้าน้อยไป เมนต์ด้วยนะครับ อิอิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2011 02:49:05 โดย eiky »

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
จิ้มตูดคนแต่ง

อีป้าแก่ๆ อ่านทัน 555

แต่ พักนี้ หันหน้าเข้าหา ธรรม บ่อยนะ

แต่ก็ดี ถือว่า ไปทำจิตใจให้สงบ ก่อเกิดปัญญา

รักเหมือนเดิม  :กอด1: แต่ + ไม่ได้แล้ว อะวันนี้ โควต้าหมด 555

ป.ล. เล่นน้ำ แน่หรือ  ทำยังกับโดนสูบพลังชีวิต ชิ... อิจฉาคนไปเล่นน้ำ

Yellow Lilly

  • บุคคลทั่วไป
ใจร้ายยยย เศร้ามาก จิดตกหง่ะ.... :กอด1:

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
 :monkeysad:
ซึม เศร้า จิตตก
+1  :z13: writer

ออฟไลน์ •ผั๑`|nกุ้va’ด•

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-69
 :sad4:   วิ่งไปให้เค้าเอาน้ำมาสาดด!!!~  เศร้างะ

Earhee

  • บุคคลทั่วไป
 :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:

เศร้ามาก

 :o12: :o12: :o12:

ออฟไลน์ lomekung

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1762
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1


ทำไมเศร้าจัง

 :m15: :m15:

aekporamai2

  • บุคคลทั่วไป
สู้ๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด