Boy's Story ให้รักนำทางใจ ( พิเศษ ) ๒๔ มกราคม ๒๕๕๕ หน้า ๓๔
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ชอบเรื่องนี้หรือเปล่า

เฉยๆๆ
18 (5.9%)
ชอบ
280 (92.1%)
ไม่ชอบ
6 (2%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 181

ผู้เขียน หัวข้อ: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ( พิเศษ ) ๒๔ มกราคม ๒๕๕๕ หน้า ๓๔  (อ่าน 312371 ครั้ง)

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
ถือซะว่า อุปสรรคคือบททดสอบความรักละกัน
ยิ่งยากยิ่งคุ้มค่ากับสิ่งที่รอคอย

เป็นกำลังใจให้ค่ะ

Seoul In Love

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3



อ่า คนเขียน ยังเอ๊าะ อยู่ น้าาาาา

 :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun:

DexTunG

  • บุคคลทั่วไป
สุขสันต์วันสงกรานต์ปีใหม่ไทย

นะครับทุก ๆ คน

ออฟไลน์ naiin

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2421
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-9
นอนครับนอนรออ่าน เวลาผมเร็วกว่าชั่วโมงนึงอ่ะครับ สุขสันต์วันสงกรานต์กับปีใหม่ไทยนะครับ มีความสุขชุ่มเย็นถ้วนหน้าครับ

ออฟไลน์ nidnoi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 558
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
ขอให้ผ่านเรื่องร้ายๆ ได้เร็วๆ นะคะ

salawinyeen

  • บุคคลทั่วไป
วันนี้ไปเล่นน้ำมาง่วงจะตาย    คนเขียนมาทำให้ติดนิยาย ดูซิ  เห็นเอาตอนใหม่มาลงอดที่จะอ่านไม่ได้


คิดว่าไปนอนคงหลับฝันดีน่าดู อิอิ    เมื่อไหร่อาจารย์ปริศนาจะเข้าใจ  น๊า  เหนื่อยแทน เอกับพี่โย


 :L1: :3123: :L2:



BY   YeeN 2 U

kanda53

  • บุคคลทั่วไป
 :เฮ้อ:หวังว่าเอคงจะไม่ทำอะไรที่เป็นการทำร้ายตัวเอง
เพราะสุดท้ายแล้ว..นอกจากแม่ที่เสียใจ..โยก้อคงเสียใจทุกข์ใจไม่แพ้กัน  :monkeysad:
รออ่านตอนต่อไป..ขอบคุณสำหรับความขยันและความสนุก
เล่นสงกรานต์ให้สนุก..และปลอดภัย  ให้สมกับวันปีใหม่ไทยนะคะ   :bye2:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
เอ คิดจะทำอะไรอีกล่ะเนี่ย   :เฮ้อ:
น่าเห็นใจโยจริงๆเลย

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
 :L2: :L2: :L2: :L2:
Happy Birthday..Eiky
มีความสุขมากๆ นะ


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






DexTunG

  • บุคคลทั่วไป
อ่านมาทันแล้วครับ  +1 ให้กัเรื่องราวที่น่าติดตาม


แล้วก้อแวะมาอวยพรให้ด้วยนะครับ


Happy Birth  Day   สุขสันต์วัน่กิดนะครับ..Eiky


ขอให้มีความสุขมาก ๆ นะ  คิด หวัง สิ่งใดขอให้สมปรารถนาทุกสิ่งทุกอย่างเทอญ


 :L2: :L2:

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
                   วันนี้ วันเกิดผมคร้าบบบบบบ

อิอิ เพิ่งตื่น อวยพรด้วยน้าาาาาา ตอนนี้โบนัสให้เพื่อนๆที่ติดตามอ่านทุกคน





                                      ตอน สี่สิบห้า




ผมไปทำงานสายเพราะถึงแม้ว่าจะตื่นมาแล้วก็ ยังเหม่อลอยอยู่ ผมไปทำงานด้วยจิตใจที่ขุ่นมัว หน้าตาคงดูแย่เพราะใครๆก็ทัก พลเองก็สงสารแต่มันก็ทำอะไรไม่ได้ทั้งที่พยายามจะชวนผมคุยในเรื่องที่ตลกๆ หรือชวนไปนั่นไปนี่ แต่ผมเองก็เอาแต่ร่างไป ไม่ได้เอาจิตวิญญาณไปด้วย จ๋าเองก็เงียบๆไป เห็นวันก่อนโทรมาบอกว่า พ่อแม่พี่ป้อมมาสู่ขอแล้ว รอฤกษ์แต่ง ผิดคาดที่ป๊ามันเห็นดีด้วย เรื่องที่คิดเอาไว้ว่าน่าจะยากกลับง่าย แต่เรื่องที่คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรกลับสุมใจดังไฟที่แผดเผา ผมไม่ได้บอกจ๋าว่าเกิดอะไรขึ้น กลัวมันคิดมาก ไม่อยากให้มันคิดมากคนท้องคนไส้ คิดมากไปมันจะไม่ดี ผมพยายามไม่ให้ความเห็นแก่ตัวของตัวเองมันเบียดเบียนเพื่อนที่ผมรัก แต่สำหรับพลไม่ต้องบอกมันก็รู้ มันพยายามตามใจผมทุกอย่าง อย่างที่ไม่เคยเป็น ผมลำบากใจแต่ก็ทำอะไรไปได้ไม่มากกว่านี้ เป็นอีกสัปดาห์ที่ผ่านไปได้ยากเย็น เอไม่ติดต่อมาเลย ผมเหมือนคนไร้ซึ่งแรงใจ เดินทางรอนแรมอยู่กลางทะเลทรายที่แดดร้อนแรงแต่มืดมิดมองไม่เห็นทางใด ผมอยู่อย่างไม่เป็นสุข ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน กินไม่ได้นอนไม่หลับ ผมโทรหาบ๊อบเกือบทุกวัน ตอนแรกๆมันก็ทำเสียงรำคาญ แต่พอบ่อยขึ้นมันก็เหมือนเห็นใจ มันคงรักเพื่อนมันเหมือนกันจึงไม่ยอมปริปากบอกอะไร มันบอกว่าเอเองก็ไม่ได้ไปหามันเกือบอาทิตย์แล้ว โทรไปก็เมาอยู่บ้าน ผมเป็นห่วงมันมาก แต่ไม่รู้จะติดต่อยังไง ผมทรมานใจอย่างที่ไม่เคยเป็น ผมกำลังจะขาดใจตาย ผมทนอยู่ต่อไปไม่ได้เลย แต่ละวันมันช่างแสนยากเย็น เหม่อลอย ไร้เรี่ยวแรง ห่อเหี่ยว มีหัวใจอยู่แต่เป็นหัวใจขาดซึ่งน้ำล่อเลี้ยง แม่เองก็คงทุกข์ใจมากไม่น้อยไปกว่าผม แม่พยายามปลอบ แต่ผมเหมือนดำดิ่งลงห้วงเหวลึก เวลาอยู่ต่อหน้าแม่ผมก็พยายามทำตัวให้เป็นปกติให้มากที่สุด แต่เวลาที่ผมอยู่คนเดียวบนห้อง ทุกตารางนิ้วที่เอมันเคยอยู่ ผมปวดใจเหลือเกินเหมือนมันสะท้อนเงาของเอ ยิ่งนานวันยิ่งแจ่มชัดขึ้น ผมร้องไห้ทุกคืนร้องอย่างไม่รู้จักอิ่ม น้ำตาไม่รู้มากจากไหน มันหลั่งไหลออกมาได้ตลอด

พี่ภาเองก็เป็นห่วงจากที่เคยเป็นคนที่สดใส ร่าเริง ทำงานไม่ค่อยพลาด แต่เดี๋ยวนี้ทำอะไรก็ไม่ดี ทั้งที่พยายามแยกแยะ แต่เรื่องที่คาในใจที่สุมอกอยู่มันเด่นชัดบดบังสติปัญญาไปเสียหมด ตอนเลิกงานพลก็มาส่งที่บ้านทุกวันเพราะมันกลัวว่าผมจะเหม่อลอยจนโดนรถเฉี่ยว ชนเอา ผมซึ้งในในความห่วงใยของเพื่อนและคนที่อยู่รอบข้าง ผมขอโทษ ที่ผมทำตัวเองให้ดีไปกว่านี้ไม่ได้ ผมทำไม่ได้เลยจริงๆ เดี๋ยวนี้ผมขึ้นนอนเร็วกว่าปกติ แม่เป็นคนปิดบ้าน ผมเองขึ้นห้องไปแต่ก็ใช่ว่าจะนอน ผมขึ้นไปพยายามหาทางติดต่อกับเอ ทำทุกวิถีทาง แต่มันก็ไม่มีประโยชน์ ยิ่งพยายามหาทางยิ่งจนหนทางปวดร้าวใจทุกข์ทวีคูณ

ผมกำลังเคลิ้มหลับ ไปด้วยความเหนื่อยอ่อนเพราะนอนไม่หลับมาหลายวัน แต่ต้องสะดุ้งตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เดี๋ยวนี้ผมไม่เอาโทรศัพท์ออกห่างตัวเลย ไม่เคยปิดเครื่องด้วยหวังว่าเอมันจะโทรเข้ามา แล้วผมจะไม่ได้รับ จนกลายเป็นคนวิตกจริตไปแล้ว ผมรีบคว้าโทรศัพท์มากดรับสาย

"พี่โย นี่บ๊อบนะ พี่ออกมาหาหน่อยสิครับ"

เสียงมันดูตื่นๆ

"หือ มีอะไร บ๊อบ นี่มันกี่โมงแล้วเนี่ย"

ผมยังงัวเงีย

"ไอ้เอมัน มีเรื่องพี่ ตอนนี้ผมอยู่กับมันที่พระโขนง พี่มาดูมันหน่อยมันโดนตี"

ผม กระเด้งตัวออกจากเตียง อุทานออกมา

"หา อะไรนะ อยู่ตรงไหน บ๊อบ เดี๋ยวพี่ไป"

ผมตะโกนออกไปด้วยความตกใจ พอรู้ว่าบ๊อบมันอยู่ที่ไหนผมก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าคว้ากระเป๋าตังค์วิ่งออก จากบ้าน ผมนั่งแท็กซี่ตรงไปยังที่ที่มันบอก แต่รถแท็กซี่ต้องไปกลับรถเกือบถึงเอกมัย ผมยิ่งใจร้อนกระสับกระส่าย มันโดนตี มันจะเป็นยังไงบ้าง ใจผมไม่ดีเลย พอเลี้ยวเข้าถนนพระโขนงผมก็เร่งให้คนขับรถแท็กซี่ขับเร็วขึ้น ตรงที่มันบอกต้องเข้าซอยปรีดีฯ ๒๔ เป็นซอยเล็กๆ ผมเห็นมันสองคนยืนเกาะกันอยู่บอกให้รถจอดแล้วจ่ายเงินโดยไม่เอาเงินทอน ผมรีบลงไปจากรถแล้ววิ่งไปหามันทันที

"เอ!!!!!"

ผมร้องเรียก

"พี่ โย ทางนี้"

บ๊อบร้องเรียกแล้วพยายามพยุงเอให้ลุกขึ้น พอแสงไฟริมถนนสาดส่องให้เห็นสภาพเอ ผมหยุดวิ่งหยุดลงโดยอัตโนมัติ ผมอึ้งขาอ่อนวิ่งต่อไม่ได้ เหมือนหัวใจจะหยุดเต้น เลือดสีแดงเกือบดำไหลอาบมันครึ่งหน้า

"เอ!!!!!! เป็นอะไร เอ!!!!!"

ผม ร้องออกไปเสียงดัง ใจหลุดลอยไป ผมปรี่เข้าไปซ้อนปีกมันพยุงไว้อีกข้าง สภาพมันเลื่อนลอย ทั้งกลิ่นคาวเลือดปนกันกับกลิ่นเหล้าคละคลุ้ง สภาพมันดูไม่รู้เรื่องอะไรแล้ว หน้าตาฟกช้ำ สภาพเสื้อผ้าเปื้อนเลือด

"ไป โรงบาล"

ผมพูดออกมาไม่ได้คิด

"พี่ช่วยมันด้วย"

บ๊อบ เองก็สภาพดูคล้ายกันเพียงแต่ไม่มีเลือดมากและดูไม่เมาเท่าเอ ผมร้องไห้ออกมากอดมันไว้ ให้บ๊อบไปเรียกแท็กซี่

"ไปทำอะไรกันมา บ๊อบ ไปทำอะไรกันมา"

ผมถามทั้งที่ยังร้องไห้อยู่ บ๊อบมันมองหน้าผม แล้วหลบตา

"กินเหล้าพี่ แต่มีเรื่องกันนิดหน่อย"

"นี่นิด หน่อยเหรอ เลือดอาบขนาดนี้"

ผมตวาดออกไป

"ทำไม บ๊อบ ทำไม"

ผม ร้องเหมือนคนบ้า ตวาดมันเสียงดัง จนคนขับแท็กซี่ตกใจ

"พี่ก็มันชวน ออกมา มันกินแบบลืมตายเลย พอดีมีคนมากวน มันก็เลยมีเรื่อง"

ผมไม่มีอะไรจะพูดกับมันทั้งรู้สึกโกรธ ทั้งสงสารคนที่อยู่ในอ้อมกอด เลือดมันเปื้อนเสื้อผมจากสีฟ้าเข้ากลายเป็นสีคล้ำ

"เอ เอ ฉันอยู่นี่แล้ว เอ อย่าเป็นอะไรไปนะเอ"

ผมพยายามเขย่าตัวมันเพราะมัน ดูตาปรือๆ ผมร้องไห้เหมือนคนบ้า พอถึงโรงพยาบาลก็แจ้งเจ้าหน้าที่ เอเข้าห้องฉุกเฉินไปแล้ว ส่วนผมก็ไปทำเรื่องทั้งน้ำตา ส่วนบ๊อบเองก็ไปทำแผล ผมพูดไม่รู้เรื่อง พนักงานถามแล้วถามอีก ผมจำเป็นต้องโทรหาพล เพราะชื่อเดียวที่คิดออกตอนนี้คือพล มันรับโทรศัพท์ พอได้ยินเสียงผมสะอื้นมันก็ตื่นแล้วบอกจะรีบมาทันที ผมนั่งร้องไห้อยู่ตรงโถงกลางโรงพยาบาลสุขุมวิท นั่งรออยู่นาน พลก็มาถึงมันกระหืดกระหอบเข้ามาหา

"เกิดอะไรขึ้น แก"

มันนั่ง ลงจับบ่าผม สายตามันตระหนกตกใจ

"เอ แก เอ มันอยู่ห้องฉุกเฉิน"

ผม สะอื้นไห้พูดออกไป

"หา เกิดอะไรขึ้น"

ผมส่ายหัว พอดีกับพนักงานที่นั่งมองดูอาการผมอยู่เข้ามาถามพล มันจึงโดนแยกออกไปเพื่อทำเรื่อง พลไปติดต่อที่เคาท์เตอร์ ผมก็นั่งร้องไห้กุมหน้าอยู่ที่เดิม ร้อนรนทุรนทุราย ยิ่งคิดไปยิ่งร้องไห้ออกมาหนักกว่าเดิม บ๊อบมันเสร็จจากการทำแผลแล้วมันเดินมานั่งข้างๆ ผม ไม่พูดอะไร เพราะเห็นสภาพผมแล้วมันคงไม่กล้าที่จะพูดอะไร ผมนั่งร้องไห้อยู่นานพอสมควร  จนพลมันเดินมาหา

"แก น้องมันออกจากห้องฉุกเฉินแล้วนะ หมอบอกว่า เมา แล้วก็คิ้วแตก ฟกช้ำตามตัว ไม่มีอะไรมาก แต่รอผลตรวจตอนมันฟื้นอีกที"

ผม รู้สึกใจชื้นขึ้น โล่งใจเหมือนยกหินออกจากอก ผมสูดหายใจเข้าปอดให้ลึกที่สุด พยายามไล่น้ำตาออกไปจากตา แล้วหันมามองบ๊อบอย่างต้องการคำตอบ บ๊อบหลบหน้าผมทันที

"พี่ ผมแค่ไปกับมันนะ"

มันตอบเสียงเบา เหมือนกระซิบ

"ไหนเล่ามาซิ ไปทำอะไรกันมา"

พลเป็นคนถาม มันนั่งลงอีกข้างของบ๊อบ ตอนนี้มันอยู่ตรงกลางพอดี

"ก็เดี๋ยวนี้ไอ้ เอมันเครียดมากพี่ กินเหล้าทุกวันที่บ้าน แต่วันนี้มันโทรชวนแกมบังคับให้ผมไปกับมัน ก็คาราโอเกะ ในซอยนั้นล่ะพี่ มันกินเยอะไปหน่อย เมาแล้วมีคนมาหาเรื่อง มันก็เลยเป็นแบบนี้ล่ะ"

ผม กับพลเงียบ ผมสงสารเอขึ้นมาจับใจ นี่มันพยายามจะประชดแม่มันอยู่ มันถึงทำขนาดนี้

"แค่เหล้าเหรอ"

พลถามสายตาจ้องอยู่ที่บ๊อบ รายนั้นอึกอัก ก้มหน้าลงต่ำกว่าเดิม

"ถามน่ะ ได้ยินไหม แค่เหล้าหรือเปล่าหรือมันมีอย่างอื่นด้วย"

พลทำเสียงดุ บ๊อบดูรนรานกว่าเดิม ผมก็รู้สึกอยากรู้ขึ้นมาเหมือนกัน

"กัญชา ด้วยพี่"

มันตอบเสียงเบาเหมือนมันไม่ได้พูด ผมหูผึ่ง นี่เอสูบกัญชาด้วยหรือ

"ไปเอามาจากไหน"

พลถามต่อเสียงดุ เหมือนเดิม

"วินมอร์ไซค์"

มันยังคงก้มมองพื้นตอบอ้อมแอ้ม ผมน้ำตาไหล จุกในอกพูดไม่ออก

"แค่นี้เหรอ มีอะไรอีก"

"โอ๊ย พี่ แค่นี้ล่ะ พี่จะถามทำไมซอกแซก"

มันเงยหน้าขึ้นมาโวยวาย จนผมสะดุ้ง

"จะบอกพวกฉันหรือจะให้พวกฉันบอกพ่อแม่เธอล่ะ"

พล ขู่เสียงเรียบจ้องหน้ามันแววตาพลดูเอาเรื่องไม่ยอมเหมือนกัน บ๊อบหลุบสายตาลงไม่ยอมจ้องหน้า

"ว่าไง"

พลแย็บต่อ

"เล่น โค๊กด้วยพี่ แต่สองสามวันแล้ว"

"หา ไปเอามาจากไหน"

พลอุทาน ผมงง โค๊ก แค่โค๊กทำไมต้องตกใจ พอภายหลังถามมันผมถึงเข้าใจ มันคือโคเคน ผมตกใจมากตอนรู้ด่าว่าเอไปเยอะเหมือนกัน

"เพื่อน"

"เพื่อนที่ ไหน รู้ไหม มันอันตราย"

พลจับบ่ามันให้มันจ้องหน้าแล้วตวาด

"เพื่อน จริงๆ พี่ มันบอกว่ามันขโมยมาจากพี่มันอีกที"

พลส่ายหน้า

"ถ้า พลาดขึ้นมาล่ะ อยากเข้าคุกกันใช่ไหม อยากเรียนจบแค่ ม ห้าเหรอ คิดบ้างสิ"

"โห พี่ ผมไม่ได้อยากลองนะ ไอ้เอ มันอยากลอง"

"แล้วทำไมเราไม่ห้าม เพื่อน"

พลแว๊ดใส่ ผมได้แต่นั่งฟังเพราะกำลังงว่าพวกมันหมายถึงอะไรกัน

"โหพี่ ตอนนี้ใครห้ามมันได้บ้าง มันไม่เชื่อใครเลย ผมเองก็ต้องคล้อยตามมัน"

บ๊อบ พูดแล้วหันมามองผม

"มันรักพี่มากนะพี่ แต่มันทำประชดแม่มัน ปกติมันไม่ใช่คนแบบนี้หรอก"

ควรจะดีใจหรือเสียใจดี ผมถามตัวเอง ผมนิ่งเหมือนโดนมนต์สะกด น้ำตายังไม่หยุดไหล นี่มันเกิดอะไรขึ้น มันล่วงเลยมาถึงเพียงนี้เชียวหรือ พลกับบ๊อบนั่งถกกันอยู่สักพักเราก็เข้าไปดูเอที่ห้องพักคนไข้ ผมปรี่เข้าไปหาที่เตียง พลกับบ๊อบอยู่อีกฟากของเตียง เห็นภาพมันนอนนิ่งอยู่ สภาพแบบนี้ ผมหัวใจสลาย เหมือนกำลังโดนใครกระทืบหัวใจอยู่ แม้เนื้อตัวมันจะดดนทำความสะอาดแล้ว หัวคิ้วซ้ายมีผ้าก็อตปิดอยู่ หน้าตาที่ฟกช้ำ ตามแขนขามีรอยขีดข่วน ผมนั่งลงข้างๆอย่างหมดกำลังใจ ร้องไห้ออกมากอดมันไว้

"เอ...........ทำไมทำแบบนี้ ทำไมทำแบบนี้ รู้ไหม ฉันใจจะขาด"

ผมพร่ำร้องไห้ออกมา น้ำหูน้ำตาเปรอะเปื้อน สะอื้นตัวโยน

"พอแล้ว เอ อย่าทำแบบนี้ อย่าทำแบบนี้ สงสารฉันบ้าง ...........เอ.............ฉันอยู่แบบนี้ไม่ได้นะ...............ฉันอยู่โดย ไม่มีเธอ.......ไม่ได้นะ"

ผมพูดคำเดิมย้อนไปย้อนมา อ้อนวอนกับร่างที่กำลังหลับไหล ลูบตามตัวมันอย่างแผ่วเบากลัวว่ามันจะเจ็บ พลเดินอ้อมมาดึงตัวผมออกจากมันเพราะยิ่งร้องไห้ผมยิ่งกอดมันแน่นขึ้น

"พอ แล้วแก ให้น้องมันพัก มันไม่เป็นอะไรแล้ว"

พลร้องไห้เหมือนกัน

"ฉัน เจ็บเหลือเกินแก ฉันเจ็บเหลือเกิน ทำไม ทำไมต้องเป็นแบบนี้"

ผมกอดพล ร้องไห้ สะอื้นจนเหนื่อยหอบ

"พี่ ผมขอโทษ ผมน่าจะห้ามมันให้ได้ ผมขอโทษ"

บีอบเองก็ร้องไห้ออกมา เราทั้งสามยืนร้องไห้อยู่ข้างเตียง ส่วนเอนอนหลับเพราะยาและน้ำเกลือ รู้ไหมเอ ไม่ใช่เธอคนเดียวนะที่อยากให้ทุกอย่างมันดีกว่านี้ ไม่ใช่เธอคนเดียวนะที่เจ็บปวด ยิ่งเธอเจ็บ ฉันเองที่เจ็บกว่าเธอหลายเท่านัก ผมพูดกับตัวเองร้องไห้อยู่ข้างเตียง พลพาบ๊อบกลับบ้านผมนอนเฝ้าเออยู่จนเช้า ผมรีบกลับบ้านเห็นแม่นั่งอยู่หน้าบ้านด้วยสีหน้าวิตกกังวล พอเห็นหน้าแม่ผมก็วิ่งเข้าไปกอด ร่ำไห้อีกรอบ ผมเล่าให้แม่ฟัง แม่เองก็ตกใจแต่ผมไม่ได้เล่าทั้งหมดเล่าแค่ว่ามันมีเรื่องจนต้องเข้าโรง พยาบาล แม่ไล่ผมให้ไปอาบน้ำเพราะเสื้อที่เปื้อนเลือดจนเป็นคราบ หน้าตาที่มอมแมม แม่บอกให้ผมหยุดงานสักวันเพราะเห็นสภาพผมคงไม่ได้นอนทั้งคืน แต่ผมก็คงทำไม่ได้ ไม่อยากให้ที่ทำงานเขาระอา เพราะอาการที่เป็นอยู่ทุกวันนี้เขาก็เอือมผมแล้ว ผมรีบไปอาบน้ำแล้วจะแวะไปหาเออีก แต่แม่ห้ามไว้บอกว่าจะจัดการเอง ผมจึงยอม

ผม ไปทำงานด้วยจิตใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว คอยโทรไปโรงพยาบาลตลอดทุกชั่วโมง ทำงานก็ไม่เป็นอันทำกระสับกระส่าย พลต้องคอยปลอบ ตอนสิบเอ็ดโมงผมโทรไปที่โรงพยาบาลอีกรอบ แต่พนักงานบอกว่า นาย เอกวรรศ ออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว พอสอบถามก็ต้องตกใจเพราะผู้ปกครองมารับออกไป ผมนั่งคิดหนัก อาจารย์ปริศนารู้เรื่องแล้ว ตายจริงมันจะเป็นยังไงต่อไป ผมกลุ้มขึ้นมาทันที

"เป็นไรแก หน้าดูไม่ดีเลย"

พลถามขึ้นตอน กินข้าวเที่ยง ซึ่งผมไม่ได้แตะเลยเขี่ยไปมา

"อาจารย์ปริศนามารับ เอกลับบ้านแล้วแก"

"หา รู้เรื่องแล้วเหรอ"

พลเองก็คงตกใจ

"ซวย แน่ๆ เอ เอ้ย"

พลพูดออกมา แล้วมองหน้าผมที่รู้สึกว่าจะซวยกว่า ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับมันและรวมทั้งผมด้วย ผมเลิกกินข้าวแล้วเดินไปหน้าตึก ยืนเหม่ออยู่ตรงทางเดิน พลต้องรีบมาดึงแขนเข้าที่ทำงาน พอบ่ายแก่ๆ ผมก็รู้สึกปวดท้องเวียนหัว หน้าซีด จนเป็นลมไปเพราะไม่ได้กินอะไรเลย ตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็น ผมนอนอยู่ห้องพี่ภา พอฟื้นขึ้นมาก็เห็นพี่ภากับพลยืนมองอยู่

"เป็น ลมเลยนะโย ไม่กินข้าวบ้างล่ะเรา"

พี่ภาพูดด้วยเสียงที่เป็นห่วง

"เออ แก กินนี่ก่อนจะได้อุ่นท้องขึ้นมาหน่อย"

พลยื่นแก้วใบใหญ่ให้ เอามือแตะมันอุ่นๆ เป็นธัญพืชผสมน้ำร้อนผมค่อยๆจิบ รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย

"อย่า คิดมากนักสิโย ดูสิโทรมไปเลยนะเรา"

พี่ภาพูดแล้วเข้ามาลูบหัว ผมยิ้มแห้งๆ พี่ภาอนุญาติให้ผมลากลับครึ่งวันโดยให้พลมาส่งที่บ้าน ความจริงผมไม่อยากจะลากลับบ้านแต่ดูจากสภาพแล้วคงฝืนทำงานต่อไม่ไหว ผมจำใจต้องกลับบ้าน ระหว่างทางก็งีบเพราะรู้สึกเพลียเหลือเกิน พอกลับถึงบ้านพลก็ลงมากินข้าวด้วย กับข้าวที่แม่ทำไว้ เอาไปอุ่น รู้สึกหิวขึ้นมา พอกินข้าวเสร็จก็นอนพัก จนหลับไป พลกลับบ้านไปแล้ว ผมนอนหลับเพราะเพลียกับพายุที่มันพัดโหมกระหน่ำเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว พัดซัดใจจนบอบสลาย ได้แต่ภาวนาให้พายุร้ายนี้สงบลงเสียที เผื่อใจมันจะได้พักบ้าง แม้สักเพียงเสี้ยววินาทีก็ยังดี
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2011 02:45:39 โดย eiky »

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
                             ตอกันตามสัญญานะครับ วันเกิดจะอัพสามตอนรวด



                            อัพให้แล้วน้า ป้า



                  


                                      ตอนสี่ สิบหก





ผมงัวเงียตื่นขึ้นมา เหลือบดูนาฬิกาเกือบหกโมงเย็นแล้ว พอตื่นขึ้นมาก็รู้สึกหิวเลย ผมเดินลงไปในครัว เห็นแม่กำลังง่วนอยู่กับการทำกับข้าว

"แม่กลับมาแล้วเหรอครับ"

ผมถามแล้วเดินไปช่วยแม่ทำกับข้าว

"จ๊ะ โยหิวเหรอลูก แป๊บนึงนะ เดี๋ยวเสร็จแล้ว"

แม่กำลังทำแกงจืด ผมเลยเดินไปดูข้าวที่หุงไว้ ข้าวสุกพอดี ผมจึงตักข้าวใส่จาน

"โย ทำไมเหม่อล่ะลูก ตักทำไมสามจาน"

แม่ทัก ผมสะดุ้ง ทำหน้าเหรอหรา เอาจานข้าวที่ตักเกินเททิ้งลงขยะ

"โย นั่งลงลูกนั่งลง เดี๋ยวแม่ทำเอง เอาข้าวไปทิ้งทำไมกัน"

แม่ร้องเสียงหลง ผมเทข้าวไปแล้วถึงรู้สึกตัว

"เอ้ย ขอโทษครับแม่"

ผมเกาหัวแกรกๆ แม่มองหน้าด้วยสายตาที่วิตกกังวล ผมนั่งลงที่เก้าอี้มองจานข้าวอยู่ ไม่ได้รู้ผิดสึกอะไรที่เทข้าวทิ้ง

"โย พักนี้โยเปลี่ยนไปเยอะนะลูก คิดมากไปหรือเปล่าโย แม่เป็นห่วงนะลูก"

แม่พูดด้วยน้ำเสียงที่อาทรห่วงใย ผมได้แต่นั่งนิ่ง ใจลอย กินข้าวก็ตักกินแต่แกงจืด ไม่กินข้าว พอแม่ทักก็กินแต่ข้าวเปล่าไม่กินกับ แม่ได้แต่ส่ายหัว ผมพยายามทำให้จิตใจอยู่กับเนื้อกับตัวให้มากที่สุด แต่ยิ่งพยายามจิตใจยิ่งหลุดเลื่อนลอยไป พอกินข้าวเสร็จผมก็ไปนั่งดูโทรทัศน์ แม่เป็นคนเก็บของทำความสะอาด ตอนแรกผมอาสาจะทำอย่างทุกครั้ง แต่แม่ห้ามไว้ คงเห็นสภาพแล้วไม่น่าจะรอด ผมนั่งดูโทรทัศน์อยู่แต่ไม่ได้รับรู้เลยว่าเรื่องราวบนจอมันเกี่ยวกับอะไร จนแม่มานั่งลงข้างๆลูบหัวเบาๆ ผมนอนลงบนตักแม่

"โย หักห้ามใจบ้างนะลูก อย่าเป็นแบบนี้นานเกินไป แม่ไม่สบายใจเลย"

แม่พูดอยู่ ผมน้ำตาซึม แต่ก็ไม่พูดอะไร รู้ว่าแม่คงทุกข์ใจไปไม่น้อยกว่าผมเลย แต่ผมห้ามใจตัวเองไม่ได้เลยที่จะไม่คิดถึงเอ ยิ่งคิดผมก็ยิ่งจมทุกข์พอคิดมากเหมือนสติขาดหลุดลอยไป เสียงเอะอะหน้าบ้าน แม่ชะเง้อคอไปดูแล้วก็ดันตัวให้ผมลุกขึ้น แม่เดินออกไปเปิดประตูบ้านเพราะเสียงเคาะประตูดังเหมือนจะมาทวงหนี้

"มาคุยกันให้รู้เรื่อง ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่ามายุ่งกับลูกชายชั้น อยากลองดีใช่ไหม หรือจะให้ฉันแจ้งตำรวจ"

เสียงที่เอ็ดตะโรอยู่ข้างนอกไม่ใช่ใคร เสียงของอาจารย์ปริศนาเอง

"ใจเย็นๆนะคะ พี่ปริศนา มีอะไรค่อยๆพูดกันนะคะ"

"ยังจะมีหน้ามาพูด เธอรู้ไหม ลูกฉันจะเสียคนเพราะลูกเธอ นี่เธอเลี้ยงลูกยังไง สั่งสอนมันบ้างไหม ทำไมปล่อยให้มันทำแบบนี้ ฉันผิดหวังในตัวเธอกับลุกมากรู้ไหม อร"

เสียงอาจารย์ปริศนาแว๊ดๆใส่แม่

"นี่เธอรู้ไหมว่าเอมันเจ็บปางตายนอนซมอยู่บ้าน เพราะใคร หา เพราะลูกของเธอ ไหนมันอยู่ไหน"

"ใจเย็นๆก่อนค่ะ พี่"

"โอ๊ย รำคาญ ฉันจะไม่ทนอีกแล้วนะ ทนมามากแล้ว นี่ถ้าเอเป็นอะไรไปมากกว่านี้ฉันจะเอาเรื่องเธอสองคนให้ถึงที่สุด"

อาจารย์ปริศนาปรี่เข้ามาในบ้าน ผมยืนขึ้นยกมือไหว้ทั้งที่ยังตกใจอยู่ ผมยังไม่ทันลดมือที่ไหว้ลง อาจารย์ปริศนาก็ฟาดมือมาที่หน้าผมแล้ว

"เพี๊ยะ"

ผมหน้าหันไปอีกทางตามแรงตบ ชาไปทั้งหน้าน้ำตาคลอเบ้า

"พี่ปริศนา!!!!!"

เสียงแม่ร้อง ผมตะลึงไม่ทันตั้งตัว หน้าหันไปยังไม่ยอมหันกลับ

"เลว รู้ไหมฉันเสียใจแค่ไหน ลูกฉันไม่เคยเป็นแบบนี้ มันเป็นเพราะเธอ เธอคนเดียว"

"พี่ปริศนา อรรู้นะคะว่าพี่เสียใจ แต่พี่ดูสภาพโยตอนนี้สิคะ พี่คิดว่าอรก็ไม่เสียใจเหรอ โยเองไม่เคยเป็นแบบนี้  เห็นใจกันบ้างเถอะค่ะพี่ปริศนา ไม่ใช่พี่ที่ทุกข์ใจคนเดียว"

แม่ขึ้นเสียงบ้าง ผมไม่เคยเห็นแม่ขึ้นเสียงกับใครมาก่อนเลย

"เธออย่ามาย้อนนะอร เธอจะเข้าใจอะไร ก็ลูกเธอมันวิปริตผิดเพศแบบนี้เธอก็ต้องเข้าข้างมันวันยังค่ำ"

"พี่ปริศนา อรไม่คิดเลยนะคะว่า พี่ปริศนาจะพูดคำนี้ออกมาได้ พี่โตแล้วเป็นผู้ใหญ่แล้ว เป็นแม่คน พี่ก็น่าจะรู้ว่าคนเป็นพ่อแม่เลี้ยงลูกได้แตแต่ตัว จิตใจของลูกพี่บังคับมันได้ด้วยเหรอ อีกอย่าง โยไม่ได้วิปริตค่ะ ถึงพี่จะคิดแบบนั้นก็ตาม แต่สำหรับอร ตั้งแต่ลูกเกิดมาไม่เคยมีวันไหนที่ทำให้อรรู้สึกอับอาย โยเป็นความภูมิใจของอร เพราะโยเป็นคนดีมาโดยตลอด อยู่ในลู่ในทาง พี่ลองคิดดูนะคะพี่ปริศนา ตั้งแต่เอรู้จักโย มันเปลี่ยนไปยังไงบ้าง แล้วที่มันเป็นแบบทุกวันนี้ เป็นเพราะอะไร เป็นเพราะใคร"
แม่เน้นเสียงตาจ้องอาจารย์ปริศนาเขม็ง มันทำให้อาจารย์ปริศนาชะงักหยุดนิ่งอยู่

"เธอไม่ต้องมาพูดอร เธอไม่เข้าใจฉันหรอก"

"อรเข้าใจค่ะ เข้าใจดี แต่ถามพี่ปริศนานะคะ แล้วพี่เองเข้าใจเอมันหรือเปล่าว่ามันต้องการอะไร คิดว่าการทำแบบนี้เป็นทางออกที่ดีก็แล้วแต่ใจพี่ค่ะ แต่ถ้าเอมันจะถลำมากไปกว่านี้ อรบอกพี่ไว้ตรงนี้เลยว่า มันไม่เกี่ยวกับโย เพราะโยเองก็อยู่เหมือนคนตายทั้งเป็น แล้วพี่เข้าใจอรไหมล่ะคะว่าอรทุกข์ใจมากแค่ไหน"

แม่น้ำตาไหลออกมาแต่ยังไม่ละสายตาจากอาจารย์ ปริศนา

"ไม่รู้ล่ะ อย่ามายุ่งกับตาเออีก"

อาจารย์ปริศนาเหมือนคนจนต่อคำพูด ยืนมองหน้าแม่อยู่แล้วสะบัดหน้าออกจากบ้านไป ผมยืนนิ่งน้ำตาคลอ แปลกใจมันไม่ยักไหลออกมา แต่แม่เองที่น้ำตาไหลออกมาอาบสองแก้ม แม่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ผมเองก็ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม มันชาขยับกายไม่ได้ สติไม่มีเหลืออยู่กับตัว นี่มันอะไรกัน เหตุการณ์มันรวดเร็วเหมือนฝัน ผมชินกับความเจ็บปวดหรือผมเป็นอะไรไปแล้ว

"โย ไม่เป็นไรนะลูก"

เสียงแม่สะอื้นถาม เท่านี้เองบ่อน้ำตาที่เหมือนโดนกักไว้ได้พังทลายออกมา ผมโผเข้ากอดแม่ตัวเองทันที ร้องไห้สะอื้นออกมา

"แม่ โย ขอโทษ.........โย ทำให้แม่ผิดใจกับ......อาจารย์ ......โยเป็นเด็กไม่ดี......แม่โย.."

"ไม่ลูก ไม่เอา อย่าพูดแบบนั้น ทุกอย่างมันวนเวียนไปตามกรรมของมัน ไม่เอานะโยอย่าพูดแบบนี้"

แม่สะอื้นปลอบลูบหลังผม น้ำตายิ่งหลั่งไหลพรั่งพรูออกมา

"โย เป็นเด็กดีมาตลอด ถึงแม้ว่าจะเจอเหตุการณ์นี้ โยก็ยังเป็นเด็กดีของแม่ คิดดูนะลูกถ้าน้องมันไม่มาเจอโย น้องมันอาจจะแย่กว่านี้ก็ได้"

ผมรู้ว่าแม่พยายามปลอบให้กำลังใจผม แต่ส่วนลึกแล้วแม่เองก็คงเสียใจมาก ความเจ็บปวดทรมานที่รุมเร้าสุมอยู่ในอกผม มันไม่ได้ทำลายแค่ผมคนเดียวแม่เองก็โดนบั่นทอนไปด้วยเช่นกัน ลำพังความทุกข์ของหัวใจผมเองมันก็สุมอกจะมอดไหม้ให้แตกดับอยู่แล้ว ยิ่งมาเห็นน้ำตาแม่ เสียงร่ำไห้สะอื้นกอดผมอยู่แบบนี้ ผมอยู่ในนรกดีๆนี่เอง ทำไมอะไรหลายอย่างมันดูเลวร้ายเสียเหลือเกิน เมื่อไหร่มันถึงจะทุเลาลง ผมทรมานเหลือเกิน

"โย ไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้ แม่............จ๋า...........โย เสียใจ"

ผมคร่ำครวญ แต่ละคำที่มันลอดออกมาจากปากมันช่างยากเย็นเคล้าเสียงสะอื้นออกมา

"โย ไม่เอาลูก ไม่เอา เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง พี่ปริศนาไม่ใช่คนใจร้ายใจดำอะไร ใจเย็นๆนะลูก เดี๋ยวมันก็มีทางออก"

แม่สะอื้นไห้เหมือนกัน ผมร้าวรานใจ พยายามจะหยุดร้องไห้เพราะไม่อยากจะเห็นน้ำตาแม่ แต่ยิ่งพยายามผมยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม ที่โดนตบหน้าไม่รู้สึกเจ็บเท่านี้เลย มันไม่ได้แค่เศษเสี้ยวหนึ่งของความทรมานที่ได้รับจากการได้เห็นน้ำตาของแม่ แม่ปลอบผมอยู่นานกว่าผมจะยอมสงบลง แม่หยุดร้องไห้ไปนานแล้ว แต่ผมยังคงสะอื้นอยู่ ผมนอนหนุนตักแม่ที่โซฟาจนหลับไปด้วยความเหนื่อยล้าอ่อนแอในใจ

ผมตื่น ขึ้นมาลืมตาขึ้นมารู้สึกหนักอึ้งเหลือบตาไปรอบๆบ้าน ผมยังนอนอยู่ที่โซฟา สว่างแล้วหรือ ผมลุกขึ้นมองนาฬิกาที่แขวนอยู่ผนังบ้าน ตายจริงเกือบแปดโมงแล้ว ผมรีบเดินขึ้นไปบนบ้าน แม่ไปโรงเรียนแล้ว กะจะโทรไปหาพลให้มันลางานให้สักสองสามชั่วโมง เห็นสายที่ไม่ได้รับ สิบกว่าสาย ผมรีบโทรกลับ

"เออ แกเป็นอะไรหรือเปล่าโย โทรไปก็ไม่รับ"

พล พูดกรอกสายมา

"ฉันไม่เป็นไรแก โทษทีนอนเพลินไปหน่อย เออ แกฉันลาสายสองสามชั่วโมงนะ"

"ไม่ต้องหรอกแก เจ๊ให้โทรบอกแกว่าไม่ต้องมาทำงานหรอกวันนี้ ให้ลาเต็มวัน แกโอเคนะ ให้ฉันไปหาป่ะ"

"ไม่ต้องแก ฉันไม่เป็นไร"

นี่ผมไม่ทำลายเพียง แต่จิตใจของตัวเองและคนรอบข้างผมยังทำลายงานของตัวเองอีกด้วย ผมวางสายจากพลแล้วนอนลงบนเตียงอย่างเหนื่อยล้า เพลียใจสมองคิดอะไรไม่ออก เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันช่างเลวร้าย นับวันผมจะยิ่งเจอแต่เรื่องร้ายๆ มันรุนแรงเกินกว่าใจจะรับไหว ไม่เคยคิดจะรักเอ แต่พอรักมันก็รักทั้งหัวใจ ยิ่งรักยิ่งทรมานมองไม่เห็นสิ่งใด มองไปทางไหนมีแต่ใบหน้ามันล่องลอยหลอกหลอนอยู่ นี่มันเป็นการทำโทษผมใช่ไหม ผมควรจะหนักแน่นมากกว่านี้ไม่ควรปล่อยให้เรื่องมันเกิดขึ้นล่วงเลยมาถึง เพียงนี้ ผมสมควรได้รับการลงโทษนี้ แต่คนรอบข้างผม โดยเฉพาะแม่ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะมาทุกขืทรมานใจเพราะความเห็นแก่ตัวของผมเลย ผมเสียใจเหลือเกิน

เดือนแห่งความรักที่น่าจะหวานชื่นผ่านไปด้วยความ ขมขื่น ผมใช้ชีวิตให้ผ่านไปแต่ละวันไม่มีวันไหนที่ไม่เสียน้ำตา ไร้ซึ่งชีวิตจิตใจ นับจากเหตุการณ์ที่อาจารย์ปริศนาบุกบ้านมาตบหน้าผม เอไม่ได้ติดต่อมาเลย มันยิ่งบั่นทอนผมให้จมลงกับขุมนรกในใจ ผมพยายามสวดมนต์แต่ก็เป็นร้องไห้หน้าพระเสียมากกว่า แทนที่จะสวดให้จิตใจรู้สึกดีขึ้นสบายใจขึ้น แต่กลับสวดเพื่ออ้อนวอนขอให้ได้เจอเออีกสักครั้ง อยากจะกอดมันเหลือเกิน อยากสัมผัสใบหน้าที่ผมรักเสียเหลือเกิน อยากได้กลิ่นลมหายใจอุ่นๆนั้นอีกสักครั้ง แค่สักครั้งเพื่อหล่อเลี้ยงลมหายใจนี้ให้คงอยู่ต่อไป

ต้นเดือนมีนาคม เอมันคงปิดเทอมแล้ว เดี๋ยวนี้ผมโทรหา บอมกับบ๊อบเกือบทุกวันคอยถามว่าเจอเอบ้างไหม สาระทุกข์สุกดิบก็รับรู้มาจากทั้งสองคนนี้ เอมันยอมคุยกับบอมแล้ว แต่เอเองก็ดูเปลี่ยนไปมากกว่าเดิม ไม่ใช่เอคนเดิม มันไม่คุยกับใคร เก็บตัวอยู่ในห้อง เขียนไดอารี่อย่างเดียว ข้าวปลาก็กินน้อยจนผ่ายผอม ยิ่งรับฟังใจเหมือนโดนมีดเฉือนออกทีละน้อย เป็นห่วงเหลือเกิน บ๊อบกับบอมเองก็หนักใจเพราะไม่รู้จะทำยังไงดี เอมันฝากมาบอกผมเสมอ ว่า "รักผมมาก" ผมร้องไห้ทุกครั้งที่เด็กสองคนนี้บอก ส่วนพลเองเดี๋ยวนี้กลายเป็นเพื่อนสนิทที่สุดแทนที่จ๋าไปแล้ว ไม่ได้ว่าจ๋าเพราะมันเองก็ปิดป๊ามันอยู่ว่ามันท้องก่อนแต่ง หน้าท้องก็เริ่มป่องออกมา ต้องสวมใส่เสื้อผ้าตัวใหญ่ๆเพื่ออำพราง เห็นมันโทรมาบอกว่าจะแต่งกันเดือน พฤษภาคม ได้ฤกษ์มาจากฝั่งของพ่อแม่พี่ป้อม

วันเสาร์ต้นเดือนอากาศร้อนอบ อ้าว แม่ไปนั่งวิปัสสนาที่วัดเหมือนเคยเพราะผมดูไม่เศร้าเหมือนแต่ก่อน แต่ก็อย่างว่าผมใช้ความพยายามอย่างมากที่จะทำตัวให้ร่าเริงตอนอยู่หน้าแม่ แต่ลับหลังผมก็ยังคงจมอยู่กับรอยน้ำตาและความทุกข์โศกในใจ ผมนั่งเหม่ออยู่ม้าหินอ่อนหน้าบ้าน คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยเลื่อนลอย อยากจะโทรหาเอ อยากคุยกับมัน แต่ก็จนปัญญา เพราะเวลาที่บอมกับบ๊อบไปหา อาจารย์ปริศนาก็มักจะสอดส่องอยู่ใกล้ๆ อยากจะโทรหาบอมกับบ๊อบตอนที่มันอยู่ด้วยกันเคยลองแล้ว แต่เอมันไม่คุยไม่รู้เหมือนกัน หรือว่ามันไม่มีใจเหลือให้กันแล้ว ผมสะท้อนใจปวดร้าว พยายามปลงปล่อยวาง แต่ก็ยากเย็นเสียเหลือเกิน เสียงคนพยายามเปิดประตู ผมสะดุ้งจากภวังค์หนามกุหลาบที่ทิ่มแทงใจอยู่ ใจเต้นตึกตักกลัวว่าเป็นใครแอบมางัดบ้าน เห็นมือสอดเข้ามาปลดกลอนจากภายนอก มันรู้ด้วยว่ากลอนประตูอยู่ตรงไหน ประตูเปิดออก

"เอ!!!!!!!!!!!"

ผมร้องสุดเสียง เพราะคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือเอ ผมยืนขึ้นตลึงตาค้าง เอมันวิ่งเข้ากอดผมยกตัวขึ้นจนตัวลอยจากพื้น

"เค้าใจจะขาด เค้าเหมือนคนใกล้จะตาย คิดถึงตัวเองเหลือเกิน"

มันร้องไห้ออกมา ยิ่งทำให้ผมร้องไห้สะอื้นออกมาเช่นกัน

"ไปไหนมา เอ ไปไหน มา ทำไมทำแบบนี้"

ผมตีหลังมันทั้งที่มันกอดอยู่

"เค้าขอโทษ เค้าทำไม่ได้ ตัวเอง เค้าทำไม่ได้ ถ้าเค้าได้ยินเสียงตัวเอง แล้วโดนขังให้อยู่ที่บ้าน เค้าใจจะขาด"

น้ำตาของมันไหลเปื้อนซอกคอผม น้ำตาผมเปื้อนบ่ามัน

"ทำไมใจร้าย เหลือเกิน รู้ไหม ฉันทรมาน อย่าทำแบบนี้ เอ อย่าทำแบบนี้"

เสียงสะอื้นคละเคล้าปนกัน ผมสะอื้นอ้อนวอนกอดมันแน่น

"เค้าขอโทษที่รัก เค้าขอโทษ เค้าคิดว่าทำแบบนี้แล้วแม่จะใจอ่อนลง แต่ ไม่เลย แม่ใจร้าย เค้าเกลียดแม่"

มันวางผมลงแล้วมองหน้าผมจูบทั้งน้ำตา ผมได้ยินแบบนั้นก็สะท้อนใจแต่ก็ไม่อยากจะห้ามอะไรในตอนนี้ เพราะดีใจมากเหลือเกินที่ได้เจอหน้ามัน เรากอดจูบลูบไล้กันอยู่นานแล้วจึงขึ้นไปบนห้อง ผมนอนกอดมันอย่างที่ใจโหยหามานาน เอตัดผมสั้นกุดเหมือนโกนหัวมา คิ้วซ้ายเป็นรอยแผลเป็นตัดเส้นขนคิ้วไปผมใช้นิ้วลูบอย่างแผ่วเบา ผมจูบลงหัวคิ้วมันแผ่วเบา ถ้าเจ็บก็ให้หายนะเอ ขอให้จุมพิศนี้เป็นยารักษารอยเจ็บช้ำนี้ให้หาย จุมพิศที่เต็มไปด้วยรักจากใจจริง

"ตัวเอง ร้องไห้ทุกวันเลยเหรอ เห็นไอ้บอมมันบอก"

มันจับหน้าผมให้ไปใกล้ หน้ามัน ลมหายใจอุ่นๆที่ผมหลงไหล ผมสูดเข้าปอดอย่างกระหาย ผมไม่ตอบแต่ยิ้มให้มันทั้งน้ำตา มันเขานิ้วปาดออกอย่างอ่อนโยน

"เค้า เสียใจนะคะ ขอโทษน้า เค้าจะไม่ทำแบบนี้อีก คิดว่าเงียบแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น ปล่าวเลย ยิ่งแย่ลง เค้าเหมือนคนกำลังจะขาดใจ"

ผมมองริมฝีปากมันทุก คำที่พูดมันจ้องหน้าผมตลอดเวลา

"เค้ารักตัวเองมากน้า มากจนทำตามที่แม่บังคับไม่ได้ มากจนทนไม่ไหวอีกแล้ว"

"รักมากแล้วทำไม ไม่ติดต่อมาเลย รู้ไหม เอ แค่อยากได้ยินเสียง เป็นห่วงเหลือเกิน แค่ได้ยินเสียงแค่นี้ก็ผิดหรือ"

ผมสะอื้นหนัก มันกอดไว้จูบหน้าผาก

"เค้า ขอโทษ เค้าก็ทรมานน้า เค้าร้องไห้เหมือนกัน อยากโทรหาใจจะขาด แต่แม่ไม่ให้เค้าออกไปไหนเลย เฝ้าอยู่บ้านตลอดเวลา"

มันร้องไห้พร่ำ พูดออกมา ผมเห็นใจมันมาก ไม่คิดว่าอาจารย์ปริศนาจะทำแบบนี้กับลูกชายในวัยแบบนี้

"อย่าทำแบบนี้ อีกนะเอ ฉันรู้มันยาก ไหนบอกจะฝ่ามันไปด้วยกัน ไหนบอกจะจับมือกันไปตลอด"

"ตัว เองเชื่อใจเค้าน้า เค้าไม่ได้ตั้งใจ เค้าอยากจะประชดแม่ แต่แม่ไม่ใจอ่อนเลย"

"อย่าให้ฉันเจ็บไปกว่านี้เลย สงสารฉันบ้าง"

ผมยังคงสะอื้นให้ความในใจมันออกมากับน้ำตา

"เค้าขอโทษนะคะ ที่รักของผม เค้าสัญญาว่าจะไม่ทำให้ตัวเองเสียใจอีก เค้าสัญญา"

มันพูดแล้วลูบ ตามหน้าจรดคางของผม พรมจูบอยู่อย่างนั้น ผมจูบตอบมันอย่างแผ่วเบา อ้อมกอด รสจูบที่ผมปรารถนา ตอนนี้มันอยู่ตรงหน้าผมแล้ว แรงรักในใจปลุกใจให้ล่องลอยไปตามร่างกาย ฝ่ามือมันคอยลูบไล้ตรงสะโพก ผมดื่มกินจูบมันอย่างกระหาย ทุกส่วนในร่างกายมันช่างน่าพิศมัย ไม่เคยรังเกียจเลย ผมปล่อยใจให้ลอยไปตามแรงปรารถนาแห่งใจ ไฟราคะสุมร้อนให้เราเร่าร้อนไปตามลีลา เม็ดเหงื่อผุดขึ้นเต็มดวงหน้าทั้งผมและมัน ประตูสวรรค์เปิดรับเราไม่รู้กี่รอบกี่คราว ไม่รู้จักพอไม่รู้สึกอิ่ม รสรักที่เติมเต็มให้แก่กันเหมือนน้ำทิพย์หยาดมาโปรยก็ไม่ปาน ผมมีความสุขเหลือเกินแต่มันก็ปนมาด้วยทุกข์มหันต์ที่แทรกมาทุกนาที


 :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:

ขอบคุณ ทุกแรงใจนะครับ อยากเอ่ยชื่อทุกคน แต่ดูย้อนไปไม่เป็น ยังไงก็ขอบคุณอีกทีครับ






                      
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2011 02:46:12 โดย eiky »

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
                            อ่านแล้วอย่ารุมด่าผมนะครับ อิอิ


                           ยังไงเปลี่ยนคำด่าเป็นคำอวยพรก็ดีน้าาาา



                          Happy Birthday to Eiky อิอิ





                                   ตอน สี่สิบเจ็ด




เอ นอนทับร่างผมซุกหน้าอยู่ซอกคอ เสียงหายใจมันเหนื่อยหอบ ผมเองรื้นน้ำตาไม่เคยจางหายไปเลย ทั้งสุขใจทั้งกังวล หลากอารมณ์ประดังประเดเข้ามา ผมลูบแผ่นหลังมันไปมาแผ่วเบากอดคอมันไว้


"ตัว เอง จำไว้นะ เค้าจะรักตัวเองจนกว่าเค้าจะตาย"

ผม สะดุ้งที่คำพูดมันแทรกขึ้นมาแทนเสียงหอบเหนื่อย

"เอ"

ผม จับหน้ามันยกขึ้น จ้องตามันด้วยน้ำตา

"อย่า พูดแบบนี้ ไม่ อย่าพูดอีก ฉันไม่ชอบ บอกแล้วใช่ไหม อย่าพูดเรื่องเป็นเรื่องตาย"

ผม ทำตาดุใส่มันแต่น้ำตาที่เคลือบตาไว้ไม่รู้ว่ามันจะดุได้แค่ไหน มันจ้องผมจริงจัง

"เค้า พูดจริงๆ เค้าคิดว่าถ้าโตไปกว่านี้ เค้าก็คงไม่รักใครได้เท่านี้แล้ว รู้ไหม ในหัวใจเค้ามีแต่ตัวเอง คนเดียวในใจ"

เรา จ้องตากันอยู่ ผมเม้มปาก ได้ยินแบบนี้ก็ชื่นใจอยู่หรอก แต่สะท้อนใจเหลือเกิน นี่มันหมายถึงเรื่องราวต่างๆที่รออยู่เบื้องหน้ามันจะรุนแรงกว่านี้อีกหรือ

"รัก ก็ให้มันนำทางเราไปสู่จุดหมายสิเอ อย่าให้รักมันพาเราจมตกนรกไป พากันไปให้ถึงฝั่งสิ"

ผม พยายามเรียกสติคืนมาให้เราทั้งสองคน แม้จะทุกข์ใจตรมในอกเพียงใดเราจะกอดคอกันจมดิ่งลงเหวไม่ได้

"นี่ ล่ะที่เค้ารักตัวเอง เพราะตัวเองไม่เหมือนใคร ตัวเองเป็นขุมพลัง เป็นกำลังใจให้เค้าเสมอมา ตั้งแต่รู้จักกันมา ตั้งแต่รู้สึกรัก ไม่เคยมีวันไหนที่เค้าจะรู้สึกว่ารักตัวเองน้อยลงเลย มีแต่รักตัวเองเพิ่มขึ้น มากขึ้นทุกวัน"

จาก สายตาจริงจังเป็นประกายหวานซึ้ง มันลูบหน้าผมอย่างอ่อนโยนจูบหน้าผาก ริมฝีปากอุ่นวาบหวามไปถึงใจ ผมหลับตาพริ้มอย่างเป็นสุข

"เอ ไม่ว่าต่อไปจะเป็นยังไง อดทนไว้นะ อย่าทำอะไรผลีผลาม จะคิดจะทำอะไรขอให้คิดถึงฉันก่อน ได้ไหม"

น้ำ เสียงที่วิงวอนอ่อนโยนอย่างน้อยอยากให้มันฟังผมบ้างสักนิดก็ยังดี

"คร้า บบบ ไม่เชื่อเมียรักแล้วจะฟังใครล่ะคะ"

มัน ทำหน้าทะเล้นเหมือนเคย นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้เห็นใบหน้าแบบนี้ อยากให้มันทำหน้าแบบนี้ตลอดเวลาจังเลย

"บ้า ฉันไม่ได้พูดเล่นนะ อย่าทำเป็นเล่น"

ผม ค้อนใส่

"จ้า ที่รัก เค้าเชื่อตัวเอง จะคิดถึงตัวเองก่อนคิดก่อนทำอะไร สัญญา"

มัน จูบลงมาหนักหน่วง ผมเผยอปากรับจูบนั้นด้วยความปรีดา เรากอดก่ายร่างเข้าหากันแนบแน่นราวจะหลอมให้กลายเป็นร่างเดียวกัน ความเจ็บปวดทางกายถูกกลบลบเลือนไปด้วยความปรารถนาทางใจ ไฟราคะลุกโชนขึ้นอีกครั้ง ทุกอณูของร่างกายผมเอมันซอกซอนไม่มีจุดใดเล็ดลอดสายตาหรือชิวหามันไปได้ เช่นกันเรือนร่างของมันทุกอณูรูขุมขน ผมดอมดมมันอย่างพึงใจไม่มีเบื่อ เราล่องลอยไปบนวิมานจนถึงฝั่งแห่งสวรรค์ เหงื่อกาฬผุดขึ้นอีกครา

"เค้า เจ็บน้องชายอ่า ตัวเอง"

มัน อมยิ้มอยู่ ทำหน้าเขินอาย

"สม น้ำหน้าไหมล่ะ กี่รอบแล้วเนี่ย"

ผม ก็รู้สึกอาย แต่ก็ยิ้มตอบมัน

"เค้า ไม่เอาไหนเลยอ่ะ ห้ารอบเอง ไม่ไหวซะแระ"

"บ้า ฉันไม่ไหวแล้วนะ เจ็บแล้ว"

"หือ ไม่ไหวแล้วเหรอคะ เค้าว่าจะเอาอีกสักสองรอบ"

"บ้า ทำไปคนเดียวเถอะ"

ผม ทำท่างอนตุ๊บป่องใส่มัน เอกอดกระชับผมแน่นขึ้น ซุกไซร้อยู่ตรงซอกคอ ผมพลิกตัวขึ้นมานอนทับร่างมันบ้าง เอาเรียวนิ้วลูบที่คิ้วมันแผ่วเบา

"เจ็บ ไหม"

มัน ส่ายหน้าแล้วยิ้มให้ผม

"คิ้ว แหว่งเลย"

"แต่ ยังหล่ออยู่เนอะ"

ผม ยิ้มลูบไล้ลงมาที่ใบหน้ามันแผ่วเบา รักที่สุดเต็มหัวใจ

"แล้ว คิดยังไงไปตัดผมซะเกรียนเชียว"

"ตัด ไปงั้นล่ะ ขี้เกียจสระ ตัวเองไม่ชอบเหรอ"

"เปล่า หล่อดี"

ผม ยิ้มเต็มดวงหน้าจูบที่หน้าผากมัน

"อิ อิ เห็นมั้ยเค้าน่ะหล่อ มีแผลเป็นยิ่งหล่อ"

"จ้า พ่อรูปหล่อ"

ผม ประชดแล้วหยิกแก้มมันเบาๆ เรานอนกอดกันคลอเคลียอยู่จนบ่ายกว่าๆ ผมจึงลงมาทำกับข้าวเอมันคอยกอดอยู่ไม่ห่าง ไม่ได้รู้สึกรำคาญเลยแม้แต่น้อย รู้สึกอิ่มรักล้นสุขอย่างบอกไม่ถูก พอกินข้าวเสร็จเราก็กลับขึ้นไปบนห้องอีก

"อยาก อยู่อย่างนี้ไปนานจังเลยเนอะ"

เอ พูดขึ้นมาแล้วถอนหายใจ ลมหายใจอุ่นๆของมันรดหน้าผมอยู่ กลิ่นกายที่ผมพึงปรารถนา เรานอนกอดกันจนผมหลับไปมันเองก็หลับ ผมเบียดกายเข้าหา เอเองก็กอดกระชับผมแน่นขึ้นราวกับจะหลอมรวมร่างให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ความอบอุ่นจากอกของคนที่รักมันแผ่แทรกซึมเข้ามาในร่างกายทดแทนความเหน็บหนาว ที่ฝ่าฟันเผชิญมานาน ผมเองก็อยากอยู่แบบนี้ไปนานๆ ถ้ามีพรวิเศษอันใดที่จะขอแล้วให้มันเป็นจริงได้ ผมขอให้เวลามันหยุดอยู่ตรงนี้ หยุดอยู่เพียงแค่นี้ แค่ผมกับมัน

ผม ตื่นลืมตาขึ้นมา สิ่งแรกที่คิดได้คือเอ กลัวว่ามันจะหนีหายไปเหมือนคราวก่อน ผมขยับตัวมันยังนอนกอดผมอยู่ ผมมองหน้ามันตอนนอนหลับ ช่างดูเป็นสุขเสียเหลือเกิน ทำไมนะเอ ทำไมเราต้องเผชิญกับกำแพงขวางกั้นแบบนี้ด้วย ผมกรีดนิ้วบนใบหน้ามันอย่างแผ่วเบา อย่างทะนุถนอม ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผมจะรักมันได้มากมายถึงเพียงนี้

"ตื่น แล้วเหรอคะ"

มัน งัวเงียถาม ผมจูบลงที่เปลือกตาที่กำลังจะลืมขึ้น

"หิว ไหมเอ ค่ำแล้ว"

ผม ถามเพราะเหลือบไปดูนาฬิกาบอกเวลาเกือบหกโมงเย็นแล้ว เอพยักหน้าแล้วดึงผมลงไปกอดจูบ

"ต่อ อีกสักรอบไหมคะ น้องชายเค้าตื่นอีกแล้วอ่ะ"

"บ้า เหรอ นี่จะบ้าพลังไปไหน ไม่เอาแล้ว เจ็บแล้ว"

ผม ฟาดที่บ่ามันไปเบาๆ มันทำหน้าทะเล้นใส่แล้วจับมือผมไปจับน้องชายมัน

"ก็ อยู่กับตัวเองนี่คะ มันตื่นตัวตลอดอ่ะ"

"งั้น ก็อยู่ห่างๆกันสิ ฉันไม่ไหวหรอกนะ วันนึงหลายๆครั้งน่ะ"

"ไม่ เอา ไม่อยู่ห่าง แค่นี้ก็ใจจะขาดตายอยู่แล้ว ก็ได้ๆ เค้าไม่ทำแล้วก็ได้ กอดเฉยๆน้า"

มัน อ้อนแล้วกอดเอวผมไว้ ปากก็คลึงอยู่แถวท้ายทอย ผมยอมให้มันทำจนพอใจจึงลงมาทำกับข้าว คราวนี้เอออกไปรดน้ำต้นไม้ ภาพคืนวันเก่าๆที่เราอยู่ด้วยกัน ภาพที่ผมเอาไม้กวาดทางมะพร้าวฟาดหลังมันจนกลายเป็นแผลเป็นอยู่กลางหลังจนถึง เดี๋ยวนี้ยังแจ่มชัด คิดขึ้นมาก็สะท้อนใจ ทั้งดีใจเสียใจระคนกันไป ผมชำเลืองมองเออยู่ตลอดเวลา มีสิ่งใดที่จะให้ผมทำเพียงเพื่อเก็บภาพเหล่านี้ไว้ให้นานแสนนาน มองเห็นแม้ยามหลับตา ตื่นมาก็ยังไม่จางหายไป แผ่นหลังมันที่กำลังก้มๆเงยๆอยู่กับกอมะลิ ผมมีความสุขจังเลย แม้ความสุขนี้มันจะไม่ได้อยู่กับผมไปทุกวัน แต่ตอนนี้ผมอุ่นขึ้นมาในใจ จะให้เผชิญกับทุกข์เพียงใดผมก็ยอมเพียงเพื่อความทรงจำทั้งหลายเหล่านี้

พอ กินข้าวเสร็จผมก็ให้เอกลับบ้าน แม้มันจะไยอมกลับง่ายๆ แต่ก็พยายามอธิบายเหตุผล แม้ใจผมเองก็ไม่ได้อยากให้มันพ้นสายตาแม้เพียงวินาที แต่ความจำเป็นที่บีบบังคับ สิ่งที่จะตามมาจากนี้มันไม่ใช่เรื่องง่าย หรือจะอธิบายให้เข้าใจได้ ลำบากใจ ปวดร้าว แต่ผมยังมีทางอื่นอีกหรือ ใจจริงอยากจะคว้าแขนมันเข้ามากอดเหนี่ยวรั้งไว้ซุกอยู่กับอกนั้นไม่อยากให้ ไปไหน แต่ความจริงคือผมต้องกัดฟันบอกให้มันกลับบ้านไป

"เดี่ยว ก็เจอกันอยู่ดีล่ะเอ รีบกลับไปเถอะ เดี๋ยวแม่ก็ว่าเอา"

ผม พยายามปลอบประโลม ตอนแรกมันก็ไม่ยอมท่าเดียว ผมต้องเอาเหตุผลร้อยแปดมาอ้างมันถึงยอมอ่อนลง เรายืนสบตากันอยู่นานแสนนาน จับมือกันอยู่อย่างนั้นจนมืด พอมันหันหลังออกจากประตูใจผมก็หล่นวาบหายไป ราวกับมันได้เด็ดดวงใจผมกลับบ้านไปกับมันด้วย สายตามองแผ่นหลังมันจนเลือนลับตาไป เหมือนเอาเหล็กแหลมมากระทุ้งกลางใจ นี่ผมปล่อยมันไปอีกแล้วหรือ ผมยอมปล่อยมือมันให้หลุดไปอีกแล้ว คิดขึ้นมาก็น้ำตาซึม แต่อย่างน้อยก็ยังอิ่มใจว่าทุกอย่างที่มันทำลงไปเพราะมันมีใจรักผมอยู่เต็ม เปี่ยม แม้จะทุกข์ทรมานอีกสักเท่าใด ก็ขอให้มันยังมีใจคงอยู่อย่างนี้ต่อๆไป เพราะเมื่อใดที่ใจมันมีรัก มันก็ย่อมมีหวัง ผมเชื่ออย่างนี้

อาทิตย์ นี้ดูเหมือนทุกอย่างจะดูดีขึ้นหลังจากที่เอกลับบ้านไปแล้ว มันไม่หายไปเหมือนเคย มันโทรศัพท์หาทุกวัน ส่วนมากจะเป็นตอนสี่ทุ่มโดยแอบบออกมาโทรที่ตู้โทรศัพท์หน้าบ้าน แม้จะคุยกันไม่นานแต่อย่างน้อยเสียงของมันก็เป็นก็ล่อเลี้ยงหัวใจผมให้มี ชีวิตอยู่ต่อไปได้ในแต่ละวัน ผมรู้สึกดีขึ้นไม่เหม่อลอยมีชีวิตชีวาขึ้น ไม่เป็นร่างไร้วิญญาณเหมือนแต่ก่อน แม่เองก็ดูเป็นสุขใจมากขึ้น เพื่อนๆก็คลายห่วงลงบ้าง การงานก็กลับมาเป็นปกติเหมือนเคย มีคนบอกว่าแรงแห่งรักมันสามารถเคลื่อนภูเขาได้ทั้งลูก ผมหัวเราะเมื่อได้ยิน แต่ในทางเปรียบเปรยอุปมาอุปมัย ผมว่ามันทำได้มากกว่านั้น เพราะมันสามารถทำให้เราจมหายไปกับทุกข์แห่งรัก หรือทำให้เราล่องลอยอยู่บนวิมานสีหวานก็เพราะด้วยแรงแห่งรักนี่เอง

"ตัว เอง คิดถึงเค้าไหม"

เสียง แจ่มใสกรอกตามสายมา ผมกลิ้งอยู่บนเตียงเตรียมตัวนอนแต่ก็รอคอยอยู่

"คิด ถึงจ๊ะ"

"เค้า อยากไปหาตัวเองจังเลยอ่ะ อยากกอด "

"อด ทนเอานะเอ เดี๋ยวก้ได้กอดแล้ว"

"เมื่อ ไหร่อ่ะ เค้าไม่อยากรอยากกอดตอนนี้"

"แหม นะ อยากได้อะไรก็จะได้ทันตาเลยเหรอ ทนเอาหน่อยสิพ่อคุณ"

ผม เย้ามันอารมณ์ดี

"ก็ คนมันรักนี่นา รักอยู่เต็มอก นี่ตัวเอง น้องชายเค้ามันคิดถึงตัวเองอ่ะ ตอนนี้ก็ตื่นอยู่ สู้มือเชียว"

"บ้า เหรอ "

"อิ อิ โอ๊ยอยากจะกอด จะจูบให้ชื่นใจเลย"

"แล้ว นี่ไม่หลับไม่นอนเหรอจ๊ะ"

"เอ๊ย เหรียญจะหมดพอดี ตัวเอง เค้ารักตัวเองน้า รักตัวเองที่สุด"

มัน วางสายไปทิ้งไว้แต่รอยยิ้ม ผมยิ้มให้กับรูปที่ขึ้นหน้าโทรศัพท์เด็กชายหนุ่มหัวเกรียนหัวคิ้วซ้ายมีรอย แผลเป็นตัดความหนาของคิ้วให้ดูบางลง แต่รอยนั้นใช่จะทำให้เขาดูน่าเกลียดแต่กลับเพิ่มเสน่ห์ในใจเท่าทวีคูณ อีกคนที่อิงแอบแนบอกเขาอยู่นั้นดูเป็นสุขแม้จะไม่ยิ้มจนเห็นฟันแต่รอยยิ้ม มันเผยออกมาทางตาส่องประกายแห่งความสุขอย่างยากที่จะปิดบัง ผมรู้ดีว่าเขาสองคนมีความสุขมากแค่ไหน เพราะเขาคนนั้นก็คือผมเอง รูปถ่ายบนหน้าจอมือถือนี้เป็นขุมซึ่งแรงใจ มันนำพารอยยิ้มมาให้ตลอดเวลาที่หยิบเอามันขึ้นมาดู เป็นแสงนำทางใจเวลาที่มืดมน เป็นลมอุ่นในคืนที่เหน็บหนาว เพราะนี่คือรักที่ผมมีอยู่เต็มหัวใจ






"แม้รักนั้นดังแสงแรกฤดูหนาว ทอแสงพราวระยับอยู่ไม่รู้หาย



หากรักนั้นดังทิวาราตรีราย เปรียบดังสายฝนโปรยให้ฉ่ำใจ"
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2011 02:47:03 โดย eiky »

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
:L2: :L2: :L2: :L2:
Happy Birthday..Eiky
มีความสุขมากๆ นะ



ขอบคุณมากคร้าบบบบ เมื่อคืนเมาเหล้าญี่ปุ่น กินไปแก้วเดียว หัวปักพื้นเลย อิอิ สาดน้ำเผื่อด้วยนะคร้าบบบ

 :L2: :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
อ่านมาทันแล้วครับ  +1 ให้กัเรื่องราวที่น่าติดตาม


แล้วก้อแวะมาอวยพรให้ด้วยนะครับ


Happy Birth  Day   สุขสันต์วัน่กิดนะครับ..Eiky


ขอให้มีความสุขมาก ๆ นะ  คิด หวัง สิ่งใดขอให้สมปรารถนาทุกสิ่งทุกอย่างเทอญ




 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

อ่า ขอบคุณมากครับ แค่นี้ก็ปลื้มใจแล้ว


ติดตามอ่านด้วยนะคร้าบบบ

 :L2: :L2:


 :L2: :L2:

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
ส่งกำลังใจก่อน  :กอด1:  :กอด1:  :กอด1:

เดี๋ยวอีป้าแก่ๆ ค่อยไปอ่าน

สุขสันต์วันเกิดนะตะเอง... :L2:

คิดอะไรก็ขอให้สมปราถณา อย่าเจ็บ อย่าจน มีแต่คนรักมากๆ

ด้วยรักจากใจ อีป้าแก่ๆ แต่ไม่เหี่ยว  :pigha2:  :m20:  :laugh:  :jul3:




ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
อ่านแล้ว 3 ตอนรวด น้ำตาซึม บ่อน้ำตาจะแตกเอา


แม่ที่รักลูกมากเกินไป ทำร้ายลูกด้วยความรักนี่ เป็นแม่ซาดิสไหมนะ (อ.ปริศนา)



โย + เอ สู้ๆ กันต่อไปน้า อีป้าแ่ก่ๆ เอาใจช่วยเสมอคะ



รักคนแต่งมากมาย  :L1:
 
:pig4:

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
อ่านแล้ว 3 ตอนรวด น้ำตาซึม บ่อน้ำตาจะแตกเอา


แม่ที่รักลูกมากเกินไป ทำร้ายลูกด้วยความรักนี่ เป็นแม่ซาดิสไหมนะ (อ.ปริศนา)



โย + เอ สู้ๆ กันต่อไปน้า อีป้าแ่ก่ๆ เอาใจช่วยเสมอคะ



รักคนแต่งมากมาย  :L1:
 
:pig4:



ถูกใจไหมครับป้า อิอิ ผมปั่นแทบตามให้ทัน วันนี้ เหอๆๆ เพื่อนๆบอกผมใกล้บ้าไปทุกทีแล้ว น้าาาา

Seoul In Love

  • บุคคลทั่วไป


Happy นะคะ มีความสุขมากๆ ค่ะ  :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ •ผั๑`|nกุ้va’ด•

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-69


Happy Birthy Eiky~!!!~
 
มีความสุขมากๆในวันที่อากาศร้องแรง เช่นนี้นะคะ
 
ไปเล่นสงกรานต์ที่ไหน ขอให้ หนุ่มๆมาปะแป้ง ไม่หยุด หย่อน เอิ๊กๆ๐

ออฟไลน์ nidnoi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 558
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
 :b:

มีความสุขมากๆ นะคะ คุณ  Eiky

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
HBD...  Eiky !!!

มีความสุขมากๆนะคะ

แล้วก้อขอบคุณสำหรับ 3 ตอนรวดนี่ด้วย

เศร้าสะใจมากกกกกก

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-04-2010 22:21:31 โดย pattybluet »

ออฟไลน์ Vesi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +204/-3
มาช้าไปนิด happy birthday นะคร้าบ
แหะๆ เพิ่งกลับมาถึงห้องน่ะ
ขอให้ผ่านมรสุมไปได้ไวๆนะ

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
คู่นี้ เศร้า แอนด์ โศก เลยอะ  :monkeysad:

สุขสันต์วันเกิดนะคะ ขอให้โชคดีๆๆๆๆๆๆ  :mc4:

ออฟไลน์ naiin

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2421
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-9
มาอวยพรวันเกิดช้าไปนิดนึงไม่ว่ากันนะครับ   happy birthday นะคร้าบผม ขอให้มีแต่ความสุขไหลมาเทมาตลอดทุกวันเวลาอย่าได้ขาดสาย   :HBD3: :HBD3: :b: :HBD3: :HBD3:
ขอบคุณสำหรับสามตอนตามสัญญา แม้จะทำบ่อน้ำตาซึมมาตลอดสามตอนก็เหอะ :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
 โอ๊ย ซึ้งเลยอ่ะ น้ำตาไหล ขอบคุณทุกคนนะคร้าบบบ วันเกิดตัวเองไม่ไปไหนเลย ไม่อยากบอกกลัวโดนโห่ ว่าสวดมนต์ อิอิ



แค่ทุกคนอวยพรก็มีความสุขแล้วววววว



รักทุกคนคร้าบบบ เอ้อ นิยายเศร้าไปอย่าว่ากันน้า อิอิ คนเขียน เป็นแบบ ซาดิสต์ อิอิ

 :L2: :L2: :L2: :L2: :call: :call: :call: :call:

kanda53

  • บุคคลทั่วไป
 :a:  ขอให้น้อง Eiky มีความสุขสมหวังในทุกๆสิ่งที่ปรารถนานะคะ  :HBD1:

อ่านเรื่องนี้แล้วซึ้งมาก  รักทรหดจริงๆคู่นี้  :monkeysad:
แต่ก็แสดงให้เห็นว่า ความรักเป็นสิ่งที่สวยงามและ 
ความรักที่แท้จริงย่อมปรารถนาให้คนรักมีความสุขและพบแต่สิ่งดีๆในชีวิต   :กอด1:
หวังว่ารักของ โยกับเอ คงจะสุขสมหวัง  :call:
ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีๆให้อ่าน  และความขยันของ Eiky ด้วยค่ะ  o13  :bye2:

ออฟไลน์ SoN

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2965
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-15

Vicky

  • บุคคลทั่วไป
สนุกมากๆๆๆๆๆๆๆๆ พึ่งเริ่มอ่าน คนเขียนดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด