มาแล้วววววว ตอนนี้ ผมว่า หวานนะ
อิอิ คงชอบกันนะครับ
ตอน สามสิบสาม
"แล้วนี่มาทำอะไร"
ผมถาม
"ก็มาอยู่กับ ตัวเองไง วันสิ้นปีอยากจะเค้าท์ดาวน์กะแฟน"
"ไม่ออกไปเที่ยวล่ะ ไปกับเพื่อนๆ มาขลุกอยู่ทำไมที่นี่"
ผมยังพยายามผลักไสไล่ส่งมัน
"อ้าว มีแฟนก็ต้องอยู่กับแฟนสิ เพื่อนมันก็ไปของมัน เพื่อนเค้าเข้าใจ อิอิ วันนี้เค้ามีอะไรให้ตัวเองด้วยน้า แต่รอก่อน อุบไว้ก่อน"
มันพูดอย่างสบายอารมณ์
"พี่ ไม่อยากได้อะไรหรอก"
ผมคิดคำจะพูดต่อไม่ได้จึงเงียบไป
"ไม่อยากได้แต่เค้าจะให้อ่ะ เออ ตัวเองเดี๋ยวเค้าขึ้นไปนอนพักนะ ตัวเองยังไม่ต้องเข้าห้อง"
มันทำท่ามีลับลมคมใน
"นอนก็นอนไปสิ ฉันจะอ่านหนังสือเหมือนกัน ถ้าไม่อยากให้กวนก็มานอนข้างล่าง"
"อ่า คือเค้า อ่า เค้าจะแต่งห้องน่ะ"
มันเหมือนไม่อยากจะบอกแต่ก็ยอมพูด ออกมา
"แล้วทำไมต้องแอบทำ ห้องฉันนะเท่าที่เข้าใจ"
"ห้องของ เรา"
มันสวนกลับ ผมถลึงตาใส่ เพราะไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับมัน ไม่รู้เหมือนกันยิ่งพูดกันมากความผมเองที่เป็นฝ่ายใจเต้นแรงขึ้นทุกที แล้วเวลาใจเต้นแรงหน้าก็จะแดงเก็บอาการไม่ค่อยอยู่
"ตามใจ จะทำอะไรก็ทำ แต่บอกไว้ก่อน อย่าทำห้องฉันรกล่ะ"
"ค้าบบ ที่รัก"
มันลากเสียงล้อเลียน แล้วก็ขึ้นห้องไป ผมนั่งดูโทรทัศน์อยู่ข้างล่าง เอาหนังสือมาอ่านก็เริ่มง่วงจึงเผลอหลับไป ตื่นมาอีกทีก็เกือบค่ำแล้ว เดี๋ยวนี้เหมือนไปแบกอะไรมา เผลอหน่อยไม่ได้หลับท่าเดียว ผมออกไปนอกบ้านเห็นรองเท้าไอ้ตัวดียังวางคู่กันอยู่ ไม่อยากขึ้นไปห้องเลย ผมจึงเดินเข้าไปในครัวคิดว่าจะทำอะไรเป็นมื้อเย็นกินดี เห็นไก่ก็เบื่อ มีหมูก็เซ็ง เฮ้อ นี่ผมจะกินอะไรดี แต่ของกินเมื่อคืนก็ยังเหลืออยู่เอามาดัดแปลงดีกว่า ไก่อบก็เหลือเยอะ แต่แกงถ้าอุ่นอีกไอ้ตัวดีโวยวายแน่ ผมจึงทำแกงป่าไก่อบ กับไข่เจียว เก็บนั่นเก็บนี่จนค่ำ รู้สึกหิวจึงไปเรียกมันลงมากินข้าว มันโผล่หน้าออกมานอกห้อง ไม่ยอมเปิดประตูทั้งบาน
"ทำอะไรน่ะ"
ผมเริ่มสงสัย เพราะท่าทางมันมีพิรุธ
"ปล่าว เค้าแค่แต่งห้องอ่ะ เสร็จแล้ว ตัวเองค่อยดู"
"เออ จะกินไหมข้าว"
ที่จริงผมไม่ได้อยากรู้ มากมายขนาดนั้น อยากทำอะไรก็ทำไป แต่กลัวมันจะรื้อค้นอะไรในห้องน่ะสิ ยิ่งกวนๆประสาทอยู่ด้วย
"อร่อยจังตัวเอง เขาเรียกแกงอะไรอ่ะ"
มันชมแล้วตักแกงเข้าปาก
"แกงป่าประยุกต์"
"หือ ทำไมอ่ะ"
มันทำหน้าสงสัย
"นี่ อย่าถามมาก กินๆไปเถอะ อร่อยก็กิน"
"โห ดุเค้าอีกแล้วอ่า แต่อร่อยจริงๆนะ แฟนเค้าทำกับข้าวอร่อยที่สุดเลย"
ต้นประโยคมันพูดเสียงอ่อน แต่ก็ดีดเสียงขึ้นร่าเริงได้ตลอดเวลา จะว่าไปแล้วผมดุด่ามันสารพัด แต่มันก็ทำเป็นไม่สนใจ จะว่ามันไม่รู้สึกก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะอะไรมันถึงทนทำตัวร่าเริงอยู่เสมอ ผมแวบคิดขึ้นมา พอกินข้าวเสร็จผมก็เก็บข้าวของ มันอยู่ช่วยล้างจาน
"มาๆ เดี๋ยวเค้าล้างเอง เดี๋ยวนี้เค้าทำเป็นแล้ว"
ผมจึงได้แต่ยืนดูอยู่ ห่างๆ ท่าทางมันดูทะมัดทะแมง ผมแอบยิ้ม ดูไปมันก็น่ารักดีนะ
"ตัวเอง หยิบผ้าเช็ดจานให้หน่อยสิคะ"
ผมสะดุ้ง ไม่ได้นะโย เผลอใจแบบนี้ไม่ได้ จิตใต้สำนึกอีกส่วนค้าน ผมยื่นผ้าเช็ดจานให้มัน แล้วก็ปล่อยมันทำไป ปลีกตัวออกมาข้างนอกบ้าน ผมนั่งลงม้าหินอ่อน มองต้นไม้เหม่อไปไกลแสนไกล จุดตกของสายตาคือต้นไม้ แต่มันเหมือนผมมองออกไปไกลโพ้น ไม่มีจุดจบ ที่จริงพลโทรมาชวนไปเที่ยวสีลม แต่ผมไม่อยากไป อยากจะอยู่บ้าน นอนพักสมอง ส่วนลึกถ้าผมไปไอ้ตัวดีจะอยู่ยังไง มันอุตส่าห์ดั้นด้นมาหา แม้จะไม่ได้ร้องขอก็ตาม ผมสะดุ้งอีกครั้งเพราะมันเข้ามากอด
"บ้าเหรอ ที่นั่งมีเยอะแยะ มานั่งเบียดทำไม"
ผมดิ้นแต่มันยิ่งกอดแน่นขึ้น
"คิดถึงอ่ะ กอดหน่อย ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งคิดถึง นี่ตัวเองรู้ไหม เวลาที่ไม่เจอตัวเองน่ะ เค้าคิดถึงตัวเองมากนะกางเกงในที่ตัวเองซื้อให้เค้าใส่ทุกวันเลยน้า อิอิ ซักจนยุ่ยแล้ว"
"เวอร์"
มันเอาหน้าซุกตรงซอกคอเบียดตัวเข้ามา ราวกับจะผสานให้เป็นร่างเดียว ผมถอยจนจะตกจากม้านั่ง
"ฉันจะไปอาบน้ำ ปล่อย"
"เดี๋ยวดิ เค้ายังไม่หายคิดถึงเลย"
มันหอมแก้มกอดรัดผมแน่น นี่มันคิดถึงหรือมันหมั่นเขี้ยวกันแน่
"แล้วไหน ของจะให้"
ผมเปลี่ยนเรื่องเผื่อจะเปลี่ยนความสนใจมันบ้าง
"เดี๋ยวสิคะ สำหรับคนพิเศษต้องมีอะไรพิเศษอยู่แล้ว รอหน่อยน้า"
ผมจนปัญญาจะเบี่ยงเบนความสนใจมันแล้ว ปล่อยให้มันกอดรัดให้พอใจ แต่กว่ามันจะยอมคลายกอด ผมก็หน้าแดงตัวแดงไปหมด ผมผละออกมันตอนที่มันคลายมือ
"จะ ไปไหน"
มันพยายามจะคว้ามือไว้
"ไปอาบน้ำสิ เหนียวตัวจะตายอยู่แล้ว"
"เดี๋ยวสิคะ เดี๋ยวเค้าไปหยิบเสื้อผ้าให้ บอกแล้วไงอย่าเพิ่งเข้าห้อง"
"เอ๊ะ ตกลงทำอะไรกับห้องฉันเนี่ย"
ผมขึ้นเสียงเพราะชักหงุดหงิด
"เซอร์ไพซ์ไงคะ"
"เซอร์พงเซอร์ไพซ์อะไร ไม่สนใจแล้ว จะเข้าห้อง"
"อ่า นะนะ ตัวเอง ยอมเค้าหน่อยน้า ขอวันนี้วันเดียว เดี๋ยวเค้าหยิบเสื้อผ้าให้"
มันพูดจบก็วิ่งขึ้นไปบนห้องทันที ผมได้แต่ยืนหน้าบึ้งอยู่ อ้าปากจะด่าค้างไว้ มันวิ่งกลับลงมาพร้อมกางเกงขาสั้นกับเสื้อยืด มันกวาดครีมบนโต๊ะใส่ถุงกระดาษมาพร้อมสรรพ ตกลงนี่ผมโดนยึดห้องแล้วใช่ไหม ผมมองมันอย่างไม่พอใจ แต่ก็รับเสื้อผ้ากับถุงกระดาษมา ผมเข้าไปอาบน้ำในใจก็คิดว่าไอ้นี่มันคิดจะทำอะไรของมันนะ อยากรู้ก็อยากรู้ แต่ก็ต้องวางมาดเอาไว้ก่อน เดี๋ยวเสียฟอร์ม ผมอาบน้ำเสร็จมันก็ยืนรอหน้าห้องน้ำแล้ว มันอยู่ในชุดใหม่เหมือนกัน หัวยังเปียกๆอยู่ ใส่กางเกงเล่นบาสกับเสื้อกล้ามเข้าชุดกันเหมือนเคย
"อาบน้ำแล้ว เหรอ ถึงเปลี่ยนเสื้อ"
ผมถามมองสำรวจมันตั้งแต่หัวจรดเท้า
"อาบเสร็จแล้ว ก็ตอนตัวเองอาบน้ำเค้าก็ลงไปอาบข้างล่าง รีบแทบตาย แต่ดีหน่อยตัวเองอาบน้ำนาน อิอิ เลยเสร็จก่อน"
"ไอ้บ้า ตกลงจะทำอะไรนี่ แล้วฉันเข้าห้องได้หรือยัง"
"ยัง มันยังไม่ถึงเวลา รอก่อนนะคะ"
"โอ๊ย อะไรนักหนา ฉันจะนอน"
ผมโวยวาย
"จะรีบนอนไปไหนคะ เค้าจะมาเคาท์ดาวน์กับตัวเองนะเนี่ย"
"เชิญทำไปคนเดียวเถอะ ง่วง"
"ไม่ได้ เค้าขอตัวเองแล้วนะ แค่วันนี้วันเดียว นะนะ อยู่กับเค้าก่อน นะคะ"
มันอ้อน ผมขี้เกียจจะเถียงกับมัน เพราะรู้ว่าเถียงไปผมก็สู้มันไม่ได้ เพราะตะบะแตกก่อนทุกที ก็เล่นกวนโมโหขนาดนี้ ผมเดินกระฟัดกระเพียดลงไปข้างล่าง เปิดโทรทัศน์ดู ช่องต่างๆก็มีแต่คนพูดถึงวันสิ้นปี ใช่สินะ วันสิ้นปีเป็นวันที่ทุกคนมีความสุขอยู่กับคนที่รัก ผมเองในใจแล้วก็สุขแต่ทำไมผมถึงพยายามเอาความขมขื่นเข้ามาปะปน ละลายจนความสุขมลายหายไป แต่ก็อย่างว่านี่คือชีวิตจริง เราจะใช้ชีวิตให้มันเหมือนละครก็คงลำบาก ผมยังต้องอยู่กับแม่ดูแลแม่ไปอีกนาน อาจารย์ปริศนาผมก็ยังนับหน้าถือตาแกอยู่ สรุปมันเป็นไปไม่ได้หรอก มันเดินมานั่งข้างๆ แล้วกอดผมไว้ ตอนนี้ขี้เกียจจะปัดมันออกแล้ว อยากกอดก็กอดไป มันนัวเนียอยู่สักพักก็เดินไปหยิบขนมในตู้มากิน
"ป้อน เค้าหน่อยสิคะ"
มันเปิดกระป๋องมันฝรั่งทอดแล้วยื่นกระป๋องมาให้ผม
"ไม่มีมือเหรอ จะดูทีวี"
ผมทำท่าไม่สนใจ
"อ่า นะนะ ป้อนเค้าหน่อย"
มันไม่ยอมแพ้เอาหน้ามาไซร้ตรงซอกคอ ขามันก็หนีบเอวผมไว้
"อ่ะ"
"โอ๊ย ตัวเองอ่า"
ผมหยิบมันฝรั่งทอดมาเยอะพอสมควรยัดเข้าปากมันทั้งหมด แม้จะเข้าไม่หมดผมก็ดันมันเข้าไป มันพูดเสียงอู้อี้ สำลักออกมา ผมเห็นแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ ดีสม
"เวลาแกล้งเค้าแล้วตัวเองมีความ สุขเหรอ หัวเราะใหญ่เลย"
มันพูดหลังจากที่บ้วนขนมทิ้ง มันยิ้มมองหน้าผม
"แบบนี้ต้องเอาคืน"
มันกัดฟันพูดแล้วโถมตัวมาทับผมจากนั่งผมก็นอนลงบนโซฟาทันที มันทับผมทั้งตัว แล้วเอามือจี้เอว ผมหัวเราะจนน้ำตาไหล
"หยุด เอ ไม่เอา"
ผมร้องดิ้นไปมา มันยิ่งได้ใจ ผมรู้สึกเหนื่อยหอบ หน้าร้อน น้ำตาไหล มันยิ้มอย่างพอใจจ้องหน้าผมอยู่นาน ลมหายใจมันรดหน้าผม เอาอีกแล้วใจเต้นแรงอีกแล้ว จมูกมันชนกับปลายจมูกผม มันแนบริมฝีปากลงทาบปากผมทันที ใจผมสั่นระริกหลับตา ริมฝีปากมันร้อนปลุกใจให้พองโต มันแหย่ลิ้นเข้ามาในปากผมเผลอตัวเผยอปากรับ รสจุมพิศที่หวานฉ่ำดูดดื่มเกินจะต้านทานไหว ไม่อาจจะปฎิเสธได้ว่ามันเป็นความพึงใจของผมด้วยเหมือนกัน มันผงะหน้าขึ้นผมยังคงหลับตาพริ้ม ผมลืมตาขึ้นมันจ้องหน้าผมแล้วยิ้ม รู้สึกอายขึ้นมา
"ไม่เอาละ เค้าไปนอนดีกว่า ง่วงแล้ว"
มันพูด เสร็จก็ลุกเดินขึ้นข้างบนบ้านไปเลย ผมนอนนิ่งท่าเดิม ใจผมลอยละลิ่วไปไกล เมื่อครู่ผมรู้สึกดีมากเป็นรสจูบที่ผมปรารถนา บ้าไปแล้ว โย แกบ้าไปแล้ว ผมพยายามสลัดความคิดในทางเสื่อมออกไป เดินออกไปนอกบ้าน อากาศวันนี้มันช่างเป็นใจ ลมหนาวแม้จะรู้สึกได้ไม่มาก แต่ก็รู้สึกว่านี่มันคือฤดูที่พิเศษ วันที่พิเศษ ผมควรจะทำยังไงดี นี่ถ้าให้อยู่กับมันสองคน ผมกลัวใจตัวเองเหลือเกินว่าผมจะต้านมันไม่ไหว กลัวว่าผมจะปล่อยใจไปอีกรอบ ถ้าเกิดขึ้นอีกคราวนี้คงไม่ใช่มันหรอกที่จะผลักไม่ออก ผมเองนั่นล่ะที่จะถลำลึกไปกว่าเดิม ตอนนี้ผมสับสนเหลือเกิน นั่งมองความมืดนอกบ้านจนตาเริ่มชินกับความมืดเห็นทุกอย่างรางเลือน ทำไมผมไม่เจอทางสว่างแบบนี้บ้างนะ ยิ่งคิดยิ่งถลำลึกมืดมิดไม่มีทางไป ผมนั่งอยู่นานจนมั่นใจว่ามันน่าจะหลับแล้ว ผมจึงปิดบ้านแล้วขึ้นไปข้างบน ผมคงต้องนอนห้องแม่ ผมเงี่ยหูฟังผ่านประตู ทำไมต้องทำแบบนี้ ผมไม่เข้าใจตัวเอง แต่ถ้าไม่ทำผมคงนอนไม่หลับ ไม่มีเสียงอันใดเล็ดลอดออกมา มันคงหลับแล้วจริงๆ มือผมกำอยู่ที่ลูกบิดประตู ผมยืนทะเลาะกันกับตัวเอง ว่าจะเปิดเข้าไปหรือไปนอนเลย สรุปผมค่อยๆเปิดประตูเข้าไปในห้องของตัวเอง ย่องเบาเหมือนผมมาขโมยอะไรในห้องของตัวเอง ความมืดทำให้ผมยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่ขยับเพราะกลัวจะไปชนอะไรเกิดเสียงดัง ขึ้น แสงไฟสว่าง พรึ่บ ขึ้น ผมยืนนิ่งตาค้าง
"When I first saw you I already knew
There was something inside of you
Something I thought that I would never find
Angel of Mine"
เสียงกีตาร์โปร่งดังขึ้น เสียงทุ้มไม่มีความไพเราะเลย แต่มันกลับเคล้ากันได้ดีกับเสียงกีตาร์ลอยมาประทะโสตประสาท ในห้องผมเต็มไปด้วยไปแสงสีระยิระยับเต็มห้องไปหมด ผมยืนนิ่งเหมือนโดนมนต์สะกด มันยิ้มให้ผม
"I look at you looking at me
Now I know why they say the best things are free
Gonna love you boy you are so fine
Angel of Mine
How you changed my world you'll never know
I'm here for now, you helped me grow
You came into my life
Sent from above
When I lost the hope
You show my love
I'm checkin for you
Boy your right on time
Angel of Mine
Nothing means more to me then what we share
No one in this world can ever compare
Last night the way you moved is still on my mind
Angel of Mine
What you mean to me you'll never know
Deep inside I need to show
I never knew I could feel each moment
As if they were new
Every breath that I take
The love that we make
I only share it with you
You, You, You, You
When I first saw you I already knew
There was something inside of you
Something I thought that I would never find
Angel of Mine
How you changed my world you'll never know
I'm here for now you helped me grow
I look at you looking at me
Now I know why they say the best things are free
Checkin' for you boy your right on time
Angel of Mine"
เสียงร้องจบไปแล้ว แต่เสียงดีดกีตาร์ยังคงกังวานอยู่ ผมลอยอยู่บนวิมานอากาศของตัวเอง รู้สึกตัวว่ามีน้ำตาไหลออกมาจากสองตา ตื้นตันใจเหลือเกิน ผมพูดไม่ออก นี่มันทำเพื่อผมขนาดนี้เลยหรือ มันเดินเข้ามาหากอดผมแล้วเอื้อมมือไปลงกลอนประตู
"เค้ารักตัวเองมาก นะ"
เสียงกระซิบดังอยู่ข้างหู ผมเพิ่งรู้ตัว ผมเองก็ไหวหวั่นแล้ว ผมต้านไม่ไหวแล้ว ผมกอดตอบน้ำตาไหลออกมา ไม่รู้ว่าดีใจหรือเสียใจ แต่รู้ว่าผมรู้สึกมีความสุขที่สุด หัวใจพองคับอกจนแทบจะระเบิดออกมา ผมไม่เคยรู้สึกอย่างนี้ แม้แต่กับพี่ตั้มเอง ผมไม่เคยรู้สึกว่าอายหรือตื่นเต้นตลอดเวลาเมื่ออยู่ใกล้เหมือนอยู่กับมันเลย นี่ผมรักมันแล้วหรือ