Boy's Story ให้รักนำทางใจ ( พิเศษ ) ๒๔ มกราคม ๒๕๕๕ หน้า ๓๔
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ชอบเรื่องนี้หรือเปล่า

เฉยๆๆ
18 (5.9%)
ชอบ
280 (92.1%)
ไม่ชอบ
6 (2%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 181

ผู้เขียน หัวข้อ: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ( พิเศษ ) ๒๔ มกราคม ๒๕๕๕ หน้า ๓๔  (อ่าน 312687 ครั้ง)

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
อ่านถึงตอนท้าย
อีป้าเครียดคะ

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
อ่านถึงตอนท้าย
อีป้าเครียดคะ

อย่าเพิ่งเครียดนะครับป้า ตอนหน้าเตรียมตัวหวานได้เลย   :กอด1: :L2: :L1:อิอิ

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
อ่านทันแล้วจ้า  :mc4: สนุกมากกกกก เป็นกำลังใจให้คนเขียนด้วยค่า

เข้าใจความสับสน และกดดันภายในใจของโยนะ
ถ้าแม่ของเอรู้เรื่อง อะไรจะเกิดขึ้น  o22


ปล. รออ่านตอนหวานๆนะจ๊ะ  :z1:

ออฟไลน์ Vesi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +204/-3
แอบเครียด
คุณแม่น้องเอจะโอเครึเปล่าเนี่ย

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
อืมๆๆ โยเครียดรับปีใหม่เลย ไม่ดีๆๆ
แต่ก้องี้แหละ ถือว่าเป็นบททดสอบแล้วกัน
รอตอนหวานๆค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ

ออฟไลน์ naiin

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2421
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-9
ทำใจให้สุขมั่ง มัวแต่กลุ้มความสุขวิ่งหนีหมด ความสุขมันไปง่ายมาง่ายไม่ได้อยู่กับใครนานๆหรอกนะ พยายามเก็บรักไว้เป็นกำลังใจยามอ่อนแอ :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
ทำใจให้สุขมั่ง มัวแต่กลุ้มความสุขวิ่งหนีหมด ความสุขมันไปง่ายมาง่ายไม่ได้อยู่กับใครนานๆหรอกนะ พยายามเก็บรักไว้เป็นกำลังใจยามอ่อนแอ :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ซึ้งใจจัง ขอบคุณนะคร้าบบ ที่คอยอ่านทุกตอนเลย  :กอด1: :กอด1: :L2: :L2:

salawinyeen

  • บุคคลทั่วไป
 :sad4:  ตอนนี่เศร้าจังครับ
 
แต่ผมชอบนะครับ

BY  YEEN YO AA

kanda53

  • บุคคลทั่วไป
ยังไม่ได้อ่าน..
แต่ขอ   o13  ให้กับความขยันของคนแต่ง
ดูจากโพสคงต้องสนุกน่าติดตามแน่ๆ  :L2:

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:


            มาแล้วววววว ตอนนี้ ผมว่า หวานนะ


อิอิ คงชอบกันนะครับ


                          


                                 ตอน สามสิบสาม



"แล้วนี่มาทำอะไร"

ผมถาม

"ก็มาอยู่กับ ตัวเองไง วันสิ้นปีอยากจะเค้าท์ดาวน์กะแฟน"

"ไม่ออกไปเที่ยวล่ะ ไปกับเพื่อนๆ มาขลุกอยู่ทำไมที่นี่"

ผมยังพยายามผลักไสไล่ส่งมัน

"อ้าว มีแฟนก็ต้องอยู่กับแฟนสิ เพื่อนมันก็ไปของมัน เพื่อนเค้าเข้าใจ อิอิ วันนี้เค้ามีอะไรให้ตัวเองด้วยน้า แต่รอก่อน อุบไว้ก่อน"

มันพูดอย่างสบายอารมณ์

"พี่ ไม่อยากได้อะไรหรอก"

ผมคิดคำจะพูดต่อไม่ได้จึงเงียบไป

"ไม่อยากได้แต่เค้าจะให้อ่ะ เออ ตัวเองเดี๋ยวเค้าขึ้นไปนอนพักนะ ตัวเองยังไม่ต้องเข้าห้อง"

มันทำท่ามีลับลมคมใน

"นอนก็นอนไปสิ ฉันจะอ่านหนังสือเหมือนกัน ถ้าไม่อยากให้กวนก็มานอนข้างล่าง"

"อ่า คือเค้า อ่า เค้าจะแต่งห้องน่ะ"

มันเหมือนไม่อยากจะบอกแต่ก็ยอมพูด ออกมา

"แล้วทำไมต้องแอบทำ ห้องฉันนะเท่าที่เข้าใจ"

"ห้องของ เรา"

มันสวนกลับ ผมถลึงตาใส่ เพราะไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับมัน ไม่รู้เหมือนกันยิ่งพูดกันมากความผมเองที่เป็นฝ่ายใจเต้นแรงขึ้นทุกที แล้วเวลาใจเต้นแรงหน้าก็จะแดงเก็บอาการไม่ค่อยอยู่

"ตามใจ จะทำอะไรก็ทำ แต่บอกไว้ก่อน อย่าทำห้องฉันรกล่ะ"

"ค้าบบ ที่รัก"

มันลากเสียงล้อเลียน แล้วก็ขึ้นห้องไป ผมนั่งดูโทรทัศน์อยู่ข้างล่าง เอาหนังสือมาอ่านก็เริ่มง่วงจึงเผลอหลับไป ตื่นมาอีกทีก็เกือบค่ำแล้ว เดี๋ยวนี้เหมือนไปแบกอะไรมา เผลอหน่อยไม่ได้หลับท่าเดียว ผมออกไปนอกบ้านเห็นรองเท้าไอ้ตัวดียังวางคู่กันอยู่ ไม่อยากขึ้นไปห้องเลย ผมจึงเดินเข้าไปในครัวคิดว่าจะทำอะไรเป็นมื้อเย็นกินดี เห็นไก่ก็เบื่อ มีหมูก็เซ็ง เฮ้อ นี่ผมจะกินอะไรดี แต่ของกินเมื่อคืนก็ยังเหลืออยู่เอามาดัดแปลงดีกว่า ไก่อบก็เหลือเยอะ แต่แกงถ้าอุ่นอีกไอ้ตัวดีโวยวายแน่ ผมจึงทำแกงป่าไก่อบ กับไข่เจียว เก็บนั่นเก็บนี่จนค่ำ รู้สึกหิวจึงไปเรียกมันลงมากินข้าว มันโผล่หน้าออกมานอกห้อง ไม่ยอมเปิดประตูทั้งบาน

"ทำอะไรน่ะ"

ผมเริ่มสงสัย เพราะท่าทางมันมีพิรุธ

"ปล่าว เค้าแค่แต่งห้องอ่ะ เสร็จแล้ว ตัวเองค่อยดู"

"เออ จะกินไหมข้าว"

ที่จริงผมไม่ได้อยากรู้ มากมายขนาดนั้น อยากทำอะไรก็ทำไป แต่กลัวมันจะรื้อค้นอะไรในห้องน่ะสิ ยิ่งกวนๆประสาทอยู่ด้วย

"อร่อยจังตัวเอง เขาเรียกแกงอะไรอ่ะ"

มันชมแล้วตักแกงเข้าปาก

"แกงป่าประยุกต์"

"หือ ทำไมอ่ะ"

มันทำหน้าสงสัย

"นี่ อย่าถามมาก กินๆไปเถอะ อร่อยก็กิน"

"โห ดุเค้าอีกแล้วอ่า แต่อร่อยจริงๆนะ แฟนเค้าทำกับข้าวอร่อยที่สุดเลย"

ต้นประโยคมันพูดเสียงอ่อน แต่ก็ดีดเสียงขึ้นร่าเริงได้ตลอดเวลา จะว่าไปแล้วผมดุด่ามันสารพัด แต่มันก็ทำเป็นไม่สนใจ จะว่ามันไม่รู้สึกก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะอะไรมันถึงทนทำตัวร่าเริงอยู่เสมอ ผมแวบคิดขึ้นมา พอกินข้าวเสร็จผมก็เก็บข้าวของ มันอยู่ช่วยล้างจาน

"มาๆ เดี๋ยวเค้าล้างเอง เดี๋ยวนี้เค้าทำเป็นแล้ว"

ผมจึงได้แต่ยืนดูอยู่ ห่างๆ ท่าทางมันดูทะมัดทะแมง ผมแอบยิ้ม ดูไปมันก็น่ารักดีนะ

"ตัวเอง หยิบผ้าเช็ดจานให้หน่อยสิคะ"

ผมสะดุ้ง ไม่ได้นะโย เผลอใจแบบนี้ไม่ได้ จิตใต้สำนึกอีกส่วนค้าน ผมยื่นผ้าเช็ดจานให้มัน แล้วก็ปล่อยมันทำไป ปลีกตัวออกมาข้างนอกบ้าน ผมนั่งลงม้าหินอ่อน มองต้นไม้เหม่อไปไกลแสนไกล จุดตกของสายตาคือต้นไม้ แต่มันเหมือนผมมองออกไปไกลโพ้น ไม่มีจุดจบ ที่จริงพลโทรมาชวนไปเที่ยวสีลม แต่ผมไม่อยากไป อยากจะอยู่บ้าน นอนพักสมอง ส่วนลึกถ้าผมไปไอ้ตัวดีจะอยู่ยังไง มันอุตส่าห์ดั้นด้นมาหา แม้จะไม่ได้ร้องขอก็ตาม ผมสะดุ้งอีกครั้งเพราะมันเข้ามากอด

"บ้าเหรอ ที่นั่งมีเยอะแยะ มานั่งเบียดทำไม"

ผมดิ้นแต่มันยิ่งกอดแน่นขึ้น

"คิดถึงอ่ะ กอดหน่อย ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งคิดถึง นี่ตัวเองรู้ไหม เวลาที่ไม่เจอตัวเองน่ะ เค้าคิดถึงตัวเองมากนะกางเกงในที่ตัวเองซื้อให้เค้าใส่ทุกวันเลยน้า อิอิ ซักจนยุ่ยแล้ว"

"เวอร์"

มันเอาหน้าซุกตรงซอกคอเบียดตัวเข้ามา ราวกับจะผสานให้เป็นร่างเดียว ผมถอยจนจะตกจากม้านั่ง

"ฉันจะไปอาบน้ำ ปล่อย"

"เดี๋ยวดิ เค้ายังไม่หายคิดถึงเลย"

มันหอมแก้มกอดรัดผมแน่น นี่มันคิดถึงหรือมันหมั่นเขี้ยวกันแน่

"แล้วไหน ของจะให้"

ผมเปลี่ยนเรื่องเผื่อจะเปลี่ยนความสนใจมันบ้าง

"เดี๋ยวสิคะ สำหรับคนพิเศษต้องมีอะไรพิเศษอยู่แล้ว รอหน่อยน้า"

ผมจนปัญญาจะเบี่ยงเบนความสนใจมันแล้ว ปล่อยให้มันกอดรัดให้พอใจ แต่กว่ามันจะยอมคลายกอด ผมก็หน้าแดงตัวแดงไปหมด ผมผละออกมันตอนที่มันคลายมือ

"จะ ไปไหน"

มันพยายามจะคว้ามือไว้

"ไปอาบน้ำสิ เหนียวตัวจะตายอยู่แล้ว"

"เดี๋ยวสิคะ เดี๋ยวเค้าไปหยิบเสื้อผ้าให้ บอกแล้วไงอย่าเพิ่งเข้าห้อง"

"เอ๊ะ ตกลงทำอะไรกับห้องฉันเนี่ย"

ผมขึ้นเสียงเพราะชักหงุดหงิด

"เซอร์ไพซ์ไงคะ"

"เซอร์พงเซอร์ไพซ์อะไร ไม่สนใจแล้ว จะเข้าห้อง"

"อ่า นะนะ ตัวเอง ยอมเค้าหน่อยน้า ขอวันนี้วันเดียว เดี๋ยวเค้าหยิบเสื้อผ้าให้"

มันพูดจบก็วิ่งขึ้นไปบนห้องทันที ผมได้แต่ยืนหน้าบึ้งอยู่ อ้าปากจะด่าค้างไว้ มันวิ่งกลับลงมาพร้อมกางเกงขาสั้นกับเสื้อยืด มันกวาดครีมบนโต๊ะใส่ถุงกระดาษมาพร้อมสรรพ ตกลงนี่ผมโดนยึดห้องแล้วใช่ไหม ผมมองมันอย่างไม่พอใจ แต่ก็รับเสื้อผ้ากับถุงกระดาษมา ผมเข้าไปอาบน้ำในใจก็คิดว่าไอ้นี่มันคิดจะทำอะไรของมันนะ อยากรู้ก็อยากรู้ แต่ก็ต้องวางมาดเอาไว้ก่อน เดี๋ยวเสียฟอร์ม ผมอาบน้ำเสร็จมันก็ยืนรอหน้าห้องน้ำแล้ว มันอยู่ในชุดใหม่เหมือนกัน หัวยังเปียกๆอยู่ ใส่กางเกงเล่นบาสกับเสื้อกล้ามเข้าชุดกันเหมือนเคย

"อาบน้ำแล้ว เหรอ ถึงเปลี่ยนเสื้อ"

ผมถามมองสำรวจมันตั้งแต่หัวจรดเท้า

"อาบเสร็จแล้ว ก็ตอนตัวเองอาบน้ำเค้าก็ลงไปอาบข้างล่าง รีบแทบตาย แต่ดีหน่อยตัวเองอาบน้ำนาน อิอิ เลยเสร็จก่อน"

"ไอ้บ้า ตกลงจะทำอะไรนี่ แล้วฉันเข้าห้องได้หรือยัง"

"ยัง มันยังไม่ถึงเวลา รอก่อนนะคะ"

"โอ๊ย อะไรนักหนา ฉันจะนอน"

ผมโวยวาย

"จะรีบนอนไปไหนคะ เค้าจะมาเคาท์ดาวน์กับตัวเองนะเนี่ย"

"เชิญทำไปคนเดียวเถอะ ง่วง"

"ไม่ได้ เค้าขอตัวเองแล้วนะ แค่วันนี้วันเดียว นะนะ อยู่กับเค้าก่อน นะคะ"
มันอ้อน ผมขี้เกียจจะเถียงกับมัน เพราะรู้ว่าเถียงไปผมก็สู้มันไม่ได้ เพราะตะบะแตกก่อนทุกที ก็เล่นกวนโมโหขนาดนี้ ผมเดินกระฟัดกระเพียดลงไปข้างล่าง เปิดโทรทัศน์ดู ช่องต่างๆก็มีแต่คนพูดถึงวันสิ้นปี ใช่สินะ วันสิ้นปีเป็นวันที่ทุกคนมีความสุขอยู่กับคนที่รัก ผมเองในใจแล้วก็สุขแต่ทำไมผมถึงพยายามเอาความขมขื่นเข้ามาปะปน ละลายจนความสุขมลายหายไป แต่ก็อย่างว่านี่คือชีวิตจริง เราจะใช้ชีวิตให้มันเหมือนละครก็คงลำบาก ผมยังต้องอยู่กับแม่ดูแลแม่ไปอีกนาน อาจารย์ปริศนาผมก็ยังนับหน้าถือตาแกอยู่ สรุปมันเป็นไปไม่ได้หรอก มันเดินมานั่งข้างๆ แล้วกอดผมไว้ ตอนนี้ขี้เกียจจะปัดมันออกแล้ว อยากกอดก็กอดไป มันนัวเนียอยู่สักพักก็เดินไปหยิบขนมในตู้มากิน

"ป้อน เค้าหน่อยสิคะ"

มันเปิดกระป๋องมันฝรั่งทอดแล้วยื่นกระป๋องมาให้ผม

"ไม่มีมือเหรอ จะดูทีวี"

ผมทำท่าไม่สนใจ

"อ่า นะนะ ป้อนเค้าหน่อย"

มันไม่ยอมแพ้เอาหน้ามาไซร้ตรงซอกคอ ขามันก็หนีบเอวผมไว้

"อ่ะ"

"โอ๊ย ตัวเองอ่า"

ผมหยิบมันฝรั่งทอดมาเยอะพอสมควรยัดเข้าปากมันทั้งหมด แม้จะเข้าไม่หมดผมก็ดันมันเข้าไป มันพูดเสียงอู้อี้ สำลักออกมา ผมเห็นแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ ดีสม

"เวลาแกล้งเค้าแล้วตัวเองมีความ สุขเหรอ หัวเราะใหญ่เลย"

มันพูดหลังจากที่บ้วนขนมทิ้ง มันยิ้มมองหน้าผม

"แบบนี้ต้องเอาคืน"

มันกัดฟันพูดแล้วโถมตัวมาทับผมจากนั่งผมก็นอนลงบนโซฟาทันที มันทับผมทั้งตัว แล้วเอามือจี้เอว ผมหัวเราะจนน้ำตาไหล

"หยุด เอ ไม่เอา"

ผมร้องดิ้นไปมา มันยิ่งได้ใจ ผมรู้สึกเหนื่อยหอบ หน้าร้อน น้ำตาไหล มันยิ้มอย่างพอใจจ้องหน้าผมอยู่นาน ลมหายใจมันรดหน้าผม เอาอีกแล้วใจเต้นแรงอีกแล้ว จมูกมันชนกับปลายจมูกผม มันแนบริมฝีปากลงทาบปากผมทันที ใจผมสั่นระริกหลับตา ริมฝีปากมันร้อนปลุกใจให้พองโต มันแหย่ลิ้นเข้ามาในปากผมเผลอตัวเผยอปากรับ รสจุมพิศที่หวานฉ่ำดูดดื่มเกินจะต้านทานไหว ไม่อาจจะปฎิเสธได้ว่ามันเป็นความพึงใจของผมด้วยเหมือนกัน มันผงะหน้าขึ้นผมยังคงหลับตาพริ้ม ผมลืมตาขึ้นมันจ้องหน้าผมแล้วยิ้ม รู้สึกอายขึ้นมา

"ไม่เอาละ เค้าไปนอนดีกว่า ง่วงแล้ว"

มันพูด เสร็จก็ลุกเดินขึ้นข้างบนบ้านไปเลย ผมนอนนิ่งท่าเดิม ใจผมลอยละลิ่วไปไกล เมื่อครู่ผมรู้สึกดีมากเป็นรสจูบที่ผมปรารถนา บ้าไปแล้ว โย แกบ้าไปแล้ว ผมพยายามสลัดความคิดในทางเสื่อมออกไป เดินออกไปนอกบ้าน อากาศวันนี้มันช่างเป็นใจ ลมหนาวแม้จะรู้สึกได้ไม่มาก แต่ก็รู้สึกว่านี่มันคือฤดูที่พิเศษ วันที่พิเศษ ผมควรจะทำยังไงดี นี่ถ้าให้อยู่กับมันสองคน ผมกลัวใจตัวเองเหลือเกินว่าผมจะต้านมันไม่ไหว กลัวว่าผมจะปล่อยใจไปอีกรอบ ถ้าเกิดขึ้นอีกคราวนี้คงไม่ใช่มันหรอกที่จะผลักไม่ออก ผมเองนั่นล่ะที่จะถลำลึกไปกว่าเดิม ตอนนี้ผมสับสนเหลือเกิน นั่งมองความมืดนอกบ้านจนตาเริ่มชินกับความมืดเห็นทุกอย่างรางเลือน ทำไมผมไม่เจอทางสว่างแบบนี้บ้างนะ ยิ่งคิดยิ่งถลำลึกมืดมิดไม่มีทางไป ผมนั่งอยู่นานจนมั่นใจว่ามันน่าจะหลับแล้ว ผมจึงปิดบ้านแล้วขึ้นไปข้างบน ผมคงต้องนอนห้องแม่ ผมเงี่ยหูฟังผ่านประตู ทำไมต้องทำแบบนี้ ผมไม่เข้าใจตัวเอง แต่ถ้าไม่ทำผมคงนอนไม่หลับ ไม่มีเสียงอันใดเล็ดลอดออกมา มันคงหลับแล้วจริงๆ มือผมกำอยู่ที่ลูกบิดประตู ผมยืนทะเลาะกันกับตัวเอง ว่าจะเปิดเข้าไปหรือไปนอนเลย สรุปผมค่อยๆเปิดประตูเข้าไปในห้องของตัวเอง ย่องเบาเหมือนผมมาขโมยอะไรในห้องของตัวเอง ความมืดทำให้ผมยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่ขยับเพราะกลัวจะไปชนอะไรเกิดเสียงดัง ขึ้น แสงไฟสว่าง พรึ่บ ขึ้น ผมยืนนิ่งตาค้าง


"When I first saw you I already knew
There was something inside of you
Something I thought that I would never find
Angel of Mine"

เสียงกีตาร์โปร่งดังขึ้น เสียงทุ้มไม่มีความไพเราะเลย แต่มันกลับเคล้ากันได้ดีกับเสียงกีตาร์ลอยมาประทะโสตประสาท ในห้องผมเต็มไปด้วยไปแสงสีระยิระยับเต็มห้องไปหมด ผมยืนนิ่งเหมือนโดนมนต์สะกด มันยิ้มให้ผม

"I look at you looking at me
Now I know why they say the best things are free
Gonna love you boy you are so fine
Angel of Mine

How you changed my world you'll never know
I'm here for now, you helped me grow

You came into my life
Sent from above
When I lost the hope
You show my love
I'm checkin for you
Boy your right on time
Angel of Mine

Nothing means more to me then what we share
No one in this world can ever compare
Last night the way you moved is still on my mind
Angel of Mine

What you mean to me you'll never know
Deep inside I need to show

I never knew I could feel each moment
As if they were new
Every breath that I take
The love that we make
I only share it with you
You, You, You, You

When I first saw you I already knew
There was something inside of you
Something I thought that I would never find
Angel of Mine

How you changed my world you'll never know
I'm here for now you helped me grow
I look at you looking at me
Now I know why they say the best things are free
Checkin' for you boy your right on time
Angel of Mine"
เสียงร้องจบไปแล้ว แต่เสียงดีดกีตาร์ยังคงกังวานอยู่ ผมลอยอยู่บนวิมานอากาศของตัวเอง รู้สึกตัวว่ามีน้ำตาไหลออกมาจากสองตา ตื้นตันใจเหลือเกิน ผมพูดไม่ออก นี่มันทำเพื่อผมขนาดนี้เลยหรือ มันเดินเข้ามาหากอดผมแล้วเอื้อมมือไปลงกลอนประตู

"เค้ารักตัวเองมาก นะ"

เสียงกระซิบดังอยู่ข้างหู ผมเพิ่งรู้ตัว ผมเองก็ไหวหวั่นแล้ว ผมต้านไม่ไหวแล้ว ผมกอดตอบน้ำตาไหลออกมา ไม่รู้ว่าดีใจหรือเสียใจ แต่รู้ว่าผมรู้สึกมีความสุขที่สุด หัวใจพองคับอกจนแทบจะระเบิดออกมา ผมไม่เคยรู้สึกอย่างนี้ แม้แต่กับพี่ตั้มเอง ผมไม่เคยรู้สึกว่าอายหรือตื่นเต้นตลอดเวลาเมื่ออยู่ใกล้เหมือนอยู่กับมันเลย นี่ผมรักมันแล้วหรือ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2011 02:34:29 โดย eiky »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
ค้างงงงงง  :serius2:
ทำได้ไง writer   :z13:

kenshinkenchu

  • บุคคลทั่วไป
อ๊ายยยย........
อิ่มอกอิ่มใจขออย่างนี้ทีนึง  :-[

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 33 Apr 3, 2010
«ตอบ #252 เมื่อ03-04-2010 17:05:51 »

ป้าว่า ห้าก็เครียดดยู่ดี มันไม่จบตอนอะ อยากรู้ต่อจากนั้น... 55555555 :pig4:

ออฟไลน์ naiin

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2421
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-9
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 33 Apr 3, 2010
«ตอบ #253 เมื่อ03-04-2010 19:41:56 »

นี่ผมรักมันแล้วหรือ

ความรู้สึกช้ามากไปป่าว หัวใจวิ่งไปรักน้องมันแล้ว ช่างไม่รู้ใจตัวเองเล้ยคนเรา

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 33 Apr 3, 2010
«ตอบ #254 เมื่อ04-04-2010 00:22:38 »

น้องเอน่ารัก นับถือความพยายามเลย o13
โยกล้ายอมรับกับตัวเองซะที ดีใจกับน้องเอด้วยเพราะชักจะเริ่มๆสงสารเอเหมือนกัน
หวานกันนานๆน๊า

เป็นกำลังใจให้ค่ะ

salawinyeen

  • บุคคลทั่วไป
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 33 Apr 3, 2010
«ตอบ #255 เมื่อ04-04-2010 00:54:04 »

 :impress2:       "เค้ารักตัวเองมาก นะ"      ชอบประโยคนี้มากที่สุดครับ


ชอบครับชอบมาก คุณเก่งมากนะที่เขียนเรื่อง     : )

salawinyeen

  • บุคคลทั่วไป
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 33 Apr 3, 2010
«ตอบ #256 เมื่อ04-04-2010 00:56:42 »

ชอบครับ  เขียนต่อไปเยอะๆนะครับ สู้ๆ 

: )     จาก น้องเอตัวจริง :กอด1:

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 34 Apr 4, 2010
«ตอบ #257 เมื่อ04-04-2010 07:41:22 »

                                                    ตอนต่อครับ




                                                     ตอน สามสิบสี่

  

ตอน นี้ผมไม่ได้ยินเสียงอะไรแล้วเว้นเสียเสียงของหัวใจ ไม่รู้ว่าของผมหรือของมันแต่ผมอยากจะกอดมันอยู่อย่างนี้ น้ำตายังคงไหลออกมาจากสองตา อิ่มใจ สุขใจ ปลื้มใจเหลือเกิน


"ร้องไห้ ทำไมคะ"

มัน กระซิบถาม แล้วจูบที่ขมับ ไออุ่นของริมฝีปากแผ่กระจายไปทั่วใบหน้า ผมส่ายหน้า มันดึงแขนผมไปนอนที่เตียงมันนอนลงไปก่อนแล้วให้ผมนอนทับตัวมันในท่าครึ่ง นั่งครึ่งนอน ผมมองดูไฟแสงสีที่สว่างไสวทั่วห้อง เหมือนล่องลอยอยู่ในห้วงของความสุข สวนสวรรค์สักที่ เป้นที่ของผมกับมันสองคนเพียงเท่านั้น อยากจะจดจำภาพแบบนี้ไปนานๆจังเลย มันยกมือผมขึ้น จูบแผ่วเบาที่เรียวนิ้ว

"อุ๊ย"

ผม อุทานเพราะมันเอานิ้วผมแหย่เข้าไปในปากของมัน มันพยายามยัดอะไรเข้าไปในนิ้วนาง "แหวน" ผมพยายามชักนิ้วออก มันจับมือไว้

"อ่ะ เค้าให้ตัวเอง ทีนี่เราก็เป็นแฟนกันโดยสมบูรณ์แล้วน้า"

มัน เอานิ้วออกจากปาก ผมยกนิ้วขึ้นมาดู แหวนเงินเกลี้ยงๆที่สวมอยู่นิ้วนาง ผมพลิกมือดูแหวนมีตัวอักษรสลักอยู่ เป็นชื่อของมันเอง ผมรู้สึกละลายหัวใจเต้นแรงไม่รู้เป็นรอบที่เท่าไหร่ ผมเอี้ยวตัวไปมองหน้ามัน มันยิ้มแล้วจูบหน้าผาก

"ตัว เอง รักเค้าบ้าง หรือยังคะ"

เสียงกระซิบ แผ่วเบาแต่นุ่มนวลเหลือเกิน เหมือนมันดังมาจากห้วงที่ไกลโพ้น ผมอบอุ่นใจเหลือเกิน เป็นสุขจนมันล้นออกมาทางตา

"ยัง"

ผม พูดออกไป

"อ้าว ยังไม่รักเค้าอีกเหรอ ว้า จะให้ทำยังไงล่ะเนี่ย ตัวเองถึงจะรักเค้า"

ไม่ รู้ว่าเพราะอะไรถึงพูดแบบนั้นออกไป ทั้งที่ในใจตอนนี้มันเปล่งผลิบานจนเก็บอาการไม่อยู่ ใครดูก็รู้ มันเองก็คงรู้เพราะน้ำเสียงไม่ได้แสดงถึงความน้อยเนื้อต่ำใจเลยแม้แต่น้อย กลับเริงร่าหยอกเย้า

"ไม่ ต้องทำอะไรหรอก พอแล้ว"

"ไม่ ได้หรอก เค้าอยากจะชนะใจตัวเอง อยากให้ตัวเองรักเค้า ไม่ต้องรักเค้ามากหรอก แค่ค่อยๆรัก เห็นมั้ยว่าเค้าน่ะก็น่ารักนะ"

มัน หัวเราะแล้วพรมจูบทั่วใบหน้า ผมยิ้มหน้าแดง ตอนนี้ผมกอดมันอย่างเต็มใจ กลิ่นสบู่อ่อนๆมันช่างน่าพิศวาสเสียเหลือเกิน

"มา เค้ากอดให้หายคิดถึงหน่อย ทำไมนะยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งอยากกอดอยู่ตลอดเวลา"

มัน ดึงตัวผมเข้าไปกระชับกอด ผมมองหน้ามันพิจารณาทุกจุดบนใบหน้า รอยยิ้มที่ตรึงใจ ไรหนวดอ่อนๆเหนือริมฝีปากแดง ไรฟันขาวเรียงกันเป็นระเบียบ คิ้วดกหนาจนเกือบต่อกันยาวเป็นแผง ดวงตาที่สดใสส่องประกาย ว่าไปแล้วมันหล่อมากทีเดียว ผมเพิ่งสังเกตุยิ่งมองยิ่งหลงไหล ตอนนี้ผมไม่คิดอะไรแล้ว อย่างน้อยตอนนี้ผมก็มีความสุขมาก แค่คืนนี้ก็ยังดี ผมลูบไรผมมันเบาๆ มันก็เอาปลายนิ้วเขี่ยที่ขอบตาของผมแผ่วเบาเคลิบเคลิ้มประดุจฝัน

"ไหน รอยกัดยังเหลืออยู่ไหม"

ผม เอาหน้าแนบปากมันแล้วพูดเบาๆ ก่อนจะดันตัวลุกขึ้น แต่มันก็ยังคงกอดไว้

"ยัง เป็นรอยอยู่เลย เจ็บไหม"

"ไม่ เจ็บแล้ว เค้าไม่อยากให้มันหายหรอก เป้นสัญลักษณ์แทนตัวคนที่เค้ารักที่สุดไง เห็นไหมรอยเขี้ยวตัวเองน่ะ"

ผม ลูบรอยกัดที่เป็นรอยฟันตกสะเก็ดสีดำอย่่างอ่อนโยน นี่ผมทำเกินไปหรือนี่ แล้วรอยที่หลังล่ะ ผมกังวล

"แล้ว หลังล่ะ"

ผม มองหน้ามันอย่างรู้สึกผิด ผละออกจากอ้อมกอดของมันแล้วดึงแขนให้ลุกนั่ง ผมคลานไปด้านหลังแล้วถลกเสื้อมันขึ้น รอยแผลยังหายไม่สนิทกลางหลังเป็นรอยดำคล้ำตัดกับสีผิวของมัน เศร้าใจเหลือเกินผมทำไปได้ขนาดนี้เชียวหรือ ผมเอาปลายนิ้วค่อยๆสัมผัสอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวมันเจ็บ

"เจ็บ ไหม เอ"

เสียง ผมลอดไรฟันออกไป เสียงสั่นเพราะผมเองที่ตอนนี้รู้สึกเจ็บเหลือเกิน

"ไม่ เจ็บแล้ว เค้าแข็งแรงน้า แค่นี้ไม่เป็นไรหรอก ก็เตือนให้เค้ารู้ไงว่าแฟนเค้าน่ะ ดุ"

มัน ยังหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ผมแนบริมฝีปากลงไปบนแผ่นหลังของมัน ถ้าหากมันเป็นมนต์วิเศษก็ขอให้เขาอย่าได้เจ็บปวดเลย

"พี่ ขอโทษนะเอ"

ผม พูดออกไป น้ำตาไหลออกมา ตอนผมจูบที่กลางหลัง มันสะดุ้งเล็กน้อย

"ที่ รัก เค้ารู้แล้วล่ะว่าตัวเองก็รักเค้า ขอบคุณนะ ที่รักเค้า"

มัน หันมาเอามือช้อนหน้าผมประครองขึ้นมา น้ำตาไหลเหมือนกัน มันประทับรอยจูบลงบนริมฝีปากผมอีกครั้ง ผมยอมรับจูบอย่างเต็มใจ เป้นจูบที่เนิ่นนานหวานจับใจ กว่าเราจะถอนหน้าออกจากกันก็ผ่านไปนาน

"รู้ ไหม ทำไมเค้าถึงรักตัวเอง"

มัน ยังคงนัวเนียอยู่ข้างหู ผมไม่อยากรู้ว่ามันรักผมยังไงหรือเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้แต่ว่าตอนนี้ผมอยากอยู่อย่างนี้ไปนานๆ

"ก็ ตอนที่ตัวเองไปเจอเค้ากับเพื่อนผู้หญิงบนห้องไง ตอนนั้นรู้สึกว่าแคร์ตัวเองมาก เค้าอยู่ไม่ได้เลย สั่นไปหมด ร้อนรน เค้าโทรถามไอ้ บอม มันก็บอกว่าเค้าน่ะรักตัวเองแล้ว นั่นล่ะเค้าถึงรู้ตัว"

"แล้ว ไม่สับสนเหรอ คิดดีแล้วเหรอที่จะรักผู้ชายน่ะ"

ผม คิดจะแหย่มัน แต่ที่จริงก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันจะคิดยังไง

"สับ สนดิ ตอนแรกก็คิดอยู่นานล่ะ แต่ตอนนี้มั่นใจแล้ว เค้าคิดไม่ผิดหรอกที่รักตัวเองน่ะ ตั้งแต่รู้จักกันมาตัวเองมีแต่สิ่งดีๆมอบให้เค้าทั้งนั้น ถ้าเค้าไม่รักตัวเองสิแปลก คนน่ารักขนาดนี้ปล่อยไปก็โง่ดิ"

ผม คลอเคลียอยู่อย่างนั้น ความในใจที่เก็บหมักหมมเอาไว้นานมันทะลักออกมา ความในใจผมตอนนี้มันเปิดเผยออกมาหมดเปลือก อยากจะสัมผัสมันอยากจะกอด อยากจะจูบ ผมไม่คิดห้ามตัวเองแล้ว แท้จริงผมปรารถนามันมากขนาดนี้เชียวหรือ มันเองก็ไม่ปกปิดเช่นกัน ยิ่งผมแสดงความรู้สึกมากเท่าไหร่ มันก็แสดงออกมามากขึ้นเท่านั้น

"ทำไม เล็บเท้ายาวจังล่ะ"

ผม พูดขึ้นหลังจากสำรวจทุกส่วนในร่างกายของมัน

"ขี้ เกียจตัด"

มัน ยังคงกอดเอวผมอยู่ ผมนั่งอยู่ตรงกลางหว่างขาของมัน ผมเดินไปหยิบกรรไกรตัดเล็บมาจากตู้

"เอ้ ย ตัวเองจะทำอะไรน่ะ"

มัน ชักเท้าออก ผมดึงกลับมาเหมือนเดิมแล้วเข้าไปนั่งที่เดิม

"ไม่ เอานะคะ มันสกปรก"

"เอา มานี่ ไม่ตัดสักทีนั่นล่ะยิ่งสกปรก"

ผม ดึงขามันมาพาดไว้ที่ตักแล้วลงมือตัดเล็บเท้าให้มัน ตอนแรกก็ไม่คิดจะทำเพราะมันมากไป แต่ไม่รู้ทำไมผมอยากจะสัมผัสมันทุกๆส่วน มันดันตัวขึ้นมามอง ผมทำอย่างใจเย็นไม่ได้รังเกียจ แค่รู้สึกว่าอยากทำ

"รัก ตายเลยอ่ะ"

"อ้าว รักแล้วตาย แล้วให้พี่ทำไงล่ะ"

"รัก หมดใจแล้วเนี่ย"

มัน เย้าแล้วลุกขึ้นมานั่งทั้งที่ผมยังนั่งอยู่ที่เดิม กอดเอวผมแล้วจูบทั่วหน้าและลำคอ เราคลอเคลียกันจนเกือบเที่ยงคืน เวลาที่เรามีความสุขมันเหมือนติดจรวดผ่านไปเร็วเหลือเกิน ส่วนเวลาที่เราเป็นทุกข์เหมือนเข็มนาฬิกาผูกไว้ด้วยก้อนหิน กว่าจะผ่านไปแต่ละนาทีช่างยากเย็น พอถึงเวลาเที่ยงคืน เสียงข้างบ้านโห่ดังลั่น

"สวัสดี ปีใหม่ครับ ที่รักของผม"

มัน กระซิบข้างหูแล้วจูบ

"ผม รักคุณ"

เสียง ดังออกมาจากปากของมัน เราจ้องหน้ากันอยู่นานแสนนาน รอยยิ้มที่ผมรู้สึกตรึงตราใจที่สุด เป็นวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่มีความสุขที่สุด แม้ช่วงที่ผ่านมาผมจะเจอกับเหตุการณ์ที่ทุกข์ใจมามากมาย แต่วันนี้มันก็ทำให้ผมใจชื้นอิ่มเอมขึ้นมา หวังว่าในปีใหม่ที่กำลังก้าวเข้ามานี้ผมจะเจอสิ่งที่ดีกว่าเดิม

"สวัสดี ปีใหม่ จ๊ะ พ่อตัวดี"

ผม จูบแก้มตอบแทนมันบ้าง เราสองคนอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน แสงไฟหลากสีในห้องส่องแสงระยิบระยับดุจวิมาน ความสุขในวันนี้แม้มันจะแค่ไม่นานแต่ผมจะจดจำมันเอาไว้หล่อเลี้ยงหัวใจในวัน ที่มันแห้งเหี่ยว ผมหลับอยู่ในอ้อมกอดของมัน อบอุ่นหัวใจ อยากหลับอยู่อย่างนี้ อยากอยู่ในอ้อมกอดนี้ ตลอดไป


"แม้ลมหนาวมีรักยังอุ่นใจ ถักสายใยสานรักพันธ์ผูกกัน

ด้วยวันนี้อุปสรรคแม้นขวางกั้น จับมือกันให้รักนำทางใจ"





                                          




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2011 02:35:20 โดย eiky »

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
                                            อีกตอนครับ




                                     ตอนสามสิบห้า




"ก้อนหินบนภูเขาโดนลมเป่ายังสึกไหว

หินผาศิลาอาจยังมิอาจต้านทานได้

สาย ชลที่กัดร่อนให้หินกร่อนและสั่นไหว

หัวใจเป็นก้อนเนื้อฤาจะเหลือแรง น้ำใจ"



ผมตื่นมาในอ้อมกอดของมัน ไฟแสงสียังส่องสว่างอยู่ทั่วห้อง ผมมองหน้าที่หลับสนิท ใบหน้าที่งามเหลือเกินดูสงบนิ่งไม่มีพิษภัย ผมเอานิ้วคลอเคลียหน้ามันเบาๆ ตอนนี้ใบหน้าของคนๆนี้ คือคนที่ผมรู้สึกหัวใจสั่นไหวเวลาที่อยู่ใกล้ หรือแม้แต่อยู่ไกล เขาก้าวเข้ามาในชีวิตผมตั้งแต่เมื่อไหร่นะ ผมรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจมากขนาดนี้ตั้งแต่ตอนไหนกัน ใบหน้าของมันหลับพริ้มอย่างสุขใจ ไรหนวดอ่อนๆเหนือริมฝีปากมันเข้ากันได้ดีเหลือเกินกับใบหน้า ผมดันกายขึ้นมองดูมันนอนแล้วก้มลงจูบที่หน้าผาก มันเกินเลยไปมากขนาดนี้แล้วนะเอ นับจากนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น มันกู่ให้กลับไม่ได้แล้ว ความเสียใจที่รออยู่เบื้องหน้า ผมทำใจยอมรับมันไว้แล้ว เอาเถอะ ยังไงเสียตอนนี้ก็สุุขใจเหลือเกิน

ผมลงมาในครัวเพื่อที่จะทำกับข้าวใส่บาตร เพิ่งตีห้ากว่าๆผมทำอาหารง่ายๆ เป็นรวนไก่ใส่เครื่องปรุง ของหวานก็มีคุ๊กกี้ที่ยังไม่เปิดกล่อง ผมเอามาแบ่งใส่ถุง เสร็จก็เกือบหกโมง ผมเดินขึ้นไปปลุกไอ้ตัวดี มันยังนอนหลับอุตุอย่างสบายใจ ผมเขย่าตัวมันเบาๆ

"เอๆ ตื่นไปใส่บาตรกัน"

"หือ อืม"

มันลืมตางัวเงีย พอลืมตาได้มันก็ฉุดตัวผมลงไปนอนกอดทันที

"ไม่เอา เอ ลุกเดี๋ยวพระหมดก่อน"

ผมพยายามขัดขืน แต่ก็ไม่วายไปหอมแก้มมัน

"ขอกอด หน่อย คิดถึง"

"เดี๋ยวค่อยกอด ลุกก่อน"

ผมดันตัวออกมาจากมันได้ก็เดินลงข้างล่างทันที สักพักมันก็เดินเข้าห้องน้ำ ผมบอกให้ล้างหน้าแปรงฟันก็พอ เราออกมารอพระหน้าบ้านก็หกโมงกว่าๆ เช้าวันใหม่ของปีใหม่ ช่างสดชื่น อากาศเย็นสบาย พระอาทิตย์ทอแสงทองอยู่อีกฟากไล่ความมืดที่ปกคลุมให้หายไป พอพระเดินผ่านมาผมก็นิมนต์พระ เอใส่บาตรอย่างคล่องแคล่ว เราใส่บาตรคนละสองชุดก็เก็บของเข้ามาในบ้าน ผมวางของไว้ที่ม้าหินอ่อนหน้าบ้าน แล้วรดน้ำต้นไม้ มันเป็นคนทำผมเองก็ดูต้นไม้ พรวนดินเด็ดใบไม้ที่แห้งออก ตัดดอกกุหลาบที่เกือบบานได้กำหนึ่ง

"เอ รดตรงนี้หน่อย"

ผมร้องบอกมันที่กำลังรดกอมะลิอยู่ มันหันมาแล้วลากสายยางมาฉีดน้ำใส่ตรงที่ผมบอก

"ตัวเองจะเอากุหลาบไป ทำไรอ่ะ"

"เอาไปใส่แจกันในห้องไง"

ผมตอบอย่างอารมณ์ดี

"เหมือน เราแต่งงานกันเลยเนอะ อิอิ เค้าชอบจังแบบนี้"

"บ้าเหรอ"

"อ้าว ก็เหมือนแต่งล่ะน่า ตัวเองสวมแหวนแทนใจเค้าแล้วนิ"

"ไม่ได้สวมเองนะ เธอนั่นล่ะยัดเยียด"

"อ้าว ไม่ยัดเยียดแล้วจะได้เหรอ"

"ไอ้ บ้า"

ผมเขินยิ้มออกมาอย่างไม่ปกปิด ทำไมหัวใจถึงเหมือนโลดแล่นอยู่ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่เสียเหลือเกิน มีความสุขจริงๆ ผมปล่อยให้มันรดน้ำต้นไม้ต่อไป ส่วนผมก็เข้าไปเก็บกวาดบนบ้าน แล้วก็ลงมาทำข้างล่าง  มันนั่งดูโทรทัศน์อย่างสบายใจ ถ้ามันเป็นแบบนี้ทุกวันก็คงดีสินะ อยากหยุดเวลาแบบนี้ไว้นานๆจังเลย

"ตัว เองๆ มาดูข่าวนี่เร็ว"

มันร้องเรียกน้ำเสียงตื่นเต้น

"อะไร"

ผมโผล่หน้าออกไปนอกครัวเพราะกำลังดูของที่จะทำกับข้าวในตู้เย็น

"ไฟไหม้ เธคแถวทองหล่อ คนตายเยอะเชียวตัวเอง"

ผมเดินออกไปดูข่าวกับมัน ภาพข่าวที่แสดงทางจอโทรทัศน์เป็นภาพคนเดินวุ่นวายไปหมด เสียงบรรยายบอกให้รู้ว่าเมื่อคืนเกิดเหตุไฟไหม้ที่เธคแห่งหนึ่งมีคนตายหลาย สิบ แวบแรกที่คิดขึ้นมาได้ ผมรีบวิ่งไปหยิบโทรศัพท์กดไปหาพลทันที รอสายอยู่นาน มันก็ไม่รับสายสักที ผมโทรเป็นหลายรอบ ใจก็เริ่มไม่ดี เอมันมองส่งสายตาเอาใจช่วย ผมใจร้อนรนโทรไปหาจ๋า

"เออ ว่าไงแก โทรมาแต่เช้า"

"แก ไฟไหม้เธคแกรู้เรื่องไหม ฉันโทรหาไอ้พล ทำไมมันไม่รับสาย เมื่อคืนมันบอกไหมว่ามันจะไปไหน"

ผมใส่เป็นชุด น้ำเสียงสั่นรู้สึกกระวนกระวาย

"ไม่บอกนี่แก แล้วพวกอีกายกับอีกบล่ะแก โทรรึยัง มันไม่ได้โทรหาฉันเลย บอกแค่ว่าจะออกล่าผู้ชาย ตายแล้วๆ"

จ๋าก็ตกใจเหมือนกันเพราะดูเหมือน มันก็คงเพิ่งตื่นยังคงไม่ได้ดูข่าว

"แกโทรหากบ หน่อยเดี๋ยวฉันจะโทรหากาย"

ผมร้อนใจเป็นอย่างมากเป็นห่วงมันขึ้นมา แล้วก็กดโทรศัพท์ไปหากาย ไม่รับสาย ลองอีกที ก็ไม่รับสาย ผมร้อนใจยิ่งขึ้น

"โอ๊ย มันเป็นอะไรของพวกมัน รับสายหน่อย"

ผมโวยวาย เสียงสั่น มันเข้ามาแย่งโทรศัพท์ไปจากมือ

"ใจเย็นๆ นะคะ เดี๋ยวเค้าโทรให้ ตัวเองนั่งเฉยๆ"

มันเอาโทรศัพท์ผมไปกดโทรแล้วเอาแนบหู ผมนั่งลงมองมันอย่างมีความหวัง อย่าให้มีอะไรเลย คุณพระคุณเจ้า คุ้มครองเพื่อนๆลูกด้วยเถิด ผมยกมือขึ้นพนมมือไหว้ น้ำตาซึมออกมา ร้อนรนเหลือเกิน

"รับแล้วๆ"

มันพูดแล้วยื่นโทรศัพท์ให้ผม มองดูหน้าจอโทรศัพท์ พลนั่นเอง

"ฮาโหล"

เสียงมันงัวเงีย ผมรู้สึกโล่งใจเหมือนเอาภูเขาออกจากอก

"แกอยู่ไหนพล ทำไมไม่รับโทรศัพท์ หา รู้ไหมฉันเป็นห่วง"

ผมตะคอกเสียงไป

"มี อะไรแก"

มันยังงัวเงียอยู่ยังมีหน้ามาถาม

"แกไม่รู้เรื่อง อะไรเลยเหรอ เมื่อคืนไฟไหม้เธค ฉันก็ใจเสีย โทรหาก็ไม่รับ ฉันกังวลใจรู้ไหม ทำไมทำแบบนี้ หา"

ผมโวยวายน้ำตาไหลมาตั้งต่ตอนไหนไม่รู้ พลเงียบ เอแย่งโทรศัพท์ไปจากมือ

"พี่พล เอนะครับ คือเมื่อคืนไฟไหม้เธคแถวทองหล่อน่ะครับ พี่โยเค้าเป็นห่วง พยายามโทรหา แต่พี่คงยังไม่ตื่น ไม่มีอะไรแล้วนะพี่"

มันพูดแล้วเข้ามากอดผมไว้ ผมพยายามแย่งโทรศัพท์จากมือมันมา รู้สึกโกรธขึ้นมา เราเป็นห่วงแทบตายแต่ดูมันสิยังนอนไม่รู้เหนือรู้ใต้ แต่เอไม่ยอมคืนโทรศัพท์ให้ มันวางสายไปแล้ว

"พี่ยังคุยไม่จบนะเอ เสียมารยาท"

ผมแว๊ดใส่

"ตัวเอง ใจเย็นๆนะคะ พี่พลไม่ป็นไรแล้ว อย่าโกรธสิ นะคนดี วันนี้วันปีใหม่นะ อย่าอารมณ์เสียสิ"

มันพูดเสียงขรึมเตือนสติ ผมจึงนิ่งอยู่พักใหญ่ มันเอามือปาดน้ำตาให้ จริงสินะ วันปีใหม่ผมเริ่มวันด้วยการร้องไห้ใจร้อนรน ไม่ดีเลย แต่คิดไปแล้วตอนนี้ผมมีความสุขมากแต่คนอื่นเขาต้องสังเวยชีวิตให้กับการ เฉลิมฉลอง น่าเศร้าเสียจริง ครอบครัวของคนเหล่านั้นล่ะจะเสียใจมากมายแค่ไหนกันนะ แย่จังเลย วันปีใหม่แท้ๆกับต้องจัดงานศพกัน ผมคิดแล้วก็ท้อใจ เอยังกอดผมอยู่มันลูบผมเบาๆ ดูไปแล้วมันก็ทำท่าผู้ใหญ่เกินตัวเสียจริง สักพักพลก็โทรกลับมา

"เออ ว่าไงแก"

ผมเริ่มเปลี่ยนเสียงไม่ เกรี้ยวกราดเหมือนเมื่อครู่

"ฉันขอโทษแก เมื่อคืนหนักไปหน่อย ขอโทษจริงๆที่ทำให้เป็นห่วง"

"เออ ไม่เป็นไร แล้วไปไหนมาเมื่อคืน  ทำไม่เพิ่งตื่น"

ผมรู้สึกดีขึ้นพอได้ยินเสียงเพื่อน แต่จะว่าไปแล้วพลมันชอบไปเที่ยวสีลม หรือไม่ก็ แถวตลาด อตก มันคงไม่คิดอุตริไปเที่ยวแถวทองหล่อหรอก

"ก็ไปโรงเรียนสตรีเหมือน เดิมล่ะ ก็ไปกับนังสองคนนี่ล่ะเนี่ยนอนกองกันอยู่ เพิ่งกลับมาตอนตีสี่เองแก เมามาก กว่าจะนอนอีก"

โรงเรียนสตรีคือเธคที่พวกมันชอบไป วันสิ้นปีเขาคงเปิดจนเกือบสว่าง

"เออ แก งั้นแกไปนอนต่อเถอะ ฉันโทรมาถามดูเป็นห่วง ไม่มีอะไรแล้วแก  ฝากด่านังสองคนนั้นด้วยนะ"

"อืม ขอบใจนะแก เดี๋ยวขอนอนต่ออีกแป๊บ"

พลวางสายไป เอมันนั่งลงข้างๆแล้วกอดเอวผมไว้ มันยิ้ม

"ยิ้มอะไร"

ผมพูด อายๆ

"ยิ้มสิคะ มีแฟนจิตใจดี ห่วงเพื่อนขนาดนี้ ปลื้มใจที่สุดเลย"

"หิว ข้าวหรือยัง"

ผมเปลี่ยนเรื่องเพราะรู้สึกอารมณ์เปลี่ยนเร็วเหลือเกิน เมื่อครู่ยังโกรธเพื่อนหน้าแดงอยู่ แต่ตอนนี้รู้สึกเขินอายขึ้นมาอีก

"ยัง ค่ะ เดี๋ยวเค้าไปช่วยทำกับข้าวดีกว่าเนอะ"

มันเอาคางมาถูที่คอ ผมต้องดันตัวมันออกแล้วเดินเข้าครัวไป มันเดินตามมา

"วันนี้เค้าอยาก กินน้ำพริกอ่ะตัวเอง"

"จ๊ะ พ่อคุณ เนรมิตรเอาเนอะ"

ผมพูด ประชด

"ก็รู้อ่ะว่าตัวเองทำได้ อิอิ มีแฟนเก่ง น่ารักนี่เนอะ"

"พอเถอะ นี่เอาผักไปล้าง เปิดตู้เอาหัวหอมไปแกะ ล้างด้วย"

ผมออกคำสั่ง แล้วเปิดตู้เย็นดูของ ปลาไม่มี แล้วจะทำน้ำพริกยังไงเนี่ย ผมคิดในใจ แต่เอ๊ะมีไก่อบเหลือจากวันนั้น เอามาทำน้ำพริกดีกว่า ผมเอาไก่อบออกมาหั่นเป็นชิ้นแล้วเอาไปต้มให้มันยุ่ยๆหน่อย เอปลอกหอมแดงแล้วล้างเสร็จแล้ว ผมจึงเลือกกระเทียมเป็นกลีบๆ กับพริกสดให้มันเอาไปคั่วไฟรวมกับหัวหอม

"ต้องย่างด้วยเหรอคะ"

มันถาม

"อืม มันจะได้หอม เอาไฟอ่อนๆสิ เดี๋ยวไหม้พอดี นี่พอสุกเอามะเขือเทศลงไปคั่วด้วย"

"หือ ยังไงล่ะนี่"

"กิน ได้ก็แล้วกัน สูตรใหม่"

ผมหันไปทำน้ำซุป เอาหัวไชเท้าล้างแล้วหั่น แต่จะทำน้ำซุปก็ยุ่งยากอีก ผมต้องไปเปิดตู้เก็บของแห้งเอาปลาแห้งกับกุ้งแห้งออกมา เอาไปอบในไมโครเวฟพอกรอบก็เอาไปโขลกรวมกัน ห่อผ้าขาวบางทิ้งลงในหม้อแล้วจึงเอาหัวไชเท้าลงไป พอเคี่ยวอยู่พอสมควรก็หั่นไก่เป็นชิ้นๆลงไปสองสามชิ้นพอให้มันเป็นกลิ่น พอเอคั่วพริกเสร็จผมก็ให้มันโขลกพริกกับหัวหอมกระเทียมรวมกัน

"โขลก เบาๆหน่อยสิ เดี๋ยวครกก็แตกพอดี"

ผมเหน็บเพราะมันออกแรงมาก คงทำเอาความมัน พอละเอียดผมก็เอาไก่ที่ต้มยุ่ยแล้วมาฉีกเป็นฝอยๆ แล้วเอาลงไปให้มันตำ คราวนี้ค่อยรู้วิธีตำหน่อย พอเห็นว่าได้ที่ผมจึงตำเองแล้วเอามะเขือเทศคั่วลง แล้วปรุงรส ใช้ได้แฮะ ผมชิม

"เป็นไงบ้าง"

ผมยื่นช้อนให้มันชิม

"ไม่ค่อยเผ็ดอ่ะตัวเอง เค้าอยากกินเผ็ดๆ"

"เดี๋ยวก็ท้องเสียพอดี กินรสนี้ล่ะขี้เกียจเผาพริกลงไปอีก"

"คร้าบบ"

มันทำจมูกย่น แล้วทำท่าจะมาหอม ผมยกสากขึ้น มันจึงถอย พอเสร็จผมก็จัดผักสดใส่ถาดแล้วตักข้าวให้มัน

"อืม อร่อยอ่ะตัวเอง เค้าเรียกน้ำพริกอะไรอ่ะ น้ำซุปก็อร่อย"

"น้ำพริก ไก่เหลือ"

ผม พุดแล้วหัวเราะ เพราะมันเป็นไก่เหลือจริงๆ

"น่ารักจัง แฟนผม"

ผมรีบหุบยิ้มทันที อยากจะแกล้งมัน มันกินข้าวสองจานครึ่ง เกือบหมดหม้อ คงจะหิว พอเสร็จเราก็เก็บล้างทำความสะอาด แล้วออกไปนั่งดูโทรทัศน์

"แม่ อรกลับมากี่โมงคะ"

มันหันมาถาม

"ไม่รู้ น่าจะบ่ายๆ"

มันทำหน้าเจ้าเล่ห์

"อะไร"

"เราก็มีเวลา เหลือสิคะ จะได้จู๋จี๋กันไง"

"บ้า"

ผมค้อน หน้าแดง มันลากผมขึ้นไปบนบ้านทันที ตอนแรกผมก็ขัดขืนแต่ก็ยินยอมแต่โดยดี มันลากผมขึ้นเตียงแล้วกอด

"ไม่ต้องทำอะไรนะ กอดเฉยๆ"

ผมบอก

"อ่า ที่รักอ่า ใจร้าย เห็นไหม น้องชายเค้ามันไม่ยอมอ่า"

"จะกอดหรือจะต้องไม่แตะตัวเลย เลือกเอา"

"อ่า คร้าบบ กอดก็กอด"

มันพรมจูบทั่ว หน้า

"เค้ามีความสุขมากเลยนะตัวเอง อยากอยู่กับตัวเองแบบนี้ทุกวัน"

"ไม่ต้องเรียนต้องทำงานกันว่างั้น"

ผมแย้งขึ้นทันที

"ก็เลิกเรียน เลิกงานไงคะ ได้กอดก่อนนอนทุกวัน แค่นี้เค้าก็พอใจแล้ว รู้ไหมเวลาเค้าดูตัวเองนอน เค้ามีความสุขที่สุด คิดว่านี่ล่ะคือคนที่เค้าจะเฝ้าดูเวลานอนทุกวัน ตื่นมาก็ได้เห็นตัวเองเป็นคนแรก"

มันเพ้อสายตาหวานฉ่ำ

"นิยาย ไปไหม"

"ไม่รู้ล่ะ แต่เค้ารู้สึกแบบนี้จริงๆ รักตัวเองมากนะ รู้ไหม"

ผมมองหน้ามันที่ยิ้มหวานตาฉ่ำเยิ้ม ผมยิ้มแล้วจูบที่หน้าผากมัน ถ้ามันเข้าใจในสิ่งที่ผมทำ อยากให้จูบนี้ถ่ายทอดความรู้สึกในใจ ว่าผมเองก็รู้สึกเหมือนกับมัน แม้ว่าเรื่องราวในอนาคตมันจะบีบคั้นให้จนหนทางเท่าไหร่ก็ตาม แต่ตอนนี้ ผมอยากบอกให้มันรู้ว่าผมเองก็โน้มเอียงไปหามันทั้งหัวใจแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2011 02:35:59 โดย eiky »

ออฟไลน์ naiin

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2421
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-9
ได้เวลามาเรียกคะแนนกะคนอ่านเลย มาสองตอนควบทีหวานมากมายของนายเอ บอกแล้วงานนี้รักหลงลึกยังกะฝังเสาเข็ม หวังแต่พอตัวดีจะเสมอต้นเสมอปลายแหละ ดูไปดูมาเอเป็นผู้ใหญ่มากกว่าคนพี่นะ มีสติเกินวัยในเวลาเครียดขึ้ง สงสัยต้องยอมเด็กแล้วล่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
ได้เวลามาเรียกคะแนนกะคนอ่านเลย มาสองตอนควบทีหวานมากมายของนายเอ บอกแล้วงานนี้รักหลงลึกยังกะฝังเสาเข็ม หวังแต่พอตัวดีจะเสมอต้นเสมอปลายแหละ ดูไปดูมาเอเป็นผู้ใหญ่มากกว่าคนพี่นะ มีสติเกินวัยในเวลาเครียดขึ้ง สงสัยต้องยอมเด็กแล้วล่ะ


อิอิ ไม่อยากกักไว้แล้วคร้าบบ มีเท่าไหร่ใส่ไปให้หมด คนอ่านจะได้ไม่ต้องรอ เนอะ เดี๋ยวโดนด่าเพราะเสียอารมณ์ในการอ่านไม่ต่อเนื่อง ขอบคุณน้า อ่านแต่เช้าเลย :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ nidnoi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 558
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
ขอให้น้องเอรักพี่โยอย่างนี้ตลอดไปนะคะ

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณสำหรับสองตอนรับวันหยุด ... :laugh:
+1 เป็นกำลังใจ

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
ขอบคุณสำหรับสองตอนรับวันหยุด ... :laugh:
+1 เป็นกำลังใจ



อ่าาา วันนี้เสียแชมป์ น้าา

ออฟไลน์ sweetener

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
ตื่นมาก็มองหาเรื่องนี้ก่อนเลย
น้องเอมันน่ารักเนาะ
โยก็ทำตามหัวใจตัวเองแล้วได้ค่ะ
ส่วนไอ่ที่จะเกิดขึ้นต่อไปก็ค่อยว่ากันอีกที
ตอนนี้ทำตัวเองให้มีความสุขก่อน
 :L2:

ออฟไลน์ Vesi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +204/-3
หวานที่สุดเลย
อ่านแล้วตกใจตอนข่าวซานติก้าไฟไหม้ นึกว่าจะมีเรื่องให้เศร้าอีกแล้ว

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
แอร๊ยยยยยย...หว๊านหวาน น้ำตาลยังจืดง่ะ 555
เป็นแบบนี้ดีแล้วหล่ะ้น้องโย
อุปสรรคในชีวิตมันมีสารพัดเรื่องให้เราได้เจอ
ก็ค่อยๆแก้  ค่อยๆหาทางออกกันไปเนาะ
โยทำกับข้าวเก่งจัง  o13  แม่ศรีเรือนแบบนี้น้องเอจะไปไหนรอด
ว่าแต่คุณน้องฟาดข้าวทีเป็นกาละมัง ต้องหมั่นออกกำลังนะจ๊ะ เด๋วจะอวบเกิ๊นน
ส่วนจะออกกำลังกายท่าไหน ปรึกษาพี่โยได้  :haun4:

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
น่ารักกันดีจังเลย ป้าแก่ๆ ตาร้อนมากมายค่ะ 55555555  :pig4:

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
เอ้าลืมไป + 1 ค่ะ

kanda53

  • บุคคลทั่วไป
อ่านทันแล้วจ้า.....
ขอบอกว่า  เนื้อเรื่องสนุกน่าติดตาม  แอบทุกข์ใจแทนโย ไม่รู้ว่า
เอจะสม่ำเสมอต่อไปได้แค่ไหน  เพราะอายุยังน้อยยังต้องพบเจอ
อะไรอีกมากมาย........
 :call:  ขอให้เอมั่นคงและจริงใจกับโยตลอดไป
ขอบคุณสำหรับความหวานที่มอบให้  และขอบคุณสำหรับความขยันของคนแต่ง
 o13 o13 :L2: :L1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด