Boy's Story ให้รักนำทางใจ ( พิเศษ ) ๒๔ มกราคม ๒๕๕๕ หน้า ๓๔
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ชอบเรื่องนี้หรือเปล่า

เฉยๆๆ
18 (5.9%)
ชอบ
280 (92.1%)
ไม่ชอบ
6 (2%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 181

ผู้เขียน หัวข้อ: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ( พิเศษ ) ๒๔ มกราคม ๒๕๕๕ หน้า ๓๔  (อ่าน 306251 ครั้ง)

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 23 Mar 25, 2010
«ตอบ #150 เมื่อ25-03-2010 21:00:39 »

ก้อนะ  อย่างงี้เรียกแพ้ทางอ่ะป่าว
เอาน่า..โย สู้ๆ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ออฟไลน์ Na_RimKLonG

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 640
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 23 Mar 25, 2010
«ตอบ #151 เมื่อ25-03-2010 21:20:13 »

 :3123: :L1: :3123:

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 23 Mar 25, 2010
«ตอบ #152 เมื่อ25-03-2010 22:27:08 »

คนที่น่าสงสารที่สุด ก็คนเป็นแม่นะสิ


ป้าอ่าแล้วน้ำตาซืมเลยนะนี่



ค่อยๆประคับประคองกันไปในทางที่ดีละกันนะ



จะเป็ืนกำลังใจให้คนเขียนเสมอจ้า






จากอีป้าแก่คนนึง
 :pig4:

andyus1

  • บุคคลทั่วไป
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 23 Mar 25, 2010
«ตอบ #153 เมื่อ26-03-2010 07:00:34 »

พี่โยครับ เรื่องมันเลยเถิดมาขนาดนี้แล้วพี่อย่ามัวแต่คิดมากนั่งเสียน้ำตาอยู่เลยครับ

พี่ต้องคิดวางแผนอนาคตแล้วแหละ

พี่อย่าปฏิเสธว่าไม่รักน้องมัน ฟฏติกรรมมันฟ้องกันอยู่

ต่อจากนี้พี่มีหน้าที่แล้วแหละ พี่ต้องดูแลแม่

แล้วยังต้องดูแลกำชับเดกตัวโตนี่ด้วย

ทำให้น้องมันไปถึงฝัน ให้แม่น้องเค้าได้ภูมิใจ

สู้ๆ ครับทุกๆ คนเลย อย่ามัวกังวล ทำให้แม่สบายใจก่อน แล้วประคับประคองทุกอย่างไปให้ถึงฝั่งอย่างราบรื่นครับ

ปล. ตอนต่อไปหน่อยคร้าบบบบ

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 24 Mar 26, 2010
«ตอบ #154 เมื่อ26-03-2010 07:05:39 »

 ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะครับ เริ่มเขียนยากขึ้นล่ะพอเรื่องเริ่มมาในอารมณ์นี้ แล้วจะเศร้าไปทำไมเนี่ย อิอิ ผม งงกับตัวเอง เอาเป็นว่า เป็นกำลังใจให้ด้วยนะค้าบบบ



                                 ตอน ยี่สิบสี่



You look at me and see the boy
Who lives inside the golden world
But don't believe
That's all there is to see
You'll never know the real me

He smiles through a thousand tears
And harbours adolescent fears
He dreams of all
That he can never be
He wades in insecurity
And hides himself inside of me

Don't say he takes it all for granted
I'm well aware of all I have
Don't think that I am disenchanted
Please understand

It seems as though I've always been

Somebody outside looking in
Well, here I am for all of them to bleed
But they can't take my heart from me
And they can't bring me to my knees
They'll never know the real me


ผมตื่นเกือบจะเจ็ดโมง รู้สึกตัวโล่งแต่ยังมึนๆหัวอยู่ ไอ้เอไม่อยู่ข้างตัวแล้วมันคงไปเข้าห้องน้ำหรือไม่ก็ไปโรงเรียนแล้ว ผมลุกจากเตียงเดินไปเปิดเพลง หยิบแผ่น mp3 ของ Mariah Carey มายัดเข้าไปในเครื่องเล่น ฟังแทรกที่ดังก้องอยู่เบาๆ แต่ก่อนฟังเพลงนี้ก็ไม่รู้สึกอะไรมาก แค่รู้สึกว่ามันเป็นเพลงช้าธรรมดา แต่วันนี้เหมือนเธอร้องเพื่อผมโดยเฉพาะ ผมยืนนิ่งฟังอยู่อย่างนั้นช่างเศร้าจับใจเหลือเกิน มันกัดกินเข้าไปถึงในหัวใจ น้ำตาไหลซึมออกมาอีกครั้ง เป็นชวงเวลาที่อ่อนแอเหลือเกิน ดูเหมือนอะไรๆมันก็สะกิดใจไปเสียหมด ผมหลับตาสูดลมหายใจเข้าปอดให้ลึกยาวที่สุด คืนที่ผ่านมามันยากลำบากเหลือเกินแล้วเวลาที่เหลือต่อไปผมจะทำยังไงดี

ไอ้เอเปิดประตูเข้ามามันใส่ผ้าเช็ดตัว น้ำเป็นหยดๆยังเกาะอยู่ตามตัวของมันหัวก็เปียก

"ตื่นแล้วเหรอคะ ยังเวียนหัวอยู่ไหม"

มันถามแล้วเดินเข้ามาหา ผมกระพริบตาถี่ๆ ไล่น้ำตาออก

"ตัวเองร้องไห้อีกแล้วเหรอ ยี้แยจัง ไหนเป็นไรคะ"

มันเข้ามาจับหน้าผม ยิ้มให้ ผมปัดมือมันออก

"จะไปอาบน้ำ"

ผมพูดแล้วเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วออกจากห้องไป ผมหยิบโทรศัพท์ที่เสียบสายชาร์ตอยู่ติดมืออกไปด้วย เวลานี้ผมควรจะออกจากบ้านได้แล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะอาบน้ำ ผมโทรไปหาพล

"นี่ เป็นไรแก ปิดเครื่องตลอด มีอะไรหรือเปล่า"

ทันทีที่พลรับสายมันก็ยิงคำถามมาทันที

"ฉันไม่สบายแก เป็นไข้ โทษที ฝากบอกพี่ภาให้ด้วย อาจจะไปสาย"

"เป็นไข้ แกไปหาหมอหรือยังแก ไข้หวัดนกรึปล่าวยะ"

"บ้าสิ ไม่รู้สิแก อยู่ๆก็ตัวร้อน แต่หายแล้วแค่มึนๆหัว"

"เออ เดี๋ยวฉันไปรับ จะได้แอบอู้"

"ไม่ต้องหรอกแก รถติด"

"แหมแก ถ้าฉันบอกเจ๊แกว่าแกไม่ค่อยสบาย เจ๊แกก็บังคับให้ฉันไปรับแกอยู่ดี รอที่บ้านนั่นล่ะ เออ แก นังจ๋ามันเหมือนมีอะไรเลยนะ มันอยากคุยกับแกนะ เห็นแกปิดเครื่อง มันเลยโทรมาหาฉัน น้ำเสียงไม่ค่อยดีเลยแก ยังไงแกโทรถามมันหน่อย"

ผมคุยกับพลอีกคำสองคำก็วางตกลงมันจะมารับผมที่บ้าน ดีเหมือนกันจะได้ปรึกษามันเลยว่าควรทำยังไงดี ผมโทรศัพท์ไปหาจ๋า

"เออ แก ว่าไง พอดีฉันเป็นไข้ แกมีอะไรหรือเปล่า"

ผมถามเมื่อจ๋ารับสาย

"ฉันมีเรื่องจะปรึกษาแก ฉันไม่รู้จะทำยังไงดี"

จ๋าร้องไห้ ผมอึ้ง

"แก เป็นอะไร มีอะไร เล่ามา ทำไมแกไม่โทรเข้าเบอร์บ้านล่ะ"

"ก็ไม่มีคนรับ แกไปทำงานไหม"

"ไปสิ ด่วนรึเปล่า แก เดี๋ยวฉันลางานก็ได้"

"อย่าเลยแก ไปทำงานเถอะ ฉันรอได้"

"ไม่ต้องมากความ มาหาฉันที่บ้าน พอดีเลย พลมันก็จะมารับ จะได้โทรบอกมัน"

ผมวางสายจากจ๋าแล้วโทรไปหาพลอีกรอบ สรุปผมก็ลางานแล้วอยู่รอจ๋าที่บ้าน พลเองก็จะมาหาที่บ้าน รายนั้นคงสบายใจที่ไม่ต้องทำงาน เพราะเอาข้อที่ว่าผมป่วยเป็นข้อต่อรองกับพี่สาว ผมอาบน้ำอย่างลวกๆ แล้วเข้าห้องไปแต่งตัวเห็นเอมันแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว เวลามันใส่ชุดนักเรียน มันก็ดูเหมือนเด็ก มัธยมปลายธรรมดาคนหนึ่ง กางเกงนักเรียนขาสั้นสีน้ำเงินกับเสื้อขาว มันดูสดใสขึ้นมาไม่เหมือนกับเวลาที่มันอยู่ในชุดปกติ มันดูเด็กก็จริงแต่ดูแก่แดดเหลือเกิน เอเรียนโรงเรียนชายล้วนไม่ไกลจากบ้านมากนักนั่งรถเมล์ต่อเดียวจากบ้านมันก็ถึง แต่บ้านผมต้องนั่งสองแถวออกไปต่อรถเมล์ที่ปากซอยอ่อนนุช แต่นี่มันเจ็ดโมงกว่าแล้ว ไม่เข้าใจว่ามันไปโรงเรียนภาษาอะไรของมัน มันยืนยิ้มให้ผมอย่างไม่สะทกสะท้านต่ออะไรในโลกนี้

"มาจุ๊บหน่อสิที่รัก ให้กำลังใจเค้าหน่อย"

มันเดินตรงเข้ามาหา ผมรีบเดินหนีไปใส่เสื้อ มันก็รีบมาคว้าเอวไว้ทันที

"ไม่รีบไปเหรอ โรงเรียนน่ะ นี่มันกี่โมงแล้ว"

ผมว่ามัน แต่มันดูไม่เดือดร้อนอะไรเลย

"โอ๊ย ไปสายหน่อยก็ได้ เพิ่งเปิดเทอม อาจารย์เขาไม่ว่าหรอก มาเค้าหอมแก้มหน่อย"

มันไม่พูดแค่ปากมันทำทันที

"นี่ ฉันจะแต่งตัว เร็วๆรีบไปสายแล้ว"

"แหม คนเขาจะขอกำลังใจจากแฟนนี่ สายนิดสายหน่อยไม่เป็นไรหรอกน่า อ่า ชื่นใจ"

ผมเบี่ยงตัวออกจากวงแขนของมัน แล้วเอามือดันมันไว้ ผมต้องถลึงตาใส่มันถึงยอมหยุด

"เค้ายังไม่ได้กินอะไรเลยอ่ะ หิว"

"ก็ตื่นสายเอง ป่านนี้แม่ไปโรงเรียนแล้ว ไปดูเองในครัวว่ามีอะไรเหลือให้กิน"

"ไปกินด้วยกันดิ นะนะ เค้าอยากกินข้าวกับตัวเอง"

"แล้วนี่จะไม่ไปเหรอโรงเรียนน่ะ นี่มันกี่โมงแล้ว คุณ"

"ไม่สนอ่ะ จะกินข้าวกับแฟน"

"อย่ามาท่ามาก ตอนเย็นค่อยกลับมากิน ไปได้แล้ว จะแต่งตัว"

ผมดุมันแล้วดันหลังมันให้ออกจากห้องอย่างยากเย็น

"เออ ตัวเอง วันนี้เค้ากลับค่ำๆ น้า เพราะต้องซ้อมบาส แต่เดี๋ยวจะรีบกลับ พักเที่ยงเดี๋ยวเค้าโทรหา"

มันโผล่หน้ามายิ้ม ผมดันหน้ามันออกแล้วปิดประตู รำคาญมันแต่เช้า ผมแต่งตัวอยู่สักพักก็ลงมาในครัว มันออกจากบ้านไปแล้วผมเิดินเข้าไปดูในครัว ไม่มีร่องรอยของการใช้ครัว แต่เห็นหม้อข้าวต้มหมู แม่คงทำไว้ ผมตักมาครึ่งทัพพี แค่นั้นก็กินไม่หมด กินยาที่ไอ้ตัวดีซื้อมาให้ แล้วนั่งรอพลกับจ๋า เสียงออดหน้าบ้านดัง ผมรีบเดินออกไป จ๋า นั่นเอง มันยังอยู่ในชุดที่ไม่น่าจะออกจากบ้านมาได้ เสื้อยืดใส่นอนกับกางเกงขาสั้น มันใส่แว่นดำอันโต ใส่แว่นดำตั้งแต่เช้าเนี่ยนะ พอจ๋าเห็นหน้าผม มันโผเข้ามากอดทันที มันสะอื้นไ้ห้ จนผมตกใจ

"แก แกเป็นอะไร"

ผมปลอบ ไม่รู้จะทำยังไงดี ลำพังตัวเองก็เอาเสียจนล้มหมอนนอนเสื่อ มาเจอเพื่อนเป็นแบบนี้อีกรู้สึกมึนทึบไปหมด

"แก ฉันจะทำยังไงดี ป๊ารู้ฉันตายแน่ๆ"

"อะไรแก ใจเย็นๆ มีอะไร"

จ๋า มันยังฟูมฟาย ผมลากมันมานั่งที่ม้าหินอ่อนหน้าบ้าน มันยังคงร้องไห้ ผมเริ่มใจแป้ว มันยังคงไม่ปริปาก ผมเองก็ไม่ถามรอให้มันร้องไห้ให้พอก่อน

"ฉันท้อง แก"

"หา"

ผมร้องเสียงหลง ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง

"ฉันจะทำยังไงดีโย มันพลาด ฉันจะทำยังไงดี"

ผมเหมือนโดนถีบลงเหวลึก เวลาตกจากที่สูงจิตใจก็คงหวิวอย่างนี้ เรามองไม่เห็นพื้นล่าง แต่รู้ว่ามันลึกหนาวเย็นเหลือเกิน ข้างล่างจะหล่นลงไปกระทบกับอะไรไม่รู้ แต่รู้ว่ามันหวิวใจจะขาด

"ใครรู้บ้าง"

ผมเปล่งเสียงถามออกไปอย่างยากลำบาก

"พี่ป้อม"

จ๋ายังคงร้องไห้ มองหน้าผม ผมทั้งสงสารทั้งเห็นใจ แต่อีกใจก็นึกตำหนิมัน เรียนก็สูงไม่รู้จักป้องกัน ทำตัวดีมาตลอดแล้วทำไมมาพลาด

"แล้วเค้าว่ายังไง"

"พี่ป้อมบอกให้ปล่อย เดี๋ยวพอฉันรับปริญญาเสร็จ เขาจะให้ผู้ใหญ่มาขอ"

"แล้วแกว่าไง"
  
ผมยิงคำถามต่อไม่ให้มันมีช่องว่าง เสียงผมเครียดกว่าทุกครั้ง

"ฉันไม่รู้ ถ้าป๊ารู้ ป๊าฆ่าฉันแน่ๆ แกก็รู้ ฉันอยากเอาออก"

"บ้าเหรอ คนนะแก คนทั้งคน แกจะฆ่าเขาเหรอ"

"ฉันก็ไม่อยากทำ แต่ ฉันไม่รู้แก ฉันคิดไม่ออก"

"กี่เดือนแล้ว"

"สองเดือนแล้ว"

"สองเดือน"

ผมอุทานเพราะไม่คิดว่า ท้องสองเดือนจะแสดงอาการอะไรออกมาได้

"อืม ก็วันนั้นฉันทะลึ่งไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาเล่นๆ กะจะแกล้งพี่ป้อมเล่น ไม่คิดว่ามันจะจริง"

"สมใจไหมล่ะ"

ผมเหน็บมัน

"แก อย่าว่าฉันเลย ฉันคิดไม่ออกจริงๆ แกว่าฉันควรเอาไว้ หรือปล่อยดี"

"อย่าเพิ่งตีโพยตีพายเลยแก แกยังไม่ได้ไปหาหมอนี่ ไม่แน่หรอก ไอ้เครื่องตรวงเองของแกมันอาจจะไม่จริง"

ผมพยายามให้กำลังใจมัน

"ขอให้เป็นอย่างนั้น ฉันไม่อยากคิดเลย"

"ทำไมแกปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ล่ะ จ๋า แกไว้ใจเขามากขนาดนั้นเลยหรือ"

ผม มองหน้ามัน ไม่เข้าใจว่าเพื่อนที่ผมเคยรู้จัก ที่เคยเข้มแข็งเป็นขุมพลังให้กันและกันมาตลอดจะยอมปล่อยตัวขนาดนี้ เราปรึกษากันทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องบนเตียง มันยังเคยเล่าว่าเวลามีอะไรกัน มันจะบังคับให้ผู้ชายใส่ถุงยางตลอดถึงสองชั้น แล้วนี่อะไร

"ฉันขอโทษแก ฉันไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้ ฉันแค่รู้สึกว่ารักพี่ป้อม กว่าใคร"

" พอแกรักกว่าใครต้องยอมปล่อยตัวขนาดนี้เลยเหรอ เอาเถอะ อย่ามาพูดเรื่องที่มันเกิดขึ้นแล้วเลย มาคิดกันดีกว่าว่าวันพรุ่งนี้แกจะทำยังไงถ้าท้องขึ้นมาจริงๆ"

ผม รู้สึกเครียด คิดอะไรไม่ออก ไม่อยากด่าว่ามันมาก เพราะไหนๆมันก็มาถึงขั้นนี้แล้ว จะพล่ามพรรณายกเอาเรื่องเมื่อวานมาด่าว่าตัวเอง แต่ตอนนั้นกลับไม่คิดเผื่อว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น เหมือนผมที่ปล่อยให้เรื่องมันเกิดขึ้นมาไกลถึงขนาดนี้ คิดย้อนไปเรื่องของตัวเองผมยิ่งเครียด เศร้าใจ ยิ่งมาได้ยินเรื่องของจ๋า มันเหมือนโยนหินสองก้อนหนักๆเข้ามาให้ผมแบกพร้อมกัน ผมปวดหัว เครียด ไม่อยากคิดอะไร ไม่อยากทำอะไร แต่ถ้าปล่อยไว้ ผมเองนั่น่ะที่จะทุกข์ใจ หรือไม่ก็ตรอมใจตายไปเอง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2011 02:27:36 โดย eiky »

andyus1

  • บุคคลทั่วไป
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 24 Mar 26, 2010
«ตอบ #155 เมื่อ26-03-2010 07:40:39 »

อ่า นี่ละหนา พอไอเรื่องร้ายมันจะมา มันก็คอมโบกันมาเชียว

แม่ม เวลอัปอย่างไว เปนไงละเทพเลย (เกี่ยวกันไหม: ไม่ ฮาาา)

เอาน่า ตรวจดูให้แน่ แต่สตริปก็ให้ผลค่อนข้างแน่นอนนะคับ

วางแผนไว้เลยดีกว่า เอางี้ ให้พี่ป้อมไรนั่นมาสู่ขอไว้เลย

รับปริญญาเส็ดแต่งเลย น่าจะโอสุด

ส่วนเรื่องของพี่โยกะไอ่ตัวดี ตามนั้น เอาน้องมันอยู่ในกรอบ แล้วประคองๆ กันให้ตลอดน่าจะโอสุด

ปล. หวังว่าเรื่องร้ายๆ ผ่านไปทุกคนจะพบความสดใสด้านน่านะคร้าบบ

ออฟไลน์ sweetener

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 24 Mar 26, 2010
«ตอบ #156 เมื่อ26-03-2010 10:13:56 »

เรื่องของตัวเองก็ทุกข์ใจมากพอแล้ว ยังมีเรื่องของเพื่อนมาช่วยให้ทุกข์ทวีคูณอีก
แต่ฟ้าหลังฝนมักจะสวยงามเสมอค่ะ
 :L2:

ออฟไลน์ naiin

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2421
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-9
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 24 Mar 26, 2010
«ตอบ #157 เมื่อ26-03-2010 11:33:24 »

เรื่องตัวยังพันคออยู่ ไหนเรื่องเพิ่อนอีก รุมเร้ามากมายหลายปัญหา  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Vesi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +204/-3
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 24 Mar 26, 2010
«ตอบ #158 เมื่อ26-03-2010 17:26:23 »

หลายเรื่องรุมเร้าจริงๆ
อย่าเครียดตายก่อนล่ะ

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 24 Mar 26, 2010
«ตอบ #159 เมื่อ26-03-2010 18:57:25 »

หลากหลานอารมณ์มาก   ปรับอารมณ์แทบไม่ทัน  ทำไมทั้งดีใจและเศร้ามาพร้อมๆกันเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 24 Mar 26, 2010
« ตอบ #159 เมื่อ: 26-03-2010 18:57:25 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






salawinyeen

  • บุคคลทั่วไป
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 24 Mar 26, 2010
«ตอบ #160 เมื่อ26-03-2010 20:38:24 »

ชอบมากๆเลยครับ จะรีบอ่านให้จบ บบ   อิอิ 


จากน้องเอตัวจริง :o8:

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 24 Mar 26, 2010
«ตอบ #161 เมื่อ26-03-2010 20:50:40 »

ตอนต่อๆไปอาจจะน่าเบื่อหน่อยนะครับ ทุกคน พยายามเขียนแล้ว อยากให้คนอ่านชอบ แต่เรื่องมันเป็นแบบนี้จริงๆ ยังไงก็อย่าเพิ่งหยุดอ่านนะครับ


ขอบคุณทุกเมนต์ กำลังใจมาจากเมนต์ของทุกคนนี่ล่ะ





โย

เอ้ย

Eiky

jadezii

  • บุคคลทั่วไป
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 24 Mar 26, 2010
«ตอบ #162 เมื่อ26-03-2010 21:21:50 »

หลายเรื่องจริงๆเลย :sad4:
เฮ้อออออ :a6:

สู้ๆ ค่ะไรท์เตอร์ :a2:
ไม่หยุดอ่านหรอกค่า ^^ :m4:

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 24 Mar 26, 2010
«ตอบ #163 เมื่อ26-03-2010 21:52:22 »

ปวดหัวแทน เรื่องตัวเองยังคิดไม่ตกเจอเรื่องเพื่อนเข้าไปอีก  :เฮ้อ:
โยสู้ๆ จ๋าสู้ๆ ใจเย็นๆค่อยๆคิดละกันน๊า

เป็นกำลังใจให้ค่ะ


ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 24 Mar 26, 2010
«ตอบ #164 เมื่อ27-03-2010 00:44:12 »

 :เฮ้อ: บางครั้งเรื่องที่ไม่อยากให้เกิดที่สุดกลับเกิดกับตัวเราเองไม่มีใครคาดเดาได้ แต่ใครก็ระวัง
หวังว่านี่จะเป็นบทเรียนที่ดี...

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 24 Mar 26, 2010
«ตอบ #165 เมื่อ27-03-2010 09:45:25 »

คนแก่ปวดกะบาลค่ะ ปัยหาสาระพัด ประดังประเดเข้ามากันจัง

โย ไม่บอกเพื่อนหน่อยเหรอ ว่าปัญหาตัวเองยังแก้ไม่ตกเลย

ช่วยกันคิดหลายคนท่าจะดีกว่านะ  :pig4:

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 25 Mar 27, 2010
«ตอบ #166 เมื่อ27-03-2010 12:25:24 »

             ตอนนี้ สั้น นะครับ




                           ตอนที่ ยี่สิบห้า



พลบีบแตรรถดังอยู่หน้าบ้าน ผมมองหน้าจ๋า

"แล้วไอ้พลล่ะ แกจะบอกมันไหม"

จ๋ามองหน้าผม สายตามันน่าเห็นใจเหลือเกิน ผมนิ่งแล้วคิด

"อย่างน้อยมันก็เพื่อน เอาเถอะแก มีกันและกันแค่นี้ล่ะ"

ผมเดินออกไปเปิดประตูให้พล มันอยู่ในชุดทำงาน หน้าตาดูตื่นๆ

"เออ มีอะไรกันแก"

พลถาม แล้วมองหน้าผม ผมพยักหน้าแล้วให้มันเดินเข้าบ้าน

"มีอะไรแก"

มันนั่งลงตรงข้ามจ๋า ถามเสียงอ่อนโยน จ๋ามองหน้ามันแล้วเม้มปาก เหมือนมันพยายามไม่ให้ร้องไห้ออกมา พลเหมือนเข้าใจ มันหันมามองผมซึ่งทรุดตัวลงนั่งข้างๆจ๋า ผมหันไปมองจ๋ามันได้แต่ก้มหน้า ผมเองก็ลำบากใจ

"ฉันท้อง แก"

จ๋าพูดออกไปเอง มันคงลำบากใจมากกว่าผม

"อะไรนะ"

พลตะโกนทำท่าตกใจ ผมมองมันเตือนให้มันสงบลงหน่อย เพราะจ๋าคงไม่อยากได้ยินเพื่อนว่ามันอีกรอบ มันค่อยลดเสียงลง

"แล้วพี่ป้อม รู้เรื่องยัง"

มันถามเสียง เครียด จ๋าพยักหน้า

"แล้วเค้าว่าไง"

"กำลังคิดกันอยู่แก พี่ป้อมจะให้ผู้ใหญ่มาขอตอนรับปริญญาเสร็จ"

ผมตอบแทนเพราะจ๋ามันเบะ ปากอีกแล้ว ท่าน้ำตาจะทะลักออกมาอีก

"แล้วป๊าจะยอมเหรอแก รายนั้นก็ยังเรียนไม่จบ แกก็ยังไม่ได้ทำงาน"

คราวนี้มันปล่อยโฮออกมาเลย ใช่เรายังไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้ ผมบีบบ่าจ๋าเบาๆ แล้วมองพล มันทำหน้าเอ๋อเพราะไม่คิดว่าคำพูดของมันจะไปสะกิดใจมัน เรานั่งนิ่งไม่มีใครพูดอะไร ต่างถอนหายใจ มองหน้ากัน

"แล้วฉันจะทำ ยังไงดีแก"

จ๋าสะอื้น ถามออกมา

"ทำไงได้แก ปล่อยให้มันเลยตามเลย มาถึงขั้นนี้แล้ว แล้วแกปล่อยให้หลุดได้ไงแก ทำไมไม่ป้องกัน"

พลขึ้นเสียง

"เอาน่าแก ไหนๆ มันก็เกิดขึ้นแล้ว จะด่าว่ามันแล้วมันจะดีกว่านี้ไหม"

"ฉันไม่เข้าใจแกเลยจ๋า แกไม่เคยเป็นแบบนี้ คบใครต่อใคร ไม่เคยยอมเขาขนาดนี้ แล้วแกไว้ใจมันมากขนาดนี้เลยเหรอ ไอ้พี่ป้อมน่ะ"

พลพูดเสียงเครียด ขรึม จ๋ายิ่งสะอื้นไห้

"พล แกก็อย่าไปว่ามันมาก ช่วยกันคิดดีกว่าว่าจะทำยังไงดี"

ผมพยายามประครองไม่ให้เรื่องมัน ตึงเครียดมากไปกว่านี้ ไม่อยากได้ยินอะไรเครียดๆอีกแล้ว

"ไม่ได้ จะพอง่ายๆไม่ได้ เวลาทำทำไมไม่คิด เวลาเกิดเรื่องแล้วเป็นไง สนุกไหม ก่อนที่จะช่วยคิดขอด่าหน่อยเถอะ มักง่าย"

"พล"

ผมตวาด จ๋าก้มหน้าลงร้องไห้ยิ่งกว่าเดิม

"แกเสียใจเหรอ เราคุยกันกี่รอบแล้วเรื่องป้องกันไม่ป้องกัน แกทำไม"

พลยังไม่ยอมหยุด แต่มันก็พูดยังไม่ทันจบ น้ำตามันก็ร่วง

"แกเสียใจแค่ไหน แกรู้ไว้นะจ๋า ฉันเองก็เสียใจ"

มันสะอื้น

"ทำไม ปล่อยตัวแบบนี้ มั่นใจมากเลยเหรอ ว่ามันจะยอมรับแก ถ้ามันไม่ยอมรับล่ะ รักมันมากเลยเหรอ แกมันรักมันมากกว่าอนาคตของแกเลยเหรอ แกถึงทำแบบนี้"

"ฉัน ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้นะแก มันพลาดแกได้ยินไหม มันพลาด แกจะให้ฉันทำยังไง จะให้ฉันเอามันออกเหรอไอ้เด็กคนนี้"

จ๋าสวนขึ้นมาทั้งน้ำตา ผมเหมือนกำแพงกั้นระหว่างกองทรายกับน้ำทะเล อีกฝ่ายโหมเข้าใส่ อีกฝ่ายก็ไม่อยากให้บอบช้ำ ผมเองที่ปวดใจเหลือเกิน ยิ่งมีแผลในใจ ยิ่งเห็นเพื่อนรักเป็นแบบนี้ ยิ่งแทงใจ

"จะทะเลาะกันอีกนานไหม ได้อะไร หา พวกแกทะเลาะกันให้มันได้อะไรขึ้นมา เสียใจ ทุกคนก็เสียใจ เรื่องที่เกิดขึ้นแล้วจะขุดขึ้นมาพูดให้ได้อะไร ทำไมไม่ช่วยกันคิด มันไม่ดีกว่านั่งเถียงกันเหรอ"

ผมทนไม่ไหวตะโกนขึ้น น้ำตาซึมหางตาไม่ร้องไห้มาก เพราะร้องมามากพอแล้ว ทั้งสองเงียบ เราทั้งสามกลับมานั่งเงียบอีกครั้ง เสียงสะอื้นปนเสียงถอนหายใจดังเป็นระยะ ลำบากใจเหลือเกิน คิดไม่ออกเลยว่าควรจะทำยังไงดี คิดเรื่องจ๋าเรื่องส่วนตัวของผมก็แทรกเข้ามา

"แล้วแกจะบอกป๊าไหม หรือว่าจะรอให้เขามาขอก่อน"
  
พลพูดขึ้นมาทำลายความเงียบ จ๋าส่ายหน้าไม่มีคำตอบ

"เรื่องจะเอาเด็กออก ไม่ต้องคิด คนทั้งคน เวลาพ่อกับแม่มันสนุกสนานกัน เคยคิดป่ะล่ะว่าจะเป็นแบบนี้ มีแต่ครางขออีกๆ เชอะ"

ผมอดอมยิ้มไม่ได้ จ๋าเองก็หัวเราะออกมาทั้งน้ำตา

"อี บ้า"

เราหัวเราะออกมาจนได้ มันเครียดก็จริง แต่ทำยังไงได้ เรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว เหมือนผมกับเรื่องที่สุมอกอยู่ตอนนี้ แต่เราจะยิ้มได้นานสักแค่ไหนเชียว

"นั่นสินะแก อย่าคิดมากเลย ป๊าเขาคงไม่ฆ่าแกหรอก"

ผมปลอบ จ๋าค่อยดูหายเศร้าขึ้นมาหน่อย

"ท้อง สาวน่ะมันไม่ใหญ่หรอกแก อีกไม่กี่เดือนก็รับปริญญาแล้ว พอรับเสร็จก็แต่ง ไม่แปลกหรอก"

พลเสริม

"ว่าแต่แกเถอะ ช่วงนี้เป็นไรเห็นเงียบๆ"

พลหันมาทางผม จ๋าเองก็จ้องมาที่ผม

"ปล่าวนี่ ก็แค่เป็นไข้"

"เป็นไข้ต้องปิดมือถือไม่บอกไม่กล่าวเพื่อนเลย เหรอ แปลกว่ะ"

พลยังคงสงสัย

"เออ นั่นสิ ฉันก็เป็นห่วง ยิ่งมีเรื่อง ยิ่งอยากคุย แต่แกก็ไม่รับโทรศัพท์ มีอะไรหรือเปล่าแก"

"ไม่ มี เออกินน้ำไหมแกคุยตั้งนาน เดี๋ยวไปเอาน้ำมาให้"

ผมเปลี่ยนเรื่อง ไม่คิดจะปิดเพื่อนแต่ยังไม่อยากเล่าตอนนี้ ผมลุกออกจากโต๊ะทันที

"ไม่ ใช่โดนของใหญ่จนไข้ขึ้นเร้อแก ฉันก็เคยเป็น"

ผมหันมาค้อนพลวงใหญ่ มันพูดขึ้นมาลอยๆ แต่มันแทงใจเหลือเกิน แล้วก็เดินเข้าครัวไปเลย

"โห พูดแค่นี้ทำเป็นค้อน จริงเหรอโย ใครอ่ะ เฮ้ยอย่าบอกนะว่า"

พลมัน ร้องตาม ผมรู้สึกอายเพื่อนเหลือเกิน นี่มันชักจะรู้มากไปแล้ว ผมนั่งลงที่เก้าอี้ในครัว คิดว่าควรจะบอกพวกมันดีไหม ใจหนึ่งก็ไม่มีเรื่องไหนที่เคยปิดพวกมันได้ ใจหนึ่งมันไม่ใช่เรื่องที่จะบอกใครๆได้ง่ายๆ แม้แต่ตัวของผมเอง ผมยังทำใจรับไม่ได้เลย แล้วเพื่อนล่ะมันจะทำใจรับได้เหรอ เรื่องบางเรื่องเราก็ขอให้มันเป็นควาลับฝังอยู่ในใจของเราคนเดียวไปจนวันตาย แต่ท่าทางมันคงไม่ลงง่ายๆ ผมยกถาดน้ำมะตูมออกไป เตรียมใจที่จะเผชิญกับคำถามของเพื่อนๆ เข้มแข็งไว้ โย แกต้องเข้มแข็ง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2011 02:28:10 โดย eiky »

ออฟไลน์ Vesi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +204/-3
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 25 Mar 27, 2010
«ตอบ #167 เมื่อ27-03-2010 12:46:07 »


"ไม่ ใช่โดนของใหญ่จนไข้ขึ้นเร้อแก ฉันก็เคยเป็น"

 :laugh: :m20:

ใหญ่ขนาดนั้นเชียว.....

สุดโฉด

  • บุคคลทั่วไป
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 25 Mar 27, 2010
«ตอบ #168 เมื่อ27-03-2010 13:11:24 »

รอตอนต่อไป 

 :กอด1:คนแต่ง

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 25 Mar 27, 2010
«ตอบ #169 เมื่อ27-03-2010 14:55:07 »

 :laugh: แหมโยแค่นี้ทำเป็นอายไปได้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 25 Mar 27, 2010
« ตอบ #169 เมื่อ: 27-03-2010 14:55:07 »





jadezii

  • บุคคลทั่วไป
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 25 Mar 27, 2010
«ตอบ #170 เมื่อ27-03-2010 15:05:27 »

:call: :call: :call: :call:

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 26 Mar 27, 2010
«ตอบ #171 เมื่อ27-03-2010 19:30:08 »

 ตามคำขอคร้าบบบ  ขอบคุณทุกเสียง





                     ตอน ยี่สิบหก




ผม ถือถาดน้ำมะตูมออกไปในใจก็สั่นไหวกลัวว่าเพื่อนจะถาม ไม่ใช่จะปิดบังแต่ผมยังไม่พร้อมที่จะเล่าอะไรในตอนนี้ ทั้งสองคนมองหน้าผมจ๋าแม้จะมีสีหน้าเศร้าอยู่แต่แววตามันก็อยากรู้มาก นี่คงถึงตาผมเผยความจริงแล้วสินะ




"ไป เอาน้ำแค่นี้ไปเป็นชั่วโมงเลยนะแก"


พล แซว


"เออ จ๋า เรื่องแกน่ะฉันว่า"


"อย่า มาเปลี่ยนเรื่อง ไม่ได้ผลหรอกแก หลอกฉันสองคนไม่ได้หรอก"


พล สวนขึ้นมา ทั้งที่ผมพยายามวกกลับไปเรื่องของจ๋า


"อะไร ล่ะแก ก็บอกเป็นไข้ธรรมดา นี่ก็เพิ่งสร่างอย่าซักมากได้ไหม"


ผม หัวเสียใส่


"ไม่ จริง เวลาแกไม่สบายแกไม่เป็นแบบนี้ ฉันรู้ ไม่ทำท่ามีความลับพันล้านแบบนี้หรอก"


ที นี้จ๋าเสริม


"อ้าว แก ก็คราวนี้มันไม่สบายมาก ฉันก็แค่เครียดๆ"


"เครียด เรื่องน้องเอหรือเปล่าแก"


พล เหน็บ แต่ผมรู้สึกจริงๆ ไม่รู้ว่ามันระแคะระคายจากเรื่องที่เคยเล่าให้ฟังหรือด้วยความที่มันฉลาดนัก เรื่องของชาวบ้านก็ไม่แน่ใจ ผมมองค้อนพล


"แน่ะ แน๊ มองแบบนี้มีอะไรแน่ๆ ไหนแกเล่ามาซิ"


"โอ๊ย ไม่มีอะไรแก ตอนนี้สนใจเรื่องของจ๋าก่อนดีไหม ฉันไม่มีอะไร"


"ฉัน โอเคแล้วแก ว่าเรื่องของแกมาเถอะ"


จ๋า ปาดน้ำตาออกแล้วทำหน้าอยากรู้อยากเห็นจนหน้าหมั่นไส้ ไม่ยักรู้ว่าเมื่อกี้มันเพิ่งร้องไห้หมดสภาพ


"ไม่ มีอะไร ไม่มีอะไรทั้งนั้น"


ผม โวยวาย


"โย แกเป็นเพื่อนฉันนะ แกเปลี่ยนไปยังไงทำไมฉันจะดูไม่ออก แกดูไม่สบายใจขนาดนี้ ฉันดูออก อย่ามาปิดบังเลย"


จ๋า พูดเสียงอ้อนวอน


"ใช่ แก ทีเรื่องจ๋า เรายังปรึกษากัน แล้วแกมีเรื่องอะไรทำไมจะไม่ปรึกษาพวกฉันล่ะ"


ผม นั่งนิ่งหน้าสลดลงทันที ในที่สุดพวกมันก็จะล้วงความในใจของผมออกมาให้ได้จริงๆใช่ไหม ผมถอนหายใจคิดทบทวน ขัดแย้งในใจทำไมแม้แต่เพื่อนที่สนิทอย่างพวกมันไม่เคยมีเรื่องใดปิดบังกัน ผมยังรู้สึกลำบากใจที่จะบอก ยากเหลือเกิน


"ฉัน มีอะไรกับไอ้เอ"


ผม พูดเหมือนกระซิบ เสียงเบาลอดออกมาจากช่องคออย่างยากเย็น มันดังออกมาจากห้วงที่ลึกที่สุดของหัวใจ ความอายทำให้ผมไม่กล้าที่จะพูดมันออกมาได้อย่างเต็มใจ


"หา อะไรนะ"


ทั้ง สองตะโกนพร้อมกัน มันมองหน้าผมทีแล้วมองหน้ากัน


"ฉัน ว่าแล้ว มันต้องมีวันนี้"


พล พูดขึ้น จ๋าตีมือมัน


"ฉัน แย่มากเลยใช่ไหมแก ที่คุมตัวเองไม่อยู่"


ผม พูดเสียงเศร้ารังเกียจตัวเองขึ้นมา


"ไม่ หรอกแก อย่าคิดมาก ไม่เห็นเป็นไรเลย แค่มีอะไรกัน"


จ๋า พูดเสียงอ่อนโยน รู้ว่ามันพยายามพูดให้ผมรู้สึกดีขึ้น แต่ผมไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเลย


"นั่น สิแก คิดอะไรมากมาย เด็กมันยั่วนักก็จัดไป"


"เรื่อง แค่นี้เหรอที่ทำให้แกนั่งเศร้าจนป่วย"


จ๋า มองหน้าผม


"แค่ นี้เหรอแก แม่รู้แล้ว แม่ดูผิดหวังมาก"


ผม กระแทกเสียง ไม่ได้ตั้งใจ หวังจะให้เพื่อนเข้าใจตัวเองโดยที่ไม่พูดคงจะประหลาด


"หา แม่รู้ด้วยเหรอ"


ทั้ง สองอุทานพร้อมกันอีกครั้ง ผมพยักหน้า


"นี่ ล่ะที่ฉันกลุ้มใจ"


"แต่ แม่คงเข้าใจนะแก อย่าคิดมากเลย"


จ๋า จับบ่าผมแล้วบีบเบาๆ


"นั่น สิ แม่เป็นแม่พระจะตาย แม่เข้าใจล่ะ"


"ยิ่ง แม่ดีเท่าไหร่ วางใจเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ฉันตอบแทนแม่ล่ะแก ดูฉันทำสิ ปล่อยให้อารมณ์ชั่ววูบทำลายความไว้วางใจที่แม่มีให้ ไหนจะอาจารย์ปริศนาอีก เขาอุตส่าห์ไว้วางใจให้บอกให้สอนลูกเขา แต่ฉันกลับทำมันพัง ฉันจะมองหน้าแม่ยังไง สายตาแม่ตำหนิฉันมาก ตั้งแต่เกิดมา ฉันไม่เคยทำให้แม่เสียใจเลย แม่ไม่เคยเสียใจเลย แต่คราวนี้"


ความ ในใจที่เก็บไว้มานานพรั่งพรูออกมา ผมร้องไห้ สะอื้นอย่างช้ำใจ เพื่อนทั้งสอบเงียบนิ่งไม่มีเสียงหลุดออกมาจากปากของใคร


"คราว นี้ฉันมันแย่มากเลยใช่ไหม ผ่านอะไรมามากมาย แค่เรื่องแค่นี้ฉันยังทำไม่ได้ แล้วฉันจะทำยังไงแก ฉันจะทำยังไง"


ผม โอดครวญ พูดทั้งน้ำตา


"โย"


จ๋า เรียกชื่อแล้วกอดผม ผมร้องไห้จนพอใจ เพื่อนก็เงียบนั่งดูอยู่ พลก็บีบมือให้กำลังใจ


"โอ๊ย นีมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมมีแต่เรื่องนะช่วงนี้ ไปทำบุญกันเถอะแก"


พล พูดขึ้น


"นั่น สิ ฉันว่าฉันคงมีเรื่องแค่คนเดียว แกใจเย็นๆนะโย อย่าคิดมาก แม่เสียใจ แต่แม่คงเข้าใจล่ะ"


ผม พยักหน้ายอมรับน้ำใจจากเพื่อน แต่ใจจริงผมยังคงรังเกียจตัวเอง ทำใจยอมรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น กับลูกเลวอย่างผม เรานั่งคุยกันจนเกือบเที่ยงจึงมาทำกับข้าวกินกัน พอกินเสร็จก็นั่งคุยกันต่อ คุยกับเพื่อนแล้วรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย จ๋าเองก็ดูไม่เครียดแล้ว อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด พยายามทำให้มันดีที่สุด เราปลอบใจกันด้วยคำพูดเหล่านี้ หน้าก็บอกรับรู้เข้าใจ แต่ในใจไม่รู้ว่าจ๋าเองมันจะทำได้อย่างที่พูดหรือเปล่า เพราะผมเองทำไม่ได้


เรา นั่งดูโทรทัศน์สักพักก็ออกมานั่งคุยกันต่อที่ม้าหินอ่อนหน้าบ้าน เกือบสี่โมง เราทั้งสามก็สะดุ้งเพราะมีเป้โยนเข้ามาในบ้าน


"เฮ้ย ขโมย"


พล ร้อง


"ไม่ ใช่หรอก ไอ้เอ"


ผม บอก เพราะเป้นักเรียนของมันคุ้นตา อีกอย่างมันคงปีนเข้าบ้านผมจนชิน พอพูดจบก็เห็นร่างของมันปีนรั้วเข้ามา มันชะงักอยู่บนรั้วบ้าน คงตกใจที่มองเห็นเรานั่งอยู่ มันยิ้มแห้งๆแล้วค่อยกระโดดลงจากรั้ว พอมันหยิบเป้ขึ้นมาก็ยืนเก้ๆกังๆอยู่สักพัก ค่อยเดินเข้ามา มันยังคงใส่กางเกงนักเรียนแต่เสื้อเป็นเสื้อเล่นบาสฯ


"หวัด ดีครับพี่"


มัน ยกมือไหว้เพื่อนทั้งสองแล้วยืนเขินอยู่


"ไหนบอก จะซ้อมบาสไง แล้วทำไมกลับเร็ว"


ผม ถามกลัวมันจะเขินจนทำอะไรไม่ถูก


"ก็ เค้า เอ่อ ผมเจ็บหลังเลยกลับก่อน"


มัน หน้าแดง รีบเปลี่ยนสรรพนามแทนตัว เพิ่งรู้ว่าไอ้นี่ก็มียางอาย มันเดินมานั่งเบียดผมทันที


"เนี่ย เหรอน้องเอ เข้าใจแล้วล่ะแกว่าทำไมมันถึงเกินเลย"


พล พูดแล้วยิ้มมองสำรวจไอ้เอ จนผมเองที่อายแทนมัน


"เอ ขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไป"


ผม พูดแล้วดันให้มันลุก มันทำหน้างงๆแต่ก็ยอมลุกไปแต่โดยดี พอลับหลังมันพลก็ทำหน้าตาตื่นตาโตใส่


"หล่อ ว่ะแก ไม่แปลกใจหรอกที่แกจะเกินเลยกับมัน ตัวสูงใหญ่หล่อล่ำขนาดนี้ เป็นฉันนะตั้งแต่มันยั่ววันแรกแล้วแก"


"อี บ้า คนมันยิ่งเครียดๆอยู่ ใครจะเหมือนแก แหม"


"เงียบ ไปเลยจ๋า"


พล แว้ดใส่ แล้วหันมาทางผมอีก ผมไม่ได้ยินดียินร้ายกับมัน แต่ทำตัวไม่ถูก


"แก จะไปเครียดอะร้าย เด็กมันหล่อออกขนาดนี้ น่ากินมาก รู้งี้ฉันไปรับจ้างสอนพิเศษด้วยก็ดี ดูท่าคงจะไม่น้อย อิอิ เพื่อนฉันถึงกับเป็นไข้"


"นี่ แก มากไปแล้ว ไม่ต้องคุยเรื่องนี้แล้ว ฉันไม่สนุกด้วย"


ผม โวยใส่ ไม่พอใจมันที่พูดทุกอย่างเป็นเรื่องเล่นไปเสียหมด


"น่า แก อย่าเครียด น่าจะพอใจมากกว่านะฉันว่า"


มัน อมยิ้ม


"โอ๊ย ไม่อยากคุย กลับบ้านได้แล้วแก ไปพักเถอะจ๋าแกเองก็เครียด ส่วนแกกลับไปหาเด็กแกเถอะ"


"จ้า พอเด็กมาก็ไล่เพื่อนเลย ปะจ๋าเรากลับ มันจะสานสัมพันธ์กับน้องเอ"


มัน ล้อ ผมค้อนวงใหญ่ มันรีบลุกแล้วดึงมือจ๋าลุกตาม


"แก มีอะไรโทรมานะ ไม่ต้องคิดมาก"


จ๋า บอกก่อนจะเดินไปตามแรงดึงของไอ้พล รายนั้นยิ้มกรุ้มกริ่ม


"อย่า หักโหมนักล่ะแก เดี๋ยวไข้ขึ้นอีก อิอิ"


"ไอ้ นี่ เดี๋ยวเถอะ"


พอ เพื่อนออกจากบ้าน ผมก็ปิดประตูถอนหายใจ ไม่ได้โล่งใจแต่รู้สึกแปลกๆนี่มันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปนะ ผมคิดไม่ตกจริงๆ เรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นมันดูประดังประเดเข้ามาเกินจะรับ ความรู้สึกก็อ่อนล้าเหลือเกิน ไม่อยากจะทำอะไร ไม่อยากจะคิดอะไร
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2011 02:28:36 โดย eiky »

salawinyeen

  • บุคคลทั่วไป
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 26 Mar 27, 2010
«ตอบ #172 เมื่อ27-03-2010 20:19:57 »

 :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:
 :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:



ขอบคุณมากนะครับ  ขอบคุณจริงๆ  จาก น้องเอตัวจริง

ออฟไลน์ Vesi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +204/-3
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 26 Mar 27, 2010
«ตอบ #173 เมื่อ27-03-2010 22:28:22 »

ความแตกซะละ หุหุหุ
แต่เป็นเรา เราก็กินนะ ก็เด็กมันยั่วอ่ะ :laugh:

jadezii

  • บุคคลทั่วไป
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 26 Mar 27, 2010
«ตอบ #174 เมื่อ27-03-2010 22:42:57 »

โย คิดมากไปแล้ววววววววววว :try2:

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 26 Mar 27, 2010
«ตอบ #175 เมื่อ27-03-2010 23:12:45 »

พอน้องเอทำอายๆ ก้อดูน่ารักดีนะ หุหุ

รอตอนต่อไปค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ

andyus1

  • บุคคลทั่วไป
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 26 Mar 27, 2010
«ตอบ #176 เมื่อ28-03-2010 02:17:17 »

เอาน่า อย่ามัวแต่กังวล คิดทางออกได้แล้ว

เดินไปทีละขั้น แล้วจะค่อยๆ ดีขึ้น

มาต่ออีกคับ สงสารน้องเอ เมียมันจะรักมันขึ้นบ้างไหมหนอ เจ็บตัวขนาด

เอ้อ ถือว่าเจ๊ากันเนอะ น้องมันยอมขนาดนั้นแล้ว อย่าผลักไสน้องมันเลย

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 26 Mar 27, 2010
«ตอบ #177 เมื่อ28-03-2010 11:09:29 »

ทุกปัญหา มีทางออกของมันเองนะค่ะ
 :pig4:

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 26 Mar 27, 2010
«ตอบ #178 เมื่อ28-03-2010 11:28:11 »

ความเศร้า ความเครียด ความไม่สบายใจ มันมาพร้อมกับความหวานเลยนะครับ 

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ตอน 27 Mar 28, 2010
«ตอบ #179 เมื่อ28-03-2010 11:59:00 »

เพิ่งเสร็จ สดๆร้อนๆ ต่อเลย ค้าบบบ



                         ตอน ยี่สิบเจ็ด



"เฮ้ย ตกใจหมด มายืนทำไมตรงนี้"
 
พอผมหันหลังกลับก็เห็นมันยืนดักอยู่แล้ว
 
"ก็เห็นเพื่อนตัวเองกลับเค้าก็ลงมาดิ ตัวเองเค้าเจ็บหลังอ่ะ วันนี้เลยอยู่ซ้อมบาสไม่ได้เลย ดูให้หน่อยดิ"
 
มันอ้อนแล้วมาลากมือผมให้เดินตามมันไปที่ม้าหินอ่อน มันนั่งลงหันหลังให้ ไม่รู้เหมือนกันทำไมถึงยอมตามมันไปง่ายดายโดยไม่ขัดขืนเลย ผมค่อยๆถลกเสื้อมันขึ้น แผลมันเริ่มตกสะเก็ดแล้ว แต่ตรงกลางของแผลบวมใหญ่กว่าใคร แผลมันเป็นหนอง
 
"เดี๋ยวล้างแผลให้ รอแป๊บ"
 
ผมเดินเข้าไปในบ้านแล้วหยิบกล่องยาออกมา ผมหาเข็มหมุดมาด้วยอันหนึ่ง ผมค่อยๆล้างแผลให้มัน
 
"ทนเจ็บหน่อยนะ"
 
ผมบอกมันก่อนที่จะเอาเข็มหมุดค่อยๆแคะแผลให้หนองไหลออก มา พอเสร็จผมก็เช็ดแผลให้มันอีก ความจริงผมชอบบีบสิวนะไม่รู้ทำไม หน้ากบเยินก็เพราะผม ชอบจับมันให้มานั่งแล้วพิจารณาหน้ามัน แต่ก็รักษาให้จนตอนนี้ไม่ได้บีบของมันแล้ว ผมค่อยๆทำอย่างบรรจง ลืมความเกลียดชังมันไปชั่วขณะ

"เอ๊ะ เราอาบน้ำแล้วเหรอ"

ผม คิดขึ้นมาได้ เพราะทำแผลให้มันอย่างดีปิดผ้าเรียบร้อย

"ยัง จ๊ะ"

"อ้าว ไม่ต้องทำใหม่หรอกเหรอ"

ผมหยุดทำทันที พอดีกับเสียงรถมาจอดหน้าบ้านแม่คงกลับมาแล้ว ผมผละออกจากมันแล้วเดินไปเปิดประตูให้แม่เอารถเข้ามาจอด

"หิวไหมเอ"

แม่ ทักมันแล้วเดินลงมานั่งข้างหน้า มันยกมือไหว้

"นิดหน่อยครับ แม่อร ซื้อดอกไม้มาเยอะแยะเลย วันพระเหรอครับ"

มันเข้าใจพูดประจบผู้ใหญ่ผม ยืมมองท่าทางของมันอย่างหมั่นไส้

"จ๊ะ แม่ซื้อมาไหว้พระให้พี่เขานั่นล่ะจัดการให้ อาบน้ำหรือยังล่ะเรา"

"ยัง ครับ พี่โยเพิ่งทำแผลให้ วันนี้แม่อรจะทำอะไรให้ผมกินครับ"

"อยากกิน อะไรล่ะจ๊ะ แต่ถ้าพี่เขาอยู่พี่เขานะทำ แม่ไม่ได้ทำหรอก"

ผมเอาของ แม่เข้าไปเก็บในบ้านแล้วเอาน้ำมะตูมออกมาให้แม่

"อ้าวแล้วของผมล่ะ พี่"

มันถามแล้วมองหน้าผมแบบกวนๆ

"อ้าวนึกว่ากินแล้ว เข้าไปเอาสิในครัวน่ะ" ผมย้อน รู้ทันมัน

"โย ทำไมไม่เอามาให้น้องด้วยล่ะลูก"

แม่เตือน ผมมองหน้ามันอย่างหมั่นไส้เหลือทน ไอ้นี่มันช่างตลบแตลงได้ใจเสียจริง แล้วก็เดินเข้าไปในครัว แต่ผมก็ไม่สนใจจะเอาน้ำไปให้มัน เพราะผมเปิดตู้เย็นดูของที่จะทำกับข้าว แล้วก็เอาผักออกมาแช่น้ำด่างทับทิม แล้วก็เอาปลาออกมาล้าง ทำจนลืม

"ไหนอ่ะน้ำเค้าอ่ะ"

มันเดิน เข้ามาตาม

"นั่นไง ไม่มีมือเหรอ"

"โห ตัวเองใจร้ายอ่ะ เค้ารอกินน้ำจนคอแห้งไปหมดแระ"

มันเดินเข้ามาใกล้ จนผมต้องถอยออกมองไปดูข้างนอกเผื่อแม่จะเดินมาเห็น

"แม่ขึ้นไปอาบน้ำ แล้ว"

มันบอกเหมือนรู้

"แหม ทีต่อหน้าแม่ นี่พี่โยๆ ผมยังงั้นผมอย่างนี้ ทีตอนนี้ไม่พูดอย่างนั้นล่ะ"

ผมเหน็บมัน

"อ้าว ก็ตัวเองบอกว่าอย่าประเจิดประเจ้อไง หรือจะให้เค้าพูดแบบนี้ต่อหน้าแม่อร เอาไหมล่ะ"

"ก็ลองสิ อย่าหาว่าไม่เตือน"

"จะทำอะไรสามีค้าบบ"

มัน ล้อเลียน ผมอดไม่ได้เอาทัพพีโขกหัวมัน

"โอ๊ย ตัวเองอ่ะ เล่นแรงทุกทีเลย เดี๋ยวเถอะ คืนนี้เจอกัน"

"ไอ้บ้า ฉันจะไปนอนกับแม่"

"ไม่ได้หรอก เพราะบอกแม่อรไว้แล้ว ว่าเค้ากลัวผี อิอิ ลองดู๊ ถ้าแม่อรยอม"

ผมยกมือที่ถือทัพพีขึ้นกะจะฟาดให้หนัก

"โย ทำอะไรน่ะลูก"

ตายล่ะสิ แม่มา ผมหยุดแล้วทำท่าชี้มือไปทางอ่างล้างผัก

"เอ่อ โยใช้น้องมันล้างผักน่ะแม่ ไม่มีอะไรครับ"

"อะไร แม่เห็นอยู่ จะทำอะไรน้อง เรานี่ทำตัวเป็นเด็กๆ คุยกันแล้วนะ"

แม่ดุแล้วเดินเข้ามา แม่ยังไม่อาบน้ำแต่มีหมวกคลุมหัวเอาไว้แล้ว ผมทำหน้ามุ่ยทันที มันเดินไปหลังแม่ทั้งที่ตัวสูงใหญ่กว่า

"อย่าให้แม่รู้นะว่าเราทำ อะไรรุนแรงกับน้อง"

แม่พูดเสียงแข็ง ผมได้แต่ก้มหน้า อยากจะถีบมันเหลือเกิน ไม่เคยเห็นใครปลิ้นปล้อนเท่ามัน

"แล้วนี่ทำอะไรกิน ตาเอก็ไปอาบน้ำได้แล้วลูก หรือจะช่วยพี่เขาทำกับข้าว"

แม่เปลี่ยนเสียงทันทีเวลาพูดกับมัน

"เอ จะช่วยทำครับ"

ผมถลนตา ใส่มันทันที

"โย"

แม่เรียกเสียงเรียบยาว กว่าแม่จะออกไปจากครัวผมต้องทนก้มหน้ายอมรับทุกสถานการณ์

"ไหน ตัวเอง มีอะไรให้เค้าทำอ่ะ"

มันพูดเสียงเคล้าเสียงหัวเราะ มันพูดแบบนี้แสดงว่าแม่ไปแล้ว ดีล่ะ แกเตรียมตัวได้เลย

"แหม ขออีกสักทีเถอะ"

"แม่อร" มันตะโกน

ผมง้างมือกะจะฟาดเข้าที่กกหูมันสักที ผมทำอะไรมันไม่ได้ ผมได้แต่กัดปากตัวเอง เก็บความแค้นไว้ในใจ

"จะนอนห้องพี่ใช่ไหมคืนนี้ ได้ เราจะนอนด้วยกัน"

ผมกัดฟันพูดสายตามอง มันอย่างเคียดแค้น

"โห ดูทำหน้าเข้า จะกินเลือดเค้าเหรอ อิอิ เค้ากลัวนะ อย่ากินเลือดเค้าหมดตัวนะ เดี๋ยวเค้าไม่มีแรงกอดตัวเอง"

ผมอยากจะกราบพระ เทพเจ้าเทวดาองค์ไหนโปรดให้ลูกพ้นจากไอ้นี่ทีเถอะ รู้สึกต่อมโมโหพุ่งทะยานสูงลิ่ว อยากจะขย้ำคอมันเหลือเกิน พอเสร็จผมก็เตรียมสำรับ แม่อาบน้ำเสร็จก็กินข้าว ระหว่างกินมันก็ชวนแม่คุยนั่นคุยนี่ไม่กวนผมอีก กินข้าวเสร็จก็ทำความสะอาด แม่นั่งทำงานที่โต๊ะผมเองก็เอาดอกไม้ใส่แจกันให้ ส่วนไอ้ตัวดีไปอาบน้ำ

"นี่ โย เวลาอยู่กับน้องน่ะ ระงับอารมณ์หน่อยสิลูก อย่าโมโหง่าย ก็รู้อยู่ว่าน้องมันกวน เราต้องคุมมันให้ได้ อย่าเอาแต่อารมณ์"

แม่ เรียกผมเข้าไปเตือน ผมได้แต่พยักหน้ารับ แม่ไม่รู้หรอกว่ามันกวนมากแค่ไหน นี่ขนาดพยายามทำใจเย็นที่สุดแล้วนะ ผมแย้งแม่ในใจ

"แม่รู้ว่าเราทำใจ ลำบาก แต่พยายามหน่อยนะลูก อย่างน้อยก็เพื่อน้องมัน และเพื่อพี่ปริศนา"

แม่เทศน์ชุดใหญ่ ผมก็ได้แต่ทำท่าเดียวก้มหน้าแล้วก็พยักหน้าตอบรับ ผมขอตัวแม่ไปอาบน้ำ เพราะไอ้ตัวดีมันลงมาดูโทรทัศน์ พออาบน้ำเสร็จก็เข้าห้อง เห็นมันนอนทำท่าอ่านหนังสืออยู่ ผมรีบแต่งตัวแล้วลงมาปิดบ้าน คิดอยู่ว่าจะไปนอนที่ห้องตัวเองดีหรือเปล่า ถ้าขอไปนอนห้องแม่ แบบนั้นแม่ยิ่งจะสงสัยไปกันใหญ่ ผมจำใจต้องนอนห้องเดียวกับมันอีกตามเคย มันไม่อยู่ที่เตียงแล้ว แต่มันนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะ ผมเดินเข้าห้องไปเงียบๆ มันหันมามองแต่ก็กลับไปอ่านหนังสือต่อ เออดีไม่ต้องมากวน ผมเอนหลังหยิบหนังสือนิยายที่อ่านค้างไว้มาอ่าน นานจนง่วงผมจึงหลับไป รู้สึกตัวตอนมีคนมากอด

"คิดถึงจัง"

มันพูดอู้อี้อยู่ข้างหู

"อะไร จะนอน"

ผมพาล

"คิดถึงตัวเองจัง ยิ่งอยู่ใกล้ ยิ่งคิดถึง อยากจะกอดอยู่อย่างนี้"

"พอเถอะ เลี่ยน อ่านเสร็จแล้วเหรอ"

ผม ผลักหน้ามันออก รำคาญ

"ยัง แต่มากล่อมตัวเองให้หลับก่อน เดี๋ยวเค้าไปอ่านต่อ เดี๋ยวไม่ได้ตามเป้า แม่อรยิ่งเตือนๆอยู่"

นี่ มันคุยอะไรกับแม่กันแน่ ผมยิ่งสงสัยไม่เข้าใจไปใหญ่ นับวันแม่ชักจะมีความลับกับผมมากขึ้นทุกวัน ไอ้นี่อีกคน ต่อหน้าแม่ก็อีกอย่างแต่พอลับหลังก็เปลี่ยนเป็นปีศาจเหมือนเดิม

"จะ นอนแล้ว ไปทำอะไรก็ทำ อย่ามากวน"

"หอมแก้มเค้าหน่อยดิ นะนะ ตัวเองหอมเค้าหน่อย เป็นกำลังใจ"

"โอ๊ย กำลังจงกำลังใจอะไรล่ะ คนจะนอน"

"โห อ่ะ"

มันเอาแก้มมันมาประกบปากผม ยอมมันจริงๆ ไม่ว่าจะทำอะไรจะด่ายังไง มันก็ไม่สะท้านเลย มันกลับไปอ่านหนังสือต่อผมก็นอนหลับสบายไปเลย ผมเองก็แปลกพอนอนแล้วถ้าหลับสนิทมักจะไม่รู้ตัว เวลามันกอดมันก่าย นี่มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมไปแล้วหรือ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2011 02:29:32 โดย eiky »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด