Boy's Story ให้รักนำทางใจ ( พิเศษ ) ๒๔ มกราคม ๒๕๕๕ หน้า ๓๔
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ชอบเรื่องนี้หรือเปล่า

เฉยๆๆ
18 (5.9%)
ชอบ
280 (92.1%)
ไม่ชอบ
6 (2%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 181

ผู้เขียน หัวข้อ: Boy's Story ให้รักนำทางใจ ( พิเศษ ) ๒๔ มกราคม ๒๕๕๕ หน้า ๓๔  (อ่าน 305981 ครั้ง)

ออฟไลน์ sweetener

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ
«ตอบ #30 เมื่อ12-03-2010 23:49:58 »

เด็กมันยั่วอารมณ์ดีจัง

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ
«ตอบ #31 เมื่อ13-03-2010 00:45:17 »

ไม่น่าเชื่อ น้องโยแรงอ่ะ

+1 writer สนุกมาก

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ
«ตอบ #32 เมื่อ13-03-2010 01:05:46 »

 :sad4: โยแรงน่ากลัวมากมาย แต่มันต้องอย่างนี้ล่ะถึงจะคุมเจ้าเออยู่
แล้วจะรออ่านต่อ
นิว(ยิ้มๆ)

[[_GozpeL_]]

  • บุคคลทั่วไป
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ
«ตอบ #33 เมื่อ13-03-2010 17:03:50 »

โย...แรงมาก!
รออ่านต่อค่ะ^^"

 :กอด1: :กอด1:คนเขียนนนน

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ
«ตอบ #34 เมื่อ13-03-2010 17:29:33 »

Thanks for every comments..............


                                  ตอน แปด ค้าบบบบบบบ



ตอน แรกเราตกลงกันไว้ว่า จะไปกินหมูกระทะที่สามแยก อ่อนนุช แต่เอาไปเอามา เลยตัดสินใจว่าจะซื้อของไปทำสุกี้กินที่บ้านผมแทน ผมโทรบอกแม่เสร็จ เราจึงแวะซื้อของที่คาร์ฟูล อ่อนนุช พอได้ของครบก็ตรงเข้าบ้าน


"อุ๊ย กุหลาบสวยจังแก อยากได้ๆ"


กบ วิ่งตรงเข้าไปที่กอกุหลาบ ทำท่าเหมือนไม่เคยเจอดอก กุหลาบ


"ของแม่ หล่อนอยากได้ ไว้ขอแม่คืนนี้สิ"


จ๋าบอก แล้ววางของลงบนม้าหินอ่อน หน้าบ้าน


"คุณแม่ขา หนูกบอยากได้ดอกกุหลาบ สักดอก เกิดมา เพิ่งเคยเห็นกุหลาบงามแบบนี้ คุณแม่ได้โปรดเถอะนะค๊ะ"


กบล้อเลียน


"อีดอก"


กายทนไม่ไหว กับกริยาอาการของกบ ที่ทำ จริตเกินงาม


ผม กับจ๋าขนเครื่องครัวที่จะทำสุกี้ออกมาข้างนอก เพราะจะทำกินกันตรงม้าหินอ่อนนี่ล่ะ ส่วยกายกับกบ ก็แกะของออกจากห่อ พอเสร็จผมก็ไปเอาน้ำกระเจี๊ยบที่แม่ต้มไว้ ออกมาให้เพื่อนๆ ผมชอบทำกับข้าว ส่วนแม่มักชอบทำขนมกับเครื่องดื่มสมุนไพร ไปอ่านเจอมาจากหนังสือก็ลองเอามาทำดู เราเตรียมของเสร็จเกือบ สี่โมงกว่าๆ ไม่ได้ตั้งใจทำเท่าไหร่ เพราะมัวแต่หัวเราะกบ ที่ทำท่าทาง บางทีก็เหมือนคุณนาย บางทีก็เหมือนทาส ในละคร นางทาส เล่นเอาเพื่อนๆ หัวเราะกันท้องคัดท้องแข็ง พอเตรียมเสร็จก็เอาของไปแช่ตู้เย็นไว้ รอพลกับแม่ก่อน แล้วเราก็ขึ้นไปที่ห้องผม ไปถึงกบก็เปิดเพลงทันที


"ต๊าย โย แกมี ซิงเกิ้ลนี้ด้วยเหรอ ไรท์ให้ด่วยสิ"


"ของใคร"


"ก็ Beautiful Liar ไง คือ กบชอบมากกก"


กบ หยิบแผ่นซีดีขึ้นมาโชว์ แล้วก็ใส่เข้าไปในเครื่อง พอเพลงเล่น มันก็เต้นตามจังหวะเพลง เราทั้งสามคนก็หัวเราะ กลิ้งอยู่บนเตียง เพราะมันส่ายเอว และพยายามเลียนแบบ นักร้องตาม มิวสิควีดีโอที่เคยดูมา อยู่บนห้องกันนานจน พลโทรมาบอกว่าอยู่หน้าบ้านแล้ว เราจึงลงไปข้างล่าง เกือบหกโมงเย็นแล้ว


"ไหนเล่ามาซิแก อีห่านั่นมันว่าอะไรนะ"


พลมาถึงก็ทำหน้าตึง ถามเรื่องเมื่อตอนกลางวัน จ๋าคงบอกมันแล้ว ผมยังไม่ทันจะเอ่ยปาก กบก็รายงานทุกอย่างที่ดูจะเกินจริงไปหน่อย


"แหม ถ้าชั้นอยู่นะ จะถีบยอดอกมันเชียว อีห่า ปากปีจอ สงสัยมันคงรวยจนอยากจะนอนโรงบาลเล่น"


พลพูดเหมือนอยู่ในเหตุการณ์


"นี่พวกแก ถ้าแม่มาไม่ต้องพูดนะ เดี๋ยวชั้นโดนสวด"


ผม บอกไว้ เพราะคงโดนแน่ๆ ถ้ารู้ว่ามีเรื่องกับเพื่อนเพราะเรื่องแค่นี้ แม่ไม่ชอบให้ผมมีเรื่องกับใคร ที่จริงไม่ชอบการทะเลาะวิวาท แม่บอกว่า คนเราต่างพ่อต่างแม่ อบรมกันมาคนละอย่าง อย่าให้อารมณ์มันพาไปในทางที่ไม่ถูกไม่ควร พูดกันได้ก็พูดกัน พูดไม่ได้ ก็ให้เงียบ อดทน พอเรื่องผ่านไปเรามาลองย้อนมองดู จะเห็นว่า "ก็แค่นี้เอง" ไม่น่าจะทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่


"ช้าไปแล้วล่ะแก ฉันรายงานไปหมดแล้ว"


จ๋าสารภาพ ผมทำหน้าตกใจ เพราะไม่คิดว่าจ๋าจะโทรบอกแม่


"แกบอกตอนไหน"


ผมทำเสียงดู


"ก็ตอนที่แก เลือกของอยู่นั่นล่ะ พอดีแม่โทรมาหา บอกว่าแกเสียงเครียดๆ แม่คงสงสัยล่ะแก"


จ๋าพูดเสียงอ่อย


"อ้าว นังนี่ แกก็เล่าไปหมดว่างั้น เร็วนะยะ"


กบเหน็บ


"อ้าว แล้วแกเคยปิดแม่เรื่องไหนได้บ้างล่ะ สู้บอกก่อนดีกว่า ถ้ามารู้้ทีหลังจะโดนยิ่งกว่านี้"


จ๋าพูดก็ถูก เพราะแม่รู้เรื่องทุกอย่าง ถ้าผมผิดปกติไป จ๋าเองก็คุ้นเคยกับแม่ดี เพราะว่าเห็นกันตั้งแต่เด็ก


"เออ ช่างเถอะแก ยังไงก็คงปิดแม่ไม่ได้หรอก เตรียมหม้อเถอะ เดี๋ยวแม่คงมา"


ผม ถอนหายใจ เพราะไม่รู้จะทำอะไรได้ แม่รู้แล้วนี่ ตอนแรกกะจะเงียบๆ แต่คงไม่ได้แล้ว เราต่างแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ จ๋ากับกบ ไปเอากระทะไฟฟ้ามาเสียบเตรียมน้ำซุบ พลกับกายก็นั่งคุยกัน ส่วนผมก็ไปเตรียมจานชาม แม่กลับมาหกโมงกว่าๆ สีหน้ายังปกติดี แต่มีแวบหนึ่งเห็นสายตาแม่มองผมแบบตำหนิ รู้สึกเสียวสันหลังไปเหมือนกัน


"แม่จ๋า กุหลาบแม่นี่สวยจังเลย แม่ปลูกเองเหรอจ๊ะ"


กบพูดขึ้น ระหว่างที่ทุกคนกำลังกินสุกี้อยู่


" จ๊ะ แม่ปลูกเอง แต่โยเขาเป็นคนดูแลนะ หนูอยากได้หรือลูก ตัดเอาสิ พอดีวันเสาร์นี้เดี๋ยวแม่ไปนั่งสิปัสนา คงไม่ได้เอาขึ้นหิ้ง หนูตัดเอาเลยลูก"


"ขอบคุณครับ แม่"


กบยกมือไหว้ แล้วยิ้มร่าเริง


"หนูเอาไปไหว้พระหรือจ๊ะ เอามะลิไปด้วยสิ ใส่ปุ๋ยไปวันก่อน ออกดอกแล้ว"


"อุ๊ย ไหว้พระที่ไหนแม่ มันเอาไปให้ผู้ชาย"


กายสอดขึ้น


"บ้าเหรอ แก เมาท์เค้า จะเอาไปไว้หัวเตียงต่างหาก"


"แหวะ"


ทีนี้พลแขวะบ้าง
เราคุยกันเรื่องนั้นเรื่องนี้ ส่วนมาก กบ จะเป็นคนเริ่มเรื่องสนทนา ที่ตามมาด้วยเสียงหัวเราะ แม่เองก็หัวเราะ


"แล้ววันนี้ไปทำอะไรกันมา ไหนเล่าให้แม่ฟังซิ"


แม่เปลี่ยนเรื่องทันที ทุกคนเงียบ มองหน้ากันเลิ่กลั่ก แม่มองมาที่ผม ซึ่งก้มหน้ามองถ้วยสุกี้อยู่ นั่น ว่าแล้วเชียว


"เอ่อ ก็ อีนัท น่ะแม่ มันปากไม่ดี มาว่า โย ว่ามีแม่เป็นครูบ้านนอก โย มันก็เลยโกรธ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรมัน นะแม่"


จ๋า รีบเล่าเพราะ รู้ว่าตัวเองผิดที่เล่าเรื่องนี้ให้แม่ฟัง


"ใจร้อนอีกแล้วนะเรา"


แม่บ่น มองหน้าเราทุกคนด้วยสายตาที่เป็นห่วง


" อย่าหาว่าแม่ขี้บ่นเลยนะลูก แม่รู้ว่า เรารักแม่ ไม่อยากให้ใครมาดูแคลน แต่เราโตๆ กันแล้วนะจ๊ะ แค่คนพูด แค่นี้ เราก็โมโห โกรธเขาแล้ว คนเรานะลูก จะห้ามเขาพูดไม่ได้หรอก แม่เป็นครูบ้านนอก ถึงจะใช่หรือไม่ใช่ มันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ครูบ้านนอกแล้วไงล่ะจ๊ะ คนเราน่ะควรจะเทิดทูนครูบ้านนอกเสียมากกว่า มีน้อยคนนะ ที่จะอุทิศตนจากความสบายในเมืองใหญ่ไปสอนเด็ก อยู่บ้านนอก ขึ้นชื่อว่าครู ก็เป็นคนที่ประสาทวิชาความรู้ให้ทั้งนั้น แม่ได้ยิน แม่ยังไม่เสียใจ เพราะรู้ว่าคนที่พูด เขาคงยึดติดกับวัตถุ พวกเราเองก็ไม่ต้องไปใส่ใจ นี่ถ้ามีเรื่องกัน แล้วคิดไหมว่าเรื่องมันจะเป็นยังไง"


แม่หยุดแล้วมองหน้าพวกเราที่นั่งหน้าจ๋อยอยู่ แม่มองมาที่ผมเสียเนิ่นนาน


" เหลืออีกวิชาเดียวก็จะจบแล้ว อย่าให้ มารมันมาขวางทางเรานะลูก คิดให้หนัก เข้มแข็ง ถ้าผ่านมันมาได้ มันก็ไม่มีอะไรแล้ว อย่างตอนนี้ ทุกคนหัวเราะมีความสุข เพราะเราไม่ได้วิวาทขั้นชกต่อย แต่ถ้าเราทำล่ะ ตอนนี้พวกเรายังจะนั่งมีความสุขอยู่ไหมจ๊ะ แม่ฝากด้วย อย่าใจร้อน"


แม่จบประโยค ทุกคนยังเงียบ


"ขอบคุณค่ะแม่ เราจะไม่ใจร้อนอีกแล้วค่ะ"


จ๋า ยกมือขึ้นไหว้ เราทุกคนก็ทำตาม แม่ยิ้มอย่างอ่อนโยน แล้วลูบหัวจ๋าที่นั่งอยู่ข้างๆ แม่เปลี่ยนเรื่องโดยพา กบไปดูกอกุหลาบ แล้วขอตัวเข้าไปในบ้านก่อน


"โดน สวดเลยแก"


ผมบ่น


"แม่สอน ก็ดีแล้วแก ไม่แปลกใจเลยทำไม แกดูโมโหขนาดนั้น เวลาที่อีนัท มันพูดถึงแม่ในทางไม่ดี"


กาย บอก แล้วเราก็กินกันต่อ จนเกือบสามทุ่ม พอกินเสร็จก็ช่วยกันเก็บกวาด แล้วมานั่งกินน้ำกระเจี๊ยบที่ม้านั่ง คุยกันเรื่อยเปื่อย จนห้าทุ่มกว่า จึงแยกย้ายกลับบ้าน กายไปส่งจ๋า ส่วนกบพักอยู่หอกับกายอยู่แล้ว จึงไปด้วยกัน พลค้างที่บ้านเพราะพรุ่งนี้ ต้องไปทำงานด้วยกัน กบกลับบ้านพร้อมกุหลายกำหนึ่งสมใจ มาคิดดูแล้ว แม่ก็พูดถูก พอมาถึงตอนนี้ เรื่องเมื่อกลางวัน ผมจำเกือบไม่ได้แล้ว เวลาเล่าขึ้นมาก็ทำให้มันเป็นเรื่องตลกเสีย แต่ ผมก็ยังเจ็บแปลบขึ้นในใจ เมื่อได้ยินมันดูถูกแม่ ระหว่างที่พลอาบน้ำ ผมเปิดเพลงฟังอย่างสบายใจ ผมอาบน้ำเสร็จก่อนพล ปิดบ้านเก็บของเรียบร้อยแล้ว รอนอน ผมไปเลือกแผ่นเพลงฟัง Richard Marx ผมหยิบขึ้นดู อยากฟังเพลงสบายๆ แต่ก็มาสะดุดหู มันเป็นเพลงที่ผมฟังบ่อย แต่ไม่ได้สนใจ แต่วันนี้ ผมรู้สึกจับใจเหลือเกิน


You gave me life,
Gave me your heart
Your shoulder when I needed to cry
You gave me hope when all my hope is gone
Wings so my dreams can fly
And I haven't told you enough
Haven't been good enough, making you see


My love for you will live in my heart
Until eternity's through....
I see your smile in the eyes of my child
I am who I am, Mama, Thanks to you


น้ำตา ซึมออกข้างตา รักแม่เหลือเกิน ผมรักแม่ตลอดเวลา แต่ วันนี้ เรื่องวันนี้ มันย้ำให้ผมรู้ว่า ผมรักแม่มากเท่าใด แม่คือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของผม พลอาบน้ำเสร็จ แล้วมานั่งฟังเพลงอยู่ด้วยกัน แล้วนอน ตอนเกือบตีหนึ่ง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2011 02:16:55 โดย eiky »

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ
«ตอบ #35 เมื่อ13-03-2010 17:37:32 »

 ต่อเลย ค้าบ แต่ ตอนนี้มี คำด่า เยอะ พยายามแก้แล้ว ยังไง ผมขออภัย ล่วงหน้านะค้าบบ



                              ตอน เก้า ค้าบบบบ



วัน ทำงานผ่านไปอย่างรวดเร็ว พี่ตั้มมารับไปกินข้าวเย็นคืนวันศุกร์ เขาดูแปลกๆไป หรือว่าผมเองที่มีเรื่องคิดในใจ ไม่นี่เรื่องนั้นก็หายคาใจแล้ว ผมคงคิดมากไปเอง ดูเขาเลื่อนลอย เหมือนอยากจะบอกอะไร แต่ก็ไม่พูด หรือว่าเขามีเรื่อง แต่ถามเขาก็บอกไม่มีอะไรนี่ ผมจึงไม่ได้ถามอีก คอยสังเกตุอยู่ห่างๆ เชื่อใจเขาว่าถ้ามีปัญหาอะไรเขาคงบอกแล้ว

ไม่อยากเชื่อว่าผมต้องไปสอนหนังสือให้ไอ้บ้านั่นแล้ว คิดแล้วก็กลุ้ม นี่จะเจอมันกวนอะไรอีก

วันนี้ผมไปถึงบ้านอาจารย์ปริศนาเกือบเก้าโมง ครึ่ง ไม่ได้ตื่นสาย แต่รถในซอยอ่อนนุช ติดมากทั้งที่เป็นวันเสาร์ ยังมาติดตรงแยกพระโขนงอีก เลยมาช้า พอมาถึง อาจารย์ปริศนากับโอก็เตรียมออกจากบ้านแล้ว ผมทักทาย ก่อนจะส่งทั้งสองออกจากบ้านไป รู้สึกอายเหมือนกันที่มาสาย รู้สึกว่าโอจะคล้ำขึ้น เบ้าตาเป็นรอยสายแว่นตาว่ายน้ำ เห็นแล้วพลอยให้นึกถึง กบ เพราะเหมือนหมีแพนด้า คิดแล้วก็ยิ้ม ผมเดินขึ้นไปชั้นบน ทำใจไว้แล้ว ว่ามันคงยังไม่ตื่น แต่เสียงเปิดเพลงดังออกมาจากห้อง ผมจึงเคาะประตูห้อง

"เปิดเข้ามาเลยพี่"

มันตะโกนออกมา ผมจึงเปิดประตูเข้าไป ชะงัก เพราะมันไม่ได้อยู่คนเดียว มีเด็กหน้าตาคงจะรุ่นเดียวกัน นั่งเล่นเกมอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ส่วนมันก็นอนร้องเพลงอยู่บนเตียง ทำไมอาจารย์ปริศนา หรือโอไม่บอกสักคำ ว่ามันมีเพื่อนมาค้างด้วย ตายล่ะสิ เริ่มประหม่า ลำพังมันคนเดียวนี่ก็จะแย่อยู่แล้ว นี่ดันพาเพื่อนมาอีก เอาล่ะสิ

"หวัดดีพี่" มันทัก "มาสายนะวันนี้"

"อืม รถติดน่ะ"

ผมแก้ตัวไป ทั้งที่ยังยืนเก้ๆ กังๆ อยู่หน้าประตู

"เฮ้ย ไอ้บ๊อบ นี่ไง พี่โยที่กูบอก"

มันตะโกนบอกเพื่อน เพราะเปิดเพลงเสียงดัง

"หวัดดีครับพี่"

ไอ้นั่นพยักหน้าให้ผม ผมดูเด็ก หรือว่าเด็กมันไม่มีมารยาท จะยกมือไหว้สักหน่อยก็ไม่ได้

"จะสอนเลยไหมพี่ จะได้ไม่เสียเวลา"

มันบอก แล้วลุกจากเตียง ไปเอาโต๊ะญี่ปุ่นมากาง

"มึงเงียบๆ นะไอ้เชี่ย อย่ารบกวนเดี๋ยวกูจะเรียน"

มันเข้าไปหยิบหนังสือที่โต๊ะ ตบหัวเพื่อนไปทีหนึ่ง

"โอ๊ย ไอ้ห่า ว่าแต่ พี่เขาน่ารักดีนะมึง กูจีบได้ป่ะ"

มันกระซิบกัน แต่เหมือนจะไม่ได้กระซิบเพราะพูดแล้วยิ้มหันมาทางผม

"ส้นตีน กูไม่ให้ใครจีบหรอก เด็กกู ไอ้สาดด"

ดูมันพูด ผมอยากจะเข้าไปตบปากมันจริง ลามปามขึ้นทุกวัน

"หวงไปได้ มึงเป็นตุ๊ดเหรอ ถึงหวงพี่เขาไว้คนเดียว"

"ไอ้เชี่ี้ย มึงดิเป็นตุ๊ด ไหนบอกชอบอีจอย แล้วนี่อะไร สาดด จะมาจีบพี่เขา"

"อ้าว ไอ้นี่ มึงไม่รู้เหรอ ใครๆ เขาก็เคยทั้งนั้นล่ะกับเกย์น่ะ"

ทำไมพวกมันถึงพูดกันอย่างสนุกปากจัง ผมยืนโกรธตัวสั่นอยู่ ทำไมมันไม่ให้เกียรติกันบ้าง ผมทิ้งเป้ลงพื้นอย่างแรง

"จะเรียน มั้ยครับ หรือจะทะเลาะกัน"

ผมชักหมดความอดทน หันไปมองมันตาขวาง

"นั่น เอาแล้วไหมล่ะ มึงกลับบ้านไปเลยไอ้บ๊อบ ไอ้เชี่ี้ย กูจะเรียน"

"ขอโทษครับ พี่ ผมจะอยู่เงียบๆ นะครับ ไม่กวนแล้ว"

มันหันมาทำหน้าจ๋อยโค้งหัวให้ เอ กลับมานั่งลงที่โต๊ะ ส่วนไอ้นั่นก็นั่งเล่นเกมต่อไป

"วันนี้พี่ ทวนเรื่อง tense ให้ผมหน่อยสิ อยากจะจำให้ได้ ตอนบ่ายค่อยเรียนออกเสียง"

เออนะ มีหัวคิดเหมือนกันนี่ ไอ้บ้า ทีแบบนี้วางแผนออกคำสั่งเชียว

"ครับ งั้นเริ่มกันเลยนะ"

ผมสอนเพิ่มเติมเรื่อง tense ให้มัน แล้วก็ยกประโยคตัวอย่าง พอเรียนไปได้สักพัก เพื่อนมันก็เลิกเล่นเกม เดินมาที่เตียง ตัวมันขนาดไล่เลี่ยกัน แต่เอดูเหมือนจะตัวใหญ่กว่า มันทิ้งตัวลงเตียงอย่างแรง แล้วก็หันหน้ามาดูเรา

"พี่ๆ สอนผมด้วยดิ ผมก็อ่อนภาษาอังกฤษ" มันพูด พลางเท้าคาง

"มึงไปจ้างคนอื่นดิ พี่เขาสอนกูคนเดียว"

"ไอ้ห่า หวงไปได้ ผมให้เยอะกว่ามันนะพี่ ห้องผมก็ไม่รกแบบนี้ด้วย"

เอมองเพื่อนตาขวาง

"มึงกลับบ้านไปเลยไป กูเสียสมาธิ"

"ไม่เอากูก็อยากเรียน หรือว่ามึงจะทำอะไรกัน"

พูดแล้วมันก็อมยิ้ม

"ไอ้ห่า์ เดี๋ยว ตีนยัดปากแม่ม เลยมึง"

"เอ่อ"

ผมกะจะพูดอะไรออกไปบ้าง เพราะรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นอากาศธาตุ มันทั้งสองหยุดหันมามอง แต่ไอ้คนที่พูดยังยิ้มๆ อยู่

"พี่ ไปข้างล่างแป๊บนะ หิวน้ำ"

ไม่พูดเปล่า ผมลุกเดินออกไปเลย ลงไปตั้งสติในครัว อดทนเอานะโย ผมปลอบตัวเอง มันยังเด็ก อย่าไปใส่ใจ เข้มแข็งไว้ ผมกลืนน้ำเย็นลงคอ แก้วหนึ่งไม่พอ เอาอีกแก้ว เหงื่อผุดขึ้นเต็มหน้าผาก รู้สึกอาย อยากจะด่ามันทั้งสองคน ไม่มีคนสอนมารยาทให้หรือไง แต่ก็พูดไม่ได้ มันกระทบไปเสียทุกฝ่าย โอย อะไรกันนักหนา ทุกวันที่มาสอนมันเลยเหรอ ผมนั่งอยู่ในครัวสักพักก็ได้ยินเสียงเอะอะ แล้วก็เสียงลงส้นเท้าลงมาจากข้างบน

"ไอ้เชี่ย หวงนะมึง จำไว้ กูจะบอกอี ครีม ว่ามึงชอบตุ๋ยผู้ชาย"

"ไอ้สาดด กูก็จะบอกอีจอย ว่ามึง อยากจีบพี่กู กลับบ้านไปเลยมึง ไอ้เชี่ี้ย รู้งี้กูไล่กลับบ้านตั้งนานแล้ว"

เสียงด่าทอกันไล่หลังกันลงมา

"ผมไปนะครับพี่ วันหลังสอนผมบ้างนะ อิอิ"

มัน คงพูดเล่นผมรู้ เพราะดูท่ามันอยากจะแกล้งผมมากกว่า ผมโผล่หน้าเข้ามาในครัวก่อนที่จะหอบเป้ออกจากบ้านไป เอตามออกไปด่าเพื่อนจนลับตาไปจากประตูบ้าน

"โทษทีนะพี่ เพื่อนผมมันไม่มีมารยาท"

มันเดินเข้ามากินน้ำในครัว แหม ยังกับแก มีมารยาทยังงั้นล่ะ ผมเหน็บมันอยู่ในใจ แต่ไม่รู้เบะปากออกไปหรือทำท่าอะไร

"พี่ด่าผมในใจเหรอ รู้นะ ไหน ด่าผมว่าไง"

"เฮ้ย บ้าเหรอ พี่จะไปด่าเราทำไม หาเรื่อง"

"ไม่รู้ล่ะ เห็นเบะปาก เห็นไหม ผมบอกแล้วอย่าทำตัวน่ารักมากดิ เพื่อนผมมันจะมาจีบเอา"

"เฮ้ย เป็นบ้า พวกเธอเป็น อะไรกัน ไหนบอกเป็นผู้ชายไง"

ผมลากเสียง คำว่าชาย เพราะรู้สึกหมั่นไส้

"อ้าว เป็นผู้ชาย ได้ชายเป็นยอดชาย พี่ไม่เคยได้ยินเหรอ"

มันพูดหน้าตาเฉย

"ทุเรศ ระวังเถอะ ระวังจะโงหัวไม่ขึ้น"

ผมพูดเสียงเบา เพราะไม่น่าจะพูดออกไปเลย เหมือนไปเปิดช่องให้มัน

"งั้น พี่ลองกับผมหน่อยสิ จะได้รู้ว่าจะดีจริงป่ะ"

นั่น เอาแล้วไหมล่ะ

"ไอ้บ้า อย่ามาพูดเล่นๆนะ รู้ว่าอยากลอง อยากรู้ แต่เรื่องแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องที่จะมาทำเล่นๆ"

ผมพูดวกไปวนมา เพราะไม่รู้จะหาอะไรมาโต้เถอียงกับมัน ให้ออกจากประเด็นนี้

"ผมไม่ได้ล้อเล่น"

มันพูดแต่ยังอมยิ้มอยู่ จนผมชักโมโห

"พี่ไม่สนหรอกว่าเรา จะล้อเล่นหรือเปล่า แต่ พี่ไม่เล่นด้วย"

"โห เล่นตัวว่ะ นะนะ พี่ ทำไมคนมันถึงชอบเป็นกันจังเกย์นี่"

"แล้วไม่กลัวว่าเราจะเป็นเกย์ไปด้วยเหรอ" ผมย้อน

"ไม่เป็นหรอก ลองแค่นี้ไม่เป็นหรอกน่า แหม ทำยังกะเป็นหวัดจะได้ติดกันง่ายขนาดนั้น"

ผมไม่อยากจะต่อปากต่อคำกับมันแล้ว เบื่อ พูดไม่รู้เรื่อง

"ไปเรียนเถอะ เสียเวลามามากแล้ว"

ผมพูดแล้วเดินออกจากครัวไปโดยไม่สนใจมัน แต่ก็ต้องสะดุ้ง หันหลังกลับ เพราะมันตีก้นผม

"เฮ้ย ทำไรน่ะ"

ผมร้องลั่น

"ก้น นุ๊ม นุ่ม"

"ไอ้บ้า ชั้นเป็นพี่แกนะ"

"เป็นพี่แล้วไม่สอนน้อง เนี่ยนะ"

"โว้ย ทำไมพูดไม่รู้เรื่อง ไอ้บ้า"

ผมตะโกนใส่มัน แล้วหน้าแดง วิ่งขึ้นบนห้องไป ทำไมต้องอาย ไม่เข้าใจเหมือนกัน
ผมกลับไปนั่งที่โต๊ะ หงุดหงิดขึ้นมาทันที สอนหนังสือยังไม่เท่าไหร่ กวนใจอีกแล้ว
กว่ามันจะขึ้นมาบนห้องก็นานพอสมควร จนผมระงับจิตใจให้เป็นปกติ แต่ มันกลับเข้ามาในห้อง
พร้อมกับใส่กางเกงเล่นบาสฯ กับใส่เสื้อกล้าม เหมือนจะไม่ใส่กางเกงใน เพราะ เห็นมันแกว่งๆ มันมานั่งข้างผมทันที

"ร้อนจัง ถอดเสื้อดีกว่า" มันพูด

"เฮ้ย ทำไม ไม่นั่งที่เดิม นั่งตรงนี้อึดอัด"

ผมขยับตัว เพราะมันทำท่าจะเบียดเข้ามา

"ไม่อึดอัดหรอก อบอุ่นดี"

"ไหนบอกร้อนไง"

"อยากถอดเสื้อเฉยๆ พี่ดูกล้ามผมดิ ผมมีกล้ามด้วยนะ"

มันยกแขนขึ้นเบ่งกล้ามให้ดู ไอ้บ้า อยากดูตายล่ะ ผมจะทำยังไงดี

"เรียนต่อเถอะ เอาอีกสักหน่อยค่อยลงไปกินข้าว"

ผมพยายาม ไม่สนใจ มันทำน่าเซ็งเพราะ ท่าทีของผมที่ไม่ได้สนใจมันเลย พอเรียนไปสักพัก

"เมื่อยหลังจัง"

ว่าแล้วมันก็นอนหงายหลังลงเลย พร้อมทั้ง ถลกขากางเกง ขึ้นสูงจนเกือบเห็น น้องชายของมันที่กำลังตื่นตัว ผมร้อนไปทั้งหน้า โอย มันจะยั่วไปถึงไหน
รู้สึกว่าตัวเองหน้าแดง ร้อนชาไปหมด

"พี่ๆ พี่ว่าของผม นี่ใหญ่ไหม"

กรรม

"ไอ้บ้า อะไร มาเรียนต่อเร็วๆ"

ผมพูดเสียงสั่น

"ก็ไอ้เนี่ยพี่ น้องชายผมน่ะ เนี่ยกำลังแข็งเลย พี่ว่ามันใหญ่ไหม"

มันพูดพลางจับน้องชายมัน อยากจะเอาหนังสือฟาดลงไปให้มันหัก มันจะได้เลิกกวนซะที

"ก็ ยังเด็กอยู่นะ คงต้องใช้เวลา"

ผมพูดออกไปแล้ว ทั้งที่พยายาม สะกดทุกคำพูดของตัวเอง

"เฮ้ย พี่ ของผมน่ะ ใหญ่ที่สุดแล้วนะในห้อง"

"ไม่รู้ แต่สำหรับพี่" ผมเบะปากใส่มัน เผื่อมันจะท้อใจบ้าง

"เด็กๆ"

"เล็กๆ แบบนี้ ก็เอาพี่ได้ดิ"

มันพูดออกมา

" นี่ มันจะมากเกินไปแล้วนะ ฉันเป็นพี่เธอนะ พูดอะไรเกรงใจกันบ้าง ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นเธอนะ"

ผมตวาดเสียงดัง โมโห อีกแล้ว

"พี่มาที่นี่เพื่อที่จะสอนหนังสือ ถ้าเรายังลามปามพี่อีก พี่จะไม่มาสอนเธอแล้ว เคารพกันบ้าง"

ผมพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง ได้ผล เพราะมันเด้งตัวกลับมานั่งเหมือนเดิม ผมกัดกรามจนปูดโปน เพราะโกรธมัน เด็กอะไร ไม่รู้จักเด็ก ผู้ใหญ่

"ใส่เสื้อด้วย"

ผมสั่ง มันยอมทำตามแต่โดยดี

"โห แค่นี้ก็ต้องดุด้วย หรือว่ากลัวจะอดใจไม่ไหว" มันล้อเลียน

"ว่าแต่ของผมเล้กไปจริงเหรอพี่"

ดูมัน ผมถลึงตาใส่ มันจึงยอมหยุด กว่าจะถึงเวลากินข้าวเที่ยง ก็เล่นผม หูร้อนไปหลายที เพราะ มันยังคอยถามแต่เรื่อง น้องชายมัน ว่าเล็กไปหรือ ผมล่ะกลุ้มใจ ทั้งที่จริง ขนาดของมันดูจะเกินวัยไปเสียด้วยซ้ำ แต่ด้วยความที่เราเป็นคนสอนมัน ต้อง บั่นทอนกำลังใจมันเรื่องนอกลู่นอกทางบ้าง
แล้วตอนบ่ายจะเป็นยังไงเนี่ย ผมจะทนไหวไหม กับเด็ก เกินเด็กอย่างมัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2011 02:17:36 โดย eiky »

ออฟไลน์ aorta999

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ
«ตอบ #36 เมื่อ13-03-2010 20:55:34 »

มาต่ออีกคับ กำลังเข้มข้นเลย

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ
«ตอบ #37 เมื่อ13-03-2010 21:07:44 »

                  




                                               ตอน สิบ ค้าบบ



เอ มันก็แปลกของมัน ตอนเช้ากวนใจมาก แต่พอบ่ายกลับตั้งใจเรียน เล่นเอาผมปรับตัวแทบไม่ทัน แต่มองในแง่ดี มันก็เป็นผลดีกับทั้งมันและผมเอง ผมสอนง่ายขึ้น บทเรียนจึงไปได้เร็ว ส่วนมัน ถ้ามันตั้งใจเท่าไหร่ มันก็ได้มากขึ้น คงเพราะมันกำลังสอบปลายภาคด้วย คงจะกลัวสอบไม่ได้ แต่ก็ซวยผมอีก เพราะพอมันสอบเสร็จ แทนที่จะพักบ้าง กลับให้ผมไปสอนตามปกติ พูดแล้วเซ็ง สอบเสร็จมันคงจะปิดเทอม ต้องคุยกับอาจารย์ปริศนาว่าจะให้สอนยังไง หรือมันอาจจะไปเรียนพิเศษก็น่าจะเป็นได้ ดีเลยสิ ถ้าไปเรียนพิเศษ

วันอาทิตย์ มันก็ไม่กวนใจผมอีก อาจจะมีมองแล้วยิ้มๆ บ้าง ผมเองก็เป็นอะไรก็ไม่รู้ เวลาเด็กมันตั้งใจเรียน ก็พลั้งปาก ไปแหย่มัน

"เอ๊ะ วันนี้แปลก ไม่กวน นะเรา"

"ทำไม อยากให้กวนไง หรือพี่เปลี่ยนใจ อยากให้ผมลองแล้ว"

เออ ฉันผิดเอง ผมด่าตัวเองในใจ สรุป ก็ให้มันตั้งใจดีกว่า เอเป็นคนหัวไวมาก ผมสอนเรื่อง tense ให้ครึ่งวันหลังเมื่อวาน มาวันนี้มันจำได้หมด สามารถระบุได้ว่าประโยคที่ผมยกตัวอย่างเป็น ประโยคอะไร แล้วทำไมมันเรียนอ่อนวิชานี้ ผมไม่เข้าใจ ความจำมันดีกว่าผมเสียด้วยซ้ำ เพราะผมเองกว่าจะจำได้ ต้องท่องเป็นลูกนกลูกกา อยู่หลายวัน

นับ เป็นอาทิตย์ที่ผมสบายใจเป็นที่สุด ลูกศิษย์ไม่กวนใจ ที่ทำงานก็เรื่อยๆ ออกไปข้างนอกเสียมากกว่า เพราะพี่ ภา เอาผมติดไปด้วยตลอด ยิ่งจะใกล้สิ้นปี มีงานเข้ามาเยอะกว่าช่วง กลางปี บริษัทเราจึงค่อนข้างยุ่ง งานที่อาจารย์สั่งมา ก็มอบให้จ๋าเป็นคนดูแล เพราะมันไม่ได้ทำงาน แต่ที่แปลกไป คือพี่ตั้ม ไม่รู้ว่าเพราะผมยุ่ง หรือเขายุ่ง ไม่ค่อยโทรหาเหมือนอาทิตย์ก่อน เวลาโทรไปก็คุยเดี๋ยวเดียว ยุ่งบ้างล่ะ ติดลูกค้าบ้างล่ะ ผมเลยไม่รู้จะคุยอะไรดี ในใจก็หวั่นๆ เป็นอย่างนี้เกือบทั้งอาทิตย์

"แก พี่ตั้มเป็นอะไรก็ไม่รู้ว่ะ ไม่ค่อยเหมือนเดิมเลย โทรไปก็ไม่ค่อยอยากจะคุย"

ผม ระบายให้พลฟัง ตอนที่มันขับรถมาที่ central world เราขอพี่ภาออกมาก่อน เพราะวันนี้เป็นวันเกิดมัน ผมก็กะจะหาซื้อของขวัญให้มันไปด้วย
 
"มีเด็กใหม่ รึเปล่าแก"
 
พลพูด แต่ตาไม่ได้มองผม ใจแป้วไปเหมือนกัน
 
"คงไม่น่า เพราะพี่ตั้ม ไม่น่าจะกลับไปเจ้าชู้อีก เขาสัญญาแล้ว"
 
"โอ๊ย แก นี่มันสมัย อินเตอร์เน็ท ไฮสปีดนะ ไม่ใช่สมัย เลิฟ เล็ทเทอร์ คนมันติดอยู่ในสันดานน่ะ แก้ยากว่ะ"
 
มันจะรู้หรือเปล่าว่า คำตอบที่ผมอยากได้ยินจากปากมันไม่ใช่แบบนี้ มันควรจะพูดหลอกให้สถานการณ์มันดีกว่านี้หน่อย
พลเหลือบมามองผม คงรู้ตัวว่าพูดอะไร ที่ไม่น่าจะพูดออกมา ความจริงผมน่าจะโทรหา จ๋า พลมันเป็นคนตรงๆ ว่ามันก็ไม่ได้

" เฮ้ย แก ฉันพูดเล่น พี่ ตั้มจะมีอะร๊าย เขาคงยุ่งล่ะแก ไม่เชื่อ แก็ลองโทรไปดิ บอกว่าจะไปเที่ยวกับเพื่อน ชวนเขาด้วย ดูสิว่าเขาจะว่ายังไง"

พลแนะนำ ผมยังไม่ได้รู้สึกดีขึ้น แต่ก็เอาโทรศัพท์ออกมา กดหาพี่ ตั้ม

"พี่ตั้ม คือ เย็นนี้ วันเกิดพลน่ะครับ เราจะไปหลังสวนกัน เอ่อ พี่ตั้ม ไปด้วยกันไหม"
 
ผม อึกๆอักๆ ไม่รู้ทำไม ยิ่งปล่อยไว้แบบนี้ ยิ่งทำให้รู้สึกว่า การคุยกับเขา เหมือนคุยกับคนแปลกหน้า ผมว่ามันไม่มีอะไร แต่ผมคิดมากไปเอง
 
"อ้าว เหรอ อยากไปนะครับโย แต่พอดี มีงานด่วนเข้ามา พี่ต้องทำให้เสร็จน่ะครับ เอาไว้วันหลัง บอกพลเดี๋ยวพี่พาไปเลี้ยงข้าว"

ที่จริง เสียงเขาก็ยังเหมือนเดิม ไม่เห็นมีอะไรแตกต่างออกไปเลย ผมคิดมากไปจริงๆ

"อ้อ ครับ งั้นไม่เป็นไรครับ ไว้วันหลังก็ได้"
 
ผมแอบถอนหายใจ ทั้งโล่งใจ และเหมือน ผิดหวังไปในครั้งเดียวกัน
 
"ช่วงนี้ งานยุ่งเหรอครับ พี่ตั้ม โยไม่ค่อยได้คุยเลย"
 
ผมตัดพ้อ
 
"ครับ ยุ่งมาก มีแต่งานด่วนเข้ามา พี่ต้องแก้โปรแกรมให้เขา ให้ทันน่ะครับ โยดูแลตัวเองดีๆนะ พี่เป็นห่วง เี่ที่ยวให้สนุก"
 
เหมือนเขาไม่อยากคุยแล้ว ดูตัดตอนยังไงไม่รู้  ผมน้อยใจขึ้นมา แต่ มันไม่มีอะไรหรอกน่า ผมปลอบใจตัวเอง
 
"ครับ ได้ครับ"
 
ผมวางสาย สีหน้ายังไม่สู้ดี พอดีกับที่พล จะเลี้ยวเข้าห้างพอดี มันเอามือมาตบบ่าเบาๆ
 
"โย แก เผื่อใจไว้ด้วยนะ"
 
อะไร มันจะพยายามพูดอะไร ผมมองหน้ามัน อย่างไม่เข้าใจ
 
"อะไรแก เผื่อใจ อะไร พี่เขาไม่ว่าง ยังบอกเลยวันหลัง จะพาไปเลี้ยง"
 
ผม แว้ดเสียงขึ้น โมโห มันขึ้นมา ไม่รู้ทำไม เหมือนมันจะพยายาม ให้ผม เลิกกับพี่ตั้ม
มัน เม้มปาก เหมือนจะพูดอะไรออกมา
 
"แกมีอะไร พล จะพูดอะไร"
 
ผมพูดเสียงดัง
 
"ไม่มีอะไรหรอก ฉันขอโทษ ที่พยายามมองพี่ตั้มในแง่ร้ายมาตลอด"

เรา เงียบกันทั้งคู่ ผมก็ยิ่งสับสน อะไรกัน เหมือนมันรู้อะไร แล้วมันปิดผมอยู่ แต่ว่าไปแล้ว พลไม่เคยปิดผมเลยสัักเรื่อง ตั้งแต่รู้จักกันมา แต่ก็รู้อยู่ว่ามันไม่ปลื้ม พี่ตั้ม เท่าใดนัก เพราะ พี่ตั้มเจ้าชู้ มันเคยเห็นตามที่เที่ยวบ่อย แต่พอมาคบกับผมเขาดีขึ้น แต่พลมันก็ยังไม่ปลื้มอยู่ดี

เราเดินห้างกันเรื่อยๆ พลเลือกเสื้อกับรองเืท้า เป็นของขวัญให้ตัวเอง เพราะได้เงินจากพี่ ภา มาเยอะพอสมควร ส่วนผมก็แอบไปร้าน เกรย์ฮาวด์ ซื้อเสื้อให้มันตัวหนึ่ง เป็นเสื้อยืดสกรีนลายสวย มันคงชอบ ผมให้เขาห่อให้

"ไปหาอะไรกินกันก่อนเถอะแก ชั้นหิว"
 
มันบอกตอนที่เดินเสร็จแล้ว ที่จริงเราเดินผ่านร้านอาหารญี่ปุ่น ผมเองก็หิว เราจึงไปกินข้าวกัน
 
"นี่ อีกบ กับ อีกาย จะไปรอเราที่โน่นเลยนะ มันจะไปจองที่ไว้"
 
พลบอกตอนเราจะกลับ




"แล้วไหนบอกแกจะพาน้อง ดง น้องดาม ไปด้วยไงแก"

ผมถามขึ้น เพราะนึกขึ้นได้

"โอ๊ย เหวี่ยงทิ้งไปแล้ว แก เรื่องเยอะ แหม หลายสิ่ง จะเอานั่นเอานี่ ทำยังกับชั้นรวย มันอยากได้แต่ละอย่างนะแก"

พลบ่น
 
"นี่แก ชั้นอยู่ดึกไม่ได้นะ พรุ่งนี้มีสอน"
 
  ผมรีบเปลี่ยนเรื่อง เพราะสีหน้ามันดูไม่ค่อยดี


"อะไรแก วันเกิดชั้นนะยะ ปีละครั้ง ไอ้เด็กนั่น ไปสายหน่อยก็ได้"

พล แว้ดกลับ ผมก็ได้แต่เงียบไป คงจะไปตามเพื่อนล่ะถ้าอย่างนั้น เราถึงบ้าน ทุ่มกว่าๆ แม่กำลังเตรียมของจะไปนั่งวิปัสนา กับน้าี่สาที่อยู่ข้างบ้าน แม่ชอบไปนั่งวิปัสนาที่วัดธรรม ที่ซอย ๑๐๑ ตอนที่พ่อเสียใหม่ๆ ไปเกือบทุกวัน แต่พักหลัง ไปบ้าง เดือนละครั้ง สองครั้ง เราคุยกับแม่อยู่สักพัก จนแม่ออกจากบ้าน เราจึงค่อยอาบน้ำแต่งตัว

กว่า จะออกจากบ้าน ก็เกือบสี่ทุ่มครึ่ง แต่พลบอกว่า ที่จริงเขาเที่ยวกันดึกกว่านี้ แต่ถ้าไปหลังสวน คืนวันศุกร์ หรือเสาร์ควรจะไปเวลานี้ เพราะจะไม่มีโต๊ะ เราแวะไปรับจ๋าที่บ้าน เห็นออกมายืนยิ้มแฉ่งคู่กับ พี่ป้อม

"ต๊าย เดี๋ยวนี้พัฒนานะยะ พาผู้ชายมาที่บ้านเลย ท่าทางจะเอาจริง"
 
พลพูดเมื่อเห็นทั่งคู่ยืนอยู่ หน้าบ้าน ผมได้แต่มอง ไม่ได้พูดอะไร
 
"ฉันสวยไหมแก"
 
จ๋าถามเมื่อขึ้นรถมา แต่พี่ป้อมไม่ขึ้นมาด้วย
 
"เลิศ เพื่อน สาวเลิศ นี่หล่อนจะไปงานศพเหรอยะ แต่งดำซะ"

"อ้าว นังนี่ ตกเทรนเหรอยะ นี่เป็นเทรนฝรั่งเศษ กำลังอินเชียว"


"อ้าว พี่ป้อม ไม่ไปด้วยเหรอครับ"
 
ผมถาม ก่อนที่สองคนจะกัดกันไปมากกว่านี้
 
"อ้อ พอดี พรุ่งนี้พี่มี แลบตอนเช้าครับ คงไม่ไหว เที่ยวให้สนุกนะครับ ฝากจ๋าด้วย"
 
"ค่า นังนี่ไม่มีใครเอาหรอกพี่ป้อม นอกจากพี่"
 
พลกัด
 
"อ้าวอีนี่ ฉันมันสวยขนาดนั้นเชียว ผู้ชายถึงไม่มีใครคู่ควร"
 
จ๋า แว้ดกลับ
 
"อ่ะ อ่ะ อย่าทะเลาะกันครับ ใครไม่เอา พี่เอาเองครับ เออ นี่ครับพล ของขวัญของพี่กับจ๋า"
 
พี่ป้อมยื่น กล่องของขวัญให้ ผมรับไปให้พล เพราะเขายืนอยู่ทางผม
 
"อุ๊ย ขอบคุณครับพี่ป้อม ไม่ใช่การ์ดแต่งงานนะ"
 
พลยังกัดไม่เลิก
 
"อีนี่ จะเอาไหมยะ แหม ปากดี เดี๋ยวก็ริบคืน"
 
จ๋าทำท่าจะไปแย่งของขวัญคืนมา
 
"ต๊าย ให้แล้วให้เลยสิ ขอบคุณนะครับ พี่ป้อม"
 
พลไหว้ขอบคุณ

เรา ออกจากกล้วยน้ำไท ตรงเข้าพระรามสี่ พลตรงไปแยกสีลมแล้วค่อยเลี้ยวเข้าจอดรถในโรงพยาบาลจุฬาฯ แล้วเราค่อยเดินไปที่หลังสวน พลบอกว่าที่จอดรถแถวนั้นหายาก ยิ่งคืนวันศุกร์ เสาร์ แย่งกันเที่ยว เราเดินข้ามฝั่งไปทางสวนลุม ร้านที่พลบอก ผมไม่เห็นว่ามันจะน่าเที่ยวตรงไหน ดูน่าสนใจก็ตรงที่ ไฟแสงสี กับเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มออกมา ร้านที่เราเข้าไป ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะเปิดเป็น เธค เหมือนห้องแถวธรรมดา แต่ คนเยอะมาก เยอะจนผมกับจ๋าเกาะกันแน่น เดินแทบจะไม่ได้ ตายจริง เขามาเบียดเสียดกันทำไมนี่ ผมตกใจ คนเยอะ จนมองไม่ออกว่าใครเป็นใคร พลดึงเราเข้าไปโต๊ะเกือบในสุดของร้าน
 
"ต๊าย อีกบ พวกหล่อนเข้าใจเลือกที่นะยะ อีห่า ไม่เข้าไปอยู่ในบาร์เขาเลยล่ะ"
 
จ๋า แว้ดเสียงดังทันที ที่เข้าไปถึงโต๊ะได้
 
"อ้าว นังนี่ ตรงนี้น่ะ ทำเลดีสุดๆ แกเห็นไหม มันเป็นทางขึ้นชั้นสอง เวลาผู้ชายเดินเราก็จะได้สีๆไง"
 
กบ อธิบาย เห็นจะจริงตามที่มันบอก เพราะ มันเป็นทางขึ้นไปห้องน้ำชั้นสอง แต่ เดินไปได้ยังไงไม่เข้าใจ เล็กๆ แคบๆ คนแน่นอัดกันยังกับปลากระป๋อง
 
"โหย แก แล้วอะไรยังไงเนี่ย คนแน่นขนาดนี้"
 
ผมบ่นบ้าง เวลาพูดกันก็ เหมือนจะตะโกนใส่กัน
 
"น่าแก เอ้า กินๆ อย่าพูดมาก"
 
กายจับแก้ว เหล้าใส่มือ พร้อมทั้งยกใส่ปากผม
 
"เฮ้ย แก แหวะ มีแต่เหล้า"
 
ผมบ้วนออก เพราะกลืนลงไปหน่อยเดียว แต่ขมปี๋
 
"อ้าว แก เสียของ กินเข้าไป อย่าพูดมาก อย่ามาเรียบร้อยแถวนี้ เจ๊ ไม่ปลื้ม"
 
กาย ยังพยายาม ต่อ ทีนี้ ทั้ง พล กับกบ จับแขนผมไว้ มือใครไม่รู้จับปากอ้าไว้แล้วเทเหล้าเข้าปาก ผมไม่ค่อยกินเหล้า เพราะกินแล้ว เมาเร็วมาก ผมกลืนเหล้าเข้าปากอย่างทุลักทุเล ทำไมเหล้ามันขมแบบนี้ ไม่เข้าใจเขากินกันจัง พอเหล้าหมดแก้ว ผมก็หาที่เกาะ
 
"อีนี่ เดี๋ยวมันก็เมาหรอก"
 
จ๋า ร้องเตือน แต่ไม่เห็นยักช่วยอะไร
 
"โอ๊ย ไม่ต้องห่วงหรอกหล่อน เพราะหล่อนเองก็จะต้องเมาเหมือนกัน"
 
พล หันมาเล่นงานจ๋า ดูกลุ่มเรา กรี๊ดกร๊าดเป็นพิเศษ เพราะ ทั้งกายและกบก็วางมือจากผมไปทางจ๋าแทน รายนั้นกรี๊ดเสียงดัง เพราะโดนไปสองแก้ว
พอเหล้าเข้าปากแก้วหนึ่งก็มีแก้วสองตามมา ผมพอคุ้นลิ้นก็ชักไม่ต้องจับกรอกแล้ว กระดกเองเลย พอเที่ยงคืน กายกับกบก็เอากล่องเค้กขึ้นมา ทางร้านเขาใจดีเปิดเพลง แฮปปี้เบิร์ทเดย์ให้ คนในร้านมองกันใหญ่ แต่เราก็ไม่รู้สึกกระดากอายเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ แต่ผมก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ว่าเป่าเค้ก กับ เธค นี่มันเข้ากันตรงไหน พอเมาได้ที่ผมก็เริ่มง่วงนอน
 
"แกๆ กลับเถอะ ฉานง่วงนอน แล้วว"
 
ผมเสียงยาน
 
"อะไรแก ยังไม่ถึงไหนเลย เนี่ยเดี๋ยวไปต่อที่สีลมกัน"
 
พลบอก พลางตบแก้มผมเบาๆ เพราะตาเริ่มปิด
 
"อู๊ย มันเด็กเรียนจริงๆ เนอะแก ไม่ใช่เหมือน นังชะนีนี่ พอเมาแล้ว แร่ด ค่าา"
 
กบบอก จ๋า หันขวับมาทันที
 
"ช้าน แร่ด เหรอแก ไม่จริ๊งง ออกจะเรียบร้อย อุ๊ย น่ารักจัง คุณคะ คุณ"
 
จ๋า หันไปเกาะหลังผู้ชายที่กำลังดันคนจะไปเข้าห้องน้ำ จน กายต้องไปดึงออกมา
 
"โห ของเขาแรงว่ะ นังนี่ระวังหน่อย เขาอาจจะมีผัวก็ได้นะยะ"
 
"โอ๊ย ผัวเผออาราย ไม่สน ก็หล่ออ่า ช้านจะอาวๆ"
 
"ชั้นว่าเรา ย้ายเถอะ เดี๋ยว นังจ๋าทำเสียเรื่อง ผู้ชายหนีหมด"
 
พลบ อก แล้วเรียกเด็กมาเก็บเงิน กบลากผมออกมานอกร้านก่อน ตามด้วยกายลากจ๋า ซึ่งรายหลัง เกาะคนนั้นคนนี้ไปทั่ว พอออกไปยืนนอกร้านถึงรู้ตัวเองว่าเมา ยืนโงนเงน
 
"ยืนดีๆ แก เดี๋ยวชั้นไปเชค เรตติ้งหน่อย แป๊บนะ"
 
กบพูดเสร็จ ก็เดินเข้าไปในร้านอีก กายต้องคอยเฝ้าจ๋าเพราะ มันจะคอยไปดึงคนนั้น คนนี้ นี่ถ้ามันสร่างเมามันจะกล้าทำแบบนี้ ไหม
 
"สวัสดีครับ มาคนเดียวเหรอครับ"
 
เสียงทักอยู่ข้างหน้า ใครหว่า ผมเงยหน้ามอง เพราะก้มหน้าอยู่ เวียนหัวตุ๊บๆ
 
"เอ่อ "
 
ผม ไม่รู้จะพูดอะไร ใครก็ไม่รู้ หน้าตาดียู่หรอก แต่ทาแป้ง ขาวลอยมาแต่ไกล
 
"ชื่ออะไรครับ ผมชื่อ โจ้"
 
เขารุกต่อ นี่เราน่าตาน่าคุยด้วยขนาดนั้นเลยเหรอ ผมคิด มองไปทางกายกับจ๋าก็เหมือนจะดูวุ่นวายอยู่ ตายละสิทำยังไดี
 
"มากับแฟนครับ"
 
ผมพยายามตอบ เขาจะได้ไม่ต้องมาวุ่นวาย
 
"อ้าว มีแฟนแล้วเหรอครับ ไหนล่ะแฟน ทำไมปล่อยให้คนน่ารักมายืนคนเดียวแบบนี้"
 
โ๊อย เบื่อมุขนี้เต็มที จะหนียังไงดี ผมคิด พอดีเห็นผู้ชายคนหนึ่ง ใส่เสื้อเชิ๊ตสีอะไรไม่แน่ใจ ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ ผมโผเข้าไปทันที
 
"นี่ไงครับ แฟนผม พี่ เอ็ม ไปไหนมา โยรอตั้งนาน"
 
ผมเมา ผมถึงกล้าทำไปขนาดนั้น เพราะกอดคอเขาเลย เขาสูงกว่าผมมาก จนต้องเขย่ง เขาตกใจสะดุ้งจะผลักผมออก
 
"พี่ ขอโทษ ครับ ช่วยผมหน่อย ผมไม่อยากคุยกับเขา"
 
ผมพูดเสียงเบา แน่ใจว่าเขาคงได้ยิน เขาค่อยมองหน้าผม แล้วมองผู้ชายคนนั้น เขาจึงค่อยยอมให้ผมกอด
 
"เอ้อ พี่ไปเข้าห้องน้ำมาครับ อยากกลับบ้านแล้วเหรอครับ คนดี"
 
เขาแสดงเกินจริงไปหน่อย เพราะเขา ก้มลงมาหอมแก้มผม จนผมต้องผละออก มองไป ผู้ชายคนนั้น ไปแล้ว ผมจึงผละออก
 
"ขอบคุณครับพี่"
 
ผมไหว้ขอบคุณเพราะดูเขา มีอายุกว่าผม
 
"อ้าว ไม่เอาจริงๆ เหรอครับ พี่ยังไม่มีแฟนนะ"
 
ตายแล้ว หาเรื่องใส่ตัวอีกแล้วเรา เขาเดินรุกเข้ามาทันที เขาดูดีกว่าคนเมื่อกี้ แต่ผมกลับไม่อยากคุยแล้ว
 
"กบ ชั้นจะอ๊วก"
 
โชคยังมี กบเดินออกมาพอดี ผมโผเข้าหากบทันที
 
"ต๊ายแก อย่าอ๊วกตรงนี้ อายเค้า ไปๆ ข้ามไปฝั่งโน้น"
 
กบรีบลากผม ข้ามฝั่งไปทันที
 
"อ้าว ไม่อ๊วกล่ะแก ฉันกำลังสีผู้ชายอยู่ ไปเลยแก เห็นไหม"
 
กบบ่น เขาเดินข้ามฝั่งมาที่เรา
 
"ไปกินน้ำเย็นก่อนดีไหมครับ ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวตรงนั้นน่าจะมี"
 
เขา เสนอ พลางก้มหน้าลงมาใกล้ๆ
 
"อุ๊ย ค่า เอ๊ย ครับพี่ เพื่อนเมาน่ะครับ ไม่รู้เรื่องเลย"
 
กบ ทำท่าร่าเริง ทำท่าฝืนธรรมชาติ
 
"หล่อเวอร์แก ต๊าย ชอบชั้นแน่เลยอ่ะ"
 
กบกระซิบ
 
"พี่ช่วยพยุงเพื่อน ดีกว่าไหมครับ ท่าทางเราจะเมื่อยแล้ว"
 
อ๊าย ไม่เอา ผมพยายามเด้งตัวขึ้นมาทำเป็นไม่เมาทันที
 
"ผมไหว ครับพี่ ไม่รบกวนหรอกครับ ขอบคุณครับ"
 
พอดี พลกับกายที่ลากจ๋าเดินข้ามมาพอดี ผมตะโกนเรียก
 
"อุ๊ย ใครอ่ะ หล่อเชียว"
 
กายบอก แล้วพลักจ๋าใส่อกให้พล
 
"อ้าวอีนี่ เห็นผู้ชายแล้วทิ้งเพื่อนเลยนะแก"
 
พลบ่น แล้วรับจ๋ามา
 
"หวัดดี ครับพี่ ผมชื่อ กายนะครับ"
 
"อุ๊ย หนู เอ๊ย ผมชื่อกบ ครับ"
 
ทั้งสองแย่งกันบอกชื่อตัวเอง
 
"สวัสดีครับ พี่ชื่อ ปิ๊ก นะครับ ยินดีที่ได้รู้จัก มาเที่ยวกันกี่คนครับ"
 
เขา ยิ้ม แต่สายตายังจ้องมาที่ผมอยู่ ผมไม่ได้เข้าข้างตัวเองนะ แต่เขามองผมอยู่จริงๆ แต่เพราะผมเมา เลยไม่ค่อยประหม่า ที่จริงไม่ชอบให้ใครมาจ้องแบบนี้
 
"เอ่อ พี่ค๊ะ ชอบ คนนี้เหรอ"
กบเบ้ปาก เพราะเห็นสายตาเขามองผม และพูดแบบเป็นธรรมชาติของมัน
 
"มันชื่อโย ค่ะพี่ มีแฟนแล้ว แฟนกำลังมีกิ๊ก"
 
พอพูดได้แค่นี้ ทั้งกายทั้งพลก็ ถลึงตาใส่ จนกบพูดไม่จบประโยค ผมเองได้ยินบ้างไม่ได้ยินบ้าง แต่ก็แว่วๆ หูแต่ไม่ได้ใส่ใจมากนัก
 
"ใครน้า โชคดีได้ น้องโยเป็นแฟน น่ารักแบบนี้ แฟนคงรักมาก คงโง่แล้วล่ะถ้ามีกิ๊ก"
 
เขาพูด ทำสายตากรุ้มกริ่ม
 
"เราจะไปต่อที่ วอยสองอ่ะครับพี่ ไปด้วยกันไหม"
 
กายเอ่ยปากชวน เหมือนจะรีบตัดบท แต่ทำไมต้องชวนด้วย ผมไม่เข้าใจ
 
"เหรอครับ ก็ดี ครับ เดี๋ยว พี่ขอโทรบอกเพื่อนก่อน เดี๋ยวมันหาว่าพี่หนีกลับก่อน"
 
สรุป เราก็ต้องไปต่อกันที่ซอยสอง ผมไม่เคยไปที่นั่น แต่ ทั้งสามสิงห์ ไปจนเขาจำหน้าได้แล้ว และก็มีเขาตามไปด้วยอีกคน    
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2011 02:18:10 โดย eiky »

benxine

  • บุคคลทั่วไป
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ
«ตอบ #38 เมื่อ13-03-2010 21:40:49 »

สนุกมากกกกกกกกกกกกก

มาต่อไวๆนะคร๊าบบ

ชอบมากกอ่ะ อ่านไปยิ้มไป

 :L2: :L2:

ออฟไลน์ jantaro

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 584
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-1
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ
«ตอบ #39 เมื่อ13-03-2010 22:30:50 »

ขอบคุนคราบบ

ต่อไปมานต้องมีเรื่องเศร้าๆๆแน่เลย
อย่าเศร้าน้าคราบบบ :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ
« ตอบ #39 เมื่อ: 13-03-2010 22:30:50 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ aorta999

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ
«ตอบ #40 เมื่อ14-03-2010 00:19:33 »

ดูแล้ว โย น่าจะกำลังเจอความจิงนะคับ

มาต่อไวๆนะคับ

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ
«ตอบ #41 เมื่อ14-03-2010 00:47:43 »

 o13 ชอบเรื่องนี้จริง
เรื่องนี้ผู้ชายเยอะไปหมดอ่านแล้วลัลล๊า
แล้วจะรออ่านต่อ
นิว(ยิ้มๆ)

kei_kakura

  • บุคคลทั่วไป
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ
«ตอบ #42 เมื่อ14-03-2010 00:59:19 »

อ่ะ......ค้างอย่างแรง

เรื่องจะเป็นไงต่อล่ะนี่   :impress2:


ลุ้นๆๆ.... รีบอัพไวไวนะ  เป็นกำลังใจให้จร๊า :L2:

ออฟไลน์ jantaro

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 584
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-1
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ
«ตอบ #43 เมื่อ14-03-2010 01:08:45 »

 :call: :call: :call: :call:

zeazaiz

  • บุคคลทั่วไป
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ
«ตอบ #44 เมื่อ14-03-2010 03:23:43 »

 :pig4:


samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ
«ตอบ #45 เมื่อ14-03-2010 04:41:54 »

อ่านแล้วได้บรรยากาศแบบเพื่อนสาวๆเลยค่ะ

นึกถึงสมัยเรียนเชียว

อิอิ

ปล.อิพี่ตั้มมันจะนอกใจชิมิคิเนี้ย  :z6:

ryokung

  • บุคคลทั่วไป
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ
«ตอบ #46 เมื่อ14-03-2010 05:37:08 »

หนุกๆๆๆ คัฟ

จะรออ่านต่อ  อิอิ  :z1: :z1:

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ
«ตอบ #47 เมื่อ14-03-2010 06:42:04 »

 ตอนต่อ ภาษา ค่อนข้างแรง นะครับ ยังไงช่วยกัน วิจารณ์ด้วย

ขอบคุณทุกกำลัง ใจ


                          ตอน สิบเอ็ด ค้าบบบบบบ


เรากอดคอกันเดินข้ามแยกมาฝั่งสีลม พอข้ามฝั่งมา โลกก็เหมือนเปลี่ยนไปอีกโลก เป็นโลกที่รังสรรค์ไว้เพื่อชาวเรา แม้แต่ของขายที่อยู่ต้นซอย ก็เหมือนจะเตรียมไว้สำหรับเรา ผู้คนขวักไขว่ไปมาแม้จะดึกมากแล้วก็ตาม พลพาเราเลี้ยวเข้าซอยสอง ที่จริงไม่น่าจะเรียกว่าซอย น่าจะเรียกว่าตรอกมากกว่า เพราะเป็นซอยที่ตัน จากปากทางเข้าท้ายซอย ไม่ถึงห้าสิบเมตร หน้าซอยมีร้านขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ ก่อนเข้าซอยมีพนักงานตรวจบัตรประชาชน กายบอกก่อนตอนที่กำลังข้ามแยกแล้ว ผู้คนที่มีเที่ยวที่นี่ ต่างหน้าตาดีๆ กันทั้งนั้น แต่งตัวดี กลิ่นน้ำหอม ต่างกลิ่นเคล้ากับกลิ่นบุหรี่ตลบอบอวล
จ๋าเองที่ดูเป็นคนแปลกแยก เพราะ น้อยนักที่ผมจะมองเห็นผู้หญิง กายดันหลังผมให้เดินตามพล โดยมีกบกุมมือจ๋าตามมา เสียงเพลงกระหึ่ม ไม่รู้เสียงไหนเป็นมาจากร้านใด เพราะร้านที่รายเรียงกัน ต่างเปิดเพลงแข่งกัน คนที่ยืนออกันอยู่ตรงทางเดินเยอะจนจะเดินไม่ได้ ร้านที่เราเข้าอยู่ท้ายซอยสุดทางขวามือ ก่อนเข้าร้านมีพนักงานตรวจบัตรประชาชนอีกด่านหนึ่ง ที่จริงต้องเสียค่าเข้าด้วย แต่พลกับกาย มีเหล้าเปิดไว้จึงไม่ต้องเสียค่าเข้า อีกทั้งดูเหมือนเป็นสมาชิกพิเศษ เพราะพนักงานหน้าร้านยกมือไหว้มันสองคน เข้าไปในร้าน คนแน่นจนเดินไม่ได้ ต้องกุมมือกันตลอด เพราะถ้ามือหลุดจากกัน คงหลงกันเป็นแน่ เสียงเพลงดังกว่าร้านเดิมที่เราเพิ่งออกมา แนวเพลงก็เป็นแนวที่เปิดตามวิทยุ แต่เป็นเวอร์ชั่นที่เอามาทำดนตรีให้เข้ากับจังหวะการเต้น พลคุยกับพนักงาน แล้วก็เดินฝ่าคนเข้าไปเกือบจะกลางฟอร์ ที่มีรั้วคล้ายบาร์ แต่ใช้เป็นที่ยืนเต้นของหนุ่มๆ ที่เปลื้องท่อนบน เผยให้เห็นมัดกล้าม ตรงด้านหน้ามีเวทีใหญ่ คนที่เต้นอยู่ข้างบนก็เปลือยส่วนบน รูปร่างดีๆกันทั้งนั้น สร้างความตื่นตาตื่นใจกับผู้ไม่เคยพบเห็น


"ต๊ายแก เปิด Tamia ด้วย"


จ๋าตะโกน เพราะเพลงที่เขากำลังเปิด เป็นเพลงที่มันชอบ ผมเองก็ชอบ แต่เวอร์ชั่นนี้ไม่เคยได้ยิน


"There's a stranger in my house
It took a while to figure out
There's no way you could be who you say you are
You gotta be someone else
Cuz he wouldn't touch me like that
And he wouldn't treat me like you do
He would adore me, he wouldn't ignore me
So I'm convinced there's a stranger in my house "


จ๋า ร้องตามเสียงดัง แต่เสียงเพลงที่ดังกว่าก็กลบเสียงมันจนแทบจะไม่ได้ยิน พอเด็กเอาเหล้ามาให้ เราก็ดื่มกันอีก ผมรู้สึกเมา กว่าเดิม ผมกับจ๋าโดนตีวงล้อมจากทั้งสาม เพราะคงไม่เคยมา อีกทั้งคนก็แน่นจนเกินไป ผู้คนทั้งเดิน ทั้งเบียดกันไปมา ความจริงเต้นแทบจะยังเต้นไม่ได้ แต่คนก็ดูเหมือนยิ่งอัดกันเข้ามา


"ชอม มั้ยแก"


พลตะโกนถาม


"นี่ ถ้าชอบเดี๋ยวพามาอีกแก"


ผมพยักหน้าแล้วกอดคอมันเต้น เราดูมีความสุขมาก นานๆได้เที่ยวกับเพื่อนๆ แทบลืมเรื่องต่างๆไปหมด ให้เพลงนำพาอารมณ์ไป ความจริงไม่ได้ชอบสถานที่ที่คนเยอะแย่งกันเที่ยวแบบนี้ แต่เพราะวันนี้เป็นวันพิเศษ เป็นวันที่ผมไม่ควรจะคิดเรื่องอะไรอีก นอกจากสนุกกับเพื่อนๆ


ผมเห็นพลพยักเพยิดให้กายดูอะไรข้างหน้ามัน แล้วสีหน้ามันก็ดูกร้าวขึ้นมาทันที ผมจะหันไปมองด้วย แต่กายก็จับตัว หันกลับไปทางหน้าเวที พลางส่ายหน้า ว่าไม่มีอะไรให้ต้องดู
แต่ผมชักสงสัย


"แก ผู้ชายถอดกางเกง"


ผม ตะโกนบอกมัน ได้ผล เพราะมันต่างมองไปที่เวทีทันที ผมได้โอกาศจึงหันไปทางที่มันบุ้ยปาก ผู้คนที่แน่นเกินจะมองออกว่าใครเป็นใคร ผมก็ยังไม่รู้ว่ามันมองอะไรกัน ยิ่งคนเบียดเสียดกันเข้ามาอีก


แต่ คนที่คุ้นหน้าเหลือเกิน เหมือนเป็นคนที่เพิ่งจะมีเรื่องกันไปเมื่อวันก่อน กำลังกอดจูบ นัวเนียอยู่กับผู้ชายอีกคน อย่างไม่แยแสสายตาใคร ไอ้นัท นั่นเอง ดูมันกำลังดูดดื่ม กับสิ่งที่มันทำอยู่ กายรู้ตัวว่าโดนผมหลอกเข้าแล้ว


"เฮ้ยแก หันกลับมา"


มัน พยายามจะจับตัวผมเบี่ยงหันกลับไปทางเดิม แต่ ช้าไปแล้ว ผมยืนนิ่งมองไปข้างหน้า อีกคนที่ผมคุ้นกว่าไอ้นัท ผมจำได้แม้คนจะเยอะมากเพียงใด แม้คนจะแน่นที่ทำให้เราอยู่ห่างกันแค่เพียงสามก้าว แต่มันเหมือนห่างไกลออกไปหลายโยชน์ คนที่ผมคุ้นเคยดี


"พี่ตั้ม"


ผม พูดออกจากคอ ไม่มีใครได้ยินนอกจากตัวผมเอง ผมยืนนิ่งเหมือนถูกสาป รู้สึกใจหล่นหายลอยไปไกล ตัวสั่น หน้าร้อนชาเหมือนมีคนกดหัวผมลงน้ำแข็งให้แช่อยู่อย่างนั้น พลเข้ามาช่วยจับผมหันกลับ แต่ผมก็ฝืนแรงเพื่อน ทั้งจ๋ากับกบเห็นแล้ว


"ไอ้เชี่ย สาด ไม่รู้จักพอ"


จ๋า กรี๊ด พลางโผเข้าไปหาเขา หวังจะตบ แต่กายดันตัวเอาไว้ก่อน ผมเห็นสีหน้าเขาตกใจ แต่ไอ้นัท ยิ้มอย่างสะใจ มันยังกอดเขานัวเนียอยู่ เขาเหมือนกำลังจะเอ่ยปากพูดอะไร


"อีกบ พามันออกไป"


เสียง กายสั่ง พลันผมก็โดนกบฉุดออกมาทันที คนที่เยอะแน่นเบียดเสียดกัน ไม่ใช่เรื่องง่าย ที่จะฝ่าออกมาได้ ต่างคนต่างเมา ยิ่งคนนั้นดันเข้า คนนี้ก็ยิ่งดันออก ผมไม่รู้ว่าออกมายืนอยู่นอกร้านได้ยังไง ผมหายเมาไปเลย กลับรู้สึกหวั่น หวิว ในใจ ก้าวขาแทบไม่ออก มันรู้สึกหนัก มันหนักที่ไหน ที่ใจผมเอง พอออกมายืนนอกร้าน กบก็ฉุดมือผมออกไปยืนหน้าซอย รอเพื่อนที่กำลังตามออกมา


"โยๆ ฟังพี่ก่อน"


เสียงที่คุ้นเคย พูดกึ่งตะโกน เพราะข้างนอกเสียงเพลงไม่ดัง อีกทั้งคนที่ออกันอยู่ก็ไม่น้อย เขาคงอาย


"หยุดอยู่ตรงนั้นนะ ไอ้เชี่ย มึงไม่ต้องเข้ามาใกล้มันเลย ไอ้สาด คนไม่รู้จักพอ"


กบชี้หน้าด่า ผมใจหายไปแล้ว รู้ว่าสั่น หน้าชา รู้สึกอายขึ้นมา ตอนนี้ เบ้าตาเริ่มร้อน ผมกำลังจะร้องไห้


"พาฉันกลับบ้าน กบ"


ผมพูดเสียงสั่น มันลากมือผมเดินไปทางที่เรามา กบกอดบ่าผมไว้ เสียงจ๋าตวาด ไล่หลังมา พอเราข้ามฝั่งไปยืนอยู่ฝั่งโรงพยาบาลจุฬาฯแล้ว


"โย ฟังพี่อธิบายก่อน"


เขายังตามมา พร้อมกับ ไอ้นัท และ สมุนทั้งสามของมัน ตรงนี้ไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่นัก


"ไอ้สาด ไหนมึงสัญญาแล้วมึงจะไม่ทำแบบนี้อีก ไอ้เชี่ย"


จ๋าโผเข้าไปตบหน้าเขาดังฉาด พลต้องฉุดตัวเอาไว้ จ๋าร้องไห้ออกมา ไอ้นัทเองก็ทำท่าจะโผเข้าตบ จ๋า แต่พล ชี้หน้ากันเอาไว้


"มึงเข้ามา อีนัท ถ้ามึงอยากตาย อีสาด"


"อีเชี่ย มึงมาตบพี่เขาทำไม"


"มึงนั่นล่ะเชี่ย แค่นี้มันยังโดนน้อยไป อีห่า ไม่มีปัญญาหาผัว รึไง ถึงมาแย่งของชาวบ้าน"


กายสวนกลับบ้าง


"กูไม่ได้แย่ง ก็ผู้ชายเขาไม่เอามันเอง ช่วยไม่ได้"


มันทำสีหน้า ยียวนเหมือนคนที่กำลังมีชัย "เขาไม่เอามันเอง" มันย้ำให้ผมหลั่งน้ำตาออกมา


"เดี๋ยวกูไปเอารถ ฝากด้วยนะกาย"


พลบอกมองมาทางผมอย่างห่วงใย แล้วรีบวิ่งเข้าไปในโรงพยาบาล


"แหม อีสาด พูดออกมาได้ มึงแร่ด น่ะสิ"


กบชี้หน้าด่า เสียงดังกว่าใคร


"ไอ้สันดาน มึงทำแบบนี้ได้ยังไง"


จ๋ายังคงสบถ พร้อมกับสะอื้น มันเสียใจ ผมรู้ เพราะ วันที่เราจะคบกัน จ๋าเป็นคนขอเขาเรื่องเที่ยว กับเจ้าชู้


"อีงูพิษ อีสาด มึงเก่งแต่แย่งของชาวบ้านเขาใช่ไหม ไม่มีปัญญาหาเอง"


กบดันผมให้ไปข้างหลังแล้วมัน ก็ออกมายืนหน้ากระดาน บังผมเอาไว้


"พี่อยากคุยกับโยนะ เราไม่เกี่ยว"


"ไม่เกี่ยวห่าอะไร มึงยังมีอะไรจะคุย"


กายตวาด


"อ้าว อีเชี่ย มันหนักหัวพ่อมึงเหรอ มึงถึงมาเสือก"


ไอ้นัทด่า สิ้นคำด่า มันก็โดน เท้าของกายยัดเข้าไปที่กลางอก มันเซล้มลง กลิ้งอยู่กับพื้น


"นี่ไง พ่อมึง อีสาด มึงจำไว้นะ อีนัท ถ้ามึงเห่าอีกคำเดียว กูเอาตีนลูบปากมึงแน่ๆ"


สมุนทั้งสามของมัน ทั้งพี่ตั้ม ไม่มีใครช่วยมัน มีแต่เสียงร้องกรี๊ดๆ


"ผู้ชายเขาไม่เอามันแล้ว แล้วกูผิดเหรอ"


นัทยังด่ากราด ทั้งที่ตัวเอง ล้มอยู่


"พอเถอะแก กลับบ้าน"


ผมดึงเสื้อกบ เพราะรู้สึกเริ่มอายขึ้นมา ผู้คนที่สัญจรไปมาต่างมองดู


"โย โยอย่าเข้าใจผิดนะ"


"พอเถอะพี่ตั้ม พอแล้ว"


ผมพูดทั้งน้ำตา ไม่ได้อยากคุยกับเขา แต่ก็พุดออกไป เสียงของเขาตอนนี้เหมือนผสมยาพิษ ผมไม่อยากได้ยินเลย


"ก็มันไม่ได้เรื่อง พี่เขาถึงเบื่อมัน พี่เขาบอกว่ามันเซกส์ก็ไม่ได้เรื่อง เหมือนมีอะไรกับขอนไม้ เขามาหาชั้นมันก็ไม่แปลกหรอก"


นัท กรี๊ด พูดเย้ยหยันในที ผมรู้สึกเหมือนมันไม่ได้ด่าหรือพูด แต่มันกำลังเอาเท้า ตบหน้าผมอยู่ เรื่องของผมกับเขา เรื่องบนเตียง เรื่องที่รู้แค่เรา แต่ นี่ เขาบอกมัน


"มึงอยากได้ มึงก็เอาไปเถอะนัท กูให้ทาน"


"แหม อีสาดให้ทาน คนไม่เอาไหนอย่างมึงน่ะ"


"หุบปากนะอีเชี่ย"


กาย ยกเท้าขึ้นอีก ก่อนที่มันจะพูดต่อ ผมต้องดึงไว้มันถึงหยุด พอดีกับที่พลบีบแตร กบรีบลากผมไป มันเปิดประตูรถแล้วยัดผมเข้าไปนั่ง มันตามเข้าไปแล้วปิดประตู จ๋าถูกกายยัดเข้าไปเบาะหน้าข้างพล


"แกไปรอที่บ้านมันนะ เดี๋ยวตามไป"


กายบอกแล้วปิดประตู พลออกรถทันที ผมยังคงร้องไห้อยู่ จ๋าก็เหมือนกัน


"แกรู้อยู่แล้ว ใช่ไหม พล"


ผมเขย่าเบาะคนขับ


"แกรู้อยู่แล้ว ทำไมแกไม่บอก ทำไมแกไม่พูด"


ผมร้องไห้เสียงดัง รู้สึกโกรธมันขึ้นมา


"ฉันก็รู้แก"


กบสารภาพเสียงอ่อย ผมมองหน้ามันทันที กบก้มหน้า


"ทำไมพล ทำไมแกไม่บอกมัน แกยังเห็นมันเป็นเพื่อนอยู่ไหม"


จ๋าตะคอกใส่พล


"ถ้าเป็นแก แกจะพูดมั้ย ใครจะอยากเห็นเพื่อนเสียใจ"


พลขึ้นเสียง ร้องไห้ออกมา


"ใช่ แกก็รู้ว่าพวกเราไม่ชอบมันอยู่แล้ว ถ้าพูดไป แกจะเชื่อมั้ย"


กบเอาบ้าง มันก็จริงของมัน เจอแบบนี้ล่ะสะใจดี เห็นกับตา หลักฐานมัดดิ้นไม่หลุดแบบนี้


"ฉันรู้ว่าแกเสียใจ โย ฉันเองก็เสียใจ"


พลพูดทั้งน้ำตา


"ไอ้เชี่ยนั่นมันเลว มันไม่รู้จักพอ"


กบเสริม


"แล้วแก รู้เรื่องเมื่อไหร่"


ผมถาม ด้วยเสียงสะอื้น


"ก็สามวันก่อน มาเที่ยวที่นี่ล่ะ เห็นแล้ว คุยกันอยู่ว่าจะบอกดีหรือเปล่า แต่แกก็มาเจอเอง"


ผม นั่งนิ่ง มันไม่ได้จะปิดผมหรอก มันคงกลัวผมเสียใจ ผมสะอื้นอยู่ รู้สึกเจ็บแปลบเข้าไปในอก ไม่คิดเลยว่าเขาจะทำแบบนี้ ถ้าเป็นคนอื่น ผมอาจจะเสียใจน้อยกว่านี้ แต่นี่เป็น ไอ้นัท คนที่เคยว่าแม่ เสียงโทรศัพท์ ดัง กบรีบแย่งเอาไปดู


"ให้ฉันด่าให้ไหมแก"


ผมนิ่ง แล้วส่ายหน้าขอโทรศัพท์คืน


"ครับ พี่ตั้ม"


ผมพยายามสูดลมหายใจเข้าปอด แล้วบังคับให้เสียงไม่สั่นเครือ เรียกสติกลับมาให้ได้มากที่สุด


"โย พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจ พี่ทำไปเพราะเมา"


เขาพยามแก้ตัว


"พอเถอะครับ พี่ตั้ม"


"พี่ทำไปเพราะเราไม่มีเวลาให้พี่ พี่ไม่ได้คิดจริงจังกับเขานะ โย โยอย่าเข้าใจผิด พี่รักโยคนเดียวนะ"


ผมกลืนน้ำลายลงคอ อย่างยากเย็น เหมือนคนมาหว่านทรายอยู่เต็มคอ


" พี่ตั้ม ขอโทษนะครับที่ผมไม่ได้เรื่องในเรื่องอย่างว่า แต่ กรุณาอย่าติดต่อผมอีก ผมขออณุญาติลบเบอร์ เราไม่เคยรู้จักกัน เจอกันที่ไหนก็ไม่ต้องทัก ของที่พี่ให้ รบกวนไปรับคืนที่วัดใต้ นะครับ ผมจะเอาไปทำทาน ให้สัมพเวสี"


ผมเน้นประโยคสุดท้ายแล้วกดสายทิ้ง ปิดเครื่องไปเสีย รู้ว่าพูดกับเขาแรงไป แต่ ตอนนี้เขาไม่ควรจะพูดอะไร เพราะมันยิ่งทำให้ผมเกลียดเขามากกว่าเดิม เพิ่งรู้ตอนนี้เองว่าคนที่เขาโดนเขี่ยทิ้ง มันเจ็บเหลือเกิน เสียดแทงเข้าไปในใจ แม่เคยสอนเสมอว่าให้อภัย ไม่ว่ามันจะหนักหนาแค่ไหน ครับ ผมให้อภัยแล้ว อโหสิ ให้ทุกอย่าง ปล่อยให้เขาไปตามทางที่เขาชอบเถอะ


"ต๊าย แอบแรงนะยะ คำฮิตเลยนะเนี่ย จะได้จำเอาไปใช้กับผู้ชายบ้าง"


กบ พูดออกมา ผมอดอมยิ้มไม่ได้ น่าแปลก ทั้งที่เจ็บ ร้องไห้อยู่ แต่พอเห็นท่าทางของมัน ผมกลับรู้สึกอยากหัวเราะ ออกมา เราหัวเราะออกมาเพราะท่าทางของกบ ผมเองก็หัวเราะ แต่เหมือนกำลังหลอกตัวเองอยู่ ยิ่งหัวเราะ เหมือนยิ่งกรีดหัวใจตัวเอง ในความสว่าง ผมกลับหลับตา ดำดิ่งเข้าสู่ก้นเหว รู้สึกเศร้า จน แทบจะทนไม่ไหว


 :sad4: จบตอนนี้ ขอเวลา ทำใจเศร้า รื้อฟื้นตอนที่โดนทิ้งหน่อยนะครับ เดี๋ยวมาต่อ เป็นกำลังใจให้ด้วย น้าาา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2011 02:19:03 โดย eiky »

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ
«ตอบ #48 เมื่อ14-03-2010 06:55:28 »

 :o12: :o12:
ผู้ชายมันก็เหมือนกันหมด สันดานเดียวกัน ไม่รู้จักพอ เศร้าอะ
เข้าใจหัวอกพล กับ กายเลย เคยอยู่ในเหตุการณ์แนวๆนี้เหมือนกัน
ส่วนอีนัท อับจนคำพูด คนแบบนี้ พี่เค้าไปหลงได้ยังไง หรือเพราะมันรู้ว่าพี่ตั้มเป็นใคร
มันเลยจงใจเข้าไปยั่วยวนพี่เค้า เครียดเศร้า เป็นกำลังใจให้น๊า
เรื่องของภาษาก็เรียกว่าแรงกว่าตอนก่อนๆ ยังรับได้ไม่แรงเกินงามเพราะยังด่าได้เพราะ555+
แล้วจะรออ่านต่อ(ในวันนี้ อิอิ)
นิว(ยิ้มๆ)

benxine

  • บุคคลทั่วไป
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ
«ตอบ #49 เมื่อ14-03-2010 08:51:51 »

"ผมจะเอาไปทำทาน ให้สัมพเวสี"

ประโยคนี้โดนมากก เพราะเคยใช้มากับตัว

เหตุการณ์แบบนี้ก็เคยโดนมา...

สู้ ๆ ๆ .... ผู้ชายเหี้ยๆ ไม่รู้จักพอ...

เอาน้องเอมาเย้ยแม่งเลยย!!

 :fire: :fire: :fire:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ
« ตอบ #49 เมื่อ: 14-03-2010 08:51:51 »





samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ
«ตอบ #50 เมื่อ14-03-2010 11:35:37 »

เลว

ชั่ว

อ้างมาได้ เมา

เมาอะไรหละคะคุ๊ณณณณณณณณณณณณณณณณณณณ


เลวมาก

เกลียดผู้ชายที่อ้างแบบนี้ที่สุด

พี่ไม่ได้จิงจัง พี่แค่เมา พี่รักเราคนเดียว

พูดมาได้ ไอชั่ว :z6: :z6: :z6:

[[_GozpeL_]]

  • บุคคลทั่วไป
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ
«ตอบ #51 เมื่อ14-03-2010 12:18:00 »

เมาเป็นแค่ข้ออ้าง :m31:

ผู้ชายแบบนี้ทิ้งๆไปเหอะ :angry2:

kei_kakura

  • บุคคลทั่วไป
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ
«ตอบ #52 เมื่อ14-03-2010 12:39:49 »

เหอๆๆๆๆ  คิดในแง่ดีไว้

....ผู้ชายแบบเนี้ยะ....เอาต-รีน เขี่ย...ก็หาเจอ...ชริ   :m16:

ออฟไลน์ jantaro

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 584
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-1
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ
«ตอบ #53 เมื่อ14-03-2010 15:23:02 »

โยได้ใจมาก ตัดแล้วตัดเลย

ไอเกย์เฮ็งซวยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย :fire: :fire: :angry2: :angry2: :serius2: :serius2:

ออฟไลน์ Vesi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +204/-3
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ
«ตอบ #54 เมื่อ14-03-2010 21:29:34 »

หมดเสี้ยนหนามแระ
กินเด็กเถอะคุ๊ณณณ
เด็กมันหวาน มันกรอบ มันอร่อย และ มันยั่ว
 :z1:

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ
«ตอบ #55 เมื่อ14-03-2010 22:51:47 »

น้องเอได้โอกาสแล้วนะ เสร็จเด็กแน่ๆเลยนะนาย

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ
«ตอบ #56 เมื่อ15-03-2010 06:55:45 »

                              


                      ตอน สิบสอง ค้าบบบบ


ผมตื่นนอนเกือบ เก้าโมงครึ่ง รู้สึกปวดไปทั้งร่าง หนักหัว เหมือนโดนอะไรฟาดมา เหลือบไปมองดูข้างๆ เห็นจ๋ายังนอนอยู่ อีกสามคนนอนฟูกข้างล่าง ยังไม่มีใครตื่นเลย



พอตื่นมีสติ ก็หวนคิดเรื่องเมื่อคืน แปลบขึ้นมาในใจ มันเพิ่งเกิดขึ้นหรือ เหมือนความรู้สึกมันยังใหม่ๆอยู่ จำได้ว่า มาถึงบ้าน แล้วก็ร้องไห้อยู่อีกนาน เพื่อนๆ ก็ปลอบ จนหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ ทำไมนะ ทำไมพี่ตั้มถึงทำแบบนี้ พอนึกถึงคำที่ไอ้นัท มันพูด "เรื่องบนเตียง ไม่ได้เรื่อง" ผมรู้สึกอายขึ้นมาทันที เคยได้ยินแต่ กายเล่าให้ฟังว่า คนนั้นเป็นอย่างนั้น คนนี้เป็นอย่างนี้ ไม่อยากเชื่อ เวลาคนที่ถูกนินทา มาได้ยินเอง มันจะเจ็บ อาย ฝังใจขนาดนี้ ผมงัวเงีย ไม่อยากจะตื่น เหมือนเมื่อคืนไปแบกอิฐแบกปูนมา เหล้าที่กินไปมันทำให้ปวดกาย สิ่งที่เห็นมา ที่พูดออกไป มันทำให้ปวดใจ รู้สึกไม่มีแรงใจจะทำสิ่งไหนอีกในวันนี้

ขยับมองนาฬิกา ตายล่ะสิ มีสอนนี่วันนี้ ผมรีบเด้งตัวลุกจากเตียง แต่ก็กลัวเพื่อนตื่น ผมรีบหาโทรศัพท์แล้วลงไปข้างล่าง พอเปิดเครื่อง เห็นหมายเลขที่ไม่ได้รับ กว่าห้าสิบสาย ข้อความอีก สิบกว่าข้อความ เปิดดู พอรู้ว่าเป็นของใครผมก็ลบทิ้งโดยที่ไม่เปิดอ่านเลย ผมรีบโทรศัพท์ ไปหาอาจารย์ปริศนา



"สวัสดีครับ อาจารย์ปริศนา ผมโยนะครับ"

 ผมพูดเมื่ออาจารย์ปริศนารับสาย


"อ้าว ลูกโย แม่ก็นึกว่าไม่สบาย ให้ตาโอโทรหาหลายรอบแล้ว แต่เราปิดเครื่อง"



"อ้อ ขอโทษครับ พอดีเมื่อคืนเวียนหัวครับ เลยกินยา ตอนนี้ดีขึ้นแล้วครับ"



ผมแก้ตัวไป แต่ที่จริงก็ยังเวียนหัวอยู่



"ไหวมั้ยลูก วันนี้ไม่ต้องมาสอนก็ได้ นอนพักเถอะจ๊ะ แต่ตอนนี้แม่ออกมาจากบ้านแล้ว อืม เอายังไงดี"



อาจารย์ปริศนาเว้นช่วง





" เห็นอาทิตย์ก่อน ตาเอบอกว่าโยทำกับข้าวอร่อย แม่เลยซื้อแต่ของใส่ตู้เย็นไว้ให้ ยังไม่ได้ทำกับข้าวให้ตาเอเลย ไม่เป็นไรลูก เดี๋ยวแม่โทรบอกตาเอให้ ว่าให้ออกไปซื้อข้าวหน้าปากซอยมากินเอง"




"ผมไม่เป็นไรมากแล้วครับ เดี๋ยวผมกำลังจะออกจากบ้าน ผมขอโทษอีกทีนะครับ"




"โอ๊ย ลูก ขอทงขอโทษอะไรกัน คนไม่สบายก็ต้องพัก แม่ต่างหากที่ควรจะขอบใจเรา ตาเอ ชมโยตลอดเลยนะ แม่เลี้ยงมันมาก็เพิ่งเห็นมันชมใครนี่ล่ะ"



ผมไม่ได้รู้สึกยินดีกับคำชม แต่อยากจะวางหูเหลือเกิน ไม่ได้รำคาญเสียงอาจารย์ปริศนานะ แต่รู้สึกเหมือนกำลังจะอ๊วก พอวางสายเสร็จ ผมก็วิ่งเข้าห้องน้ำชั้นล่าง อ๊วก ออกมา อ๊วก จนปวดท้อง ผมลากตัวเองออกจากห้องน้ำ เข้าครัวไปหาน้ำเย็นมาดื่ม พอดื่มน้ำรู้สึกค่อยยังชั่วขึ้นมาหน่อย ผมจึงไปอาบน้ำ



ผมนั่งแท็กซี่ไปบ้านอาจารย์ปริศนา เพราะกว่าผมจะออกจากบ้านก็เกือบ สิบโมงครึ่งแล้ว เพื่อนๆ ยังไม่ตื่นกันเลย สบายกันจังนะ ระหว่างทางผมมองนั่นมองนี่ใจลอยไปเรื่อย พยายามไม่คิดเรื่องที่จะทำให้ผมคิดถึงเขา แต่ก็อดไม่ได้ มันวกกับมาทุกที พอหลับตาลงทีไร ภาพเขาก็วนเวียนแจ่มชัดขึ้นมา รถรอสัญญาณไฟตรงแยกเอกมัย ผมมองไปเมเจอร์ สะท้อนใจขึ้นมา ผมชอบมาที่นี่กับเขามาก เพราะรู้สึกคนไม่เยอะวุ่นวาย ผมรักเขาแล้วผมแสดงออกไม่เต็มที่เหรอ เขาถึงปันใจไปมีคนอื่น คิดแล้วก็ใจหาย นี่ผมเลิกกับเขาแล้วจริงๆหรือ วันคืนเก่าๆ เราไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกันเลย มีแต่ความรู้สึกดีๆ ผมมองเขาในแง่ดีมาโดยตลอด ไม่เคยสักครั้งที่จะไม่เชื่อใจ ไม่เคยที่จะคิดระแวง ถึงแม้จะไม่ได้เจอกันบ่อย แต่ผมก็ห่วงเขาทุกวัน อยากคุย อยากเจอหน้า อยากจับตัวเขา อยากไปในทุกๆที่ที่เราเคยไป ที่ที่มีแค่ผมกับพี่ตั้ม เจ็บเหลือเกิน เจ็บจนไม่อยากจะหายใจออกมา ลมที่ผ่านเข้าออก มันย้ำทุกที ว่าไม่มีเขาอยู่แล้ว พอรู้สึกว่ามีน้ำตาซึมออกหางตา ผมก็สะบัดความคิดนั้นออกจากหัว
แล้วยังไง ในเมื่อคนมันไม่รู้จักพอ ต่อหน้าทำอีกอย่าง ลับหลังเราก็ทำอีกอย่าง ปากคนเราจะพูดแม่น้ำให้กลายเป็นภูเขายังได้ กับแค่บอกว่ารัก ทำไมเขาจะพูดไม่ได้ เวลาเขาพูดใช่ว่าเราจะเห็นว่าใจของเขาคิดออกห่างไปแค่ไหนแล้ว ปล่อยเขาไปเถอะ รั้งไว้มันก็ไม่เหมือนเดิม แก้วที่อยู่ของมันดีๆ เขามาทำให้มันร้าวเอง มันไม่มีทางจะเชื่อมต่อให้มีสภาพดังเดิม ไม่มีทาง ในสมองคิดแยกเป็นสองฝ่าย พยายามฝืนตัวเองไม่ให้จมอยู่กับความเศร้า จะตบตีทึ้งหัวตัวเองให้เจ็บช้ำแล้วได้อะไรขึ้นมา

แท็กซี่จอดหน้ารั้วประตูบ้าน ผมจ่ายเงินแล้วลงไปยืนถอนหายใจอยู่หน้าประตูบ้าน สภาพของผมมันเป็นยังไงนะตอนนี้ คงโทรมจนดูไม่ได้ ผมเอามือลูบหน้าตัวเองก่อนจะกดกริ่ง ยืนรอสักพักไม่เห็นทีท่าว่าเอมันจะมาเปิด ผมเลยลองผลักประตูเล็ก ไม่ได้ล็อค อาจารย์ปริศนาคงคิดว่าผมกำลังมาก่อนออกที่จะออกจากบ้านจึงไม่ได้ล็อกประตู ผมเดินเข้าไปในบ้าน ได้ยินเสียงโทรทัศน์ดังมาจากห้องรับแขก ผมถอดรองเท้าแล้วเดินเข้าไป เอนั่งดูอยู่ มันหันมาเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู



"โห นึกว่าจะเบี้ยวซะแระ"



มันยิ้มอย่างร่าเริง น่าแปลกที่วันนี้มันตื่นมานั่งรอ



"โทษทีครับ พอดีพี่ไม่ค่อยสบาย"



ผมพยายามก้มหน้า เพราะรู้สึกว่าตายังแดงๆ อยู่



"จะไหวมั้ยเนี่ย ผมหิวอ่ะพี่ รอตั้งนาน"



"เดี๋ยวพี่ทำให้ รอแป๊บนะ"



ผมรีบเดินเข้าครัว ไม่อยากคุยกับมัน กลัวมันกวนอีก รู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอ ไม่อยากสู้รบกับใคร ผมเปิดตู้เย็นดูของที่จะทำ กะว่าจะทำต้มยำรวมมิตรอย่างเดียว เพราะไม่มีกระจิตกระใจ ผมยืนเหม่อต้มน้ำ เอากุ้ง เอาไก่ออกมา เปิดน้ำแช่ไว้ ผมเอาทัพพีลงคนในหม้อที่มีแต่น้ำเปล่าๆเดือดอยู่



"ทำไรกินอ่ะพี่"



เอมันมายืนข้างหลัง ผมสะดุ้งเพราะมันเอาเป้าที่กำลังตื่นตัวมาถูที่ก้นของผม พลางเอาปากมากระซิบถามที่หู ถ้าเป็นเมื่ออาทิตย์ก่อนผมคงสาดน้ำร้อนใส่มันแล้ว แต่วันนี้ ผมยืนนิ่ง



"อ้อ ต้มยำ เรากินเผ็ดไหม"



ผม พูดแค่นั้น แต่ไม่ได้ดิ้นหนีเหมือนแต่ก่อน มันคงแปลกใจ แต่คงอยากแกล้งผมอยู่ มันเอามือมากอดเอว



"แล้ว เหม่ออะไรพี่ คนอยู่ได้น้ำเปล่าน่ะ"



มันยังคงซุกไซร้ต่อ ผมได้สติ จึงเอาเครื่องปรุงลงไป



"เป็นไรพี่ วันนี้ไม่เห็นว่าเลย"



มันถาม แต่ยังไม่ปล่อย



"อ้อ เปล่าครับ เราอยากโดนน้ำร้อนลวกเหรอ"



ผมถามเสียงเรียบ ไม่มีต่ำสูง มันรีบปล่อยทันที แล้วถอยออกไปยืนห่างออกไปสองสามก้าว



"เฮ้ย พี่ แปลกไปจริงๆ ล่ะ ไหวมั้ยเนี่ย"



มันชะโงกหน้ามาดู ผมรีบเอาทุกอย่างลงไปพร้อมกัน ไม่ได้ๆ เราจะมาเหม่อลอย ไม่มีสติแบบนี้ไม่ได้



"จะกินได้มั้ยเนี่ย"



มันล้ออยู่ห่างๆ



"เดี๋ยวพี่เจียวไข่เพิ่มให้"



ผมพูดเสียงเบา มันคงรู้แล้วว่าผมไม่เหมือนเดิม มันกลับไปนั่งที่โต๊ะกินข้าว สักพักก็ไปเปิดตู้เย็น เอาน้ำอัดลมออกมากิน พอมีสติจากการบังคับตัวเอง ผมก็ทำทุกอย่างให้เป็นปกติ พอทำกับข้าวเสร็จก็ตักให้มัน ซึ่งนั่งมองอยู่ไม่พูดอะไร ผมไม่อยากมองหน้ามัน เพราะเดี๋ยวมันถาม ไม่อยากตอบ ไม่อยากพูด วันนี้กะจะให้มันดูหนัง แล้วหัดฟัง ระหว่างนั้นผมก็จะอยู่เงียบๆ


กับข้าวรสชาติไม่เลวแต่คาว เพราะผมใส่ทุกอย่างลงไปพร้อมกัน แปลกที่มันไม่บ่นสักคำ พอกินเสร็จผมก็ล้างจาน มันขึ้นไปรอในห้อง ผมล้างจานอยู่นาน ล้างแล้วล้างอีก พอว่างและอยู่คนเดียวทีไร ใจก็คิดไปหาเรื่องเมื่อคืนทุกที ใจหาย เสียใจ เจ็บแปลบเข้าไปข้างใน ผมพยายามดึงตัวเองกลับมา ยังต้องมีหน้าที่อยู่ ผมขึ้นไปข้างบน มันนอนกับพื้นเอาขาพาดโต๊ะที่เรานั่งเรียนอย่างสบายใจ



"พี่ ผมทำข้อสอบได้ด้วยล่ะ เหมือนที่พี่สอนเลย"



มันพูด ผมนั่งลงตรงปลายเท้ามันพอดี มันไม่เอาเท้าลง กลับกระดิกเท้าอย่างสบายใจ ผมไม่ว่าอะไร นั่งลงมองเท้ามัน



"ครับ ดีแล้ว"



"เฮ้ย พี่ ถามจริงๆ วันนี้เป็นอะไร ทำไมไม่เหมือนเดิม"



มันถามแล้วค่อยเอาเท้าลง คงเห็นว่าผมนิ่งเสียเหลือเกิน



"เปล่าครับ พี่มึนหัวนิดหน่อย"



"จะสอนไหวมั้ยเนี่ย เอ หรือว่าวันนี้เราจะทำอย่างอื่นกันดี"



มันเด้งตัวขึ้นมานั่ง ทำท่าคิด แล้วเอาหน้ามาจ่อหน้าผม แต่วันนี้ผมไม่หลบ ไม่มีแรงจะหลบ ได้แต่หลุบตาลงต่ำ ไม่อยากให้มันเห็น แววตาที่เหนื่อยล้า หมดแรงใจในตอนนี้



"มามีอะไรกันดีกว่าพี่"



มันพูด มองหน้าผม ทำไมไม่รู้ มันไม่เคยกลัวผมเลย ไม่เคยที่จะเกรงใจ ผมมันดูไม่มีอำนาจ ไม่มีอะไรให้ใครเขามองเห็นขนาดนั้นเลยเหรอ ผมมันเป็นลม เป็นอากาศธาตุหรือยังไง มันยังจ้องไม่เอาหน้าถอยออก ผมเองก็ยังนิ่ง


มันเอาปากมากระกบปากผมทันที แล้วยังพยายามดันปากมันให้เบียดเข้าในปากผม พลันน้ำตาผมก็ไหลออกมา ท้อใจเหลือเกิน เขาคนนั้นก็คงคิดกับผมแต่เรื่องแบบนี้ ผมมันไม่เก่ง นอนเหมือนขอนไม้ ไร้วิญญาณ ไม่เร้าใจเขา เหมือนไอ้นัท นี่ใช่ไหม เหตุผลที่เขามีใจให้คนอื่น เหตุผลที่ทำให้เขานอกใจ ผมรู้สึกตีบตันในคอ เหมือนอาหารที่กลืนลงไปเมื่อครู่มันจุกอยู่ที่คอ ทั้งเจ็บ ทั้งอาย ร้อนเบ้าตา น้ำตาร่วงลงเหมือนเขื่อนแตก มันคงตกใจผละออกทันที



"เฮ้ยพี่ ผมขอโทษ"



มันเสียงสั่น ผมไม่ได้ยินอะไรแล้ว กัดปากตัวเอง ไม่ให้สะอื้น ผมนั่งอยู่ท่าเดิม ความในใจที่เหมือนพยายามฝืนมันไม่ให้แสดงออกมา มันกดดันเกินจะเก็บอีกต่อไป เมื่อคืน เหตุการณ์มันเร็วเกินไป ที่ร้องไห้ออกมาเพราะเพิ่งเจอ มันเจ็บ แต่มันก็ไม่มีเวลามันนั่งคิดไตร่ตรองเหมือนตอนนี้ ยิ่งคิด ยิ่งทบทวน ยิ่งกรีดลึกลงไปในใจ เจ็บ เจ็บเหลือเกิน



"ผมขอโทษพี่ ผมล้อเล่น ผมไม่ได้ตั้งใจ"



มันยังคงพูด แต่ทำอะไรไม่ถูก ผมยังคงปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา คราวนี้พอหายใจเข้า ก็สะอื้นเสียงดัง ผมก้มหน้าลงกับโต๊ะ ร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย ไม่มีเสียงใดจากมัน ผมร้องไห้อยู่นาน กว่าจะสงบ พอร้องไห้ออกมาจนหมด ก็รู้สึกอาย ไม่คิดว่าคนที่จะได้เห็น น้ำตาล็อตใหญ่ จะเป็นไอ้เอ



"ขอโทษนะ พี่เครียดๆน่ะ"



ผมพูด เสียงยังเคล้าน้ำตาอยู่ มันยังคงหน้าเหวออยู่



"อกหักเหรอพี่"



มันถาม ผมไม่รู้จะตอบว่าอะไร ใช่ อกหัก ไม่ใช่สิ โดนเขี่ยทิ้งสิน่าจะเหมาะสมที่สุด โดนเหวี่ยงทิ้งเหมือนของที่ใช้แล้ว ของชั้นเลวที่ได้มาอย่างไม่มีคุณค่าที่จะเก็บเอาไว้ คนเราแม้จะอยู่ด้วยกัน พูดคำว่ารักทุกวัน แต่ถ้าใจมันออกห่างแล้ว อะไรๆ มันก็มัดใจไว้กับใจไม่ได้ จะโทษเขามันก็ไม่ถูก เราเองก็ไม่ใช่ดี ถือว่าทำบุญกันมาแค่นี้ละกัน ขออโหสิทุกอย่าง ต่อจากนี้ก็จะไม่ฟูมฟายตีอกชกตัวอีกแล้ว รู้ว่าใจเจ็บ รู้ว่าทรมาน แต่ถ้าลงโทษตัวเองอยู่แบบนี้ มันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา ชีวิตผมยังต้องเดินต่อไป เด็กเกเร ก้าวร้าวที่นั่งอยู่ข้างหน้าก็รอผมสอนภาษาอังกฤษอยู่ จะแสดงความอ่อนแอของตัวเองให้เขาเห็นไม่ได้ ผมสูดลมหายใจเข้าปอด แล้วเปิดตำรา



"ดูหนังดีกว่าไหมพี่ วันนี้เรียนการฟังดีกว่า"




ผมรู้สึกชื่มชมมันก็วันนี้เอง มันเหมือนอ่านใจผมออก ว่าสอนไป ผมก็คงพูดวกไปเวียนมา ขอบใจมากเอ สรุปเราก็ดูหนังจากคอมกัน ผมเอาทรัมไดรฟ์ติดไว้ในกระเป๋าตลอด ผมให้มันดูเรื่อง Billy Elliot เพราะอีกเรื่อง About a Boy ค่อยให้มันดูคราวหลัง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2011 02:20:07 โดย eiky »

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ
«ตอบ #57 เมื่อ15-03-2010 07:27:19 »

 :monkeysad:
ผู้ชาย....
รออ่านนะ writer

+1 เป็นกำลังใจ

Seoul In Love

  • บุคคลทั่วไป
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ
«ตอบ #58 เมื่อ15-03-2010 08:43:26 »

อ่านรวดเดียวเลยค่ะ ตอนหลังๆ นี่เศร้ามากมาย  :monkeysad:

ปล่อยเขาไปเถอะ เขาไม่รักดีก็ปล่อยให้เขาไปเจอคนประเภทเดียวกับเขา จะได้สมน้ำสมเนื้อกัน  :angry2:

โยเองเป็นคนดีก็จะได้เจอคนดีๆ เหมือนกันค่ะ  :impress3:

รอตอนหน้าต่อ  :call:

benxine

  • บุคคลทั่วไป
Re: Boy's Story ให้รักนำทางใจ
«ตอบ #59 เมื่อ15-03-2010 09:51:49 »

 :monkeysad: :monkeysad:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด