ต้องขออภัยในความล่าช้าด้วยนะคะ มาแล้วจ้าตอนต่อไป จะกระจ่างมั้ยเชิญติดตาม

==========================================
ตอนที่ 7ไอ้ฉานนะไอ้ฉานมันเป็นอะไรมากมั้ยเนี่ย หรือว่ามันเริ่มเข้าสู่วัยทอง เดี๊ยวนี้อารมณ์มันแปรปรวนง่าย จนตามแทบไม่ทัน
เมื่อวานมันหัวเราะ
วันนี้มันหงุดหงิด
เมื่อวานมันไร้สาระ
วันนี้มันเน้นหนักหลักวิชาการ
ไอ้ดวงตะวันเอ้ย.......หมุนรอบตัวเองแทนโลกหรือไงมึงหนะ ทำตัวปกติชนแบบ ท่านเมฆบ้างสิเว้ย
ต้องเอาใจใส่มันหน่อยครับ เดี๋ยวนี้แค่รดน้ำพรวนดินไม่พอ ไอ้ฉานมันอัพเลเวลตัวเอง จนต้องเพิ่มการใส่ปุ๋ยลงไปด้วยแล้ว
ในฐานะคนสนิทอย่าง องค์สยมภู แล้ว เอาใจมันสักนิด ดูแลมันสักหน่อย ให้มันค่อยๆ ตายใจ
แล้วเราก็ค่อยตลบหลัง ผสมยาในกาแฟมันวันละนิด พอมันเสียชีวิตไป สมบัติมัน ขี้คร้านจะเป็นของเรา
วะ ฮ่า ฮ่า......แอบหัวเราะในใจประมาณว่าเป็นคนบ้า พบเหรียญบาท ฉลาดจริงๆ ท่านเมฆ
แต่นี่ชีวิตนะครับชีวิต ไม่ใช่ละครหลังข่าว จริงๆ เห็นหน้ามันเมื่อกี้แล้วแอบเครียด
“ที่ไหนอะ ฉาน” บีบเสียงให้ดูสลดสุดๆ เจี๋ยมเจี้ยม ที่สุด จริงจังในท่าทางแถมเข้าไปด้วยอีกนิด
“ห้องกู” ห๊า !! ทำไมมีตัวเลือกเดียวเองหละ ท่านเมฆไม่ได้กลับบ้านนานแล้ว ก็คิดถึงหุ่นกันดั้ม อุลตร้าแมน
บ้างอะไรบ้างเหมือนกันนะเว้ย.......จ๋อยครับ จ๋อย
ปกติ เวลากลับมาบ้าน ส่วนใหญ่ ก็นอนด้วยกันนี่แหละครับ อยู่หอ ก็นอนห้องใครห้องมัน แต่กลับบ้าน ก็นอนด้วยกัน
แต่เวลาจะเข้านอน ไอ้ฉานมันจะให้ผมเลือกครับ
“ ห้องมึง หรือห้องกู “ อันนี้เป็นตัวเลือก เวอร์ชั่น คุณฉานแสง ตอนอารมณ์ปกติ
“ ห้องเมียคนดี หรือห้องพี่ดีจ๊ะ ที่รักจ๋า “ ตัวเลือก ตอนคุณฉานแสง อารมณ์เกินพอดี บางทีมันมีหยิกแก้มแถมความน่าหมั่นไส้ลงไปด้วยนะครับ
แต่คราวนี้ มันจะเครียดไปไหมหละ ท่านเมฆ ปรับอารมณ์ไม่ทัน คุณพี่ฉานจริงๆนะครับ ต้องต่อต้านครับต้องต่อต้าน
วัยผมวันรุ่นพอดี แบบนี้ ต้องเจอกันหน่อย
ก่อนอื่น ต้องเอามือถูจมูกทำเท่ห์ แบบที่พระเอกหนัง เค้าทำกัน ถลกแขนเสื้อขึ้นอีกนิด จะดูสมจริงกว่ามั้ยวะ
“เมฆ จะไปกันยัง “ ขัดจังหวะ แบบนี้ทุกทีสิน่า อารมณ์เสีย ชิส์
“ไปเอาหมอนข้างก่อน แล้วเดี๊ยวตามไป” ให้ได้สิ อย่าเพิ่งเริ่มชินกันนะ นี่คงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายแน่ ที่ผมต้องแพ้แบบนี้
ปล่อยไอ้ฉานมันรอไปครับ ขอขึ้นไปเอายานอนหลับประจำตัวก่อน ผมติดหมอนข้างอย่างแรง ในขณะที่ไอ้ฉาน มันรำคาญหมอนข้างอย่างแรงเช่นกันครับ ห้องมันมีแต่หมอนหนุน ผ้าห่มนี่มีประดับบารมีมั้งครับ เพราะมันไม่ค่อยห่มหรอก ส่วนผม อย่างน้อยถ้าไม่ได้ห่มจริงจัง ก็ต้องมีบ้างที่เอาผ้ามาปิดปลายเท้าไว้สักนิด โรคจิตนิดๆ เหมือนกันนะเนี่ยผม
มือหนึ่งกอดหมอนข้างแสนรัก มือนึงค่อยๆ จับลูกบิด ห้องไอ้ฉาน อาการผมตอนนี้ ประหนึ่งตีนแมวแอบเข้าบ้านคนอะครับ ก็แล้วทำไมกูต้องย่องวะเนี่ย ไม่เข้าใจ เดินปกติ ดีๆก็ได้ แล้วทำไมไม่ทำวะ
ไม่รู้ครับ ผมรู้สึกว่า บรรยากาศมันเริ่มจะอึมครึม ยังงัยไม่รู้ ดุไอ้ฉานมันเครียดๆ ไอ้นี่ก็น่าจะแสดงละครนะครับ ให้มันเป็นคนขับรถอะไรแบบนี้ ได้บทบาทตามหน้าตามันแหละครับ ก็เพราะบทพระเอกหนะ ท่านเมฆสอยมาแบบเน้นๆอยู่แล้ว
ตอนกินข้าว ไอ้ฉานก็ยังเป็นไอ้ฉานคนเดิมของน้าชาติ น้าพิมพ์ และแม่นิ่มครับ ออกแนวตลกบริโภค
พอผู้กำกับสั่งคัท
มันก็กลับมาอึมครึม ใส่ผม เฮ้ออออ !!!
หือออออออออ...เข้าห้องมา นึกว่าป่าช้าวัดเสมียนนารีครับ ทำไมถึงเงียบและมืดแบบนี้
“ ฉาน ฉาน มึงอยู่ไหน ไฟดับเหรอ” ถามโง่ๆ ไปงั้นแหละครับ เดินเข้าบ้านมาไฟสว่างโร่ ทั้งบ้าน
คงไม่อุตริ ดับแค่ห้องมันห้องเดียวหรอกมั้ง
จัดการเปิดไฟเปิดแอร์ ก่อนหันไปเจอมัน ยืนดูดบุหรี่ที่ระเบียงครับ
“ฉาน ไหนว่ามึงจะไม่ดูดบุหรี่ที่บ้านไง” มันไม่ได้ติดบุหรี่หรอกนะครับ มันจะดูดตอนที่กินเหล้า หรือตอนที่มันคิดโปรเจคส่งอาจารย์ไม่ออก แต่มันบอกว่า จะไม่ดูดที่บ้านเด็ดขาด น้าพิมน้าชาติ ไม่ว่าอะไรหรอกครับ แต่มันคงเกรงใจและรู้สึกไม่ดี ที่จะมาดูดให้พ่อแม่เห็น แค่เรื่องที่พวกเราเลือกเอนท์มหาลัยซะไกลบ้าน ก็คงทำให้พวกท่าน เป็นกังวลใจมากพอแล้ว
“พอดีเปรี้ยวปากหนะ” เห!! มันไม่ได้นับหน้าเจ็ดหลังเจ็ดเหรอวะ ทำไมมันถึงพลาดได้
“มึงอยากกินอะไรเปรี้ยวๆ มั้ย มะดัน มะยมดอง มะขาม อร่อยนะเว้ย กินพร้อมยาดอง มีน้ำใบเตยแถมด้วย” ท่านเมฆไม่เน้นเครียดครับ เราเน้นฮา
“ ทะลึ่งแระเมฆ มานี่มา “ มันขาดการกระดิกนิ้วอีกนิดนะเนี่ย ผมจะได้เดินไปหามันพร้อมกระดิกหาง
“มีไรวะ” ทำไมแอบรู้สึกอยากเอาหัวถูๆ ไหล่ มันวะเนี่ย
“เวลามึงมองดวงจันทร์ มึงเห็นอะไรวะ” มันเป็นคำถามที่ต้องการคำตอบแบบไหนเนี่ย
“ตะวัน” มันออกมาเองครับ คำตอบนี้ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตอบแบบนี้
“ทำไมวะ” งง แดกเลยครับ มันไม่ใช่คำตอบที่ได้แต้มหรืออย่างไร
“จะให้กูตอบว่างัยหละ ตอบว่า เวลาน้องเมฆมองดวงจันทร์ น้องเมฆ มองเห็นกระต่าย แบบนี้ใช่มั้ยครับพี่ฉาน”
เมื่อกี้ยังทำหน้าเครียดเป็นกูปรีหนีน้ำอยู่เลยนะมึง ที่ตอนนี้หละหลุดยิ้ม ถ้ามองไม่ผิด คิดว่า มันหลุดหัวเราะออกมาในลำคอด้วยนะเนี่ย
“เหมือนที่กูมองขึ้นไปทีไร ก็เห็นแต่ก้อนเมฆ อะเหรอวะ” ฉึก!! ตรงกลางใจพี่เมฆเลยครับ
“ แนะ แนะ แน๊น๊น๊น๊.....จะบอกรักพี่เมฆทางอ้อมเหรอครับไอ้พี่ฉาน ถ้าพี่ฉานพูดแบบนี้ ให้แม่มาขอพี่เมฆเลยดีกว่าครับ”
เล่นกะมันหน่อยครับ โบราณท่านว่า เล่นกับหมา หมาเลียปาก แต่เดี๊ยวท่านเมฆคนนี้ จะดูดปากหมาฉานให้ดู หึ หึ
“มึงนี่น๊า เคยเครียดอะไรกะใครเค้าบ้างมั้ยเนี่ย” พูดอย่างเดียวก็พอมั้ง มือไม้ไม่รู้จะเก็บไว้ที่ไหน จับใข่ไว้ก็ได้
ทำไมต้องเอามาขยี้หัวกูด้วยว๊า วัยรุ่นเซ็ง!!
“ กูได้กลิ่น คะน้าปลาเค็ม จากไหนไม่รู้หวะเมฆ ขมลงคอเลยเนี่ย” อะไรของมันวะ บนโต๊ะกินข้าววันนี้ ก็ไม่มีนะคะน้าปลาเค็ม
“ไหนวะ ฉาน จมูกดีไปมั้ย กูไม่เห็นได้กลิ่นอะไรเลย” ไม่ได้กลิ่นจริงๆนะครับ อันนี้ไม่ได้แกล้งเลย
ไอ้ฉานมันไม่หายสงสัยครับ มันฟุดฟิด ฟุดฟิด ดมหากลิ่นของมันไปเรื่อย สงสัยสมองส่วนไฮโพธาลามัส ของมันจะประสิทธิภาพดีเป็นพิเศษ
“มึงไม่สระผมมากี่วันแล้วเมฆ “ เฮ้ย อะไรวะ มันหากลิ่นคะน้าปลาเค็มอยู่ดีๆ ทำไมมาโผล่ที่หัวผมได้
“ 2 เอ้ย 3 หรือ 4 วะ กูไม่แน่ใจหวะ” จำไม่ได้จริงๆครับ แหะ แหะ
“ก่อนนอนบนเตียงกูเนี่ย มึงกรุณาไปอาบน้ำสระผมใหม่เลยนะ ไม่งั้นกูไม่ให้นอนใกล้กูแน่” อ้าว แล้วเมื่อกี้หมาที่ไหน บอกมีเรื่องจะคุย แล้วให้มานอนที่ห้องมันเนี่ย
“ งั้น พรุ่งนี้เจอกันนะ กูกลับห้องกูแระ ฝันดีหวะ” เหอ เหอ เลือกกลับห้อง ดีกว่าเลือกสระผมครับ ดึกแล้วหนาวจะตาย
สระผมก็ต้องอาบน้ำใหม่ เปลืองน้ำก็เปลือง แถมหัวไม่แห้ง ตื่นเช้ามาไม่จะทำไง ก็เดือดร้อนมันต้องมาดูแลผมอีก
“เมฆมึงจะอาบดีๆ หรือให้กูอาบให้ “ ขยันขู่จริงๆนะมึง
“ฉาน แต่กูง่วงแล้วนะ อีกอย่าง มึงลองดูสิ เนี่ย ลมแรงมากเลย กูรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวด้วย ถ้าอาบน้ำสระผม กูอาจไม่สบายนะมึง จริงๆ นะฉาน มึงไม่สงสารกูเหรอ” ผมชักแม่น้ำมาครบทั้ง 5 สายยังครับ ถ้ายังไม่ครบ ขอแถมหน้าแบบหมาหงอยเข้าไปอีกหนึ่งสเตป
“พูดแบบนี้แสดงว่าอยากให้กูอาบให้สินะ มาสิ วันนี้กูโปรโมชั่นพิเศษ แถมแก้ผ้าให้ด้วย ฟรี”
“มะ มะ ไม่ต้อง กูจัดการตัวเองได้ แต่มึงเป่าผมให้กูนะ โอเคมั้ย” ต่อรองมันซะหน่อยครับ กำไรไม่ได้ ถอนทุนคืนบ้างก็ยังดี
“เออ ลีลาเยอะจริงๆ “ ค่อนขอดกูจริงๆ สามารถเอามาต่อว่ากูได้ทุกเรื่อง อาบน้ำนานมันก็ว่า อาบน้ำเร็วมันก็ว่า เกิดเป็นท่านเมฆ มีดีที่หน้าตาอย่างเดียวครับ ที่เหลือ รู้สึกจะโดนหมาบ้ามาบงการ
ขณะนี้เวลา สองนาฬิกา ห้าสิบเก้านาที สิบวินาที
ขณะนี้เวลา สองนาฬิกา ห้าสิบเก้านาที สามสิบวินาที
ขณะนี้เวลา สองนาฬิกา ห้าสิบเก้านาที สี่สิบวินาที
ไอ้วิทยุบ้า คลื่นไหนไม่รู้ครับ มันจะนับเวลาทำไมนักหนา มันจะรอให้ สามนาฬิกา แล้วค่อยประกาศทีเดียว ก็คงไม่มีใครด่ามันหรอก นับอยู่ได้น่ารำคาญ คนกำลังเคลิ้มๆ
ตอนนี้ผมกำลังนั่งสัปหงก พิงอก ไอ้ฉานอยู่ครับ โทษฐานที่มันไล่ผมไปอาบน้ำสระผม มันเลยต้องชดใช้กรรม มาเป่าผมให้
สมน้ำหน้ามันครับ
“อืม ค่อยดมได้ขึ้นมาหน่อย “ สะดุ้งตกใจสิครับ ไม่ได้สะดุ้งที่โดนไอ้ฉานหอมหัวนะ เรื่องแบบนี้ปกติธรรมดา เราปฎิบัติกันมาแต่เด็ก แต่ที่ต้องสะดุ้งหนะ ก็ตอนไอ้ฉานมันก้มหน้าลงมาดมหัวผม ปลายดรายเป่าผม ก็จ่อตรงคอพอดี ร้อนสิครับทีนี้
“555 เป็นอะไร ร้อนเหรอ” เออสิวะถามได้ แมร่ง เอามือลูบๆตรงคอตอนนี้ยังอุ่นๆ อยู่เลยครับ
“เมฆ มึงชอบแบบที่เราอยู่กันแบบนี้รึเปล่าวะ” มันเอาดรายวางไปแล้วครับ เปลี่ยนมาเป็นเอามือมาเกี่ยวเอวผม แล้วโยกไปโยกมา เหมือนผู้ใหญ่กล่อมเด็กนอน กำลังจะเคลิ้มตามน้ำ นึกได้ ท่านฉานได้ตั้งคำถามไว้นี่หว่า
“ชอบสิ ก็อยู่กันมาตั้งแต่เด็กแล้วนี่หว่า อีกอย่างกูก็ชินกับชีวิตแบบนี้แล้วด้วย ทำไมเหรอ เออ แล้ววันนี้ไหนมึงว่ามีเรื่องจะคุยกะกูงัย”
มันไม่ตอบอะไร นอกจากดึงตัวผมให้ล้มลงนอนข้างๆมันกำลังจะจัดท่าทางการนอนประจำตัว
“ กูว่า กูรู้สึกมากกว่าปกติหวะ “ อะไรของมันวะ รู้สึกมากกว่าปกติ ตลอดเวลา มันก็ไม่เคยปกติกะผมอยู่แล้วนะ
“ยังงัยวะฉาน ที่ว่า ผิดปกติ โอ๊ยยยยยยยย ตบหัวกูทำไมเนี่ย “ ตลอด ตลอด ไหนว่าบัณฑิตเค้าใช้ปัญญา แล้วทำไมไอ้ห่านี่ชอบใช้กำลังกะท่านเมฆจังวะ กูอะ พระอิศวรนะเว้ย เดี๋ยวเจอกูสวนแล้วจะหนาว
“ก็มึงอะน๊า เป็นซะแบบนี้ จะไม่ให้กูห่วงได้งัย จะให้กูปล่อยมึงให้คลาดสายตาได้ไง” ก็ใช่อะดิ ท่านเมฆ เป็นมนุษย์สปีชีย์ ต้องการได้รับการเอาใจอย่างสูง ใครๆก็อยากมาดูแลกันทั้งนั้นแหละ
“ก็ถูกต้องแล้วงัย นี่มึงทำไมมาคิดได้เอาตอนนี้วะ “ เอานิ้วจิ้มหน้าผากมันไปทีครับ ก่อนจะดึงมึงมันออกมารองรับหัวผม อันนี้ไม่ได้อ้อนนะครับ เรื่องนอนหนุนแขน ผมก็ทำเป็นประจำเช่นกัน แต่ไม่ทั้งคืนหรอกครับ พอต่างคนต่างหลับไปแล้ว
แต่ละคนถนัดวาดลีลาตอนนอนท่าไหน ก็ฟรีสไตล์ครับ
“ไม่รู้สิ ตอนกูตามหามึง แล้วเจอไอ้ดิวบอกกูว่า พี่เด่นพามึงไปขึ้นครู ตอนนั้นกูหัวเสียมาก วิบทั้งมึง วิบทั้งพี่เด่นแต่ที่มากกว่านั้น กูเป็นห่วงมึง จนเรียกได้ว่าหวง มึงว่าแบบนี้ มันคือความรู้สึกที่มากกว่าปกติป่าววะ” อืมมมมมมม อันนี้ก็น่าคิดนะครับเนี่ย
“ ไม่หรอก มันคงเป็นเพราะ กูเพิ่งเจอเรื่องนี้ครั้งแรกมั้ง มึงเลยห่วงกู กลัวกูทำไม่เป็นใช่มะ กลัวกูจะเป็นขี้ปากไอ้พวกนั้นว่าไม่เอาไหน ใช่ป่ะ “ มันอึ้งไปครับ บอกแล้วเห็นมั้ย ระดับสมองอย่างท่านเมฆ ซะอย่าง เรื่องแบบนี้ ท่านเมฆชนะขาด
“แต่ฉาน ตอนที่รู้ว่า มึงตามหากูแทบคลั่ง เหมือนตอนนั้นอ่ะ กูดีใจมากเลยนะ สุดๆไปเลยอะมึง กูรู้สึกว่า กูไม่เคยอยู่คนเดียวในโลกอีกเลย ตั้งแต่มีมึง มีแม่นิ่ม “ ผมเอาหัวถูๆกับอกมันครับ ไม่ใช่คำพูดที่อยากจะเอาใจ แต่มันเป็นคำพูดที่มาจากใจจริงๆครับ แปลก ผมไม่เคยคิดถึงอนาคตข้างหน้า ไม่เคยจินตนาการว่าต่อไป ผมจะมีชีวิตแบบไหน ไอ้ฉานจะตกลงมีครอบครัวกับใคร ผมไม่เคยเก็บมาคิดครับ เพราะทุกวันนี้ ไม่ว่าผมจะอยู่ตรงไหน ทำอะไรอยู่ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ผมต้องการความช่วยเหลือ หรือต้องการแค่เรียกกำลังใจในการทำอะไร ไอ้ฉานมักเข้ามาอยู่ในกรอบสายตาทุกครั้งที่ผมมองหาเสมอ
เพราะฉะนั้น อะไรที่คิดไปแล้วทำให้ผมกะมันไม่ได้เดินอยู่บนเส้นทางเดียวกัน ก็ไม่รู้จะคิดทำไมให้บั่นทอนจิตใจครับ พรุ่งนี้จะเป็นยังไงก็ช่างแม่ง วันนี้ผมยังมีมัน และมั่นใจว่าพรุ่งนี้ผมก็ต้องมีมัน แค่นี้เองครับแรงใจอันน้อยนิดแต่ยิ่งใหญ่ของพระอิศวรอย่างผม
“อืม กูบอกแล้ว ว่ากูอะมองไปบนฟ้าทีไรก็เห็นแต่ก้อนเมฆ เหมือนที่มึงมองขึ้นไปแล้วเห็นตะวันนั่นแหละ นอนเถอะ กูไม่มีวันทิ้งมึงแน่ กูสัญญาเลยเมฆ ไม่ว่าจะตอนไหน มึงคือคนสำคัญที่สุดของกูเสมอ” อุ่นใจจังครับ คำพูดนี้ ผมถือว่าเป็นคำสัญญาได้มั้ย ถึงเราจะพูดตอนที่สติกำลังจะหลุดลอยไปจากร่าง ถึงมันอาจจะพูดแค่กล่อมให้ผมหลับ แต่ทำไมประโยคนี้ดังอยู่ในหัวตลอดเวลา วนไปวนมาเหมือนบทเพลง จากที่ดังขึ้นเรื่อยๆ จนค่อยๆเบาลงในที่สุด
อา คืนนี้ไอ้เมฆนอนหลับฝันดีแน่ๆ