บุพเพวายร้าย(สอง)
17.30%
ผมล้างหน้าล้างตาแล้วลงมาหาจักรที่นั่งหน้านิ่งจ้องมองโทรทัศน์ในห้องโถง(ห้องรับแขก)โดยที่ไม่ได้เปิด ผมก็เลยมองตาม ไอ้จอสีดำๆมันมีอะไรน่าดู
“............” ผมหันไปมองจักร เหมือนน้องเขาจะไม่รู้ว่ามีผมอยู่ตรงนี้ ผมเลยแตะไหล่
“ อย่า!” จักรสะดุ้งหันควับมา หน้าซีด ดวงตาเบิกกว้างก่อนที่จะหรี่ลงเป็นปกติ
“ ......ตกใจอะไร พี่เอง” ผมบอกรู้สึกไม่สบายใจกับท่าทีของจักร
“ โทษ ..กำลังคิดอะไรเพลินๆ อยู่ๆพี่มาก็ถูกตัวผมเงียบๆผมก็ต้องตกใจดิ” จักรว่า แต่ผมคิดว่าไม่น่าจะตกใจขนาดนั้น
“ มีอะไรจะบอกพี่ไหม?” ผมถามเป็นห่วงเอามือกุมมือจักรให้มั่นใจว่าผมพร้อมจะเป็นที่พึ่งให้ทุกอย่าง ขอแค่เอ่ยปาก
“ ไม่มี ครับ ” จักรว่าค่อยดึงมือออกไปจากมือผมก่อนที่หยิบกระเป๋าบนโต๊ะด้านหน้าขึ้นมา
“ จักร ถ้าจักรมีอะไรบอกพี่นะ” จักรหันมา สบตากับผม ....หวังว่าดวงตาที่ผมใส่ความห่วงใยไปให้จะสื่อไปถึงจักร
“ ถ้ามี .. .. .แล้วจะบอก” จักรว่าคลี่ยิ้มเป็นคนเอามือมาจับแขนผมให้เดินตามออกไปด้วยกัน ผมแทบจะละลายไปกับพื้นที่เท้าสัมผัสอยู่
“ ................”
.
.
.
.
.
จักรเลิกเรียน 5 โมงครึ่ง(เลทเพราะอาจารย์เข้าช้า) ผมไปรอรับเช่นเคย
ผมจอดรถอยู่หน้าคณะเห็นจักรกำลังเดินลงมาพร้อมกลุ่มเพื่อนเช่นเดิมแต่คราวนี้มีคนคนหนึ่งที่เดินติดๆไม่ใช่แก๊งค์ 3 โทน(ฐา พล และเลง)ด้วย ผมเห็นจักรหัวเราะรวน ยิ้มกว้างแล้วรู้สึกไม่ชอบเอามากๆ อยากจะเข้าไปกระชากตัวจักรมาแล้วถามว่า ‘ทำไมทำแบบนี้’ แต่ผมจะไปมีสิทธิ์อะไร แฟนก็ไม่ใช่ ส่วนคำว่าเมียที่ผมยัดเหยียดให้น้องเขาก็ดูไม่มีน้ำหนักจนไม่กล้าคิด ยิ่งไม่มีสิทธิ์ยิ่งอยากมีสิทธิ์!
“ ................” มือผมผลักประตู ตายังจับจ้องที่จักร ก่อนที่จะออกจากรถเดินไปหาจักรที่ยังเหมือนไม่เห็นผม เพราะถ้าเห็นรถผมคงเดินมาหาแล้ว
“ จักร?” ผมว่า เพื่อนหลายคนหันมามองก่อนที่หันกลับไป มีเพียงไอ้ที่ยืนข้างจักรเท่านั้นที่ยังคงหันมามองแล้วยิ้ม
“ กลับล่ะ เจอกันพรุ่งนี้” จักรบอกเจ้านั่นแล้วเดินออกมาที่รถ
“ น่าจะแนะนำให้พี่รู้จักรบ้าง” ผมว่าอยากรู้เดินอยู่ด้านขวาขอจักร
“ เพื่อน” จักรตอบ
“ เหรอ” อยากถามมากกว่านี้ และ...มันอยากรู้มาก
“ ท่าทางสนิทกั ชื่ออะไรล่ะ?” ผมถาม เข้าไปนั่งในรถ เบาะอีกด้านจักรนั่งลง
“ พี่ครับ ผมเหนื่อย อย่าถามอะไรมากได้ไหม!?” น้องเขาพูดดูรำคาญ
“ พี่ก็แค่อยากรู้จักเพื่อนจักร” ผมว่า
“ พี่จีบผม จำเป็นต้องรู้เรื่องผมทุกเรื่องเลยหรือไง!” จักรเริ่มขึ้นสียง
“ .....................” ผมเงียบรู้สึกว่าจักรจะโมโหขึ้นเรื่อย ๆ
“ .....................” จักรถอนหายใจ มองออกไปด้านนอก ผมเอามือไปกุมมือจักรไว้
“ พี่หึงจักรนะรู้ไหม?” จักรหันมา มองตาผม
“ ช่วยไปส่งผมที่บ้านด้วย” จักรพูดจบก็ดึงมือตัวเองกลับไป
“ จักร?”(ผม)
“ ..........”
“ ......จักร พี่ขอโทษ อย่าเงียบแบบนี้สิ”
“ วันนี้ผมไปค้างห้องพี่ได้ไหมครับ?” จักรหันหน้ามาถาม ผมเท้าผมแทบแตะเบรก ตกใจครับไม่รู้ว่าจักรคิดอะไรถึงได้พูดแบบนี้ทั้งที่รู้ว่าผมคิดยังไง
“ .............” ผมพูดไม่ออก แต่ใจตอบไปแล้วว่า ‘ได้เลย’
“ หรือว่าพี่ไม่อยากให้ผมไปค้างกับพี่”
“ อยากสิ! พี่อยากนอนกอดจักรจะตาย” ผมบอกพูดอย่างที่ใจคิดมากเกินไป
“ งั้นพี่ไปส่งผมที่บ้านแล้วก็รอผมเลย พี่จะได้บอกแม่กับพ่อผมด้วย..”
“ จักรไปค้างกับพี่ แล้วถ้าเกิดว่าพี่ทำอะไรจักรล่ะจะว่ายังไง?” ผมถาม
“ ลองดูสิครับ ผมจะชกพี่ ต่อยพี่และกระทืบพี่ด้วย”
“ เอางั้นเลยเหรอ แต่ถ้าได้พี่ยอม”
“หื่น!” หางตาผมมองจักรขณะที่ขับรถเห็นว่าน้องเขากำลังเขินครับ ทั้งที่เมื่อกี้ยังดูเหมือนโกรธผมอยู่แท้ๆ
“ หื่นแต่หล่อชอบป่ะ?”
“ ไม่ชอบ!” ตอบพร้อมสะบัดหน้าหนี ผมหันไปมองยิ้มครับ ก็คนมันมีความสุขจะให้ทำหน้านิ่งได้ไง
“ ชอบหน่อยน่า นิดหนึ่ง” ผมว่าแอบอ้อน
“ นิดหนึ่งก็ไม่ชอบ!”
“ แต่พี่ว่าจักรชอบพี่แล้วนะ ………… ..”
“ ไอ้ ไอ้....” จักรพูดแล้วหันมาจ้องผมตาเขียวปั๊ด แต่พูดได้แต่ ‘ไอ้ ไอ้’
“ ไอ้รักแล้วอ่ะดิ” ผมว่า
ตุบ!? ไล่ทุบต้นแขนผมเต็มรัก ไม่ใช่ครั้งเดียวแต่ 2 ครั้ง และอีกครั้ง
เจ็บครับ
“ จักร พี่เจ็บ!?”
” เจ็บก็ดี หื่นดีนัก บ้าหลงตัวเอง!” และทุบที่ต้นแขนผมอีกครั้งที่พูดจบ
“ แต่พี่จะพาแหกโค้งตายอะดิ ตายด้วยกันเดี๋ยวชาติหน้าได้เจอกันอีกนะ” ผมพูด ยังไงก็ขอหยอดสักหน่อย
“ ไม่มีทาง!”
“ สาธุ ชาติหน้าขอให้ได้เจอน้องจักรอีกเถอะ จะแต่งงานตั้งแต่ยังไม่หัดเดิน โตขึ้นจะได้ไม่หนีไปไหน”
“ ..........” จักรเงียบ หน้าบึ้งไม่พอใจ แต่หน้าแดง
.
.
.
.
.
หลังจากพาจักรไปเอาเสื้อและของที่บ้านแล้วผมกับจักรก็มาคอนโดผม
หน้าห้องผมจับลูกบิดดันประตูเข้าไปก่อนที่จะเดินเข้าไปก่อน ผมเดินเข้าไปในห้องได้ 5 ก้าว แต่พอหันกลับมาจักร ?กลับยังยืนอยู่ที่เดิมนอกประตู
“จักรเข้ามาสิ” ผมว่า เดินไปหาก่อนที่จักรจะเดินตามเข้ามา มือผมที่จับแขนจักร ผมรับรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังเกร็ง
“...........” จักรคงจะนึกถึงเหตุการณ์ที่ผมมานี่และโดนผมข่มขืน จักรกำลังกลัว
จักรหันไปมองด้านขวา(ห้องครัว) ผมหันไปมองหน้าจักรที่ซีดเผือกและสายตาที่เหมือนกำลังมองเห็นบางอย่าง..
“ จักร” ผมเข้าไปโอบตัวจักร อีกฝ่ายสะดุ้ง
“ ไม่มีแล้ว ไม่มีแบบนั้นอีกแล้ว”
“ จริงนะ” จักรว่ากอดตอบผม เสียงที่เปล่งออกมาแผ่วเบา
“ จริง” ผมตอบเสียงหนักแน่น นับแต่นี้ไปผมจะไม่ทำร้ายจักรแบบนั้นอีกแล้วมีแต่ผมจะดูแลปกป้องจักรตลอดไป
“ .................”
** ** **
เมื่อตอนหัวค่ำ ฟังข่าว ขณะที่ตาจ้องหน้าจอคอมฯ แล้วก็ได้ยินว่า
‘ ................ทีม ก.และทีม ข.ต้องมาดูประตูได้เสียกันอีกทีหนึ่ง................’
ประตูได้เสียกัน
บุพเพวายร้าย(สอง)
17.80%
“ จริงนะ” จักรว่ากอดตอบ เสียงที่เปล่งออกมาแผ่วเบา
“ จริง” ผมตอบเสียงหนักแน่น นับแต่นี้ไปผมจะไม่ทำร้ายจักรแบบนั้นอีกแล้วมีแต่ผมจะดูแลปกป้องจักรตลอดไป
“ .................”
** **
จักรบอกว่าอยากกินพิชซ่าและไม่อยากไปกินที่ร้าน ผมโทรเลยสั่งโดยมีจักรเป็นคนเลือกว่าจะเอาหน้าอะไร สักทุ่มหนึ่งได้ พิซซ่าก็มาส่งและตอนนี้พวกผมก็นั่งกินกันอยู่หน้าโทรทัศน์ จักรนั่งขัดสมาธิบนโชฟาข้างๆผม
“ ...........” ผมกินยังไม่ถึงชิ้นเลย มัวแต่มองจักรเพลิน
“ เอาน้ำ” ผมยื่นแก้วน้ำอัดลมสีดำให้จักรที่กำลังจะหยิบ
“ ........” จักรรับแก้วจากมือผมกินไปอึกๆจนแทบหมดแก้วก่อนที่จะวางลง และหยิบน่องไก่ขึ้นมากินแทนพิซซ่าที่หมดไปกับมือเมื่อกี้(จักรกินไป 3 ชิ้นแล้ว)
“ ไม่กินล่ะ?” จักรหันมาถามผม พร้อมนิ่งมอง
“ พี่เห็นจักรกินก็อิ่มแล้ว” ผมบอกตามความรู้สึกไม่ได้คิดจะหยอดหวาน
“ เพ้อเจ้อ!” จักรว่าหันหลังให้ทันที ผมหัวเราะตัวเอง ที่เห็นคนอื่นกินแล้วตัวเองอิ่ม ก่อนที่ตัวผมเองจะกินชิ้นที่กินค้างไว้ตัวเองแต่ต้น กินไปก็ยิ้มไปดวงตามองท้ายทอย ไหล่ ร่างบางๆของจักรไปด้วย
“ ...............”
“ โรคจิตหรือไงมองอยู่ได้!” จักรพูดยังหันหลังให้ผมอยู่ แล้วรู้ได้ไงว่าผมกำลังมองคงเดามั้งและเดาถูกซ่ะด้วย
“ รักอ่ะ” ผมว่าขยับเข้าไปใกล้ๆ สุดท้ายขยับตัวไปชิดเลย แล้วเอี้ยงหน้าหันไปมองหน้าด้านข้างของน้องเขา
หน้าแดง
ควับ!?
จักรหันมาพอดี ปลายจมูกชนปลายจมูกผม
“...........” จักรหน้าตื่นครับ จนไก่ในมือร่วงลงพื้น ก่อนที่จะเอามือดันหน้าผม
“ ไม่เอาแล้ว จะกลับ!” จักรว่าลุกขึ้น 0.O!?
ได้ไงครับ!
“ จักรอย่ากลับเลย พี่ขอโทษ” ผมว่าเดินตามจักรที่เดินเข้าห้องไปเอากระเป๋า
“ ............” จักรเงียบหยุดเดิน ผมอยู่ด้านหลังน้องเขาราว 3 4ก้าว
“นะ จักร” ผมพูดเดินไปอีก แล้วรวบกอดเอว
“ ..............โรคจิต!” จักรว่าแต่ก็ยังยืนนิ่งให้ผมกอด
“ พี่โรคจิตก็ได้ตามใจจักร” ผมบอก จักรขยับหันมา ผมคลายวงแขนหลวมๆ
“ พี่ชอบจักรมากไหม?”
“มากจนรักไปแล้ว” ผมบอก จ้องตากลมๆที่เงยมองผมอยู่
“ จริงนะ” จักรว่าซบหน้ากับอกของผม
บรรยายกาศแบบนี้มันต้องตามด้วยการ หอม จูบ และจับกด
แต่
ไม่กล้าเดี๋ยวโดนโกรธ แค่เมื่อกี้ยังบอกจะกลับบ้านเลย
ผมต้องแข็งใจ ทั้งที่ช้างน้อยในกางเกงมันกำลังบอก ‘ลุยโล้ดอย่าได้ช้า’
“...........จริงสิ ถ้าไม่เชื่อดูไปเรื่อยๆ” ผมบอก
มือเจ้ากรรมมันก็ดันเลื่อนต่ำลง เพราะทนเนื้อแนบเนื้อ และกลิ่นหอมๆไม่ไหว
“ พี่!?”
“ อ่ะ ครับ!?” ผมรีบปล่อยมือจากตัวจักรแล้วยกแขนทั้ง 2 ข้างขึ้นเหมือนโดนตำรวจบอกว่ายกมือขึ้นไม่งั้นยิง
“ ...............” จักรจ้องผม
“....................”(ผม)
“ ผะ ...ผมจะไปอาบน้ำ” จักรบอกกุรีกุจอค้นกระเป๋าหาของ ผมเอามือลง(งานเข้าแล้ว ...)
“ แล้วไม่กินพิซซ่าต่อ?”
“ ผมอิ่มแล้ว” จักรบอก ได้ถุงผ้าสีฟ้าเขียวพร้อมเสื้อ กางเกงก็เดินตรงดิ่งเข้าห้องน้ำไป
“ ................”
ผมมองตาก่อนที่ก้มลงมองเป้าตัวเอง ไอ้ช้างน้อยมันปักธงเสียแล้ว
“ .........มรึงหื่นทำไมเนี่ย!?” ผมต่อว่าไอ้ช้างน้อยที่หื่นไม่เลือกเวลา แล้วยังงี้จะไม่ให้จักรว่าผมโรคจิตได้ไง แม้มันจะเป็นเรื่องปกก็ตามเถอะ
ผมไปสงบสติไอ้ช้างน้อยในห้องน้ำด้านนอก แน่นอนว่าตอนที่ผมใช้มือก็จิตนาการหน้าจักรไป
.
.
.
.
.
หลังจากนั้นผมก็มานั่งที่โซฟาเหมือนเดิม โทรทัศน์ก็เปลี่ยนช่องไปเรื่อย แต่ไม่ได้สนใจดูนัก ใจคิดไปถึงจักรว่ารู้สึกยังไงกับเหตุการณ์เมื่อกี้จะมองในแง่ไหนบ้าง ผมกังวลครับ ทั้งที่ไม่เคยเป็น ผมไม่สนใจว่าใครจะมองผมในแบบไหน เพราะผมรู้ความจริงคืออะไรแม้แต่กับ ปราง... อาจจะเป็นเพราะผมคิดว่าปรางเข้าใจผมดีก็ได้ ทว่าปรางกับไม่เข้าใจอะไรเลยจนเกิดเรื่องขึ้นมา
ที่ปรางไปมีคนอื่นเพราะน้อยใจผม บางส่วนปรางก็คงแค้นผมอยากเอาคืนผม...
ผมเข้าใจดีว่าความแค้นมันทำอะไรได้บ้าง....
“..................”
ผมนั่งคิดเรื่องราวๆต่าง จนไปถึงเรื่องผมกับไอ้แบงค์ ตั้งแต่วันนั้นมันยังไม่โทรหาผมเลย
.........ก็เพราะผมเองที่บอกไม่ให้มันโทรมา ไม่ให้มาหา ...จะได้จบๆไปเสียที!
มันต้องเพื่อนเท่านั้น แล้วมันจะยั้งยืน
นานพอควรแต่ผมยังไม่เห็นจักรออกมา เลยเดินเข้าไปดู
“..............?” เห็นจักรนอนบนเตียง(หันหลังให้ประตู)
“ จักร?” ผมเรียก แต่ไม่มีเสียงตอบผมเลยเดินอ้อมไปดู
จักรหลับแล้ว? (ยังไม่ 2 ทุ่มเลย)
“ ....................”
ผมนั่งลงข้างตัวจักรพยายามนั่งให้นุ่มนวลที่สุดเดี๋ยวจักรตื่น
“ ...............” เอามือลูบหัวจักรเบาๆ ก่อนที่จะก้มลงจูบแก้มขาวเนียนๆแผ่วเบา มองหน้ามองหน้าจักร ใจมันรู้สึกพอแค่นี้
การรัก การห่วงใยใครสักคนมันก็ทำให้เรามีความสุขได้เช่นกัน
“ ....... ......” ผมคิดแล้วก็ไปอาบน้ำนอนดีกว่า จะนอนเร็วสักวันจะเป็นไร แถมได้นอนกอดคนที่รักด้วย สวรรค์ร่ำไรไม่ต้องพึงช้างน้องด้วย
ทว่าพอผมลุกขึ้น แขนผมผมถูกดึง ด้วยแขนจักร!?
“ จักร?” จักรค่อยๆลุกขึ้น มองผมตาแป๋ว
หรือว่าจะรู้สึกตอนผมจูบ โอ๊ยไม่นะครับ เรื่องเก่าไม่ทันจาง เรื่องใหม่ก็มาเสียบ
“ พี่ขโมยหอมแก้มผม” จักรว่า
เห็นไหมล่ะ?งานเข้ากะผมเห็นๆ
“ พี่นึกว่าจักรหลับ” ผมตอบ
“ ...........!?............” จักรดึงคอเสื้อผม ก่อนที่จะจูบผมเหมือนเอาปากมากระทบมากกว่า
ผมตกใจและแปลกใจมากกับการกระทำของจักร หัวผมเต้นโค-ตะ-ระแรง
“ จักร!?” จักรถอนปากออกมา จ้องหน้าผม
“ ....... .. ก็ได้นะครับ ถ้าพี่ต้องการ” จักรบอก
เอาแล้วไง ต้องการมันต้องการแต่ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่เท่านั้นเอง เหมือนมันมีบางอย่างที่ผิดที่ผิดทาง
“ แล้วจักรล่ะต้องการไหม?” ผมถาม จักรหันหน้าไปมองผนังหัวเตียง
“ ......ต้องการ ครับ”
ผมอาจจะคิดมากไปแต่ จักรอาจจะยอมรับผมแล้วก็ได้
ต้องการก็จัดไปครับ^^
“ ...................” ผมก้มลงจูบจักร ได้กลิ่นสบู่ ไม่ใช่สบู่ทีผมใช้เป็นกลิ่นอื่นที่ผมคิดว่าหอมกว่า จักรคงเอามาจากบ้าน
ริมฝีปากบาง หวาน นุ่มและทำให้เลือดในร่างกายผมสูบฉีดมากกว่าปกติ และคิดว่ามันคงมากขึ้นกว่านี้
“................” ในโพรงปากจักร ลิ้นจักรกำลังคล้อยตามลิ้นผม ขณะที่ผมก็ดันไหล่จักรลงกับเตียงช้าๆ จักรมีอาการเกร็งอย่างเห็นได้ชัด ผมพยายามให้น้องเขาผ่อนคลายด้วยการลูบไหล้ไหล่แล้วที่จะต่ำลงมา
ขณะที่ผมจูบ ผมก็มองหน้าจักรไม่ด้วย แต่น้องเขาหลับตา ขนตายาวสั่นเล็กน้อย
“ ...............”
ผมเลื่อนจากปากมาเป็นลำคอจักร มือดึงชายเสื้อจักรขึ้นไปเรื่อยๆจนเห็นหน้าอกโล่งขาวกับยอดอกสีชมพู
“จักร ไม่ต้องเกร็งนะ” ผมบอกเสียงเบา เพราะจักรเกร็งมาก
“ ไม่”(จักร)
“จักร ไม่ต้องกลัว พี่ไม่ทำให้จักรเจ็บ เชื่อใจพี่ ...” ผมบอกให้น้องเขาสบายใจ แต่มือจักรกลับกำลังดันไหล่ผม
“ ไม่ อย่ามาถูกตัวกรู!” จักรว่าลืมตาขึ้นมองผมดุดัน
ผมงงระคนตกใจ!?
“ จักร เป็นอะไร กลัวเหรอ?” ผมถามลุกขึ้น จักรลุกขึ้นตามเอาผ้าห่มมาห่อตัว(ผมยังไม่ได้ถอดเสื้อจักรสักชิ้น)
“ โธ่เว้ย! อือๆ” จักรขยับไปจนชิดหัวเตียง ผมทั้งสงสารทั้งสับสน
แล้วจักรบอกว่าต้องการทำไม หรือว่าเพราะอะไรแล้ว ทั้งที่จักรก็ยังไม่พร้อม
“ จักรไม่ต้องฝืนพี่ไม่ได้เร่งรัด” ผมบอก ตั้งแต่แรกก็ไม่คิดว่าจักรจะยอมรับผมเร็วขนาดนี้
“ ฮือๆ” จักรก้มหน้าลงกับเข่าที่สันขึ้น ผมขยับตัวเข้าไปกอด
“ พี่มันก็หื่นไปตามเรื่อง แต่ไม่ใช่ว่าจักรจะต้องยอมพี่ทั้งที่ยังไม่พร้อม” ผมบอก จักรเงยหน้าน้ำตานองขึ้นมา ผมเอานิ้วไปเช็ดให้ก่อนจักรจะเอนตัวซบผม
“ ทำไม มันถึงแบบนี้ !? ” จักรว่า คิดว่าน่าจะพูดกับตัวเองมากกว่า
“ พี่รักจักรนะ ถึงตอนนี้จักรจะยังไม่รักพี่ แต่ขอให้เชื่อใจพี่ว่าพี่จะไม่บังคับ และทำร้ายจักรแน่นอน” ผมบอก
“ ..............” จักรไม่ตอบ
“........................... ........”
เป็นแบบนั้นสักชั่วโมงได้ จักรก็หลับไปทั้งที่ยังนั่งอยู่ แต่ผมยังนั่งต่ออยู่อย่างงั้นไปอีกนับชั่วโมงเช่นกัน ก่อนที่อุ้มจักรนอนลง พร้อมห่มผ้าให้
ก่อนอาบน้ำจักรคงจะเห็นว่าผมเกิดอารมณ์เลยยอมผม ...
เห็นจักรหน้านิ่งๆก็คงคิดเรื่องผมมากพอดูเหมือนกัน
บางทีจักรอาจจะชอบผมแล้วก็ได้ถึงได้ยอมขนาดนี้ ทั้งที่เมื่อก่อนโกรธเกลียดผมมากจนไม่รู้จะมากยังไง
ส่วนแผลใจของจักร ต้องใช้เวลาอยู่มากจากที่ผมเห็น น้องเขายังฝังใจกับเรื่องที่โดนข่มขืน และยังไม่แน่ใจในตัวผม
แต่เวลาและตัวผมจะทำให้จักรเข้าใจมากขึ้น และเชื่อใจผม
** **“ พี่ชนะ ตื่นสิครับ” เสียงจักรพูด พร้อมแรงเขย่าที่แขน ผมลืมตาขึ้นมา จักรนั่งยิ้มอยู่ตรงหน้า
“ เช้าแล้วเหรอ?” ผมถาม พร้อมโผวงแขนจะรวบตัวจักรเข้ามากอดรับอรุณสวัส แต่จักรลุกขึ้น ผมเลยได้กอดอากาศแทน
แหม่ม เสียดาย
“ครับ 7 โมงแล้ว” ผมนึกได้ว่าจักรมีเรียน 8 โมง ส่วนผมมีเรียน 9 โมง
“ งั้นเดียวพี่ไปอาบน้ำก่อน” ผมบอกรีบลุกขึ้นวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ หน้ากระจกมีบนแปรงสีฟันมียาสีฟันบนแปรงเรียบร้อยแล้ว
จักรเป็นคนทำ
คิดแล้วมีความสุขชะมัด ให้มันได้อย่างงี้สิ! ^^
พออาบน้ำออกมาเห็นเสื้อนิสิตกับกางเกงนิสิตวางอยู่บนเตียง แต่จักรไม่ได้อยู่ในห้อง แค่นี้ผมก็ยิ้มไม่หุบแล้วครับ
ผมรีบแต่งตัวออกมา เจอจักรที่ยืนรออยู่หน้าประตู
“ เพิ่ง โมง20 กินข้าวใกล้ๆมอก่อนนะ” ผมบอก
“ ไม่ต้องหรอกครับ ผมว่าจะซื้อขนมปังกับนมสักกล่องก็พอ” จักรบอก ผมเปิดประตูห้อง และปิด ตามทางเดินๆไปลิฟท์ ผมลองเอามือไปกุมมือจักร จักรกุมมือผมตอบและพูด
“..................เรื่องเมื่อคืน ....”
“ พี่เข้าใจ” ผมบอกไม่อยากให้จักรคิดมากเรื่องนี้อีก
“ ...............”
“ จักรไม่ต้องฝืนอีกนะ”
“ครับ” จักรพูดก้มหน้าลง
.
.
ตอนเที่ยงผมรับจักรไปกินข้าว ตอนเย็นผมไปรับ จักรบอกว่า วันนี้แม่โทรมาชวนผมไปกินข้าวที่บ้านด้วย
เพราะงั้นตอนนี้ผมถึงอยู่ในห้องจักรหลังจากที่กินข้าวเรียบร้อย ตอนกินข้าวพ่อจักรถามผมหลายอย่างเลยครับทำเอาผมหนาวๆร้อนหรือว่าท่านจะดูออกมาว่าผมจีบลูกท่าน
แต่ผมจริงใจ ยังไงก็สู้ครับ รักจริงหวังแต่งโว้ย!
“ พี่จะกลับกี่โมง?” จักรถาม ผมที่นอนเล่นอ่านการ์ตูนของจักรลุกขึ้นมา
“ จักรไล่พี่เหรอ?” ผมถามออกแนวน้อยใจ
“ เปล่านะครับ” จักรบอกรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ ก่อนที่จะเดินมาหาผม
“ ซีซี่จะมาค้างด้วย” มาค้างด้วยทั้งที่บ้านอยู่ติดกันเนี่ยนะ
“ มากี่โมง?” ผมถาม เพราะคิดว่าจักรน่าจะมีเรื่องคุยกับซีซี่ไม่งั้นไม่อยากให้ผมกลับ
“ 2 ทุ่มครับ” ผมดูนาฬิกาบนข้อมือ 2 ทุ่มแล้ว
“ งั้นพี่กลับ”
“ ไม่เป็นไรหรอกครับผมแค่ถามดูเฉยๆ พี่ไม่ต้องกลับก็ได้”
“ พี่กลับดีกว่า เผื่อซีซี่อยากคุยความลับกับจักร” ผมบอกลุกขึ้นแล้ว
“ ก็ได้ครับ” (ยิ้ม)
“ ............พรุ่งนี้พี่มารับอีกนะ”
“ ครับ..........แล้วก็............”
“ แล้วก็อะไร?” ผมถาม
“ ขับรถดีๆนะครับ” จักรว่าก่อนที่จะเขย่งปลายเท้าหอมแก้มผม
“ ให้อวยพรขนาดนี้ชักไม่อยากกลับแล้วสิ” ผมว่าจ้องหน้าจักร
“ กลับไปเลย!” จักรว่าเสียงดัง หน้าแดงอีกแล้ว
“ ฮ่าๆ กลับก็ได้ครับ เพราะไม่งั้นเดี๋ยวโดนได้ปล้ำใครบางคน” ผมว่าอารมณ์ดี จักรเอามือดันตัวผมให้เดินออกจากห้อง จนมาถึงประตู ผมเปิดประตูเจอซีซี่ยืนอยู่หน้าประตูพอดี
จักรเอามือเก็บข้างตัวทันที
“ จะสวีทกันก็มันน้อยๆหน่อย เห็นใจคนโสดบ้างสิค่ะ” ซีซี่ว่าไม่ไม่ประชดประชันแต่เหล่ตามองเพื่อนเหมือนกำลังแซว
“ ไม่พอใจกลับไป” จักรพูด จ้องหน้าเพื่อน
“ ใจร้ายอ่ะ” ซีซี่ว่าแต่เดินเข้ามาในห้องแล้ว จักรเลยหันมาหาผม
“ พรุ่งนี้ ผมเรียน บ่ายโมง พี่มากินข้าวที่นี่นะครับ”
“ ......งั้นพี่มา 11 โมง”
“ครับ” จักรว่าเดินลงบันได้กลับผม
“ จักรจะไปส่งพี่เหรอ?”
“ครับ”
“ ไม่ต้องหรอก ไปหาซีซี่เถอะ”
“ เอาอย่างงั้นเหรอครับ”
“ อย่างงั้นแหละ” ผมว่า ก่อนที่จักรจะเดินกลับขึ้นไป ผมก็เดินลงมา
สวัดดีแม่กับพ่อจักรที่กำลังนั่งดูโทรทัศน์ในห้องรับแขก
แต่
พอผมหยิบกุญแจจากกระเป๋ากางเกง แล้วกลับไม่มี
“ ................อ้าว?”
ผมคิดดูว่าเอาไว้ไหน ตอนเข้าไปในห้องจักรผมก็ลวงของทุกอย่างในกระเป๋าออกมากองไว้บนโต๊ะจะได้นั่งๆนอนๆสบาย
ตอนออกมาก็คว้าโทรศัพท์และกระเป๋าตังค์ก็ออกมาเลย ลืมจนได้ -.-
ผมเลยกลับเข้าไปในบ้านจักร
“ ชนะมีอะไรเหรอลูก?” แม่จักรถามผม ลุกขึ้นจากเก้าอี้เป็นห่วง
“ ผมลืมกุญแจครับ” ผมบอกยิ้มก่อนที่จะเดินขึ้นชั้น2
ห้องจักรอยู่ขาวมือของขั้น 2 ผมมองเห็นตั้งแต่ขึ้นมา ประตูเปิดแง้มไว้คงเปิดไม่สนิท
“ แล้วมรึงคบกับพี่เขาทำไม?” เสียงซีซี่เล็ดออกมาจากด้านใน
“ กรูมีเหตุผลของกรู” เสียงจักร กำลังคุยกัน?
“ แต่พี่ชนะดูรักมรึงมาก” และนั่นเป็นประโยคที่ทำให้มือผมที่กำลังจับลูกบิดประตูหยุดชะงัก
“ ก็คงงั้น” จักรว่า
“ แล้วมรึงจะเลิกกับพี่เขาทำไม!?”
“ ไม่ใช่ตอนนี้”
“แล้วตอนไหน?”
“อีกสักพัก”
นี่จักรกับซีซี่ไม่ได้พูดถึงผมอยู่ใช่ไหม? ผมบอกตัวเองแบบั้น บอกตัวเองให้ผลักประตูเข้าไป ก่อนที่จะได้ยินอื่น ประโยคอื่นมากกว่านี้
แต่ร่างกายมันไม่ยอมขยับ
“ เพื่อ?” (ซีซี่)
“ กรูมีเหตุผลของกรูบอกแล้วไง”
“ เหตุผลอะไร! ทำแบบนี้เหมือนมรึงไปหลอกพี่เขาเลย” จักรยังเงียบอยู่
“ .............”
“ กรูก็ว่าแล้ว มรึงไม่ได้ชอบผู้ชาย อยู่ๆก็ไปคบกับพี่ชนะ มันแปลกๆ แต่ยังไงก็บอกทีเถอะว่ามรึงทำแบบนี้ทำไม?”
“ เหตุผลเดี๋ยวกรูจะบอกทีหลัง เดี๋ยวมึงทำเสียเรื่อง”
“แล้วมรึงเคยคิดไหมว่า พี่เขาจะรู้สึกยังไงถ้ารู้ว่ามรึงไม่ได้ชอบ แต่ก็ยังไปให้ความหวัง ไปคบ ดูการกระทำมรึงดิเห็นชัดๆว่ามรึงก็ชอบพี่ชนะเหมือนกัน”
“ มรึงไม่เข้าใจหรอก!” (จักร)
ผมตัวชา คิดว่าไม่น่าลืมกุญแจเลย
สมองตื้อจนเบลอหัวเหมือนโดนของแข็งทุบให้ทรมาน หน้าเกร็งจนปวด กรอบตามันร้อนเป็นเส้นๆ
เรี่ยวแรงผมโดนสูบออกไปมากขึ้นเรื่อยๆ
มือเท้าเย็น...................
“.................”
นั่นเหรอคือความจริงที่จักรยอมให้โอกาสผม ทำดีกับผม.......
ซีซี่อาจจะไม่เข้าใจที่จักรพูดแต่ผมเข้าใจ
“....................”
ผมคิดว่าที่จักรยอมคบกับผม เพราะจักรเห็นใจในความพยายาม ความจริงใจของผม แต่
จักรแค้นผม และ
จักรจะแก้แค้นผม!
“ พี่ชนะ?” ผมหันกลับไปด้านหลัง ชมพูน้องสาวจักรกำลังฉีกยิ้มด้วยความสงสัย ตัวก็เอนเอียงมองดูว่าเกิดอะไรขึ้น
แกร๊ก! ประตูเปิดจากด้านใน จักรและซีซี่ยืนอยู่
ผมมองหน้าจักรที่กำลังมองผมด้วยความสงสัย
“ มีอะไรชมพู?”(จักร)
“ ก็หนู...” ผมรีบพูดตัดชมพู ไม่อยากให้จักรรู้ว่ผมรู้เรื่องที่จักรคิดจะแล้ว
“ พี่ลืมกุญแจ ขึ้นมาเจอชมพูพอดี” ผมบอก มองหน้าจักรพยายามค้นเข้าไปในดวงตาสีดำว่า ‘ความจริงคืออะไร’
“ งั้นเดี๋ยวผมหาให้ ผมจำได้ว่าพี่วางไว้โต๊ะ” จักรว่าเดินเข้าไปในห้องและออกมาแทบจะทันที พร้อมพวงกุญแจในมือและยื่นให้ผม
“.................” ผมรับมา พยายามไม่ให้มือสั่น
‘จักรทำหน้าปกติแบบนี้ได้ยังไง หลอกพี่ที่รักจักรได้ยังไง’
ทำไม
ทำไม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ทำไม! เสียงตะโกนในร่างกายผมมันดังจนผมหูอื้อ
ทว่า ภายนอกผมกลับนิ่งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ ......งั้นพี่กลับนะ” ผมว่าเดินกลับมา ผมเห็นสายตาซีซี่ที่กำลังมองผม ผมแปลสายตานั้นได้ว่า ‘สงสาร’ หรือไม่ก็ ‘สมเพช’
“ พรุ่งนี้ อย่าลืมนะครับ 11 โมง ” จักรพูดตามหลังผมที่พยักหน้าว่าไม่ลืมแต่ผมไม่ได้หันหน้ากลับไป เพราะหันกลับไปมองไม่ได้จริงๆ
ทรมานกำลังดี ทุกย่างก้าวที่ผมเดิน พื้นมันร่วงกราวหายไปในความมืด
** ** **