บุพเพวายร้าย(สอง)
17.30%
ผมล้างหน้าล้างตาแล้วลงมาหาจักรที่นั่งหน้านิ่งจ้องมองโทรทัศน์ในห้องโถง(ห้องรับแขก)โดยที่ไม่ได้เปิด ผมก็เลยมองตาม ไอ้จอสีดำๆมันมีอะไรน่าดู
“............” ผมหันไปมองจักร เหมือนน้องเขาจะไม่รู้ว่ามีผมอยู่ตรงนี้ ผมเลยแตะไหล่
“ อย่า!” จักรสะดุ้งหันควับมา หน้าซีด ดวงตาเบิกกว้างก่อนที่จะหรี่ลงเป็นปกติ
“ ......ตกใจอะไร พี่เอง” ผมบอกรู้สึกไม่สบายใจกับท่าทีของจักร
“ โทษ ..กำลังคิดอะไรเพลินๆ อยู่ๆพี่มาก็ถูกตัวผมเงียบๆผมก็ต้องตกใจดิ” จักรว่า แต่ผมคิดว่าไม่น่าจะตกใจขนาดนั้น
“ มีอะไรจะบอกพี่ไหม?” ผมถามเป็นห่วงเอามือกุมมือจักรให้มั่นใจว่าผมพร้อมจะเป็นที่พึ่งให้ทุกอย่าง ขอแค่เอ่ยปาก
“ ไม่มี ครับ ” จักรว่าค่อยดึงมือออกไปจากมือผมก่อนที่หยิบกระเป๋าบนโต๊ะด้านหน้าขึ้นมา
“ จักร ถ้าจักรมีอะไรบอกพี่นะ” จักรหันมา สบตากับผม ....หวังว่าดวงตาที่ผมใส่ความห่วงใยไปให้จะสื่อไปถึงจักร
“ ถ้ามี .. .. .แล้วจะบอก” จักรว่าคลี่ยิ้มเป็นคนเอามือมาจับแขนผมให้เดินตามออกไปด้วยกัน ผมแทบจะละลายไปกับพื้นที่เท้าสัมผัสอยู่
“ ................”
.
.
.
.
.
จักรเลิกเรียน 5 โมงครึ่ง(เลทเพราะอาจารย์เข้าช้า) ผมไปรอรับเช่นเคย
ผมจอดรถอยู่หน้าคณะเห็นจักรกำลังเดินลงมาพร้อมกลุ่มเพื่อนเช่นเดิมแต่คราวนี้มีคนคนหนึ่งที่เดินติดๆไม่ใช่แก๊งค์ 3 โทน(ฐา พล และเลง)ด้วย ผมเห็นจักรหัวเราะรวน ยิ้มกว้างแล้วรู้สึกไม่ชอบเอามากๆ อยากจะเข้าไปกระชากตัวจักรมาแล้วถามว่า ‘ทำไมทำแบบนี้’ แต่ผมจะไปมีสิทธิ์อะไร แฟนก็ไม่ใช่ ส่วนคำว่าเมียที่ผมยัดเหยียดให้น้องเขาก็ดูไม่มีน้ำหนักจนไม่กล้าคิด ยิ่งไม่มีสิทธิ์ยิ่งอยากมีสิทธิ์!
“ ................” มือผมผลักประตู ตายังจับจ้องที่จักร ก่อนที่จะออกจากรถเดินไปหาจักรที่ยังเหมือนไม่เห็นผม เพราะถ้าเห็นรถผมคงเดินมาหาแล้ว
“ จักร?” ผมว่า เพื่อนหลายคนหันมามองก่อนที่หันกลับไป มีเพียงไอ้ที่ยืนข้างจักรเท่านั้นที่ยังคงหันมามองแล้วยิ้ม
“ กลับล่ะ เจอกันพรุ่งนี้” จักรบอกเจ้านั่นแล้วเดินออกมาที่รถ
“ น่าจะแนะนำให้พี่รู้จักรบ้าง” ผมว่าอยากรู้เดินอยู่ด้านขวาขอจักร
“ เพื่อน” จักรตอบ
“ เหรอ” อยากถามมากกว่านี้ และ...มันอยากรู้มาก
“ ท่าทางสนิทกั ชื่ออะไรล่ะ?” ผมถาม เข้าไปนั่งในรถ เบาะอีกด้านจักรนั่งลง
“ พี่ครับ ผมเหนื่อย อย่าถามอะไรมากได้ไหม!?” น้องเขาพูดดูรำคาญ
“ พี่ก็แค่อยากรู้จักเพื่อนจักร” ผมว่า
“ พี่จีบผม จำเป็นต้องรู้เรื่องผมทุกเรื่องเลยหรือไง!” จักรเริ่มขึ้นสียง
“ .....................” ผมเงียบรู้สึกว่าจักรจะโมโหขึ้นเรื่อย ๆ
“ .....................” จักรถอนหายใจ มองออกไปด้านนอก ผมเอามือไปกุมมือจักรไว้
“ พี่หึงจักรนะรู้ไหม?” จักรหันมา มองตาผม
“ ช่วยไปส่งผมที่บ้านด้วย” จักรพูดจบก็ดึงมือตัวเองกลับไป
“ จักร?”(ผม)
“ ..........”
“ ......จักร พี่ขอโทษ อย่าเงียบแบบนี้สิ”
“ วันนี้ผมไปค้างห้องพี่ได้ไหมครับ?” จักรหันหน้ามาถาม ผมเท้าผมแทบแตะเบรก ตกใจครับไม่รู้ว่าจักรคิดอะไรถึงได้พูดแบบนี้ทั้งที่รู้ว่าผมคิดยังไง
“ .............” ผมพูดไม่ออก แต่ใจตอบไปแล้วว่า ‘ได้เลย’
“ หรือว่าพี่ไม่อยากให้ผมไปค้างกับพี่”
“ อยากสิ! พี่อยากนอนกอดจักรจะตาย” ผมบอกพูดอย่างที่ใจคิดมากเกินไป
“ งั้นพี่ไปส่งผมที่บ้านแล้วก็รอผมเลย พี่จะได้บอกแม่กับพ่อผมด้วย..”
“ จักรไปค้างกับพี่ แล้วถ้าเกิดว่าพี่ทำอะไรจักรล่ะจะว่ายังไง?” ผมถาม
“ ลองดูสิครับ ผมจะชกพี่ ต่อยพี่และกระทืบพี่ด้วย”
“ เอางั้นเลยเหรอ แต่ถ้าได้พี่ยอม”
“หื่น!” หางตาผมมองจักรขณะที่ขับรถเห็นว่าน้องเขากำลังเขินครับ ทั้งที่เมื่อกี้ยังดูเหมือนโกรธผมอยู่แท้ๆ
“ หื่นแต่หล่อชอบป่ะ?”
“ ไม่ชอบ!” ตอบพร้อมสะบัดหน้าหนี ผมหันไปมองยิ้มครับ ก็คนมันมีความสุขจะให้ทำหน้านิ่งได้ไง
“ ชอบหน่อยน่า นิดหนึ่ง” ผมว่าแอบอ้อน
“ นิดหนึ่งก็ไม่ชอบ!”
“ แต่พี่ว่าจักรชอบพี่แล้วนะ ………… ..”
“ ไอ้ ไอ้....” จักรพูดแล้วหันมาจ้องผมตาเขียวปั๊ด แต่พูดได้แต่ ‘ไอ้ ไอ้’
“ ไอ้รักแล้วอ่ะดิ” ผมว่า
ตุบ!? ไล่ทุบต้นแขนผมเต็มรัก ไม่ใช่ครั้งเดียวแต่ 2 ครั้ง และอีกครั้ง
เจ็บครับ
“ จักร พี่เจ็บ!?”
” เจ็บก็ดี หื่นดีนัก บ้าหลงตัวเอง!” และทุบที่ต้นแขนผมอีกครั้งที่พูดจบ
“ แต่พี่จะพาแหกโค้งตายอะดิ ตายด้วยกันเดี๋ยวชาติหน้าได้เจอกันอีกนะ” ผมพูด ยังไงก็ขอหยอดสักหน่อย
“ ไม่มีทาง!”
“ สาธุ ชาติหน้าขอให้ได้เจอน้องจักรอีกเถอะ จะแต่งงานตั้งแต่ยังไม่หัดเดิน โตขึ้นจะได้ไม่หนีไปไหน”
“ ..........” จักรเงียบ หน้าบึ้งไม่พอใจ แต่หน้าแดง
.
.
.
.
.
หลังจากพาจักรไปเอาเสื้อและของที่บ้านแล้วผมกับจักรก็มาคอนโดผม
หน้าห้องผมจับลูกบิดดันประตูเข้าไปก่อนที่จะเดินเข้าไปก่อน ผมเดินเข้าไปในห้องได้ 5 ก้าว แต่พอหันกลับมาจักร ?กลับยังยืนอยู่ที่เดิมนอกประตู
“จักรเข้ามาสิ” ผมว่า เดินไปหาก่อนที่จักรจะเดินตามเข้ามา มือผมที่จับแขนจักร ผมรับรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังเกร็ง
“...........” จักรคงจะนึกถึงเหตุการณ์ที่ผมมานี่และโดนผมข่มขืน จักรกำลังกลัว
จักรหันไปมองด้านขวา(ห้องครัว) ผมหันไปมองหน้าจักรที่ซีดเผือกและสายตาที่เหมือนกำลังมองเห็นบางอย่าง..
“ จักร” ผมเข้าไปโอบตัวจักร อีกฝ่ายสะดุ้ง
“ ไม่มีแล้ว ไม่มีแบบนั้นอีกแล้ว”
“ จริงนะ” จักรว่ากอดตอบผม เสียงที่เปล่งออกมาแผ่วเบา
“ จริง” ผมตอบเสียงหนักแน่น นับแต่นี้ไปผมจะไม่ทำร้ายจักรแบบนั้นอีกแล้วมีแต่ผมจะดูแลปกป้องจักรตลอดไป
“ .................”
** ** **
เมื่อตอนหัวค่ำ ฟังข่าว ขณะที่ตาจ้องหน้าจอคอมฯ แล้วก็ได้ยินว่า
‘ ................ทีม ก.และทีม ข.ต้องมาดูประตูได้เสียกันอีกทีหนึ่ง................’
ประตูได้เสียกัน