+
บุพเพวายร้าย(สอง)
12.11%
ตลอดทางจากบ้านปรางผมคิดจะโทรหาไอ้แบงค์ ว่าเรื่องจริงมันเป็นยังไง แค่ตอนนี้เพิ่งบ่าย 3 มันคงยังอยู่กับเจน มาคิดอีกทีผมจะโทรหามันให้มันให้มันต่อว่าผมทำไม มันคงอยากจะอยู่กับเจนอารมณ์ดีหน้าชื่นตาบานมากกว่า ผมไม่เอาเรื่องไปเพิ่มให้มันหรอก
ผมไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย
“..................”
‘มรึงต้องยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น’ อย่างที่ไอ้วุฒิพูดผมรับรู้และจะต้องแก้ด้วยตนเอง
ผมรู้
ผมจอดรถอยู่เยื้องหน้าบ้านจักร นั่งอยู่ในรถนานคิดแล้วคิดอีกว่าจะขอโทษจักรตอนนี้เลยไหม แต่เรื่องนี้ยิ่งเร็วก็ยิ่งดี ผมไม่อยากรู้สึกผิดไปนานกว่านี้
ในที่สุดผมก็ออกมาจากรถกดกริ่งหน้าประตูรั้ว แล้วรอให้ใครมาเปิดประตู
ไม่ถึงนาที!?
“...................” จักรออกมาจากบ้าน พอเห็นผมก็จะปิดประตูกลับเข้าไป
“ จักร เดี๋ยว!” ผมว่าปีนรั้วเข้าไป รั้วสูงแค่อกผมเองสบาย
“ จักรพี่มีเรื่องจะคุยด้วย!” ผมวิ่งไปหาจักรที่ยืนหันหลังให้ผม
“ ...................”(จักร)
“ เราจะคุยกันตรงนี้เหรอ?” ผมถาม
“ มีอะไรก็พูดมา!”
“ พี่อยากคุยกับเราดี ไปคุยในบ้านเถอะ” ผมว่า จักรหันมา
“ ทำไม! อยากจะที่ลับตาคน เผื่อหน้ามืดมรึงจะได้ข่มขืนกรูง่ายๆหรือไง!” จักรว่ามองผมดูถูกว่าตัวเองคิดไม่ผิด
“ จักรจะไม่มองพี่ในแง่ดีบ้างรึไง!”
“ มรึงข่มขืนกรู จะให้กรูมองมรึงว่าดี ง่ายไปไหม!?”
“ ที่พี่ทำไป พี่มีเหตุผลและตอนนี้..”
“ เพิ่งรู้ว่ามีเหตุผลข่มขืนใครได้ด้วย” จักรพูดทวนมา ไม่ว่าผมจะพูดอะไรไปจักรก็ตอบมาได้อย่างเจ็บแสบ
“ จักร พี่อยากขอโทษเรื่องที่เกิดขึ้น” ผมบอกจริงจัง
“ ไม่ยกโทษให้ กรูเกลียดมรึง!” จักรบอกตอกหน้าผมเข้าอย่างจัง
“ จักร”
“ ที่จะพูดมีแค่นี้ใช่ป่ะ? พูดเสร็จแล้วก็ไสหัวไป” จักรว่าจะเข้าบ้าน ผมจับแขนจักรน้องเขาสะบัดแต่ไม่หลุด
“ ปล่อย!”
“ จะให้ทำยังไง ถึงจะยอมยกโทษให้”
“ กราบตรีนกรู!” จักรว่าเหยียดยิ้ม
“ ..............”
“ มรึงไม่กล้าใช่ไหมล่ะ?” จักรว่ายิ้มมองหน้าผมจรดรองเท้า
“ พี่กราบแล้วจะยกโทษให้พี่ไหม?” ผมถาม
“ อันนี้ก็ต้องดูก่อน”
“ ..............” ดูหน้าจักรก็รู้ว่าเขาไม่คิดจะยกโทษให้ผมเลยสักนิด
“ เอาดิ กราบตรีนกรู”
** **
10% ครั้งแรกก็ย่อมมีครั้งที่2 
พรุ่งนี้แน่นอนเจ้าค่ะ ครบ 100%
+
บุพเพวายร้าย(สอง)
12.45%
“ ..............” ดูหน้าจักรก็รู้ว่าเขาไม่คิดจะยกโทษให้ผมเลยสักนิด
“ เอาดิ กราบตรีนกรู!” จักรท้ายทายผมอย่างเคย
“..............” ผมจ้องมองดวงตาวาวประกายโรจน์ของจักรรับรู้ว่าจักรเกลียดผมแค่ไหน ทั้งรอยยิ้มหยามเหยียด ถ้านี่มันจะทำให้สิ่งนี้หายไปผมก็จำเป็นต้องทำ
ผมนั่งลง...
“ ............” ทว่า!จักรเดินหนี ผมเลยหน้ามอง
“ กรูเปลี่ยนใจแหละ มรึงทำกรูนอนฝันร้ายแทบทุกคืน มรึงทำให้กรูมองคนอื่นด้วยความหวาดระแวง .. แค่มรึงกราบตรีนกรูไม่ถึงนาที แล้วมรึงก็ได้ความสบายใจกลับไป มันง่ายไป สู้กรูแค้นมรึง โกรธเกลียดมรึงไปแบบนี้ดีกว่า” จักรบอกเดินเข้าบ้าน ผมรีบดึงแขนจักรไว้ก่อนที่จักรจะทันจับลูกบิดประตู
“ ปล่อย!” สะบัดแขน ผมเลยปล่อย
“ พี่รู้สึกผิดจริงๆกับสิ่งทีทำกับจักร” ผมบอกจากใจจริง
“ เหรอ” ลากเสียงยาวไม่เชื่อ
“ พี่รู้ความจริงแล้วว่าจักรไม่ได้เกี่ยวกับปรางอย่างที่เข้าใจ พี่อยากขอโทษ”
“ มรึงไม่ใช่รู้ความจริงนานแล้วเหรอที่กรูบอกมรึง แต่มรึงไม่ฟัง!”“ จักรเองก็พูดยั่วโมโหพี่ พูดให้พี่คิดแบบนั้น!”
“ เออ กรูผิดที่พูดให้มรึงข่มขืนกรู มรึงไม่ต้องมาทำเป็นคนดีขอโทษ ออกไปจากบ้านกรู!” “ จักร ทำไมไม่ให้โอกาสกันบ้าง” ผมพูดราวกับกำลังตัดเพ้อ
“ ..................”จักรจ้องหน้าผม ไม่พูดอะไรแล้วเดินไปปิดประตูบ้านเสียงดัง
ปัง! “...................”
คนที่รู้ตัวว่าผิดจะให้สำนึกก็ไม่
รึไง!! รู้ไหมว่ามันอึดอัดแค่ไหน
ผมเดินคอตกออกมา หยุดที่รั้ว ไม่แรงปีน เมื่อกี้ยังเข้ามาง่ายๆอยู่แท้ๆ....
จักรคงไม่ยอมยกโทษให้ผมง่ายๆ
สิ่งที่ผมทำมันใหญ่หลวง แต่ผมไม่ยอมแพ้แน่นอน พรุ่งนี้เปิดเทอมวันแรก เจอกันแน่ วันนี้จักรเจอเรื่องมาเยอะแล้ว ผมจะรอคอยให้ถึงพรุ่งนี้
** ** **
‘วันจันทร์ 9.00 น. ..............ตึก..........’
ผมวางกระดาษที่ปริ้นตารางเรียนจักรหลังจากดูเรียบร้อยแล้ว วันนี้จักรมีเรียนทั้งวันตั้งแต่ 9 โมง- 4 โมงเย็น ส่วนผมชิวๆมีเรียน8 โมงโมงถึงเที่ยง ก็ปี4 แล้วเหลือไม่กี่ตัว ตารางเรียนแทบว่าง แต่ตอนเทอม 2 มีฝึกงานตอนนี้ก็ลอยๆลอยมาไปก่อน
ในห้องเรียนผมดูนาฬิกา 11 โมง 30 นาทีแล้ว ผมก็ย่องออกจากห้องเรียนเงียบๆอย่างไม่ต้องห่วงว่าจะขาดคาบนี้เพราะเช็คชื่อไปตั้งแต่ตอน 10 โมงแล้ว (เรียนห้องประชุมใหญ่กับเอกอื่น) ออกมาก็เดินขึ้นบันไดไปชั้น 4 ชั้นที่จักรเรียนอยู่ แล้วก็นำเนียนเดินผ่านหน้าห้องนั้น เห็นว่ายังเรียนกันอยู่เต็มห้อง ผมก็ออกมายืนรอตรงทางเดิน จน 11 โมง 50 เสียงนกกระจอกแตกรังก็ดังขึ้นบอกว่าเลิกแล้วไม่ห้องใดก็ห้องหนึ่งผมยื่นคอไปดูห้องจักรครับ แล้วกลุ่มนิสิตก็เดินออกมาเป็นกลุ่มๆ ผมมองหาจักร
สายตาไปก็มองเห็นจักรในกลุ่ม คน 5 คน ผู้ชาย 3 คนเป็นคนที่ผมเจอที่โรงหนังเมื่อวาน และผู้หญิงที่ผมไม่รู้จักร ผมรีบเดินตรงเข้าไปหา
“ จักร” ผมเรียก จักรหันมา (ไอ้ 3 คนนั้น มันมองผมตาค้าง)
“ .................” จักรไม่พูดเดินหนีผมครับ ผมก็เดินตามดิ จักรเดินผ่านลิฟท์ไปแต่ลงบันไดแทน
“ จักร หยุดคุยกันก่อน” ผมตามทันพูด
“................” จักรไม่ตอบไม่บอกพูด ทำเหมือนอยู่คนเดียว ทั้งที่ผมอยู่ตรงนี้
“ อยากให้พี่ทำอะไรบอก พี่จะทำให้เผื่อมันจะลบล้างความผิดของพี่ได้” จักรหันมามองหน้า ผมยิ้มว่าทำได้ทุกอย่างขอแค่จักรบอกมา
“ ไม่จำเป็น!” อ้าว
“ จำเป็น จักรจะได้รู้ว่าพี่อยากขอโทษจริงๆ”
“ ถึงมรึงจะทำยังไงกรูก็ไม่ยกโทษให้ มรึงจะได้อยู่กับความรู้สึกผิด” จักรออกเดินไปหลังคณะ ที่มีซุ่มอาหารแบบง่ายๆตั้งอยู่ 3 ซุ่ม ผมเคยมากินที่นี่ อยู่หลายครั้งก็มากินกับปรางนั่นแหละ
“ .....................”เอาไงเอากัน จะตามไปอย่างงี้แหละดูสิจะยกโทษให้ไหม?
ตื้อเท่านั้น แล้วพระเจ้าจะเห็นใจ ส่งสถานการณ์ให้ผมได้แสดงความจริงใจ
“ ตามมาทำไม!” จักรหยุดหันมาถามผมกระชากเสียง
“ ก็จักรไม่ยกโทษให้พี่” ผมบอกเสียงอ้อน(ทำไม)
“ เออกรูยกโทษให้
พอใจไหม?!” จักรพูดแล้วเดินตัวปลิวไปอีก
“ ไม่พอใจ” ผมว่าเดินเคียงจักรไปเรื่อยๆเลี้ยวตรงมุมตึกตามจักร
“................”(จักร)
“ เพราะจักรไมได้ยกโทษให้พี่จริงๆ แต่ตัดรำคาญพี่”
“ รู้ว่าคนรำคาญแล้วยังตามอยู่ได้!”
“ ..........................” รู้ครับว่าเกลียด ว่ารำคาญแต่จะให้ผมทำยังไง ถ้าไม่ทำแบบนี้แล้วจะให้ผมทำยังไง ผมคิดไม่ออกจริงๆ
“ ......................” จักรมองหาที่นั่งว่างๆ (มีโต๊ะม้าหินอ่อน และม้านั่งไม้กับโต๊ะตามร่มไม้ และพื้นที่ใต้อาคาร)
“ นั่นไงจักร” ผมบอกเห็นม้าหินอ่อนสีขาวข้างสระน้ำ ตรงนั้นทำเลดีเลยครับ จักรเองก็มองเช่นกัน แต่แล้วจักรก็เดินไปอีกทาง ผมดึงแขนไว้ เพราะถ้าเรียกยังไงก็ไม่ฟัง(กำลัง(พลัง)ที่มากกว่าก็เอาไว้ใช้ตอนนี้แหละ)
“ จักรไปไหนล่ะ เอาตรงนั้นดิ” ผมบอก เห็นอีกด้านนิสิตหญิง 3 คนก็เล็งโต๊ะตัวเดียวกันนี้ ผมเลยดึงแขนจักรไปทันทีโดยไม่รอให้จักรตอบ เดี๋ยวไม่ทันการ
“ ปล่อย กรู!” จักรบอกผมดึงมาจนถึงโต๊ะจนได้(เหนื่อย --)
“ ปล่อยก็ปล่อย” ผมบอกแล้วนั่งลง ลมพัดเย็นดีจริงๆ แต่คนที่ยืนอยู่คงไม่เย็นด้วย เพราะคิ้วเรียวขมวดอย่างเห็นได้ชัด
“ นั่งลงดิ”
“ ไม่!” หน้าเชิดริมฝีปากแดงระเรื่อรั้นขึ้น คอเคล็ดทีเถอะ ล้อเล่นครับแต่เห็นแล้วมันอดคิดไม่ได้จริงๆ
“ นั่งลงเถอะจะทิฐิไปถึงไหน” ผมว่าดึงแขนจักรให้นั่งลง
“ เรื่องของกรู!” ดื้อจริงๆครับ ผมล่ะอ่อนใจเลย อย่างว่าน้องเขาเกลียดผมเข้ากระดูกดำ
“ จักร”
“ มรึงอยากให้กรูยกโทษให้จริงๆใช่ไหม?!” “ ................” ผมพยักหน้าตอบแทนคำพูดเพราะพูดไปเยอะแล้ว
“ อะไรที่กรูบอกมรึงก็จะทำใช่ไหม?!”
“ พี่จะทำ”
“ ทุกอย่าง” จักรถามยังคงไม่นั่งลง
“ ทุกอย่างที่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน”(ผมบอกอย่างพระเอก)
“ กรูบอกให้มรึงไปตายมรึงก็จะไปใช่ไหม?”
“ .............................”ผมพูดไม่ออก เรียกว่าอึ้งครับ
“ ไม่ต้องทำหน้าซีด กรูไม่บอกให้มรึงไปตายหรอก กรูไม่ได้ใจไม้ไส้ระกำขนาดนั้น” จักรว่ายิ้มที่มุมปาก ผมแอบเสียวหลัง พอหน้าตาน่ารักน่ารักทำแล้วทำไมมันสยองได้ขนาดนี้
“ ไปซื้อโค้กมาให้กรูแก้วหนึ่งแล้วก็......มาม่าหมูสับถ้วยหนึ่ง” จักรพูดดูอารมณ์ดีขึ้นมาแล้ว ตื้อเท่านั้นที่ครองโลกจริงๆ
หรือว่าความจริงแล้วจักรอยากจะทรมานผม อันนี้คงจะเป็นความจริง แต่ไม่เป็นไรชนะทนได้
ทำเขาไว้เยอะ แค่ซื้อน้ำเล็กน้อย
“..รอแป๊บหนึ่ง” ผมบอกลุกขึ้นไปซุ้มกลางสีเขียวเพราะคนน้อยที่สุด
“ ป้าเอาโค้ก 2 แก้วครับ” ผมสั่งแม่ค้าที่แก่มาก แต่แต่งหน้ายังกะ 18หยกๆ 17ผ่านๆ จากนั้นผมก็เอามาม่าคัพหมูสับ มาเปิดแล้วฉีกซองเครื่องปรุงให้จักรและตัวเอง กดน้ำร้อนที่มีไว้บริการแล้วปิดฝาตาม
“ ขอบคุณครับ” ผมว่าแม่ค้ายื่นแก้วโค้กให้ และผมจ่ายเงิน
ผมไม่สามารถถือไปทั้งหมดได้ในครั้งเดียว เลยเอาโค้กไปก่อน เผื่อจักรได้กินแล้วอารมณ์จะได้เย็นลง
“ มาแล้วครับ” ผมว่าเดินมาโต๊ะ วางแก้วตรงหน้าจักร
“ .................” จักรเงียบครับ ผมกลับไปเอามาม่ามาวางไว้ตรงหน้าอีก ตามด้วยนั่งลงพร้อมยิ้ม(ร่าเริงเข้าไว้ |.| )
“ …………….” จักรหันมามองผม แต่ก็หันกลับไปยกแก้วน้ำขึ้นกิน แล้ววาง..!?
ควับ!? ไม่ได้วางแก้ว
แต่สาดเข้าหน้าผมเต็มๆ โค้กเย็นกับน้ำแข็งแข็งๆกระทบหน้าผม มีเสียงร้องว้ายของผู้หญิงที่นั่งโต๊ะห่างออกไป(เหมือนเหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นแล้ว..)
“ ...................” ผมเอามือลูบน้ำออกจากหน้าก่อนที่ลืมตามอง จักรกำลังยิ้มด้วยความสะใจ
ผมไมได้สนใจมองใครที่มองพวกผมเลย ผมสนใจจักรคนเดียว
“ ................” ผมยืนขึ้น จักรสะดุ้งคงคิดว่าผมจะทำอะไรตัวเอง แต่เปล่าเลยผมเอาผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋ากางเกงแล้วเช็ดหน้าและคอ
“ เดี๋ยวพี่ไปซื้อให้อีก เอาโค้กเหมือนเดิมใช่ไหม?” ผมถาม จักรที่เงยหน้ามองผมสีหน้าบอกไม่เข้าใจสิ่งที่ผมพูด
“ .................”
“ พี่บอกแล้ว ว่าพี่ยอมทำทุกอย่างถ้าคนอื่นไม่เดือดร้อนด้วย” ผมบอกและถามต่อ
“ เอาโค้กใช่ไหม?”
“ ................” จักรยืนขึ้นบ้าง แล้วเหมือยจะเดินไปไหน ผมเลยดึงมือไว้ จักรสะบัดไม่หลุดแต่ผมปล่อยเอง
“ จะไปไหน?”
“ อย่ายุ่ง!”
“ หรือว่าจะไม่กิน เดี๋ยวตอนบ่ายก็เรียนไม่รู้เรื่อง” ผมบอก
“ โค้กคงไม่พอจะเอาอีกใช่ไหม!?” จักรพูดเพร้อมจับถ้วยมาม่าขึ้นมา
“เอาเลย อยากทำอะไรทำเลย สาดใส่พี่ถ้วยนี้ พี่จะซื้อถ้วยใหม่มา และไม่ให้จักรไปไหนจนกว่าจะได้กินอะไร” ผมบอก อีกฝ่ายจ้องหน้าผมเม้นริมฝีปาก
!? เอามาม่าสาดผม (สงกรานต์รึไงวะ!)
“..............” อกผมร้อนขึ้นมาทันที จากมาม่าที่จักรสาดมา (มีเสียงผู้หญิงร้องตามเคย คงจะดูพวกผมตั้งแต่สาดโค้กแล้ว)
“ ถ้วยนี้ไม่อยากชอบ พี่ซื้อมาให้ใหม่..” ร้อนโว้ย! ดีนะไม่สาดใส่ผมตั้งแต่แรก แต่ผมยังทำหน้าปกติอยู่ ต้องทนครับตอนบ่ายผมก็กลับแล้ว ขอแค่ให้จักรเห็นความจริงใจผมสักนิด
** **
ครั้งแรก 50%+11%+ 45% = 106% = 1ตอน ครบ 100%เผื่อท่านใดงงว่าไหนครั้งต่อครบ 100
คำผิดขอบคุณ ท่านknightofbabilon
ครั้งหน้าเต็ม ไม่มีมาเป็น% เน้อเจ้าค่ะ 
ท่านChae - อกหักดีกว่ารักไม่เป็นเจ้าค่ะ(ในความคิด) มีคำถามครับ การแบ่ง % ของเนื้อเรื่องที่จะเอาลงนี้คือ ตามความรู้สึก หรือว่า ใช้ Word Count ครับ
(ถ้าใช้ Word Count ก็ต้องเขียนได้ 100% จากนั้น ค่อยตัดมาให้ได้ 10% จากทั้งหมด) - -" ถ้าเป็นแบบนี้ ก็น่าจะลงได้ 100% คิคิ
ผมคิดมากไป ปะ 5555555+
อารมณ์ ไม่มีอะไร จะ ment ครับ เพราะว่าคิดถึงน้องจุมมมมมมมมมมมมม
โดยปกติ 1 ตอน เจ้าหญิงจะประมาณ 10 หน้า = 100% เพราะงั้นถ้าพิมพ์ได้ 3 หน้าก็ 30% เจ้าค่ะ