1 ชั่วโมง ผ่านไปเหมือนนานแสนนาน เพราะไม่มีจุมข้างกายผม
1 วัน เหมือน 1 ปี เพราะผมไม่รู้ว่าเมียผมอยู่ไหน
1 เดือน จะทำให้ผมขาดใจ ยิ่งเมื่อผมคิดว่าเขากำลังหนีผมอยู่ทั้งที่ผมตามหาจุมแทบพลิกแผ่นดิน ใจของผมแทบแตกสลาย
ผมนั่งอยู่ในห้องคนเดียวเหมือนทุกวัน เผื่อว่าจุมกลับมาแล้วจะได้เจอผม
ตึ้ด !?
เสียงกดออดทำให้ลุกพรวดไปเปิดประตู
จุมกลับมาแล้วใช่ไหม?
กลับมาหาพี่ ผมรู้ว่าตอนนี้รอยยิ้มกำลังอยู่บนหน้าผม
แต่พอประตูเปิดออกผมก็หมดแรงจะพูดจะถาม...
...... ไอ้แบงค์ ไอ้ชนะยืนอยู่หน้าประตู
“ เป็นไงบ้าง?” ไอ้ชนะถาม ผมส่ายหน้าตอบว่าไม่มีข่าวคราวจุมเลย ก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องนั่งลงโชฟาตัวเดิม
“ แค่เดือนเดียวเอง อีกไม่นานต้องเจอจุมแน่” (ไอ้ชนะ)ผมพยักหน้าอยากให้เป็นอย่างงั้นจริงๆ
ตลอดเวลา 1 เดือน ที่ให้คนไปสะกดรอยตามเพื่อนจุมทุกคนไม่มีใครที่คิดว่าเกี่ยวข้องกับจุมเลย ทั้งเพื่อนสนิทอย่างธี บันบัน หรือเพื่อนที่โรงเรียนใหม่อย่าง จักร ยู สิทธิ์ หรือแม้กระทั่งชิด
จุมตั้งใจที่จะหนีไปจริงๆ
“ กลางคืนกรูก็นอนไม่หลับไม่รู้ว่าจุมจะอยู่ยังไง โดนใครรังแกหรือเปล่า มันแปลกมากที่ไม่มีเบาะแสเรื่องจุมเลยราวกับหายไปเฉยๆ”
“ คนหนึ่งหนี คนหนึ่งหาจะเจอกันง่ายๆได้ไง” ไอ้ชนะมันบอกผมด้วยความหวังดี แต่พอมันมองหน้าผมแล้วมันก็แสดงสีหน้าว่า ‘ขอโทษ’
มันพูดไม่ผิดหรอก จุมหนีผม
“ แม่จุมว่าไง?” ไอ้แบงค์มันนั่งลงด้านขวามือของผมถาม
“ ป่วยจนนอนโรง-บาล 2 อาทิตย์ แต่ก็หายแล้ว ตอนนี้ก็ไปทำงานปกติ เพราะเชื่อว่าสักวันยังไงจุมก็ต้องกลับมา”
“ โคตรเข้มแข็ง” (ไอ้ชนะ)
ก็จริงครับ ผมคิดว่าคงเพราะวันที่จุมโทรไปหาวันนั้นด้วย..
................................ส่วนผมทำร้ายจุมจนถึงนาทีสุดท้าย
“ .............................” ผมหันหน้าไปมองไอ้แบงค์ที่มันก็รักจุมเหมือนกัน ตัวมันผอมลงไปเยอะ ตาก็คล้ำ มันก็คงเป็นห่วงจุมไม่ต่างจากผม
จากกล้องวงจรของคอนโดจุมออกไปตอนเที่ยงคืน แล้วตอนนั้นจุมจะไปอยู่ที่ไหน เพื่อนก็ไม่ได้ไปหาสักคนเดียว ญาติที่อื่นก็ไม่มีจะมีแม่แค่คนเดียว 1 เดือนแล้วไปอยู่ที่ไหน ใช้ชีวิตยังไง นอนที่ไหน ถึงจุมจะไม่ใช่เด็กแล้วแต่ผมก็ห่วง..............................
จุมยกโทษให้พี่แล้ว........ กลับมาเถอะ
กลับมา พี่จะยอมเชื่อฟังจุมทุกอย่างถ้าจุมยอมกลับมา
“ จุมคงไม่รักกรูแล้วถึงหนีไป” ผมบอกรู้สึกอย่างั้นจริงๆ ถ้ารักผมหนีผมไปทำไม
“ ไม่หรอก” ..ชนะพูดพร้อมตบบ่าผม
“ จริงชนะ จุมคงเกลียดกรูแล้ว” ผมทำถึงขนาดนั้นไม่โกรธไม่เกลียดสิแปลก
“ ...............”
ไอ้ชนะ ไอ้แบงค์มันไม่ตอบผม เพราะมันก็คงคิดเหมือนผม ……..
“ แต่ยังไงกรูก็ต้องหาจุมให้เจอ อย่างอื่นค่อยพูดกัน” ผมบอกตอนนี้ขอให้เจอจุมก่อนเรื่องอื่นผมไม่คิด
จุมเหตุผลที่จุมหนีไป เพราะไม่รักพี่แล้วมันเจ็บนะรู้ไหม?
กลับมาให้พี่ได้ขอโทษ.......กลับมา
“ วุฒิ มรึงสัญญาไหมว่าถ้ามรึงตามจุมเจอมรึงจะไม่เป็นเหมือนเดิม ที่เอะอะใช้กำลัง เอะอะเอาแต่ใจชอบบังคับ” ผมหันไปหาไอ้แบงค์ มันยังพูดต่อ
“ อย่าทำร้ายจุมอีกเลย ไม่เห็นแก่ใครก็เห็นแก่ตัวมรึงเอง” กรูก็ไม่ได้อยากทำ
“ กรูก็ไม่อยากทำ กรูคิดว่ากรูจะทำดีที่สุดแล้ว แต่..”
“ แต่เพราะมรึงไม่เชื่อใจจุมเลย” ไอ้แบงค์พูดแทรกผม มันจ้องหน้าผมนิ่งจ้องราวกับค้นหาบางสิ่งบางอย่าง สีหน้ามันบอกว่าไม่เจอสิ่งที่มันหา
“ กรูไม่มั่นใจว่าสิ่งที่เห็นมันจริง ยิ่งกรูมีความสุขก็ยิ่งกลัว” ผมบอกนึกถึงอดีต คุณพ่อคุณแม่ใบหน้าเปื้อนยิ้ม แท้จริงคือสิ่งจอมปลอม
อย่าพูดถ้าไม่รู้สึก เพราะคนฟังมันรู้สึกไปแล้วแต่มารู้ที่หลังมันเจียนตาย
อย่ามาทำเป็นรักกันต่อหน้า แม้จริงคือความว่างเปล่า
“ ยิ่งรักเท่าไร กรูก็ยิ่งไม่มั่นใจมากเท่านั้น”
ผมบอกก้มลง มือลูบหน้าด้วยความหดหู่อย่างทรมาน
“ จุมคือจุม ไม่ใช่คนที่มรึงเคยคนรู้จัก ไม่ใช่พ่อแม่มรึง ไม่ใช่ชู้รักพ่อแม่มรึงที่มีคนแล้วคนเล่า จุมไม่ใช่มรึง จุมไม่ใช่กรู จุมไม่ใช่ไอ้ชนะ และก็ไม่มีใครที่ใช่จุม เพราะงั้นถ้ามรึงรักจุมเชื่อจุมเถอะว่าน้องเขารักมรึง......” ที่ไอ้แบงค์พูดมันก็ถูกแต่ตอนนี้ผมไม่มีจุมแล้ว
จะให้เชื่อได้ยังไง นอกจากเชื่อว่าจุมจะกลับมา
“ มันเป็นเรื่องปกติวุฒิ ไม่ว่ากรู หรือมรึงก็รู้สึกไม่มั่นใจ เพราะกลัวที่จะสูญเสีย” ไอ้ชนะพูดเสียงมันเบามาก เพราะมันคงรู้สึกอย่างงั้นจริงๆ
“ ยึดติดได้ แต่อย่าลืมความรู้สึกที่เรารัก ที่มรึงทำกับจุมทนได้ยังไงตอนนี้กรูก็คิดไม่ตก”
“ ชนะ....กรู..”
“ .......สำนึกผิดไม่มีคำว่าสาย แต่กว่าจะรู้และสำนึกได้ต้องแลกกับอะไรบ้าง กรูไม่รู้ .. กรูเอาใจช่วยมรึงว่าอย่าต้องแลกด้วยหัวใจ เพราะหัวใจมรึงคือจุม” ไอ้ชนะมันเปลี่ยนจากเอามือจับไหล่มาเป็นกอดไหล่ผมแล้วตบเบาๆ
“ ฟ้าไม่ลงโทษคนหล่อหรอกเชื่อกรู” ไอ้ชนะมันพูดแล้วยิ้มไปด้วย มันคงคิดว่ามันพูดออกมาได้ยังไงนอกจากจะไม่มีเหตุผลแล้วยังติงต๊อง มันคงอยากพูดให้ผมรู้ดี
“ ....................”
“ จริงไหมวะ แบงค์?” ..ชนะมันชะโงกไปถามไอ้แบงค์ที่นั่งอีกข้างของตัวผม
“ ..............หมายถึงจุมฟ้าหรือเปล่า?” ไอ้แบงค์มันถามกลับหน้าตาย
พวกผมนิ่ง
มันถึงได้ยิ้ม
“ หัดมีมุขนะมรึง” ไอ้ชนะแหย่บ้าง ผมคิดว่าไอ้แบงค์ไม่ได้เล่นมุขหรอกครับ
...สุดท้ายก็เพื่อน ของเรา
** ** ** **
โครม! ตัวผมเซถลาชนกับโต๊ะที่เดินผ่านทั้งที่คิดว่าตัวเองเดินตรงแล้ว แต่ไม่เลย เพราะงั้นตอนนี้ผมถึงลงไปนอนกับพื้น พอลุกขึ้นตัวก็ล้มลงไปอีก
ปวดหัว อยากอ้วก
ไอ้อาการเมาสุดๆมันเป็นแบบนี้นี่เอง เพราะผมเป็นคอแข็งไม่เคยเมาจนหัวทิ่มแบบนี้
ผมรู้ตัวเองดีพอควรแต่ควบคุมร่างกายไม่ได้
“ นี่มันวุฒินี่” เสียงผู้หญิงจากหลายคนที่ก้มมองผม หลายคน…มีสักคนไหมที่เป็นจุมของพี่
“ ทุเรศวะ หมดสภาพแต่ก่อนทำเป็นกร่างไปทั่ว” เสียงไอ้เลวสักตัว มันพูด และมันน่าจะเตะที่สีข้างผมด้วย
เจ็บดี
แต่ผมไม่สนมันหรอก ผมพยายามลุกขึ้นอีกจนนั่งอยู่บนพื้นแต่ไม่มีแรงจะยืน ทั้งพื้น ทั้งเพดานมันกลับตาลปัตรไปหมด ไม่รู้ว่าอันไหนคือความจริง หัวก็ปวดตัวก็ร้อนวูบวาบ
“ ไอ้วุฒิ!” หมาตัวไหนมารู้จักผมอีกละ
“ ลุกไหวไหม?!”
ไอ้แบงค์ มันถามเอามือตบหน้าผมเบา ตาผมที่ลืมได้นิดๆหน่อยๆจ้องมองมัน
“ จุม?”มรึงเจอจุมของกรูหรือยังแบงค์ หรือว่ามรึงเจอจุมแล้วแต่ไม่บอกกรู
คืนจุมมาให้กรูเถอะ
“ เอ้า! ลุกขึ้น” ไอ้แบงค์มันบอก เอาแขนข้างหนึ่งของผมไปคล้องคอมัน แล้วจับตัวผมให้ยืนขึ้น
ผมยืนแล้วแต่รู้สึกไม่มั่นคง มองคนหลายคนที่จ้องผมอยู่ พร้อมเสียงซุบซิบที่ไม่อยากฟัง
“ มรึงทำไมเป็นได้ขนาดนี้” ไอ้แบงค์มันว่า พร้อมทั้งพาผมเดิน อย่างลำบากเพราะขาผมมันไม่อยากเดิน เดินก็ไม่มีแรงเหมือนขาไม่มีกระดูก
จุมม
จุม
จุม
6 เดือน คือครึ่งปี ที่จุมหนีพี่ไป
ทำไมไม่กลับมาสักที โกรธแค้นอะไรพี่หนักหนา พี่ขอโทษแล้วไง กลับมาเถอะ
“ จุมมม” .
.
.
ผมลืมตาขึ้น หันไปมองรอบๆ ทั้งโคมไฟ โต๊ะ เก้าอี้ นี่มันห้องผม แล้วผมมาอยู่ได้ยังไง
“ สร่างเมายัง?” ไอ้แบงค์มันเดินเข้ามาในห้องถามผม
“ มรึงพากรูมา?” ผมถามลุกขึ้นนั่งเอามือตบหัวให้มันตื่น ปวดหัวจนจิ๊ดแต่แค่แวบเดียวก่อนที่จะกลายเป็นปวดตุบๆแทน
“ มรึงเมาเหมือนหมาที่ผับ ดีที่กรูไปเจอ” มันคงไม่ได้ไปเจอ แต่มันตั้งใจไปหาผมมากกว่า เจ้าของร้านเป็นคนรู้จักพวกผม คงโทรไปตามมัน ที่ผมคิดอย่างงั้นเพราะอาทิตย์ที่แล้วที่ผมเมาแบบนี้ไอ้ชนะก็เป็นคนพาผมกลับมา
“ ...........” ผมกินเพราะอยากลืมจุม แต่ยิ่งกินก็ยิ่งคิดถึงยิ่งห่วงหา
“ กรูไม่อยากบอกมรึงว่าเหล้ามันไม่มีประโยชน์ เพราะตอนที่ไอ้ชนะบอก กรูก็ไม่ฟัง แต่มันไม่มีอะไรดีขึ้นจริงๆ เพราะไม่ว่ากรูจะเมาแค่ไหน จุมก็ไม่หันมารักกรู..........” ไอ้แบงค์มันพูดเดินเข้ามาแล้วหยุดข้างๆเตียง
ผมเงยหน้ามองมัน หน้ามันเศร้าคงเพราะคำพูดของมันเองเมื่อกี้
“ กรูรู้ ว่ามันไม่มีประโยชน์ แต่กรูอยากลืมบ้างสักนาทีก็ยังดี กรูนอนก็นอนไม่หลับ กินอะไรก็ไม่ได้ไม่อยากกินด้วยซ้ำ ”
“ กรูเข้าใจ”
“ ทำไมวะ ทำไมจุมไม่กลับมาสักที
จุมจะให้กรูทรมานไปถึงไหน?!” “ วุฒิ มรึงใจเย็นๆ มรึงต้องตามจุมเจอแน่” ผมรู้ว่าไอ้แบงค์มันแค่ปลอบผม มันก็ไม่มั่นใจว่าผมจะตามจุมเจอเมื่อไร
ไม่มีใครคิดเลยว่าจุมจะหายตัวไปครึ่งปีแล้ว อย่างไม่มีวี่แวว หายังไงก็หาไม่เจอ
“ จุมหนีกรู เขาหนีกรู!” ผมพูดซ้ำ ยิ่งพูดหัวใจเต้นระริกยิ่งเจ็บยิ่งปวด
“ ใช่น้องเขาหนีมรึง
มรึงต้องยอมรับ เพราะมรึงผิดมากผิดเต็มๆ กรูด้วย พวกเราผิด!” ไอ้แบงค์มันตอกย้ำ
“ ทั้งที่กรูรักมาก” มากจริงๆ
“แต่ก็ทำร้ายจุมมากเช่นกัน” มันพูดแล้วหันหลังให้ผม
“ มรึงเคยคิดแย่งจุมไปจากกรูไหม?” ผมอยากรู้จากปากมัน ว่ามันเคยคิดไหม?
“
เคย บ่อยด้วย ตอนที่มรึงซ้อมจุม ข่มขืนจุม แกล้งจุมสารพัด กรูอยากต่อยมมรึงอยากทำร้ายมรึงแทบบ้า แต่มันติดตรงที่ จุมรักมรึง พอคิดได้อย่างั้นกรูก็ไม่กล้าทำอะไร เพราะกรูทำมรึงเจ็บจุมเจ็บด้วย กรูคงทนไม่ได้” ไอ้แบงค์มันไม่ยอมหันมา ผมเลยไม่เห็นหน้ามันตอนนี้ว่ามันทำหน้ายังไง
“ ..................ตอนนี้กรรมตามสนองกรูใช่ไหม?” ผมถามแต่รู้คำตอบว่า ‘ใช่’
“ คงงั้น”
“ กรูทำร้ายจุมให้เจ็บกรูก็ยิ่งเจ็บ ตอนที่กรูทำร้ายจุมมรึงก็คงเจ็บด้วย”
“ คงงั้น” ไอ้แบงค์มันตอบคำเดิม
“...................” มันเองก็ทุกข์ใจเรื่องจุมเหมือนกัน
“ มรึงเองก็กลับไปเรียนได้แล้ว จุมคงไม่อยากให้มรึงมาเสียคนเพราะตัวเองหรอก”
“ ........” ผมไม่กระจิตกระใจจะทำอะไรเลย อย่าว่าแต่เรื่องเรียนเลย ไม่อยากจะทำอะไรทั้งนั้น
“ มรึงควรจะทำอะไรทำบ้าง มันช่วยได้ช่วยให้ลืมไปได้บ้าง ......” ไอ้แบงค์ว่าหันหน้ามาในที่สุด
“ กรูจะลองดู แต่ไม่รู้จะได้สักกี่น้ำ”
ตึ้ด ตึ้ด
!? เสียงกดออดผมรีบลุกขึ้น อาจจะเป็นจุม
“ จุม!?”(ผม)
“ ไม่ใช่หรอก คงเป็นไอ้ชนะ” ไอ้แบงค์บอกผม เดินตามผมที่วิ่งลงจากเตียงไปเปิดประตู
อาจจะเป็นจุม ผมหวัง
แต่ผมเปิดประตู ไอ้ชนะยืนยิ้มแป้น
“ เห็นหน้ากรู ผิดหวังนักหรือวะ คนอุตสาห์เป็นห่วง” ไอ้ชนะบอกเดินเข้ามา มือมันหิ้วของกินจากร้านสะดวกซื้อเข้ามา 1 ถุงใหญ่
ผมยืนนิ่งๆก่อนที่จะเดินตามไป
อีกครั้งที่ความหวังถูกความจริงทำร้าย
จะให้พี่ตายให้ได้ใช่ไหมจุมถึงจะยอมกลับมา
“.................”
ไม่รักพี่แล้ว หรือไง ไหนบอกว่ารักพี่
“ไอ้แบงค์มันบอกว่าเจอมรึงหมดสภาพที่ผับอีกแล้ว กรูเป็นห่วงก็เลยมาดู เอานี่กรูซื้ออะไรมาให้กิน จะได้ไม่ตายก่อนได้เจอจุม”
ผมเดินตามไอ้ชนะไปนั่งบนโต๊ะกินข้าว พักหลังก่อนที่จุมจะไป ผมกับจุมจะได้เจอกันก็ตอนกินข้าวนี่แหละ ไม่งั้นจุมก็ไปหมกตัวอยู่ในห้องบ้าง ห้องน้ำบ้าง นอกเสียจากว่าผมเข้าไปตามเข้าไปเรียกมาทำไม่ดีเท่านั้นแหละ
‘พี่ครับ ผมเจ็บ ผมเจ็บ’ พร้อมกับน้ำตาและเสียงสะอื้น
‘เจ็บสิดี แต่มันไม่ครึ่งที่พี่รู้สึกหรอก แค่นี้มันยังน้อย!’ ผมมันบ้าไม่รู้เมื่อไร คำว่าเจ็บหายไปจากปากจุม ไม่ว่าผมจะทำอะไรก็ยอม เชื่อฟัง มันยิ่งทำให้ผมหงุดหงิด
พี่เข้าใจแล้วพี่ผิด พี่รู้แล้วว่าพี่มันเลว กลับมาได้ไหม? แล้วพี่จะให้จุมทำอะไรกับพี่ก็ได้ ขอแค่พี่ได้เห็นหน้าจุม
ได้ไหม.............
“ เอากิน” ไอ้ชนะมันเอาขนมปังจากถุงยื่นให้ผม ผมรับมาแต่ไม่กิน..ไม่หิว
“ แบงค์มรึงเอาป่ะ?” ชนะถามไอ้แบงค์พร้อมยื่นให้ ไอ้แบงค์รับไปแล้วกิน ไอ้ชนะก็ด้วย ผมก็เลยกินบ้างแต่มันฝืดคอ ทว่าผมก็ยังกล้ำกลืนลงคอ
“ แบงค์ขอน้ำดิ” ไอ้ชนะใช้ไอ้แบงค์มันเลยเดินไปหยิบขวดน้ำจากตู้เย็นมาวางไว้ตรงหน้าผม แล้วไปนั่งข้างๆไอ้ชนะซึ่งอยู่ตรงข้ามผม
“ นักสืบพ่อมรึงไม่ได้เบาะแสสักนิ้ด เลยหรือวะ?” ผมส่ายหน้าตอบ ไม่มีข่าวคราวจุมเลย โทรไปตามโรงบาล สถานตำรวจเผื่อว่าได้รับอุบัติเหตุก็ไม่มี ที่แจ้งความไว้ก็ไม่คืบหน้า ราวกับสวรรค์แกล้งคนคนหนึ่งจะหายไปไหน
“ ครึ่งปี เชียวนะเว้ย! ที่จุมหนีไปไม่มีข่าวคราว” ไอ้ชนะพูดถูก ครึ่งปี!
“ มรึงให้คนไปเฝ้าที่บ้านจุมไหม เผื่อว่าจุมจะกลับมาดูแม่” (ไอ้แบงค์)
“ 2 คน 24 ชั่วโมง แต่ไม่ได้เรื่องเหมือนทุกคน” ผมบอก ยิ่งพูดยิ่งท้อแท้ แต่ผมจะไม่มีหยุดตามหาจุม
ไม่มีวัน!
“ ดูสภาพมรึงดิ แต่ก่อนสำอางเรียกพี่ แต่ตอนนี้มรึงยังกะ...อย่าให้กรูพูดดูไม่ได้ ..” ไอ้ชนะมันว่า ก็คงจริงผมไม่ได้ดูแลตัวเองอย่างที่เคยเป็น ผมก็ตัดไปงั้นๆ หนวดก็โกนไปส่งๆ เสื้อผ้าจับได้ตัวไหนก็ใส่ไม่คิดสนใจ ว่าจะเข้ากันไหม จะเข้ากับรองเท้าไหม บางครั้งผมก็ใส่สื้อยืดจุมที่ทั้งเก่าและซีดที่จุมเอาไว้ใส่นอน สภาพคงดูไม่ได้จริงๆแต่ผมไม่สน
“ กรูพอเข้าใจว่าตอนนี้มรึงรู้สึกยังไง แต่ที่จุมหนีไปเพราะคิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุ และไม่อยากให้ใครเดือดร้อน ..เพราะงั้นอย่าให้จุมมาเจอมรึงแบบนี้เลย” ที่ชนะมันพูดผมเข้าใจแต่
“ .....................จุมจะกลับมาใช่ไหมวะ?”
“ ......................” พวกมัน 2 คนเงียบ ไอ้แบงค์ไอ้ชนะมันคงไม่อยากโกหกผม เลยไม่บอกว่าจุมจะกลับมา ใน 6เดือนผ่านไปมันได้ทำร้ายความเชื่อมั่นว่าจุมจะกลับมา
“ กรูจะตามจุมเจอใช่ไหม?”
“ ทุกอย่างมันต้องใช้เวลา” (ไอ้แบงค์)
“ แต่กรูจะตายแล้ว จุมใจร้ายกับกรูจริงๆ”
“ มรึงร้ายกับน้องเขาก่อนวุฒิ ถือว่าการรอคอยจุมเป็นการลงโทษตัวเองเถอะ”(ไอ้ชนะ)
“วิธีลงโทษมีเป็นร้อย แต่อย่าหนีกรูไป กรูทรมานจนไม่รู้ว่าทรมานยังไงแล้ว!” ผมพูดไม่ได้โทษใครแต่สงสารตัวเอง ที่ถวิลแต่คนคนเดียว
“ กรูไม่ยักกรู้ว่าการลงโทษเลือกวิธีได้ด้วย”(ไอ้ชนะ)
“ แม้เลือกไม่ได้ แต่บอกกรูได้ไหมว่ามันจะจบเมื่อไร
บอกกรูว่ามันจบเมื่อไร! บอกกรูหน่อยว่าจุมกลับมาเมื่อไร ถ้ามรึงเจอจุมบอกจุมหน่อยว่ากรูสำนึกผิดแล้ว.!..” “ วุฒิ” ไอ้แบงค์ไอ้ชนะพูดพร้อมกันเสียงเบา
“ ช่วยบอกจุมให้กรูที ว่ากรูขอโทษให้กรูทำอะไรก็ยอม กรูยอมทุกอย่าง” ใจมันเจ็บจนทนไม่ไหว
“ วุฒิ มรึงต้องหาจุมแน่” ไอ้ชนะมันบอก แต่ดูหน้ามันก็รู้แค่ปลอบ มันก็ไม่รู้เมื่อไร
“ 6 กว่าเดือน 223 วัน 5352 ชั่วโมง กว่ามันจะผ่านไปแต่ละนาทีมันนานแค่ไหน
มรึงรู้ไหม! แต่มันผ่านมาแล้ว 6 เดือน มรึงคิดว่ากรูอยู่ได้ยังไง กรูอยู่ได้เพราะมีความหวังแต่
ความหวังมันกำลังทำร้ายกรูเพราะไม่มีอะไรที่มีความหวังว่าจุมจะกลับมา หาก็หาไม่เจอ!” “ เชื่อกรูวุฒิ ว่ามรึงตามจุมแน่” ไอ้ชนะมันเอามือมันมาจับมือผม
“
จะตามเจอได้ยังไง เขาหนีกรู จุมเกลียดกรู ไม่รักกรูแล้ว” “ น้องเขารักมรึงวุฒิ น้องเขารักมรึง”
“
มรึงอย่าโกหกกรู ถ้ารัก จุมไม่หนีไป!” “ก็มรึง......”ไอ้แบงค์มันพูดแล้วหยุด คงเพราะคำพูดในจะทำร้ายผม
“ ก็กรูเลวใช่ไหม?” ผมถาม แต่มันไม่ตอบ
“ ถึงกรูเลวแต่กรูก็รัก กรูก็มีหัวใจ กรูก็เจ็บปวดเป็น..........” “ ......................” พวกมัน 2 คนไม่พูดเอาแต่จ้องหน้าผม
หัวใจมันเจ็บปวด จนคิดว่าเลือดมันกำลังไหลทะลัก เลือดที่ทะลักออกมามันเป็นพิษยิ่งทำให้ทุรนทุราย ปวดแสบเจียนตาย
“ กรูอยากเห็นหน้าจุม ไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน? กรูเป็นห่วง กรูรัก ..................”
“ .........................” (ไอ้แบงค์ไอ้ชนะ)
จุมอยู่ที่ไหน?
รู้ไหมพี่ทรมาน พี่จะไม่หยุดทรมานถ้าหาจุมไม่เจอ เข้าใจหน่อยสิ ว่าพี่รักและยอมรับผิด
ไม่รักพี่แล้วก็ได้ กลับมาเถอะ
มันเกินจะทนแล้วจริงๆ
“ ฮือๆ อยู่ไหน? จุมอยู่ไหนวะ” ผมร้องไห้ไม่อาย
“ วุฒิ” มือไอ้ชนะที่จับมือผมเปลี่ยนมาเป็นกำไว้ แต่ผมสะบัดออก
“ ฮือๆ”
** ** ** **
1 ปี ผมกลับไปเรียน ไปมหาลัยหลังจากไม่ได้ไปมาเป็นปี ทุกอย่างไม่เหมือนเดิมเพราะตัวผม ..เปลี่ยนไป
ผมกลับมาเรียนอีก เพราะไม่อาจจะอยู่เฉยๆได้ เพราะไม่มีนาทีไหนที่ไม่คิดเรื่องจุม มันจมอยู่เหมือนคนที่กำลังจมน้ำว่ายก็ไม่เป็นและมองไม่เห็นฝั่ง ยิ่งดิ้นก็ยิ่งจมยิ่งทุรนทุราย จนร่างกายดิ่งลงจมหายไปในท้องน้ำที่กว้างใหญ่แต่ ร่างกายมันก็ลอยขึ้นมาให้ตะเกียกตะกายอีกครั้งแล้วครั้งเล่า...
เวลาสอนให้ผมรู้ว่า ผมมีความหวังเหมือนเข็มนาฬิกาที่เดินไปเรื่อยๆ แม้ว่านั่นอาจจะเป็นการหลอกตัวเอง แต่มันจำเป็น!
1 ปี ไม่มีใครรู้ว่าหัวใจผมอยู่ที่ไหน และทำอะไรอยู่ มันทรมานสาหัสแต่ผมยังไม่ตาย และจะไม่ยอมตายจนกว่าจะได้เจอจุมอีกครั้ง
ผมเลี้ยวรถเข้าที่จอดรถคณะตอนนี้เที่ยงพอดีที่หน้าตึกจึงมีคนพลุกพล่าน และที่จอดรถก็เต็มเกือบหมด แต่ดีที่ผมมีที่จอดแม้จะแดดหน่อยก็ตาม
เพราะผมหยุดเรียนไปปีหนึ่งทำให้ตอนนี้ผมต้องเรียนกับรุ่นน้อง แต่ผมไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร
หลังจากจอดรถผมพาตัวเองออกมา พยายามยึดมั่นกับสิ่งที่จะทำ
จุม ...............พี่กลับมาเรียนแล้วนะ คุณแม่จุมบอกพี่ว่า จุมบอกว่าจะไม่ทิ้งการเรียนพี่ก็มาเรียนแล้ว แล้วตอนนี้จุมยังเรียนอยู่ไหม?
ยังเรียนด้วยกันใช่ไหม แม้ว่าพี่จะไม่รู้จุมอยู่ไหน?
อากาศด้านนอกอบอ้าว แดดก็แรงจนต้องหรี่ตาลงเมื่อเดินไปตึกคณะ
แต่
….แล้ว!!?
สายตาผมมองเห็นคนคนหนึ่ง แม้จะไม่เห็นหน้าชัดๆ แต่ผมรู้ว่านั่นคือจุม!
ร่างผอมในชุดนักศึกษาใหม่ อาจจะเป็นปี1 ผมวิ่งเข้าไปในคณะ แต่คนตรงหน้าเดินเร็วกว่าที่คิด เขาหายไปจากสายตาผม แต่พอรู้ว่าเลี้ยวซ้ายเพราะมีแค่ทางนั้นที่จะไปได้ผมวิ่งตาม
วิ่งไปจนเกือบถึงตัว มือก็ยื่นไปจับแขน
“ จุม!!” ผมเรียกด้วยหัวใจที่เต้นระทึก
หันควับ!?
“………………..” ไม่ใช่จุม! ผมปล่อยมือที่หมดแรง
“ มีไรพี่?” น้องเขาถาม ผมส่ายหน้าตอบ เดินกลับมา
ท่ามกลางเสียงพูดคุย เสียงหัวเราะ เสียงนินทา เสียงตะโกน ผมเดินออกมาเงียบๆคนเดียว
จุม
พี่จะเจอจุมง่ายขนาดนั้นได้ยังไงใช่ไหม?
จุมตั้งใจจะหนีพี่ คงไม่มาให้พี่เห็นตัว
“ ...................” ผมรู้ตัวก็เดินกลับมาถึงรถ เลยต้องเดินกลับไป
สายตาผมหันกลับไปในคณะอีกครั้งอยากจะให้เกิดปาฏิหาริย์ให้ผมได้เจอจุม แต่ไม่เลย ไม่ว่าใครก็ไม่เหมือนจุมเลยสักนิด
อีกครั้งที่ความหวังถูกทำร้าย
“ ................ต้องทรมานพี่นานแค่ไหน?” ผมถามตัวเอง เพราะคนที่ถามไม่ได้ยิน
ไม่เวลาผ่านไปนานแค่ไหนความรู้สึก ยังเหมือนเดิม....แต่ทำใจได้มากขึ้นแม้เพียงน้อยนิดแต่ก็ช่วยให้ร่างกายอยู่ได้เพื่อรอ
....ผมเงยมองหน้าท้องฟ้าแดดจัด
“ .............................................”
** ** ** **
จบ
** ** ** **
0.0
เข้ามาอ่านเม้นต์ ทำไมท่านๆบอกว่ายังไม่จบ จบแล้วนี่นา
แต่0{}[] +!?
นี่มัน... หายไปไหนทำไมไม่ครบล่ะ? เอาลงแล้ว ......ขออภัยมานะที่นี่ด้วยเน้อ- - - ------------------------------------- -- -- ว่าเรื่องราว บุพเพวายร้าย ตอน แซนวิช เป็นเรื่องราวต่อจากนี้เจ้าค่ะ ตัวเอกคนหนึ่งคือพี่ชนะ เพราะงั้นแปลกที่จะมีพี่วุฒิ หรืออาจจะมีน้องจุมด้วย 55
อันโอกาสจบนี้
ขอบคุณทุกๆท่านที่ติดตาม คอมเม้นต์แสดงความคิดเห็น(กันอย่างเมามันส์)
และ ท่านที่กรุณาบอกคำผิดทุกๆท่านด้วย ขอบคุณมากมายเจ้าค่ะ
แล้วถ้ายังไม่ไปไหนก็อย่าติดตาม
บุพเพวายร้าย ตอน แซนวิช ด้วยเน้อท่าน
ปล.ยังไม่แน่ใจว่าจะเอาเป็นชื่อตอน หรือ จะเป็นบุพเพวายร้าย(สอง) เนื่องด้วยเป็นเรื่องต่อจากนี้ แต่เป็นเรื่องของอีกคนเลยไม่อยากร่วม
ปล.2 เครดิตเพลง จะเก็บเรื่องราวของเราเอาไว้ : Sofa “มรึงเป็นอะไรของมรึง?”
“ กรูไม่เป็นไร แล้วตกลงรึงจะเอากรูไหม ถ้าไม่เอากรูจะไปให้คนอื่นเอา!”