บุพเพวายร้าย
62.50%
วรวุฒิ
ผมนั่งมองเหล้าในแก้ว ด้วยความเบื่อ เซ็งว่างเปล่า หัวใจหนักจนร่างกายแทบทรุด
เมื่อก่อนผมชอบมาที่แบบนี้ มาเที่ยว มาเต้น สนุกกับสิ่งรอบ แม้จะรู้ว่ามันคือไม่จริง แต่มันทำให้ผมลืมเรื่องต่างๆไปได้ เรื่องที่ผมไม่อยากจำ ไม่อยากคิดว่ามันเกิดขึ้นกับผม จนกระทั่งผมได้เจอจุม
คนที่ผมเกลียดที่สุด เกลียดจนเรียกว่าแค้น จนอยากจะให้ทรมานที่สุดเท่าที่จะทำได้
ตอนนี้ผมเองก็แค้นจุม แต่ก็รักจนแทบตาย
รักมากถึงได้แค้นมาก
จุมทำให้ผมรู้สึกมีความสุขที่ผมไม่เคยรู้จัก แต่ก็ทำให้ทรมานได้แบบที่ผมไม่รู้จักเช่นกัน
“ ..........................” ผมมองเหล้าในแก้วก็ยิ่งทุกข์ มันไม่ได้ทำให้ผมลืมเรื่องต่างๆได้เลย ยิ่งเมาก็ยิ่งเจ็บ เพราะมันทำให้ความรู้สึกชัดเจนมากขึ้น
ตลอดหลายเดือนมานี้ผมเหมือนตกนรกทั้งเป็น ผมทรมานจุมเท่าที่ผมจะทำได้ ผมทรมานจุม แต่ผมก็มานั่งทำแผลให้ทั้งที่ทำไม่เป็น จุมไข้ขึ้นสุดท้ายผมก็ต้องพาไปหาหมอทั้งที่คิดว่าสมควรแล้ว ข่มขืนจุมแล้วผมกลับยิ่งเจ็บ
ผมเจ็บแต่อยากให้จุมเจ็บกว่า
อยากให้เจ็บกว่าตัวเอง............แต่ไม่เลยผมกลับยิ่งเจ็บมากกว่าเดิม
“ ให้นั่งเป็นเพื่อนไหมค่ะ?” ผมหันไปมองผู้หญิงที่เข้ามาทักผม
สวย ผมยาว แต่งหน้าจัด
“ ไม่ต้อง” ผมบอกอยากอยู่คนเดียวมากกว่า
“ อกหักหรือคะ ปรึกษาได้นะ”
“ บอกว่าไม่ต้องไงล่ะ!” ผมพูด ปัดแก้วที่จับเมื่อกี้ลงพื้น
เพล้ง! “ ว้าย!?” เธอร้อง ถอยห่างออกไป หน้าซีดตกใจ อยากเสือกเองช่วยไม่ได้
“ อย่ายุ่ง!!” ผมว่าหันหน้ากลับเข้าเคาร์เตอร์ สั่งเหล้าใหม่
แต่แล้วก็มีคนวางแก้วลงตรงหน้าผม
ใครอีกวะ! ท่าจะอยากเจ็บตัว!!!!! ผมหันไป!?
........ไอ้ชนะ.......
“....................”
“ วุฒิ มีอะไรปรึกษาดิวะ” ชนะมันนั่งข้างๆผมพูด
“คนอย่างกรูจะมีอะไร ถ้าจะมาทำเพื่อนแสนดีตอนนี้ อย่า รำคาญ” ผมบอกรับแก้วจากบาร์เทนเดอร์ แล้วก็กรอกเข้าปาก
“ กรูก็ไม่อยากทำหรอก มีเพื่อนอย่างมรึง มีเพื่อนเป็นหมาดีกว่า แหม่ง อย่างน้อยหมามันไม่ต่อยกรู” ไอ้ชนะมันว่าจิบเหล้าที่วางตรงหน้าผมเมื่อกี้ ผมหันไปมองมัน มันก็หันมา
“ กรูควายไม่ใช่หมา” ผมบอก เพราะผมมันโง่ โดนคนที่ไว้ใจหลอกถึง 2 ครั้ง ทั้งเพื่อน ทั้งเมีย..
“ มรึงเป็นอะไรก็ไม่ต่างกัน เพราะไม่ใช่คน”
“ ...................” ผมหันหน้ากลับ มือข้างซ้าย นิ้วกลางไม่ได้ใส่แหวนแล้ว แต่ผมเอามาร้อยใส่สร้อยห้อยคอแทน เพราะจะได้เหมือนกัน
โง่บรรลัย
“ กรูรู้นะว่าช่วงนี้มรึงมาที่นี่บ่อย ถ้าพูดให้ถูกคือแทบทุกวัน”
“ เออ”
“ จุมล่ะ?”
“ อยู่คอนโด” ผมตอบ นึกถึงหน้าเมียที่นอนหลับก่อนที่ผมจะออกมา
น้ำตาเต็มหน้า ร่างกายมีแต่รอยช้ำ ก็แน่ล่ะผมข่มขืนและก็ทุกวัน
“ มรึงทำอะไรน้องเขา” ไอ้ชนะถามเหมือนไม่ถามเพราะมันเหมือนคำตอบ ผมยิ้มก่อนตอบให้มันแน่ใจ
“ อื้ม” ผมพยักหน้าไปพลาง ไม่ได้มีความรู้สึกอยากกินเหล้าในแก้วเลยสักนิด
“ กรูก็พอรู้ เจ็บไหมล่ะทำร้ายคนที่รัก”
“ เจ็บ”
“ เจ็บแล้ว ทำ ทำไม?”
“ เพราะกรูเจ็บ”
“ มรึงเจ็บ คนอื่นต้องเจ็บกว่า แม้ว่าคนคนนั้นจะเป็นคนที่มรึงรัก”
“ ..................” ไอ้ชนะมันพูดถูก แต่อีกส่วนหนึ่งคือผมอยากให้จุมได้รู้ว่าการหักหลังผม ทรยศผมมันจะได้รับผลยังไง
ผมแค้น
โกรธ
น้อยใจ
ใจเหมือนโดนเฉือน
พอคิดขึ้นมาก็อยากจะบีบให้ตาย แต่มันรัก จะให้ทำยังไง
ยิ่งคิดนึกถึงอดีตที่มีความสุขก็แทบคลั่ง เพราะตอนนั้นจุมก็ยังหลอกผม รูปพวกนั้นไม่รู้ว่าใครส่งมา แต่ลงที่อยู่ร้านสาขาแม่ผม ผมเลยเปิดดู นั่นแหละทำให้ผมตาสว่าง ผมไม่สนใจว่าคนที่ส่งหวังอะไรหรือต้องการอะไรแต่ผมรู้ความจริงเป็นพอ
ตุบ! ผมเอากำปั้นทุบโต๊ะเคาร์เตอร์ จนแก้วเหล้ากระดกขึ้น
“ มรึงโกรธอะไรจุมวะ ก่อนหน้านี้กรูเห็นมรึงเชื่องอยู่ดีๆ” ยิ่งชนะพูดผมก็ยิ่งโกรธตัวเองที่โง่ขนาดนั้น ยอมได้ทุกอย่างทั้งที่ไม่เคย ผมมันก็โง่แค่คิดว่าถ้าทำให้จุมดีใจ ทำให้จุมพอใจ ทำให้จุมมีความสุข ผมก็จะทำ
ไอ้โง่!
ไอ้ควาย!
แล้วเป็นไงล่ะ เขาก็สวมเขาให้มรึง!
บัดซบ!! “ กรูไม่รู้ว่าจุมทำอะไรผิดต่อมรึง แต่มรึงจะอภัยไม่ได้เชียวเหรอวะ มรึงอย่าลืมว่ามรึงรักจุม”
“ นั่นแหละที่กรูเจ็บใจ ไม่คิดว่าจะรักจุมมากขนาดนี้”
ไม่เคยคิดจริงๆว่าจะมีคนที่มีอิทธิพลกับตัวเองมากขนาดนี้
“ ไม่มากหรอกกรูว่า ไม่มากเท่ามรึงรักตัวเอง” ผมหันไปมองไอ้ชนะที่ตอนนี้จ้องผมใบหน้ามันเฉยเมยมากตอนนี้
“ เพราะถ้ามรึงรักจุมอย่างที่มรึงว่าจริง มรึงคงไม่ทำแบบนี้ มรึงคงให้อภัยจุมไปแล้ว”
“ ...............” ทำไมผมจะไม่อยากให้อภัย แต่ถ้าผมให้อภัยแล้วอะไร
ให้ไอ้แบงค์มันจะไปครองรักกันหรือไง!
แต่ผม
ผมล่ะ
ผมอยู่ไม่ได้
“ กรูกลัว”
“เชื่อเถอะว่านั่นออกจากปากมรึง”
“ กรูกลัวจริงๆชนะ” ผมบอกทั้งที่ตัวเองไม่ยอมรับแต่กลับพูดออกมาตอนนี้
“ กลัวว่ากรูจะเสียจุมไป กรูไม่รู้จะทำยังไง รักก็รัก แค้นก็แค้น กรูสับสน กรูเหนื่อย”
“ ...............” ไอ้ชนะมันนิ่ง คงอยากให้ผมพูดออกมา
“ กรูไม่รู้จะทำยังไง ...” ผมพูดไม่ออกแล้วทุกอย่างอัดอยู่ในอก จนอยากให้มันระเบิดออกมาเผื่อมันจะดีขึ้น
“ อภัย” ชนะมันพูดคำเดียว
“ กรูไม่รู้จะทำได้ไหม” ผมบอกคิดอย่างงั้นจริงๆ เพราะเคยลองหลายครั้ง แต่มันไม่สำเร็จ ผมต้องทำแต่สิ่งที่เลวร้ายกับจุมเพื่อให้ผมมั่นใจว่าจุมยังอยู่กับผม จะไม่ไปจากผม
ผมมันขี้ขลาด แล้วไง ในเมื่อมันทำให้ผมได้อยู่กับคนที่ผมรัก
“ จุมให้อภัยมรึงได้ทุกครั้ง”
“ เขาไม่ได้อภัยกรู เขากลัวกรูมรึงก็เห็น”
“ เพราะเขารักมรึงมากกว่า” รักผมเหรอ รักแล้วจูบกับไอ้แบงค์ทำไม ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว และคงไม่ใช่แค่จูบ
“ ไม่หรอก เขาไม่รักกรู”
“ มรึงก็ควายจริงๆ นั่นแหละแค่นี้ยังไม่รู้”
“ ถ้าเขารักกรูเขาคงไม่........มีชู้”
“
กับใคร ไอ้วุฒิ มรึงบ้าป่ะเนี่ยะ?!”
“ กรูไม่ได้บ้า”
“ น้องเขาจะเอาเวลาไหนไปมีชู้ มรึงประกบติดน้องเขายังกะนักโทษ ไอ้ประสาทไม่มีใครทนมรึงได้อย่างจุมหรอก ถ้าเป็นกรูสู้มรึงนานแล้ว ถ้าสู้ไม่ได้กรูหนี”
“ ..........................”
“คิดดูดีๆ คนทุกคนมีขีดจำกัด ทำตัวจากควายให้เป็นคน ก่อนที่มรึงจะไม่เหลืออะไร”
ผมนึกถึงหน้าจุม ป่านนี้ไม่รู้ตื่นหรือยัง? ไข้ขึ้นหรือเปล่า?
ตอนเย็นก็ไม่ได้กินข้าว
“ มรึงคิดว่าชาตินี้ ถ้ามรึงไม่เจอจุม มรึงคิดไหมว่ามรึงจะเป็นยังไง?”
“.... .................” ผมคิดไม่ออกเลย เพราะยังไงชีวิตผมก็ต้องมีจุม
“ ถ้ามรึงข้ามทิฐิมรึงไปได้ มรึงจะมีความสุข”
ความสุขมันคืออดีต มันไม่มีแล้ว
ไม่มี
“ กรูอยากมีความสุขกับจุม”
“ กลับไปหาจุมดิ แค่มรึงไปหาจุมกอดจุมแล้วพูดว่าขอโทษ สารภาพว่ามรึงรู้สึกยังไง จุมต้องให้อภัยมรึงแน่ และมรึงจะรู้ว่าจุมรักมรึงแค่ไหน”
ผมหันไปไอ้ชนะอีกครั้ง มันยิ้ม
“ เขาไม่อภัยกรูหรอก”
“ กรูว่าจุมให้อภัย น้องเขาไม่เคยโกรธมรึงด้วยซ้ำ”
“ .......” ผมไม่คิดแบบนั้น เพราะที่ผมทำกับจุมมันเกินกว่าจะให้อภัย
“ มรึงไม่ใช่จุมวุฒิ อย่าคิดแทน”
“ .......................................กรูอยากให้จุมยกโทษให้ กรูก็จะยกโทษให้น้องเขาเหมือนกัน”
“ มรึงอยากให้จุมยกโทษให้ มรึงก็ต้องยกโทษให้น้องเขาก่อน มันไม่เสียหลายหรอก”
“ ........................”
ผมยกโทษให้จุม .แต่ ..............หัวใจผม
“ ........ ....” ผมหันหน้ากลับมาหาแก้วเหล้า แล้วลุกขึ้นเดินออกมาเงียบๆ ไอ้ชนะมันก็ไม่เรียกผมไว้
ผมเดินออกไป เดินไปยังรถ เปิดประตูเข้าไปนั่งอยู่นาน 2 นาน
อยากกลับไป..
อยากอยู่ด้วย
แต่ก็ต้องออกมาแบบนี้เสมอ เพราะเวลาที่ความคิดมันคิดได้ว่าถูกหักหลัง อารมณ์มันก็บังตาให้ทำร้ายจุมเสมอ
แต่ที่สุดแล้วผมก็ขับรถกลับคอนโด ตลอดทางผมผ่านร้านขายก๋วยเตี๋ยว ของทอด หรือ อื่นๆข้างถนน หลายต่อหลายร้าน นึกถึงว่าจุมยังไม่กินข้าว แล้วคิดว่าจะซื้อไปให้จุมดีไหมไอ้อาหารพวกนี้
สะอาดหรือเปล่าก็ไม่รู้
ที่ผมคิดแบบนี้อาจจะเป็นเพราะจุมเคยชวนผมกินหลายครั้งก็ได้ แต่เรา 2 คนไม่เคยกินด้วยกันเลย
ผมจอดรถริมฟุตบาท ขวามือเข้าไปร้านเย็นตาโฟที่มีคนนั่งเต็มทุกโต๊ะ
“ .................”
จุมยังไม่ได้กินข้าวซื้อไปให้ก็ได้ เพราะจำได้ว่าจุมชอบกินเย็นตาโฟ
ผมเปิดประตูรถออกไปแล้วเดินไปยังรถเข็นที่พ่อค้าลวกเส้นมือเป็นระวิง
“เอาเย็นตาโฟ 1 ถุง” ผมบอก
“เส้นอะไร?” พ่อค้าถาม ผมบอกเอาเส้นเล็กตามที่เคยเห็นจุมกินตอนไปกินด้วยกันที่ร้าน
พ่อค้าลวกเส้นใส่จาน ใส่ถุงไป 4 ชาม 2 ถุง แล้วถึงเป็นของผม
“ 30” พ่อค้าบอก ผมเปิดกระเป๋าเอาแบงค์ร้อยให้ แล้วพ่อค้าก็ทอนแบงค์ 20 กับ 50 ยับๆมาให้
ผมมองแบงค์ในมือ
เงินทอน 70 บาท...
“ .....................” ผมยัดเงินใส่กระเป๋ากางเกงไม่ได้เอาใส่กระเป๋าเงิน
แล้วกลับ............................................
ผมหิ้วถุงเย็นตาโฟยืนอยู่หน้าห้อง คิดว่าจะเคาะประตูให้จุมมาเปิดดีไหม หรือ .......
แต่พอผมจับบานประตูมันเลื่อนเปิดทันที?!
ประตูปิดไม่สนิท แต่จำได้ว่าก่อนไปล็อคเรียบร้อย ผมขมวดคิ้วด้วยความสงสัยก่อนที่จะกลายเป็นไม่พอใจ ที่คิดว่าคนที่เปิดประตูนี้ไม่มีใครนอกจากจุม
ทั้งที่บอกไม่ให้ออกไปไหน!?
ผมผลักประตูเข้าไป แล้วเดินไปห้องจุมที่เปิดแง้มไว้ ผลักเข้าไป มองซ้ายมองขวาไม่เห็น ผมเดินไปเปิดประตูห้องน้ำที่ปิดอยู่
“จุม!?” ไม่มี
หรือว่าจะอยู่ห้องผม
ผมเดินไปห้องผมก็ไม่มี ในห้องน้ำทั้งด้านในและด้านนอกก็ไม่มี
“......................”
ไปไหน!? หรือเห็นว่าผมออกไปข้างนอกก็เลยออกไปที่ไหน คงไม่คิดว่าผมจะกลับมาเร็ว
อย่าให้รู้..
บางอย่างสะดุ้ดความคิดผม เมื่อกี้เหมือนผมเห็นอะไรบนหมอน
ผมรีบเข้าไปดู สร้อยและแหวนวางอยู่ ผมคว้ามันมากำไว้
บางอย่าง.......................
เท้าผมวิ่งออกจากห้องตัวเอง เข้าห้องจุม ผมเปิดตู้เสื้อผ้า
“ ...................!?” เสื้อผ้าจุมทุกตัวถูกพับเก็บเรียบร้อย และคิดว่ามีบางตัวหายไป
ผมใจหาย
อย่าบอกว่าจุมหนีผมไป
หรือว่าจะกลับบ้าน
** ** ** **
กดๆดันๆเจ้าหญิงมากๆ
ปล.คำผิดขอบคุณท่านกระต่ายชมจันทร์ ท่านYMP และท่านltahset
ปล.2 ท่านChaeไม่เห็นไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ขอบคุณที่ช่วยดูให้เน้อ