
บุพเพวายร้าย
59.
‘ ถ้าไม่เชื่อที่พี่พูด ถามมันดิว่าได้ส่งคนมาซ้อมชิดหรือเปล่า?’ คำพูดพี่อิงมันติดหูผม
ใจผมเชื่ออยู่แล้วว่าพี่วุฒิไม่ได้ทำแน่นอน ความเป็นไปได้ไม่มีเลย แต่ก็สลัดคำพูดพี่อิงออกจากหัวไม่ได้
“ มีอะไรหรือเปล่า?” พี่วุฒิถาม เพราะตั้งแต่อยู่ในรถจนจะถึงบ้าน ผมยังไม่ได้พูดสักคำ
ถ้าเรารักใครสักคนเราต้องเชื่อใจ..
“ พี่จำชิดได้ไหมครับ เขาเป็นคนที่ผมไปเยี่ยมวันนี้ พี่น่าจะเคยเห็นชิดครั้งหรือ 2 ครั้ง” ผมถามหันไปมองใบหน้าด้านข้างพี่วุฒิ
“ คนที่คิ้วเข้มๆ สูงกว่าจุมนิดหน่อยใช่ไหม?”
“ครับ” สีหน้า น้ำเสียงพี่วุฒิไม่มีอะไรบอกว่าพี่วุฒิไม่ชอบชิด
“ครับ ชิดโดนซ้อมเมื่อวาน” ผมบอกยังคงจ้องหน้าข้างพี่วุฒิ ตั้งใจจับผิดทั้งที่พี่วุฒิรักผม เป็นคนที่ผมรัก
“ .................” ผมกลัวเหลือเกินว่าพี่วุฒิจะบอกว่า ‘พี่เป็นคนสั่งให้คนไปซ้อมเอง’ มือผมที่ถือสมุดโน๊ตจึงกำแน่น
“เหรอ” พี่วุฒิยังคงขับรถไปเรื่อย จนถึงบ้าน พี่วุฒิยังคงเป็นปกติ..
ผมว่าพี่วุฒิไม่ได้ทำหรอกครับ ทำไมผมจะต้องไประแวงพี่วุฒิเพราะคำพูดของคนที่เพิ่งคุยกันเป็นครั้งแรก ในเมื่อพี่วุฒิอยู่กับผมทุกวัน พี่เขาเป็นคนยังไงผมก็พอรู้
คิดได้อย่างงั้นผมก็สบายใจครับ
“ ขอโทษนะครับ” ผมบอก คล้องแขนพี่วุฒิกำลังเดินเข้าบ้านกับผม
“ ขอโทษอะไร?” พี่วุฒิเอามือลูบหัวของผมไปมา
“ก็อยากขอโทษ” ผมบอกยิ้มแป้น เมื่อพี่วุฒิมองหน้าสงสัย
“ เดี๋ยวปล้ำซะเลยนิ ดูทำหน้า”
” ถ้าปล้ำจะฟ้องแม่” ผมแกล้งพูดแก้เขิน
“ เอาดิ ฟ้องพี่ก็ไม่กลัว”
“ พี่อ่ะ”
“ ทำไม”
“ พี่ลืมปิดประตู” ผมบอกเดินกลับไปปิดประตูที่พวกผมเพิ่งเดินเข้ามา เลยได้รู้ว่าสมุดโน้ตที่ตัวเองถือตอนอยู่ในรถไม่ได้ถือมาด้วย
“ พี่ครับ ผมขอกุญแจไปเอาสมุดหน่อย ผมลืม” ผมบอกพี่วุฒิ
“ เดี๋ยวพี่ไปเอาให้”
“ ผมไปเอาเองดีกว่าครับ” ผมบอก พี่วุฒิก็ยื่นกุญแจให้ ผมก็ออกมานอกบ้าน นอกรั้ว เดินไปรถพี่วุฒิที่จอดอยู่ ..แล้วเปิดประตูรถฝั่งที่ผมนั่ง บนเบาะก็ไม่มีครับ หรือว่าจะอยู่ข้างล่าง ผมก้มลงไปดูเห็นสมุดโน้ต และกระดาษสีขาว ผมเลยหยิบขึ้นมาทั้ง 2 อย่าง ไม่รู้ว่าของพี่วุฒิหรือของผม
ผมหยิบขึ้นมา พลิกกระดาษที่ว่า....
นี่มัน......มืออีกข้างที่ถือสมุดไม่มีความรู้สึกเหมือนกระแสไฟฟ้าช็อตเบาๆและรวดเร็วที่นิ้วมือเหมือนข้างที่ถือ..
รูปชิด!? เป็นรูปถ่ายขนาดโปสเตอร์ที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวแน่นอน.....แอบถ่าย!!!???
“ ...............................” มือผมที่จับรูปสั่น คำพูดจุกที่คอ ..
มันเป็นแค่เรื่องบังเอิญ บอกตัวเอง แต่พี่วุฒิมีรูปชิดได้ยังไง!?
‘ ถ้าไม่เชื่อที่พี่พูด ถามมันดิว่าได้ส่งคนมาซ้อมชิดหรือเปล่า?’ คำพูดพี่อิงดังขึ้นมาอีกครั้ง
เป็นพี่วุฒิจริงๆ ...ไม่ใช่หรอก ต้องถามพี่วุฒิดูก่อน พี่วุฒิต้องมีเหตุผลที่มีรูปชิดแน่ๆ
ผมหันกลับเข้าไปในบ้าน เรี่ยวแรงมันหายไปแล้วบางส่วน
“ จุมอะไรเปล่า ช้า....” พี่วุฒิเดินออกว่า ก่อนที่สายตาพี่เขาจะมองต่ำมายังรูปที่ผมถืออยู่
“ .................” ผมหันหน้าไปไม่ได้พูด แต่หน้าผมที่มองพี่วุฒิเป็นคำถามดีอยู่แล้ว
พี่วุฒิเดินมาหาผมแล้วดึงรูปออกจากมือผม
“ เข้าบ้าน” พี่เขาบอกพร้อมจับมือผม แต่ผมดึงมือตัวเองกลับมา
“ จุม?!”
“ ทำไม ถึงมีรูปชิดในรถพี่”
“ .....................” พี่วุฒิยังไม่ตอบ ผมเลยพูดต่อ
“ พี่เป็นคนหรือเปล่าครับ? พี่ไม่ได้ให้คนไปซ้อมชิดใช่ไหมครับ!?” บอกผมว่าพี่ไม่ได้ทำ
“ เปล่า....................”
“ พี่ไม่ได้โกหกใช่ไหมครับ?” ผมเอามือจับแขนพี่วุฒิเขย่าแต่มันไม่แรงเลย ....
” แล้วจะเชื่อพี่ไหม?”
“ เชื่อครับ ผมอยากเชื่อพี่” พี่วุฒิจ้องหน้าผม
“ พี่ทำ” มือที่ผมจับแขนพี่วุฒิ ร่วงหล่น
“ ......................”
“ มันชอบจุม พี่ดูออก”
“ แค่นั้นหรือครับ ที่พี่ให้คนไปซ้อมชิด!”
“ แค่นี้ก็เพียงพอ”
“ ชิดชอบผมแล้วไง! ผมไม่ได้ชอบชิดเพราะมันไม่ประโยชน์ ผมรักพี่พี่ก็รู้!”
“ แล้วไง!?”
“ ..............................”
“ เข้าบ้าน” พี่วุฒิบอกจับต้นแขนผมแล้วดึงให้เดินตามพี่เขา
“ พี่บ้าไปแล้ว!?” ผมบอกเอากำปั้นตีตัวพี่วุฒิเท่าที่จะทำได้
“ บ้าแล้วไง!”
“ พี่ไม่มีเหตุผล”
“ พี่เคยบอกแล้วพี่คือเหตุผล” พูดพร้อมลากผมให้ตามไป
“ ปล่อยครับ” ควับ!พี่วุฒิหันกลับมา
“ พี่พยายามใจเย็นอย่าทำให้พี่ต้องทำในสิ่งที่พี่ไม่อยากทำ”
“ ปล่อยครับ!” ผมบอกแกะมือพี่วุฒิออก
“ ไม่ปล่อย!!” พี่วุฒิบอกก้มลงช้อนตัวตัวขึ้นมาอุ้ม
“ พี่ครับ ปล่อย ปล่อย!!” ผมร้องดิ้นๆ
“ อย่าดิ้นไม่งั้นพี่จะปล้ำจุม
ตรงนี้!” พี่วุฒิสีหน้าว่าทำจริงแน่ ผมหันไปมองซ้ายขวา จะปล้ำหน้าบ้านจริงๆหรือครับ
“ ไม่ต้องมาหลับตาปริบๆให้พี่สงสาร!” “ ..............” ผมนิ่งก้มหน้าลง ไม่ดิ้นแล้วด้วย กลัวโดนปล้ำจริงๆ คงจะโดนปล้ำจริงๆถ้าผมไม่ยอมสงบลง
“ .................” พี่วุฒิยังคงก้มมองผม ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นอุ้มผมเข้าบ้าน
เข้าบ้านได้ก็อุ้มพาขึ้นบันไดเลย
“ เรื่องชิด........” พี่วุฒิพูดขึ้นมาก่อน ระหว่างก้าวขึ้นบันได
“ ..................” ผมยังเงียบอยู่
“ มันบอกว่าชอบจุม ทั้งที่รู้ว่าจุมมีแฟนแล้ว และมันยังบอกอีกว่ายังงี้ใครดีใครได้!”
“ พี่ถามชิดหรือครับ?” ผมถาม พี่วุฒิเอามือเปิดประตูแบบทุลักทุเล เพราะไม่ยอมปล่อยผมลง
“ เปล่า พี่ฝากพวกนั้นถาม” พวกนั้นคงหมายถึงพวกที่รุมชิด แล้วทำไมชิดไม่บอกผม
...ว่าชิดรู้ว่าเป็นเพราะอะไรตัวเองถึงได้โดนรุมซ้อม แต่กลับบอกว่าไม่รู้หรืออาจจะเป็นการซ้อมผิดตัว...
“ แต่ถึงจะเป็นอย่างงั้น พี่ก็ไม่มีสิทธิ์ไปทำร้ายชิด” ผมบอกดิ้นไม่ยอม พี่วุฒิเลยยอมปล่อยผม
“ แต่พี่เป็นผัวจุม พี่มีสิทธิ์ที่จะไม่ให้มันมายุ่งกับจุม!”
“ เรา 2 คนเป็นเพื่อนกัน”
“ ตอนนี้ก็เพื่อน อีกหน่อยใครจะไปรู้”
“ พี่ครับ!?” ผมเสียงดังขึ้น เพราะการพูดแบบนี้เหมือนพี่วุฒิไม่เชื่อใจผมเลย
“ ก็มันจริง”
“ นี่พี่ไม่เคยเชื่อใจผมเลยหรือครับ?” ผมถามน้อยใจมาก น้อยใจจนน้ำตามันไหลออกมา
“ นี่ที่จุมกำลังคาดคั้นพี่ เพราะพี่ไปทำเพื่อนคนสำคัญใช่ไหม?!”
“ เพราะผมไม่เข้าใจพี่ต่างหากครับ!”
“ ......................” พี่วุฒิไม่พูดแต่พยายามมาจับตัวผม ผมถอยหนีเอามือปัดออก
“ พี่คิดว่าถ้ามีคนชอบผม แล้วผมก็ต้องชอบคนนั้นเหรอครับ ถ้างั้นผมก็ต้องชอบต้องรักพี่แบงค์ ที่ทั้งดีกับผมสิครับ!! ฮือๆ” พูดแล้วก็ร้องไห้เสียงดัง
“ จุม”
“ ไม่ต้องมาแตะตัวผม! ฮือๆ ” ผมบอกหันหลังให้พี่วุฒิ ยิ่งทำแบบนั้นก็ยิ่งร้องไห้ ทำไมพี่วุฒิไม่ยอมเชื่อใจ ไม่ยอมเข้าใจจนชิดที่เจ็บตัวเพราะผม
“ จุม พี่..” หมับ พี่วุฒิกอดผมจากด้านหลัง
“ ปล่อยครับ!” ผมบอกเสียงเข้ม แกะมือแกะแขนพี่วุฒิออก
“ จุม อย่าร้องไห้เลยนะ พี่ขอโทษ” พี่วุฒิเอาเอาคางหนักๆวางบนไหล่ผม
“ ฮือๆ” ผมร้องไห้ต่อ ไม่รู้จะทำยังไง พี่วุฒิผิดเต็มประตู แต่พอถูกอ้อน ถูกพูดดีเข้าหน่อยผมก็เริ่มใจอ่อน
“ นะจุม พี่ขอโทษ”
“ แล้วเรื่องชิด พี่จะเอายังไง?” ผมถาม
“ ก็ให้มันผ่านไป”
“ พรุ่งนี้ให้ผมไปเยี่ยมชิดนะครับ” ผมบอก เพราะยังไงผมก็เป็นต้นเหตุ
ทำไมผมถึงได้เป็นต้นเหตุอีกแล้ว ทั้งเรื่องพี่แบงค์ เรื่องชิด
” ไม่ได้!?”
“ ทำไมละครับ ผมเป็นต้นเหตุให้ชิดเจ็บตัว แล้วทำไมพี่ถึงไม่ให้ผมไป” ผมหันกลับไปหาพี่วุฒิ
“รู้ว่ามันชอบยังจะไปหามันอีก!”
“ ถึงชิดเขาจะชอบผม แค่เราเป็นเพื่อนกัน และผมไม่ได้คิดอะไรกับชิด พี่เข้าใจหน่อยสิครับ” ผมบอก
“ ....................เดี๋ยวพี่ไปด้วย” ผมมองหน้าพี่วุฒิ สงสัย
“ พี่จะไปด้วยหรือครับ?”
“ พี่จะไปด้วย” พี่วุฒิบอกอีก ผมก็ว่าดีครับ พี่วุฒิจะได้ไปดูสภาพชิดด้วยว่าคนที่ส่งหนักมือไปหรือเปล่า ไปดูให้เห็นกับตาว่าชิดมีสภาพยังไง
“ งั้นเดี๋ยวผมโทรบอกชิด”
“ ไม่ต้อง!” พี่วุฒิบอกดึงแขนผมให้หันไปชนตัวพี่เขา
ผลั่ก! “ ไปก็รู้เอง” พูดจบก็จูบปากผมครับ?!
ผมส่งเสียงประท้วงในลำคอ แต่พี่วุฒิยิ่งบดแรงลงมา ผมเอามือตีไหล่พี่วุฒิบอกให้หยุด แต่แขนผมทั้ง2 ข้างโดนจับแน่น ผมเดินถอยหลังเพราะพี่วุฒิเบียดและจงใจเดินต้อนผม
ตุบ! ผมนอนลงไปกับเตียงเพราะพี่วุฒิผลักลงไป ก่อนที่จะกดมือผมกับเตียงอย่างมั่นคง
“ นี่พี่จะทำอะไร?!” ผมถามแต่พอรู้ พี่วุฒิก้มหน้าลงมา ผมหันหน้าหนี พี่วุฒิหยุดนิ่งสัมผัสถึงลมหายใจพี่วุฒิที่รดผ่านแก้ม
“ รู้แล้วยังจะถาม”
“ ไม่นะครับ ไม่ใช่ตอนนี้” ผมบอกรู้สึกกลัวขึ้นมา
“ แต่พี่จะเอาตอนนี้” พี่วุฒิบอกก้มลงอีก ซุกไซร์จมูกกับคอของผม
ผมขยับหน้าหนี แต่ครั้งนี้พี่วุฒิไม่สน
“ นี่พี่จะทำทั้งที่ผมไม่ยอมหรือครับ” ผมบอกหัวใจเต้นเร็ว(กลัวแล้ว)
“ แล้วจะยอมไหม?” พี่วุฒิถาม เสียงยังคงเป็นปกติ
“ ..................” ผมไม่ตอบหลับตาลง ให้น้ำตาไหลอาบแก้ม
“ จุม”
“ ผมมีค่ากับพี่แค่ไหนครับ?” ผมลืมตาขึ้นในที่สุด
“ ที่พี่ทำไป ก็เพราะพี่รักจุม”
“ ถึงกับต้องทำร้ายคนอื่นเลยหรือครับ?” ผมถาม
“ คนบางคนพูดดีไม่เข้าใจ”
“ พี่ก็ด้วยครับ พูดยังไงก็ไม่เข้าใจ”
“ นั่นสิ พี่มันต้องพูดด้วยร่างกาย...” พี่วุฒิจ้องตากับผมอยู่นาน จนผมเป็นฝ่ายหลับตาลง พี่เขาถึงได้จูบแก้มผม จูบปากผม...และมากขึ้นเรื่อยๆ
.
.
เช้าแล้ว สายแล้ว แม่คงไปทำงานแล้วด้วย แต่ผมยังนอนอยู่บนเตียง เสียใจในสิ่งที่พี่วุฒิทำ ทั้งเรื่องชิดและกับตัวผม
แกร๊ก!?
พี่วุฒิเปิดประตูเข้ามา ผมเช็ดน้ำตา
“ จุม ลงไปกินข้าว” พี่วุฒิคงสังเกตเห็นว่าผมร้องไห้ แต่ไม่ได้พูดถึง พี่เขานั่งข้างตัวผมบนเตียง
“ .......................”
“ 9 โมงแล้วนะ จุมพูดเองไม่ใช่หรือไง ว่าถ้ากินข้าวไม่ตรงเวลาจะเป็นโรคกระเพาะ”
“ ................” เมื่อคืน........ตอนนี้ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ เดี๋ยวพี่ไปเอามาให้นะ” พี่วุฒิบอก ผมยังคงไม่ตอบ ไม่ใช่โกรธแต่น้อยใจ ทั้งที่ผมไม่ยอมแต่พี่เขาก็ทำ ...ผมมีความหมายแค่ไหนกัน?!
ทุกอย่างที่พี่เขาทำให้ผม มันเชื่อได้แค่ไหน?
ผมมองพี่วุฒิที่เดินเปิดประตูออกไป
แล้วลุกขึ้น เจ็บเนื้อเจ็บตัวเล็กน้อยครับ
“ .................” ผมเดินเข้าไปห้องน้ำ
พอเดินออกมาพี่วุฒิก็ยกถาดอาหารมารอแล้ว
“ มีไข่ตุ่นของโปรดจุมด้วยนะ” พี่วุฒิบอกใบหน้าแต้มยิ้ม เดินมาหาผมที่ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูห้องน้ำ
“ จุมไปกินข้าวเถอะนะ จะงอนพี่ก็อย่าทรมานตัวเอง” พี่วุฒิบอกประครองผม ทั้งที่ไม่จำเป็น ร่างกายผมไม่ได้เป็นอะไร
“...................”
“ พี่ป้อน”
ตอนผมกินข้าวก็ป้อนผมครับ กินอิ่มก็เช็ดปากให้
“ อิ่มแล้ว จะไปไหมโรง-บาล?” พี่วุฒิถามแต่น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นกระด้างเล็กน้อย
“ ไปครับ” ผมบอกทั้งที่รู้ว่าพี่วุฒิไม่ชอบ
“ จุม!?”
“ อยากจะให้พี่เอามันให้ตายจริงๆใช่ไหม!”
“ ผมเป็นต้นเหตุ ผมต้องไปครับ”
“ ก็ได้ ไปก็ไป!” พี่วุฒิบอกเสียงไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
“ รีบแต่งตัวแล้วลงมาพี่จะรอในรถ” พี่วุฒิบอกยกถาดอาหารออกไป
ผมเปลี่ยนกางเกงเป็นยีนแล้วใส่เชิ้ตลายตารางทับเสื้อยืดสีขาว
ผมเดินลงบันไดมาปิดประตูบ้าน ปิดประตูรั้วเรียบร้อยเข้าไปนั่งในรถ แล้วพี่วุฒิก็ขับออกไปจนตัวผมแทบกระชาก
ตลอดทางก็ขับรถเร็วมาก ถึงผมจะกลัวแต่ก็ไม่พูด จนพี่วุฒิเป็นคนพูดขึ้นมาก่อน ตอนเลี้ยวเข้าโรง-บาล
“ เดี๋ยวพี่เข้าไปด้วย”
“ ..................” เข้าไปดูเลยว่าพี่ทำอะไรกับชิดบ้าง
พี่วุฒิตามผมเข้าไปในห้องชิด...
“ ไอ้....!” (พี่อิง)
“มรึงมาทำไม หรือว่ามาดูผลงานว่าน้องกรูตายหรือยัง!?” พี่อิงพูดเดินมาหาผมและพี่วุฒิ
“ แต่ยังไม่ตายนี่หว่า” พี่วุฒิตอบหันไปมองชิดที่นั่งอยู่บนเตียง(ก่อนที่ผมจะมาชิดน่าจะกำลังดูโทรทัศน์)
“ น้องกรูไม่ตายแต่มรึงจะตายแทน!” พี่อิงเดินเข้ามา ผมเอาตัวเข้าไปขวางไว้แต่พี่อิงก็ผลักไหล่ผมครับ พี่เขาหน้าเสียเล็กน้อยคงยั้งมือไว้ไม่ทัน
“ วอนตรีนมากนะมรึงกล้าทำเมียกรู!”“ เชื่อเถอะว่ามรึงบังคับน้องเขา เขาไม่ได้อยากเป็นเมียมรึงสักเท่าไร!”“ สัด!!” เป็นพี่วุฒิที่กระโจนใส่พี่อิง ผมต้องเอามือดันตัวพี่วุฒิไว้
“ กรูว่ามรึงกับกรูมันต้อง…!!” (พี่วุฒิ)
“ พี่ครับ พอเถอะ นี่มันโรง-บาลนะครับ!” ผมบอกพี่วุฒิและพี่อิงที่เหมือนจะกระโจนเข้าหากันตลอดเวลา
“
พี่จะกระทืบมัน!”(พี่วุฒิ)
“ พี่ครับ?!” ผมพูดเสียงดัง พี่วุฒิเลยเบาแรงลง
“ ผมขอให้ผมได้อยู่กับชิด 2 คน” ผมบอกหันไปมองทั้งพี่วุฒิ และพี่อิงที่จ้องกันและกันไม่มีใครลดราวาศอก
“ พี่ไม่ให้มันอยู่กับจุม 2 คน”
“ ชิดเป็นเพื่อนผม!”
“ ยังไงก็ไม่ได้!”“ ถ้าไม่ได้แล้วผมจะมาที่นี่ทำไม!”“ มีอะไรปิดปังพี่ ถึงไม่ให้พี่อยู่ด้วย”
“ พี่ครับ ผมขอร้อง” ผมบอกเหนื่อยเต็มที่
“ .....................” พี่วุฒิจ้องใบหน้าที่ขอบตาเริ่มปริ่มๆน้ำตาของผม ผมเอามือเช็ดก่อนที่มันจะไหลลงมา
“ ก็ได้ พี่จะรออยู่หน้าห้อง” พี่วุฒิบอก ผมเลยหันไปหาพี่อิงบ้าง ในที่สุดก็ออกไปนอกห้องทั้ง 2 คน
“ ชิด” ผมเดินไปหาชิด แล้วหยุดเมื่อตัวชนกับขอบเตียง
“ ขอโทษนะที่ทำให้เป็นแบบนี้” ผมบอกมองแขนเข้าเฝือกของชิด ทั้งใบหน้าที่ยังบวมอยู่มาก
“ ช่างเถอะ” ชิดบอก ยิ้มครับ
“ ทำไมชิดไม่บอกเราว่า เพราะอะไรถึงได้โดนซ้อม”
“ ไม่อยากให้จุมลำบากใจ และก็พวกจักรอยู่ด้วย พวกนั้นเด็กจะตายไม่เข้าใจหรอก จุมก็เห็น..”
“ ขอโทษ”
“ มันไม่ใช่ความผิดของจุม เราเองก็บ้าด้วยแหละ ที่ตอบพวกนั้นไปแบบนั้น ‘…ว่าใครดีใครได้’ ทั้งที่ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดแบบนั้น แต่อยากพูดกวน” ผมมองหน้าชิดไม่รู้ว่าชิดพูดจริงหรือเปล่า หรือแค่ให้ผมสบายใจ
“ชิด”
“ ไม่ต้องกังวล รู้สึกผิดอะไร เราไม่คิดมากหรอก แบบนี้สิชีวิตมันถึงจะมีรสชาติ” ชิดบอกยิ้มอีกตามเคย ยิ้มอยู่ได้ไม่เจ็บแผลหรือไงนะ...
“ ไม่รู้สึกผิดได้ไง เป็นต้นเหตุให้เพื่อนโดนซ้อมจนแขนหัก เข้าโรงบาลแบบนี้”
“ ปากหมาพาซวยก็งี้แหละ แต่ที่บอกว่าชอบจุมอันนี้จริง” พูดแล้วยิ้มจนเห็นฟันสีขาวเรียงเป็นระเบียบจนครบแทบทุกซี่
“ จริงก็ได้ .. เชื่อ” ผมตอบยิ้มบ้าง เพราะรู้ว่าชิดพูดเล่นให้ผมสบายใจ
“ ว่าแต่ว่าบอกแนวข้อสอบหน่อยดิ ไปสอบที่หลังจะได้ไปเขียนๆออกมาเลย”
“ ไม่บอกหรอก เพราะยังไงชิดก็เก่งอยู่แล้ว”
ผมแซว ไม่แปลกใจที่ชิดไม่ถามเรื่องผมกับพี่วุฒิเลย คงเพราะเหตุการณ์เมื่อกี้มันบอกทุกอย่างดีอยู่แล้ว รู้ก็ไม่จำเป็นต้องถาม นี่สิเพื่อน
“ ก็ไม่แน่ ...”
พวกผมคุยกันหลายเรื่องแต่ไม่ยักเกี่ยวกับเรื่องที่ชิดโดนซ้อมเป็นเรื่องทั่วไปมากกว่า เรื่องการเรียน เรื่องเพื่อน เรื่องปิดเทอมอยากทำอะไร ไปที่ยวไหน เรียนต่อมอไหนดี? (การสอบนี้เทอมหนึ่ง)
ได้คุยกับชิดแล้วสบายใจขึ้นครับ
แกร๊ก!? ประตูเปิดเข้ามา พี่วุฒิเดินเข้ามาทั้งที่ผ่านไปไม่ถึง 20 นาที
“ กลับยัง?” พี่วุฒิถาม ผมเลยหันไปบอกชิดว่าจะกลับแล้ว และถามชิดว่าจะออกจากโรงบาลวันไหน ชิดบอกว่าอย่างน้อยอาทิตย์หนึ่ง ผมเลยบอกว่าไว้มาเยี่ยมใหม่ คราวหน้าจะเอาของเยี่ยมมาให้ด้วยแต่วันนี้รีบเลยไม่ได้เอาอะไรมาให้
พูดได้แค่นั้นพี่วุฒิก็ดึงมือลากผมออกมา
ผมไม่ว่าอะไรจนเมื่อออกมานอกห้องแล้ว
“ พี่ครับ ผมเจ็บ!” ผมบอกพี่วุฒิเลยปล่อยมือ
“ เมื่อกี้ ทำประชดพี่ใช่ไหม!?”
“ อะไรนะครับ?” ผมคิด เมื่อกี้ ....
“ ไม่ใช่ครับ ไม่มีการประชดะไรทั้งนั้นผมกับชิดเป็นเพื่อนกัน” ผมย้ำ
“ แล้วมันคิดกับจุมเป็นเพื่อนไหม?!”
“ พี่ครับ!? ชิดกับผมเราเป็นเพื่อนกัน! และที่พี่ไปทำชิด ชิดก็ไม่ได้คิดจะเอาเรื่องพี่ด้วย” ผมบอกเดินหนีมารอลิฟท์ก่อน
“ จุม” พี่วุฒิว่าเดินตาม
“ เห็นหรือยังครับ ว่าชิดเป็นเพื่อนผม ...”
“ ..............”
“ พี่จะมาหวงผมตอนนี้ แต่เมื่อผมไปโรงเรียนผมก็ต้องเจอชิดอยู่ดี”
กิ๊ง!?(ลิฟท์เปิดออกพวกผมก้าวเข้าไปในลิฟท์ที่มีคนอยู่ก่อนแล้ว 3 คน เป็นผู้ชายทั้งหมด)
“ .............................” สายตาผมจับจ้องไฟที่กระพริบตามหมายเลขชั้นที่ลดลงเรื่อยๆ
“ ขอโทษ” พี่วุฒิที่ยืนข้างหลังผมบอกเบาๆ
ขอโทษ แล้วรู้สึกไหมว่าตัวเองผิด
ผมยังไม่พูดครับ เพราะไม่รู้จะพูดอะไร เดินออกมาทันทีหลังจากประตูลิฟท์เปิด
เห็นพี่วุฒิทำหน้าเศร้า ผมก็สงสารแต่ก็พยายามใจแข็งเพราะอยากให้พี่เขารู้ว่าสิ่งที่พี่เขามันผิด และผิดมาก ที่อยากจะทำร้ายใครก็ทำ
“ จุม” พี่วุฒิดึงแขนผมให้หันกลับไป ตอนนี้ข้างนอกแดดร้อนมากครับ(ไม่มีที่จอดรถต้องเอามาจอดด้านข้างของตึก แทนที่จอดรถตามปกติ)
“ พี่ขอโทษแล้วไง” พี่วุฒิบอก หรี่ตาลงเล็กน้อยเหมือนผมเพราะแดดร้อนมาก
“ พี่ผิดอะไรที่ต้องขอโทษผมครับ?”
“ พี่ทำให้จุมไม่พอใจ”
“ ไม่ใช่ครับ ที่พี่ไม่ขอโทษไม่ใช่ทำให้ผมไม่พอใจ” ผมบอก หันหน้าหนีไปอีกทางไม่อยากมองหน้าพี่วุฒิเดี๋ยวใจอ่อนอีก
“ เรื่องเมื่อคืนที่พี่ทำทั้งจุมไม่ยอม”
“ ยังมีอีกครับ?”
“อะไร?”
“ พี่ทำร้ายชิด”
“ สมควรมายุ่งกับเมียชาวบ้าน”
“ พี่ครับ!?”
“ ก็มันจริง” ผมสลัดมือออกเดินลิ่วไปหารถที่จอดอยู่
“ จุม จุม” พี่วุฒิวิ่งตาม
“ เปิดประตูครับ” ผมบอกพี่วุฒิทำตามผมเปิดประตูเข้าไปตามด้วยพี่วุฒิ
“ พี่คิดไหมครับ ว่าวันหนึ่งผมไปเดินเล่นอยู่ผมก็โดนตีหัวจนหัวแตก ผมจะเจ็บไหม และพี่ และแม่จะรู้สึกยังไง” ผมถาม
“ พี่ก็เจ็บไปกับจุมด้วย และหาสืบดูให้ได้ว่ามันเป็นใคร พี่จะช้อมมันให้ปางตายดีไหม?”
“ แต่ผมไม่ให้พี่ทำร้ายเขา เพราะคนที่ทำคือเพื่อนผม” (พี่วุฒิขับรถออกมาจากโรงบาลแล้ว)
“ แต่มันทำจุม!?”
“ พีทำชิด แต่ชิดเขาก็ไม่ทำพี่คืน ทั้งที่เขาไม่ผิด ซ้ำยังเจ็บตัวฟรี เพราะคนที่ไม่มีเหตุผล!” ผมบอก พี่วุฒิเงียบไป ครู่ใหญ่ๆก่อนที่พูดขึ้นว่า
“ พี่หึง!” ผมหันไป
“ หึงแล้วต้องทำร้ายคนอื่นหรือครับ?”
“ ก็มันชอบจุม”
“ …………” พูดไม่รู้เรื่องจริงๆด้วย
“ พี่ผิดก็ได้ ที่ไปทำเพื่อนจุม” ว่าจะไม่รู้เรื่องแต่รู้เรื่องบ้างครับ
“ แล้วไงอีกครับ”
“ พี่ผิด ขอโทษ” คำว่าขอโทษนั้น พี่วุฒิควรจะพูดกับชิดมากกว่า แต่พี่วุฒิคงไม่มีทางทำแบบนั้นแน่นอน
“ พี่ผิดแล้วพี่จะได้รับโทษอะไร?”
“ พี่ก็ขอโทษแล้วไง รู้ไหมคำว่าขอโทษมันพูดยากแค่ไหน?”
“ ...............” ผมหันไปมองออกไปนอกหน้าต่าง ได้เท่านี้ควรจะดีใจใช่หรือเปล่า แต่ว่าคนเราก็ไม่ได้ต่างกันมากไม่ใช่หรือเจ็บปวดเหมือนกัน มีความสุขเหมือนกัน...
“ ขอโทษ” พี่วุฒิพูดเสียงเบา ผมหันกลับไป จ้องมองใบหน้าด้านข้างของพี่วุฒิ ...
“ จะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกใช่ไหมครับ?” ผมถาม พร้อมที่จะเชื่อที่พี่วุฒิพูด
“ พี่จะพยายาม”
“ พี่ครับ ..” ผมอยากให้พี่วุฒิพูดว่าจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้อีก ทั้งเรื่องชิด เรื่องที่ชอบใช้กำลังไปทั่ว อย่างเรื่องที่ผับวันนั้นก็ด้วย
“ พี่จะพยายาม” พี่วุฒิพูดอีกแต่คราวนี้น้ำเสียงหนักแน่นมาก
“ มีอะไร สงสัยถามผมก่อนนะครับ อย่าคิดเองเออเอง” ผมบอกเชื่อพี่วุฒิเพราะใจมันบอกอย่างงั้น
“ พี่จะถามจุม ..”
“ครับ” ผมว่า แม้ว่าจะยังมีความรู้สึกผิดต่อชิด แต่ถ้าพี่วุฒิรู้สึกผิดจริงๆมันก็ช่วยไม่ได้ที่ผมจะใจอ่อนอีกครั้ง
แต่เรื่องชิดผมรับผิดเอง พรุ่งนี้ผมลงมาทำกับข้าวไปฝากชิดดีกว่า (มาช่วยแม่มากกว่า)
“ ไปไหนต่อ?” พี่วุฒิหันมาถามก่อนที่หันไปขับรถต่อ
“ กลับบ้านผมต้องไปอ่านหนังสือ วันจันทร์ผมยังมีสอบอีกครับ” ผมบอกแต่คิดว่าพี่วุฒิทราบอยู่แล้ว เพราะวันก่อนเห็นมองตารางสอบผมอยู่นาน
“ ก็ดี เราจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกัน 2 คน” พี่วุฒิว่าอารมณ์ดีขึ้นผิดจากเมื่อกี้
“ .............................”
** ** ** ** **
เอาโพลออก เดี๋ยวจะเข้าเจ้าหญิงเอง ฮา
ปล.ที่ว่าโค้งสุดท้ายแต่สนามมันกว้างเน้อ
เห็นรูปนี้ไร คิดถึงน้องจุมทู๊กที ถึงแม้วจะไม่ใช่ตาสองชั้นก็เหอะ ของเขาน่ารัก น่ากอดจริง ๆ

น่ารักมากเจ้าค่ะ+หล่อ แต่จุมเอ๋อ กว่านี้หน่อยดีไหม 555 โห ว่าไป จุมนี่เสน่ห์แรงงงง แต่วุฒินี่ สเป็คเลย ห้าๆๆๆ
ท่าน j4c9yมาแนวนี้บ่อยเน้อเจ้าค่ะ หรือว่าจะชอบแบบพี่วุฒิจริงๆ คิดดูดีๆเน้อ ... 
ในที่สุดก็ตามอ่านจนหมดเลย สุดๆเลย
เจ้าค่ะ