บุพเพวายร้าย
57.
พวกผมกินข้าวเสร็จแล้ว ก็ขึ้นมาบนห้องเลย พี่วุฒิก็เข้าไปอาบน้ำเลยเหมือนกันครับ พี่เขาบอกว่าร้อน
พอพี่วุฒิเข้าไปอาบน้ำไม่นาน เสียงโทรศัพท์พี่วุฒิก็ดัง
กริ้งๆ ผมเดินไปดูโทรศัพท์ที่วางบนเตียง หน้าจอขึ้นภาพคนโทรมาพร้อมชื่อ
‘พี่ชนะ’
ผมไม่ได้รับแทนพี่วุฒิครับ เพราะคิดว่าถ้าเขามีธุระก็คงจะโทรมาอีก หรือไม่พี่วุฒิก็คงโทรกลับไป
แต่พี่ชนะโทรมาอีกครับ ผมเลยรับจะได้บอกพี่ชนะว่าพี่วุฒิอาบน้ำอยู่
“ ฮัลโหล วุฒิ ได้ฤกษ์แล้ว..” พี่ชนะพูดทันทีครับ
“ พี่ครับ นี่ผมเอง พี่วุฒิอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ” ผมบอก พี่ชนะเงียบไปครู่หนึ่งก่อนบอกผมว่า
“ มันออกมาบอกให้มันโทรหาพี่ด่วน!”
“ ครับ”
พี่ชนะมีเรื่องอะไรหรือเปล่า เสียงเมื่อกี้ก็รีบร้อนมากครับ หรือว่าจะเกิดเรื่องขึ้น แล้วเรื่องอะไร หรือว่าเรื่องพี่แบงค์ แต่ว่าวันนี้พี่แบงค์ออกจากโรง-บาลแล้ว
‘ได้ฤกษ์แล้ว’ คืออะไร? ทำไมผมสังหรณ์ว่าจะมีเรื่องอะไร
ผมนี่ก็คิดมากไป....
“ จุมมีอะไร?” พี่วุฒิถาม เดินออกมาจากห้องน้ำ นุ่งผ้าเช็ดตัวฝืนเดียวเช่นเคย บนหัวมีผ้าขนหนูสีขาวคลุมผมเปียกๆเอาไว้ ผมมนั่งอยู่บนเตียงมือยังถือโทรศัพท์พี่วุฒิไว้
“ พี่ชนะโทรมา บอกให้พี่โทรกลับด่วนครับ” ผมบอกลุกขึ้นยืน แล้วยื่นโทรศัพท์ให้พี่วุฒิ พี่เขารับไปแล้วกด 2 3 ครั้งก็ยกขึ้นแนบหู ผมดึงมือพี่วุฒิให้นั่งลงบนเตียง แล้วก็เอาผ้าที่อยู่บนหัวมาเช็ดหัวให้
ขณะที่รอสายพี่ชนะ พี่วุฒิหันมายิ้มให้ผม แล้วยังยื่นหน้าจะมาหอมแก้มผมด้วย แต่ผมให้พี่เขาจูบผ้าที่ผมถืออยู่แทน
“ ไรเนี่ย จะหอมแก้มเมียสักหน่อย” พี่วุฒิพูดยังมองหน้าผมอยู่
“ จะหอมทำไม คุยโทร-สับอยู่ไม่ใช่หรือครับ”
“ ไม่ใช่ปัญหา” พี่วุฒิบอก แล้วพี่ชนะก็รับพอดี ส่วนผมอายม้วนไปแล้ว .////.
“ เออ ชนะมีไร?”
“ จริงดิ!!” พี่วุฒิพูดเหมือนดีใจยืนขึ้น ก่อนที่จะแสยะยิ้มแววตาวาวโรจน์ ....ดูน่ากลัว
“..........................” ตัวมันเย็นวูบ
“ โอเคเจอกัน มันได้น่วมแน่!” พี่วุฒิกดโทร-สับออก หันมามองผมที่นั่งนิ่งอยู่บนเตียง
“ เป็นอะไรหน้าซีด?” พี่วุฒิถาม
“ปะเปล่าครับ” ผมบอกไม่กล้าสบตา
“ หรือไม่สบาย?” พี่วุฒิถามเดินกลับมาหาผม เอามือมาจับหน้าผากผม ผมสะดุ้งเล็กน้อย แต่พี่เขาก็ชะงัก…
“ ตัวไม่ร้อน หมายความว่าไม่มีไข้ หรือว่าเป็นอะไร?”
“ เปล่าครับ ผมไม่ได้เป็นอะไร ...พี่ชนะโทรมามีอะไรหรือครับ?” ผมเปลี่ยนเรื่องลุกลงจากเตียง
“ ไอ้ชนะมันโทรมาบอกว่าวันนี้ไอ้พวกเหี้ยอิงกับพวกไปที่ร้านT ร้านประจำพวกพี่”
“ ...............” ไอ้พวกเหี้ยอิง!?
“ ไอ้ชนะมันก็ฟอร์มทีมกับที่เป็นอริกับพวกมันแล้ว จะได้เอาคืนมันเรื่องที่ผับ และเรื่องที่ทำกับไอ้แบงค์” ผมคิดถึงพวกพี่หัวทองที่ผับวันนั้น
“ หมายความว่าพี่จะไปหรือครับ”
“ ไปดิ พี่จะปล่อยให้ไอ้ชนะมันลุยเดียวได้ไง!”
“ ผมไปด้วยนะครับ”
“ ไม่ต้องไป อยู่บ้านเนี่ยแหละ”
“ แต่ผมเป็นห่วง...”
“ ไม่ต้องไป ไปก็ทำให้พี่ห่วงเปล่าๆ”
“ ผมขอให้พี่ไม่ไปได้ไหมครับ?”
“ ไม่ได้! เพราะพี่จะไม่ปล่อยให้เพื่อนไปเสี่ยงคนเดียว” ผมก็เข้าใจครับเพราะถ้าเป็นธีกับบันบันผมก็ต้องทำแบบพี่วุฒิ แต่แบบนี้มันเหมือนการแก้แค้นที่ไม่จบไม่สิ้น ที่ผับพวกพี่วุฒิเอาคืนที่ร้านกาแฟ ต่อมาพวกนั้นก็มาเอาคืนที่หน้าคณะ และตอนนี้พี่วุฒิก็จะไปเอาคืนเรื่องที่หน้าคณะอีก และเมื่อพวกนั้นหายเจ็บแล้วก็คงจะมาเอาคืนพวกพี่วุฒิ ผมคิดว่าก่อนเรื่องร้านกาแฟก็คงมีเรื่องก่อนหน้านั้นไม่งั้นคนที่ไม่เคยรู้จักกันจะหาเรื่องกันไปเพื่ออะไร
“ ......................”
“ นะจุมอาบน้ำแล้วนอน ไม่ต้องเป็นห่วง ไอ้ชนะมันจ้างคนไปเป็นเพิ่มด้วยมากกว่า 10 ฝ่ายนั้นจองโต๊ะไว้แค่ 5 คน ยังไงพวกมันก็น่วม” ก็ใช่ครับนั่นเป็นแค่ส่วนหนึ่ง แต่อีกไม่นานพี่วุฒิก็จะเป็นฝ่ายถูกเล่นงานเพราะฝ่ายนั้นก็คงไม่ยอมเหมือนกัน
“ ให้ผมไปด้วยนะครับ”
“ อย่าพูดไม่รู้เรื่องจุม” พี่วุฒิบอกเสียงแข็ง
“ ........................”
“ นะจุม”
“ ผมไม่เกะกะ พี่หรอกครับ” ผมบอกอยากไปด้วยจริงๆ จะให้ผมนอนรออยู่บ้านผมไม่มีทางนอนหลับ
“ ...........................ก็ได้ ไปอาบน้ำเดี๋ยวรอ” พี่วุฒิบอก ผมรีบไปอาบน้ำครับ
แต่ผมอาบน้ำเสร็จ พี่วุฒิก็ไปแล้ว
ผมรีบโทรหาพี่วุฒิ
“ ฮัลโหลพี่ครับ ไหนพี่บอกว่าให้ผมไปด้วย?” ผมถามใส่กางเกงไปด้วย
“ จุมอาบน้ำนาน พี่ไม่รอ” แต่ผมว่าไม่ใช่พี่เขาตั้งใจจะไม่ให้ผมไปด้วยตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ที่บอกให้ผมรีบไปอาบน้ำก็เพื่อจะหลบผมออกไป
“ พี่อยู่ไหนครับ เดี๋ยวผมตามพี่ไป”
“ ไม่ต้องตามมา” พี่วุฒิบอกกดตัดสาย ผมโทรไปอีกแต่คราวนี้พี่เขาไม่รับ 2 ครั้ง 3 ครั้งก็แล้ว ...
“ .................”
ร้านT นี่มันอยู่ที่ไหนกัน ผจะได้ตามไปถูก
ผมโทรหาพี่ชนะ พี่เขารับครับ ผมบอกว่าจะไปกับพี่วุฒิแต่ไม่พี่วุฒิไม่ยอมให้ไปด้วย เลยจะตามไปที่หลัง พี่ชนะไม่ยอมบอกผมครับ
ผมไม่รู้จะทำไง คิดหลายรอบเลยก่อนที่จะโทรหาพี่แบงค์ และเล่าเรื่องให้พี่แบงค์ฟัง
“ จุมก็เลยจะตามไป”
“ ครับ” ผมบอกพี่แบงค์
“ ไม่ต้องไปหรอก เดี่ยวไปไอ้วุฒิมันก็โกรธ”
“ แต่ผมเป็นห่วงพี่วุฒิ”
“ พี่เข้าใจ แต่จะทำไงได้ ไอ้วุฒิมันอยากเอาคืนพวกไอ้อิง และเรื่องนี้มันก็เป็นคนต้นคิด งานนี้ฝ่ายนั้นเละแน่ไม่ต้องห่วงหรอก”
“ มันไม่ใช่นะครับพี่ แต่ทำแบบนี้มันไม่ถูก!ไม่เราก็เขาก็เจ็บ ต่อไปเป็นเรา ไม่จบไม่สิ้นสักที”
“ มันก็ต้องมีคนต้องยอมก่อน แต่เชื่อพี่เถอะไอ้วุฒิ ไอ้ชนะมันไม่ยอมแน่” พี่แบงค์บอกมั่นใจ
“ .................” (ผม)
“แล้วยังอยากจะไปอยู่ไหม?”
“ ครับ”
“ งั้นเดี่ยวพี่ไปรับ เพราะพี่ก็กำลังไป” พี่แบงค์บอกผมทั้งที่วันนี้พี่เขาเพิ่งออกจากโรง-บาลแต่ก็เข้าร่วมด้วย
“ พี่ก็ด้วยเหรอครับ?”
“ จะขาดพี่ไปได้ไง แต่ที่น่าเป็นห่วงมากกว่าคือ ถ้าไอ้วุฒิมันรู้ว่าพี่พาจุมไป............มันจะมีปฎิกริยายังไง.............. ....” พี่แบงค์พูดแล้วก็เงียบไปเฉยๆ
“ พี่บอกว่าร้านอยู่ตรงไหนก็พอครับ เดี๋ยวผมไปเอง”
“ ไอ้วุฒิมันก็ต้องถามอยู่ดีว่าจุมรู้จากใคร..ไปกับพี่นั่นแหละ”
“ ...........ครับ”
.
.
ไม่ถึง ครึ่งชั่วโมงพี่แบงค์มารับผม ที่หน้าบ้าน
ผมเข้าไปนั่งในรถและก็มีแต่ความเงียบ….
“ ไม่ต้องเกร็งก็ได้” พี่แบงค์บอก(พี่เขาใส่เสื้อสีดำออกมันๆกับกางเกงยีนต์น้ำเงินเข้ม ผมเสื้อยืดสีชมพูกับกางเกงยีนต์เหมือนกันแต่สีซีดๆครับ)
“ ผมขอโทษนะครับ ที่ไปหาพี่ที่โรง-บาลวันนั้น เพียงแต่ผมอยากให้พี่รู้ว่าผมรู้สึกยังไงเท่านั้นเอง..” ผมบอกรู้สึกผิดจริงๆ เลยไม่กล้ามองพี่แบงค์ตรงๆ
“ พี่เข้าใจ แต่แค่คำพูดว่าไม่ได้รักพี่ ไม่ได้ทำให้พี่เลิกรักจุมหรอก” พี่แบงค์บอก ผมหันไปมองหน้าด้านข้างพี่แบงค์ไม่รู้ตัว
“ พี่ครับ”เสียงผมเบามาก
“ แต่ไม่ต้องห่วง พี่ได้แค่รัก” พี่แบงค์มอง.. สบตาผมนิ่งงัน
“ พี่ ผม...” “ ไม่ได้รักพี่ ใช่ไหม?” พี่แบงค์ถาม สีหน้าเจ็บปวดอย่างคาดไม่ถึง ผมไม่รู้ว่าวันนั้นผมไปบอกว่าไม่ชอบไม่รักพี่แบงค์ได้ยังไง
พี่แบงค์คงเจ็บ
--------------------------------------------------------มาก แต่ผมก็บ้าตามไปทำร้ายพี่แบงค์ถึงโรง-บาล
“ พี่อย่าพูดทำร้ายตัวเองเลยครับ”
กึก!? พี่แบงค์เบรดรถหยุดแรงมาก ตัวผมโยกไปข้างหน้าเล็กน้อยเพราะมีเข็มขัดนิรภัย รถจอดปากซอยที่จะออกถนนใหญ่ครับ
“ พี่ไม่ได้ทำร้ายตัวเอง แต่พี่พูดย้ำตัวเอง บอกตัวเองเท่านั้น”
“ ..........................”
“ ตอนนี้ก็เหมือนกัน พี่รู้ทั้งรู้ว่าถ้าไอ้วุฒิรู้มันรู้ว่าพี่อยู่กับจุม มันต้องโกรธมาก แต่พี่ก็ยังอยากเห็นหน้าจุม อยากเจอจุมจนหาข้ออ้างมารับจุมแบบนี้” พี่แบงค์บอก แต่ผมว่ามันก็แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น พี่เขาคงไม่อยากปล่อยผมไปคนเดียวมากกว่า
“ พี่อย่าพูดให้ตัวเองดูเลวเลยครับ พี่ไม่ได้เลว”
“ รักเมียเพื่อน เคยปล้ำเมียเพื่อน แอบคิดอกุศล เขาไม่เรียกเลว แล้วเขาเรียกอะไร?”
“ ถ้าพี่เลวจริง ผมคงไม่ได้แค่เป็นเมียพี่วุฒิหรอกครับแต่เป็นเมียพี่ด้วย”
“ ....................”
กริ้งๆ พี่แบงค์รับโทรศัพท์ เป็นการตัดบทระหว่างผมกับพี่แบงค์
“ เออชนะ” พี่แบงค์พูดแต่ตามองผม
“ กำลังไป”
“ ใกล้ถึงแล้ว ไม่เกินครึ่งชั่วโมง” พี่แบงค์บอกทว่ารถยังไม่ได้ออกจากซอยบ้านผมเลย
“ จุมโทรหากรู เรื่องจะตามไปที่ร้าน กรูเลยให้จุมไปด้วยไม่อยากให้เขาไปคนเดียว”
“ มรึงไม่ต้องตะโกนชนะ มรึงได้ยินไม่ผิด” พี่แบงค์ยังคงมองผม
“ ..........................” มือของผมเช็ดน้ำตาที่เต็มเบ้าตาจากคำพูดของพี่แบงค์เมื่อกี้
“ หรือมรึงจะให้จุมคลำทางไปคนเดียว...” พูดแค่นั้นพี่แบงค์ปิดมือถือแล้วโยนไปเบาะหลัง
“ .............................”
“ จุม พี่ขออะไรได้ไหม?”
“อะไรครับ?”
“ พี่ขอจูบจุมได้ไหม?”
“ พี่ครับ!!??” คำขอของพี่แบงค์เป็นคำขอที่ผมไม่มีวันคาดคิดว่าพี่เขาจะขอ
“…แล้วพี่จะตัดใจ...” คำพูดนี้ทำให้ผมลังเล ทั้งที่ผมจะบอกว่า’ไม่ได้ครับ’ ไปแล้ว
‘แล้วพี่จะตัดใจ...’
“ ..............................” ผมคิด
‘แล้วพี่จะตัดใจ...’ พี่แบงค์ไม่ใช่คนพูดโกหก หากพี่เขาบอกว่าจะตัดใจ พี่เขาย่อมจะตัดใจจริงๆ แล้วพี่แบงค์ก็จะเป็นเพื่อนคนเดิมของพี่วุฒิใช่ไหมครับ หรือว่าผมคิดง่ายไป แต่สำหรับผมถ้าทำอะไรได้ผมก็จะทำเพราะผมเป็นต้นเหตุ
“ ครับ” พี่แบงค์มองผมแปลกใจเล็กน้อยคงไม่คิดว่าผมจะให้ ..
“ คำว่าตัดใจของพี่จุมเข้าใจใช่ไหมว่า มันไม่ใช่ง่ายๆมันไม่ใช่ตอนนี้เดี๋ยวนี้ที่พี่จะเลิกรักจุมได้..”
”ครับ” ผมตอบอีก
“ ถึงแม้ว่าพี่จะพูดแค่เพราะว่าอยากจูบอย่างงั้นเหรอ?”
“ ครับ เพราะผมเชื่อพี่” ผมบอกจ้องพี่แบงค์บ้าง เพราะผมเชื่อพี่แบงค์จริงๆ
“ เด็กโง่” พี่แบงค์พูดโน้มตัวและใบหน้ามาหาผม
“ .......................”
.
.
.
เกือบ ชั่วโมงได้ พี่แบงค์ถึงพาผมไปถึงลานจอดรถที่น่าจะจอดได้ไม่เกิน30 คันซึ่งถือว่าแคบมาก แต่ที่แปลกกว่านั้นคือมีรถจอดไม่กี่คันและหนึ่งในนั้นมีรถพี่วุฒิด้วย ผิดจากผับที่แล้วมาก
“ คงเริ่มกันแล้ว” พี่แบงค์บอกผมหันหน้าไปไม่ได้ถามแต่พี่แบงค์ก็น่าจะรู้ว่าผมสงสัย ทว่าพี่แบงค์ไม่ตอบ
ผมเดินตามพี่แบงค์เข้าไปในผับ3ชั้นครึ่ง ข้างในเปิดไปสีเหลืองนวลสว่างแต่เงียบ
โครม!?? เสียงดังจากด้านในทำให้ผมและพี่แบงค์เร่งเดินเข้าไป
โครม! เสียงดังคราวนี้ผมวิ่งครับ
‘พี่วุฒิ!?’
ผมวิ่งเข้าไป ภาพที่ผมเห็นคือคนมากกว่า 10 ล้อมคนไม่กี่คนที่กองอยู่บนพื้นท่ามกลางโต๊ะ เก้าอี้ และอื่นๆที่ล้มระเนระนาดเกลื่อนกลาดกระจัดกระจาย
“ พี่ครับ!?” ทุกสายตาในนั้นหันมามอง ผมวิ่งลงพื้นที่ลดระดับลงไปราว 1 ขั้นบันได
“ จุม” พี่วุฒิครับ พี่เขาเดินมาหาผม แล้วหยุดมองพี่แบงค์ที่ตอนนี้มาอยู่ข้างล่างผมแล้ว
“ มรึงกับกรูต้องคุยกัน!” พี่วุฒิพูดกับพี่แบงค์ ตาก็จ้องพี่แบงค์นิ่ง ก่อนที่จะหันมาพูดกับผม
“ ตามมาทำไม?” พี่วุฒิถามผม
“ ผม .......”
“ มันพูดยากก็ไม่ต้องพูด” พี่วุฒิบอก ดึงแขนผมให้เดินตาม พี่แบงค์เดินผมกับพี่วุฒิห่างๆ
เดินเข้าไปเลยได้เห็นว่าพวกที่นั่งกองอยู่ตรงกลางสะบักสะบอมพอดู แค่เฉพาะหน้าคนทั้ง 5 คนนั้นก็ต้องมีอย่างน้อยก็สักทีหนึ่งที่ต้องมีรอยบวมช้ำ
ในร้านไม่มีลูกค้าคนอื่นเลย แม้แต่พนักงานก็ไม่มี
“ คราวนี้เป็นที่พวกพวกมรึง แต่อย่าให้ถึงที่กรู กรูจะเอาพวกมรึงไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต!” คนที่หน้าบวมกว่าคนอื่นบอกก้าวร้าว เขาเป็นพี่ผมสีทองคราวก่อนครับ แต่มาครั้งนี้ผมสีดำผมเลยจำไม่ได้ในทันทีและหน้าพี่เขาก็บวมมาก ปากก็แตก ใต้ตามันเหมือนมีเลือดซึมออกมา
“ ให้มรึงได้มีคราวหน้าเถอะ สัดอิง!” พี่วุฒิบอกเอาเท้าเหยียบอกพี่อิงจนล้มลงไปกับพื้น แม้จะดิ้นสู้ก็ตามแต่ร่างกายบาดเจ็บคงสู้ไม่ไหว พี่ชนะก็ทำบ้าง รวมทั้งดึงคอเสื้อสีดำของอีกคนขึ้นมาแล้วชกก่อนที่จะปล่อย
“ ........................” ผมพูดไม่ออก ...
“ แบงค์ มรึงเอาไง หรือจะเอาไม้?” พี่ชนะถามพี่แบงค์แล้วเอาไม้จากพวกอีกคนยื่นให้พี่แบงค์
ผมกลั้นหายใจว่าพี่แบงค์จะรับไหม?!
“ ไม่ต้อง” พี่แบงค์บอก เดินวนรอบๆก่อนที่จะไปหยุดที่พี่อิง พี่แบงค์กระชากคอเสื้อพี่เขาขึ้นมา
“ อย่าเล่นทีเผลออีก ที่หลังตัวต่อตัว!” แล้วชก
ผวักะ! พี่แบงค์ชกทั้งที่อีกฝ่ายเลือดกลบไปก่อนที่พี่วุฒิจะกระทืบเมื่อกี้ และอีกครั้ง
ผวักะ! “
แรง ม รึง แค่ นี้
หรือวะ!” ทั้งที่ถูกชกจนหน้าเยินแต่ก็พูดออกมาอย่างกระท่อนกระแท่น
“ ไม่แค่นี้หรอก แต่
กรูเวทนามรึง! ”
ผวักะ! พี่แบงค์ชกอีกก่อนที่จะปล่อยมือจากคอเสื้ออีกฝ่ายให้ลงไปกองกับพวก
“ ชนะ ไอ้ตัวฟ้าให้กรูเอามันได้ไหมวะ มันน่ารักดี” ผมหันควับไปมองคนที่พูด ผมไม่รู้จักครับ เป็นคนที่จัดได้ว่าหน้าตาดีคนหนึ่งแต่สายตาที่มอง...ผมมองตามสายตาพี่เขาที่มองลงไปคนเสื้อเชิ้ตสีฟ้า แล้วกลับขึ้นมามองหน้าแล้วสายตาโลมเลียหื่นกระหายทำให้หน้าตาหล่อๆนั้นดูยิ่งกว่าคนขี้เหร่ที่สุด!!
“ .....................” พี่ชนะเงียบ หันไปสบตาพี่วุฒิและพี่แบงค์ ก่อนจะตอบว่า
“ ตามใจมรึง”
“ ......................” พี่คนนั้นเดินเข้าดึงตัวเสื้อฟ้าที่นอนขดอยู่ขึ้นมา
“ สัด!ปล่อยกรู!!” เสื้อฟ้าขัดขืน เอามือปัดสะเปะสะปะ อีกคนหนึ่งคนนี้ใส่เสื้อกล้ามสีขาวแต่ตอนนี้มันเป็นสกปรกเปื้อนฝุ่น เปื้อนรองเท้า เข้ามาช่วยเสื้อฟ้าครับ
“
อย่ายุ่งกับแฟนกรู!! โอ๊ย!!” แต่โดนถีบออกไปครับ
“
แต่มันกำลังจะเป็นเมียกรู!! ” พูดพร้อมกระทืบไม่หยุด เพื่อนอีก 2 คนมาช่วยรุมจนเสื้อกล้ามนอนลงนิ่งไป แม้จะพยายามขยับตัว สายตาที่กำลังเกือบปิดมองแฟนตัวเองตลอด
ทำร้ายร่างกายแล้วยังจะข่มขืนอีก ทำไมพี่วุฒิ พี่ชนะ พี่แบงค์ยืนดูเฉยๆล่ะครับ มันต้องทำกันถึงขนาดนี้เลยเหรอ???????????????
“ พี่ครับต้องทำกันถึงขนาดนี้เลย
ครับ! ?” ผมถามหันไปมองพี่วุฒิ แต่พี่วุฒิหันหน้าหนีไปอีกทาง
“
พี่ครับ!?” ผมวิ่งไปหยุดด้านที่พี่วุฒิหันหน้าไป
“
พี่ครับ มากเกินไปแล้วนะครับ!!” โดนข่มขืนผมเคยโดนมาแล้ว ผมรู้ว่าเจ็บปวดแค่ไหน ทรมานแค่ไหน แล้วเขายังมีแฟนอยู่แล้ว เขาจะรู้สึกยังไง แฟนเขาจะรู้สึกยังไง??
“ อย่ายุ่ง!... เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับจุม” พี่วุฒิบอกผม
“
พี่ชนะครับ!?” ผมหันไปหาพี่ชนะบ้าง พี่ชนะหลบตา
“
พี่แบงค์ครับ!?” ผมหันไปหาที่พึ่งสุดท้าย ไม่รู้ว่าน้ำตามันอาบหน้าตั้งแต่เมื่อไร
“ วุฒิ?” พี่แบงค์หันไปหาพี่วุฒิเหมือนเป็นการถาม
พี่คนนั้นยังลากคนเสื้อฟ้าไปจนตอนนี้อุ้มเดินหายเข้าไปด้านหลัง
“ ชนะมรึงจะทำอะไรตามใจมรึง!” พี่วุฒิบอกแล้วมากระชากแขนผม
“ กลับบ้าน!” พี่วุฒิบอก
“
พี่ครับ!!??” ผมว่าพร้อมสะบัดมือหลุดแต่พี่วุฒิก็เอาไปคว้าไว้เหมือนเดิม
“
พี่รักผมไหมครับ?!” ผมถาม เกิดความเงียบขึ้นมาเฉยๆ ...
“ มาพูดอะไรตอนนี้”
“ ผมอยากรู้?!” ผมถามอีก
“ ไปคุยกันที่บ้าน!” แขนผมถูกกระชาก
“ ผมแค่อยากรู้ถ้าคนที่ถูกอุ้มไปเป็นผม
พี่จะรู้ยังไง!! ” พูดไปก็ร้องไห้ไป
“ ...............”
“
หรือว่าพี่จะไม่สนใจ”
“ จุม”
“
ใช่ไหมครับ!? ” ผมบอกสะบัดมือออกเต็มแรงและวิ่งตามเสื้อฟ้าที่ถูกอุ้มหายไปหลังร้าน ไม่สนใจเสียงพี่วุฒิที่เรียกตาม
“
จุม! ”
ผมวิ่งเข้าไปหลังร้านเป็นทางแคบๆ แล้วก็เห็นพี่เขากำลังดึงกางเกงเสื้อฟ้าออก
“
พี่อย่าครับ!? ” ผมร้องห้ามเข้าไปดึงมือออก แต่ผมโดนผลักออกมาล้ม!?
“
ไอ้ปั๊ก! เมียกรู!” พี่วุฒิบอกพยุงผมขึ้น
“ พี่ครับ ผมขอร้อง อย่าข่มขืนเขา แค่ทำร้ายร่างกายแค่นี้พี่เขาก็สาหัสพอแล้ว” ผมขอร้อง
“ ถ้าคนนั้นเป็นผม พี่จะนิ่งอย่างแบบนี้ไหม ฮือๆ”
“ ...........” พี่วุฒิจ้องมองผม..
“
เอ้ย! ปั๊ก! พอเถอะ” พี่วุฒิพูดพร้อมแกะมือผมที่จับแขนออกเดินไปหาพี่ปั๊ก แล้วจับไหล่พี่ปั๊กจากด้านหลัง
“
อะไรของมรึงวุฒิ แค่เด็กบอกให้หยุดมรึงก็หยุด มรึงเป็นอะไรของมรึง!?” พูดพร้อมสะบัดมือพี่วุฒิออกจากไหล่
“ กรูว่ามันไม่แฟร์” พี่วุฒิบอก
“ มันไม่เกี่ยวกับมันไม่แฟร์หรอก
แต่มันเกี่ยวที่ว่ามรึงกลัวเด็กหน้าซื่อนั้น!!” พี่ปั๊กพูดตวัดหน้าหันมาจ้องผม
“ ใครได้รู้ มรึงไม่มีหน้าไปมองใคร!!” (ผมพอจำได้แล้วว่าพี่ปั๊กเป็นเพื่อนร่วมห้องพี่วุฒิถ้าจำไม่ผิด)
“
เรื่องของกรู!! ” พี่วุฒิว่าพร้อมทั้งผลักพี่ปั๊กออกไปจากตัวเสื้อฟ้า
“
วุฒิ!?” “ แล้วมรึงจะเอาไง!” พี่วุฒิขึ้นเสียง จ้องหน้าพี่ปั๊กไม่วางตา พี่ปั๊กเงียบไปหันมามองผม หันกลับไปมองพี่วุฒิ
“ .......................”
“ มรึงมันสิ้นท่าจริงๆ!” พี่ปั๊กยืนขึ้น “ บอกไอ้เจมส์ให้ไปช่วยไอ้ในกางเกงกรูในห้องน้ำ แล้ว
มรึงจะทำอะไรก็ตามใจมรึง! ”
“ วุฒิ วุฒิ” พี่ชนะวิ่งเข้ามา มองพี่ปั๊กและพี่วุฒิที่ยังยืนอยู่
“ ไอ้แบงค์มันตกลงกับไอ้อิงแล้ว ว่าถ้าไม่ทำเพื่อนมัน พวกมันจะถือว่าเรื่องต่างๆไม่เคยเกิดขึ้นและจะไม่มีการเอาคืนต่อจากนี้
“ มันมีสิทธิ์อะไรไปตกลง!!” พี่วุฒิกลับโกรธขึ้นมาทั้งที่มันเป็นเรื่องที่ดีแล้ว
“ ไอ้พวกเหี้ย! มันจะมีอะไรมาเอาคืนกรู!” “ เอาเถอะน่า มันจบก็ดีแล้ว กรูไม่อยากเป็นตัวร้าย กรูอยากเป็นพระเอก” พี่ชนะพูดเหมือนเล่นแต่สีหน้าจริงจังมาก (พี่ปั๊กเดินหายไปด้านหลัง)
“ ...............
....ยุ่งไม่เข้าเรื่อง!” ไม่รู้ว่าคำพูดนี้พี่วุฒิหมายถึงใคร
“ มรึงพาจุมกลับบ้านเถอะ ที่เหลือกรูเคลียเอง”
“ .....................” หันไปมองพี่ชนะครู่หนึ่งก่อนที่จะเดินมาหาผม
“ กลับบ้าน ยุ่งดีนัก!” พี่วุฒิว่าดึงแขนผม แล้วลากให้เดินตาม
“ พี่ครับ ผมเจ็บ!?”
“ ...........................” พี่วุฒิไม่ตอบลากผมออกไปเรื่อยๆ
** ** ** **
100% 55++ ดีใจกับตัวเองดีแท้ ปล.คำผิดท่านกระต่ายชมจันทร์มากๆ