+
บุพเพวายร้าย
52.50%
1 อาทิตย์ผ่านไปแล้ว เรื่องพี่วุฒิกับพี่แบงค์ยังไม่คืบหน้า ผมยังอยู่บ้านเหมือนเดิม และพี่วุฒิก็ยังรบเร้าให้ผมกลับไปอยู่คอนโดเหมือนเดิมเช่นกัน
ทั้งเสาร์และอาทิตย์ผมปั่นรายงานที่อาจารย์ให้ทำเพื่อชดเชยวันขาดเรียนจนเสร็จ 3 เล่ม ซึ่งล้วนแต่เป็นรายงานเขียนทั้งหมด แต่ผมก็ได้ความรู้เพิ่มขึ้นเยอะ เพราะเป็นรายงานเนื้อหาที่เรียน ที่อาจารย์ให้ผมทำรายงานคงต้องการให้ผมรู้และเข้าใจเนื้อหาที่เรียน(2 วันนี้ผมเขียนแล้วก็เขียนพักแค่กินข้าวครับ)
ตอนกลางคืนเป็นตอนที่ผมหวาดระแวงเป็นพิเศษ เพราะผมกลัวว่าพี่วุฒิจะทำอะไรผม ซึ่งมันก็จริงแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะผมปฏิเสธยังไงผมก็ไม่ยอมทำให้พี่วุฒิไม่พอใจอยู่บ้างแต่ก็ไม่ใช้กำลังกับผม ทำให้ 2 3วันมานี้ผมจึงสบายใจขึ้นมาก
วันนี้วันพุธ พี่วุฒิเรียนถึง 5 โมงเย็น ผมจึงกลับบ้านกับลุงใบที่มารับผมหลายครั้งแล้ว และพี่วุฒิก็ตามมาถึงบ้านหลังจากผมกลับมาได้ชั่วโมงกว่า
กินข้าวเย็น แล้วแม่ไปทำงาน ท่านเข้ากะดึกตั้งแต่เสาร์อาทิตย์ ผมออกไปดูต้นสโนที่วันนี้แม่เพิ่งซื้อมาใหม่จากจัตุจักร อยู่ในกระถางเส้นผ่าศูษย์กลาง 30 เซนต์ได้ รวมกับของเดิมก็เป็น 6กระถางผมเลยเอาฝักบัวเล็กๆรดจนคิดให้ดินชุ่ม
“ ขึ้นห้องยัง?” พี่วุฒิถาม พี่เขาเดินตามผมออกมาตั้งแต่อยู่ในครัวครับ
“ ทำไมครับ?” ผมถามคิดว่าขึ้นห้องไปอ่านหนังสืออยู่เหมือนกัน เพราะพรุ่งนี้มีสอบเก็บคะแนน
“ พี่ง่วง” พี่วุฒิบอก ผมหันไปมองพี่วุฒิที่อยู่ข้างหลัง
“ แต่นี่ยังไม่ทุ่มเลยนะครับ”
“ ง่วงมันห้ามได้ที่ไหน?” ก็จริงครับ
“ งั้นพี่ขึ้นไปอาบน้ำนอนก่อนผมเลยครับ”
“ ไม่เอา ยังไงก็ขึ้นไปด้วยกัน” พี่วุฒิพูดดึงถังผักบัวจากมือผม ไปวางไว้ข้างๆที่เป็นม้านั่งไม้สีน้ำตาล
“ นะ พี่ไม่อยากนอนคนเดียว”
“ แต่ผมยังไม่นอนนะครับ ต้องอ่านหนังสือสอบพรุ่งนี้”
“ จริงดิ” พี่วุฒิทำหน้าตกใจ ก่อนที่กลับเป็นปกติในพริบตา ? ?
“ ครับ ? ”
“ ไม่เป็นไรพี่ทำเบา”
“ อะไรครับทำเบา?” ผมถามสงสัยจับใจความที่พี่วุฒิพูดไม่ได้ อะไรคือทำเบา ? . ?
“ เปล๊า!” พี่วุฒิตอบเสียงสูง ?
“ ...............? ?” ผมมองพี่วุฒิยังไม่หายสงสัย
“ ยังไงก็ขึ้นไปก่อนเถอะ” พี่วุฒิบอกดึงแขนผมให้เดินตาม
เข้าห้องพี่วุฒิก็เข้าไปอาบน้ำก่อน ส่วนผมเอาหนังสือมาเปิดๆดูคราวๆว่าสอบถึงตรงไหน ( สอบเก็บคะแนน 2 บท ครับ)แล้วเดี๋ยวอาบน้ำเสร็จค่อยมาอ่านแบบสบายๆตัว ไม่ต้องรีบร้อน แค่อ่านทบทวนก็พอเพราะเนื้อหานี้ผมทำรายงานไปแล้ว
พี่วุฒิเปิดประตูห้องน้ำออกมา นุ่งผ้าเช็ดตัวสีแดง ผมหันไปมองพอดี และด้วยความว่าผ้าสีแดงบนเนื้อสีขาวๆผมก็ดึงสายตาผมไปมองโดยไม่ตั้งใจ
ตึกตัก! หัวใจผมก็เต้นแรงขึ้นมาทันทีที่สายปะทะหน้าท้องแบนราบแต่มีกล้ามเนื้อของพี่วุฒิ ผมรีบหันกลับมา แก้มร้อนผ่าว
แล้วจะใจเต้นทำไม!?
“ หน้าแดง” เสียงพี่วุฒิอยู่ใกล้มาก ผมหันหน้าไป ควับ!? แก้มผมสัมผัสแก้มชื้นพี่วุฒิจนผมเงยสายตาขึ้นไปมอง พี่วุฒิยิ้มกริ่ม
“ เอาหน้าเข้ามาใกล้ทำไมครับ!” ผมว่ากลบเกลื่อนอาการ ผลักอกเปลือยเปล่าพี่วุฒิออกไป
“ กลัวไม่ได้ยิน” พี่วุฒิบอกยังยิ้มกริ่มจนผมต้องปั้นหน้ากลบทับอาการเขินอายของตัวเอง
“ พี่จงใจแกล้งผม!” ผมพูดดังกว่าที่คิด แล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้คว้าผ้าเช็ดตัวได้ ก็วิ่งพาตัวเองและหัวใจที่เต้นเหมือนกลองกำลังถูกตีระรัวเข้าห้องน้ำ
ปิดประตูได้ก็ยืนเอามือทาบอก ปราบหัวใจที่เต้นทั้งแรงและเร็ว ว่าเบาๆได้แล้วไม่มีพี่วุฒิอยู่ตรงนี้สักหน่อย
“ พี่วุฒิ แกล้งกันได้” ผมบ่นคนเดียวต่อว่าพี่วุฒิ ที่มักจะทำแบบนี้เสมอแต่ผมกลับไม่รู้โกรธเลย ว่าแล้วก็สะบัดหัวซ้ายขวา 2 สามที ไล่อาการให้ร่างกายกลับมาเป็นปกติก่อนที่เริ่มแปรงฟันก่อนเป็นอันดับแรก .....
ผมอาบน้ำเสร็จ แล้วคิดได้ว่า ผมก็ต้องออกไปข้างนอกโดยไม่ได้ใส่อะไรเลยนอกจากผ้าเช็ดตัวเหมือนพี่วุฒิ โดยปกติผมก็ออกทั้งแบบนั้นแหละครับเพราะอยู่คนเดียว จนเมื่อพี่วุฒิมาอยู่ที่นี่ผมก็เอาเสื้อผ้ามาใส่ในห้องน้ำ แต่เมื่อกี้ด้วยความรีบร้อนผมดันลืม 0.0
เอาไงดี???
ให้พี่วุฒิเอามาให้ดีไหม? หรือว่าจะเดินออกไปเหมือนพี่วุฒิ ก็ในเมื่อเป็นผู้ชายเหมือนกันจะกลัวอะไร? ก็จะไปกลัวอะไรล่ะในเมื่อไม่ได้กลัวแต่อาย …//////……
ยังไงก็ผู้ชายเหมือนกัน ผมต้องทำให้เป็นเรื่องปกติที่สุด ‘ไม่ต้องอาย’ ผมบอกตัวเอง แล้วก้มมองดูหุ่นตัวเอง ยิ่งน่าอายเข้าไปใหญ่ ผอมไม่ได้หุ่นน่าอวดเลย ....ยังก็ตามแต่ก็ผู้ชายเหมือนกัน ต้องทำให้ปกติเหมือนผู้ชายเขาทำกัน คิดแล้วก็เปิดประตูออกไป แล้วเดินออกไปยังตู้เสื้อผ้า
“ ยั่วพี่ใช่ป่ะ?” (พี่วุฒิ)
ผมหันไป พี่วุฒินั่งอยู่บนเตียงแล้วลุกขึ้น!? ผมหันกลับ เอาเสื้อยืดที่พับไว้มาสวมหัว เอาแขนใส่เสื้อ แล้วหยิบกางเกงกีฬาสีเขียวที่ปลดระวางแล้วขึ้นมา
หมับ! มือผมที่กำลังถือกางเกงโดนมือพี่วุฒิจับอีกที
“ อะไรครับ?” ผมตอบพยายามทำเสียงให้เป็นปกติที่สุด เพราะตัวผมกำลังตื่นเต้น
“ ตัวนี้พี่ดูแล้วเมื่อกี้ ยางมันยืดแล้วยังจะใส่อีกทำไม?” พี่วุฒิว่า แต่ผมก็ใส่นอนได้นะครับ ใส่นอนเฉยๆไม่ได้ใส่ออกไปไหน ถ้าไม่มีคนดึงมันไม่หลุดหรอก
“ ใส่นอนไม่เป็นไรหรอกครับ” ผมบอก หัวใจเต้นแรงมากๆ0///0
“ มันจะหลุด นะพี่ว่า...” พี่วุฒิพูดพร้อมเอามืออีกข้างตะปบเอวผมแรงพอดู จนชนตัวพี่วุฒิ พร้อมกับผ้าเช็ดตัวที่ผมนุ่งท่อนล่างเอาไว้ล่วงลงพื้น !?!
ผมตกใจตกตลึงจนตัวแข็งทื่อ จ้องมองพี่วุฒิตาไม่กระพริบ มารู้สึกตัวก็ตอนที่พี่วุฒิก้มหน้าลงมาจนจะชนหน้า ผมถึงได้หันหน้าหนี แล้วที่ผลักพี่วุฒิแกไปเต็มแรงก่อนจะเอาทั้งกางเกงและผ้าเช็ดตัววิ่งเข้าห้องน้ำ โดยลืมแม้กระทั่งเอาผ้าเช็ดตัวมาปกปิดร่างกายเสียก่อน
เมื่อกี้ ผ้าเช็ดตัวเจ้ากรรมดันมาหลุดตอนนั้นเสียได้ ทั้งที่ผมคิดว่าพันดีแล้วแท้ๆ หรือว่าพี่วุฒิทำอะไรมันถึงได้หลุดได้ง่ายๆ แล้วทำไมจะต้องไปคิดเรื่องนั้นด้วย ผมควรจะคิดเรื่องต่อจากนี้ต่างหาก ที่ดันวิ่งเข้าห้องน้ำมาทั้งอย่างงั้น ใส่เสื้อยืดตัวเดียว ข้างล่างเปลือยเปล่า …
ผมนี่มันติ่งต๋องจริงๆ
“ .........................”
หน้าร้อนจนไม่รู้จะร้อนยังไงแล้ว...
ผมทำใจอยู่นานก่อนที่จะออกมา แล้วทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมออกมาเห็นพี่วุฒินั่งเหยียดขาอยู่บนเตียงกำลังอ่านหนังสือ(คิดว่าเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นพี่เขาอ่านหนังสือเรียน) พอผมออกไปพี่เขาก็เงยหน้าขึ้นมามองผมไม่มีวี่แววว่าจะหัวเราะผมในเรื่องเมื่อกี้
แต่ตอนที่พี่วุฒิเงยหน้าขึ้นมาผมก็รู้สึกเหมือนมีลมร้อนๆพัดผ่านหน้า0.0 ดีที่ผมตั้งสติทันมันเลยกลับมาเป็นปกติ
“ จุมจะอ่านหนังสือถึงกี่ทุ่ม?” พี่วุฒิถาม ผมเดินไปที่โต๊ะดูนาฬิกาตั้งโต๊ะสีฟ้าที่ตั้งไว้ข้างหนังสือที่ผมเปิดค้างไว้ก่อนไปอาบน้ำ
ตอนนี้ 2 ทุ่มพอดี
“ สัก 4 ทุ่มครับ พี่จะนอนก็ปิดไฟได้เลยครับ เดี๋ยวผมเปิดโคมไฟ” ผมบอกเพราะไม่คิดว่าจะอ่านนาน 2 ชั่วโมงคงพอ แล้วนั่งบนเก้าอี้(หันหลังให้เตียงและพี่วุฒิ)
“พี่รอ” ผมหันกลับไป พี่วุฒิยิ้มทำตาหยีผิดธรรมชาติ
“ ....................................?....................................ครับ ”
ผมอ่านแค่รอบเดียว แต่จดโน้ตใส่กระดาษไว้ในส่วนที่คิดว่าอาจารย์จะออก เพราะเนื่องจากเป็นชีว- ซึ่งเน้นความจำจึงไม่ต้องจดสูตรหรือทำโจทย์เหมือนพวกเลข ผมเลยง่ายที่จะความเข้าใจ จน 3 ทุ่มครึ่ง ผมก็คิดว่าพอแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยอ่านโน๊ตที่เขียนไว้ในรถก็น่าจะสอบผ่านไม่มีปัญหาอะไร ผมเลยปิดหนังสือ
“ เสร็จแล้วใช่ไหมจุม?”
“ครับ” ผมบอก หันไปหาพี่วุฒิที่วางหนังสือแล้วเหมือนกัน
“ ผมปิดไฟเลยนะครับ” ผมบอกชักง่วง พี่วุฒิพยักหน้าตอบพลางขยับที่บนเตียงให้ผม
พรึ่บ! พอเป็นปิดไฟปุ๊บในห้องก็มืดลงทันทีแต่ ไม่มืดซ่ะทีเดียวเพราะผมไม่ได้ปิดหน้าต่าง มีแค่ผ้าม้านโปร่งๆปิดไว้ และเมื่อตาชินกับความมืดมันก็เหมือนจะสว่างขึ้น
ผมล้มตาลงนอนมือพี่วุฒิก็เข้ามากอด ผมไม่ตกใจและแปลกใจเหมือนตอนแรก เพราะผมชินแล้ว
“ จุม” เสียงพี่วุฒิอยู่เหนือหูขึ้นไป
” ครับ” ผมว่าหลับตาลง มือเลื่อนขึ้นมาจับแขนพี่วุฒิที่กอดผม ไม่รู้เมื่อไรที่ผมกับพี่วุฒินอนด้วยกันแบบนี้ และผมก็มีความสุขแบบนี้
อ้อมแขนที่อบอุ่น เสียงเต้นของหัวใจที่คุ้นเคย
“ จุม วันนี้ได้นะ” พี่วุฒิพูดเสียวเบงลง ริมฝีปากเริ่มจูบหูผม นี่หมายความว่าพี่วุฒิกำลังเริ่มครับ แต่ถ้าผมปฏิเสธจริงจังพี่เขาก็หยุดไปเอง
“ พี่ครับ อย่าเพิ่งเลยครับ” ผมว่าลืมตาขึ้นมา พอคิดผมก็นึกเรื่องคืนนั้นขึ้นมา แล้วก็กลายเป็นกลัว
“ เมื่อไร พี่แทบจะทนไม่ไหวแล้วนะ” พี่วุฒิเริ่มพาปากลงมายังคอ และมันหนักหน่วงมากขึ้น ตัวผมขนลุกวาบไปทั้งตัว
“ ผมยังไม่พร้อม รอหน่อยได้ไหมครับ” ผมว่าขยับหน้าขยับคอหนีริมฝีปากที่วุฒิที่ตามมาติดๆ
“ รอจนจะบ้าอยู่แล้ว” พี่วุฒิบอกเสียงเริ่มกระเส่า ผมเอามือดันหน้าพี่วุฒิออกไป แต่แขนผมถูกจับไว้ และตามมาด้วยอีกข้าง !?
“ พะพี!!?” พูดไม่ทันจบจูบปากก็ถูกประกบด้วยปากพี่วุฒิ ถูกประกบอย่างหนักหน่วง ปลายลิ้นล่วงล้ำเข้ามาตวัดในโพรงปาก ผมลืมตาโตในความสลัว ส่งเสียงอู้อี้ในลำคอประท้วง
ร่างกายพี่วุฒิขึ้นมาทับร่างกายผม ในขณะที่ผมดิ้นหนี รู้สึกว่าวันนี้จะมากกว่าทุกวัน พี่วุฒิน่าจะหยุดแล้วหันมากอดผมแทนแล้วก็ผ่านไป แต่ตอนนี้ทำไมยังดื้อดึงอยู่
น้ำตาจะไหลแล้ว
แรงกดริมฝีปากมากขึ้นจนเหมือนมันจะหลอมเป็นเนื้อเดียวกัน ปลายเท้าผมเกร็งไปทั้งขา แขนที่บิดให้หลุดจากมือพี่วุฒิในตอนแรกก็เกร็งไม่ต่างกัน
เพราะโดนจูบ เลยกลั้นหายใจไม่รู้ตัวทำให้ตอนนี้แทบจะไม่มีอาการจะหายใจ ร่างกายเมื่อไม่ได้ใช้ออกชิเจนเหมือนที่เคยก็เริ่มอ่อนปวกเปียก
“ ..............แฮ่กๆ” ผมหายใจแรงและถี่เมื่อพี่วุฒิถอนปากออกไป ในความสลัวผมมองเห็นประกายแวววาวจากตาพี่วุฒิ
“ จุมพี่รอไม่ไหวแล้ว” พี่วุฒิพูดเสียงกระเส่า ก่อนที่จะบดจูบลงมาอีก ก่อนที่จะปล่อยมือข้างหนึ่งจากมือผม ผมเอามือข้างนั้นดันพี่วุฒิออกไปแต่ไม่สำเร็จเพราะมันอ่อนลงจากเมื่อกี้ มือพี่วุฒิข้างที่ปล่อยมือผมลูบไล้เข้ามาในชายเสื้อ มือแกร่งๆลูบเน้นสัมผัสผิวเนื้อผมจนไปหยุดที่ยอดอกแล้วบีบเน้น ผมแอ่นสะท้านน้องชายเบื้องล่างตื่นตัว! .. ..
น้ำตาไหลลงมาแล้วจริงๆ
ทำไมต้องบังคับกันด้วย
มืออีกข้างถูกปล่อยให้เป็นอิสระเพิ่มให้มาช่วยเหลือตัวเอง แต่ไม่ทันสำเร็จ แล้วร่างกายผมก็สะดุ้ง!อีกครั้งเมื่อ ร่างกายข้างล่างถูกบางอย่างแทรกเข้ามามันเจ็บจิ๊ดๆ ก่อนที่กลายเป็นเสียว............นิ้วพี่วุฒิอยู่ในร่างกายผม????!!!!!! และนิ้วมันขยับรับการเต้นของเนื้อภายใน
ภาพบางอย่างที่น่ากลัวปรากฏบนม่านตา มันเหมือนจริงเพราะร่างกายรู้เจ็บปวดไปด้วย
ช่วยด้วย!
เสียงร่ำไห้ของผมเอง
เสียงอ้อนวอนของผมเอง
และเสียงตะคอกน่ากลัวที่ดังราวกับเสียกัมนนาท ...............เสียงพี่วุฒิ?!
อย่า!
อย่าทำผม
ผมขอร้อง
สงสาร ผมด้วย เสียงร้องขอปนเสียงสะอื้นกระท่อนกระแท่นมันชัดเจน ....
เห็น ได้ยิน มันรู้สึก ทับซ้อน กับ ความจริง ผมดิ้นสุดแรง รู้สึกเย็นวาบสั่นไปทั้งตัว ร่างกายที่เหมือนจะไม่มีแรงเมื่อกี้เริ่มมีแรงขึ้น ใบหน้าหันหนีจากปากพี่วุฒิ ความรู้สึกเสียวซ่านเมื่อกี้หายไป เหลือเพียงความหวาดกลัว ..และต่อต้าน นิ้วในร่างกายหยุดชะงัก ก่อนที่จะถูกพาออกไป แต่แขนผมทั้ง 2 ข้าง ถูกจับไว้แน่น
“ จุม!?”
“ ฮือๆ” ผมร้องไห้พร้อมส่ายหน้าไปด้วย
“ อย่าทำอะไร ผม ค รั บ” ผมบอก
“ ทำไมจุม พี่ก็ดีกับจุมทุกอย่าง ทำไมถึงไม่ยอมพี่สักที”
“ ฮือๆ ผมกลัว อย่าทำ”
“ จะกลัวอะไร ไม่ต้องกลัวนะ” พี่วุฒิพูดก้มหน้าลงมาอีก ผมหันหน้าหนี
“ ฮือๆ อย่าครับ” แต่ริมฝีปากพี่วุฒิก็แตะบนคอผม ตามด้วยลิ้น มือผมทั้ง 2 ข้างถูกกดไว้ในแต่ละด้านของเตียง
“ อย่า!!” ผมดิ้นอีกและพยายามจะลุกขึ้น ก็ผมกลัวจริงๆ กลัวจนร่างกายสั่นเหมือนจับไข้
“ จุม!” พี่วุฒิพูดเสียงดัง ผมชะงัก ดวงตาที่มีน้ำตาเต็มเบ้าตามองพี่วุฒิก่อนที่จะสะอื้น
“ ฮือๆ”“ ...................................” พี่วุฒิยังไม่พูดอะไร
“ ฮึก ฮือๆ”“ ...............................” พี่วุฒิปล่อยมือผม แล้วลุกขึ้นเดินไปเปิดไฟ ผมดึงกางเกงที่ร่นลงไปขึ้นมาใส่เหมือนเดิม
“ ฮือๆ” ผมไม่ได้อยากจะร้องหรอกครับ แต่มันไม่ยอมหยุด
เมื่อพี่วุฒิเปิดไฟข้างประตูแล้วก็หันกลับมาแต่ยืนอยู่ตรงนั้น ส่วนผมดึงผ้าห่มขึ้นมาห่ม นอนหันหลังให้พี่วุฒิเพื่อจะได้ไม่ต้องสบตากันโดยไม่ตั้งใจ
“ ฮือๆ” “ หยุดร้องสักที พี่ไม่ชอบ!” พี่วุฒิพูดเสียงดังจนเกือบตะคอก ผมเงียบทันที แต่น้ำตามันยังไหล
“ โธ่เว้ย!!” (พี่วุฒิ)
โครม!? ผมสะดุ้งร้องโฮอีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้หันไป แต่พอรู้ว่าเสียงนั่นน่าจะเป็นเสียงเก้าอี้ตัวเดียวในห้องล้มกับพื้น(ไม้) ก่อนหน้านี้ผมยังนั่งมันอ่านหนังสืออยู่เลย
“ บ้าเอ๊ย!!” เสียงพี่วุฒิตะโกน ก่อนที่จะตามด้วยเสียงปิดประตูห้องน้ำ ที่ดังเหมือนกระแทก ตามด้วยเสียงน้ำในห้องน้ำ
“
ฮือๆ” สำหรับพี่วุฒิ SEX มันสำคัญมากถึงขนาดนั้นเลยหรือไง
ผมไม่เข้าใจ
ผมพยายามข่มตาลง ให้ตัวเองหลับ ผมไม่อยากคิด ไม่อยากรู้สึกเหมือนเมื่อกี้
ผมกลัวสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง ทำให้มันทำลายปัจจุบัน
“ ...............” พี่วุฒิเดินออกมาจากห้องน้ำแล้ว ผมลืมตาเลยมองเห็น(ห้องน้ำอยู่ด้านปลายเตียง) พี่วุฒิหัวเปียกตัวเปียกกำลังเดินไปดึงผ้าเช็ดตัว(ของผม)มาเช็ดผมเปียกแรงๆ
ผมคิดว่าคืนนี้คงจะนอนที่นี่ไม่ได้แล้ว คิดว่าตัวเองไปนอนห้องแม่ดีกว่าแล้วให้พี่วุฒิอยู่ห้องนี้คนเดียว ผมเลยลุกขึ้น พยายามไม่สบตาพี่วุฒิ
“ จะไปไหน?” พี่วุฒิถามขณะถอดเสื้อตัวเดิมที่เปียกแล้วใส่ตัวใหม่
“ผมว่าผมไปนอนห้องแม่ดีกว่า ...”
“ ไม่ต้องนอนที่นี่แหละ” พี่วุฒิบอกใส่กางเกงตัวใหม่เรียบร้อยแล้ว
“ ผม...”
“ นอนที่นี่!” พี่วุฒิบอกเสียงเข้ม รื้อที่นอนปิกนิกออกมาจากตู้แล้วปูบนพื้น
“ ...............”
“ มองทำไม! ไปนอนบนเตียง” พี่วุฒิสั่ง ผมทำตาม และไฟในห้องก็ปิดตามหลังผมติดๆ
พี่วุฒิเอาหมอนไปใบหนึ่งก่อนที่จะนอนลงบนที่นอนปิกนิกที่พี่เขาปูไว้เมื่อกี้
“ ...........................”
* * * * *
ไอ้ห ม า~ รักน้องชอบน้อง อยากทำอยากกอด แต่ทำบ่ได้ ปล.พี่แบงค์ พี่ชนะนั้น 55
ชิดและ จักรก็นั้น 5
พวกท่านช่างจิตนาการสูงส่ง
แต่เจ้าหญิงไม่บอกหรอกเน้อ เดี๋ยวไม่มันส์ ปล.2 ตอนหน้าคงมีสมหวังบ้าง ...เน้อ
ชอบเพลงประกอบตอนที่ 52 อ่ะ
เหมาะกับเรื่องนี้มากเลย
ว่าแต่ชื่อเพลงไรเหรอค่ะ
หมายถึง ตอน 51 หรือเปล่าเจ้าค่ะ ในตอนมีเครดิตข้างล่าง -อย่าเกลียดกันก็พอ ร้องโดย ออฟ แต่เป็นเพลงของทาทาเน้อ