
บุพเพวายร้าย
40.10%
เข้ามาในห้องผมยังไม่หยุดสั่นเลย และเพิ่งรู้ว่าน้ำตามันไหลลงมาเต็มหน้า
“ ฮือๆ”
แต่ถึงจะเป็นอย่างงั้นผมก็รีบไปอาบน้ำ พี่วุฒิจะได้ไม่ว่าผมช้า รีบอาบผมก็รีบออกมา เพราะไม่อยากจะอยู่ในห้องน้ำนาน ยิ่งพี่วุฒิยังขู่อีกถ้าผมช้าจะตามเข้ามา..ผมกลัว
พอผมออกมา ผมกลับตกใจยิ่งกว่าพี่วุฒินอนอบู่บนเตียง
“ !!!....” ผมยืนค้างอยู่หน้าประตูห้องน้ำ มองดูพี่วุฒิที่นอนอยู่บนเตียง พี่วุฒินอนหันหลังให้จึงไม่เห็นผม
ผมไม่รู้ว่ายืนอยู่ตรงนั้นนานแค่ไหนแต่คงนานพอดูเพราะตัวที่เปียกน้ำแห้งแล้ว แต่ พี่วุฒิไม่กระดุกระดิกอะไรเลย
“ ...................” ผมเลยลองเดินไปอีกด้านดู พี่วุฒิหลับตา?
ลมหายใจสม่ำเสมอ ........หลับครับ
“ .......................” สงสัยวันนี้คงจะเหนื่อยมาก
ผมถอนหายใจด้วยความโล่งใจ ที่พี่วุฒิหลับ จากนั้นจึงไปใส่เสื้อ กางเกง แล้วมานั่งทำการบ้าน
บางครั้งก็หันไปมองพี่วุฒิที่หลับอยู่ครับ ผมแล้วก็รู้สึกดีใจที่ได้กลับมา แต่ก็รู้ดีอีกว่าเฉพาะตอนที่พี่วุฒิหลับเท่านั้นแหละ
....แต่แค่นี้ก็ดีแล้ว อย่างน้อยก็มีช่วงเวลาที่ผมได้มองพี่วุฒิโดยไม่รู้สึกหวาดกลัว
! ? พี่วุฒิขยับตัว ผมสะดุ้ง0.0 แต่ว่าพี่วุฒิก็ไม่ได้ตื่นขึ้น
“ .................” ผมถอนหายอีกครั้ง แล้วตั้งหน้าทำการบ้านจนเกือบ 3 ทุ่ม ถึงเสร็จครับ
ผมจัดตารางเรียนใส่กระเป๋าไว้เรียบร้อยเลย พรุ่งนี้ตื่นเช้ามาจะได้ไม่ต้องจัด ปกติที่บ้านผมก็ทำแบบนี้แหละครับ แต่พักหลังๆมีเรื่องหลายอย่างที่ทำให้ระบบชีวิตเปลี่ยนและไม่แน่นอน
หลังจากทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว ผมก็คิดว่าจะนอนแต่กลัวพี่วุฒิจะตื่นครับ เลยคิดว่าจะไปนอนห้องพี่วุฒิดีไหม แต่ถ้าพี่วุฒิอีกครั้ง ที่ตอนนี้นอนหงายจากการขยับตัวเมื่อกี้
“ ....................”
เอาไงดี???
“ ............” ถ้าผมไปนอนข้างนอก พี่วุฒิจะพูดว่ายังไง จะโกรธไหม? ผมว่าผมควรจะทำตัวให้ปกติว่านี้คือห้องของผม ผมก็ควรจะนอนที่นี่
คิดแล้วผมก็เดินไปปิดไฟครับ ส่วนพี่วุฒิก็นอนเหมือนเดิม ผมก็นอนห่างออกมาหน่อยถึงแทบจะตกเตียงก็ตาม
บุพเพวายร้าย
40.90%
คิดแล้วผมก็เดินไปปิดไฟครับ ส่วนพี่วุฒิก็นอนเหมือนเดิม ผมก็นอนห่างออกมาหน่อยถึงแทบจะตกเตียงก็ตาม
คืนนี้ก็ผ่านไปอีกวัน ที่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่ผมคิดผิด!
ไม่รู้ว่าตอนนั้นกี่ทุ่ม เวลาเท่าไรแต่ผมสะดุ้งตื่น ท่ามกลางความสลัว มืออุ่นๆกำลังลูบไล้เอวผมอยู่ ผมหลับตาลงไม่กล้าหันกลับไปมอง ทั้งที่รู้ว่าคือพี่วุฒิ
“ พะพี่ ครับ” ผมพูดยังคงหลับตาไว้ มือพี่วุฒิเลื่อนขึ้นสูงขึ้น ตัวผมเกร็งเพราะรู้มันคือออะไร....ขนลุก
“ ทำไม” พี่วุฒิพูดหายใจแรงขึ้น ริมฝีปากเล็ดเลียใบหูผม ผมยิ่งหลับตาแน่นกว่าเดิม
“ ...................” ผมไม่อาจจะยับยั้งอะไรไม่ให้เกิดขึ้นได้ผมรู้ดี
พรึ่บ!?
ไหล่ผมจับจากด้านหลัง ก่อนที่มือพี่วุฒิจะกดมันลงกับเตียง
“ ...................!”
“ ลืมตา!” พี่วุฒิบอก ผมลืมตาขึ้นตามที่สั่ง ผมมองเห็นใบหน้าพี่วุฒิอยู่เหนือขึ้นไปแม้จะไม่ชัด เพราะในห้องไม่ได้เปิดไฟ
“ .......................”
“ ………………….. ”
“ บอกดิว่ากรูกำลังทำอะไร?”
“ พี่ครับ พี่ครับ” ผมพูดเสียงสั่นเบา
“ บอกมา!” พี่วุฒิตะคอก ออกแรงกดไหล่ผมจนมันแทบฝังลงกับเตียง
“ พี่อย่าให้ทำแบบนี้ พี่อยากทำอะไรผมทำเลย ผมไม่ขัดขืนพี่” “ มรึงจะขัดขืน หรือไม่! กรูอยากทำ กรูก็จะทำ และมรึงก็หนีไม่รอด!”
“ ครับพี่ครับ ทำเลยครับ แต่อย่ารุนแรงกับผม” ผมขอร้อง อยากทำอะไรทำเลย แต่อย่ารุนแรงกับผมเป็นพอ
“ อย่าสั่งกรู!” พี่วุฒิพูดเสียงดังมือที่จับไหล่เปลี่ยนมาเป็นกำคอเสื้อ ผมใจหาย รับรู้อารมณ์พี่วุฒิที่กำลังมากขึ้นแน่ๆ
พี่วุฒิโกรธอะไรผม?!
“ ผมไม่ได้สั่งครับ”
“ถึงมรึงจะได้เป็นเมียกรู มรึงอย่าคิดว่ามรึงจะมีฮิทธิพลเหนือกรู กรูไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง”
“ ครับ ครับพี่” ผมบอกน้ำตาพุดขึ้นจนสายตามันเลือน
“ และถ้ามรึงทำแบบนี้อีก ได้เจ็บตัวแบบลืมไม่ลง!”
“ครับ ครับ” ผมตอบไม่รู้หรอกว่าแบบนี้คือแบบไหนแต่ต้องรับปากไม่ก่อน ไม่อยากให้พี่วุฒิโกรธไปมากกว่านี้
“ ดี ให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่มรึงกล้าไปอยู่กับคนอื่น”
“ ครับ” “ และอย่าริมาสั่งกรูไปทำงานหาเงินมาให้มรึงอีก”
“ครับ” โกรธที่ผมให้ไปทำงานซื้อตุ๊กตาให้ผมหรือครับ? แต่พี่วุฒิไม่จำเป็นต้องไปก็ได้ ผมไม่ได้บังครับ และก็คงบังคับไม่ได้ด้วย ....ผมไม่ได้สั่ง
“ สิ่งที่มรึงต้องทำคือเชื่อฟังกรู”
“ครับ”
“ และอย่าคิดไปมีคนอื่น ถ้ากรูรู้ว่ามรึงมีชู้กรูจะทำให้มรึงทั้งมันตายทั้งเป็น”
“ .......................ครับ” นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่พี่วุฒิชอบย้ำผมทั้งที่ผมไม่เคยคิดเลย ไม่เคยคิดจะนอกใจพี่วุฒิเลยสักครั้ง
“ กรูคิดแล้วเชียวว่า กรูขู่มรึงแบบนี้ดีกว่าการไปทำงานทุเรศๆแบบนั้นให้เหนื่อย” พี่วุฒิพูดก้มลงจูบหนักบนคอของผม..
“ .......ฮึ้ก...” ผมพยายามกลั้นเสียงสะอื้น เพราะรู้ดีว่าพี่วุฒิไม่ชอบ
“ ......................”
“ ..............................”
“ มรึงร้องไห้ อีกแล้ว ใช่ไหม?”
“ ไม่ครับ ไม่ใช่ ผมไม่ได้ร้อง” ผมบอก แต่มือพี่วุฒิสัมผัสหน้าเปียกๆของผม
“
โกหก! มรึงโกหกแม้อยู่ต่อหน้ากรู”
“ .........................” แล้วพี่จะเอายังไงกับผม ผมร้องพี่ก็โกรธ พี่จะให้ผมทำยังไง!
“ มรึงโกหก!” มือพี่วุฒิที่จับคอเสื้อผมเปลี่ยนเป็นกระชากจนขาด
“ พี่ครับ!?” ผมร้องเสียงหลง พยายามจะลุกขึ้น แต่อกถูกกดแน่นกับเตียง
“ พี่ครับ อย่าทำผม!!” ผมร้องขอลนลาน กลัวจับใจ
“ ไหนมรึงบอกว่าทำอะไรมรึงก็ได้”
“ทำได้ ทำได้ครับ แต่อย่าใช้กำลัง ยังไงผมก็ยอมพี่อยู่แล้ว” “ .........................”
ผวักะ! ผมโดนตบจนหน้าชา
“ ไม่ให้ทำแบบนี้ใช่ไหม?”
“ .....................อึ้ก ฮือๆ” หน้าผมเจ็บจนชา มือที่สั่นระริกจับหน้าตัวเองเตือนว่ามันไม่ใช่ความฝัน
“ ยังจะปากมากอีกไหม!?”
“ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ถึงได้ทำร้ายผมครั้งเล่า ทำไมทรมานผมแบบนี้ ทำไมไม่ฆ่าผมเลย ทำไม”
ผวักะ! “ ทำไมกรูต้องบอกมรึง”
” ผมไม่น่ากลับมาเลย ฮือๆ ผมกลับมาพี่ก็ซ้อมผมเหมือนเดิม ใช้กำลังกับผม ” เหมือนเดิม ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผมโง่ที่มองโลกในแง่ดีเกินไปว่าพี่วุฒิจะไม่ทำร้ายผมอีก
“ ไม่น่ากลับมาเรอะ!?” “ ฮือๆ............”
“ ไม่น่ากลับมาเรอะ!” พี่วุฒิพูดซ้ำประโยคเดิม ก่อนที่ผมจะโดนตบอีกครั้ง
“ ……. พี่ตบ ผมเจ็บ…… แต่ใจผมเจ็บยิ่งกว่า พี่รู้ไหมครับ” “ ดี งั้นดูว่ามรึงจะเจ็บเพิ่มขึ้นไหม!” พี่วุฒิพูดพร้อมดึงกางเกงและกางเกงในผมลง
“ พี่ครับ!!” ผมมือพยายามจับรั้งเอาไว้แต่มือมันสะเปะสะปะจับไม่ทันมือพี่วุฒิเลย
“ พี่ครับ ขอโทษ ผิดไปแล้ว อย่าครับ!” .
.
.
“ ฮือๆ” ผมนอนหันหลังให้พี่วุฒิ มันสุดจะกลั้นแล้วจริงๆ ผมเป็นตัวอะไรสำหรับพี่ ไม่รักแล้วยังทำร้ายผมครั้งแล้วครั้งเล่า
ผมน่าจะเข้าใจว่าหัวใจมันบังคับกันไม่ได้ ไม่งั้นผมก็คงไม่รักพี่วุฒิอยู่แบบนี้ แม้ผมจะอยู่ใกล้พี่วุฒ พี่วุฒิให้ผมเป็นเมีย ผมก็ดีใจ เพราะคิดว่าสักวันผมอาจจะได้รับที่มากกว่านั้น ผมอาจจะได้รักความรัก
แต่ที่ผมเป็นอยู่ตอนนี้ คือการที่ผมจะได้รับความรักอย่างงั้นเหรอ?
ผมทำไมถึงได้โง่แบบนี้
ผมควรจะถามพี่วุฒิให้แน่ใจไม่ใช่หรือไงว่า คิดยังไงกับผมไม่ใช่ให้ผมรักอยู่ฝ่ายเดียวแบบนี้
“ เงียบได้ป่ะ รำคาญ! หรือว่าครั้งเดียวไม่พออยากให้กรูเอาอีก ” เสียงพี่วุฒิบอกผมจากด้านหลัง ในห้องยังไม่เปิดไฟ....
“ ฮือๆ” ผมทำไม่ได้หรอก
ผมทำไม่ได้
“ ที่กรูทำมรึงกรู เพราะมรึงยั่วโมโหกรู มรึงโกหกกรู และยังมาบอกว่าไม่น่ากลับมา กรูทำแค่นี้ถือว่าปรานีมรึงแล้ว ไม่งั้นมรึงได้ฟื้นโรง-บาลเหมือนครั้งที่แล้วแน่”
“ .............................” นี่คือสงสารผมแล้วใช่ไหม?
“ ถ้ามรึงไม่อยากให้กรูโกรธอีก อย่ายั่วโมโห แล้วจะดีเอง อยากได้อะไรเดี๋ยวหามาให้!”
ผมไม่รู้หรอกว่าผมต้องทำยังไงพี่ถึงไม่โกรธ
ผมไม่รู้หรอกว่าผมไม่ทำยังไงพี่ถึงไม่โกรธ
สิ่งที่ผมทำก็ว่าคิดดีแล้ว แต่พี่ก็โกรธเหมือนเดิม หาว่าผมยั่วโมโหพี่ อาจจะเพราะเป็นผม ถึงผมอยู่จะเฉยๆพี่ก็โกรธผมได้ และผมไม่อยากได้อะไร นอกจากความอ่อนโยนจากพี่บ้าง
“ ..ฮือๆ”
“ เอ๊ะ! บอกว่าให้เงียบ !กรูไม่ชอบ! ” ตัวผมสะดุ้งเฮือก เอามือปิดปากปิดเสียง
“ ....................”
“ หงุดหงิดเว้ย !” พี่วุฒิพูดเดินผ่านหน้าผม ก่อนที่หยุดมอง แม้จะยังไม่เปิดไฟแต่ตาที่ปรับแสงจนชินแบบนี้ก็เห็นว่าผมหน้าตาเป็นยังไงเหมือนกับที่ผมมองเห็นหน้าพี่วุฒิ
“ ..................”
“ ถ้ากรูออกมามรึงยังไม่หยุดร้อง รู้ใช่ไหมว่ากรูจะทำยังไงกับมรึง ...”
“..................” ผมพยักหน้าตอบ เข้าใจ
“...............กรูจะทำให้มรึงร้องซ่ะให้พอ ” พี่วุฒิพูดจบก็เข้าไปในห้องน้ำพร้อมปิดประตูเสียงดัง
ผมนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะคิดว่า..ผมไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว
“ ...............” คิดได้อย่างงั้นผมก็คิดว่าจะไปไหนดี?
ไปไหน?
ไปไหน?
ถ้าไม่ไป ถ้าไม่ไป.... ผมกลัว
ถ้าไป ไปไหน ดี
กลับบ้าน!
ไม่ได้กลับบ้านไม่ได้เดี๋ยวแม่ไม่สบายใจเรื่องผม
คอนโดพี่ชนะ แต่ก็รบกวนพี่เขามามากแล้ว
แล้วผมจะไปไหน?????!!
แล้วถ้าผมหนีไปแล้วพี่วุฒิตามไปล่ะ พี่วุฒิจะโกรธไหม!
โกรธแน่นอน .............
ผมกลัว
แต่ผมจะไปจากที่นี่
กลับบ้าน แม่ต้องเข้าใจ
กลับบ้าน?
ต้อง ไป!
“ ฮือๆ” ในห้องน้ำเหมือนผมจะได้ยินเสียงน้ำ พี่วุฒิคงจะอาบน้ำ ผมหันไปมองนาฬิกาบนโต๊ะ หน้าปัดเรืองแสงบอกเวลาตี 3...
ผมลุกขึ้น
เจ็บ! ...............................................ที่ใจมากกว่านี้
ผมใส่กางเกง ใส่เสื้อยืด ทั้งที่ยังไม่เปิดไฟเก็บหนังสือใส่กระเป๋ายังไงพรุ่งนี้ก็ต้องไปโรงเรียนเก็บได้ 2 สามเล่ม ก็คิดว่าไม่เก็บแล้วเดี๋ยวไม่ทันเอากระเป๋าเงินก็พอ
“ ......ต้องไป ต้องไป” ผมบอกตัวเองที่ตัวสั่นเหมือนเจ้าเข้า เพราะรู้ดีว่าถ้าไม่ไม่รอด ตัวเองจะมีสภาพยังไง
เป้สะพายหลัง กระเป๋าเงินอยู่ข้างใน ไม่รู้ว่าจะไปไหน แต่รู้ว่าต้องไป
“ .......................” ถ้าพี่วุฒิออกจากห้องน้ำมาแล้ว ผมต้องโดนหนักกว่าเดิมแน่...โดนเหมือนวันนั้น โดนเหมือนวันที่แล้วๆมา
“ จะไปไหน!” พี่วุฒิถามยืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำ มีผ้าเช็ดตัวพันรอบเอว ส่วนผมมือจับลูกบิดประตูค้าง ทั้งผมทั้งพี่วุฒิต่างก็นิ่งงัน เหมือนกำลังลำดับเหตุการณ์ตรงหน้าว่ามันคืออะไร
เป็นผมที่รู้ตัวก่อน!?
“ !!? ” ผมจับลูกบิดเปิดประตู เห็นขาพี่วุฒิกำลังก้าว!ผมไม่รอช้าเปิดประตูออกได้ตัวก็พุ่งออกไป
ข้างนอกไฟสว่างขาว พี่วุฒิคงเปิดไฟทิ้งไว้
ผมวิ่ง......
“ จะไปไหน!?” พี่วุฒิวิ่งตามผม แล้วคว้าแขนผมได้ในที่สุด
“ ปล่อยครับ!” ผมบอกตัวแข็งทื่อ ทันทีที่ที่แขนถูกจับ
“ จะไปไหน!” “ ไม่รู้ครับ แต่ผมอยากหนี” ผมบอกหันหน้ากลับไป หน้าพี่วุฒิสีซีดก่อนที่จะขบกรามเป็นสันนูน พร้อมด้วยแววตาคมกริบกำลังจ้องมองผม
น่ากลัว
“ มรึงว่าไงนะ!” เสียงตะคอกพี่วุฒิเหมือนสียงคำราม ผมแทบจะลงไปนั่งหมดแรงด้วยความหวาดกลัว แต่มันไม่มีแรงพอจะทำอย่างงั้นตัวจึงได้ยืนนิ่ง
“ .........................” ไม่ไหวแล้ว
ไม่ไหวแล้ว ดูจากหน้าพี่วุฒิก็รู้
ร่างกายผมเย็นจนแม้แต่น้ำในกายก็กำลังแข็งตัว ทว่าได้ยินเสียงหวีดร้องของตัวเองหลังจากนี้
“ มรึงยังกลัวเรื่องในห้องน้ำคราวที่แล้วใช่ไหม! แต่คราวนี้มรึงจะกลัวเรื่องบนเตียงแทน” พี่วุฒิพร้อมลากผมกลับเข้าห้อง
“ พี่ครับ อย่าครับ!” ผมพยายามขืนตัวเองไว้แต่ก็ยังตัวก็ยังตามพี่วุฒิไปเพราะสู้แรงไม่ไหว
“ ‘อย่าครับ’ แล้วมรึงเคยพูดรู้เรื่องไหม! พูดดีๆไม่ชอบต้องให้ลงไม้ลงมือ”
“ แล้วพี่เคยพูดดีกับผมไหม? อึ้ก ฮือๆ”
“ ว่าไงนะ!” พี่วุฒิหันกลับมา
“ พี่มีแต่ใช้กำลังกับผม เหมือนตอนนี้… ไม่รักผม ทำไมต้องทำร้ายผมซ้ำแล้วซ้ำเล่า หรือว่าพี่เห็นว่าผมรักพี่เลยคิดจะทำอะไรกับผมก็ได้ ผมมีหัวใจรู้ไหม แต่หัวใจผมถูกพี่ยำยีจนแหลกคามือพี่ไปแล้ว....”
“ .......แล้วใครบอกว่ากรู.........” มือพี่วุฒิผ่อนแรงจากแขน ผมสลัดแขนพี่วุฒิหลุดได้ ผมก็หันกลับวิ่งทันที มือดึงประตูเปิดออกไป
“ จุม!” เสียงพี่วุฒิเรียกผมตามหลังผมไม่ได้หันไปมอง ผมรู้ถ้าผมหนีไม่พ้นผมคงยิ่งกว่าตายทั้งเป็น
“ กรูบอกให้หยุด!” พี่วุฒิตะโกนตามหลัง
ผมวิ่งผ่านลิฟท์ เพราะคิดจะลงบันไดตั้งแต่แรก
ช่วยด้วย
ช่วยผมด้วย อย่าให้พี่วุฒิจับตัวผมได้
ไอ้โปรดเถอะครับ
แม่ครับ ช่วยจุมด้วย
ผมวิ่งลงบันได้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ผมคิดว่ามันช้าเหลือเกิน ทำไมถึงไม่เร็วกว่านี้
“ .......!?” ผมหันกลับไปมอง พี่วุฒิวิ่งตามผมลง
ผมเร่งขาตัวเองให้มันเร็วกว่านี้
แต่
หมับ! “ !?!” แขนผมถูกจับแน่น ผมสบัดออกพร้อมหันกลับไป
“ อย่าคิดว่าจะหนีกรูพ้น!” น้ำตาผมร่วงท่วมหน้า
“ ..........................”
“ กลับ!” พี่วุฒิสั่งแล้วดึงแขนผมให้เดินขึ้นบันได้ ผมไม่ยอมเดิน พี่วุฒิเลยกระชากแทน
“
อย่าทำเก่งตัวมรึงสั่นกลัวกรูยังกะจับไข้ อย่าทำอวดดี!”
“...ช่วยปล่อยผมไปเถอะครับ...” ไม่รักก็อย่าทรมานกันเลย
“ ไม่ปล่อย!” “...................”
“ บอกให้มาก็มา อย่าให้กรูต้องใช้ไม้แข็ง” พี่วุฒิบอก มือผมอีกครั้งจับราวบันได้รั้งตัวเอาไว้
“ ............” ไม่ไปแล้ว
ไม่ไปแล้ว
“ อยากเจอไม้แข็งจริงๆ ใช่ไหม!” “ ปล่อยผมไปเถอะครับ” “ อยากเจอไม้แข็งจริงด้วย” พี่วุฒิริมฝีปากยิ้ม แต่ตากลับคมดุจมีด
“ พี่ครับ!” ผวักะ! หน้าผมถูกมือพี่วุฒิหวด จนแสบในครั้งเดียว อาจจะเพราะเพราะก่อนหน้านี้มันโดนไปหลายครั้งแล้วก็ได้
“ มา!” พี่วุฒิสั่งดึงแขนจนผมแทบล้ม มือผมที่หลุดจากจากราวบันได้พยายามแกะมือพี่วุฒิออกจากแขนผม
“ ปล่อยครับ ปล่อยผม” ผมบอก
“ ....................”
“ ปล่อยผม ฮือๆ” พยายามแกะมือพี่วุฒิ แล้วผมโน้มตัวต้านแรงดึงของพี่วุฒิ ขาก้าวตามที่พี่วุฒิดึง แต่มันก้าวก้าวเหยียบอากาศแทนที่จะเป็นพื้นซีเมนต์ ร่างกายผมเสียสมดุลหงายหลัง
“ จุม!??” พี่วุฒิร้อง มืออีกข้างพยายามจะจับตัวผม แต่ผมปัดออก แล้วดึงแขนตัวอีกข้างให้หลุดจากมือพี่วุฒิที่กำลังตกใจ
ผมใจหายวาบ!
ก่อนที่ทุกอย่างจะมืดสนิท เสียงพี่วุฒิที่เรียกชื่อผมค่อยๆห่างออกไป จนมันเงียบได้อย่างน่ากลัว
.
.
.
* * * * * *
.
.
“ ตื่นแล้วหรือครับ?” เสียงผู้ชายไพเราะ อบอุ่นถามผมเบาๆ เปลือกตาผมค่อยๆลืมภาพก็ค่อยชัดๆขึ้น
“ เจ็บ ตรงไหนหรือเปล่าค่ะ?” คราวนี้เป็นเสียงหวานๆของผู้หญิง หน้าเธอก็หวานไม่ต่างจากเสียง
“ ..........ปวดหัว” ผมบอกอย่างยากลำบาก มือก็ยกมาขึ้นมาจับหัวอย่างลำบากเช่นกัน
คอแห้งหิวน้ำจนแสบ
ได้กลิ่นยาฆ่าเชื่ออเหมือนโรง-บาล แต่ผมจะมาอยู่โรง-บาลในยังไง?
มือมีสายน้ำเกลือ ผู้หญิงใส่ขาวเหมือนพยาบาล หรือเป็นพยาบาลจริงๆจับแขนผมที่ยกขึ้นมาให้วางไว้แนบตัวเหมือนเดิม
“ หิวน้ำ” ผมบอกเสียงแหบ
“ ค่ะ รอสักครู่นะค่ะ” เสียงหวานบอกอีก
“ จำชื่อตัวเองได้หรือเปล่าครับ?” ผู้ชายที่น่าจะเป็นหมอก้มลงมาถามผม
“ จุมฟ้า ” ผมบอกทั้งคอแห้งๆ
“ อายุเท่าไรครับ?” ถามอีก ผมนึกแล้วตอบ
“ 17” หมอนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะถามอีก
“ จำได้ไหมครับ ว่าทำไมถึงมาอยู่ที่นี่!” ผมส่ายหน้าว่าไม่รู้จริงๆ พอนึกมันก็ปวดริ้วขึ้นมา
“ ไม่เป็นไรครับ” หมอบอกผม เตียงถูกปรับขึ้นนิดหน่อยแล้วแก้มน้ำก็มาจ่ออยู่ตรงปาก หลังผมถูกจับด้วยมือหมอเมื่อกี้พร้อมทั้งยกแก้วสูงป้อนผม
มือที่จับที่หลังทำให้รู้สึกแปลกๆ
หวาน น้ำที่กินมีรวหวานและเย็นเล็กหน่อย มันทำให้รู้สึกดี แต่มันน้อยเกินไปไม่อาจจะทำให้หายคอแห้งได้แค่ทุเลา
“น้ำ” ผมขออีก พยาบาลผู้หญิงคนนั้นเป็นพยาบาล?เอามาให้อีกครับ แต่แค่นิดเดียวเหมือนเดิม ผมจึงไม่ร้องขอเพิ่ม
ง่วง
คนแรกที่นึกถึงคือแม่
“ แม่อยู่ไหน?” ผมถาม แต่ผมไม่ได้ยินเสียงตอบ เพราะทุกอย่างมันมืดลงอย่างรวดเร็ว
.
.
.
.
.
“ จุม จุม ลูก” เสียงแม่เรียกผมจากใกล้นี่เอง ใกล้มาก
เมื่อตาผมเริ่มชินผมมก็มองเห็นหน้าแม่ ที่ยิ้มอ่อนหวานให้
“ แม่” ผมพูดเสียงไม่แหบ แต่หิวน้ำ
“ แม่ครับ” ผมยกแขนขึ้นอยากจะกอดแม่มาก คิดถึงแม่
“ ไม่เป็นไรแล้ว” แม่บอกลูบหัวผม
“ ฮือๆแม่ครับ” ผมร้องไห้โดยไม่ทราบสาเหตุแต่มันแน่นอยู่ในอก
“ ไม่เป็นไรแล้วจุม แม่อยู่ตรงนี้” แม่ยิ้ม แต่แฝงไว้ด้วยความไม่สบายใจ คงเป็นห่วงผม แล้วผมมาอยู่โรงบาลในยังไง?
“ แม่จุม?” ผมพยายามคิดแต่คิดไม่ออกครับ ว่าทำไมผมถึงมานอนแบะอยู่โรง-บาล
“ จุมตกบันได แต่ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว คุณหมดเช็ดดูทุกอย่างแล้วรียบร้อยดี รอแค่จุมตื่นเท่านั้นเอง เดี่ยวแม่โทรตามคุณหมอว่าจุมฟื้นแล้ว” แม่ยิ้มดีใจให้ผมก่อนที่ใช้โทรศัพท์ในห้องโทรบอกว่าผมตื่นแล้ว แล้วกลับมาถามผมว่าหิวน้ำไหม? ผมพยักหน้า ผมเทน้ำจากขวดสีใสใส่แก้วเอามาให้ผมกินแต่แค่ครึ่งแก้ว
“ ผมตกบันไดหรือครับ?” ผมถาม เพราะตอนตื่นมาครั้งที่แล้ว รู้สึกปวดหัวแต่ตอนนี้ไม่ปวดครับแต่เวียนหัวนิดหน่อย
“ ใช่จ้ะ หลับไปตั้ง 7 วัน แม่เลยลาพักร้อนประจำปีมาดูแลจุม เพราะไม่งั้นพี่เขาไม่ยอมไปเรียน แม่กล่อมอยู่นานกว่าจะยอม”
พี่?
พี่ใคร?
พี่ผมเหรอ?
ผมจำได้ว่าเป็นลูกคนเดียว หรือว่าผมตกบันได้จนสมองเลอะเลือนเลยลืมไปว่ามีพี่ชาย เพราะเรื่องผมตกบันได้ผมก็จำไม่ได้
“ พี่?”
“ ใช่ ตอนนี่พี่เขาไปเรียน เดี๋ยวคงมาเพราะ 4 โมงแล้ว วุฒิาเขาเอาโรงบาลเป็นบ้านเหมือนทุกครั้งที่จุมเข้าโรง-บาล นั่นแหละ” แม่บอกหัวเราะ ผมจะอ้าปากถาม แต่หมอและพยาบาลก็เข้ามาพอดี
“ .........?.............”
พี่วุฒิ?
* * * . * * *
ครบ100แล้วเจ้าค่ะ เมื่อวานก็ลงไปแค่ 10 จริงๆนั่นแหละ
