บุพเพวายร้าย
35.
“ กรูบอกให้ถอนคำพูด!” พี่วุฒิตะโกนเสียงดัง
“....................”
“........อยากเจอเหมือนในห้องน้ำอีกใช่ไหม ห๊ะ!” “ .............” แค่คิดผมก็เย็นยะเยือกไปถึงหัวใจ ไม่มีแม้แรงพูด ไม่มีแม้แรงจะส่ายหน้าบอกว่าไม่อยากเจออีกแล้ว
“ 1 อาทิตย์มรึงคงไม่จำ ต้องนอนโรง-บาลสักเดือน”
“ ไอ้วุฒิ มรึงจะบ้าไปถึงไหน!”พี่แบงค์พูดกระชากแขนพี่วุฒิให้ปล่อยมือจากแขนผม แต่พี่วุฒิไม่ปล่อย
“ แบงค์ อย่ายุ่ง!” “ มรึงจะให้น้องตายให้ได้เลยใช่ไหม!!” “ มันไม่ตายหรอก ถ้ามันจะตายกรูจะพามันไปโรง-บาลเอง”
ผมเอามืออีกข้างที่ไม่ได้ถูกจับไว้จับชายเสื้อพี่แบงค์ไว้ ไม่อยากให้พี่แบงค์ปล่อยแขนพี่วุฒิ...ผมกลัว
“ ทำไมวะ วุฒิทำไมต้องใช้กำลัง ทำไมไม่พูดกันดีๆ”
“ ไม่!” “ วุฒิ มรึงบ้าป่ะ? หรือว่ามรึงปกติ แต่พวกกรูประสาทกันเองที่คุยกับมรึงไม่รู้เรื่อง” พี่ชนะเดินเข้า แล้วดึงมือที่วุฒิออกจากจากแขนผม ในที่สุด 2 คนก็ชนะคนเดียว ตัวพี่วุฒิยังถูกพี่แบงค์ล็อกจากด้านหลัง
“ มรึงยังเป็นเพื่อนกรูอยู่ไหม!” พี่วุฒิตะโกนพร้อมพยายามดิ้นรนให้พี่แบงค์ปล่อย แต่ไม่สำเร็จ
“ เป็น” พี่แบงค์และพี่ชนะพูดพร้อมกัน พี่ชนะพอรู้ตัวว่าพูดพร้อมกันกับพี่แบงค์ก็ยักคิ้วเล่น ผมลูบรอยแดงเถือกที่พี่วุฒิจับเมื่อกี้ มันทำให้ปวดไปทั้งแขน
“ ถ้าเป็นเพื่อนกรู ก็ปล่อยกรู!” “ ปล่อยให้มรึงมาฆ่าจุมดิ ปล่อยให้โง่” พี่ชนะบอกเหมือนว่าตัวเองเป็นคนล็อกตัวพี่วุฒิไว้เอง แต่คนที่ล็อกตัวพี่วุฒิคือพี่แบงค์
“ มันเป็นของกรู กรูจะทำอะไรกับมันก็ได้!” “ กรูมาคิดๆดูแล้ว กรูว่ากรูปกติวะ แต่มรึงบ้า” พี่ชนะพูดพร้อมถือกระเป๋าสัมภาระของผมเมื่อกี้ขึ้นมา
เมื่อรู้ว่ายังไงพี่แบงค์ก็ไม่ปล่อย พี่วุฒิเลยหันมาจ้องผมแทน
“ ...............” ผมหลบหน้า ก้มลง
กลัว
ตัวที่เพิ่งหยุดสั่น สั่นเหมือนเดิมแล้ว
“ มรึงจะจ้องจุมให้ตัวทะลุเลยใช่ไหมไอ้วุฒิ” พี่ชนะพูด แล้วเดินไปหาพี่วุฒิ
“ พวกมรึงทำกรูแสบมาก!”
“ ไม่เป็นไรกรูไม่ถือ” พี่ชนะตอบ แล้วหันมาหาผม
“ จุมมีอะไรต้องเอาอีกไหม ถ้าไม่มีก็ไปคอนโดพี่เลย”
“..................?” ไปคอนโดพี่ชนะ?
“ ไอ้ชนะมรึงว่าไงนะ!” “ กรูจะพาจุมไปอยู่คอนโดกรูชัดป่ะเพื่อน”
“ กรูไม่ยอม!”
“ ก็มรึงมันบ้า กรูจะให้จุมอยู่กับมรึงได้ไง จุมก็บ้าตามมรึงดิ”
“ มรึงพามันไปไม่ได้!” “ ถ้ามรึงห้ามกรูได้ มรึงก็ทำเลย” พี่ชนะบอก พี่วุฒิเหมือนจะกระโจนใส่พี่ชนะแต่พี่แบงค์ก็ยังล็อกตัวพี่วุฒิไว้ได้แม้ว่าพี่วุฒิเกือบจะถึงตัวพี่ชนะแล้วก็ตาม
“ วุฒิก็มรึงเป็นแบบนี้ไง ไอ้ชนะถึงได้ต้องพาจุมไป” (พี่แบงค์)
“ กรูไม่ให้ไป ถึงมันไปกรูจะตามไปลากคอมันกลับมาเหมือนเดิม แล้วพอเอามันกลับมาได้กรูจะซ้อมมันให้หนักกว่าที่พวกมรึงจะจินตนาการออก” คำพูดของพี่วุฒิทำให้ผมสั่น ร่างกายที่ยืนอยู่เย็นยิ่งกว่าน้ำแข็ง เพราะแม้แต่ความรู้สึกก็หนาวจนสะท้าน
“ ถ้ามรึงจะทำอย่างงั้นตามใจเลย และอย่าคิดว่ากรูเป็นหมูให้มรึงเชือดไอ้วุฒิ กรูจะเอารูปมรึงให้ยามคอนโดกรู ว่ามรึงมันตัวอันตราย ห้ามเข้า และยังมีอีกกรูจะเอาไปโรงเรียนจุมด้วยเขาจะได้ไม่ให้มรึงเข้าใกล้จุม ....”
“ มันออกมานอกโรงเรียนกรูเอามันแน่!” “ยากวะ เพราะกรูและไอ้แบงค์จะไปรับไปส่งจุม และที่สำคัญมรึงอย่าเอาคนของพ่อมรึงมายุ่งเพราะกรูกับไอ้แบงค์ก็มีพ่อเหมือนกัน อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่เข้าใจ๋!” พี่ชนะดูน่ากลัวมาก ทำให้ผมคิดได้ว่าพี่ชนะก็เป็นเพื่อนพี่วุฒิ ต้องมีหลายสิ่งหลายอย่างที่คล้ายกันถึงเข้ากันได้
“ ....................”
“ วุฒิ พวกกรูแค่พาจุมไปอยู่คอนโดไอ้ชนะไม่ได้พาไปไหน และที่พาไปก็เพื่อให้มรึงทบทวนในสิ่งที่มรึงทำ ทบทวนความรู้สึกของมรึง ถ้าคิดถึงก็ไปหาได้” พี่แบงค์บอกพร้อมปล่อยตัวพี่วุฒิ
“........................” เมื่อเห็นว่าพี่วุฒิเป็นอิสระแล้วผมก็ไปหลบหลังพี่ชนะ เพราะผมกลัวว่าพี่วุฒิจะมาจับตัวผมไป
“ อย่าพามันไป ....”
“ เสียใจวะกรูไม่ไว้ใจมรึง เอาไว้กรูเห็นว่ามรึงโอเคกว่านี้ก่อนค่อยว่ากัน”
“ ชนะ มรึงเป็นใคร มาบอกว่ากรูโอเคไม่โอเค”
“ กรูเป็นใครถามมาได้นี่มรึงรู้จักกรูตั้ง 4 ขวบตอนนี้มรึงจะ 19 นี่ไม่รู้ว่ากรูเป็นใคร”
“ ชนะ!” พี่วุฒิตะโกน ในห้องมีผมสะดุ้งแค่คนเดียว
“ ชนะอย่าไปยั่วมัน”
“..................” พี่ชนะยักไหล่ พี่แบงค์พูดต่อ
“ ก็มรึงเป็นแบบนี้ไง กรูถึงให้จุมอยู่กับมรึงไม่ได้” พี่แบงค์บอกเดินมาสมทบกับพี่ชนะและผมที่ยืนอยู่ไม่ห่างจากประตู
“ ....................กรูจะไม่ซ้อมมัน..อย่าเอามันไป” ท้ายประโยคเสียงสั่นอย่างเห็นได้ชัด
“ กรูไม่รู้จักคนชื่อมัน ถ้ามรึงจะไปหาคนชื่อมันที่คอนโดกรูไม่มี แต่กรูจะบอกว่ามีใครอยู่คอนโดกรูบ้างเผื่อมรึงไม่รู้ มีชนะสุดหล่อ แบงค์ และจุม จำไว้ให้แม่น อย่าให้EQมาทำให้มรึงไม่มีIQ”(พี่ชนะ)
ผมหันกลับไปมองพี่วุฒิอีกครั้ง พี่วุฒิยืนท่ามกลางห้องที่ดูเหมือนใหญ่เกินจริง เสื้อผ้าที่พี่วุฒิใส่ก็ยับยู่ยี่ ผมเกิดความรู้สึกสงสาร
“ จุมอย่าไปสงสารไอ้วุฒิ เพราะควรจะสงสารตัวเองก่อน”(พี่ชนะ)
“ จุมไปเถอะ” พี่แบงค์บอก ผมจึงได้หันกลับมา
“ จุม อย่าไป!” ผมหันไป พี่วุฒิเดินมาหาผม
“ มรึงหยุดเลยไอ้วุฒิ” พี่ชนะยกมือห้ามพี่วุฒิไว้
“จุมพี่พอเข้าใจว่าจุมรู้สึกยังไง แต่ทุกอย่างก็เพื่อจุม เพื่อไอ้วุฒิด้วย ตอนนี้ไอ้วุฒิแค่มันจะเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งยังไม่ได้ มันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าถูกผิดคืออะไร เพราะมันถูกตามใจมาแบบผิดๆ ถ้าจุมใจอ่อนตอนนี้ทุกอย่างมันจะเหมือนเดิมหรืออาจจะเลวร้ายกว่าเดิม ให้มันอยู่กับตัวเองสักพักเถอะ” พี่แบงค์เตือนสติผม ให้เข้าใจว่าเด็กในคราบผู้ใหญ่จะต้องโตสักที
มีแค่ทางเดียวที่ผมจะทำให้เรื่องดีขึ้นคือผมต้องไป เท่านั้น?
“ ...............ครับ” ผมตอบพี่แบงค์และไม่คิดจะหันไปมองพี่วุฒิอีก
“ มรึงกล้าเหรอ!” พี่วุฒิตะโกนข้างหลังผม
สะดุ้งก้าวขาไม่ออก
“ จุมทั้งพี่และพี่ชนะจะไม่ให้ไอ้วุฒิมันทำอะไรจุมได้ และถ้าจุมไม่สอนไอ้วุฒิตอนนี้ ก็ไม่มีใครสอนมันได้แล้ว”
“ ……………………….. ” ผมเงยหน้าขึ้นมองพี่แบงค์ที่ยิ้มให้ แต่พี่ครับผมก้าวขาไม่ออก
ผมกลัว
“ เดินไม่ไหว พี่อุ้มนะ” พอพี่แบงค์พูดแบบนี้ ผมถึงยิ้มออก แล้วมันเรียกกำลังผมกลับมาพอจะเดินไปจากที่นี่ได้
“ โธ่เว้ย!” เสียงพี่วุฒิสถบ และตามด้วยเสียงหล่นแตก ก่อนที่ประตูจะปิดลง ......
“ ........................”
“ เข้มแข็งไว้จุม อย่างไอ้วุฒิมันต้องหักดิบ….แต่ไม่รู้ทำไมพี่รู้สึกสะใจ....ฮ่ะๆ” พี่ชนะบอก แล้วลิฟท์ก็เปิดออก ผมเดินเข้าไปก่อนตามด้วยพี่ชนะพี่แบงค์
ผมนึกเป็นห่วงพี่วุฒิขึ้นมาจะอยู่คนเดียวได้ไหม? แต่มาคิดดูผมนี่มันบ้าจริงๆจะอยู่ได้ไม่ได้ยังไง ...ผมไม่ได้สำคัญขนาดนั้น
.
.
.
.
คอนโดพี่ชนะอยู่ห่างจากคอนโดพี่วุฒิครึ่งชั่วโมง
“ เข้ามา อย่าได้เกรงใจ” พี่ชนะบอกเดินเข้าไปในห้องก่อน
ในห้องพี่ชนะเล็กว่าห้องพี่วุฒินิดหน่อย และมีห้องนอนแค่ห้องเดียว ซึ่งอยู่ด้ายซ้ายของประตู หน้าประตูห้องนอนเป็นครัว แบบเคาเตอร์เหมือนกับห้องพี่วุฒิ ส่วนฝั่งขวาของห้องเป็นห้องรับแขกกินเนื้อที่ของ 2 ใน 5 ของพื้นที่ทั้งหมด
“ ห้องหนุ่มโสดก็เป็นงี้แหละ” พี่ชนะบอก เดินไปกดน้ำจากตู้เย็นแล้วกินจนหมดแก้ว
“ อ้าวโสด แล้วแฟนมรึงอ่ะ?” พี่แบงค์ถาม
“ นางฟ้าไปเกาหลีเที่ยวกับครอบครับเฟ้ย!” พี่ชนะบอก ผมก็เคยๆได้ยินพี่ชนะพูดถึงเหมือนกันรู้สึกว่าแฟนพี่ชนะจะเป็นผู้หญิง
“ จุมเอาของไปเก็บ ในห้องได้เลย” พี่แบงค์บอก แต่ผมเงอะๆงะๆเพราะทำตัวไม่ถูก รู้ว่าตัวเองมารบกวนมาก เกรงใจก็เกรงใจ
“ ไม่ต้องเกรงใจ.. ซิวๆ” พี่ชนะพูดเหมือนรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ พร้อมเป็นคนไปเปิดห้องให้เอง และยืนรอให้ผมเข้าไป
ในห้องมีเตียงที่ใหญ่มากครับ ใหญ่กว่าเตียงขนาดคิงไซส์อีก
“ เตียงใหญ่ใช่ไหมล่ะ พี่สั่งทำพิเศษเลยนะ เพราะงั้นเรานอนกัน 3 คนไม่น่าจะมีปัญหา ถ้าไม่นอนดิ้นมาก”
“ มรึงไม่ใช่หรือไง นอนดิ้นไอ้ชนะ กรูตื่นมาที่ไรเอาตรีนพาดคอกรูทุกที” พี่แบงค์พูดหลังจากเดินเข้ามาในห้องแล้ว
“ ถ้ามรึงไม่พอใจ ลงไปนอนข้างล่าง”
“ ..........................” (พี่แบงค์)
“ ไม่เป็นไรครับ ผมนอนข้างล่างเอง” ผมบอก มาอาศัยเขาอยู่แล้วจะมาแย่งที่นอนเขาอีก
“ ไม่เป็นไรจุมนอนข้างบนน่ะดีจุมเป็นแขกแต่ไอ้แบงค์มันคนอาศัย.....”
“ เดี๋ยวพี่ไปนอนโชฟาข้างนอก” พี่แบงค์บอก
“ ผมนอนบนโชฟาก็ได้ครับ” ผมรีบอาสา
“ ไม่ต้องหรอก ให้ไอ้แบงค์มันนนอนน่ะดีแล้ว”
ตกลงกันสักพัก
สุดท้ายพวกเรา 3 คนนอนบนเตียงด้วยกันครับ
4 ทุ่ม แล้ว บนเตียงผมนอนตรงกลาง พี่ชนะนอนขวา พี่แบงค์นอนซ้าย รู้สึกแปลกๆครับ ทั้งลมหายใจ ทั้งการเคลื่อนไหวของร่างกายที่ทำให้ผมไม่ไว้ใจ ผมรู้ว่าพี่เขาดีกับผมมากแต่ผมก็อดคิดไม่ได้ว่าพี่เขาอาจจะลุกขึ้นมาทำอะไรผมก็ได้
“ จุมนอนไม่หลับเหรอ?” พี่ชนะถามผม
“ครับ อาจเพราะทั้งตอนบ่ายผมนอนในห้องพยาบาลก็ได้ ตอนนี้ผมเลยยังไม่ง่วง” ผมบอก
“ แล้วก็ไอ้แบงค์ มรึงจะนอนดิ้นทำไมหนักหนา ทุกวันมรึงหัวถึงหมอนแค่ 5 นาทีก็หลับแล้ว แต่ทำไมวันนี้ดิ้นกระสับกระส่าย” ผมก็คิดอย่างที่พี่ชนะพูด ไหนว่าคนที่นอนดิ้นคือพี่ชนะ แต่ทำไมตอนนี้เป็นพี่แบงค์
“ งั้นกรูไปนอนข้างนอก” พี่แบงค์บอกลุกขึ้นนั่ง แต่ยังไม่ได้ลุกออกไป
“ มีไร กรูไม่ใช่เพื่อนมรึงหรือไง?” พี่ชนะถามลุกขึ้นบ้าง ผมก็เลยลุกขึ้นตาม
พรึ่บ! พี่ชนะเปิดไปหัวเตียงแล้วเดินไปเปิดไฟให้ส่วงทั้งห้อง
พี่แบงค์นั่งก้มหน้าหันหลังมาทางผม พี่ชนะเลยเดินมานั่งลงข้างๆพี่แบงค์
“ พูดมา....” (พี่ชนะ)
“ ไม่มีอะไร...” พี่แบงค์ตอบลุกขึ้น แต่พี่ชนะก็ดึงมาให้นั่งลงเหมือนเดิม
“ กรูมัน เชื่อไม่ได้ใช่ไหม?”
“ ......................” พี่แบงค์ไม่ตอบ บรรยายกาศกำลังถูกบีบมากขึ้นเรื่อยๆ
กริ้งๆ
เสียงโทรศัพท์ผมครับ ผมลุกไปหยิบจากกองหนังสือที่ผมขนออกจากกระเป๋า
พี่วุฒิโทรมา“ .......................” แต่ผมไม่กล้ารับ มันจึงดังหนวกหู ผมปิดเสียงแต่ไม่กล้าตัดสาย
“ ทำไมไม่รับล่ะจุม?”
“ พี่วุฒิครับ” ผมบอกกำโทรศัพท์แน่น
“ จริงดิ” พี่ชนะว่าตื่นเต้น ลุกขึ้นแล้วเอามือถือจากมือผมไป
“ โทรมาไม่หยุดเลยแฮะ ท่าทางว่างจัด”
ผมหันไปพี่แบงค์ยังนั่งอยู่ที่เดิม.........
พี่วุฒิโทรมา 6 สายที่ไม่ได้รับ แล้วเงียบไปก่อนที่จะมีข้อความส่งมา พี่ชนะเป็นคนเปิดโดยมีผมดูอยู่ข้างๆ
‘กลับบ้าน’
ข้อความ 2 คำจากพี่วุฒิ ทำให้พี่ชนะหัวเราะ
“ เอาไงจุม ส่งกลับไปดีป่ะ?” พี่ชนะถาม แต่ผมส่ายหน้าบอกว่าไม่สงข้อความกลับ และในทันทีพี่วุฒิโทรมาอีก
“ โทรมาอีกแล้วไอ้หมาบ้า” พี่ชนะพูดแล้วส่งโทรศัพท์ให้ผม
“ จะรับก็ได้ พี่ไม่ได้ว่าอะไร จะว่าไปหักดิบมันเกินไปเดี๋ยวมันได้บ้าจริงๆ” พี่ชนะบอก แล้วลงไปนั่งกอดหมอนบนเตียง
ผมนั่งดูโทรศัพท์ 12 สายที่ไม่ได้รับ
14 สายที่ไม่ได้รับ
15 สายที่ไม่ได้รับ
16 สายที่ไม่ได้รับ
17 สายที่ไม่ได้รับ
18 สายที่ไม่ได้รับ
19 สายที่ไม่ได้รับ
20 สายที่ไม่ได้รับ
ผมคิดถึงใบหน้าพี่วุฒิที่กำลังหงุดหงิดที่ผมไม่ยอมรับโทรศัพท์คงน่ากลัวมาก
“ รับก็ได้จุม ...ไม่งั้นคืนนี้ทั้งคืนมันได้โทรจนเช้า” พี่ชนะบอก ผมก็คิดอย่างงั้น
ผมกดรับ และพี่วุฒิก็พูดก่อนที่ผมจะทันได้อ้าปาก
“ กลับบ้าน!” เสียงพี่วุฒิแทบจะตะโกนใส่โทรศัพท์ ถึงแม้จะไม่เห็นหน้าแต่รู้ว่าพี่วุฒิกำลังโกรธ ผมขนลุกพอคิดว่าจะต้องเผชิญหน้ากับพี่วุฒิตอนนี้
“ ........................” ไม่กล้าแม้จะตอบ
“ เร็วๆกรูรออยู่ข้างล่าง” พี่วุฒิบอก
“ .............................”
“ มรึงอยากให้กรูขึ้นไปลากคอมรึงใช่ไหม!” “ ..........................”
“กรูบอกมรึงให้ลงมา! ก่อนที่กรูจะโกรธ มรึงรู้ใช่ไหมว่ากรูโกรธแล้วจะเป็นยังไง!”
“ ...............................”
“ ........................มรึงคิดว่ามีคนคลุมกะลาหัวมรึง แล้วกรูจะทำอะไรมรึงไม่ได้ใช่ไหม!” เสียงพี่วุฒิเริ่มสั่นอาจจะเป็นเพราะโมโห
“ .............................................”
“ .............. ...................................................... ........................... ..........”
“ ............................................”ผมจะบอกว่า ‘พี่กลับไปเถอะครับ’ แต่ปากไม่ยอมขยับ
“ มรึงคิดว่ามรึงเป็นใคร! ที่กล้าทำแบบนี้กับกรู!” นั่นผมต้องถามพี่มากกว่าว่าผมเป็นใครสำหรับพี่
“ ............................”
“ ไหนมรึงบอกว่ารักกรู ทำไมกรูไม่ลงมาหากรู ทำไมมรึงไม่มา ” ผมร้องไห้ ....ใช่ผมรักพี่ แต่ว่าสิ่งที่พี่ทำกับผม....................และการที่ผมทำแบบนี้ไม่ใช่ว่าผมไม่รักพี่.....
“ .......................................................................................ลงมา ลงมา ลงมา ลงมาสิวะ!”“ ....................................”
พี่แบงค์ดึงโทรศัพท์จากมือผมไป
“ ไอ้วุฒิ ถ้าโทรแล้วทำให้คนที่รับเสียใจ ไม่ต้องโทรมา!” พี่แบงค์พูดแล้วปิดโทรศัพท์ ก่อนหันมาหาผม
“ ....................................”
“ ฮือๆ” “ จุม” พี่แบงค์กอดผมที่ยืนร้องไห้!?
ผมไม่ได้ผลักออก…………เพราะตอนนี้ผมอยากร้องไห้กับใครสักคน
“ เข้มแข็งได้ไหม” พี่แบงค์พูด
“ ฮือๆ พี่ครับ.....” ผมซบหน้ากับไหล่พี่แบงค์ น้ำตาผมไหลจนมันเปียกเสื้อสีขาวของพี่แบงค์
“ พี่ขอร้องอย่าทำให้พี่เป็นห่วง.................ไปมากกว่านี้...ไม่งั้นพี่จะ ..... ...” พี่แบงค์พูดเสียงเบาลงเรื่อยๆจนในที่สุดผมก็ไม่รู้ว่าพี่แบงค์พูดว่าอะไร
“ พี่ครับ ฮือๆ” ผมร้องไห้จนตัวสั่น ...อยากเข้มแข็งผมกำลังพยายามครับพี่ ผมร้องไม่หยุดจนกระทั่งหลับไปทั้งอย่างงั้น
.
.
ผมสะดุ้งตื่นขึ้น เพดานห้องสีขาวคือสิ่งที่ผมเห็น
มืออุ่นๆกุมมือผมอยู่? ผมหันมองมือที่กุมมือผม เรื่อยขึ้นมาต้นแขน ลำคอ ใบหน้าที่หลับสนิท พี่แบงค์......................นอนอยู่ข้างๆผม ร่างกายไม่มีส่วนสัมผัสกันนอกมือพี่แบงค์ที่กุมมือผมอยู่เท่านั้น
“ ............................” ผมหันมองอีกข้างไม่มีพี่ชนะ คงตื่นแล้ว
ผมดึงมือตัวเองจากมือพี่แบงค์ เพียงเบาๆก็หลุด
“ ....................................” แล้วเดินไปดูนาฬิกา 6 โมงเช้า ผมเลยเดินเปิดประตูออกไป
พี่วุฒ!? และพี่ชนะนั่งอยู่ กำลังกินโจ้กในครัว
พี่วุฒิหันควับมาหาผม
“ อ้าวจุมตื่นแล้ว เหรอ พี่ว่ากำลังจะไปปลุกพอดี แต่กลัวไอ้วุฒิมันเข้าไปด้วย เลยกำลังหาวิธี”
“ ............................”
“ ไอ้วุฒิมันเอาโจ้กมาฝาก กินก่อนไหม?
พี่วุฒิจ้องผมตาไม่กระพริบ
“ ไม่ครับ เดี๋ยวผมจะไปอาบน้ำ” ผมบอกลิ้นแทบพันกัน เดินกลับเข้าห้องแล้วปิดประตู
“ ......................” ผมยืนเพิงประตูหายใจเข้าลึกๆ เหมือนหายใจเท่าไรก็ไม่พอ ทั้งที่ไม่ร้อนแต่เหงื่อกลับออกมา
“ จุม?” พี่แบงค์ที่ยืนอยู่ถาม คงจะเห็นผมตั้งแต่เข้ามา
“ ผมไปอาบน้ำก่อนนะครับ” เพื่อหลีกเลี่ยง..ไม่อยากจะพูด ไม่อยากจะตอบคำถามอะไร ผมอยากจะเข้าไปอยู่ในห้องน้ำให้เร็วที่สุด
.
ออกจากห้องน้ำ ผมแต่งตัวเรียบร้อยแล้วถือกระเป๋าออกมา พี่แบงค์ พี่ชนะ และพี่วุฒินั่งบนโชฟา กำลังดูการ์ตูนเพื่อเด็กตอนเช้า
“ จุม เดี๋ยวให้ไอ้แบงค์ไปส่งนะ พี่ของีบหน่อย ง่วงเพราะมีไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้มาปลุกตั้งแต่ยังไม่ตี 5” พี่ชนะบอกหาวนอนแล้วเดินเข้าห้องที่ผมเพิ่งออกมา
“ ....................”
“ จุมกินโจ้กก่อนไหม?” พี่แบงค์ถาม
“ ...................” ผมคิดว่าไปกินที่โรงเรียนจะดีกว่าเพราะตอนนี้ก็ 7 โมงกว่าแล้วเดี๋ยวไม่ทัน เพราะคอนโดพี่ชนะอยู่ไกลจากโรงเรียนกว่าคอนโดพี่วุฒิ แต่พี่วุฒิกลับเดินผ่านผมไปเข้าครัวแล้วเอาชามโจ้กมาวางบนโต๊ะ ?
“ มากินดิ” พี่วุฒิพูดแล้วยืนนิ่งไม่ยอมไปไหน ผมหันไปมองพี่แบงค์ว่าเอาไงดี พี่แบงค์หันหน้าไปดูโทรทัศน์ เป็นการบอกว่าให้ผมตัดสินใจเอง
“ ........................ ” อย่างน้อยพี่วุฒิก็อุตสาห์เอามาให้ ผมกินสักหน่อยก็คงไม่เสียหาย
ผมเดินเข้าไปในครัว วางกระเป๋า แล้วนั่งลง พี่วุฒิก็นั่งตาม ผมสะดุ้งครับ!?
“ นมทำมาให้” พี่วุฒิบอก ทำให้ผมนึกถึงคำพูดของพี่ชนะว่าพี่วุฒิมาที่นี่ตั้งแต่ ตี 5แล้วนมขมิ้นทำตอนไหน?
“ ..........................”
“ ถ้ามรึงกลับไป มรึงอยากจะทำกับข้าวเหมือนเมื่อก่อนก็ได้ กรูไม่ว่า.........” อยู่ๆพี่วุฒิก็พูดขึ้นมา
พี่วุฒิกำลังง้อให้ผมกลับไปใช่ไหมครับ
“ .......................” คิดอย่างงั้นแล้วพูดไม่ออก และไม่รู้ว่าจะพูดว่าอะไรด้วย
“ DvD สารคดีที่กรูเอาไปทิ้ง กรูจะซื้อให้ใหม่ หรือมรึงจะไปเลือกเองก็ได้ เหมาหมดร้านกรูก็ไม่ว่า .....”
“ .....................” ผมพยายามกินไม่สนใจสิ่งที่พี่วุฒิพูดผมจะไม่ใจอ่อน ผมอยากจะเข้มแข็ง
“ เอาตุ๊กตาลิงไหม?” พี่วุฒิถาม ผมเงยหน้าขึ้น ผมสังเกตเห็นได้ความดีใจบนหน้าพี่วุฒิได้ ใจผมมันเหมือนจะอ่อนยวบยาบกับสีหน้าที่เห็น แต่เมื่อคิดว่าคนที่อยู่ตรงไม่ได้เข้าใจอะไรเลย ผมก็ต้องแข็งใจไว้
“ กรูรู้ว่ามรึงชอบ คราวนี้กรูจะซื้อให้ตัวใหญ่กว่าเดิม เอา 2 ตัวเลยก็ได้”
“ .........”
พี่วุฒิไม่เคยรู้อะไรเลยจริงๆ ว่ามันไม่ใช่เรื่องนั้น ของพวกนั้นผมดีใจมี่ได้ก็จริงแต่ที่ผมดีใจเพราะพี่วุฒิซื้อให้ และที่ผมไม่อยากไปกับพี่วุฒินั่นเพราะตัวพี่วุฒิเอง
ผมลุกขึ้น
“ จะไปไหน?” พี่วุฒิเดินตามผม
“ พี่แบงค์ไปกันได้หรือยังครับ?” ผมถามพี่แบงค์
พี่แบงค์ก็ปิดโทรทัศน์แล้วเดินมาหาผม ผมกับพี่แบงค์เดินออกมา แต่พี่วุฒิก็เดินตามไม่ห่าง
“ วุฒิจะกลับเลยใช่ไหม?”
“ กรูจะไปกับพวกมรึงด้วย” พี่วุฒิบอก
“ ขับรถตามพวกกรูเนี่ยนะ” พี่แบงค์พูดกดชั้นลิฟท์เป็นชั้นF
“ ใครบอก กรูจะนั่งคันเดียวกับพวกมรึง”
พอพี่วุฒิบอก พี่แบงค์ก็หันมามองผม
“ เอาไงจุม?”
“ แล้วแต่พี่แบงค์เถอะครับ” ผมบอกขยับตัวไปหาพี่แบงค์เพราะพี่วุฒิเดินมาใกล้
“ รังเกลียดกันมากเลยหรือไง? ผัวตัวเองแท้ๆ” พี่วุฒิเริ่มเสียงแข็งขึ้นมา
“ วุฒิถ้ามรึงยังไม่หยุด ก็อย่าหวังว่าจะได้นั่งรถกรู!” พี่แบงค์พูด มือพี่วุฒิที่กำลังจะมาจับแขนผมถูกชักกลับไป
“ ..............” ผมโล่งอกครับ
“ อย่ายุ่งเรื่องผัว เมียได้ป่ะ!” พี่วุฒิพูดแต่เสียงเบา พี่แบงค์ไม่ตอบ จึงไม่มีการโต้ตอบกันไปมา
จนกระทั้ง............
ในรถ พี่วุฒินั่งเบาะหลัง
“ เย็นกลับยัง? มารับ” พี่วุฒิพูดนั่นคงจะพูดกับผม
“ ........................” ผมออกไปนอกหน้าต่าง ทำเหมือนว่าไม่ได้ยิน
“ อยากได้อะไรเดี๋ยวซื้อให้” พี่วุฒิพูดต่อ และคงจะไม่เข้าใจอะไรต่อไปหากผมไม่พูดบ้าง ว่าสิ่งของพวกนั้นมันไม่ทำให้ผมกลับไปได้ เพราะหากว่าผมสำคัญกับพี่วุฒิจริง พี่วุฒิจะต้องทำให้กลับไปเอง
แม้จะไม่มั่นใจในตัวเอง แต่ที่พี่วุฒิมาตามผม ทำให้คิดว่าผมก็มีค่าสำหรับพี่วุฒิไม่มากก็น้อย
“ พี่ครับ”
“ อะไร” พี่วุฒิพูดพร้อมขยับตัวขึ้นมาแต่แค่นิดเดียว
“ พี่คิดว่าผมจะกลับไปเพราะของที่พี่ซื้อให้ผมหรือครับ?”
“ แล้วมรึงจะให้กรูทำยังไง!?”
“ แล้วพี่คิดว่าพี่จะปฏิบัติต่อผม
ที่เป็นเมียพี่ยังไง!” ถึงจะผมกลัวว่าพี่วุฒิจะทำอะไรผม แต่ความน้อยใจมันมาก..............มากขึ้น มากขึ้นจนผมไม่รู้จะทำยังไง
ความน้อยใจก็ทำให้เจ็บปวดได้
คำว่า ‘ขอโทษ’ ไม่เคยหลุดออกมาจกพี่วุฒิเลยสักครั้ง แม้แต่คำที่ใกล้เคียงก็ไม่มี…
“ ขึ้นเสียง!”
“ .........................” ผมเงียบ
“ ก็ทำอยู่นี่ไง!” พี่วุฒิตะคอกกลับมา แม้แต่เท้าในรองเท้าก็เย็น
“ พี่ทำอะไรกับผมบ้าง พี่เคยคิดไหมครับ ว่าผมรู้สึกยังไง?”
“ แล้วมรึงล่ะ เคยคิดถึงใจกรูบ้างไหม!”“ .......................” ผมพยายามระงับน้ำตาเอาไว้
และเพราะอะไร ผมถึงได้ยอมมาตลอด พี่ไม่เคยคิดเลยหรือครับ
“ .................จุมถึงแล้ว” พี่แบงค์บอก ผมไม่ทันสังเกตเลยครับว่ารถมาจอดที่หน้าโรงเรียนแล้ว
“ ขอบคุณครับ” ผมบอก
“ ตอนเย็นกลับไปกับกรู เดี๋ยวมารับ” ผมชะงัก มือจับประตูค้าง..............
ผมจะเข้มแข็งได้ไหม? ผมถามตัวเอง เพราะไม่มีใครตอบได้นอกจากตัวเอง
“ ............................................เลิกเรียนพี่แบงค์จะมารับผมใช่ไหมครับ?” ผมถามพี่แบงค์ก่อนเปิดประตูรถ
“ เดี๋ยวพี่มารับ”
“ ผัวบอกจะมารับไม่เอา เสือกจะให้คนอื่นมารับ””
“ พี่แบงค์ไม่ใช่คนอื่น!” ผมบอกแล้วออกจากรถวิ่งเข้าโรงเรียน ไม่ได้หันกลับไปมองอีก
ถ้าผมจะทำก็ทำได้ใช่ไหมครับ?
** ** ** ** **