“
จักร จักร จักรเดี่ยวก่อนจักร!? ” ผมวิ่งตามจักรออกมา
จักรมาอยู่ที่นี่ได้ไง!? แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาแล้ว แต่ผมจะทำยังไงต่อจากนี้
ต่างหาก!? “
จักร!? ” ผมคว้าแขนจักรได้ในที่สุด จักรสะบั้ดแล้วผมยอมปล่อยจะจักรก็จะง้างมือจะชกผมอีก แต่คราวนี้ผมรู้ตัวจับมือจักรไว้ทัน
“
ปล่อย!? ” จักรตวาด ไม่ยอมหันมามองหน้าผมด้วยซ้ำ
“จักรหันหน้ามาคุยกันดีๆ” ผมบอก พยายามถ่วงเวลาในหัวหมุนไปหมดเพราะคิดหาเหตุผลดีๆที่ผมมาอยู่ที่และสิ่งที่จักรเห็น
ตายแน่ ตายแน่
“
จะคุยทำไมให้เปลื้องน้ำลายกับคนไม่รู้จักพอ! ”
“ จักรฟังพี่ก่อน มันไม่ใช่อย่างที่จักรเห็น” ผมบอก ใจร้อนรน
“
ไม่ใช่แล้วอะไร พี่บอกผมว่ามาเลี้ยงลูกค้า แต่สิ่งที่ผมเห็นพี่นอนให้ผู้หญิงขย่ม มีผมกับพี่แบงค์ไม่พอใช่ไหม! ?” จักรว่าหันหน้ามา ตาแดงเหมือนจะร้องไห้ผมอึ้งพูดไม่ออก
“ จักรพี่มาเลี้ยงลูกค้าจริงๆ” ผมบอก
“ ลูกค้ากลับไปแล้ว
แต่พี่ยังอยู่มันหมายความว่าไง!? ”
“ แล้วที่จักรมาที่นี่พี่ยังไม่ถามสักคำ”
“ เอ้อ คิดว่าคนอื่นเขาจะเป็นตัวเองหรือไง
!? ” จักรว่ากำลังจะวิ่งไปอีก ผมกอดจักรจากด้านหลังแล้วยกตัวให้ขาไม่ถึงพื้น เรื่องแรงและขนาดร่างกายผมชนะขาดอยู่แล้วครับ
“
ปล่อย ปล่อยเว้ย!? ” จักรดิ้นขาถีบในอากาศ แต่ผมก็พามาถึงรถจนได้
“
เปิดประตู!? ” จักรว่าทุบประตูจะให้ผมเปืดให้แต่เรื่องอะไรละ ถ้าเปิดให้หนีกลับบ้าน แล้วไม่มีทางที่ผมจะได้แก้ตัวได้ในเร็ววันนี้หรอก
“ พี่ไม่เปิด จนกว่าถึงคอนโด!”
“
พี่ต้องเปิด ผมจะลง!? ” จักรตะโกน ท่าจะเอาไม่อยู่แล้ว เป็นไงเป็นกัน ผมดึงจักรเข้ากอดก่อนจะจูบปากที่กำลังตะโกนโวกเวกนั่นแหละครับ จูบแบบหนักหน่วงเอาให้เจ็บปากกันไปเลย คราวนี้ยอมอยู่นิ่งผมเลยยอมปล่อยแต่ก็ไม่วายยกกำปั้นมาจะตีผม
“
ลองตีพี่สิ!? จะปล้ำคารถนี่แหละ อย่าคิดว่าพี่ไม่กล้า! ” ผมขู่ ปากเม้มปากอย่างที่ตอนไม่พอใจมักจะทำ
“ ดีแต่ใช้กำลัง!?” “ ถ้าไม่ทำแบบนี้จักรก็หนีกลับบ้าน คงไม่ฟังที่พี่พูด”
“ แก้ตัว!?” “ เดี๋ยวไปคุยกันที่ห้อง” ผมว่าขับรถออกมาได้สักที ตลอดทางเงียบไม่พูดอะไรครับ เดี๋ยวไปสะกิดต่อมจักรให้อีก คราวนี้คงต้องจอดรถเอาเมียจริงๆ
“……………………………….” ตอนนี้หาข้อแก้ตัวไปพลางก่อนๆก่อนอื่นคือ สิ่งที่จักรเห็นจะแก้ต่างให้ตัวเองว่าอะไรดี คือในตอนแรกผมไปเลี้ยงรับรองจริงๆ พอลูกค้ากลับไปแล้ว ผมคิดว่าอยู่ต่ออีกหน่อยคงไม่เป็นไร เพราะน้องๆที่นี่ก็สวยๆทั้งนั้น ผมก็สนุกไปเรื่อยไม่ได้คิดอะไร และไม่คิดว่าจักรจะมาเจอแบบจะจะแบบนี้
ใครพอจะช่วยผมได้บ้างเนี่ย
แบงค์? ไอ้แบงค์ไม่ได้ไม่ได้!? เรื่องมีแต่จะไปใหญ่ เพราะรายนั้นเหมือนจะจัดการง่ายแต่เคลียร์ยากกว่าจักร น่ากลัวไปคนละแบบ
มาถึงคอนโด แต่จักรไม่ยอมลงจากรถ
“จักร” ผมเรียกเปิดประตูรถรอ แต่อีกคนนั่งหน้าหยิกไม่ขยับเขยื้อน
“ จักรจะลงมาดี หรือจะให้พี่อุ้มออกมา” ผมว่าแกมขู่ ขนาดมีฉะนักติดหลังก็ทำใจดีสู้เสื้อไปก่อนครับ
“
ไม่ต้อง! ” จักรว่ายอมออกมาจากรถผมรีบจับมือไว้เดี๋ยววิ่งหนีไปไหนอีก จักรจ้องผมไม่คิดว่าผมจะรู้ทัน
“ ไม่ต้องมาจับ โตแล้วไม่ใช่เด็ก”
“ โตแล้วไม่ใช่เด็กนี่แหละตัวดี” ผมว่าลากจักรเข้าไปในลิฟท์อย่างทุลักทุเล จนพาตัวเข้ามาในห้องแล้วผมจึงยอมปล่อยมือ
“ จักรไปที่ Rate Seven ทำไม?” ผมถาม พยายามกลบเกลื้อนความผิดตัวเองก่อน
“……………” จักรเงียบครับ ทั้งที่เมื่อกี้ตะโกนไม่หยุด
“………….จักร?”
“ ถ้าไม่ไปจะรู้เรอะว่ามีคนไม่รู้จักพอ บอกมาได้ไปเลี้ยงลูกค้าโกหกหน้าด้าน!?” “ จักรฟังพี่นะ พี่ไปเลี้ยงรับรองลูกค้าจริงๆ และพี่ก็กำลังจะกลับแต่มาม่าที่นั่นรู้จักพี่เลยชวนพี่คุยอยู่ต่ออีกหน่อย พี่ก็ว่าจะกลับแล้ว จักรก็เปิดประตูเข้ามา” ผมอธิบายตามที่คิดเอาไว้แล้ว ซึ่งผมไม่คิดจะบอกความจริงแน่นอนว่าผมจะไปต่อกับโคโยตี้ที่บนตัวผมนั่นแหละ
“
พี่คิดว่าผมโง่เรอะ !? จะกลับบ้าจะกลับบออะไรนอนแผ่ราบให้เขานั่งขนาดนั้น!!! ”
“ ใช่
เฮ้ย!? ไม่ใช่จักร ไม่ใช่ นั่นเป็นอุบัติเหตุ” ผมบอกเอาน้ำเข้าลูบไว้ก่อน
“
อุบัติเหตุใช่ไหม!? อุบัติเหตุ” จักรว่าหันซ้ายแลขวา ก่อนที่จะหยิบกรอบรูปได้ขว้างใส่ผม ผมหลบหวุดหวิดเส้นยาแดงผ่าแปด
“
จักร เดี๋ยวหัวร้างข้างแตก” ผมว่าลนลานเพราะจักรกำลังจะหาของมาปาใส่ผมอีก ซึ่งก็เป็นอะไรที่ใกล้มือที่สุดแหละครับ ไม่ว่าจะเป็นรีโมท กล่องกระดาษชิชชู นาฬิกา หมอนอิงที่โซฟา แก้วน้ำ
เคร้ง !? แก้วร่วงลงพื้นแตก ต่อไปคงเป็นหัวผมที่แตก ไม่รู้ว่าผมจะหลบไปได้อีกกี่ครั้ง
“ จักร เดี๋ยวโดนพี่จริงๆ” ผมบอกแกมขอร้อง
“
เออ! อยากให้โดนเหมือนเผื่อจะรู้จักพอมั้ง!? ” จักรว่าไม่ฟังผมสักนิด
ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูเชื่อมห้องนี้กับห้องไอ้แบงค์ที่เพิ่งทำไปเมื่อเดือนที่แล้ว เพราะห้องจักรกับห้องไอ้แบงค์ติดกันจักรอยากให้เป็นห้องเดี่ยวกันเลยทำประตูเชื่อมจะได้เข้าออกโดยไม่ต้องออกไปนอกห้อง
“……………..”ไอ้แบงค์เปิดประตูเข้ามา หน้าตาผมเผ้าบ่งบอกเลยว่าเพิ่งตื่น
“ เสียงเอะอะไรชนะ?” ไอ้แบงค์ถาม มองไปรอบห้องๆก่อนที่จะมาที่ผมและหันไปหยุดที่จักร
“ คืออย่างงี้แบงค์….”ผมไม่ได้ทันได้พูดจบไอ้แบงค์ก็เดินไปหาจักรโดยไม่ฟังผมให้จบก่อน
“ จักร เป็นอะไรทำร้ายข้างของทำไม?” ไอ้แบงค์ถามจักร ส่วนผมกลายเป็นธาตุอากาศไปแล้ว
“ พี่ชนะนอกใจ จักรจับได้คาหนังคาเขายังมาปากแข็งไม่ยอมรับ จักรไม่ไหวแล้วนะพี่…ฮือๆ” จักรร้องไห้เข้าไปกอดไอ้แบงค์ ตามด้วยไอ้แบงค์หันหน้าทำตาขวางใส่ผม
ตายยิ่งกว่าตาย
“ ชนะ
!? ” แล้วยังเรียกผมเสียงเหี้ยมอีก
“ แบงค์ คือ…”
ไม่ได้การแล้ว กับไอ้แบงค์จะพูดโกหกไม่ได้เพราะรู้ไส้รู้พุงผมหมด ขืนโกหกไปมีแต่จะเรื่องใส่ตัวเพิ่มขึ้น ต้องสารภาพความจริงออกไปและขอความเห็นใจ
“ คือวันนี้ กรูมีเลี้ยงรับรองลูกค้าของบริษัทที่ผับ แล้วพอเลี้ยงอะไรเสร็จกรูก็นั่งต่ออีกหน่อย….แล้วเพราะPRสนุก แล้วเขาก็ชวนกรูไปเที่ยวต่อ แต่กรูไม่อยากไปแต่ก็ต้องให้เกียรติเขาเลยยังนั่งคุยเล่นกัน ที่นี้นะ จักรไม่รู้มาจากไหนอยู่ก็เปิดประตูเข้ามา ก็เท่านั้นเอง” ผมบอกกลืนน้ำลายไม่ลงสักที
“ ตอนบอกกับผมไม่เห็นบอกยังงี้ ตอนที่ผมไปเจอพี่เขากำลังจะเอากันอยู่แล้ว” จักรบอกไอ้แบงค์
“ ไม่ใช่เลย แบงค์ ไม่ใช่ จักรเข้าใจผิดไปเอง” อันนี้จักรเข้าใจผิดจริงๆผมไม่คิดว่าจะมีอะไรในห้องนั้นหรอกครับ เพราะตกลงจะไปข้างนอกกันอยู่แล้ว
“ ชะนะ” ไอ้แบงค์ว่าจ้องหน้าผมเหมือนกำลังสแกนสิ่งที่ผมบอก
“ ครับแบงค์”
“ กรูไม่เข้าใจว่าเสร็จงานแล้วทำไมมรึงยังนั่งต่อ”
“ ก็น้องเขาคุยสนุกดี” ผมบอกหายใจไม่ทั่วท้อง
“ นี่เป็นคำแก้ตัว”
“ ก็………….”
“ เขาคุยสนุกหรือว่ามรึงกะจะเอาเขา เขาหน้าอกใหญ่แบบที่มรึงชอบใช่ไหม มรึงอ้าปากกรูก็รู้ว่าคืนนี้มรึงต้องไปนอนกับใครสักคน หรือไม่จริง!?”
“…………….” ก็จริง
“ แล้วแบบนี้เรียกว่าอะไร?!”
“ แบงค์ กรูไม่ได้คิดอะไรเลย น้องเขาชวนกรูเห็นว่าของมาประเคนอยู่ตรงหน้าไม่เอาก็..”
“ มรึงไม่ต้องพูดแล้วชนะ ไอ้คำว่าไม่ได้คิดอะไร มันทำให้กรูเจ็บ นี่มรึงไม่ได้คิดถึงกรูกับจักรเลยใช่ไหม
!? ”
“ ยังไงกรูก็รักมรึงกับจักร ที่เหลือกรูสนุกๆ”
“บอกว่าแล้วไงชนะว่าไม่ต้องพูดไม่อย่างฟัง!?”
กริ้ง
กริ้งกริ้ง
กริ้งกริ้ง ใครวะโทรมาตอนนี้ ผมว่าจะไม่รับแล้วแต่มันก็ดังไม่หยุด เบอร์ไม่คุ้นเลย
“ รับและเปิดโฟน” ไอ้แบงค์สั่งเรียบๆแต่น่ากลัวมาก ผมเลยจำใจรับอย่างช่วยไม่ได้
“ ฮัลโหล ชนะครับ”
“ พี่ชนะ ผมเองนะครับทิมจำได้ไม่ครับ” ทิม หรือว่าจะเป็นนักศึกษาฝึกงานที่บริษัทผม!? เป็นลูกชายของเพื่อนพ่อที่ฝากมา ผมรู้แหละว่าน้องเขาสนใจผม ก็คุยหลายครั้งอยู่ จำได้ลางๆแล้วว่าวันนี้ชวนผมไปเที่ยวกับก๊วนเพื่อนน้องเขา แต่ผมมีเลี้ยงรับรองลูกเลยปฎิเสธไป เห็นบอกว่าอยากให้ผมไปรับกลับบ้านด้วย ผมตอบเอาเท่ว่าไม่มีปัญหา ไม่คิดว่าจะโทรมาจริงๆ
เหงื่อตก
โทรมาทำซากอะไรตอนนี้!? ต้องทำเป็นไม่รู้จักรไว้ก่อนและชิงวางสายและกดปิดเครื่องไปเลย
“ ใครครับ แค่นี้ก่อนนะครับ เอ้ย!?” ไอ้แบงค์แย่งโทรศัพท์จากมือผมไปแล้วครับ ซวยแล้วไง
“ อะไรครับ จำกันไม่ได้แล้วไหนใครบอกว่าจะมารับ”
“……………………..”
บรรลัย!? ผมหันไปมองไอ้แบงค์ทีจักรทีแทบจะฉีกผมออกไปชิ้นๆแล้ว
ไอ้แบงค์กดปิดเครื่องผมไปเรียบร้อย
“ นี่เป็นนักศึกษาฝึกงานที่พ่อกรูฝากมาไงแบงค์ ..ที่กรูเคยเล่าให้ฟัง….” ผมอธิบายอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องมีใครถาม
“ แล้วทำไมโทรให้ไปรับตอนตี2 นักศึกษาฝึกงานที่ไหนเขาทำแบบนี้!?”
“ จริงๆแบงค์ ไม่ได้มีอะไรกันเลย” ผมบอก
“
โกหก! ” (จักร)
“ ตอนนี้ไม่มีแต่อนาคตอยากมีใช่ไหมพี่ชนะ!?”
“ บอกมาเถอะชนะว่ามรึงอยากได้เขา น้องเขาคงเป็นแบบที่มรึงชอบ ตัวเล็ก ผิวขาวและยิ่งใส่ชุดนักศึกษามรึงยิ่งชอบ”
เอ่อเอากันเข้าไป ถึงผมจะรู้ว่าผมผิด แต่ก็รู้สึกเหมือนโดนรุม ไม่มีใครฟังผมสักคน ผมบอกว่าไม่มีอะไรกันทำไมไม่เชื่อกันบ้าง!?
“ เอ่อ กรูอยากได้น้องเขาก็น้องเขาจะให้ กรูไม่ได้ไปขอไม่ได้ทำอะไรเลย กรูรักน้องเขาก็ไม่ แค่ผ่านมาก็ผ่านไป ยังไงหัวใจกรูก็รักมรึงรักจักร”
“ พี่ชนะเห็นแก่ตัว ผมไม่น่ามารักพี่เลย ฮือๆ พี่แบงค์ จักรไม่น่ามารักคนแบบนี้เลย”
“ หมายความว่า ถ้ามีใครมาชอบกรูหรือจักร และถ้ากรูหรือจักรจะไปมีอะไรกับเขามรึงก็คงไม่ว่าอะไรใช่ไหม?” คำพูดไอ้แบงค์เหมือนมีดกรีดใจผม ถ้าไอ้แบงค์กับจักรไปมีอะไรกับคนอื่นนอกจากผม ผมก็คงยอมไม่ได้….
“ แบงค์…กรู..ขอ…”
“ ไม่ต้องอะไรทั้งนั้นชนะ เพราะถ้าแค่นี้มรึงคิดไม่ได้ กรูก็ไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น!” ไอ้แบงค์ว่าจ้องผมเขม็งก่อนที่หันหน้าไปหาจักร
“ จักรเดี๋ยวไปอยู่บ้านพี่ ไปเก็บของ” ไอ้แบงค์บอกจักรผมรีบเข้าไปในห้องเก็บข้างของ ผมเข้ากอดไอ้แบงค์ไว้
“ แบงค์ ขอโทษ ต่อไปจะกรูจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว ขอโทษที่กรูไม่คิดถึงใจมรึงไม่คิดถึงใจจักร กรูผิดเอง กรูมันเลวกรูมันไม่รู้จักพอ” ผมบอกพยายามพูดที่จะรั้งไอ้แบงค์ไว้
“ ครั้งที่แล้วกรูจับได้ว่ามรึงไปกิ๊กนักศึกษามรึงบอกว่าเขายั่วมรึง จะไม่มีครั้งต่อไป มรึงบอกเหตุผลว่าเพราะจักรไม่ค่อยยอมมีอะไรกับมรึงพอเขามายั่วมรึงเลยอดใจไว้ไม่ไหว ทั้งที่มรึงก็มีกรู มาคราวนี้มรึงก็บอกจะไม่ทำอีก พอเถอะ”
“ แบงค์ กรูสำนึกผิดแล้วจริงๆ” ผมบอกกลัวขึ้นมาจับใจว่าจะเสียไอ้แบงค์และจักรไป
“ ปล่อย” ไอ้แบงค์ว่าผลักผมออกมา
“ พี่แบงค์!?” จักรว่าเกาะแขนไอ้แบงค์แน่น
“จักรพี่ขอโทษนะ” ผมว่า
“ ………..” จักรไม่แม้แต่มองหน้าผมเอาหน้าซบแขนไอ้แบงค์ท่าเดียว
“ พี่แบงค์ไปได้หรือยังครับ?” จักรถามเหมือนอยากจะไปจากที่นี่เต็มแก่ ไอ้แบงค์หันมามองผมแวบหนึ่งก่อนจะเดินไปอีกห้องพร้อมจักร
“
แบงค์!? ”
“ ถ้ามรึงสำนึกผิดจริงๆก็อย่าตามมา เพราะยังไงกรูกับจักรก็รักมรึง แต่มรึงรักกรูกับจักรหรือเปล่าถึงได้ทำแบบนี้…”
“…………………..”
ผมก้าวขาไม่ออก ได้แต่มองแบงค์และจักรเดินจากไป
ผมจะเสียคนไอ้แบงค์และจักรไปจริงๆใช่ไหม? แค่คิดน้ำตาผมก็ไหลร่วงลงมา
ใครจะคิดว่าเรื่องที่เราคิดว่าไม่สำคัญจะทำร้ายจิตใจคนที่เรารักขนาดนี้ นั่นเพราะผมคิดเอาแต่ได้อยู่ฝ่ายเดียว ทั้งที่ผมก็ได้รับมามากจนเกินพอ
“……………………………..” เพิ่งจะคิดได้ คงไม่สายเกินไปใช่ไหมแบงค์ จักร อย่าเพิ่งคนโง่ๆคนนี้ไปเลย ถ้าไม่มีไอ้แบงค์และจักรผมก็ไม่รู้ว่าอยู่ต่อไปได้ยัง
ผมมองไปรอบๆห้อง ข้าวของที่จักรขว้างใส่ผมเกลื้อนเต็มห้องไปหมด น่าจะมีสักชื้นที่โดนหัวผมบ้างผมจะได้ได้สติเร็วกว่านี้ เผื่อว่าผมจะได้รับผิดเร็วกว่านี้ ก่อนที่เรื่องมันจะเลยเถิดมาขนาดนี้
ผมไม่คิดไม่ได้จริงๆ ผมคิดว่าถ้าจักรกับไอ้แบงค์เรื่องที่ผมไปยุ่งกับคนอื่นก็ไม่เป็นอะไร ลืมคิดไปว่าถ้าไอ้แบงค์กับจักรทำแบบนี้บ้างจะเป็นยังไง
ทำไมผมถึงโง่แบบนี้….คนเราจะรู้ค่าสิ่งที่มีอยู่ก็ต่อเมื่อไม่มีแล้วใช่ไหม?
ผมไม่อยากสูญเสีย ผมสำนึกผิดแล้วจริงๆ
**** * * * ****
ผมลืมตามองเพดาน ยังจำเรื่องที่เกิดเมื่อคืนได้ทุกนาที แม้ไม่รู้ว่าหลับไปตอนไหน ตอนนี้ห้องทั้งห้องเงียบกว่าที่เคยเป็น ในหัวใจผมกลับยิ่งเงียบยิ่งกว่า
“……………” ไม่มีจักรคอยปลุกเหมือนเคย ไม่มีจักรที่ชอบปลุกใช้กำลังเอาหมอนมาตีผมบ้างละ เอาน้ำมาลูบหน้าบ้างละ เอาน้ำแข็งใส่เสื้อผมบ้างละ ใส่กางเกงบ้าง ดึงหูผมบ้างละ สารพัดวิธีที่จะคิดออก บางครั้งก็ผมโมโห แต่จักรกลับหัวเราะเหมือนได้แกล้งผม พอผมจะเอาคืนก็หนีไปหาให้ไอ้แบงค์ช่วย สุดท้ายผมก็ต้องเป็นฝ่ายยอมแพ้ไปเอง
แต่ตอนนี้เหลือแต่ความว่างเปล่า ข้าวของยังเกลื้อนกลาดกระจัดกระจายเหมือนเมื่อคืนไม่มีผิดเพี้ยน
ผมไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหน? ผมรู้ว่าคราวนี้ผมทำผิดต่อจักรกับไอ้แบงค์จริงๆ เพราะรู้ว่าตัวเองผิดนั่นแหละเลยกลัว อะไรที่ควรพูด ความรู้สึกที่มีก็บอกไปหมดแล้ว แต่ทุกอย่างกลับแย่ลงกว่าเดิม
ขอโทษ
คำพูดแค่นี้ไม่เพียงพอที่ลบล้างความผิดของผมได้ ผมรู้ เพราะไม่ใช่คำพูดแรก ผมเคยพูดมันมาแล้ว และจักรไอ้แบงค์ก็ยกโทษให้ผมเสมอ
“…………………………”
เงียบ
“……………………………..”
“ อึ้ก ฮือๆ” ขอโทษ ขอโทษ
คิดถึง
คิดถึง
อยากเจอหน้า แต่ไม่กล้าไปเจอ
“……………อึ้ก อึก” ผมกำโทรศัพท์แน่น อยากจะโทรหาจักรและไอ้แบงค์ ทำได้เพียงแค่คิด จะต้องทำยังไงถึงกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ ไม่รู้เลย
'ถ้ามรึงสำนึกผิดจริงๆก็อย่าตามมา...... '
** ** * ** **
คิดไว้ว่าจะทำน้องจุมเป็นหนังสือให้ได้ในปีนี้ นี่ก็ปาเข้าเดือน 3 ไม่คืบหน้าไม่คืบหน้า
ไม่อยากให้เป็นแค่คิดเลยเน้อ T^T
ถ้าทำไม่ได้ในปีนี้ ก็คงไม่มีปีได้ทำ