
13
“…………………” จุมค่อยๆเดินมา ไขกุญแจเหมือนกล้าๆกลัวๆ พอจุมไขกุญแจปุ๊บผมก็เปิดเข้าไปทันที จุมรีบถอยห่างออกไป
ก็แค่เนี่ยะ เปิดตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่อง ต้องทำให้โมโห กว่าจะเข้ามาได้ หวงอะไรหนักหนาไอ้บ้านสับปะลังเคโทรมๆ
“ พี่มีอะไรหรือครับ?”
“ พี่อยากมาพี่ก็มา” ผมตอบ มองหน้าคนถาม ที่ยืนเกร็งๆห่างออกไปราวๆ 3 ก้าว
ผมก็ไม่เข้าใจ ว่าจุมทำไมจะต้องทำตัวเหมือนกลัวผมนักหนา
หรือว่าเรียกร้องความสนใจ??
“ …………………………” จุมยืนนิ่ง
“ …………………………” ผมก็ยืนนิ่งเหมือนกัน จนจุมหันมามองตรงๆ
“ มองหน้าทำไม?”
“ เปล่าครับ!?” จุมตอบหน้าตื่น
“ จะให้พี่ยืนขาแข็งไปถึงไหน พาพี่เข้าไปในบ้านสิ!”
“ ครับ” จุมว่า ก้มหัวลง ผมเดินจุมเข้าบ้าน มองต้นคอน้องเขาที่เพิ่งตัดผมทำให้เห็นผิวส่วนที่เคยมีเส้นผมปรกลงมา เพราะจะขาวกว่าส่วนอื่นๆ
“ …………………………” เข้ามาในบ้าน ผมกวาดสายตามอง ด้านซ้ายเป็นห้องครัว(ประตูเปิดไว้) ด้านขวาคือที่ผมยืนอยู่ มีโชฟาไม้ 3ตัว ตัวยาว 1 ตัว มีหมอนอิงสีขาว วางอยู่4ใบ ติดผนังด้านหน้าเป็นตู้โชว์ โทรทัศน์ตั้งอยู่ชั้นบน เนื้อที่ที่เหลือ มีถ้วยรางวัล 4 ถ้วย เหรียญรางวัลจำนวนหนึ่ง ใบประกาศใส่กรอบรูป รวมๆกับรูปถ่ายที่มากกว่าอย่างอื่น
รูปจุมในชุดอนุบาล เสื้อขาวกางเกงแดงยิ้มให้กล้องเห็นฟันหน้าหลอ2ซี่ โดยมีแม่โอบอยู่ข้างๆ รูปจุมใส่เสื้อกล้ามสีเหลืองบนแท่นรับเหรียบรางวัล รูปถ่ายที่น้ำตกที่ไหนสักที จุมกำลังขี่จักรยานสี่ล้อ ยังมีรูปผู้ชายวัยกลางคนกับแม่จุมที่สาวกว่าตอนนี้มาก ผมหันกลับมามองถ้วยรางวัลอีกครั้ง
“ กีฬาอะไร?” ผมหน้าไปถามจุมที่ยืนอยู่ขวามือ
“ วิ่ง 100 เมตร ตอนมอ1ครับ” ตอบผมพร้อมจ้องมองรูปตัวเองในกรอบ เยื้องออกไป รูปจุมในหมู่คนอีกมากกว่า10 คนที่ยืนอยู่ตรงกลางชูถ้วยเหนือหัว จุมยิ้มกว้างกอดคอเพื่อนที่ถือลูกฟุตบอลไว้มือ
“ จุมเล่น-บอลด้วยเหรอ?”
“ครับ ผมเคยเล่น” ตอบแต่คราวนี้ใบหน้าหม่นลงอย่างเห็นได้ชัด
“ …………………………แล้วตอนนี้เล่นไหม?”
“ …………………………” ส่ายหน้าตอบ หน้ากำลังเศร้า ทำให้ผมยิ่งอยากรู้
“ ทำไม?”
“ …………………………” จุมที่ก้มหน้าในตอนแรกค่อยเงยหน้ามองผม ก่อนที่จะยิ้มระคนเจ็บปวด??
“ ตอนมอ5 ไม่ค่อยได้ซ้อม กีฬาสีโรงเรียนก็ไม่ได้ลง” คำตอบนั้นแผ่วเบาจนเผลอใจหวิว
“ แล้วทำไมไม่ไปซ้อม?” หุ่นจุมจะว่าไม่เหมือนนักกีฬาก็ใช่ ดีหน่อยที่ตัวสูง แต่ผอมถึงจะไม่เรียกว่าผอมแห้งก็ตาม
“ ไม่ได้ ไป หรอกครับ …………………………” ตอบแค่นั้นก็เงียบไปเฉยๆ หน้าจุมบอกว่ากำลังคิดถึงอะไรบ้างอย่าง
“ ทำไมไม่ได้”
“ …………………………” จุมไม่ตอบ ผมเริ่มหงุดหงิดเพราะไม่ชอบให้ใครขัดใจ ถามก็ไม่ตอบ
เยอะวะ
“ ทำไม?” ผมถามอีก(เสียงดังกว่าเดิม)
“ ผมไม่สบายบ่อย” จุมหน้าซีดขึ้นมาเฉยๆ
“ ก็แค่เนี่ย พี่ไม่เข้าใจว่าเราจะอำอึ้งอะไร” ผมว่านั่ง เอาหมอนมากอด จุมยังยืนอยู่
“ …………………………” จนผมต้องเงยหน้ามองจุม
“ เมื่อกี้ที่จุมถามพี่ว่าพี่มาที่นี่ทีอะไร นี่ไม่รู้จริงๆเหรอ!?” ผมว่าไม่อยากจะพูดอะไรสักเท่าไร ทำไมผมจะต้องบอกทุกอย่างในเมื่อก็เห็นๆว่าผมมาที่นี่ทำไม โง่หรือว่าแกล้งไม่รู้
หรือว่าจะต้องให้พูดจริงๆ
“ ไม่รู้ครับ” ตอบหน้าเซ่อๆว่าไม่รู้
“ คิดสิว่าพี่มาหาจุมทำไม!?” ผมบอกอีก
แม่ง ไม่รู้จริงๆหรือวะ!?
“ …………………………”(เงียบหน้าเอ๋อ)
“ พี่สนใจจุมไง!?” ผมพูดจนได้ รู้สึกได้เลยว่าตัวเองขาดทุน
“ สนใจผม!?” ทำตาโตไม่เชื่อ
“ ใช่” ผมบอกจริงจังให้รู้ไม่เลย อยากโง่ดีนัก
“ ไม่ ใช่ หรอกครับ” จุมว่าหน้ายังตื่นๆอยู่
“ จุมจะมารู้ดีกว่าพี่ได้ยังไง ที่พี่มาที่นี่ เขาเรียก
จีบ พอใจหรือยัง!?” ผมว่า จุมจ้องหน้าผมเหมือนเห็นผี
“ ……………………
……คะครับ?” จุมเอาแต่จ้องหน้าผม
“ …………………………” ผมจ้องหน้าคืนให้ และไม่จ้องแค่นั้นผมยังสำรวจหน้าตื่นของจุมว่าผมชอบจุมตรงไหน?
คำตอบ คือ ชอบหมด
ชอบไม่มีเหตุผล ก็มันรู้สึก
“ พี่ จ จะจีบ ผ ม” “ เออ ไม่ใช่จะจีบ กำลังจีบอยู่” ผมตอบยืนขึ้น จุมเดินถอยหลังผมจับมือจุม
อุ่น……………………อย่างประหลาด
“ คะคือ………………………ผม ผม” คำพูดติดอ่างไม่ยอมพูดออกมาสักทีว่าจะสื่อสารว่าอะไร ผมพยายามรออย่างอดทน
“ คืออะไร!?” เมื่อหมดความอดทนก็ต้องเร่ง
บอกมาเลยว่าจะเอายังไง จะยอมให้จีบไหม? แต่อีกฝ่ายกับสะดุ้ง
อะไรนิดอะไรหน่อยก็ตกใจ โรคจิตป่าววะ?
“ ผะ ผม ไม่ ได้ ชอบ ไม่ชอบ ครับ”
“ ไม่ชอบอะไร?” อย่าบอกนะว่าไม่ชอบผม ผมอุตสาห์บอกซะขนาดนี้ ตอนที่มีอะไรกันก็ตอบสนองดีนี่น้า หรือว่ากับใครก็ได้
ร่านน่าดู
“ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ผมไม่ชอบ พี่ ผะผมครับ เจ็บ!?” ผมถึงได้รู้ว่าจับมือจุมเต็มแรง พอผมปล่อยก็เลยเห็นเป็นรอยแดงๆ จุมเอาแขนตัวเองไปลูบๆเหมือนจะสั่นเล็กน้อย ?
“ …………………………” ผมมองอย่างไม่เข้าใจ
“ พี่ครับ อย่ามายุ่งกับผมเลยครับ ปล่อยผมไปเถอะ” ก็คือปฏิเสธ
ไม่ชอบ!? “ ทำไม พี่ไม่ดีตรงไหน? หรือว่าจะตามไปง้อผัวเก่า” ผมว่าเดินเข้าไปหา จุมเดินถอยหลัง ขาชนกับโซฟาไม้ตัวเดี่ยวแล้วหยุด
“ ไม่ใช่ครับ ผม ไม่ อาจ เ อื้ อ ม ………………………ถึง อีกแล้ว…แบบ นี้ ดี แล้ว ”(ปลายเสียงแผ่วเบา)
“ แล้วพี่ล่ะ ที่อุตสาห์โน้มตัวลงมาหา” เกิดมาก็เพิ่งเคยพูดว่าจีบใคร แม่ง!?
“ ผม อยากมีชีวิต ปกติ เหมือนเดิม ”
“ แล้วเป็นแฟนพี่ไม่ปกติตรงไหน?” เคยเจออะไรมาแล้วมันเกี่ยวอะไรกับผม
แบบนี้มันไม่ยุติธรรม!?
“ พี่ มีแฟน แล้วนะ ครับ”
“ เรื่องนั้นพี่จัดการได้!?”
“ …………………………” (เงียบไม่ตอบ)
โมโหเว้ย!? แค่อยากรู้จัก อยากจีบ อยากได้ แค่นี้อะไรหนักหนา
“ ไม่รู้แหละ พี่จะให้จุมเป็นของของพี่ ยอมดีๆเถอะ พี่ไม่อยากใช้ไม้แข็ง” ผมบอกไม่ได้อยากทำอะไรรุนแรง แต่มันอยากได้ ไม่อยากให้คนอื่นได้ไป
“ พี่ครับ พี่กำลังไม่สบาย ผมว่าพี่กลับไปก่อนเถอะครับ”
“ พี่ไม่กลับ!?”
“ พี่ครับผมขอร้อง”
“ ก็ได้ ให้พี่เอาจุมก่อน”
“ …………………………”
“แค่ครั้งเดียวไม่สึกเหรอหรอก เคยมานักต่อนักแล้วไม่ใช่หรือไง?” ผมว่า
“ ……… … … …… …………………………………ตามใจพี่ครับ แต่ขอร้องอย่าทำรุนแรงกับผม”
ว่าง่ายเชียว อยากเหมือนกันล่ะสิท่า!
“ …………………………” ผมเข้าไปหาจุมที่ยืนตังเกร็งโอเวอร์
“ ว่าง่ายแบบนี้สิ” ผมว่า จ้องหน้าจุมไม่วางตา ก่อนที่เอียงหน้าจูบริมฝีปากนิ่มๆที่หวานซ่านในความรู้สึก มือรู้หน้าที่ถอดเสื้อยืดจุมออกโดยอีกฝ่ายโอนอ่อนตาม จากที่เนิบนาบช้า ผมก็เร่งรีบอย่างไม่น่าเชื่อ และจุมก็ผลักผมออก ก่อนที่ถอยหลังจ้องมองผม
“ …………………………” ผมมองแผ่นอกเรียบเนียนจุม อยากจะสัมผัสยอดอกนั้นที่กำลังตรึงรับมือผมเมื่อกี้
“ ไหนว่าจะตามใจ พี่” ผมว่า เดินเข้าไปรวบตัวจุมมากอด
“ ผะผมทำไม่ได้” ตอบเสียงสั่น?
“ทำไม่ได้ แล้วพูดทำไม?”
“ ผม…………………………” จุมช้อนตามองผมอย่างเชื่องช้า ขนตายาวไม่หนามาบางทำให้ดวงตาที่มองผมดูน่ารักน่ามอง
“ ไม่รู้แหละ พี่ชอบ……………”
[/b] “ อะไรนะครับ!?” [/b] หน้าตื่นตกใจ
“ ชอบจุมไง” ผมบอกไม่คิดว่าตัวเองจะพูดออกไปง่ายดายขนาดนี้
“
แต่ผม ผม” ก้มหน้าลงไปอีกแล้ว ผมเอาปลายนิ้วเชยปลายคางจุมขึ้นมาให้มองผม แต่อีกคนหลับตา จูบเลยดีกว่า
“ …………………………” พอผมจูบกลับลืมตาโตเกินจริงมาจ้องผม รู้งี้จูบซะตั้งนานชอบหลบหน้าอยู่เรื่อย
จุมหันหน้าหนี ผมก็จูบก็ยิ่งจูบหน้าแก้มมั่วไปหมด น้องเขาลนลาน ผมผลักตัวไปติดผนัง(ซึ่งอีกด้านของผนังคือครัว)
“ …………………………” มือจุมจะที่ผลักผม ผมก็สอดนิ้วประสานมือเอาไว้ เอาตัวแทรกระหว่างขา ก่อนที่กลับมาจ้องหน้าคนหน้าตื่นที่กำลังเหมือนจะร้องไห้
“ จะร้อง -ทำไม”
“ …………………………”
มันคืออะไร ที่อยู่ในใจผมมันจะเรียกได้ว่า มากกว่าชอบหรือเปล่า?
เพียงแค่เห็นหน้า ใจมันกระตุกแล้ว
“ พี่ครับ………..” น้ำตาจุมก็ไหลลงตามแก้มจนได้ น้ำตามันไหลง่ายดายได้ขนาดนี้เลยเหรอ ……… แล้วทำไม ร้องไห้ทำไม ไม่มีอะไรให้น่าร้องไห้
“ …………………………” มือผมเปลี่ยนเป็นเกลี่ยเช็ดน้ำตาบนแก้มเนียนๆ ทำไมถึงร้องไห้อีกแล้วชอบหรือไง!?
ผู้ชายเขาไม่ร้องไห้กันง่ายๆ
“ เพราะพี่เหรอ?” ผมถาม ใจเหมือนจะทรมาน
“…………………………” จุมส่ายหน้าตอบ
เจ็บที่ใจไม่ทราบสาเหตุ
ปวด
ภาพบางอย่างแวบเข้าในหัว
ปวดหัว
“ ป วด” ผมว่า เอามือกุมหัวถอยห่างออกมา
“ พี่ครับ!?” จุมเดินตามเข้ามาประครองผมที่กำลังโซเซ
ปวดหัวจนแทบระเบิด ตาลายไปหมด
“ พี่ครับ เป็นอะไรครับ!? ” เสียงร้อนรนเป็นห่วงอย่างจริงจัง
“ ปวดหัว” ผมบอก
“ พี่นั่งพักก่อนครับ” จุมบอกพาผมมานั่งโชฟา ผมทรุดตัวนั่งลงหมดแรงอย่างเหลือเชื่อ
เห็นสีหน้าจุมที่เป็นห่วงแบบนี้ อาการมันทุเลาลงอย่างบ้าๆ
“ พี่ไปหาหมอเถอะครับ”
“ แค่ปวดหัวไปก็หาหมอ งั้นพี่คงต้องไปหาหมอ3เวลาหลังอาหาร และรอบดึกด้วย” ผมว่าสังเกตสีหน้าจุม พอผมบอกหน้าจุมก็วิตกอย่างเห็นได้ชัด
เป็นห่วงผมละสิ
เพราะผมสำคัญ ผมภูมิใจ
“ คุณหมอไม่มียาให้พี่ให้เหรอครับ?” จุมถาม ไม่มีท่าทีเกรงๆเหมือนทุกที
“ มี แต่พี่ชอบคิดว่าให้ออกว่าอดีตที่พี่ลืมคืออะไร หรือไม่พี่ก็คิด พยายามคิดให้ออก อย่าง เมื่อกี้?…………” ผมก็คิดว่าทำไมจุมถึงทำหน้าแบบนั้น กลัวผม ??? ภาพบางอย่างฉาบเข้ามาแต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
จุมร้องไห้ ผมไม่อยากเห็น ใจผมมันสะเทือน
“ เมื่อกี้ทำไมเหรอครับ?” จุมถาม ก่อนที่มองเห็นเสื้อยืดตัวเองที่กองที่พื้น แล้วรีบไปเอามาใส่ทันที
“ เมื่อกี้ ยังไม่จบเลย” ผมว่าแกล้มหยอกเล่น ดึงมือมานั่งบนตักจุมขัดขืนจะลุกขึ้น
“ พี่ครับ!? พี่” จุมหน้าตื่นตกใจอย่างที่ชอบทำ
“ อะไร” ผมว่าเงยหน้าจ้องหน้า
“ ผมหนัก” จุมตอบใบหน้าแดงระเรื่อเมื่อโดนผมจ้องหน้าใกล้ๆ
“…………………………” ผมมองหน้าจุมไม่รู้สึกว่าตัวเองจะเบื่อ
“……………………” ผมควักมือให้จุมก้มลงมา ผมจะได้หอมแก้มได้สะดวกสะดวก
“ครับ?” จุมว่า ก้มลงมา
จุ๊บ “
พี่!? ” จุมว่าเสียงหลงจะลุกขึ้นให้ได้
“ ลองลุกขึ้นดิ พี่จะปล้ำจุมตรงนี้แหละ หอมแก้มแค่นี้ทำหวง”
“ ปะเปล่าครับ” ตาเบิกกว้างส่ายหน้าไปมา
“ เปล่าก็อย่าขยับ!” ผมว่า
“…………………………” จุมนั่งตัวแข็งทื่อไม่ขยับเขยื้อน ท่าจะกลัวจริงๆ ทั้งที่ตัวก็ไม่เล็กอย่างผู้หญิงใช่ว่าจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จะกลัวอะไรนักหนา
“………………………” สัก5นาทีได้ ที่ผมกับจุมไม่มีการพูดคุยกัน ผมจะไม่พูดออกมาก่อนอย่างแน่นอน ผมเอาหน้าแนบกับหลังจุม
ไม่รู้ว่าอาการปวดหัวรุนแรงเมื่อกี้หายไปตั้งแต่เมื่อไร…………………
รู้สึกดี แต่เจ้าตัวตัวแข็งทื่อแม้แต่ผมยังรู้สึกว่าผมกำลังเกร็ง
“………… … พี่ครับ?”
“ อะไร!” ผมว่า
“ คือผมว่า…………………………” เตรียมท่าจะยกก้นไปนั่งข้างๆแทนที่จะเป็นตักผม
“ ลองลุกไปดูดิ พี่ได้มีอารมณ์อยากปล้ำคน” ผมขู่ และคิดจะทำจริงถ้าจุมลุกจากตักผมจริงๆ
“…………………………”(จุม)
“ พี่ปวดหัว อย่าขัดใจพี่เพราะพี่จะโมโหและปวดหัวมากกว่าเดิม” ผมบอก ผมรู้แล้วว่าจุมเป็นห่วงผมผมก็ต้องใช้ให้เป็นประโยชน์
“…………………………” จุมหันหน้ามาด้านหลังมองผม
“ โอ๊ะ โอ๊ย!?” ผมทำสีหน้าเจ็บสุดๆเอามือกุมขมับเพื่อความสมจริง
“ พี่ครับ!?” จุมตกใจลุกขึ้นย่อตัวลงจับมือผม
เข้าทาง ง่ายซิบ
“ พี่ไปหาหมอเถอะครับ นะครับ”
“…………………………” ผมส่ายหน้าบอกว่าไม่ไป ใบหน้าที่ก้มลงบอกว่าเจ็บปวดมาก แต่สายตาผมเหลือบมองจุมไม่ละสายตา
“ แต่ท่าทางพี่จะเจ็บมากนะครับ!?”
“ พี่ไม่เป็นไร ได้นอนพักก็หาย” ผมบอกเอาหน้าพิงไหล่จุมวางน้ำหนักลงเต็มที่ให้เหมือนคนหมดแรง
“ งั้นพี่ นอนตรงนี้ก็ได้ครับ” จุมบอก รับเก็บหมอนอิงไปวางไปโซฟาตัวเล็กก่อนที่หมอนอีกอันวางไว้ปลายสุดของโซฟาตัวที่ผมนั่งอยู่เพื่อให้ผมหนุนนอน
“…………………………” ผมนอนลงช้าๆอย่างที่คนไม่มีแรงเขาเป็น เห็นจุมทำแบบนี้เพราะเป็นห่วงผมก็สงสาร
แต่ช่วยไม่ได้ ก็จุมชอบไล่ผมทำไม แบบนี้แหละดีแล้ว
“…………………………” ผมนอนลงขาผมเกินโซฟาออกไปเลยต้องขดขาเข้ามา
“ พี่นอนสบายไหมครับ? ถ้า …………………พี่ไม่สบายตัว
ไปนอนข้าง บนก็ได้ ” (ท้ายแระโยคเสียงเบาลง)
“ อืม” ผมว่าลุกขึ้น ไปนอนข้างบนดีกว่า ถึงแม้ว่าเตียงห้องจุมจะเล็กก็ตามแต่ก็ดีโซฟาที่แข็งๆแบบนี้ และถ้าผมจะทำอะไรมากกว่านอนก็ง่ายดี
ผมลุกขึ้นแล้วแกล้งเซเล็กน้อย อย่างที่คิดจุมรีบถลาเข้ามาประครองผม
“ พี่ครับ!?”
“ พี่ไม่เป็นไร” ผมบอกตีหน้าเศร้า เอามือวางบนไหล่จุมให้จุมพาขึ้นบันได
“ ไหวไหมครับ?”
“…………………………” ผมพยักตอบว่าไหว…………หน้าเศร้า ใจยิ้มคับอก
_________________________________
ขอบคุณทุกคำอวยพร เจอกันสงกรานต์เช่นเดิมเจ้าค่ะ
ปล.ขอบคุณท่านเจ้ที่มาบอกคำผิด