บุพเพวายร้าย(สอง)
32
รุกต่อ 100%
เห็นไม่ขัดขืนแบบนี้ผมคิดได้อย่างเดียว ยอม^^
“..............” เมื่อเห็นน้องเขายังนิ่งอยู่ ผมก็ไม่ปล่อยโอกาสนี้ไปหรอกครับ มือที่กุมเป้าจักรเริ่มขยำคลึงเบาๆแล้วค่อยๆแรงขึ้น บางครั้งก็ผ่อนแรงเป็นจัวหวะจนผมรู้สึกว่าน้องชายจักรจะเริ่มขยายขึ้น
หมับ!?
“.............” มือจักรจับมือผมที่เป้ากางเกงตัวเอง
เอาล่ะงานเข้าแล้วไง
“...................................................................”
“ ..............” แต่จักรไม่พูดอะไร ผมก็นิ่งคิดอยู่ว่าแบบนี้มันหมายความว่าไง ร่างกายผมมันก็เริ่มร้อนตั้งนานแล้วจะหยุดก็เสียดายจะต่อก็กลัวว่าน้องเขาจะโกรธ
ผมโน้มหน้าไปข้างแก้มจักรแล้วว่า
“ จักร พี่ขอได้ไหม?”
“............................” จักรเงียบ
เงียบแปลว่าโอเค๊ ^ ^
“............นะ พี่จะทนไม่ไหวอยู่แล้ว” ผมบอกมือลูบเข้าไปในชายเสื้อ เอวบางลื่นๆให้ความรู้ดีมาก พอไปถึงหน้าอกและเม็ดสยิวผมก็บีบนวลจนรู้สึกถึงขนที่ลุกชันของจักร
น้องเขาหายใจแรง ....
“ ...........” ผมยิ้มกระหยิ่มใจที่ทำให้จักรรู้สึกได้ขนาดนี้ มือก็แกะกระดุมเสื้อจักรด้วยความรวดเร็วแล้วเอาลิ้นเลียอก ก่อนที่จะดูดยอดอกจักร มือที่ว่าแล้วก็ดึงกางเกงชุดนอนที่ดึงง่ายราวกับไม่ได้ใส่อะไรเลย
อยากเปิดไฟเว้ยครับ! อยากรู้ว่าจักรทำหน้ายังไง อยากเห็นผิวเนียนๆ และท่าทางจักรตอนนี้
“ พี่เปิดไฟนะ” ผมบอกจะลุกไปเปิดไฟ
“ อย่าครับ!” จักรพูดเป็นคำแรก ผมเลยดึงสายเปิดโคมไฟ ห้องเลยสว่างแบบสลัวๆได้อารมณ์อิโรติก
“ พี่ไม่เอา! ไม่เปิดไฟ” จักรว่าผลักผมออกจากตัวเอง
“ ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องอาย” ผมบอก ดันตัวจักรให้นอนลงไปเหมือนเดิม แล้วปิดปากจักรด้วยปากผม จักรจ้องตาผม ผมหลับตาลง มือข้างล่างก็รูดน้องชายจักรที่ตอนนี้ตื่นตัวเต็มที่แล้ว
ผมเบียนร่างกายแนบชิดร่างกายจักร น้องชายที่อยู่ในกางเกงมันพองตัวเบียนต้นขาน้องเขาด้วยความจงใจ ผมดึงกางเกงตัวเองลงไป แยกขาเรียวออกกว้างๆ แล้วใช้นิ้วสอดใส่ภายในช่องทาง
“.........อะ” จักรสะดุ้งเอามือดันไหล่ผมให้พ้นตัวเอง ผมปรนเรอส่วนตัวที่แข็งขืนหันเหความสนใจ แต่ดูจะไม่ได้ผลเท่าไร จักรยังคงดิ้นไม่ยอม นิ้วผมใส่ได้แค่นิ้วเดียว
“ จักร ไม่เป็นไร” ผมปลอบ จูบเรียบตามแก้มจักรไปด้วย แล้วเอานิ้วใส่เข้าไปอีก
“ อูย เจ็บ” จักรว่า น้ำตาไหลและตัวสั่น
“ แค่แป้บเดียวจักร”
“ ผมกลัว ไม่เอา” จักรเบนหน้าหนีผมที่กำลังจะจูบ
ผมเห็นแล้วสงสารครับ แต่เจ้าน้องชายมันก็พองตัวจนแทบจะระเบิดอยู่แล้ว
“ ไม่ต้องกลัว” ผมว่าจูบตามแก้ม ตามจมูกหน้าที่มีเหงื่อซึมของน้องเขา แล้วเอานิ้วที่3 เข้าไปเบิกทาง ในตัวจักรแน่นมากและยังเหมือนตอดรัดนิ้วทั้ง 3 ของผม
“ ไม่เอา ไม่เอา” จักรส่ายหน้า แต่สะโพกก็เด้งรับกับมือผม
ที่จักรกลัวอาจจะเป็นเคยโดนผมข่มขืนมาก่อน ไม่ใช่ว่าน้องเขาไม่ได้อยากมีอะไรกับผม เพราะถ้าไม่งั้นจักรต้องปฎิเสธผมจริงจังตั้งแรกแล้ว ตอนนี้ผมไม่สามารถทำให้น้องเขาเชื่อใจได้ก็ไม่มีประโยชน์ และเร็วเกินไปที่เรา 2 คนจะมีอะไรกันมากกว่านี้
“ พี่รักจักร” ผมจ้องหน้าจักร แต่น้องเขาส่ายหน้า ทั้งน้ำตา
“ ......................ผมกลัว”
ผมโอบตัวจักรขึ้นมากอด
“ ไม่ทำแล้ว ไม่ต้องร้องไห้” ผมบอก จักรกอดตอบผมแน่น
“ ฮือๆ ไม่ใช่เพราะผมเกลียดพี่” จักรว่าซบหน้ากับไหล่ผม จนไหล่ผมเปียกไปหมด
“ พี่รู้” ก็เพราะผมเองที่ทำให้จักรมีบาดแผลแบบนี้
“ ผมพยายามแล้ว” จักรว่า
“ ไม่ต้องพยายามแล้ว ถ้ายังไม่พร้อมไม่ต้องฝืน พี่รอได้” ผมบอกจากใจจริง และดันตัวจักรออกห่างเพราะแนบชิดกันขนาดนี้ เดี๋ยวไฟมันจะประทุขึ้นอีก ยังไงก็ใส่เสื้อผ้ากันก่อนเถอะ
“ มาม่ะพี่ใส่เสื้อให้” ผมบอกเอาเสื้อจักรที่เพิ่งถอดไปเมื่อกี้มาใส่ให้จักร
“ ทำไม พี่ไม่ทำต่อล่ะครับ หรือว่าพี่เกลียดผม”
“ พี่ไม่อยากบังคับจักร หรืออยากให้จักรฝืนเพื่อพี่” ผมบอกติดกระดุมเสื้อให้
“ แต่ผม.......”
“ เถอะนะนอนเถอะ เอาไว้จักรพร้อมกว่านี้ พี่จะเอาให้เดินไม่ได้เลยดีไหม?”
“ บ้า!” จักรว่าล้มตัวลงนอนเฉยเลย แล้วยังหันหลังให้ผมด้วย
“ นอนคนเดียวได้ไงรอพี่ด้วยดิ” ผมว่านอนลงตามและแน่นอนกอดจักรแน่นๆ
“ หายใจไม่ออก!” ว่าเสียงห้วน
“ หันหน้ามาก่อนดิคนดี แล้วจะกอดหลวมให้สบายๆตัว พี่ไม่เห็นหน้าจักรก็ต้องแน่นดิ” ผมบอก จักรก็ค่อยๆพลิกตัวหันหน้ามาหาผม
“ เกี่ยวไหมนั่นน่ะ” (จักร)
“ เกี่ยวใจเรา 2 ดวงไว้ด้วยกันไง”
“ แหวะ
~” จักรว่าผมก้มลงมองน้องเขาเห็นว่าจักรกำลังอมยิ้ม
“ ..............ท้องแหระยังๆไม่ทันทำไรเลย”
“ เงียบไปเลย คนจะนอน” (จักร)
“...............................” ผมกอดกระชับร่างบางๆเข้ามาอีก รู้สึกสุขในหัวใจจนมันล้นปรี่ เมื่อกี้ถ้าผมฝืนทำไปก็คงสำเร็จ แต่ผมไม่รู้ว่าตัวเองจะมีความสุขขนาดนี้ไหม?
................
“......................”
.
.
ผมงัวเงี่ยลุกขึ้นมา รู้สึกว่าปวดเมื่อยตามตัว พบว่าตัวเองนอนอยู่บนพื้น พอมองขึ้นไปบนเตียงจักรยังหลับอยู่ แล้วผมมานอนตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไร?? สงสัยผมจะนอนดิ้นจนตกลงมานอนที่พื้นตามเคย
“................” ผมคว้าโทรศัพท์ใต้โคมไฟ มาดูพร้อมลุกขึ้นไปจ้องหน้าคนที่ยังหลับอยู่
8 โมง 15 นาที
“..............” ยังเช้าอยู่เลย ผมห้าวฟอดใหญ่ ก่อนที่นั่งลงบนเตียง แล้วจ้องเจ้าหน้าเนียนที่ยังหลับสนิท
“.................” ตื่นเช้ามาเห็นคนที่รักแบบนี้มันช่างสดชื่น อะไรอะไรที่มองเห็นมันดูสว่างไสวไปหมด
ผมเอามาลูบแก้มจักรเบาๆ เจ้าตัวขมวดคิ้วเหมือนจะรู้ ผมรีบดึงมือกลับ จักรก็คลายคิ้วที่ขมวดเหมือนจะรู้ตัวจริงๆ เห็นแล้วขำครับ
ผมลุกขึ้นบิดตัว 2 3ครั้งตามด้วยเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ แล้วคิดว่าจะไปซื้ออาหารเช้าข้างนอก จักรตื่นขึ้นมาจะได้มีของอร่อยๆกิน
ผมอาบน้ำเสร็จจักรก็ยังไม่ตื่นอย่างที่คิดไว้ จนผมแต่งตัวเสร็จก็ยังหลับอยู่แค่พลิกตัวไปอีกด้านของเตียงเท่านั้น ผมหอมแก้มจักรก่อนที่หยิบกุญแจรถแล้วเดินออกจากห้อง
จนมาถึงลานจอดรถ ผมก็สังเกตเห็นรถที่คุ้นตา รถไอ้แบงค์??
“.............มาได้ไง?” รถไอ้แบงค์อยู่นี่แล้วตัวคนล่ะ ผมรีบเดินไปดู ไอ้แบงค์นอนอยู่ในรถ และเปิดประตูระแง้มไว้ ดีที่ไม่เกิดเรื่องขึ้น ผมเปิดประตูรถแล้วเข้าไปหาไอ้แบงค์
กลิ่นเหล้าหึ่งประทะจมูกผมเข้าอย่างจัง
“ ไม กินเหล้าแบบนี้วะมรึง” ผมว่าเขย่าตัวไอ้แบงค์ให้รู้สึกตัว ปกติไอ้แบงค์มันไม่ใช่คนดื่มจัดจนไม่ได้สติแบบนี้ที่จำได้ที่ไอ้แบงค์มันเมาหัวราน้ำก็มีแค่เรื่องจุมเท่านั้น
หรือว่ามันจะทนคิดถึงจุมไม่ไหว เลยต้องหันมาพึ่งเหล้าแบบนี้ ผมเจ็บแปล๊บในอกเหมือนโดนเข็มแทงอกทะลุหลัง
“ แบงค์ แบงค์!” ผมเรียกไอ้แบงค์ให้มันตื่นแต่มันก็ไม่ตื่น ทั้งที่ว่าเขย่าแรงแล้ว ท่าจะเมาหนัก แล้วมันขับรถมาถึงคอนโดผมโดยไม่เกิดอุบัติเหตุได้ไง
“ แบงค์ ตื่นดิวะ!” ผมว่า
“ ไอ้แบงค์!!!” ไอ้แบงค์ยังไม่ได้สติเหมือนเดิม ผมเลยจะพาขึ้นไปบนห้อง
ผมเอาแขนไอ้แบงค์พาดไหล่แล้วพาพาออกจากรถก่อนที่พาเดินไปยังลิฟท์ เพราะผมกับไอ้แบงค์รูปร่างไม่ต่างกันมาก และผมยังตัวเล็กกว่าเลยทำให้ทุลักทุเลกว่าจะไปถึงลิฟท์ได้
เข้าไปในลิฟท์ ผมกดชั้นและมองไฟที่บอกชั้นสูงขึ้นไปเรื่อยๆ
“.......................” ผมหันกลับไปมองหน้าไอ้แบงอีก คิดถึงว่าที่ไอ้แบงค์โทรหาผมเมื่อคืนก็ยังดีๆอยู่สงสัยคงจะไปกินหลังจากนั้น
2 ปีแล้วที่ตามจุม และไม่เจอจุม ไอ้แบงค์คงท้อใจจนต้องพึ่งเหล้าแบบนี้
“........................แบงค์?” เรื่องจุม ผมจะบอกได้แบงค์ดีไหม? และถ้าไอ้แบงค์รู้เรื่องจุม จะบอกไอ้วุฒิไหม? และถ้าไอ้วุฒิรู้ คนที่ต้องตกที่นั่งลำบากก็คือชิด
ไม่ไม่ ผมจะไม่ยุ่งเรื่องจุมแล้ว ให้ไอ้แบงค์และไอ้วุฒิเป็นคนเจอจุมเอง
กริ่ง เสียงลิฟท์เปิด ผมพาไอ้แบงค์ออกมาและเดินตรงไปที่ห้องของตัวเอง ก่อนที่จะรูดการ์ดเข้าไป
“ พี่ชนะ?!” จักรยังอยู่ในชุดนอนเดินตรงเข้ามาช่วยผม คงเพิ่งตื่น
“ นี่พี่แบงค์ มาได้ไงครับ?” ผมกับจักรพาไอ้แบงค์นอนแผ่ราบที่โชฟา
“ กลิ่นเหล้าหึ่งเลยครับ” จักรว่า
“ พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน เดี๋ยวตื่นมาค่อยถาม” ผมบอก ก่อนที่จะนั่งลงพักให้หายเหนื่อย
“.................”(จักร)
“ จักรไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวพี่ดูมันเอง” ผมบอก จักรพยักหน้าและเดินกลับเข้าไปในห้อง ผมก็เดินเข้าไปเอาผ้าขนหนูผืนเล็กไปซุบน้ำหมาดๆมาเช็ดหน้าเช็ดตาไอ้แบงค์เผื่อจะรู้ตัว
“...................” แล้วก็จริงๆไอ้แบงค์ค่อยๆลืมตาขึ้น แล้วก็จับข้อมืแผมที่กำลังเช็ดที่คอตัวเอง
“………………………”
“ เป็นไง ทำไมต้องกินเหล้าถึงขนาดนี้” ผมว่าเป็นเชิงตำหนิ นี่ไม่เกิดอุบัตเหตุก็บุญเท่าไรแล้ว
“..............” ไอ้แบงค์ไม่ตอบเอาแต่จ้องหน้าผม จ้องผมตาไม่กระพริบจนผมที่เป็นฝ่ายหันหน้าหนี เพราะไอ้แบงค์มันไม่เคยมองผมแบบนี้ มองเหมือนว่าผมกำลังทำอะไรผิด
“ อย่าเพิ่งท้อดิ ไม่ว่ายังไงเราก็ต้องเจอจุมแน่” ผมพูดอย่างที่เคยพูด เข้าใจว่าไอ้แบงค์รักจุม
“ ช น ะ” เสียงไอ้แบงค์ออกจะแหบกว่าปกติ
“ อะไร?” ผมหันหน้ากลับไป
“ มรึงยังรักกรูอยู่ไหม?” ไอ้แบงค์ถามพูดลอยๆ
“ ทำไมถามแบบนี้ ยังไงกรูก็รักมรึงอยู่แล้ว”
“ แล้วถ้ากรูก็รักมรึงล่ะ?” ผมจ้องดวงตาคมที่กำลังมองหน้าผม ไม่เข้าใจที่ไอ้แบงค์ถามตั้งแต่ต้น
“ แบบเพื่อน?” (ผม) ไอ้แบงค์ส่ายหน้า หัวใจผมเต้นระรัวขึ้นมาทันใด
หัวใจ เต้นแรงมากขึ้นเรื่อย
ๆ“ แบบไหน?” ผมถามอีก(ไม่รู้ตัวว่าตัวเองกลั้นใจ)
หมับ!? ไอ้แบงค์ดึงคอเสื้อผม แล้วจูบปากผมรุนแรง เร้าร้อนจนคิดว่าถ้าไหม้ได้คงไหม้ไปแล้ว ผมตกใจแต่ก็โต้ตอบจนลิ้นพันกันนัวเนีย พวกเรา 2 คน ต่างจ้องกันและกันไม่ว่างตา
“...............” ผมดันไอ้ไอ้แบงค์ออกไป ทั้งที่อยากได้มากกว่านี้ แต่ผมไม่อยากให้จักรมาเห็น
“ รักแบบนี้” ไอ้แบงค์ตอบ
“..............แล้ว?” เสียงผมเบามาก ไอ้แบงค์กำลังจะบอกอะไรผม หรือต้องการอะไรกันแน่
ไอ้แบงค์รักผม หรือเพราะคิดว่า หาเจอจุมไม่เจอ ถึงได้พูดแบบนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่มีมากกว่าคำว่าเพื่อน ไม่ว่าว่าผมจะทำยังไง ไอ้แบงค์ก็ให้ได้แค่ความเป็นเพื่อน....
“ ..........................ช่างเถอะ ลืมมันไป กรูเมาก็พูดไปเรื่อย” ไอ้แบงค์ว่ายืนขึ้น พอจะเดินกับเซ ผมเข้าไปประครอง หน้าเรา 2 คนห่างกันไม่ถึง 2 ฝ่ามือ แล้วก็ค่อยๆโน้มเข้าหากันเหมือนมีแรงดึงดูดที่ต้านไม่ได้
“.....................” ไอ้แบงค์หันหน้าหนีก่อนที่ริมฝีปากจะสัมผัสกัน …แค่นิดเดียวเท่านอีกแค่นิดเดียวเท่านั้น
“ แบงค์” ผมกอดไอ้แบงค์ไว้เพราะอีกคนกำลังจะเดินหนี
“ กรูรักมรึง แล้วมรึงก็รักกรู เราใจตรงกันใช่ไหม?”
“....................”
“ ที่โรง-บาลมรึงจูบกรูตอนที่กรูหลับ ที่เรามีอะไรกัน มันคือใจจริงของมรึงใช่ไหม? แบงค์”
“......................”
“ .......อย่าเงียบดิ กรูไม่ใช่คนบ้าที่จะพูดคนเดียว .....” น้ำตาเหมือนจะไหล เพราะขอบตามันร้อนเหลือเกิน
“ มรึงรักจักร?” ไอ้แบงค์ถาม
“ รัก”“.......................”(ไอ้แบงค์)
“ แต่กรูก็รักมรึงด้วย” ผมบอก หน้าไอ้แบงค์บอกอยากฟังคำนี้มาก
“ และถ้าเกิดว่ามรึงต้องเลือก มรึงจะเลือกรักไหน?”
เลือก??!!!!!“ แบงค์!?” ผมไม่คิดว่าไอ้แบงค์มันพูดแบบนี้
“.....................”
คำถามไอ้แบงค์ทำให้ผมกลัว…..
กริ้งๆ เสียงโทรศัพท์ทำให้ผมปล่อยมือจากไอ้แบงค์ ไม่ใช่โทรศัพท์ผมและของไอ้แบงค์ โทรศัพท์จักร?
“...............” ผมเดินเข้าไปในห้อง จักรกำลังกดรับโทรศัพท์พอดี
“ ฮัลโหลพล” ไอ้พลแก๊ง 3 ซ่าที่อยู่ห้องเดียวกับจักรผมจำชื่อได้
“ โอเค โอเค เจอกันที่หอสมุด” จักรว่างสายแล้วหันหน้ามาหาผม
“ พลโทรมาเตือนไม่ให้ลืมนัดทำรายงานกลุ่มน่ะครับ .....พี่แบงค์ตื่นแล้วเหรอครับ?” จักรถามไอ้แบงค์ที่ยืนอยู่ข้างหลังผม ( ผมใช้หางตามองไอ้แบงค์แวบหนึ่ง)
“....งั้นผมไปอาบน้ำก่อนนะครับ” จักรบอกโยนโทรศัพท์บนเตียงก่อนที่เดินเข้าห้องน้ำไป
“ ………………….” ทำไมรีบร้อนจัง ที่จักรบอกผมเมื่อคืนระหว่างทางคือนัดบ่ายโมงไม่ใช่หรือไง เมื่อกี้ผมก็ลืมถาม ว่าเปลี่ยนเวลาหรือเปล่า?
ผมหันกลับมาหาไอ้แบงค์
“ เดี๋ยวกรูกลับไปก่อนแล้วกัน” ไอ้แบงค์ว่า หันหลังเดินออกจากห้อง ผมสาวเท้าตามก้าวต่อก้าว
“ จะกลับทำไมล่ะ? ถ้ามรึงยังแฮงค์อยู่นอนต่อที่นี่ก็ได้” ผมบอกด้วยความเป็นห่วง ไม่รู้จะขับรถไหวไหม
“ กรูไม่ได้เมาขนาดนั้น ตอนนี้ก็ส่างเมาแล้ว” ไอ้แบงค์บอกเดินไม่หยุด ผมจับไหล่ไอ้แบงค์จากด้านหลังแล้วดึงให้หันกลับมาหาผม
“………………” (ไอ้แบงค์หันกลับมา)
“ แต่กรูเป็นห่วง” ผมบอก
“ ชนะ จักรจะ…”
“ ไม่ต้องเกรงใจ มรึงเป็นเพื่อนรักกรูน้องเขาต้องเข้าใจ และนี่กรูจะออกไปซื้ออะไรมากินกัน มรึงก็กินด้วยกันนี่แหละ” ผมว่า ไอ้แบงค์ส่ายหน้า
“ ไม่ดีหรอกแบบนั้น” ( ไอ้แบงค์)
“ ดี …………..กรูอยากให้มรึงอยู่ด้วย” ผมบอก
“ ชนะ ที่มรึงทำมันผิดต่อจักร ตัดใจจากกรูเถอะ”
“ ทำไม่ได้หรอก ถ้าทำได้ทำไปนานแล้ว” ผมบอก ผมเคยพยายามแล้ว พยายามจะไม่คิด พยายามจะไม่รู้สึก แต่ยิ่งห้าม ความรู้สึกมันกลับยิ่งชัดเจน
“ มรึงหมายความว่า มรึงจะคบกับจักร และจะคบกับกรู แบบนี้ แบบที่เรียกมรึงว่าเพื่อน แต่กลับบอกว่ารักกรู และเรา 2 คนยังจะมีอะไรกันอย่างงั้นใช่ไหม?”
“………………..” ผมอยากจะตอบว่า ‘ใช่’ แต่ความรู้สึกบางอย่างมันค้ำริมฝีปากให้พูดไม่ออก
ไม่ผิด ไอ้แบงค์พูดไม่ผิด แต่
“……………” ไอ้แบงค์เงียบ และเอาแต่มองหน้าผม
“ ความรู้สึกมันห้ามได้ที่ไหน?” ผมบอก ซึ่งมันเป็นเหตุผลที่ใช้เสมอเมื่อคิดอะไรไม่ออก
“ เพราะห้ามไม่ได้ นี่แหละ ทุกอย่างมันถึงไอ้เป็นแบบนี้……..แต่ว่านะชนะ ความรู้สึกมันห้ามไม่ได้ แต่การกระทำมันพอจะยับยั้งได้”
“ ไม่หรอกแบงค์ เพราะความรู้สึกมันอยู่ในหัวใจ ถ้าหัวใจมันสั่งให้ทำ ห้ามยังไงก็ห้ามไม่ได้ ..” ผมบอกเข้าไปกอดไอ้แบงค์ แนบใบหน้าลงบนไหล่หนาๆ
“………………” (ไอ้แบงค์)
“ ได้กอดมรึงแบบนี้ กรูมีความสุข” ผมบอกหลับตาลง เหมือนกับว่าห้องทั้งห้องมีผมกับไอ้แบงค์เท่านั้น
“ อย่า ชนะ อย่าทำแบบนี้” ไอ้แบงค์ว่าพยายามแกะมือ ดันตัวผมออก แต่ผมไม่ยอมกอดแน่นกว่าเดิม ถึงแกะมือผมได้ ผมก็กอดใหม่ได้เช่นกัน
“ ชนะ” เสียงไอ้แบงค์ทั้งเบา และแหบพร่า
“ กรูรู้แล้วล่ะ ที่มรึงบอกว่ารักกรูเมื่อกี้ ไม่ใช่เพราะมรึงเมา แต่เพราะมรึงรู้สึก” ผมบอกเงยหน้ามองไอ้แบงค์ นัยน์ตาที่เต้นเหมือนของเปลวเทียนกำลังมองผมอยู่ ก่อนที่ใบหน้าคมๆจะเบือนหน้านี้
“ เมื่อไร?” ผมถาม
“…………………………………….” (ไอ้แบงค์)
“ เมื่อไรแบงค์ที่หัวใจมีกรู?” ผมถามอีก
“…………………………..” ไอ้แบงค์ไม่ตอบ อาจจะเป็นการเร่งรัดเกินไปที่คาดคั้นไอ้แบงค์ในตอนนี้ แค่นี้ผมก็ดีใจจนเนื้อเต้น
ในที่สุดความรักของผมก็ได้รับการตอบสนอง ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดผมก็ตื้นตันจนน้ำตามันคลอเต็มเบ้าตา พอหลับตาลง น้ำใสๆมันก็ไหลผ่านแก้มลงมา
“ กรูสมหวังแล้วใช่ไหม?” ผมถามไอ้แบงค์
“ ไม่ใช่” ไอ้แบงค์ตอบ (ยืนนิ่ง)
“ กรูสมหวังแล้ว” ผมตอบเองก็ได้ถ้าอีกคน ไม่กล้าที่จะยอมรับความจริง
“ ไม่ใช่” ไอ้แบงค์บอกอีก
“ ความรู้สึกของมรึงไม่ได้เกี่ยวกับจักร มรึงไม่ผิดหรอกแบงค์ที่จะรักกรู เพราะกรูเองก็รักมรึงมาตั้งนานแล้ว” ผมบอก แล้วหอมแก้มไอ้แบงค์ดังฟ๊อด
ไอ้แบงค์ตกใจครับ ผมฉีกยิ้ม
“ เผื่อว่ามรึงจะรักกรูมากกว่าเดิม”
“ แค่นี้ก็พอแล้ว” ไอ้แบงค์ว่าดันตัวผมออกเบาๆ ผมก็ยอมปล่อยแล้วเดินไอ้แบงค์ไปนั่งเก้าอี้ของโต๊ะกินข้าว ผมนั่งตรงข้ามไอ้แบงค์แล้วเอามือเท้าค้างจ้องหน้ามัน
“ มรึงหล่อวะแบงค์”
“ ชนะ มรึง!!” พูดเหมือนอ่อนใจ
“ ก็มันจริง ยิ่งดูยิ่งหล่อ กรูภูมิใจมากที่มีสาละมีอย่างมรึงอ่ะ” ผมบอกยื่นมือไปจับแก้มไอ้แบงค์
“ มรึงนี่มัน!” ไอ้แบงค์ยืนขึ้น แล้วเดินหนีผมเข้าห้องน้ำ
อ้าวเข้าห้องน้ำกันไปหมดเลย
“……………..” เซ็งอย่างมีความสุข ผมทั้งยิ้มทั้งหัวเราะคนเดียว แต่ไม่คิดว่าตัวเองบ้า ผมแค่มีความสุขจนไม่รู้จะทำยังไงต่างหาก
หัวเราะ คนเดียวใครจะว่าบ้าก็ช่างหัวมัน เพราะไม่มีใครเห็น 5555
กริ้งๆ เสียงข้อความโทรศัพท์ผม
“………….” ผมเลยเดินไปดู เพราะโดยปกติโทรศัพท์ผมไม่รับข้อความขยะอยู่แล้ว อาจจะเป็นเพื่อนคนไหน เมสเสจมาก็ได้
2 ข้อความที่ยังไม่ได้เปิด ผมเปิดดูข้อความล่าสุดก่อน ข้อความจากเจน
??
-ชนะ เจนจะได้เจอแบงค์เมื่อไร โทรหาแล้วไม่รับ-
“…………………” ผมหนักใจขึ้นมาทันที
เรื่องเจน ยังไม่จบ และผมอยากจะให้เรื่องนี้จบๆไปซ่ะที
ผมอยากให้ไอ้แบงค์คุยกับเจนให้จบๆไป เจนจะได้ไม่ต้องตามตื้อไอ้แบงค์อยู่แบบนี้ ตอนนี้เจนกกับไอ้แบงค์ไม่มีทางเป็นไปได้แล้ว เพราะ…..(ผมยิ้ม)
“……………” การที่ไอ้แบงค์ยอมพบเจนนั้นยาก พอไอ้แบงค์มารู้เรื่องนี้ที่หลังอาจจะโกรธผม แต่ผมต้องยอมเสี่ยง เพื่อไอ้แบงค์และตัวผมเอง
ถ้านัดไอ้แบงค์ที่ร้านไหนสักที่ พอไอ้แบงค์เจอเจนต้องกลับแน่ๆ เพราะมันไม่อยากเจอเจน ซึ่งผมว่านี่แหละที่ผิดปกติ ต้องมีเรื่องอะไรกันที่ผมไม่รู้
ผมคิดไม่ออกว่าจะให้ไอ้แบงค์เจอเจนที่ไหนถึงจะเหมาะ ผมเดินวนเผื่อว่าตัวเองจะคิดออก
! เป็นที่นี้ ผมมองไปรอบๆห้อง ก็ให้เจนมาหาไอ้แบงค์ที่นี่ก็ได้ นั่นไงทำไมผมถึงคิดไม่ออก ถ้าเป็นที่นี่ ผมก็จะพอแก้ตัวได้ว่า เจนมามันผมก็ให้เข้ามาไอ้แบงค์เท่านั้นเอง
ผมโทรหาเจน เสร็จผมก็เห็นจักรก็เดินผ่านประตูด้านใน ก็เดินเข้าไปหาด้วยความรัก
“ พี่เดี๋ยวผมจะกลับบ้านเลยนะ” จักรว่าพลางเลือกไหล่เสื้อผมในตู้ แต่เลือกไม่ได้สักที
“ อ้าวทำไมล่ะ?” ผมถาม
“ ก็ผมต้องทำรายงานใช่ป่ะ แต่ผมยังไม่ได้เตรียมเอกสารเลย” จักรบอกแล้วก็ได้เสื้อยืดสีเลืองสดออกมา แล้วก็ใส่ทั้งอย่างั้นโดยไม่ได้ทันหน้ามามองผม
“ จักร” ผมว่าจับไหล่น้องเขาแล้วดึงให้หันมา
“……………” จักรเงยหน้ามอง ผมขมวดคิ้ว หน้าจักรดูแดงกว่าที่จเป็นตาก็ยังแดงอีก
“ ยาสระผมเข้าตาเหรอ ?” ผมถาม เอามือลูบหัวจักรที่ยังเปียกอยู่(ได้กลิ่นหอมๆของยาสระผม)
“ ครับ” ตอบแล้วก้มหน้า
“ จักรมีอะไรหรือเปล่า?” ผมถาม น้องเขาส่ายหน้า
“ ……………………งั้นกินข้าวกับพี่ก่อนก่อนแล้วกลับบ้านนะ” ผมว่ากอดจักรจากด้านหลัง
“ ผมไม่หิว”
“หิวหน่อยเถอะ หรือไม่ก็กินข้าวเป็นเพื่อนพี่ก็ได้”
“ ไปชวนพี่แบงค์เถอะครับ” จักรเดินหนี
“ แต่พี่อยากกินกับจักร”
*****
