บุพเพวายร้าย(สอง)
31
วันนั้น ................................คนที่เคาะประตูเป็นจักรอย่างที่คิดไว้ ผมกับไอ้แบงค์ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้เนียนจนน่าตกใจ แต่ผมก็เผลอจ้องหน้าจักรไปหลายครั้งจนน้องเขาเขาถามผมว่ามีอะไรหรือเปล่าผมส่ายหน้าตอบว่าไม่มีอะไร และสลัดทุกอย่างทิ้งไปเหลือไว้แต่ปัจจุบัน
ผมคิดว่าผมกำลังรู้สึกผิด
ที่ไอ้แบงค์จูบผมตอนที่ผมหลับ.......ผมยังคิดถึงอยู่เสมอ พร้อมคำถามว่าทำไม?
หลังจากนั้น 2 วันผมก็ออกจากโรง-บาลไปพักฟื้นที่บ้านต่อ อีกวันก็กลับไปใช้ชีวิตตามปกติ
“ พี่อยู่ไหน?” จักรถามผ่านโทรศัพท์ ขณะที่ผมขับรถไปคณะฯจักร
“ เลี้ยววงเวียน พี่กำลังจะถึงตึก” ผมบอกชะลอรถไล่ตูดรถคันหน้า ผมนัดจักรไปกินข้าวดูหนังครับ ^^
“ โอเคพี่ ผมเห็นรถพี่แล้ว พี่ไม่ต้องเลี้ยวเข้ามาเดี๋ยวผมไปหา” ผมจบน้องเขาก็ตัดสายทิ้งโดยที่ผมยังไม่เห็นตัวจักรด้วยซ้ำ ผมเลยจำต้องจอดรถข้างถนนเพื่อรอจักร
“...................”
อยู่ไหนของเขา? ผมสอดส่ายสายตามองหาจักร
ก็อกๆ !?
ผมหันทันทีที่ได้ยินเสียงเคาะกระจกรถ ด้านนอกจักรฉีกยิ้มให้ผมที่หันไปเจอ ก่อนที่จะวิ่งผ่านหน้ารถไปอีกข้างของรถ แล้วเปิดประตูรถเข้ามานั่งข้างๆผม
“ จักรอยากดูเรื่องอะไร?” ผมถาม มองหน้าน้องเขายังไม่ได้ออกรถ เพราะกำลังยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆหน้าจักร
“ พี่!?” จักรว่าเอนตัวหนี พร้อมทั้งมองซ้ายขวากลัวว่าจะมีใครเห็น (รถติดฟิมล์ดำ)
“ อะไรพี่แค่อยากเห็นหน้าจักรชัดๆเท่านั้นเอง” ผมว่า ได้กล่นหอมจางๆจากตัวจักร ทำให้สดชื่น และอยากจะทำอะไรมากกว่าการกินข้าวดูหนังซ่ะแล้ว
“ อย่ามาโกหก รีบรถไปเร้ย ผมหิวข้าว” จักรว่าเสียงดุ ผมจ๋อยครับ แค่นี้ก็ต้องดุด้วย
“ แต่พี่อยากกินจักร” คิดในใจดังไปหน่อย
“ พี่ว่าไงนะ!?” จักรว่า ผมหันหน้าไปเห็นเทวดากำลังจะกลายร่างเป็นซาตานได้ทุกเมื่อ
“ ป่าว” ผมตอบพยายามบังคับเสียงไม่ให้สูง แต่มันทำไม่ได้
“ หื่น!” จักรว่าสบัดหน้ามองออกไปนอกรถ โดยไม่พูดอะไรต่อ ผมสังเกตเห็นว่าหน้าจักรแดงจนมาถึงคอ ดูเหมือนว่าไม่ได้มีแต่ผมเสียแล้วที่คิด ^^
ผมขับรถออกมาหน้ามหาลัย แล้วมุ่งหน้าสู่ห้างM แต่รถที่ติดยาวทำให้ผมผมกับจักรยังติดแหง็กบนถนนเป็นชั่วโมงแล้ว
“ จักรหันมาคุยกันหน่อย” ผมว่า เอามือไปจับมือจักรแล้วบีบเบาๆ
“ มีไร?” ถามผมกลับแต่ไม่หันมา ไม่รู้เป็นอะไรของเขา หรือโกรธผมเรื่องเมื่อกี้ แต่แค่นี้ไม่น่าจะโกรธอะไรขนาดนี้
“ อยากเห็นหน้าคนน่ารัก” ผมบอกไม่ได้แกล้งชมแต่จักรน่ารัก(น่ากอดจริงๆ) ทั้งตัวบางๆ ขาวๆ แก้มขาวเนียนๆ ปากแดงๆ ตาหวานๆบวกับขาตางอนๆเล่นเอาแทบละลาย
“ ผมไม่น่ารักหรอก”
“ น่ารักดิ น่ารักมากด้วย ไม่เชื่อหันมาดูสิแล้วพี่จะบอกว่า แฟนพี่น่ารักแค่ไหน?” ผมบอกพลางดึงแขนจักนให้น้องเขาหันมา ซึ่งจักรก็หันมา
“ น่ารักมากกกกกกกกกกกกกก” ผมบอกลากเสียงยาว
“ โกหก” ทำแก้มป่องไม่เชื่อ
“ จริงๆดูดิ ถ้าไม่เชื่อ” ผมว่า
เป็นไงเป็นกันวะ
“.............” จักรทำหน้างง (?..?) ผมยื่นหน้าไปหอมจักรเอาดื้อ ได้นิดๆหน่อยๆก็ยังดีครับ
“ พี่?!” จักรตาโตว่า
“ ก็จักรน่ารักไง พี่เลยอดใจไม่ไหว ที่นี้เชื่อยังว่าแฟนพี่น่ารัก” ผมตอบด้วยท่าทางที่เป็นปกติ
“ พี่ พี่!!” จักรพูดได้แค่พี่ๆ แต่จากที่ดูแล้วคงมีคำพูดที่อยากจะพูดเป็น 100
“ พี่ครับ ผมรักพี่ใช่ไหม?”
“ ไม่ใช่!” จักรตอบทันที ผมยิ้มมีความสุขจังเว้ย!
“ แล้ววันนั้น ใครบอกว่ารักพี่กันน้า หรือว่าถุงน้ำเกลือบอกหนอ” ผมพูดขึ้นเหมือนลอยๆ
“ ไม่รู้ ไม่ได้ยิน” จักรว่าหน้าแดงถึงคออีกแล้ว คงกำลังเขินอยู่
“ ก็แล้วไป อย่าให้รู้ จะจับปล้ำซ่ะให้เข็ด” ผมบอกยิ้มให้จักร น้องเขาเม้มปากจ้องมองผม
“ ...................”
“ .........หึๆ” ผมหัวเราะในลำคอเหมือนตัวร้ายในหนัง พลางยักไหล่ (ทำไปได้ผมT^T)
“ บ้า!” จักรว่าแล้วดึงมือตัวเองออกจากมือผม ผมก็ตามไปจับอีก
“.........................”(ผม)
“ ไฟเขียวแล้ว รีบไปดิหรือจะให้คันข้างหลังบีบแตรไล่” จักรบอก
“ คร้าบแม่ครับ ไปแล้ว” ผมว่าอยากเอามือจักรที่ผมจับอยู่ขึ้นมาหอม แต่ไม่กล้าครับ
.
.
.
ไปถึงห้างM จักรบอกให้ผมไปซื้อตั๋วหนัง ซึ่งแน่นอนเป็นเรื่องที่จักรอยากดู ส่วนจักรไปรอที่ร้านO ผมเลยไปซื้อตั๋ว ได้ตั๋ว 2 ทุ่ม 10 นาที พอเข้าไปในร้านO เห็นจักรนั่งรออยู่แต่ นั่งอยู่กับชิด???!!!
“.................” ผมรีบสาวเท้าเข้าไป ทันที จักรกับชิดกำลังหัวเราะกันคิกคัก และหยุดลงเมื่อเห็นผม
“ มาเร็วจังครับ” จักรว่าขยับให้ผมนั่งข้างๆ ผมหันไปมองชิด
“ หวัดดีครับพี่” ชิดว่า
“ ผมเจอชิดกำลังเดินซื้อของพอดี เลยชวนมากินด้วยกัน” จักรอธิบาย แล้วมันเรื่องอะไรที่จักรจะชวนชิดมานั่งกินด้วย โดยที่ไม่ได้ถามผมก่อน ทั้งๆที่ผมอยากอยู่กับแค่จักร 2 คน
“ ถ้าพี่ไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรครับ” ชิดว่าลุกขึ้น
“ เฮ้ยชิดไม่เป็นไร กินหลายๆคนหนุกดี” จักรบอกดึงแขนชิดให้นั่งลง สายตาผมมองมือจักรที่จับแขนชิดแล้วรู้สึกไม่ชอบมากๆ
“ นั่งกินด้วยกันนี่แหละชิด” ผมที่เป็นผู้ใหญ่ จำต้องพูดออกไป ทั้งที่ไม่ใช่สิ่งที่รู้สึก
ผมยอมรับว่าระแวงจักรกับชิด ทั้งที่รู้ว่า 2 คนนี้เป็นเพื่อนกันมานาน แล้วยังจะเรื่องจุมอีก
“ ครับ” จักรยิ้มแล้วนั่งลง
ผมมองหน้าชิด อยากจะถามเรื่องจุมเหมือนกันและนี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ผมยอมให้ชิดอยู่ แต่จักรไม่รู้เรื่องนี้ และผมจะให้รู้เรื่องนี้ไม่ได้ ว่าเพื่อนผมทำอะไรกับจุมบ้าง
“ ..............” ชิดสบตาผมเหมือนจะพูดอะไรแต่กลับหันไปหาจักร
“ จักรเสื้อที่ลืมบ้านชิดแล้วหรือยัง? เห็นไปเอาสักที” ชิดถาม ผมนึกออกในทันทีว่า ของที่จักรบอกจะไปเอาบ้านชิดคืออะไร
“ ยัง แต่เอาไว้ก่อน เผื่อวันหลังไปค้างบ้านชิดจะต้องไม่ต้องเอาไปอีก” จักรตอบ ขยับแจกันให้พนักงานเสริ์ฟวางจานอาหารลงบนโต๊ะ
“ จักรไปค้างบ้านชิดบ่อยเหรอ?” ผมถาม ปกติแต่อยากรู้มาก
“ครับ เพราะบ้านชิดใกล้มหาลัย ถ้าผมกลับดึก ผมก็ขอไปนอนกับชิด” -นอน-คำนี้บาดผมจนเลือดไหลซิบๆ ทั้งที่บอกตัวเองว่า แค่นอนเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้น
แค่เพื่อน…….เพื่อนกัน
ผมกับไอ้แบงค์ก็เพื่อนกัน
“ งั้นต่อไปนี้ ไม่ต้องไปค้างบ้านชิดแล้วนะ มาค้างที่คอนโดพี่ก็ได้ อยู่แทบติดมหาลัยเลยด้วยซ้ำ จักรก็เคยไปแล้วนี่”
“ คิดดูก่อน” จักรตอบเสียงห้วน ผมเห็นรอยยิ้มบนหน้าชิดเหมือนกำลังหัวเราะผมอย่างไงอย่างงั้น
และทำให้ผมไม่ชอบขี้หน้าไอ้น้องชิดนี้ขึ้นมา
“ จักรกินนี่ดิ อร่อยดี” ชิดว่าคีบไข่หวานป้อนจักร
“ เออ อร่อยดี” จักรตอบทั้งที่ไข่หวานอยู่ในปาก
“ จักรชอบไข่หวานเหรอ?” ผมถาม ไม่อยากหลุดนอกกลุ่ม ทำไมถึงเป็นผมที่รู้สึกว่าว่าเป็นส่วนเกิน
“ ครับ ชอบมาก” จักรบอก แล้วคีบไข่หวานอีกชิ้นเข้าปากพร้อมทั้งเคี้ยวตุ้ยๆเต็ม 2 แก้ม ท่าทางจะชอบจริงๆ
เห็นจักรกินอย่างมีความสุขแบบนี้ผมก็พลอยมีความสุขไปด้วย
ไม่อยากคิดอะไรมาก คนเราก็ต้องมีชีวิตของตัวเอง จะไปกะเกณฑ์ให้เป็นตามี่ผมต้องการไปหมดซ่ะทุกเรื่องคงเป็นไปไม่ได้ ผมคิดและวังว่าจะทำได้อย่างที่คิดไว้
“.............” ผมกินไข่หวานบ้าง
กริ้งๆ เสียงโทรศัพท์ผมดัง
“......................”
ไอ้ ‘แบงค์’ โทรมา ?
“พี่แบงค์โทรมาเหรอครับ?” จักรว่าชะโงกหน้าดูโทรศัพท์ผม
“ อืม” ผมว่าทั้งพยักหน้าแล้วกดรับ
“ ฮัลโหลแบงค์”
/วันนี้กรูขอไปนอนคอนโดมรึงได้ไหม?/ ไอ้แบงค์บอก ทั้งที่ทุกทีมันอยากไปก็ไป ไม่ได้บอกผม และกุญแจห้องผมมันก็มี วันนี้มาแปลก
“ ตามใจดิ ว่าแต่โทรมาบอกกรูทำไมเนี่ย มรึงอยากไปก็ไป ไม่ต้องบอกกรูหรอก” ผมว่า
/ ก็................”/“ ก็อะไร อย่าอำๆอึ้งๆ ถ้าไม่ได้บอกรักกรู” ผมพูดแก้มหยอก แต่ถ้ามันบอกจริงๆก็ดี ^ ^
/ ก็เผื่อมรึงพาจักรไป กรูจะไม่ได้ไปขัดคอมรึงไง/ ไอ้แบงค์ว่า ผมหันไปมองจักร ก็จริงอย่างที่ไอ้แบงค์พูด และวันนี้กว่าจะกินเสร็จ แล้วดูหนังต่อกว่าจะตบก็ 5 ทุ่มแบบนี้เรียกว่าดึกไหม ? จะได้ชวนจักรไปนอนคอนโด เพราะใกล้กว่า บ้าน(จักร) แล้ว แล้วก็ ถ้าจักรยอม ผมก็..........^^
“ จริงวะ ว่าแต่วันนี้ มรึงมีไรไหม? ถ้าไม่มีกรูก็ว่าจะ...............” ผมหันไปมองจักร ที่กำลังคุยเรื่องเพื่อนอย่างออกรสออกชาติ
/......................กรูเข้าใจ/ ถึงผมพูดไม่หมดไอ้แบงค์ก็เข้าใจได้
“ แบงค์ ขอบคุณที่เข้าใจกรู” ผมว่า ซาบซึ้งมันที่คอยอยู่ข้างๆผม เข้าใจผม และนึกอยากเห็นหน้าไอ้แบงค์ขึ้นมา
แบงค์
“ พี่” (จักร) ผมหันไป จักรใช้ตะเกียบคีบเห็ดผัดเทปันป้อนผม แล้วหัวเราะเบาๆ
จักร.........
“ ................................” เป็นเห็ดที่อร่อยที่สุดเท่าที่กินมา..
“ แบงค์ เดี๋ยวกรูโทรหามรึงนะ ตอนนี้กกำลังกิน...”
/บอกแล้วไง กรูเข้าใจ............/ ไอ้แบงค์พูดตัด ผมใจหาย
ตู๊ด-ตู๊ด-ตู๊ด
ไอ้แบงค์วางไปแล้ว
“ มีอะไรหรือเปล่าครับ?” จักรถาม ผมยิ้มไม่ได้ฝืนแต่ไม่สบายใจเท่านั้นเอง
“ เปล่า” ผมบอกให้จักรสบายใจ
“ จักร เดี๋ยวไปเข้าน้ำแป๊บ” ชิดว่ายืนขึ้น แล้วเดินไปห้องน้ำ สำหรับผมนั่นคือโอกาสที่จะถามเรื่องจุม
“ พี่ก็อยากเข้าน้ำเหมือนกัน กินไปคนเดียวก่อนนะ” ผมบอกจักร น้องเขาพยักหน้า ไม่ได้สงสัย ผมรีบเดินตามชิดไป
ผมเข้าไปห้องน้ำแล้วมองหาชิด เห็นน้องเขากำลังล้างมื้อที่ซิงค์หน้ากระจก
“ คิดแล้วว่าพี่ต้องตามมา” ชิดว่า ผมแปลกใจกับคำพูดของชิด น้องเขารู้??
“ แล้วรู้ไหม ทำไมพี่ต้องตามชิดมา”
“ ไม่รู้ครับ” ตอบพร้อมมองหน้าผม คำตอบกับสีหน้าไม่ได้สัมพันธ์กันเลย
“ เรื่องจุม” ผมพูดไม่อ้อมค้อม “ และเรื่องจักร เราไม่ได้คิดอะไรกับจักรใช่ไหม?”
“ เราเป็นเพื่อนกัน” ชิดตอบ
“ แล้วจุมล่ะ?”
“ ผมจำเป็นต้องตอบพี่ไหม?” ชิดตอบเหมือนกำลังหาเรื่องกวนบาทา ผมพยายามใจเย็น
“ เรารู้ใช่ไหมว่า พวกพี่กำลังตามหาจุม”
ชิดส่ายหน้า
“ ผมไม่รู้”
“ พี่ไม่เชื่อว่าเราไม่รู้”
“ ถ้าพี่ไม่เชื่อที่ผมพูด แล้วมาถามผมทำไม?” ย้อนคำพูดได้แรงมาก
“.....................”(ผม)
“ พี่รู้ไหมครับว่า............”
“ ว่าอะไร?” ผมถาม สีหน้าชิดเปลี่ยนไป นัยย์ตาน้องเขาสั่นเล็กน้อย
“ ว่า..........วันนั้นที่..เจอพี่ แล้วหลังจากนั้น..เป็นไงต่อ.........” ชิดหันหน้ามองกระจกแทนหน้าผม และเลี่ยงที่จะพูดชื่อจุม
“ .....................”( ผมรอฟัง)
“ พอกลับไป..ก็เก็บข้าวของบอกว่าจะไปอยู่ที่อื่น ทั้งที่ไม่รู้ว่าตัวเองจะไปไหน ผมถามก็ไม่ตอบเอาแต่ร้องไห้ ถึงจะไม่บอก แต่ผมก็รู้ว่า อีกเขากำลังกลัว ....” ชิดจ้องหน้าตัวเองในกระจก ผมเงียบไม่กล้าพูดอะไรออกมา สิ่งที่ชิดเล่า ผมเห็นภาพตามชัดเจน
จุม
“ ผมไม่ค่อยรู้อะไรมากเท่าไร เพราะผมก็เพิ่งเจอกันไม่ถึงปี แต่ผมพอจะรู้ว่า สิ่งที่จุมกำลังกลัวและหนีมาตลอด มันคงน่ากลัวสำหรับจุมมาก” เสียงชิดเบาลงเรื่อยๆ และพูดชื่อจุมในที่สุด
“ พี่ก็แค่อยากรู้ว่าน้องเขาเป็นยังไงบ้าง”ผมว่า
“ สบายดีครับ” ชิดหันหน้ามาตอบและเดินออกไปทันทีที่พูดจบ
“ ...................” (ผม)
ผมคิดถูกแล้วที่ไม่บอกเรื่องจุมกับไอ้วุฒิ
ทุกอย่างให้มันเป็นอดีตเถอะ อย่าดึงอดีตให้มาเป็นปัจจุบัน
พอแล้ว สำหรับจุม ให้อนาคตเป็นเรื่องของตัวเอง กำหนดเอง สักวันหนึ่ง ไม่แน่จุมอาจจะจะกลับมาเอง
“................”
แม้จะรู้สึกผิดกับไอ้วุฒิและไอ้แบงค์ แต่จุมในตอนนี้ไม่พร้อม ไม่มีใครพร้อมที่ยอมรับความจริง และถ้ามีคนที่ยอมรับความจริงไม่ได้ ก็ย่อมจะเกิดปัญหาขึ้นมา
ไม่ขอยุ่งเรื่องจุม นะแบงค์ ถ้ามรึงจะเจอจุมด้วยตัวมรึงเองก็ช่าง แต่มรึงจะไม่มีทางรู้จากปากกรู เพราะมันขัดแย้งกับหัวใจกรู
บอกมรึงไม่ได้........................................
.
.
“ ช้าจังครับ” จักรพูดเชิงถาม
“ ทนคิดถึงพี่ไม่ไหว ทำไมไม่ไปตาม”
“ ใครคิดถึงพี่กัน” เริ่มเสียงแข็ง
“ .....................จักรไง” ผมมีความสุขจัง ผมพอแล้วแค่นี้.........แค่เท่านี้
“ พี่มั่ว!”
.
.
.
.
“ ทำไมถึงไม่ออกรถ 5 ทุ่มกว่าแล้ว เมื่อไรจะถึงบ้าน” จักรว่าห้าวฟอดๆเข้าทางผมเลยครับ (ชิดกลับไปหลังจากกินเสร็จ ไม่ได้ไปดูหนังกับพวกผม)
“ งั้นไปค้างคอนโดพี่แล้วกัน” ผมพูดเหมือนไม่ได้สนใจเท่าไร แต่ตั้งใจฟังคำพูดจักรใจจดใจจ่อ
“ ผมจะกลับบ้าน ไม่อยากไปส่งก็ไม่ต้องไป” อ้าว ไหงเข้าใจเป็นอย่างงั้นละครับ
“ ไม่ใช่พี่ไม่อยากไปส่ง แต่เห็นว่าคอนโดพี่อยู่ใกล้กว่า” ผมรีบตอบ เดี๋ยวจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่ ยิ่งง้อยากๆอยู่
“........ผมไม่ไปหรอก”
“ ทำไมล่ะ? หรือว่าจักรไม่ไว้พี่”
“ มั้ง”
“ ตอบแบบนี้พี่น้อยใจนะรู้ไหม?” ผมพูดออกแนวน้อยใจ ผมจะไปทำอะไรน้องเขาได้ ถ้าน้องเขาไม่ยอม
“ .................”(จักร)
“ พี่มันไม่น่าไว้ใจเลยใช่ไหม?”
“...............................” จักรยังเงียบ
“ .......................................................................” ผมเงียบบ้าง ก็น้อยใจจริงๆนั่นแหละครับ ถึงผมจะหื่นจะลามกยังไง แต่ยังไงผมก็รักจักรและไม่คิดจะหักหาญน้ำใจคนที่ผมรักหรอก
“ ก็ได้” จักรว่าเม้มปาก ผมหันหน้าไป จักรก้มหน้าลง
“ อย่าฝืนเลย พี่เข้าใจว่าจักรยังระแวงพี่อยู่ เมื่อก่อนพี่ก็เลวจริงๆ” ผมบอก ไม่รู้ว่าที่จักรยอมไปเพราะเป็นห่วงความรู้สึกผม หรือเพราะอะไร แต่ถ้าฝืนอย่าเลย
“ ไม่ได้ฝืน” จักรตอบ
“.....................” ผมมองจักรที่ยังก้มหน้าอยู่
“ จริงๆ ไม่ได้ฝืน คืนนี้ไปค้างที่ห้องพี่นั่นแหละ” จักรพูดต่อ ผมก็ยังไม่พูดอะไร น้องเขาเลยใช่หางตามองผม
“ แน่ใจ?”(ผม)
“ ครับ” พยักหน้าหงึกๆ
เริงโลดครับผม^^ ไม่เสร็จก็ใกล้เคียงแล้วที่นี้
“....................”
.
.
ในห้องคอนโดผม ..
“ จักรอาบน้ำก่อนเลยนะ” ผมบอกเปิดตู้แล้วเอาผ้าเช็ดตัว(สีขาว) ยื่นให้จักร
“..............”(จักร)
“ แล้วนี่ใส่เสื้อพี่ ถึงจะใหญ่ไปหน่อยแต่ใส่ได้” ผมยื่นชุดนอนสีเขียวให้จักร ดีที่พรุ่งนี้วันเสาร์ไม่ต้องกังวลเรื่องชุดนิสิต
“.................” แล้วจักรก็เข้าน้ำไป โดยที่ผมมองตามไปติด ๆ ถ้ามองทะลุเสื้อที่จักรอยู่ได้ก็มองไปแล้ว
คิดเว้ย! คิด
จักรปิดประตูห้องน้ำไปแล้ว ผมถูหน้าตัวเองแรงๆ ไม่ได้คิดเลยเถิดไปมากกว่านี้
“ อย่าหื่นนักดิวะ!” ผมต่อว่าตัวเอง และต่อว่าไอ้น้องชายในกางเกงที่ดูท่ามันดีใจยังไงไม่รู้
“ น้องเขาแค่มาค้าง เฉย เฉย เข้าใจ๋” ผมบอกตัวเองอีกรอบ แล้วเดินออกมากห้อง(นอน)ไปเข้าห้องน้ำอีกห้อง
พอผมอาบน้ำเสร็จ ก็เห็นจักรนั่งกอดหมอนอยู่บนเตียง อาบน้ำเร็วจัง
“.................”(จักร)
“ งั้นปิดไปนอนเลยนะ” ผมบอก ไม่อยากจะเห็นหน้าจักรมากไปกว่านี้แล้ว คนอะไรก็ไม่รู้น่าฟัดมากๆ
“ อืม” จักรตอบ ล้มตัวลงนอนทั้งที่ยังกอดหมอนอยู่ ผมปิดไปแล้วตามขึ้นไปนอนบนเตียง ใจเต้นไม่เป็นส่ำเลยครับ
เย็นไว้ไอ้ชนะ เย็นไว้ มรึงอยากให้น้องเขาเกลียดมรึงไปมากกว่านี้หรือไง ตอนนี้กำลังไปได้สวยอย่าให้มันพังเพราะอารมณ์ชั่ววูบ (บอกตัวอีกแล้ว)
มีเสียงดังมากจากไหนไม่รู้ ว่า ไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบเพราะคิดมานานแล้ว
ก็ถูกของมันอยู่ เฮ้ย!! อย่าไปเชื่อมารรรรรรรรรรรรร
“............................” ผมขยับตัวเขาไปใกล้จักร แล้วเอาแขนไปกอดกอดน้องเขาที่นอนหันหลังให้
เสียงมารรรรรรรรรรรรพูดขึ้นอีกว่า
น้องเขาเตรียมใจไว้ระดับหนึ่งแล้วที่ยอมมานอนที่นี่ เพราะงั้นรุกโลดชนะชัย
จะดีเหรอ? ผมถามตัวเอง
ดี ...2 เสียงตอบพร้อมกัน
“ จักร” ผมเรียกชื่อจักรเบาๆ “ หลับหรือยังครับคนดี”
ได้กลิ่นสบู่จากตัวจักร ไม่เคยคิดเลยว่าสบู่ที่ตัวเองใช้อยู่ทุกวันจะหอมได้ขนาดนี้
“.....................” จักรไม่ตอบ แต่น้องเขายังไม่หลับครับ เพราะตัวเกร็งขนาดนี้ ^^
“ พี่กอดหน่อยนะ พี่หนาว” ผมว่าขยับตัวไปแนบตัวจักร ที่ว่าขอกอด กอดไปก่อนหน้านี้ตั้งนานแล้ว
“..................” ไม่มีเสียงตอบอีกเช่นเคย ทั้งที่ถ้าปกติคนปากไวอย่างจักรต้องพูดออกมาสักคำแล้ว หรือว่าจะเตรียมใจมาแล้วจริงๆ เข้าทางไอ้ชนะเลยครับ^^
“ จักร ตัวหอมจัง” ผมพูด เอาจมูกซุกคอจักร มือที่กอดจักรอยู่ก็ลูบไหล้ตัวน้องเขา ก่อนที่จะขยับมือให้ต่ำลงไป และจงใจไปหยุดที่เป้ากางเกง
“ จักร พี่รักนะ” จมูกเริ่มไซร์ เร็วขึ้นเพราะไม่ว่าจะไปที่ไหนก็หอมไปหมด จนอยากจะกลืนกินน้องเขาไปทั้งตัว ผมเอามือจับไหล่จักร แล้วพลิกน้องเขาให้นอนหงาย
ถึงจะมืดแต่ตาที่ชินแล้วก็มองเห็นหน้าจักรลางๆได้ จักรหลับตา
“ พี่จูบนะ” ผมบอกแล้วจูบปากจักรเบาๆแล้วแรงขึ้นก่อนที่สอดลิ้นเข้าไปในปากหวานๆ น้องเขา
รุกต่อ 100%
เห็นไม่ขัดขืนแบบนี้ผมคิดได้อย่างเดียว ยอม^^
** **