Re: บุพเพวายร้าย(สอง)34...........แบงค์........................หน้า496 ==> ลงเมื่อ พุธ ที่23 ธ.ค.53
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13917.14850 ผม บันบันและธีถือของกินจำพวกขนมซอง และโค้กคนละแก้วเดินไปหลังตึกคหกรรม สถานที่ประจำของพวกผมนอกเหนือจากห้องสมุด(ห้องสมุดเข้าไปนอน เพราะมันเงียบดี)
“ กินข้าวไม่ค่อยอิ่มเลยอ่ะ” บันบันว่านั่งเก้าอี้ม้าหินอ่อนเป็นคนแรก
“ ก็นี่ไง ซื้อขนมมาให้ตั้งเยอะ” ธีว่าวางขนมบนโต๊ะ แล้วนั่งลงพร้อมผม
“ กินเยอะขนาดนั้น ยังไม่อิ่มอีก เดี๋ยวก็ท้องแตก” ผมว่า เพราะที่โรงอาหารบันบันก็กินข้าวไปตั้ง 2 จาน
“ กรูจะกินให้โตทันพวกมรึง2 คนไง มีกรูโตช้าอยู่คนเดียว” บันบันพูดแล้วก็แกะซองขนม ก่อนหยิบกิน ธีฉีกซองมันฝรั่งเพิ่มอีกถุง
“ ไม่เห็นเป็นไรเลย เท่านี้กรูก็รักมรึงจะบ้าแล้ว ตัวเล็กก็ดีกำลังน่ารัก” ธีบอก บันบันหันควับจ้องหน้าเจ้าคนพูด ก่อนที่หน้าแดงระเรื่อ
“ เรื่องของกรู!” บันบันพูดเสียงดัง เอาถุงขนมที่ยังไม่เปิดซองขว้างใส่ธีที่กำลังหัวเราะ และตามไปเก็บถุงขนมที่บันบันขว้างใส่แต่ไม่โดน
“ ไอ้บ้าธีชอบพูดให้กรูอายอยู่เรื่อย” บันบันว่าอมยิ้ม ไม่ได้มีท่าทีโกรธแต่อย่างใด ผมว่าบันบันทำแก้เขินมากกว่า สายตาผมทอดยาวไปไม่มีจุดหมาย แล้วเห็นกลุ่มนักเรียนใหญ่กลุ่มใหญ่เดินอยู่ไม่ไกล (บนถนนคอนกรีตระหว่างตึกคหกรรมกับอาคาร5)
พี่วุฒิ !!หัวใจผมเต้นระทึก สายตาจ้องจับกลุ่มนั้น แต่มีแค่พี่วุฒิที่เจิดจ้าอยู่คนเดียว
พี่วุฒิ…. เพียงแค่เห็นก็ทำให้ผมมีความสุขเอาดื้อๆ ผมรู้ว่าผมไม่ได้อยู่ในสายพี่เขา พี่เขาไม่รู้ว่าผมมีตัวตนอยู่ด้วยซ้ำ แต่แค่ผมได้มองได้มองพี่เขาก็พอแล้ว
‘พี่ครับ กินข้าวหรือยังครับ?’ ผมถามพี่วุฒิอยู่ในใจ มองไปยังพี่เขาขณะกำลังเดินอยู่ในกลุ่มที่กำลังหัวเราะดังลั่น
‘ ข้าวเที่ยงอร่อยไหมครับ? พี่ไปกินที่ไหนครับ ทำไมผมถึงไม่เจอพี่ที่โรงอาหาร’
“ มองไรจุม?” บันบันถาม ผมรีบหันกลับมา
“ เปล่า” ผมว่าหยิบขนมเข้าปาก ในปากหวานกว่าที่คิด …..
“ มรึงยิ้มไร?” บันบันถามอีก
“เปล่า!” ผมตอบเสียงสูง เพราะลืมตัว
“ ………..” บันบันทำคิ้วย่นเหมือนไม่เชื่อที่ผมพูด และหันหน้าไปไปมองทิศที่ผมมองเมื่อกี้ กลุ่มของพี่วุฒิเดินไปไกลแล้ว และตอนนี้ก็มี นักเรียนหญิง 2 คนกำลังเดินมา
“ มรึงชอบเหรอ?”
“ ชอบ!? อะไร?” หรือว่าบันบันจะรู้ ไม่ใช่ว่าผมบิดบังแต่ผมอยากเก็บความรู้สึกนี้ไว้คนเดียวมากกว่า เพราะรู้ยังไงก็ไม่มีทางสมหวัง
“ ก็ 2 คนที่เดินมานี่ไง มรึงชอบคนไหน ผมเปีย หรือผมสั้น กรูจะช่วย” บันบันว่าสีหน้าจริงจัง
“ ไม่ได้ชอบ” ผมบอกและส่ายหน้าไปด้วย
“ ชอบหน่อยดิวะ กรูก็มีความสุขไปแล้วก็อยากให้มรึงมีมั้ง” บันบันว่า
“ ทำไมบันบัน มรึงมีความสุขมากเหรอ?” ธีถาม สายตาดูเจ้าเหล์
“ เสือก!” บันบันว่าขยับมานั่งติดกับผม
“ ถ้ามรึงชอบใคร อยากจะให้กรูกับไอ้ธีช่วยอะไรบอกนะเว้ย”
“ ก็ตอนนี้ยัง…” ผมบอก
“ เออ ก็เผื่อไว้ไง อย่างมรึงต้องเจอสาวสวยดีๆแน่” บันบันบอกมั่นคงมั่นใจ
“เอ๋ หรือว่าผู้ชาย” บันบันพูดต่อ
“ จะผู้หญิงผู้ชายก็ดีทั้งนั้นแหละ ขอแค่จริงใจก็พอ” ธีว่า
“ นั่นดิ” ( บันบัน )
“ ไอ้คุณเพื่อนครับ จะตัดสินแทนกันหมดเลยใช่ไหมครับ?” (ผม)
“ พวกกรูเป็นห่วงมรึง หวังดีกับมรึงมากมายไง” บันบันบอก แต่หยิบแก้วน้ำผมไปกินเพราะของตัวเองหมดแล้ว(ของตัวเองเหลือแต่น้ำแข็งก็เลยมากินของผมซ่ะงั้น แต่ไม่เป็นไรผมชินแล้ว)
“ ครับครับ กระผมนายจุมเข้าใจดี^^” แค่นี้ผมก็มีความสุขพอแล้ว มีความสุขกับการได้มองพี่เขาอยู่ห่างๆ มีความความสุขกับการคิอเพ้อไปคนเดียว บางครั้งก็คิดไปเขินไปเหมือนคนบ้า
“ ก็นะ” (บันบัน)
กรูชอบพี่วุฒิ พวกมรึงว่ามีทางเป็นไปได้ไหม?
**
แค่เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว แค่ผมได้มองพี่เขาอยู่ห่างๆผมก็สุขใจแล้ว พี่วุฒิอยู่แค่ในฝันก็พอ[/color]
**
ฝัน
ผมสะดุ้งเฮือกพร้อมกับลืมตาตื่น
ผมฝันร้าย พอตื่นจากฝันแล้ว ผมก็เข้าใจว่าที่ตัวเองฝัน นั้นมันเรื่องจริง ผมใช้แขนเท้าค้ำร่างกายแล้วลุกขึ้นเท่าที่ร่างกายจะทำได้ เจ็บไปทั้งตัว แต่เทียบไม่ได้กับใจที่จ็บปวด
เมื่อคืนหลังจากกลับงาน( ลอยกระทง) ความโกรธเกรี้ยวของพี่วุฒิไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย
“...............” ผมหลับตาลงบอกตัวเองว่าผมไม่เป็นไร อีกไม่นานพี่วุฒิต้องเข้าใจผมกับพี่แบงค์แน่ๆ ว่าผมกับพี่แบงค์ไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่าพี่น้อง ถึงแม้ว่าตอนนี้พี่วุฒิจะเชื่อรูปพวกนั้นมากกว่าผมก็ตาม แต่ผมเชื่อความจริงใจ ความรักของผมจะทำให้ให้พี่วุฒิเข้าใจ
ผมขยับตัวจะลงจากเตียง ร่างกายเจ็บระบมจนเผลอร้องออกมา แต่ก็แข็งใจยืนขึ้น
ขาผม..สั่น
กริ้งๆ
โทรศัพท์ผมดัง ผมเดินไปดูและหยิบขึ้นมาจากบนโต๊ะที่มีหนังสือเรียนผมวางอยู่
‘พี่ชนะ’?
“................”
“ ฮัลโหลครับ?” ผมว่าหลังจากกดรับแล้ว ( รู้สึกเวียนหัว และคลื่นไส้)
“ จุมเป็นไงบ้าง?!” พี่ชนะถามรวดเร็ว
“ ครับ”
“ ครับอะไร เมื่อคืนไอ้หมาบ้า มันไม่ได้ทำอะไรจุมมากใช่ไหม?!” ถามรวดเดียวแบบไม่หายใจ
“ ผมไม่เป็นไรครับ” ผมบอก
“ ไม่เป็นไร แสดงว่ามันทำร้ายจุมใช่ไหม?”
“ พี่ครับผม...”
“ เอางี้เดี๋ยวพี่ไปหา”
“ อย่าเลยครับ ผมไม่เป็นไรจริงๆ” ผมบอก เพราะตอนนี้พี่วุฒิเองก็ดูจะเคืองพี่ชนะอยู่เหมือนกันที่เข้าข้างพี่แบงค์
“ พี่เป็นห่วง ไอ้แบงค์ก็ด้วย แต่มันไม่กล้าโทรมา เลยให้พี่โทรมา เพราะกลัวไอ้วุฒิจะรับ และไอ้วุฒิมันก็จะคิดเออเองแล้วเราจะเดือดร้อน”
“ ผมไม่เป็นไรจริงๆครับ” ผมบอก ทั้งที่ยืนนิ่งๆแต่กลับเซจนต้องยึดโต๊ะไว้
“ จุมพี่จะบอกจุมอีกครั้งซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 100 แล้วมั้ง ว่า อย่ายอมให้มันทำร้ายโดยไม่สู้”
“ ครับ” แค่เห็นหน้าพี่วุฒิผมก็กลัวแล้ว แล้วจะให้ผมสู้ได้ยังไง
“ ครับแล้วทำด้วย แล้วไอ้วุฒิไปไหน?”
“ ผมตื่นมายังไม่เห็นเลยครับ”
“ เออดีแล้ว มีอะไรก็โทรหาพี่ หรือไอ้แบงค์เข้าใจไหม?”
“ครับ” ผมตอบ และได้ยินเสียงพี่ชนะถอนใจผ่านโทรศัพท์
“……………………”
“ พี่เป็นห่วงเราจริงๆนะจุม”
” ขอบคุณครับ”
“ คุยกับใคร!!?” ผมหันไป เห็นพี่วุฒิยืนอยู่ไม่ห่างตัวเท่าไร
ผมสะดุ้งทันที ไม่รู้ว่าพี่เขามาตั้งแต่เมื่อไร
“ กับพี่ชนะครับ” ผมบอก พี่วุฒิแย่งโทรศัพท์ไปทันที
“ โทรหาเมียกรูทำไมชนะ หรือมรึงอยาก.....” พี่วุฒิพูดได้แค่นั้นก็ดึงโทรศัพท์มาดู
“ พูดไม่ทันจบ วางไปซ่ะได้” พี่วุฒิว่า แล้วยกโทรศัพท์ผมเข้าเตรียมจะฟาดลงพื้น
“ พี่ครับ อย่า!” ผมว่า พี่วุฒิหันหน้าตวัดสายตามาหาผม ผมใจหายวาบเดินถอยหลังโดยไม่รู้ตัว
“ สั่งเหรอ?” พี่วุฒิถาม ผมส่ายหน้า
“ ถามว่าสั่งพี่ใช่ไหม!?
ตอบ! ” ผมสะดุ้ง ร่างกายเหมือนจะไม่มีแรง
“ ปะเปล่าครับ” ผมบอก ล้มจนนั่งลงกับพื้นทั้งๆที่ขาไม่ได้สะดุ้ดกับสิ่งไหนเลย
“ เปล่าก็ดี” พี่วุฒิว่า โยนโทรศัพท์ผมบนโต๊ะ แล้วเดินมาหาผม
“ .............” ผมถอยรนทั้งอย่างงั้น
“ ลุกขึ้นไปกินข้าว” พี่วุฒิบอก ผมพยักหน้า(ก้มหน้า)
“ ..................” พี่วุฒิยืนนิ่ง ผมมองเห็นแค่เท้าพี่วุฒิที่ใส่ถุงเท้าสีเท้าเข้ม
“ ..............................”
แล้วพี่วุฒิก็เดินออกจากห้องไป
“.................” ผมยังนั่งอยู่ที่เดิม พอผมมั่นใจว่าพี่วุฒิออกไปจากห้องแล้วจริงๆถึงได้หันไปมอง ก่อนที่จะกอดเข่าตัวเองเข้ามา เพราะรู้สึกหนาว
“ .......................” ไปแล้ว
ผมยิ้มให้กับตัวเอง ที่ทำได้ดีไม่ทำให้พี่วุฒิโกรธไปมากกว่าเดิม อีกไม่นานพี่วุฒิก็คงจะหายโกรธผม และเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้น
ถ้าพี่วุฒิ ขอโทษผม ผมก็บอกพี่เขาว่า ‘ผมไม่เคยโกรธพี่เลย’
“ ....................”
หวังว่าพี่วุฒิจะเข้าใจผมเร็วๆ
“ คิก” ผมอยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆ
“ หัวเราะอะไร?” พี่วูฒิเดินเข้ามาถาม ผมรีบเงยหน้ามองพี่วุฒิ
“ เปล่าครับ” ผมรีบตอบ
“ ยังจะมาโกหกอีก หรือว่าโกหกจนชิน” น้ำเสียงเหมือนจะไม่พอใจ
“ ไม่ได้โกหกนะครับ” มือผมที่จับกันไว้เริ่มเย็น และผมไม่รู้ว่าจะวางมันไว้ตรงไหน
“ แน่ะ ยังจะมาตอแหลอีก!” ผมก้มหน้างุดลงมองพื้นอีกครั้ง
“ ..............................”
“ ทำไมไม่ออกไปกินข้าว หรือต้องเอามาประเคนให้” พี่วุฒิพูด
“ ..............” แต่พี่วุฒิไม่ได้บอกผม ถ้าพี่เขาบอก ผมก็ออกไปแล้ว
“ ผมไม่รู้ว่าพี่รอกินข้าว” ผมบอก(ยังก้มหน้ามองพื้น)
“ ก็เมื่อกี้พี่บอกแล้วไงว่าให้ไปกินข้าว”
“..............” ผมจำไม่ได้ หรือว่าพี่วุฒิไม่ได้บอกผม
“ คิดจะยั่วโมโหหันแต่เช้าใช่ไหมจุม?”
“ .............” ผมส่ายหน้าตอบว่าไม่ใช่ สงสัยผมคงลืมไปจริงๆ
“ ลุกขึ้น” พี่วุฒิสั่งพร้อมกับก้มลงมาจับไหล่ทั้ง 2 ข้างของผมให้ลุกขึ้น
“ ...............” กลัว
“ ก้มหน้าทำไม”
“ .........” ผมเงยหน้าขึ้นทันที และมองเห็นหน้าพี่วุฒิห่างจากสายตาเพียงฝ่ามือ
“ !?” ผมเอามือผลักพี่วุฒิออกไป
ตกใจ
ผมโดนแน่ อาจจะโดนตบ หรือาจจะเป็นต่อย หรืออาจจะเป็นที่ท้อง โดนข่มขืนแน่
“ อะไรจุม!?”
“ ปล่อย” ผมบอก ผลักพี่วุฒิออกไป พอพี่วุฒิปล่อยผมก็รีบถอยห่างจากพี่วุฒิให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมยืนชิดผนังห้อง ตามองพี่วุฒิที่ยังยืนอยู่ที่เดิมและกำลังมองผม
“ .......................”
“ อย่าทำ...ผม” ผมบอกก่อนที่ทรุดตัวนั่งลง และพยายามเอาตัวแนบกับผนังห้องให้ได้มากที่สุด แล้วผมจะปลอดภัย
“ นึกว่าพี่อยากทำหรือไง ไม่ใช่เพราะจุมหรือไงที่ทำให้พี่เป็นแบบนี้ ทำร้ายความเชื่อใจพี่ ทำร้ายพี่ทั้งๆที่พี่รักจุม แต่สิ่งที่จุมตอบแทนพี่คือ อะไรรู้ไหม คือการหักหลังพี่ กับไอ้เพื่อนที่พี่ไว้มากที่สุด!”
“ พี่ครับ ผมกับพี่แบงค์ เรา 2 คนไม่ได้…………”
“ อย่าพูดชื่อนี้กับพี่!” ตะคอกเสียงดัง ผมหดตัวลงกลัวพี่วุฒิจะมากระชากตัวผมขึ้นไป
“ นี่ถ้าไม่มีรูป ถ้าพี่ไม่รู้ความจริง คงจะไปถึงไหนต่อไหนกัน แล้วหัวเราะเยาะพี่กันใช่ไหม” ผมส่ายหน้าที่ซบอยู่บนเข่าตัวเอง
พี่เข้าใจผิด ผมก็รักพี่ แล้วผมจะไปมีใจมีอะไรกับพี่แบงค์ได้ยังไง
เชื่อใจผมบ้าง
“ มากินข้าว” พี่วุฒิบอก แล้วตัวผมก็ลุกขึ้นเพราะแรงดึงจากมือพี่วุฒิ
“ ...................” ตามด้วยแขนผมที่ถูกลากออกไปนอกห้อง
“ ตัวก็ผอมจะตายอยู่แล้ว แต่กินข้าวเหมือนแมวดม วันนี้ถ้ากินข้าวไม่หมดจาน เตรียมเจ็บตัว!”
“ พี่ครับเจ็บ” ผมบอก เพราะพี่วุฒิกำแขนผมแน่นมาก และร่างกายผมก็ปวดมากด้วย
“ ..............” พี่วุฒิไม่ตอบ ลากตัวผมไปนั่งเก้าอี้โต๊ะอาหาร อาหารนับ 10 อย่างวางเต็มโต๊ะ ซึ่งทุกจานถูกจัดอย่างบรรจงประณีตและสวยงานเกินกว่าจะเป็นอาหารมื้อเช้าธรรมดา คงเป็นของที่สั่งจากโรงแรมพี่วุฒิเหมือนทุกที
“ ...............” ผมมองอาหารตรงหน้าไม่ได้รู้หิวหรืออยากกินเลย ออกจะเหม็นด้วยซ้ำ
“ มองทำไม กินเซ่!” พี่วุฒิบอก มือผมแทบจะตะครุบซ้อนส้อมมาถือไว้ และตักหมูในจานที่ใกล้ที่สุดเข้าปาก
“.........................................”
“ ก็แค่นี้” พี่วุฒิว่าลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในครัว ชิ้นหมูในปากผมรู้สึกว่ามันขม แต่ก็เคี้ยวและฝืนกลืนลงคอ แต่ตักชิ้นใหม่ขึ้นมากิน
กึก
พี่วุฒิวางแก้วนมข้างมือซ้ายของผม ผมไม่ได้หันไปมองแต่ใช้หางตามองแม้ว่าผมก็จะก้มหน้าอยู่แต่ก็มองเห็น
“ พอใกล้จะอิ่มกินนมนี่ให้หมดแก้ว” ผมพยักหน้าเข้าใจ
“ ทำไมชอบก้มหน้า เงยหน้ามาดิ” พี่วุฒิบอก ผมเลยหันหน้าไปหาพี่วุฒิช้าๆ
ไม่รู้ว่าพี่วุฒิจะตบผมไหม?
“ ....................................” พี่วุฒิจ้องหน้าผม
“...............” แล้วผมก็ก้มลงก่อนที่จะหันกลับมามองจานข้าวเหมือนเดิม
“......................” (พี่วุฒิ)
“ .......................” ผมนิ่งมองเม็ดข้าวสีน้ำตาลในจาน
“ .............”
“..........................”
“ กินข้าว” พี่วุฒิสั่ง ผมก็กินข้าวในจาน
“ ..................!?” พี่วุฒิตักเนื้อปลาใส่จานผมและอย่างอื่นอีกเรื่อยๆ โดยที่ตัวพี่เขาไม่กินเลยสักคำ
“ พี่ไม่กินเหรอครับ?” ผมถามด้วยความสงสัย
“ จุมอิ่มพี่ก็อิ่ม” พี่วุฒิบอก จ้องหน้าผม
ผมอยากบอกพี่ ว่าผมรักพี่ ไม่เคยคิดนอกใจพี่เลยสักครั้ง ไม่เคยเลย
“ ......................................พี่ครับ เรื่องรูปผมกับพี่...”
เคร้ง!?? พี่วุฒิปัดจานข้าวของตัวเอง จนร่วงลงพื้น
“ บอกว่าอย่าพูด หรือจะยอกย้ำพี่เรื่องนี้!”“ แต่ผม...”
ผวักะ! ฝ่ามือแข็งๆตบเข้าแก้มจนหน้าผมหันไปอีกด้าน แรงจนได้กลิ่นเลือดในปาก
“ จะต้องให้บอกกี่ครั้งว่าไม่ให้พูดถึงเรื่องนี้!”
“ .........................” ผมไม่ได้หันกลับไป ขอบตามันร้อนและปล่อยน้ำตาให้ไหลอาบแก้มลงมา
“ .....อึก.....ก็ผม ไม่ได้เป็นอย่างที่พี่พูด” ผมพูดทั้งที่รู้ว่าพี่วุฒิต้องโกรธผมมากกว่าเดิมแน่
“ เถียง!!” คอเสื้อผมผมโดนกระชากขึ้นอย่างแรง
“ ผมไม่ได้เถียงครับ ผมพูดความจริง” บอกตัวเองว่าอย่าพูด อย่าพูดอะไรอีก แต่ปากมันก็พลั้งไปแล้ว
ทำไม่ไม่เชื่อผมบ้าง น้อยใจทุกครั้งที่คำพูดของตัวเองไม่มีความหมาย
“ นี่แหละที่เขาเรียกว่าเถียง!!” ผมส่ายหน้าปฎิเสธ
“ ...................”
“ มานี่” พี่วุฒิกระชากไหล่ผมให้หันไป แล้วก้มลงช้อนตัวขึ้นอุ้ม
“ พี่ครับ พี่?!” ผมพูดเสียงหลงทั้งตกใจทั้งกลัว
“ .....................” พี่วุฒิไม่พูด ไม่มองผมด้วยซ้ำ
“ พี่ครับ จะพาผมไปไหน?!” ผมถามขณะที่พี่วุฒิอุ้มผมเข้าห้อง ตามด้วยถูกโยนลงที่เตียง
“ พี่!!?” กลัวจนใจสั่น ทั้งที่รู้ว่าจะโดนทำอะไร เพราะรู้ถึงได้กลัว
“ พี่ผมไม่พูดแล้ว พี่ไม่พูดแล้ว” ผมรีบบอก จนแทบจะสำลักน้ำลาย
ใจสั่น เหมือนมีหลุมกว้างที่ท้องทำให้สติควบคุมร่างกายไม่ให้สั่นตามใจไม่ได้
“ เหรอ?” พี่วุฒิว่า มือกดไหล่ผมไว้กับเตียง ไม่ให้ผมลุกขึ้น
“ ครับพี่ครับ” ยิ้มดีใจที่พี่วุฒิเหมือนจะเข้าใจผม
“ แต่ไม่เชื่อ” พี่วุฒิว่า เรี่ยงแรงของหดหายไปทันที
“…………”
อยากให้มีปฎิหารย์ ให้ที่ผมพูดเมื่อกี้ให้ผมไม่ได้พูด หรือพี่วุฒิไม่ได้ยิน พี่วุฒิจะได้ไม่ต้องโมโห แต่ผมทราบดีว่าความจริงตอนนี้คืออะไร ไม่มีใครช่วยได้ ผมก็ช่วยตัวผมเองไม่ได้
“........”
*****
ผมลืมตาผมมองไปรอบๆหวาดๆ พี่วุฒิยืนอยู่ข้างตียง ด้านบนเปลือยเห็นแผ่นอกมีกล้ามเนื้อเนียนๆท่อนล่างใส่กางเกงสีดำ พอผมเห็นพี่วุฒิก็หลบสายตาลงทันที
ไม่กล้ามอง
“…………”
“ จะนอนไปถึงไหน เร็วรีบลุก จะได้รีบไป” ผมไม่รู้ว่าพี่วุฒิจะพาไปไหน แต่ก็รีบลุกขึ้นมา และทันทีที่ร่างกายขยับก็เจ็บร้าวทั้งตัวตัว ผมกัดฟันแน่น น้ำตาคลอดแต่ก็พยายามไม่ให้มันไหลออกมา พอเท้าแตะพื้นที่รู้สึกเมื่อกี้เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ แต่ก็กัดฟันทน แล้วเดิน ผมเซ
“ จุม?!” พี่วุฒิเข้ามาประครอง ผมเงยหน้าขึ้นมอง สีหน้าพี่วุฒิเป็นห่วงผมชัดเจน แค่นี้ความเจ็บปวดผมก็ทุเลาลงมาก
“ พี่ครับ” ผมจับแขนที่ประครองผมอยู่
“ จะสำออยอีกนานไหม?” พี่วุฒิว่า มือผมที่จับแขนพี่วุฒิต้องดึงกลับมา ก่อนที่ผมจะเดินกะเพลกๆเข้ามาในห้องน้ำ
ผมล้างหน้าตา ก่อนที่จะเอาผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆเช็ดเนื้อเช็ดตัว โดยไม่ได้อาบน้ำ เพราะถ้าผมอาบน้ำผมคงไม่สบายแน่ ปกติผมก็ทำแบบนี้
ผมคิดถึงเหตุการณ์เมื่อกี้ แล้วก็ยิ้มออกมา พี่วุฒิยังคงเป็นห่วงผมอยู่ ตอนนี้พี่เขาก็แค่โกรธผม
“……………..” ถ้าพี่วุฒิเข้าใจเรื่องพี่แบงค์กับผมเมื่อไร พี่วุฒิก็จะกลับไปเป็นคนเดิม เหมือนตอนที่อยู่บ้านผม
ก็อกๆ เสียงเคาะประตู ผมหันไป
“ ล็อกประตูทำไม !?” พี่วุฒิถามจากด้านนอก
“ ครับ” ผมว่า
“ เสร็จหรือยัง ถ้าเสร็จแล้วก็ออกมา!” พี่วุฒิบอก ผมวางผ้าไปตรงซิงค์แล้วเดินไปเปิดประตู พี่วุฒิยืนขมวดคิ้วอยู่หน้าประตู
สงสัยจะไม่พอใจ
“ บอกว่าไม่ให้ล็อกประตู” พี่วุฒิว่า ซึ่งก็มีบางครั้งที่ผมลืมตัว เหมือนครั้งนี้
“ ขอโทษครับ” ผมบอก พี่วุฒิเงียบ
“ ไปใส่เสื้อ จะยืนให้หวัดกินอีกหรือไง แค่นี้ก็ต้องไปหาหมอจนเหมือนบ้านอยู่แล้ว!” ผมพยักหน้าเดินผ่านพี่วุฒิว่าจะเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า แต่ก็มองเห็นเสื้อยืด กางเกงยีนต์ และกางเกงในวางช้อนกันบนเตียง
“ ……………” พี่วุฒิเตรียมไว้ให้
ดีใจ
***
เหนื่อยดี เมื่อคืนทำงานเกือบเที่ยงคืน กว่าจะกลับกว่าจะนอนก็ตี1 ซึ่งเลยเวลานอนมามากมาย เพราะนัดละอ่อนมา แต่พอถึงเวลาจริง ไม่มีคน แล้วจะทำยังไงล่ะ? ก็เจ้าหญิงนี่แหละลงปฎิบัติเอง เฮ่อเหนื่อยมหาศาล คืนอาทิตย์นี้ดูท่าละอ่อนมากกว่า 10 จะมากันไหม มากันหน่อยเถอะ เหอะๆ มีเค้าว่าเจ้าหญิงต้องลงมือเองละมั้ง!!ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ว่าจะไม่กลับ นอนที่ทำงาน เช้าค่อยกลับ
ปล. เดี๋ยวมาต่อ 36 ....จุม2
ปล.2 MerrY ChristmaS