
ง่วงนอน เหอะๆ แต่นอนไม่หลับครับ โอกาสว่างไม่ค่อยมีบ่อยๆ เลยนอนกลางวันซะเต็มที่ อย่างที่เกริ่นๆไว้ครับว่าไม่ค่อยมีเวลา มีปัญหาไม่เว้นวัน บางทีก็นึกนะว่าเมื่อไม่นานมานี้เราเองเพิ่งจะตกงาน อยู่ไกลบ้าน ไม่เท่าไรชีวิตก็หมุนไปหมุนมา พูดไปอาจจะดูเกินจริง แต่ที่ได้มาคุย บางครั้งได้คำปรึกษาจากบอร์ด ช่วยได้ไม่น้อยเลย ^^ ขอบคุณทุกคนอีกครั้งนะครับ
มาว่าด้วยเรื่องปลาทองดีกว่า ช่วงนี้เขาได้เทรนใหม่ครับ กินเหล้าแล้วร้องไห้ มันเริ่มกินเหล้าได้เป็นปกติเหมือนชาวบ้านแล้วนะ คือไม่เมาง่ายๆ แต่พอเมาแล้วดันนึกถึงความหลังครับ มันเอาเรื่องที่มันเจอตอนที่เรียนมหาวิทยาลัยนี่แหละไปหลอกหลอนไอต้า เหอะๆ เพิ่งวางสายไปตอนตีสองกว่า ไอต้าบอกว่าทำมันเครียดด้วยเลย เพราะบางเรื่องมันอยากลืมครับ อย่างเช่น เรื่องที่กำลังจะเล่าในช่วงนี้แหละ ...
--------------------------------------------------
กีตาร์ ตัวพ่อ ตอนที่ 13/1
ผมทราบจากเพื่อนร่วมงานของแม่ว่า แม่ของผมหอบและล้มในห้องน้ำ ผมกังวลใจมากเพราะแม่ของผมเคยล้มลักษณะนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง จนมีปัญหากระทบกระเทือนทางสมอง
“ไม่ทราบว่า คุณ ... อยู่แผนกไหนครับ ” ผมบอกชื่อของแม่ที่เคาท์เตอร์พยาบาล
“ รอสักครู่ค่ะ คุณ ... เข้ามารักษาเวลา เก้านาฬิกา ห้าสิบนาที ตอนนี้กำลังวินิจฉัยอาการค่ะ ชั้นห้า ทางซ้ายมือ ห้องตรวจที่สามค่ะ ”
“ ขอบคุณมากครับ ” พอรู้จากพยาบาล ผมก็ขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้นห้า เพื่อไปหาแม่ทันที
“ อ้าว แม่ ! ”
“ อ้าว มาได้ยังไงลูก ” แม่ของผมกำลังนั่งให้หมอดูอาการอยู่ครับ
“ สะโพกช้ำมาก อย่างไรหมอจะให้ไปตรวจเอกซเรย์กระดูกด้วยนะครับ ” แม่ของผมนั่งไม่ได้ ท่านปวดมากๆ ผมเข้าไปจับมือของท่าน
“ ไหนว่าจะไปเที่ยวกับหนูกีไง มาทำไมลูก ” ยังจะห่วงเรื่องเที่ยวของผมอีก
“ แม่ เป็นอะไรมากไหมครับ ”
“ โอย ไม่เป็นอะไรหรอก แม่คว้าก๊อกน้ำได้ เลยล้มกระแทกตรงสะโพกนี่ ” แม่ชี้ให้ผมดู
“ ฮะๆ ดีนะครับที่คว้าทัน ผมดูจากที่บาดเจ็บ ถ้าไม่เป็นอย่างนั้นอาจจะรุนแรงเอาการอยู่ ” ผมโล่งอกอย่างบอกไม่ถูกเลย
“ หนูกีมาด้วยไหม อยู่ไหนล่ะ ”
“ ... แย่แล้ว ” ผมไม่ทันนึกถึงกีเลยครับ ผมเผลออารมณ์เสียใส่กี แย่แน่ๆ ตอนนี้กีเป็นยังไงบ้างนะ
“ แกไปทำอะไรไม่ดีใช่ไหม ” ผมกลืนน้ำลายเอื้อก ก่อนจะพยักหน้า
“ นี่ ! ทำไมถึงไม่รู้จักระวัง ไม่ได้เรื่องเลย ! ”
“ แม่เจ็บอยู่นะครับ อย่าโมโหสิ ” ผมพยายามบอก แต่แม่ไม่ฟังแล้วครับ พยายามจะลุกขึ้นนั่ง
“ ไม่โมโหได้ยังไง ไปเลยนะ ไปคุยกับเขาเดี๋ยวนี้ ถ้าเกิดเรื่องล่ะ ชั้นจะริบคืนให้หมดทุกอย่างเลย ” ตายล่ะผม
“ แล้วใครจะอยู่ดูแลแม่ล่ะครับ ”
“ แหมๆ สมัยก่อนชั้นลำบากกว่านี้ แกยังไม่โตเลย ไม่เป็นอะไรหรอก ... ไปเถอะลูก ” ผมกอดแม่หลวมๆโดยไม่อายหมอ เพราะผมกับแม่กอดหอมกันประจำ ไม่เคยอายครับ
ผมรีบวิ่งไปขึ้นลิฟท์ และรีบไปให้ถึงที่จอดรถ ผมค่อยนึกถึงสิ่งที่ผมระบายใส่กี นั่นทำให้ผมรู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย ผมไม่ได้ตั้งใจจะพูดอะไรใส่กีแบบนั้นแม้แต่นิด เพียงแต่ผมกำลังเป็นห่วงแม่มาก แม่ของผมไม่มีพ่อเป็นเพื่อน ผมกำพร้าตั้งแต่เด็ก มีแม่เพียงคนเดียว ผมอยากทำหน้าที่ของลูกคนหนึ่งให้ดีที่สุด
“ เฮ้ยนุ กีล่ะ ” พอถึงที่จอดรถ เห็นแค่ไอนุกำลังยืนกินน้ำอยู่
“ ไปแล้ว ”
“ ไปไหน มึงปล่อยกีไปไหนคนเดียวได้ไงวะ ”
“ โอ้โห ไอโง่ ไอชั่ว มึงนี่ไม่รู้จักจำเลยนะ ครั้งนี้มึงโดนหนักแน่ๆ ” ผมงงกับคำพูดของไอนุ โดนหนักอะไร
“ อะไรของมึง ตกลงกีอยู่ไหน ” ไอนุส่ายหน้า
“ มึงไปว่ามันไว้ยังไงล่ะ ตอนนี้มันไปจากมึงแล้ว พอใจหรือยัง ”
“ บ้าน่า กูไม่ได้ ... กีคิดไปถึงไหนแล้ววะ ” ยอมรับโดยดีว่าผมจำที่พูดกับกีไม่ได้ครับ จำได้แค่ว่าโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงที่มันสองคนลงมาจากรถช้า
“ เป็นกูก็คิด มึงนี่เป็นผู้ชายส้นเท้ามาก ไอเวรเอ้ย ” ไอนุทำท่าจะเดินลิ่วๆออกไป
“ เดี๋ยวสิๆ มึงจะไปไหน ” ไอนุหันหลับมามองหน้าผม
“ กูอยู่รอบอกข่าวร้าย แล้วก็จะไป ”
“ มึงอยู่กับกูก่อนสิวะ ... ช่วยกูก่อน ” ผมละอายใจที่พูดออกไปแบบนั้น แต่ผมคงแก้ปัญหาเองไม่ได้ ผมไม่มีโอกาสเข้าถึงตัวกีง่ายๆแน่
“ ครั้งนี้ไม่ไหวหรอกว่ะ อย่างมากก็นั่งดูมึงเฉยๆ ”
“ ทำไมถึงพูดแบบนั้น ” ไอนุมันมั่นใจแปลกๆ เหมือนมันมั่นใจว่าผมจะขอคืนดีกับกีไม่ได้ง่ายๆ
“ กูโทรบอกพวกพี่ๆหมดแล้ว ”
“ ... ว่าไงนะ ” อันนี้ทำผมตกใจของจริง มันโทรบอกพวกพี่ๆอย่างนั้นเหรอ โอย แบบนี้ผมจะทำยังไงดี
“ ตอนนี้มันอยู่หอพี่เบสแล้วมั้ง ส่วนพวกพี่ๆว่าจะไปเที่ยวกัน ก็เลยต้องไปอยู่ที่นั่นหมด ” ท่าทางไม่รู้ร้อนรู้หนาวของไอนุ เริ่มทำให้ผมเซงแล้วครับ มันยืนดูดน้ำหน้าตาเฉยชามาก
“ ไปกับกูทีเหอะ ”
“ เหอะๆๆ ให้กูไปด้วยก็ดี มึงคงขับรถกลับเองไม่ได้อยู่แล้ว ” ผมไม่อยากเถียงกับมันต่อ เลยขึ้นรถและออกมาจากโรงพยาบาลทันที ตลอดทางที่มาไอนุไม่หยิบโทรศัพท์คุย ไม่พูดอย่างอื่นนอกจากบอกเส้นทาง
“ เอาไงมึง ” ไอนุหันมาถามผมก่อนจะเคาะประตู
“ กูเคาะเอง ” ผมเดินไปเคาะประตู ไม่นานก็มีคนมาเปิดประตู
“ เฮ้ย ... มึงมาทำไมวะ ” เป็นพี่เชนครับ พอเจอหน้าผมพี่เขาก็ทำหน้าตกใจ
“ ผมมาหากี พี่ให้ผมเข้าไปที ”
“ ลองๆดู ” พี่เชนเอามือมากุมคอของผม แล้วดึงผ่านช่องประตูเข้ามา ...
กีตาร์ ตัวแม่ ตอนที่ 23/1
“ ฮึก พี่เบส ”
“ ไอเ-ย ต้า !!! ” ผมกำลังกอดให้พี่ชายลูบหัวอยู่ดีๆ พี่เบสก็ตะคอกด่าไอต้าออกมา ผมตกใจรีบผละออกจากพี่เบส
“ เฮ้ยๆๆ มึงใจเย็นสิไอกรด ” ผมหันไปตามเสียงของพี่เชน ... ไอต้ามันมาได้ยังไง
“ ไอบอล ปล่อยกู ” โชคดีไปที่พี่บอลอยู่ที่นี่ด้วยอีกคน ไม่งั้นล่ะมันคงได้น่วมอีกรอบ
“ พี่เบส ขอผมคุยกับแฟนผมก่อน ”
“ กูไม่ใช่แฟนมึง กูไม่ใช่เกย์ !!! ” ผมเผลอโพล่งด่าไอต้าไป ลืมสนิทเลยว่าในห้องนี้เกินครึ่งเขาเป็นอย่างว่าอะ พวกพี่ๆมองหน้ามองตากันเลิ่กลั่กๆ
“ เบส ให้น้องเข้ามาก่อนดีกว่ามั้ง กลัวคนอื่นได้ยินบ้าง เรื่องในครอบครัวนะ ” พี่ก้อยสุดสวยพูดขึ้น พี่เบสถึงกับอ่อนยวบ หึหึ ตั้งแต่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน รู้สึกจะเรียบร้อยขึ้นมาก
“ ก็ได้ๆๆ ” พี่เชนหยุดรั้งไอต้า และปล่อยมันเข้ามาหา
“ ไม่ๆ มึงไปนั่งกับไอบอล ” ไอต้ามันจะนั่งกับผม แต่พี่เบสสั่งให้มันไปที่อื่น
“ ไหนมึงสัญญาว่าจะไม่มายุ่งกับน้องของกู ” พี่เบสเปิดประเด็นก่อน
“ แค่เข้าใจผิดกันเฉยๆนะพี่ ทำไมต้องกีดกันขนาดนี้ด้วย ” มันพูดน่าหมั่นไส้อะ เข้าใจผิดอะไร มันไม่รักผมแล้วต่างหาก
“ คราวก่อนกูบอกว่าเลิกยุ่งกัน อยู่ด้วยกันไม่ดี คบกันแล้วไม่มีความสุขจะอยู่ด้วยกันทำไม ... ใช่ไหมน้อง ” พี่เบสถามทำเอาผมอ้ำอึ้ง ผมไม่มีความสุขจริงๆหรือปล่าวนะ
“ เบส มันไม่ใช่เรื่องของตัวเอง น้องเขาโตๆกันแล้ว ที่สำคัญ เขาเป็นแฟนกัน ไม่ได้จะแต่งงานกันซะหน่อย ” เอาอีกคนล่ะ ที่พี่ๆพูดกัน ทำให้ผมได้คิดอะไรบางอย่าง
“ ไม่เกี่ยวหรอกก้อย คนเป็นพี่เขาห่วงน้องได้ ” พี่บอลเริ่มแทรก
“ บ้าเหรอแก มันอะไรนักหนา ทำอย่างกับน้องกีดูแลตัวเองไม่ได้งั้นแหละ โธ่ ... ”
“ นี่ ก้อย ! ” ประโยคของพี่ก้อย แทงเข้าใจดำของผมอย่างจัง ผมนั่งมองรอบๆห้อง ในนี้ขาดแค่เพื่อนเก่าของผมคือไอต้นสนกับข้าวปุ้นแค่สองคน นอกนั้นเป็นคนที่อยู่ข้างกายผมเสมอ ... นี่ผมเป็นอะไรของผม ทำไมต้องทำให้ทุกคนตามห่วงใยแบบนี้ด้วย
“ ทุกคนกลับเถอะครับ ไม่มีอะไรแล้ว ” ผมก้มหน้าพูดออกไป ตอนนี้ก็แกล้งทำใจแข็งอยู่
“ กลับได้ไงวะ ... ” พี่เชนพูด
“ บอกให้กลับไง ไม่ได้ยินหรือไง !!! ... ฮืออ พี่เบส ... ให้พวกเขากลับนะ ” ไม่ไหวแล้ว ผมทนไม่ไหวอะ หลายคนคงไม่เข้าใจหัวอกของผม ที่ผมเจ็บใจกับตัวเองที่สุดคือเรื่องที่ผมพึ่งพาตัวเองไม่ได้ แค่ต้องอยู่คนเดียว ผมยังทำไม่ได้
“ เฮ้อ กี ... ทุกคนเขาแค่ ... แค่ ” เออ ยอดเลยพี่ชายกู แค่จะปลอบน้องยังนึกคำไม่ออก
“ ผมว่ากลับกันก็ได้ ... ยังไงมีอะไรบอกด้วยนะพี่ ” ฟังไม่ผิดครับ ผมเงยหน้ามอง ไอนุมันจะกลับแล้ว นาทีนี้ผมคิดว่าคงไม่มีใครเข้าใจผมมากกว่าไอนุ
“ งั้นพวกเราก็กลับเหอะ ... มึงลุกสิไอต้า ” พี่บอลก็คงจะตามแฟนเขาอะ ส่วนไอตัวปัญหาไม่รู้ร้อนรู้หนาวหรอก
“ ไปๆๆ ” พี่เบสโบกมือไล่มันอีกคน ไอต้าเลยต้องจำใจลุกตามพวกพี่ๆไป ในห้องตอนนี้เหลือแค่ผม พี่เบส กับพี่ก้อยเท่านั้น
“ อย่าคิดมากนะ ”
“ พี่เบส ฮึก ... ทำไมผมต้องเป็นแบบนี้อะ ” ตั้งแต่พ่อของผมเสียชีวิต พี่ๆทั้งสองคนก็เอาใจผมทุกอย่าง ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้นะ เพียงแต่ผมรู้สึกดีมากๆเวลามีคนมาเอาอกเอาใจ มันเป็นแบบนี้แก้ไม่หาย
“ ไม่เกี่ยวกับน้องหรอกนะ ถ้าพูดแบบนั้นพวกพี่ก็ผิดด้วย ”
“ เรื่องต้าล่ะน้องกี ” พี่ก้อยถามขึ้นมา
“ ตั้งแต่เข้ากรุงเทพฯ มา ... ” ผมพยายามเล่าเรื่องความเลวของไอต้าให้พี่ก้อยฟัง
“ โหย ... แล้วน้องกีจะสนไปทำไมล่ะ ถึงต้าจะเป็นเพื่อนแม่ก็เถอะ ผู้ใหญ่เขาเข้าใจ ” ดูเหมือนพี่ก้อยจะไม่เข้าใจความรู้สึกส่วนนี้ของผม
“ ไม่เกี่ยวกับเรื่องนั้นหรอก ”
“ หรือกลัวมันจะไล่ออกจากหอ ” พี่เบสถามบ้าง
“ กลัวทำไมพี่ ถึงออกมา แม่คงมีปัญญาจ่ายเงิน หาที่อยู่ใหม่ให้ ”
“ งั้นมันอะไรล่ะน้องกี พี่ว่าแค่คบกัน ไม่จำเป็นต้องยื้อขนาดนี้นะ ” ผมหลับตา พยายามหาคำตอบ ที่ผมเองอธิบายไม่เคยถูกเลยสักครั้ง ... หรือบางทีเป็นสิ่งที่ผมไม่กล้าพูดเอง
“ ผม ... ผมขาดมันไม่ได้ ” ...
กีตาร์ ตัวพ่อ ตอนที่ 13/2
“ แม่งเอ้ย แค่เด็กน้อยจะมีความรัก ทำไมต้องทำกูวุ่นวายด้วยวะ ” เรากลับมาที่คอนโด พอมาถึงไอนุไม่พูดพร่ำทำเพลง มันสวดใส่ผมไม่มีหยุด
“ นั้นดิ กูล่ะงงกับมึงสองคน นี่ถ้าไม่ได้เป็นพี่มึง กูนึกว่าพวกมึงอายุสามสิบกันนะเนี่ย ” พี่เชนช่วยเสริม
“ มึงจะเข้าใจอะไร มึงมันใหญ่แต่ตัว ” เหอะๆ พี่บอลด่าพี่เชนครับ
“ ด่าผมด้วยปะ ”
“ เอ่อ ไม่ใช่ๆ พี่ว่าไอเชนมัน ” เฮ้อ ทำไมแฟนผมไม่ได้อย่างพี่บอลกับไอนุเลยนะ เข้าใจอะไรยากเหลือเกิน
“ นี่ไม่เท่าไรจะเปิดเทอมแล้วไม่ใช่เหรอ อย่าเอาเรื่องรักๆใคร่ๆทำให้เรื่องเรียนเสียนะ ” พี่บอลหันมาเตือนผม
“ ทำไงล่ะพี่ ไม่ใช่รักๆเลิกๆกันง่ายๆ … พี่ หรือที่มันยุ่งยาก เพราะผู้ชายชอบกัน ... ”
“ อย่าพูดๆ มึงหยุดเลย ” ผมกำลังจะพูดให้จบ แต่โดนพี่เชนชี้หน้าซะก่อน
“ เรื่องแบบนี้มีแค่กับมึงสองคน ผู้ชายชอบกันไม่เกี่ยว มึงอย่าเหมารวม ... ตอนนี้มึงกำลังจะเอาความผิดของมึงไปลงกับความรัก มึงโทษแบบนั้นไม่ได้ ” พี่เชนพูดจนผมอึ้งไป ไม่นึกว่าพี่เชนจะมีเหตุผล และสกัดความคิดผิดๆของผมไว้แค่เท่านี้ได้
“ ที่เป็นแบบนั้น เพราะมึงสองคนรักกันมาก ไม่เกี่ยวกับเรื่องอื่น ” ไอนุพูดขึ้นมาอีกคน นาทีนี้ผมรู้สึกถึงคุณค่าของเพื่อนและมิตรภาพที่ดีๆของทุกคน
“ มึงจะชอบผู้หญิง แล้วทิ้งกีก็ไม่เป็นอะไร แต่อย่าทิ้งอย่าเลิกโดยเข้าใจอะไรผิดๆ ไม่อย่างนั้นมึงจะกลับมาเหมือนเดิมไม่ได้อีก ... ใครเคาะประตู ” พี่บอลช่วยขยายความอีก แต่จังหวะนั้นก็มีเสียงคนเคาะประตูห้อง ไอนุที่อยู่ใกล้ประตูที่สุด ลุกขึ้นไปเปิด
“ ป้าจีน ! ” หือ แม่ผมเหรอ
“ แม่ ... แม่มาทำไม ” ผมวิ่งเข้าไปหาท่าน แต่กลับโดนเคาะหัวอย่างหนักหนึ่งที
“ มาทำไม มีหน้ามาถาม ชั้นมาหาหนูกีสิ ลูกไม่ได้เรื่องน่ะ ชั้นไม่มาหาหรอก ... หนูกีล่ะ พามาหาแม่สิ ” ผมหันไปมองหน้าพวกที่อยู่ในห้อง แต่ละคนถึงกับพูดไม่ออก
“ มีอะไรกัน หนูกีอยู่ไหน ”
“ กีอยู่ห้องพี่เบสครับป้า ” ไอนุแนบมาตอบ
“ อ้าว ทำไมพวกเราไม่ไปด้วยล่ะ ... มีเรื่องอะไร ”
“ แบบนี้ครับป้า … ” พี่บอลในฐานะคนที่หน้าตาดีที่สุด เอ้ย คนที่ดูสุภาพที่สุด ถือโอกาสเล่าเรื่องหลายๆเรื่องที่ผมไม่ได้เล่าให้แม่ฟังทั้งหมด
“ ... ฮึ่ม ” แม่ของผมหันมาทำเสียงขู่ใส่ผม
“ ชั้นล่ะนึกไม่ถึงเลยว่าลูกชายชั้นจะเป็นแบบนี้ ”
“ แม่ ”
“ แกพูดมาคำเดียว จะเลิกกับเขาไหม ชั้นสงสารหนูกี ” คำนี้กระแทกใจผมอย่างแรง ตอนที่แม่ของผมพูดทำนองว่าผมผิด ผมเองรู้สึกสงสารกีขึ้นมา
“ แม่ ผมไม่เลิกหรอก ”
“ ไม่เลิกนี่เพราะรู้สึกผิด หรือไม่อยากเลิกจริงๆ ”
“ เออ ... ว่าไง ” ขณะเดียวกันไอนุก็รับโทรศัพท์ ไม่รู้ว่าเป็นสายของใคร
“ ผมไม่อยากเลิกก็แล้วกัน ” ผมตอบแม่
“ ไม่ทันแล้วมั้งเพื่อน ” ไอนุพูดแทรกขึ้น
“ พี่เบสโทรมาว่าจะย้ายของให้กีพรุ่งนี้ ... กีเลิกกับมึงแล้ว ” …