ช่วยด้วย! ผมได้แฟน***ไอ้เด็กช่างยนต์ By ที...60 ฟ้าหลังฝน หน้า 143 (01/28/61)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ช่วยด้วย! ผมได้แฟน***ไอ้เด็กช่างยนต์ By ที...60 ฟ้าหลังฝน หน้า 143 (01/28/61)  (อ่าน 1414367 ครั้ง)

ออฟไลน์ LEO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-3
เอามาลงให้ครึ่งแรกก่อนน่ะครับ.....

ช่วยด้วย! ผมได้แฟนเหี้ย ไอ้ด็กช่างยนต์ 52… ครั้งแรกกับหนุ่มเชียงใหม่
    หลังเงียบหายไปหลายเดือน โทษทีครับไม่ค่อยว่างเลยอ่ะ ทั้งงานทั้งเรียนแต่ก็สนุกดี(บางครั้ง)ดูเหมือนตัวเองมีค่าแก่สังคมไทยมากมาย(นั้นว่าไป เข้าข้างตัวเอง) แต่พอมากๆเข้าก็เครียดประมาณมว่า “กูจะดิ้นรนไปกว่าชาวบ้านชาวช่องเค้าทำไมวะ” นี้แหละความคิดคนเปลี่ยนแปลงได้บ่อยตามสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว เดี๋ยวแล้ง เดี๋ยวฝนตก เดี๋ยวน้ำท่วม เดี๋ยวลมแรง เอาไปสารพัดในระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ (ตามสไตส์การเล่าเรื่องของผม จับหลายๆเรื่องมารวมกันมั่วไปหมด แล้วแต่คุณผู้อ่านจะแยกแยะแล้วกันนะคร๊าบบบ) สวัสดีปีใหม่ด้วยนะครับ(ทันไหม) ว่าจะเล่าเรื่องช่วงปีใหม่แต่ก็สายไปซะแล้ววว เผลอเป๊ปเดียวข้ามเดือนเลยอ่ะ
   ครั้งนี้เริ่มต้นด้วยเล่าการทำงานก่อนนะครับ
   ผมก็ทำงานตามปกติ วันนี้ผมขึ้นเวรโรงพยาบาล ผมเชื่อว่าทุกคนคงเคยเข้ารับบริการหรือเคยเห็นโรงพยาบาลของรัฐเนอะว่าเป็นยังไง คนไข้ก็จะเยอะมากถึงมากที่สุด โดยเฉพาะแผนกผู้ป่วยนอก คนจะรอคิว บางโรงพยาบาลจะถอดรองเท้าเอาไปเรียงกันไว้แทนการเข้าคิว ผมก็เข้าใจนั้นนะว่ามันก็ลำบาก เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ทุกคน ทุกแผนกที่รองรับกันแทบจะไม่ไหว วันหนึ่งๆต้องพูดคุยกับคนไข้นับร้อย นับพัน เหนื่อยเหมือนกัน แต่ทุกครั้งผมก็จะพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะพูดคุยให้น่าฟัง ยิ้มแย้ม และก็แสดงความเป็นมิตรไม่ใช่เฉพาะสอบถามความเจ็บป่วยที่มา แต่จะถามการเดินทางมา สภาพภูมิอากาศ งานอดิเรกอยู่ว่างๆชอบทำอะไร สับเพเหระตามประสาผม(ซึ่งจะล้นๆเกินๆบางทีก็เหมือนจะไม่เต็มฮ่าๆๆๆ)
   “โรงบาลห่าอะไร รอนานจะครึ่งค่อนวัน ยังไม่ทำอะไรให้ จะให้รอตายก่อนรึไง” เสียงลุงคนนึงเอะอะขึ้นจนเป็นจุดสนใจของทุกคน ซึ่งผมเองก็ได้ยินพลอยอยากจะรู้ไปด้วย(พูดดูดีเนอะ อยากเสือกเรื่องของชาวบ้านนั้นเอง) กรณีนี้ไม่ใช่เพิ่งเห็นหรอก ผมก็เห็นบ่อยเหมือนกัน จนจะชินไปซะล่ะ และแล้วช่วงที่คนไข้เปิดประตูออกไปผมก็เห็นลุงคนที่น่าจะใช่เจ้าของเสียงด่าเมื่อกี้  หลังจากเสียงด่าพยาบาลก็เข้าระงับเหตุด้วยการพูดคุยกับลุงด้วยน้ำเสียงน่าฟังแล้วพาเข้าห้องเย็น เป็นห้องขังเอ้ยยย! ห้องปรับอารมณ์ให้เย็นลง มีนักจิตวิทยา พยาบาลจิตเวชให้คำแนะนำ ปรึกษาให้ใจเย็นๆลง สถานการณ์นี้ผ่านไปสักพัก
   “นั่งเลยครับ สวัสดีครับ สบายดีนะครับ” ผมทักใครก็ไม่รู้ยังไม่ได้เงยหน้ามองดูเลย มัวแต่อ่านแฟ้มประวัติ
   “ถ้าสบายดีคงไม่มาเหยียบโรงบาลนี้หรอก” (กำ กูอุส่าต์ทักดีๆ) เสียงคุ้นๆผมเงยหน้ามอง อ้าวลุงคนนั้นนี่หว่า
   “ฮึฮึ (ผมยิ้มเล็กน้อย) ลุงครับ ที่ผมทักลุง ผมอยากให้ลุงสบายดี ผมรู้แล้ววววววว่าลุงมาน่ะต้องมีสิ่งที่ไม่สบาย เวลาลุงไปหาหมอเคยได้ยินแต่ว่าเจ็บป่วยตรงไหนมาใช่ป่าว ลุงก็จะคิดแต่สิ่งที่เจ็บป่วย  ผมอยากให้ลุงคิดถึงแต่สิ่งที่มันแข็งแรงบ้าง สิ่งที่มันไม่เจ็บป่วย มันก็สำคัญ แล้วมีเยอะมากด้วย จะได้มีกำลังใจไง แหมมมมลุงหนิไม่รับมุกผมเลย”ผมพยายามพูดดีด้วย
   “มาโรงบาลก็ยังกะโรงฆ่าสัตว์ เจ้าหน้าที่ก็พูดจาไม่เป็นภาษาคน ไม่โวยวายก็จะไม่พูดดีด้วย” ยังๆไม่เลิก สงสัยอารมณ์ค้าง ผมก็คนนะเริ่มที่จะไม่สบอารมณ์กับลุงคนนี้แล้วดิ(ก็มีสัตว์มาให้ฆ่าทุกวันเลยหนิ) ผมคิดแต่ไม่ได้พูด พูดไปคงระเบิดกันเลยทีเดียว
   “ใจเย็นๆลุง ไหนมีปัญหาอะไรเล่าให้ผมฟังสิ ใครหน่อทำให้ลุงไม่สบายใจ” ผมก็พานอกเรื่องสับเพเหระ ถามไปเรื่องจนถึงญาติพี่น้องถึงรู้ว่า แกบอกว่า...ลูกแกพึ่งพาไม่ได้ บอกอะไรก็ไม่ฟัง แถมยังใจแตก ท้องโย้ทั้งๆที่ยังไม่แต่งงาน อะไรประมาณนั้น....เห็นไหมทุกสิ่งทุกอย่างต้องมีที่มาที่ไป จากลุงที่ไม่น่าคบพูดจาเอะอะโวยวายหลายคนโกรธ เกลียด สุดท้ายก็เปลี่ยนมาเป็นคนที่น่าเวทนา สงสาร ผมเลยขอโทรไปหาลูกลุง และได้พูดคุย ให้ข้อคิด ในส่วนเท่านี้แหละที่ผมทำได้ “สิ่งที่หนูหวังอะไรกับลูกในท้องที่จะเกิดมา สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ลุงคนนี้หวังให้เกิดกับลูกสาวของตัวเองเหมือนกัน”  ผมพยายามแนะแนวทางในอนาคต หลังคุยเสร็จ ลุงจากสีหน้าดุเดือนเมื่อสักครู่กลายมาทำหน้าเศร้าน้ำตาคลอต่อหน้าผม จากการพูดที่แข็งกระด้างกลับพูดจาน่าฟัง ขอบคุณผมหลายๆครั้ง จนลืมอาการเจ็บป่วยตัวเองแล้วล่ะมั้ง การดูแลที่ดีใครเรียนสายทางด้านวิทย์ฯสุขภาพมาคงคุ้นกับคำว่า สุขภาพแบบองค์รวม คือ ดูแลทั้ง กาย จิต สังคม จิตวิญญาณ ไม่ใช่เรื่องสุขภาพกายอย่างเดียวที่โรงพยาบาลหลายๆแห่งกระทำอยู่ (นอกเรื่องไปไกลล่ะ เข้าเรื่องๆ)
   ช่วงพักเที่ยงไอ้ปอโทรหาผม
   “หวัดดีที” ไอ้ปอโทรมา
   “อืมมม หวัดดีปอ” แปลกใจเล็กน้อยที่ทักผมซะอารมณ์ดี พูดเพราะเลย
   “มีไร” ผมพูดอีกครั้งหลังจากที่มันเงียบไม่ยอมพูด
   “ไม่มีไร โทรหาไม่ได้รึไง” น่านนนน มันเริ่มกวน
   “ได้ไหม อืมมมม ได้ก็ได้” ผมตอบ
   “กูถาม  ไม่ได้ให้มึงตัดสิน   ยังไงก็ห้ามกูโทรไม่ได้หรอก”
   “อ้าวเหรอกูนึกว่ามันเป็นประโยคคำถามซะอีก...มีไรว่ามาเร็วกูไม่ได้ว่างจัดขนาดมานั่งโทรศัพท์เล่นนะเว้ย”
   “ไรที นี่มันเที่ยง มึงจะไปไหน” น้ำเสียงไอ้ปอเริ่มไม่พอใจ
   “ไปกินข้าวอย่างเดียว เดินไปใช้เวลาห้านาที เข้าแถวซื้ออาหาร กดน้ำกินสิบนาที กินข้าวสิบนาที เดินกลับห้านาที อีกสามสิบนาทีขออ่านหนังสือเตรียบสอบ ครบเวลาหนึ่งชั่วโมงที่พักเที่ยง แต่ตอนนี้กูต้องแบ่งปันส่วนที่อ่านหนังสือมาคุยกับมึง ให้เวลาได้ห้านาที ดังนั้นกรุณาคุยเฉพาะสาระ เอาประเด็นเนื้อๆ กลับบ้านค่อยเพ้อน้ำให้ฟัง”
   “สวดดดดยอดดดด เวลาอะไรจะเป็นเงินเป็นทองขนาดนั้น  กูกินข้าวสิบนาที เล่นตบหัวเพื่อน ด่าแม่มันสิบนาที เข้าห้องน้ำฉี่ห้านาที ออกมาแล้วนอนกลางวันในเปลใต้ต้นไม้ชั่วโมงกว่า รวมแล้วเท่าไหร่วะ กูทำงานช้าทุกที 555” 
   “มึงพูดอยู่นี่ กูยังไม่รู้ว่าต้องการอะไร หมดไปแล้วสามนาที เหลือสอง ถ้าครบห้านาที สายจะถูกตัดโดยอัตโนมัติ” ผมยั้วมันกลับ
   “อ่ะๆๆ โอเค อาทิตย์หน้าลาหยุดยาวเลยนะ กูลาแล้วอาทิตย์หนึ่ง ไปเที่ยวกัน” ไอ้ปอพูด (เห้ย มัยงั้นน่ะ ไม่ได้ถามความเห็นกูสักคำ เหมือนบังคับเลย)
   “ไอ้บ้ากูจะลาได้ไงเป็นอาทิตย์ ถึงจะมีสิทธิ์ลาแต่มันติดกันเกิน เกรงใจเค้า แล้วมันก็ยังไม่ได้เตรียมอะไรหลายๆอย่าง ยังไม่ลงตัว เปลี่ยนเป็นเดือนต่อไปเหอะ ไปยกเลิกใบลา แล้วกูจะบอกเองว่าช่วงไหนมันพอไปได้”
   “ไม่ได้ๆ จะพาไปเที่ยวเชียงราย เดือนหน้ามันก็ไม่หนาวแล้ว กูจะพาไปดูแม่คะนิ้ง” ไอ้ปอยืนยันคำเดิม
   “ปอ กูเลี่ยงตารางหลายๆอย่างยากเข้าใจป่าว มันกระชั้นชิดเกินไป”
   “ทีกูอยากรู้นักถ้ามึงไม่สบายนอนโรงบาล มึงยังจะบ้าเอางานไปทำที่เตียงคนไข้ไหม”
   “มันก็ไม่ขนาดนั้น ถ้ามันสุดวิสัยขนาดนั้นมันก็พักได้ แต่ตอนนี้...”
   “ไม่ได้มึงต้องว่าง พักผ่อนบ้างเหอะ ถ้ามึงไม่ลาเอง อาทิตย์หน้ากูจะไปโรงบาลมึง กูจะไปลากมึงยัดขึ้นรถไปเลย เลือกเอาจะลาเองดีๆรึจะหายไปกับกูดื้อๆ” ดูมัน
   “ไอ้บ้า ไอ้ปอ กูไม่น่ารับโทรศัพท์มึงเลยยยย”
   “แล้ววันนี้กลับบ้านกี่โมงกูจะไปรับ” ผมบอกมันไว้ว่าจะกลับวันนี้ในรอบเดือน
   “เอออๆ ถึงเมื่อไหร่กูโทรหาเอง ช่วงเย็นๆโน้นแหละ”
   “กูจะไปรับเองเข้าใจภาษาคนป่าว กูจะไปรับในกรุงเทพ”
   “มาทำไมล่ะ กูก็กลับของกูประจำ นั่งรถทัวร์ไปก็ไม่ได้ลำบากอะไร แค่นี้เอง”
   “ก็กูอยากไปรับ มึงมีอะไรป่าวถึงไม่อยากให้กูไป” (น่านนนว่าแล้ว กูเบื่อจริงๆไอ้คำว่า “มีอะไรป่าว”)
   “ขอเหตุผลทำไมถึงอยากมารับ ทั้งๆที่ทุกครั้งกูก็กลับเอง มึงมีอะไรป่าว” (กูย้อนกลับบ้าง ดูสิจะรู้สึกยังไง)
   “ก็กูอยากไปเฉยๆ ต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ”
   “ต่อไปทำอะไรให้คิดถึงเหตุและผลด้วยนะ อย่าใช้อารมณ์ให้มันมากนัก”
   “เออ กูทำอะไรก็ไม่มีเหตุผลสำหรับมึงหรอก กูทำอะไรก็ผิดไปหมด กะแค่ไปรับเมียกลับบ้านมันยังต้องมีเหตุผลอะไรอีกวะ” ตะคอกผมซะ
   “เราคุยกันคนละภาษาล่ะ พักเรื่องนี้ไปก่อนล่ะกัน ใจเย็นลงแล้วกูจะโทรหาใหม่” (เริ่มทำตัวเด็กมีปัญหาอีกล่ะ) ใช้เวลาคุยกะไอ้ปอเป็นครึ่งชั่วโมง
   (เห้ยยย ทำไมเหนื่อยจังวะพูดคุยกับคนไข้ที่อารมณ์ร้อนให้เย็นลงได้ แต่คนใกล้ตัวยิ่งพูดก็ยิ่งทำให้ร้อนขึ้น) พลอยกินข้าวไม่ค่อยลง เดินลงไปกินของหวานถ้วยหนึ่ง กะน้ำเปล่าแล้วเดินขึ้นมาเตรียมทำงานบ่ายโมง
   ผมทำงานตามปกติเรื่อยๆ ช่วงบ่ายคนไข้จะน้อยลงล่ะ เริ่มไม่มีการเคลื่อนไหวที่ปาก(จะพูดคนเดียวก็เกรงใจ)ความง่วงก็เริ่มเข้ามาแทนที่ ผมเลยหากิจกรรมทำ  อยากรู้ไหมงานอดิเรกผมทำอะไร(นอกจากนั่งพิมพ์เรื่องราวอยู่นี่) ผมชอบค้นหางานวิจัยที่มันแปลกๆโหลดมาอ่าน มันเป็นสิ่งล่อใจให้ผมอ่านงานวิจัยต่างประเทศ(เพราะเค้าจะมีเรื่องพิเรน พิลึก พิลัน เยอะกว่าคนไทย)  ผมอ่านเรื่อง “อธิบายผลทางกายวิภาคของอวัยวะเพศชาย”ผมแปลของผมเอง เป็นไงล่ะถ้าไม่ใช่ไอ้ทีหางานวิจัยประเภทนี้ไม่ได้นะเนี้ย (เค้าไม่หมกมุ่นเหมือนมึงนะสิ) สรุปเค้าบอกว่า รอยต่อระหว่างส่วนหัวและส่วนก้าน(between glans and shaft/body) ผมแปลภาษาง่ายก็คือตรงเงี่ยงมันนั้นแหละ หรือรอยหยักแล้วแต่ใครจะเรียกล่ะกัน มันมีไว้เพื่ออะไรรู้ไหม...เค้าบอกว่ามันมีไว้เพื่อกวาดเอาอสุจิของเพศผู้ตัวอื่นออกก่อนที่จะปล่อยเอาอสุจิตัวเองออกไป(เออ เอาสิอันนี้ทำกับคนนะ) ซึ่งเค้าให้เหตุผลว่าคนไม่ต่างจากสัตว์อื่นๆที่มีอวัยวะเพศชายที่มีรูปร่างลักษณะเหมือนกันจะทำพฤติกรรมเช่นนี้ งานวิจัยนี้ได้สร้างแบบจำลองน่ะไม่ใช่ทดลองกับคนจริง(ใครจะให้ทดลองวะ ถ้าให้เนอะคงจะแบบว่า นักแสดงคงเอากันปกติแต่รอบเตียงคงรายรอบไปด้วยนักวิจัย และส่วนไหนที่ดูกันไม่ทันสงสัยต้องมีแบบ slow) การสร้างแบบจำลอง ผมอยากรู้ไว้ศึกษาก็ยังโหลดแบบเคลื่อนไหวไว้เลยฮ่าๆๆๆ ส่วนแบบสอบถามได้สอบถามในคน คำถามก็พิลึกๆถามผู้ชาย(แท้ๆ)ถามว่า ถ้าแฟนของคุณนอกใจไปมีชายอื่น คุณจะมีพฤติกรรมทางเพศอย่างไร คำตอบ...(อยากรู้ไหมว่าเป็นยังไง) เกือบทั้งหมดเลยนะ ร้อยละ90กว่า ตอบว่าจะปฏิบัติรักที่รุนแรงขึ้น สอดใส่ลึกขึ้น เพิ่มความถี่เข้า-ออกมากขึ้น ซึ่งมันก็ไปสอดคล้องกับสมมติฐานเค้าพอดิบพอดี ที่ว่ามีเงี่ยงเพื่อกวาดอสุจิตัวอื่นออก โดยสันชาตญาณของสัตว์หากรู้ว่ามีตัวอื่นปล่อยอสุจิก่อนหน้านี้ ตัวผู้จะต้องรีบจัดการกับอสุจินั้นออกมามากขึ้น ก่อนที่จะปล่อยของตัวเองเข้าไป  ฮ่าๆๆๆ เป็นไงมันทำให้ผมมีความรู้มากขึ้นนะเนี้ย เห้ย!หายง่วงล่ะเลยออกไปหาซื้อน้ำกิน คุยกับชาวบ้านไปเรื่อยระหว่างทาง ทำให้ถึงห้องช้าหน่อย พอกลับเข้ามา
   “เห้ยยยย” ผมอุทานเสียงหลงเลย
   “เป็นไร ตกใจเห็นผีรึไง” เสียงไอ้ปอตัวเป็นๆ มันนั่งอยู่หน้าห้องผม
   “มาได้ไง” ผมถามยังตกใจอยู่ (ตอนออกไปก็ไม่ได้มอง มารึยังวะช่วงนั้น)
   “กูบินมามั้ง มึงเลิกทำตาค้างได้แล้ว” ไอ้ปอพูด ซะแบบทุกคนแถวนั้นมองมา เพราะไม่เคยเห็นใครพูดกับผมแบบนี้ เพื่อนก็มีแต่พูด เรากะนาย ผมกะคุณ รึไม่งั้นก็เรียกชื่อ แต่ไอ้ปอกับพูดเสียงดังฟังชัด มึงกะกูเต็มที่เลย ก่อนที่จะเสียภาพพจน์อันดีงามของผมผมก็รีบพามันเข้าไปในห้อง ฟังดูน้ำเสียง คำพูดแลจะยังโกรธผมอยู่ (ยังม่ะเข้าใจ กูจะต้องโกรธมึงรึมึงต้องโกรธกู)
   “ไม่ใช่  ที่ถามคือ มาได้ยังไง ยังไม่ถึงเวลาเลิกงานเลย รึวันนี้ลาไม่ได้ทำงานเหรอ” ผมก็พยายามพูดปลอบโยนที่สุดแล้ว
   “ทำแต่ออกมาตั้งแต่คุยกับมึง” พูดแบบงอนๆ (ฮาไอ้ปอวะ งอนนะแต่มาหาให้ผมง้อ)
   “เหรออะไรมันจะรวดเร็วทันด่วนขนาดนั้น ใครเนี้ยทำให้ไอ้ปออารมณ์เสีย นั่งตากแอร์เย็นๆก็ทำใจให้เย็นๆตามหน่อยดิ” เย้าแหย่มันหน่อย
   “กูเอามอไซต์มา”
   “ห๊า! เอามอ-เตอร์-ไซต์ มา” ผมตกใจมากกว่าเจอมันครั้งแรกอีก พยายามทวนคำ
   “เออ ดิ”
   “แสดงว่ามึงแว้นมาเลยเหรอ แล้วตอนเย็นกูก็แว้นกลับไปกับมึง” (โอ้ยยยย ไม่ๆๆๆ กูต้องฝ่ามรสุมรถพ่วงสิบแปดล้อถนนบางนา-ตราดไปกะมึงเหรอ ขึ้นทางด่วนไม่ได้ด้วย)
   “เออ รึจะไม่ไป” ไอ้ปอน้ำเสียงหาเรื่องมาก
   “อิอิ ไปดิ ลมคงเย็นดีเนอะ” ตอบไม่ไปดูดิ มีหวังอาระวาดทั้งโรงพยาบาลมากกว่าลุงคนนั้นแน่ พลอยให้ผมต้องเสียหาย อุส่าต์สร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง(ก็ไม่ดีเท่าไหร่หรอก) ว่าไปแต่มีคนรักผมเยอะมากๆนะ คนเกลียดก็มี เป็นเรื่องปกติ ระหว่างนั้นเค้าก็ส่งคนไข้มาหาผมคนนึง
   “สวัสดีครับ เป็นไงบ้าง เดินทางมา เหนื่อยไหมครับ” ผมยิ้มเห็นฟันทักทายคนไข้อายุราวสี่สิบกว่าๆ
   “ผมให้ลูกมาส่ง ผมปวดหัวมาหลายวันแล้วครับ เป็นๆหายๆ” ....คุยกันหลายอย่าง สรุปแล้วความดันเลือดขึ้น ผมก็แนะนำเรื่องกินอาหารบ้างหลีกเลี่ยงเค็ม นอนพักผ่อน หลีกเลี่ยงงานใช้แรงหนักต่างๆก็ว่าไป สุดท้ายก็บอกว่าให้ฝึกเรื่องจิตใจด้วย ทำใจให้สงบ รู้จักกำจัดความเครียด หาคนไว้วางใจ ระบายความเครียดก็เป็นอีกทางที่ช่วยได้ ผมเลยยกตัวอย่าง
   “ผมก็เครียดเยอะเหมือนกัน ผมก็พยายามหาทางระบายออก ก็จะมีคนที่สนิท ไว้วางใจได้ คนนี้ไงครับ(ผมมองไปที่ไอ้ปอ) ผมจะพูดจะเล่าเรื่องเครียดต่างๆนานาให้เค้าฟัง มันก็ช่วยเหมือนมีคนรับรู้ปัญหากับเรา บางครั้งเค้าก็มีความคิดดีๆเสนอแนะกลับมา เป็นสิ่งที่เราอาจจะคิดไม่ได้ บางเรื่องเหมือนเส้นผมบังภูเขา ถึงบางเรื่องเค้าจะไม่ได้เสนอแนะก็ยังดี  ที่เราได้ระบายมันออกไปนะ” ผมพูด จากที่ไอ้ปอหน้าขึงตึง ก็กลับเป็นรอยยิ้มที่พยายามจะปกปิดแต่มันปิดไม่มิด มันแอบอมยิ้มนั้นเอง สรุปน้าคนนี้ก็นอนพักโรงพยาบาลสักพักก่อนกลับบ้าน (ขอบคุณคนไข้คนนี้ที่ได้สร้างสถานการณ์ให้ผมกึ่งๆง้อไอ้ปอ)
   พอถึงเวลาเลิกงานสี่โมงเย็น (ฮือๆๆ กูจะต้องแว้นกลับชลเหรอวะเนี้ยยย) ไอ้ปอมันเตรียมพร้อมมาก มันใส่เสื้อคลุมเปลี่ยนกางเกงใส่หมวกกันน๊อคเต็มใบซะยังกะนักแข่งมืออาชีพ(ทั้งๆไม่ได้เป็นมือสมัครเล่นด้วยซ้ำ) มันก็ไม่ลืมที่จะเตรียมเสื้อคลุมกับหมวกกันน๊อคให้ผมด้วย)
   “พร้อมยังที ป่ะกูจะพาซิ่งแล้วนะ” มันยิ้ม  ผมทำหน้าไม่สู้ดีนัก
   “ปอกูว่าเราไม่ต้องซิ่งหรอก” ผมพูดเบาๆพร้อมเขย่งก้าวขาขึ้นรถ
   “ไม่ต้องกลัวไปหรอกน๊า กูไม่ซิ่งหรอก มึงมากับกูไม่ต้องกลัว กูจะต้องทำให้มึงปลอดภัย 100% และต้องทำให้มึงเชื่อใจกู” ไอ้ปอพูดซะผมจุกเลย
   “อูยยยย ดีใจจน น้ำตาจะไหล”  ผมแซวมัน
   “จริงๆนะ อยากรู้เหตุผลไหมล่ะทำไมกูถึงอยากมารับ” ไอ้ปอถาม
   “...เหตุผลไรล่ะ” นึกว่ามันลืมไปแล้ว
   “ปกติเราเจอกันน้อยมากเลย กูอยากเจอมึง กูอยากอยู่กับมึงนานๆขึ้น อย่างน้อยเวลาที่ขี่รถมอไซต์กลับบ้านมึงก็จะได้ซบหลังกู มันก็ทำให้กูใกล้ชิดกับมึงมากขึ้น แค่นี้เหตุผลพอไหม” (ไอ้บ้าปอ กูเขินนะเว้ยยยยย)
   “เป็นเหตุผลครั้งแรกที่ฟังขึ้น ถือว่าเหตุผลนี้ผ่าน อนุญาตให้มารับได้คร๊าบบบ”
   “ไปกลับบ้านกัน จะขับช้าๆเลยจะได้นั่งอยู่ด้วยกันนานๆ ฮ่าๆๆ” ไอ้ปอพูด ในระหว่างขี่รถเราก็แว๊ปเรื่อยๆ ซื้อของข้างทางตั้งแต่กรุงเทพยันชลบุรี มาชลยังแวะกินข้าวก่อนเข้าบ้าน สรุปออกจากโน้นสี่โมงมาถึงนี้สี่ทุ่ม ยังไม่พอเข้าบ้านอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ามันชวนผมออกมาข้างนอกอีก ไปบางแสน(อืมมม แปลกตาไปเยอะดูเจริญขึ้น เอ๊ะรึผมไม่ค่อยได้อยู่ชลแล้วมันดีขึ้นไปหมด ถนนก็เพิ่มเลนกว้างขึ้น สิ่งก่อสร้างอาคาร ตึกคอม ตึกต่างๆเพิ่มขึ้น)
   ทันใดนั้น ขณะซ้อนรถสายตาผมก็มองไปเห็นมอเตอร์ไซต์ซ้อนสาม เคยเห็นไหม(มึงบ้าป่าวที) ที่ซ้อนสามน่ะไม่แปลก แปลกตรงที่ผู้ชายนั่งข้างหน้าถัดมาผู้ชายตรงกลางขับ และผู้หญิงซ้อนท้าย เกิดคำถามเกิดขึ้นมากมายในศีรษะผม
   “ปอ มึงว่าคันนั้นแปลกๆไปไหม” ผมถามจากที่มองอยู่นาน
   “แปลกตรงไหน” (เหรอออ รึมันเป็นเรื่องปกติ) พยายามคิดว่าใครเป็นใคร ไอ้ผู้ชายนั่งหน้าเป็นแฟนผู้หญิงเหรอ ไม่น่าใช่เพราะไม่น่าจะนั่งแยกกัน ไอ้ผู้ชายคนขับที่อยู่ตรงกลางเป็นแฟนผู้หญิงเหรอ ไม่น่าใช่เพราะมันจะประคองคนข้างหน้าอะไรขนาดนั้น รึว่า......
   “ปอ มึงดูดีๆสิกูว่ามันแปลกนะ” ยังๆไม่เลิกที่จะสงสัยเค้า
   “ไอ้คนขับเป็นผัวไอ้นั่งข้างหน้า  มึงไม่เห็นเหรอKจะเสียบตูดมันอยู่แล้ว ไอ้คนซ้อนก็เป็นเมียน้อยมั้ง” ไอ้ปอพูดหน้าตาเฉย (โอยยยยย ไม่มีคำตอบไหนชัดเจนนนนเท่านี้อีกแล้ว เล่นซะผู้ถามถึงกับหมดคำถามถามต่อ)
   หาดบางแสน
   ไอ้ปอก็ซื้อกุ้งเต้นมากินเหมือนเดิม ชอบไรหนักหนาไอ้นี่
   “ปอกุ้งเต้นเอ้ย ชอบกินนักนะของดิบน่ะ”
   “ก็นานๆครั้ง” แล้วมันก็เดินเข้าร้านซอยแปด ซื้อเบียร์มากินอีกสามขวด
   “อารมณ์ไหนเนี้ย” ผมถาม
   “อยากกินเฉยๆ บางวันกูยังซื้อไปนั่งกินคนเดียวที่ห้องเลย”
   “บ้านกูนั้นน่ะ” ผมตกใจอะไรมันจะกล้าขนาดนั้น
   “ป่าว บ้านกูเอง ใครจะไปกินหน้าพ่อตา แม่ยายล่ะ จะหาว่ากูไม่ดีไปป่าวๆ เนอะ” มันตีคิ้ว แล้วยิ้ม
   “นึกว่าจะแน่”
   “ไม่เอา ไม่แน่หรอก ล้อเล่นกับของสูงได้ไง ไม่ปลื้มกูมาจบเห่เลย”
   “พ่อแม่กูไม่ได้ไร้เหตุผลซะหน่อย หากบอกได้ว่ากินทำไม มีเหตุผลอ้างหน่อยก็ได้”
   “กูล่ะขนลุกกับคำว่าเหตุผลของบ้านหลังนี้จริงๆ จะทำอะไรตามอำเภอใจไม่ได้เลยรึไงวะ ต้องมีเหตุผล ซึ่งวันนี้ก็ก็ฟังคำนี้มาหนึ่งพัน สองร้อย ห้าสิบเก้าครั้ง”
   “อูยยย นับด้วยเหรอ เก่งจังเลยนับได้ตรงเป๊ะมาก”
   “ไปเที่ยวเชียงรายกันอาทิตย์หน้า เหตุผลไปรับอากาศหนาว เหตุผลมึงจะได้คลายเครียด เหตุผลยังไม่เคยไป เหตุผลเราไปสองคน”
   “อันสุดท้ายมันเป็นเหตุผลเหรอ”  (กำลังคิดจะตอบไรไปดีนะ มันจะโกรธไหมถ้าปฏิเสธ แล้วถ้าปฏิเสธไปอะไรจะเกิดขึ้น มองซ้ายแลขวาก็ไม่มีใครช่วย)
   “คิดดูก่อนนะ เดี๋ยวให้คำตอบวันหลัง”
   “ไม่รู้สิ ตอบยังไงกูก็ทำอย่างที่กูบอกเมื่อกลางวันแหละ จะไปโดยการลาที่ทำงานดีๆรึจะหายตัวไป”
   “ไอ้ปอมึงเข้าข่ายข่มขู่กูเลยนะเว้ย”
   “ไม่ได้ข่มขู่ เรื่องจริง ทำจริง”  ผมไม่ท้าทายอำนาจมืดมันหรอก เพราะรู้ว่ามันทำจริงแน่ๆ
   “อ่ะๆๆๆไปก็ไป แต่เป็นสามวันได้ไหม ไม่ต้องถึงอาทิตย์หรอก กูยอมไปแล้วมึงก็ลดวันให้กูหน่อยดิ”
   “กูไม่ใช่เอ ไอ เอสนะเว้ย ที่จะมาเพิ่มวัน ลดวัน แต่กูเป็นดีแทค ง่ายสำหรับคุณ ฮ่าๆๆๆ”
“มุกเยอะเนอะ ไปเล่นตลกคาเฟ่ โน้นไป”
กลับจากบางแสน ไอ้ปอแวะเข้าบ้านไปเอาของ
“อ้าววววป่าน ทำไมยังไม่นอนอีกล่ะครับ” ผมตกใจหลายครั้งแล้วนะวันนี้ (นี่ปาเข้าไปเที่ยงคืนแล้วไอ้ป่านยังไม่นอน)
“นอนไปแล้ว ตื่นมาแล้ว เลยมาหาน้าแป้ง” (แป้งน้องไอ้ปอ) ปกติไอ้ป่านมีหลายบ้านครับ บางครั้งก็มาค้างกับน้าแป้ง บางวันก็มานอนแทนที่ไอ้ปอ บางครั้งก็ไปนอนกะพ่อแม่ไอ้ปอ ไปนอนกับยายบ้าง
“ครับเคริบ หายไปไหนป่าน พูดกับผู้ใหญ่ให้มันดีๆหน่อย” ไอ้ปอเอ็ดหลานมัน
“นอนตื่นแล้วครับ” ไอ้ป่านพูดใหม่
“เออพูดให้มันดีๆแบบนี้หน่อยถึงน่ารัก ไปเที่ยวเชียงรายจะได้เอาของมาฝาก” โม้เหลือเกินนะมึง ยังไม่ได้ไปเลย
“น้าปอไปเชียงรายเหรอครับ”
“เออใช่” ไอ้ปอตอบหลาน(สอนแต่คนอื่นตัวเองกับพูดไม่ค่อยดีเลย)
“มึงก็พูดครับกับหลานมึงดีๆหน่อยปอ” ผมกระซิบข้างหูมันเบาๆ
“หนูไปด้วย” (น่านนนไง โม้ดีนัก)
“มึงไม่ต้องไป เดี๋ยวเอาของมาฝาก”
“ไม่เอา หนูไปด้วยๆ”
“อย่าดื้อกับน้านะ บอกไม่ให้ไป  ไปโรงเรียนโน้น”
“ฮือๆๆๆหนูจะไปกับน้าปอน่ะ” ไอ้ป่านออกสตาร์ทเริ่มร้องไห้
“อ้าวเวรกรรม มึงร้องไห้อะไรตอนนี้ มันกี่โมงกี่ยามแล้ว”
“ร้องไห้ต้องดูเวลาด้วยเหรอ ฮืออออ ฮือๆๆๆ” เจ้าป่านร้องไปด้วย พูดไปด้วย
“ฮ่าๆๆๆ เออป่านเก่งเว้ย” ผมล่ะกลั้นหัวเราะไม่อยู่ มันตลกจริงๆคิดได้ไงเนี้ย อย่าว่าแต่ผมเลย ไอ้ปอคู่กรณีก็ยังขำซะ แป้งด้วย
“โอ๋ๆ หยุดร้องนะ น้าปอให้ไปด้วยอยู่แล้ว” แป้งปลอบไอ้ป่าน
“อะไรๆแป้งอย่ามามั่ว เด็กดื้อเอาแต่ใจใครจะให้ไปด้วย เอาใจมันมากมันถึงได้เสียคน” ไอ้ปอตอบ (มึงพูดอะไรออกมารู้ไหม ว่ามันเข้าตัวเองหมดเลย)
“ฮือๆๆๆ กร๊ากกกกก” ไอ้ป่านร้องดังกว่าเดิม
“มึงแหกปากร้องอีกกูตีปากมึงนะป่าน โธ่เว้ยยลูกเต้าใครวะมาเอามันไปหลับไปนอนหน่อย มันแหกปากรบกวนชาวบ้านเค้า” ไอ้ปอพูดเสียดังให้พ่อแม่ไอ้ป่านที่อยู่บ้านข้างกันได้ยิน
“กร๊ากกกกกกก” ไอ้ป่านร้องหนักกว่าเดิมอีก
“อ้าวๆ แหกปากลงไป” ไอ้ปอยกมือทำท่าจะตี (ซึ่งมิอาจคาดเดาได้ ผมเลยรีบเข้าไปห้าม)
“น้าทีไม่ชอบใครร้องไห้เสียงดัง คนอื่นๆที่นอนแล้วเค้าก็ไม่ชอบด้วย  ป่านอยากทำตัวให้คนอื่นชอบรึไม่ชอบครับ” ผมนั่งลงกอดป่านไว้ “ฟังน้านะ ถ้าป่านอยากไปด้วย ป่านพูดกับน้าทีดีๆไม่ร้องไห้นะครับ น้าทีก็ให้ไปด้วยแล้ว ป่านเคยไปเชียงรายรึยัง” ผมกอดเชิงปลอบ
 “อ้าวๆไอ้ที อย่าไปหลอกมันนะ มันจำเก่งเลยนะ คอยดูมันจะทวงมึงจนรำคาญ จนกว่าจะได้ไป”ไอ้ปอพูด (กูรู้อยู่แล้ว เคยเห็นตั้งแต่ตอนที่มึงซื้อจักยานให้แล้ว ไอ้ป่านจะพูดตลอดจนไอ้ปอทนไม่ไหว รีบไปซื้อเลย)
“ไม่ได้หลอกนะ ให้ไปจริงๆ” ผมพูด
“ยังไม่เคยไปเชียงราย อึกๆๆ” ไอ้ป่านทั้งตอบทั้งสะอึกสะอื้น
“ไม่เอาไม่ร้องนะครับ เราจะไปเชียงรายกันอาทิตย์หน้าแล้วนะ ไปขึ้นดอยด้วย ต้องเตรียมร่างกายให้แข็งแรง”
“หนูแข็งแรงนะน้าที หนูยกกระถางต้นไม้ที่โรงเรียน ครูบอกใครแข็งแรงมาช่วยกันยก เพื่อนยกไม่ได้หนูยกได้คนเดียว” ไอ้ป่านพูดเสียงเริ่มดีขึ้น
“ถุยยยย โม้เหลือเกินนะ ทำเก่งต่อหน้าน้าทีนั้นแหละ” ไอ้ปอพูด
“ป่ะ ไปนอนนะคนเก่ง เอาเรี่ยวเอาแรงไว้ขึ้นดอยอาทิตย์หน้า” ผมบอกไอ้ป่าน
   ผมกับไอ้ปอขี่มอเตอร์ไซต์มุ่งหน้ามาที่บ้านผม
   “พูดจริงพูดเล่นที่จะเอามันไป” ไอ้ปอถาม
   “คิดว่าไอ้ป่านมันหลอกง่ายไหมล่ะ”
   “มันจำเก่งนะเว้ย”
   “เออนั้นสิ มันไม่ใช่เด็กหลอกง่าย แล้วกูพูดเหมือนหลอกเหรอ”
   “บ้าเหรอ หอบเด็กไปด้วย หอบเด็กที่ไหนไม่หอบ ไปหอบไอ้ป่านอีก มันดื้อจะตาย” ไอ้ปอถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใยหลานจริงๆ
   “กูว่ารับมือกับมึงได้ ก็น่าจะรับมือกับไอ้ป่านได้อยู่หรอกมั้ง” พูดไปสายตาพลางมองไปเห็นผู้ชายคนนึงกำลังจูงรถอีกเลนส์ตรงข้าม(สายตามองเห็นชัดเจนในตอนกลางคืนเฉพาะบุรุษเพศเท่านั้น)
   “ปอ เมื่อกี้เห็นคนจูงมอไซต์เราลองไปถามเค้าดิ เผื่อบ้านเค้าอยู่ไกล”
   “ไม่เอาหรอก เผื่อมันเป็นโจรหลอกมึงทำไง”
   “กูก็จำยอมดิวะ ฮ่าๆๆ เป็นผู้ชายนะเว้ย”
   “แล้วมึงคิดว่ากูจะไปช่วยมันป่ะ มึงพูดแบบนี้” น้ำเสียงเย็นชาเริ่มแทรก
   “ย่อเย่นน๊า กูก็จะบอกมันไปว่า กูมีแฟนแล้วนะ แฟนกูหล่อกว่ามึง ดีกว่ามึงตั้งเยอะ ถ้ามันจะทำไรกู กูจะตบกะโหลกมัน โอเคป่ะ” (ดูเหมือนกูเลือกได้เยอะเลยเนอะ มีแต่มึงเท่านั้นแหละที่หลงเข้ามา)
   “เออ ลองไปดูก็ได้ว่ะ” ไอ้ปอพูดแบบอมยิ้ม บ้ายอเหมือนกันนี่หว่าเรา
   พอไปดูปรากฏว่าน้ำมันหมด (โอ้ยยย มันน่าให้อภัยไหมนี่ ขี่รถยังไงไม่ดูน้ำมันวะ นึกว่ารถเสีย ยางแตก อะไรทำนองนั้น) ก็เลยช่วยๆถีบไปถึงปั๊ม
...

Kiss Koki

  • บุคคลทั่วไป
เที่ยวเหนือกันดีจัง..,,น้องป่านจะได้ไปด้วยมั๊ยเนี่ยลุ้นๆ..,ใจดีจริงๆคุณที.,.ปอยังดีเดือดเหมือนเดิมแต่ดีเนาะจัดโปรแกรมให้แฟนได้ไปเที่ยวพักผ่อนบ้าง

ออฟไลน์ mamacub

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1034
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
พาน้องป่านไปด้วยเถอะสงสารเด็กน้อยตาดำๆ :laugh:
คงจะมันน่าดูเลย ปอปะทะป่าน โดยมีทีเป็นกรรมการ

ออฟไลน์ nunamicky

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-3
รออ่านตอนไปแอ่วเหนือกันสามคนพ่อ-แม่-ลูก?
นะจ๊ะ  :m1:

zetsubo

  • บุคคลทั่วไป
หนาว ๆ >w<  ตอนนี้จะยังหนาวอยู่ไหมหนอ 5555

ครั้งแรกกับหนุ่มเหนือ อะไรครั้งแรก >w< พี่ทีชอบเขียนหัวเรื่องให้กระโดดเกาะ 0.o

ออฟไลน์ JA(e)jung

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
อ่าาาาาาาาาาาาา
พี่ทีกะพี่ปอมาแล้ว
คิดถึงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆจังเลยค่ะ ^^"
พี่ทีก็ยังคงทำงานหนักอยู่เหมือนเดิม
ยังไงก็ดูแลสุขภาพตัวเองเยอะๆด้วยนะคะ เดี๋ยวจะหมดแรงทำงานกันพอดี
พี่ๆได้ไปเที่ยวขึ้นเหนือกันด้วยอ่ะ น่าอิจฉาจังเลย อิอิ
แถมยังมีเจ้าตัวป่วนไปด้วยอีกคน ไม่รู้ว่าจะป่วนสักแค่ไหน
พี่ๆคงจะปวดหัวกันน่าดู(รึเปล่า) หุหุ
ได้อ่านตอนที่พี่ทีได้ให้คำปรึกษากับคุณลุงท่านนั้นแล้ว
อยากมีพี่ชายเหมือนพี่ทีจัง...พี่ที่ดูให้คำปรึกษาและให้ข้อคิดได้ตลอดเวลา
แถมยังเป็นคนมีเหตุผลและก็ใจเย็นอีกด้วย
 o13 :bye2:

mamew13 jk

  • บุคคลทั่วไป
 กลับมาแล้ว ปอกะที คิดถึงที่ซู้ดดดดดดดด 555

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
คนไข้กะปอใครรับมือยากกว่ากันคะหมอที

รักทุกฤดู

  • บุคคลทั่วไป
ง่าาาาาาาาาาาาา    ไม่อาวๆๆๆๆๆๆๆ :serius2: :serius2:   พี่ทีอ่ะ มาต่อนิ๊ดเดียวเอง ตัวเองหายไปตั้งหลายเดือนง่ะ       



ไม่อาวๆๆๆ :m31: :m31:  อยากอ่านต่อ    จ๊ากกกกกกกกกกกกกกก :fire: :fire:

ออฟไลน์ i_ang

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 566
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-0
    • เพจนิยาย
ทีกับปอมาแล้ววว
หลานป่านน่าร๊ากกกกกกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nn~~NN

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-1
เหตุผลที่ว่าจะได้ไปเพื่อพักผ่อน กับเหตุผลไปกันสองคนนี่คงทำไม่ได้แล้วแหละน้อ  :z2:

Supermimt

  • บุคคลทั่วไป
ชื่อตอน เสียวได้อิก น๊าาา

ลุ้นๆๆๆๆ :o8:

หมูกระต่าย

  • บุคคลทั่วไป
พี่ปอจะไปปั๊มลูกเหรอพี่

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7

ออฟไลน์ EunSung87

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-2
โอ้ว์ๆๆๆๆพีีทีมาแล้ววววว
คิดถึงงง
ขอกอด(พี่)ทีน้อออ :กอด1: :L2:

พี่ทีให้น้องป่านไปด้วยจิงๆหรอ
5555+
ไม่อยากจะคิดภาพ(แต่ก็คิดไปไกลแล้ว)

Sabaijai

  • บุคคลทั่วไป
ในที่สุดพี่ทีก็มา ยังฮาไม่่เปลี่ยน พี่ปอน่ารักดี

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22
บ๊าย บาย ความฝัน honeymoon ของนายปอ
หมอทีคิดยังไงจะเอาเด็กเล็กไปด้วย..... :เฮ้อ:
+1
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-02-2012 05:04:48 โดย Horizon »

mamaNUT

  • บุคคลทั่วไป
ติดตามมานาน....คิดถึงหนักๆ รักเรื่องนี้เต็มๆ...ปอกะที มีมิติเหมือนชีวิตของคนใกล้ตัว

รอฮา และ รอซึ้ง

ออฟไลน์ wanmai

  • ★รักใสปิ๊ง★(>_<)
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 936
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1195/-5
ขอกรี๊ดดังๆ พี่ต้น(ที)มาแล้วววว :m11:

เห็นพี่ต้นบอกกะมาช่วงปีใหม่แต่ไม่ได้มา วันที่13เมษายังมีนะเออ(อินี่ยังไม่เลิกเรียกร้อง)

ปล.ปอฮามากอ่ะ ด่าแม่เพื่อนนายนับนาทีด้วยเรอะ :m20:

ออฟไลน์ pochu52

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1328
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
ไปแอ๋วเหนือโต้ลมหนาวกัน นายปอก็โรแมนติกไม่เบานะที แต่มี กขค หลานป่านร้องตามซะแล้ว 555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ gumrai3

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-4
555 ปอกับคนไข้อันไหนยากกว่ากันคะ หมอที

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
มาแล้วๆๆๆๆ คิดถึงครับ
เที่ยวให้สนุกน้าาาาา

ออฟไลน์ naiin

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2421
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-9
หอบหลานไปด้วยแล้วจะเอาเวลาไหนไปสะหวีตกันล่ะนั่น

ออฟไลน์ anukul

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3088
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-6

ออฟไลน์ Karn12

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +165/-2

area71

  • บุคคลทั่วไป
น่าร๊อกอะ  คิดถึงปอทีมากคับ

icyblue

  • บุคคลทั่วไป
 “ปกติเราเจอกันน้อยมากเลย กูอยากเจอมึง กูอยากอยู่กับมึงนานๆขึ้น อย่างน้อยเวลาที่ขี่รถมอไซต์กลับบ้านมึงก็จะได้ซบหลังกู มันก็ทำให้กูใกล้ชิดกับมึงมากขึ้น แค่นี้เหตุผลพอไหม” (ไอ้บ้าปอ กูเขินนะเว้ยยยยย)

ประโยคนี้ปอโรแมนติกซะ   :o8:  เค้ารักของเค้าจริงๆ

มารอดูว่าหลานป่านจะได้ไปมั้ย??? แล้วจะมีอะไรฮาๆ กันอีก :กอด1:


jujill8

  • บุคคลทั่วไป

naiyana

  • บุคคลทั่วไป
ดีใจมากๆเลยที่ทีกับปอมาแล้ว ไปเที่ยวเหนือคงจะสนุกมากแน่เลย
ไม่อยากให้เอาน้องป่านไปด้วยเดี่ยวจะเป็น กขค. สงสารปอ
อยากให้ไปหวานกันสองคน ยังไงมาต่อครึ่งหลังเร็วๆนะคะ อยากอ่านแล้ว
คิดถึงมากมายเลย  :กอด1:


ออฟไลน์ Kfc_Pizza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
 :pig4:
ดีใจจังทีมาต่อแล้ว
ตอนต่อไปคงเป็นตอนไปเที่ยวนะ
ปล.ถ้าว่างก็มาต่อเรื่อยๆนะ ยังงัยก็รอ
ปล.ที+ปอ ยังน่ารักเหมือนเดิม (ชอบเหตุผลของปอจัง)
 :L2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด