ช่วยด้วย ! ผมได้แฟนเหี้ย ไอ้เด็กช่างยนต์ ตอน 9...เมื่อผมไม่สบาย
เป็นปกติทุกวันที่ผมจะตื่นแต่เช้าและ ไอ้ปอจะมาหาผม แต่ตอนนั้นผมยังไม่ตื่น ผมได้ยินเสียงคนคุยกัน
“สวัสดีครับแม่ ทีไปไหนแต่เช้าครับ” ไอ้ปอถามแม่ผมเมื่อไม่เห็นผมอยู่หน้าบ้านเหมือนทุกวัน
“เอ้อ แต่เช้ามานี่ แม่ยังไม่เห็นทีเลยนะปอ รึงยังไม่ตื่นเหรอ ”
“เดี๋ยวแม่ไปดูบนห้อง ” แม่ผมพูด ขณะอยู่หน้าบ้านจะออกไปทำงาน
“ไม่เป็นไรครับแม่ ผมไปดูเอง เดี๋ยวแม่ไปทำงานสาย ” พี่สาวกับพ่อผมทำงานที่เดียวกันออกไปก่อนหน้านี้แล้ว
“จ๊ะๆ แม่ฝากปลุกทีให้ทีนะลูก”
“ครับ” ผมได้ยินแม่คุยกับไอ้ปอหน้าบ้านทุกคำ แต่มันหนักหัว ไม่อยากลุกขึ้น ไอ้ปอเดินเดินมาที่ห้องเคาะปะตูเสียงดัง
“ทีๆ ๆ” ผมเดินสะลืมสะลือไปเปิดประตู
“ทำไม วันนี้ตื่นสายวะ เมื่อคืนนอนดึกเหรอ ”
“กูปวดตัว” ผมล้มคว่ำลงที่นอน
“ไปๆ ไปอาบน้ำ ล้างหน้า มึงจะได้ดีขึ้น ยังจะมานอนอีก”
“เดี๋ยวกูนอนก่อนแป๊บเดียว”
“ไอ้ทีมันสายแล้ว ” มันดึงแขนผมขึ้น
“เฮ้ย มึงตัวร้อน ไม่สบายรึป่าว ”
“น่าจะใช่มั้ง กูปวดตัว ปวดหัว ” เสียงผมแผ่วๆ
“เดี๋ยวกูพามึงไปหาหมอ”
“ไม่ต้อง กูกินยา นอนพัก เดี๋ยวหาย มึงไปเรียนเหอะ” ไอ้ปอเอามือมาจับที่แก้มผม
“มึงเชื่อกูดิที มึงอยากหายป่วย รึหายจากโลกนี้ว่ะ”
“กูจะตายง่ายขนาดนั้นเชียวเหรอ ” ผมยิ้มๆ
“กูกลัวว่าจะเป็นหวัด2009 น่ะดิ” มันเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่ระเบียง แล้วเข้าไปในห้องน้ำสักพักเดินออกมาพร้อมกับผ้าที่เปียกน้ำ(คงจะจุ่มน้ำแล้วเอาขึ้น)
“เดี๋ยวกูเช็ดตัวให้”
“ปอมึงเอาน้ำมาสาดกูดีกว่า…มึงบิดให้มันหมาดๆน่ะ เป็นไหม” มันเดินกลับเข้าไปในห้องน้ำเหมือนเดิมและเดินออกมา
“เออ แบบนั้นแหละ” มันดึงกางเกงผมลงก่อนเลยครับ
“เฮ้ย ไอ้บ้า มึงจะทำอะไร”
“ก็แก้ผ้ามึงไง มึงจะเช็ดตัวทั้งๆที่ใส่กางเกงเหรอ”
“ไม่ต้องขนาดนั้น มันกางเกงขาสั้น มึงก็เช็ดเท่าที่เช็ดได้”
“ไมวะ มึงอายอะไร กูเห็นหมดแล้ว”
“กูไม่ได้อาย” จริงๆผมอายมาก
“ไม่อายงั้นกูก็จะแก้ให้มึงหมด” ผมพยักหน้า
มันถอดกางเกง ถอดเสื้อ กางเกงในก็ไม่เว้น ผมนอนหลับตา (อายมากไม่อยากมองหน้ามัน)
“เป็นไงเรา ไม่สบายนอนหลับปุ๋ยเลยนะ ” มันพูดกับ K ผม
“คุยกับมันบ่อยๆเดี๋ยวมันลุกขึ้นมาเตะหน้ามึงนะ” ผมแกล้งพูดให้มันปกติ แต่ก็อายเหมือนเดิม
“วันนี้พี่ทีไม่สบาย เดี๋ยวพาเราไปหาหมอด้วยนะ” มันยังพูดเล่นอีก
“ไอ้ปอมึงจะเช็ดก็รีบเช็ด กูหนาว ” จริงๆไม่หนาวหรอกครับร้อนอีกต่างหาก แกล้งพูดให้มันรีบๆ (กูอายแทบจะเอาหมอนมาปิดหน้าตัวเองแล้ว)
มันเช็ดทุกซอกทุกมุมเลยครับ พลิกตัวผมยังกะปลาหมึกย่าง จากนั้นก็เอาผ้าแห้งอีกผืนมาเช็ดตัวผม สุดท้ายโรยแป้ง ใส่เสื้อผ้าให้
“ไปลุกเสร็จแล้ว”
“ปอมึงไม่ไปเรียนเหรอ”
“มึงป่วย กูเรียนก็ไม่รู้เรื่องหรอก”
“เอาจริงๆ”
“จริงงง” ไอ้ปอพูดเสียงสูง ผมไม่เชื่อมันหรอกครับ ปกติมันเรียนหนังสือโง่ ไอ้นี่ขี้เกียจเรียน คบกับผมดีหน่อยบังคับให้มันอ่านหนังสือ ผมนั่งอ่านเป็นเพื่อนมันด้วย
“มา ขี่หลังกู” มันนั่งลง
“กูเดินได้ ไม่ได้พิการ ” ผมเดินไปที่ประตู
“มาเดี๋ยวกูประคองมึง” มันจับแขนผมข้างนึงคล้องคอ(กูป่วยธรรมดานะ)มันคงคิดว่าผมเจ็บมาก
พอไปถึงโรงพยาบาล
“มึงรอกู ตรงนี้แป๊บเดียว” ผมงงๆ รออยู่ที่จอดรถ สักพักมันมาพร้อมกับรถเข็นกับเจ้าหน้าที่เวรเปลคนนึง
“ไอ้เหี้ย กูเดินได้” ผมพูดเบาๆกลัวเจ้าหน้าที่ได้ยิน
“เออน๊า กูไปเอามาแล้ว มึงนั่งลง” ผมเกรงๆพี่เค้าจะว่าผมก็เลยนั่ง (โอ๊ยกูจะบ้าตาย)ชอบทำอะไรไม่คาดคิดและไม่ปรึกษา
“ขอบคุณครับพี่ เดี๋ยวให้เพื่อนผมเข็นครับ” ผมพูดกับเจ้าหน้าที่ แล้วทำหน้าเซ็งๆกับไอ้ปอ
“ทำหน้าให้มันดีๆหน่อยไม่ได้เหรอวะ”
“มึงจะให้กูยิ้มมาหาหมอรึไง”
มันเข็นผมไปห้องบัตร ยื่นเรื่องให้ทุกอย่าง ต่อแถว ช่วงนี้ซึ้งมันมากๆเลยครับ ยื่นบัตรเรียบร้อย ไปรอหน้าห้องตรวจ มันเดินไปเดินมา เดี๋ยวซื้อข้าว ซื้อน้ำมาให้ผมกิน
“มึงจะเดินไรหนักหนาวะ” ผมถาม
“กูเดินไปถามพยาบาลไง เผื่อเค้าเรียกชื่อมึงแล้วกูไม่ได้ยิน ” ผมนั่งรอพักใหญ่ๆ
“คุณ................” พยาบาลเรียกชื่อผม เมื่อผมนั่งรอกว่า 3 ชั่วโมง มาเกือบ 8 โมง โน่นกว่าจะได้ตรวจเกือบเที่ยง ก็เข้าใจครับโรงพยาบาลศูนย์ของรัฐ คนเยอะมากยังกะขนส่งหมอชิต(เว่อร์ไปหน่อย55 น้อยกว่านิดนึง)
“ถึงคิวมึงแล้ว” มันเข็นผมเข้าห้องตรวจ
“ไม่ได้นะคะ เดี๋ยวให้คนไข้เข้าคนเดียวค่ะ” คุณพยาบาลคนสวยบอกไอ้ปอ
“ผมเป็นพี่คุณ...... นะครับ” (มึงจะโกหกก็ให้มันเนียนๆหน่อย พี่ไรวะ ไม่มีส่วนคล้ายกันเลย)
“งั้นเดี๋ยวขอถามคุณหมอก่อนนะค่ะ” พยาบาลเดินเข้าไปในห้องหมอ สักพักเดินออกมา
“สิทธิของคนไข้นะคะ แล้วแต่คนไข้จะอนุญาตค่ะ”
“มึงจะเข้าไปทำไมวะ”
“กูอยากรู้ไงว่ามึงเป็นอะไร”
“เดี๋ยวกูออกมาบอก”
“กูอยากเข้าไปกับมึง” (เหมือนเด็กฉิบหาย)
“เออๆ” ผมเข้าไปพร้อมกับไอ้ปอ
หมอก็ตรวจตามแผนการรักษาแหละครับ ปลดกระดุมเสื้อผมหมด หมอคลำที่หน้าอก ใช้Stethoscope ตรวจหน้าอกผมนานหน่อย ตรวจเสร็จหมอก็ส่งต่อไปX-ray ทรวงอก ช่องท้อง ไอ้ปอดูมันเงียบๆแปลกๆครับ ผมชวนมันคุย ถามคำมันก็ตอบคำ
“มึงเป็นไรว่ะปอ”
“ป่าว”
“กูรู้มึงต้องมีอะไร บอกกูมาเร็วๆ”
“.....” มันเงียบ
“ปอกูบอกแล้ว มีไรต้องคุยกัน”
เงียบไปพักใหญ่ ผมเข้าไปห้องX-ray ออกมาขณะนั่งรอฟิล์ม
“มึงไม่อยากพูด กูก็จะไม่ถามมึงแล้วนะ”
“หมอคลำอะไรที่หน้าอกมึง”
“ก็ตรวจไง”
“หมอคลำหน้าอกมึง มึงรู้สึกยังไง ”
“เฉยๆ” มันเงียบผมพอเดาออกแล้วแหละครับว่ามันเป็นอะไร (ไอ้นี่ เด็กว่ะ ) หมอคนนั้นเป็นผู้ชายครับ อายุเยอะแล้วด้วย
“ปอ มันเป็นแบบแผนการรักษา เค้าจะดูภาพรวมทั้งหมดแหละตั้งแต่กูนั่งรถเข็นเข้ามา เค้าคงคิดแล้วว่ากูต้องเป็นหนัก ก็มึงให้กูนั่งหนิ และก็คลำดูส่วนต่างๆ เคาะตามข้อ ฟังเสียงหัวใจ ปอด ชีพจร และที่เค้าคลำหน้าอกกูนานๆน่ะ หมอคงได้ยินเสียงผิดปกติที่ปอดเลยส่งมาX-ray เพิ่มไง ช่วงกูเรียนกูก็เคยทำ มันเป็นพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์สุขภาพที่ต้องเรียน ”
“มึงมาบอกกูทำไม” (ก็มึงอยากรู้ ทำเป็นปากแข็ง)
“ป่าว กูรู้กูก็พูดเฉยๆ” สีหน้ามันเริ่มผ่อยคลายแล้วครับ จากที่ขมวดคิ้มมานาน
“คุณ...............รับฟิล์มครับ” ไอ้ปอเดินไปเอามาให้ ผมเอามาส่องไฟดู
“มึงเห็นไหม นี่จุดๆๆ แสดงว่าปอดกูมีเชื้อ มันเป็นไปตามที่หมอสงสัย”
“คร๊าบบ คุณหมอ” ไอ้ปอยิ้มออกแล้ว หลังรับฟิล์มเสร็จหมอนัดผมอีกทีช่วงบ่าย ในตอนเที่ยงผมเลยพาไอ้ปอไปดู อวัยวะที่เป็นโรคต่างๆที่รพ.ดองเอาไว้(ผมคุ้นเคยกัยรพ.ดีครับ มีญาติทำงานที่นี่เยอะ เข้าออกบ่อยๆ สมัยเรียนมัธยม ก็เคยเข้าไปดูชันสูตรศพครั้งแรก ป้าเป็นพยาบาลพาผมเข้าไป ประสบการณ์นั้นก็อยากเล่าให้ฟังเหมือนกัน เอาสั้นๆคือ เกิดอุบัติเหตุมีคนตาย ช่วงปีใหม่ ห้องชันสูตรรพ.ก็หยุดครับ เปิดเฉพาะฉุกเฉิน รพ.เปิดอีกทีก็ปาเข้าไป 4 วันแล้ว และศพนั้นขึ้นอืดเต็มที่ ตามผิวหนังปริแล้วครับ (ศพชันสูตรส่วนใหญ่จะไม่ฉีดฟอมาลีน เพราะมันจะไปทำให้ชิ้นส่วนคงสภาพ บางทีอาจวินิจฉัยไม่ได้ ถึงวัน เวลา สาเหตุที่แม่ชัด) ภายนอกที่เห็นก็ว่าเลอะแล้ว อวัยวะภายในมากกว่าครับเพราะมันประกอบด้วยน้ำมากกว่า ตับยกขึ้นไหลลงตามซอกนิ้วเลยครับ ศพนั้นก็ทุลักทุเลพอสมควร ทั้งเรื่องกลิ่นอีก ปิดเท่าไหร่ก็ได้กลิ่นครับ)
หลังจากที่ตรวจในช่วงบ่ายเสร็จ รับยากลับบ้าน มันไม่ได้ไปเรียนเลยทั้งวันครับ(ผมก็ไม่ค่อยสบายใจนะ ที่มันขาดเรียนเพราะผม) มันดูแลผมอย่างดี กลับมาเช็ดตัวให้อีกรอบ เอาข้ามาให้กินบนห้องกินยา มันบอกให้ผมนอนเยอะๆ ผมง่วงนอนเพราะฤทธิ์ยา แต่ไอ้ปอนี่สิครับนอนหลับใต้เตียงก่อนผมอีก มันนอนเพราะฤทธิ์ขี้เกียจ ผมมองมันนอน
(มึงก็ยังเด็กอยู่เลยนะ คงจะเมื่อยแย่ทำตัวเป็นผู้ใหญ่ซะตั้งนาน) ในที่สุดผมกับมันก็หลับทั้งคู่
...
ขอบคุณทุกคอมเมนท์ครับ
