หลังจากแวบไปหยิบของขวัญที่บ้าน โดยอ้างว่าจะกลับไปเปลี่ยนชุด ผมก็กลับมาที่ร้านอีกครั้ง พร้อมกับถูกแนะนำตัวในงานเลี้ยงรับปริญญาของไอ้พี่ธันว่าเป็น ‘แฟนตัวจริง’ และอนาคต ‘ลูกสะใภ้’ ของตระกูล
แต่ญาติผู้ใหญ่บ้านมันไม่ตกอกตกใจอะไรเลย คาดว่าคงจะรู้เรื่องผมกันมาคร่าวๆแล้ว ทุกคนนั่งกินนั่งดื่มกันเป็นเรื่องปกติ ตระกูลนี้จัดปาร์ตี้แบบผู้ดีมีสกุลมากครับ คาราโอเกะไม่ร้อง เปิดเป็นเพลงบรรเลงที่เตรียมแผ่นกันมาเอง คนละเรื่องกับบ้านผมยิ่งนัก ตอนพี่ถ้วยตวงพี่ชายหล่อน้อยๆของผมรับปริญญานั้น ตระกูลผมร้องคาราโอเกะเหมือนเกิดมาไมค์ก็ติดอยู่กับปาก ไม่มีใครใส่ใจบัณฑิต ไม่มีใครคิดจะถามว่าบัณฑิตจบมาจากคณะไหน ทุกคนมาเพื่อร้องเพลง ร้องเพลง และร้องเพลง!!
“ถ้วยฟูคืนนี้กลับไปนอนบ้านรึเปล่า” บัณฑิตหนุ่มหล่อมากกกก…หันมาถามผมที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่กับพวกพี่ๆน้องๆของมันนั่นแหละ
“คิดอยู่ว่าจะกลับ หรือจะไปค้างบ้านไอ้โจดี คืนนี้ไอ้เป้จะไปอยู่กับไอ้โจด้วย” ไม่ใช่เพื่อนผมกิ๊กกันเอง อย่าๆ…นรกจะมาเยือนเอานะครับ แค่คิดว่าพวกนั้นกินกันเอง ผมก็แทบอยากจะบอกให้ไอ้แป๊ะเอกกระโดดทับไอ้สองตัวนั่นให้ตายหมู่ไปเถอะ
แต่ที่ไอ้เป้ต้องไปค้างบ้านไอ้โจ ก็เนื่องมาจากว่าวันนี้วันรับปริญญา นอกจากสุดที่เลิฟของผมจะเรียนจบแล้ว อย่าลืมว่าเจ้าชายคณะนามว่า ‘ปอม’ ก็จบเช่นกัน เพราะงั้นไอ้โจที่มีพี่ปอมไว้เป็นลมหายใจ ก็เลยใกล้ตายทุกขณะ
“อ้อ…มันทำใจได้บ้างรึยังล่ะ” ผมส่ายหน้า ไอ้โจมาเรียนแบบสภาพดูไม่ได้ หน้าซีดเซียว ที่ไม่หล่ออยู่แล้ว เลยยิ่งไม่หล่อหนักกว่าเดิม
“คงต้องให้เวลามันสักพัก…แต่เป้ไปอยู่กับมันแล้วใช่มั้ย” คราวนี้ผมพยักหน้า เพราะกำลังซัดกุ้งเผาเข้าปาก
“งั้นถ้วยฟูก็ไม่ต้องไปหรอก คืนนี้ไปค้างคอนโด…”
…คอนโด?…
ไม่ต้องบอกหรอกมั้งว่าคอนโดไหน ก็คอนโดที่นายธันวาศรีประเสริฐบอกผมสั้นๆง่ายๆว่า ‘พี่ซื้อเพราะถ้วยฟู’ นั่นไงล่ะครับ แค่คิดถึงประโยคนี้ของมัน ผมก็อยากจะฮิ้วววว ให้กับบุญพาวาสนาส่งของตัวเองซะจริ๊ง!…
“ไปทำไมอ่ะ” ลูกแกะน้อยถ้วยฟูทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ใสซื่อน่ารักอินโนเซ้นท์ ทั้งๆที่ในใจเนื้อเต้นจู่ฮุ๊กกรู๊! งานนี้จะมีได้เสียมั้ยเนี่ยยยยยย…
“จะได้ช่วยขนดอกไม้กับของขวัญขึ้นคอนโดไง” ว่าแล้วมันก็บุ้ยหน้าไปด้านหลังที่เป็นโต๊ะวางช่อดอกไม้และของขวัญกองพะเนิน
…นี่กูเป็นแฟนมึงนะ! ไม่ใช่คนใช้!!!!...
………………………….
…แต่ก็…ต้องไปแหละครับ…
…สุดที่รักขอมาทั้งทีว่าให้ไปช่วยขนของขึ้นไปเก็บที่คอนโด ผมก็เลยตกลงปลงใจยอมไปค้างกับมัน…
รถเลี้ยวเข้าที่จอดของตึกสูงที่มีรังรักของผมกับไอ้พี่ธันสถิตอยู่ ผมกับคุณบัณฑิตก็พากันเอาของหอบหิ้วขึ้นไปบนห้อง
ผมไล่มันไปอาบน้ำก่อน เพราะสภาพมันโทรมเหลือใจ ส่วนตัวเองก็แยกช่อดอกไม้ออกมาวางไม่ให้ทับกัน เพราะเดี๋ยวจะเหี่ยว ทำนั่นทำนี่ได้แปบเดียว ไอ้พี่ธันก็อาบน้ำเสร็จ ผมก็เลยเข้าต่อ อาบน้ำขัดสีฉวีวรรณเรียบร้อย ออกจากห้องน้ำมาหยิบของขวัญจะให้มัน แต่พอเดินออกมาหา กลับเจอสุดหล่อหลับคอพับอยู่บนโซฟาซะแล้ว
ทั้งห้องเงียบกริบ บรรยากาศยามค่ำคืนที่มีแสงไฟสีอ่อนกับพระจันทร์ลอยเหินเวหาอยู่นอกหน้าต่าง บอกตามตรงว่าทำให้ผมไม่ลังเลที่จะทรุดตัวลงนั่งข้างๆ แล้วเอนศีรษะลงพิงกับไหล่มัน
…นอกจากจะยินดีกับมันอย่างที่บอกไปแล้ว ผมยังดีใจมากๆ…ดีใจ…ที่ได้อยู่กับมันวันนี้…อยากให้พอถึงวันของผม ผมก็มีมันเคียงข้างแบบนี้เหมือนกัน…
“ระราน…” เสียงดังมาจากเจ้าของไหล่ ทำเอาความหวามไหวในอกหายวูบ
…เอ่อ…ไม่คิดบ้างล่ะว่ากูกำลังโรแมนติกออเซาะมึงอยู่!!...
“เออ ระรานน่ะสิ…หมั่นไส้ เรียนยังไงได้เกียรตินิยมเหรียญทองแพลตตินั่มไทเทเนียมวะ” ว่าแล้วผมก็ไถหัวตัวเองกับไหล่มันแรงๆ อันนี้แกล้งมันด้วย และคันหัวตัวเองด้วยส่วนหนึ่ง ไอ้พี่ธันหัวเราะเบาๆ แล้วล็อคคอฉุดเข้าไปใกล้มันมากกว่าเดิม จนหัวผมแทบจิ้มลูกกระเดือกมันอยู่แล้ว
“อย่าดึงแรงดิ เดี๋ยวของขวัญยับ…เอ้า!” ว่าแล้วผมก็เบี่ยงประเด็นเข้าสู่การให้ของขวัญอย่างโคตรจะไม่โรแมนติก แหม…ถ้ามาทำหน้าออดอ้อนส่งเสียงหวานก็ไม่ใช่ผมแล้วล่ะครับ
ผมส่งกล่องของขวัญเล็กๆในมือให้มัน ไอ้พี่ธันคงเพิ่งสังเกต เพราะมันเลิกคิ้วอย่างคาดไม่ถึงก่อนจะมองผม
“ขอบใจนะ” มันว่าอย่างนั้นแล้วรับกล่องของขวัญเล็กๆไปแกะ
…แกะโบว์ออก แกะกระดาษ เปิดกล่อง และแล้ว…
…ทะด้า!!!!!...
“อะไรเนี่ยถ้วยฟู วันนี้วันรับปริญญาพี่ แล้ว…ให้แก้วน้ำที่มีหน้าเราเนี่ยนะ” มันถามแล้วยกแก้วกาแฟสีขาวที่มีหน้าผมประหนึ่งไอดอลยอดนิยมถูกพ่นอยู่บนตัวแก้ว
“เอาไว้ใช้ตอนไปทำงานไง เขาจะได้รู้กันว่านายธันวามีเจ้าของแล้ว”
…ของขวัญชิ้นนี้ผมตรึกตรองมาแล้วอย่างดีว่ามีประโยชน์ต่อทุกฝ่าย มันจะได้เอาไว้ใช้ดื่มกาแฟตอนทำงาน ส่วนผมจะได้เอาไว้ประกาศความเป็นเจ้าของในตัวคนใช้แก้ว หึๆ บัณฑิตปริญญาตรีเกียรตินิยมเหรียญทองแพลตตินั่มคิดไม่ถึงล่ะซี่!!
ไอ้พี่ธันหัวเราะแล้วขยี้หัวผมแรงๆ เสียงหัวเราะของมันที่ดังอยู่ข้างหู บอกให้รู้ว่ามันมีความสุขและยินดีกับการรับของขวัญชิ้นนี้มากแค่ไหน สัมผัสจากมืออุ่นๆของมัน ทำให้หัวใจผมสั่นจนต้องยกมือขึ้นไปจับมือมันเอาไว้ เราสองคนมองตากัน ก่อนที่ห้องทั้งห้องจะตกอยู่ในภาวะเงียบ แล้วมันถึงได้เอ่ยปากขึ้นมา
“พี่ดีใจที่วันนี้…มีถ้วยฟูอยู่ด้วย…”
“เหมือนกัน…” ผมตอบรับไปแค่นั้น แล้วสิ่งที่ได้กลับมาคือรอยสัมผัสอุ่นๆบนริมฝีปาก จูบสั้นๆอย่างนุ่มนวล อบอวลไปด้วยความอบอุ่นจนเหมือนหัวใจจะมีปีก บินลอยออกไปในอากาศ
เราจูบกันแล้วผละออกมายิ้มให้กัน ก่อนจะจูบกันอีก แล้วก็ผละออกมาอีก…ตลอดค่ำคืนนี้…เรายิ้มให้กันนับครั้งไม่ถ้วน จูบกันนับครั้งไม่ถ้วน เรียกชื่อกันนับครั้งไม่ถ้วน
“ยินดีด้วยอีกครั้ง บัณฑิต” และประโยคสุดท้ายของค่ำคืนนี้ก่อนที่เราสองคนจะเข้านอน ผมย้ำกับมันอีกครั้ง กับสถานะ ‘บัณฑิต’ ที่จะหมดเขตในวันพรุ่งนี้…และผม…เป็นคนสุดท้ายที่ได้เรียกมัน
FIN
เซอร์ไพรส์!!!!! 
คิดว่าหลายคนจะต้องตกใจแน่ๆ ที่เห็นว่ามาลงตอนพิเศษของเรื่องนี้
บัวเองก็คาดไม่ถึงเหมือนกันว่าจะพิมพ์จบ ฮ่าฮ่า
แต่ยังไงก็ขอบคุณมากๆสำหรับความคิดถึงที่มีต่อถ้วยฟูและพี่ธันนะคะ 
เวลาเห็นใครพูดถึงถ้วยฟูหรือพี่ธันให้ฟัง หรือบอกว่าอยากอ่านตอนพิเศษ
จะรู้สึกว่าถ้วยฟูและพี่ธันถูกรักและเอ็นดูมากเลย 
ดีใจมากๆเลยค่ะ
แล้วเจอกันใหม่ ถ้ามี(ตอนพิเศษ)อีก ฮ่าฮ่า 
ป.ล. ‘บัณฑิตถือไฟ’ แบบพี่ธัน ใครเคยบ้างงงงง??? บัวเคยมาแล้วนะขอบอก 
ขอบคุณพื้นที่บอร์ด ขอบคุณคนอ่านและคนติดตามทุกคนนะคะ