ตอนที่ 22 แหวน
“ขอตัวก่อนนะครับ แฟนผมเมาแล้ว” แต่เอ๋ ไม่ใช่เสียงอิจวนนี่หว่า เงยหน้าขึ้นมอง อ้าว พี่แบงค์ก็ลากผมกลับไปนั่งที่โต๊ะเหมือนเดิม โอย ไอ้ตองเมาแล้วไม่ไหวขอซบหน่อยนะ
“ตอง ๆ ลงไปกินข้าวก่อนป่ะ”หือ อยู่ไหนแล้วอ่ะ เมื่อกี้ว่าจะแค่ซบเฉย ๆ นี่กูถึงขั้นหลับคาอกพี่แบงค์เลยเรอะ
“กินไรอ่า”ผมปรือตาขึ้นมาก็เห็นรถเราจอดอยู่ที่หน้าตลาดประตูช้างเผือกตรงนี้จะมีร้านขายอาหารเยอะ ผมเดินลงไปสมทบกับไอ้ท็อป อิปั๊ม ไอ้เพียว
“หยองกับจวนไปไหน”ผมถามผู้รอดชีวิตที่เหลือ ก็ได้รับคำตอบว่า ไอ้หยองนอนตายอยู่ในรถไอ้ท็อป ส่วนอิแมนจวนก็นอนอยู่หลังรถพี่แบงค์ พี่แบงค์เปิดประตูหลังรถทิ้งไว้ให้มันอ๊อก
“ข้าวขาหมูไม่หนังครับ”ผมบอกพี่แบงค์แล้วก็ซบไหล่นอนต่อนิดนึงให้พี่แบงค์ช่วยสั่ง พี่แบงค์ก็สั่งให้ผม
“อิจวนโคตรรั่วเลยว่ะ กูเห็นมันเที่ยวเนียนไปชนกับโต๊ะนั้นโต๊ะนี้”ให้ทายอ่ะ ใครพูด หุหุ
“โหย พี่ไม่เห็นมันเต้นรูดผมนี่ โคตรอายอ่ะ”ไอ้เพียวครับ น้องเพียวรูปหล่อของเรา หล่อแต่กินไม่ได้ว่ะ เซ็ง
“รั่วคนเดียวไม่พอ พาไอ้ตองไปรั่วอีก ไอ้ตัวเล็กนี่ก็ไม่ได้จะปฏิเสธ เค้าลากไปไหนก็ไป ถ้ากูไม่มองไว้นี่สงสัยไม่เหลือ”ใครเอ่ย ให้ทายๆ
“ก็มันเมานิ”ไอ้ตองเองครับ เงยหน้ามาหลังจากจิ้ม ๆ ขาหมูเล่นกินได้ครึ่งจานก็ไม่ไหว
“ก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอ ไม่เห็นรึไงไอ้สองคนนั้นอ่ะ จะงาบหัวอยู่แล้ว”บรู่ ๆๆ
กินข้าวเสร็จก็ไปดูที่รถ อิแมนจวนอยู่ในสภาพหัวโผล่ออกมาจากประตูรถแล้วห้อยลง ข้างล่างรถมีเศษอาหารที่สันนิษฐานว่าเพิ่งกินเข้าไปเมื่อตอนเย็นออกมากองอยู่ข้างล่าง
“แล้วมาอ๊อก ใส่รถกูอีก”ฮ่า ๆเจ้าของรถครับ
โอย กว่าจะลากสังขาร ขึ้นมาถึงห้องได้ แทบตาย ไม่อ่งไม่อาบมันแล้วน้ำ จะนอนแล้วไม่ไหว ทำไมมันวิง ๆ แบบนี้ว้า มึนหัวจังเลย
แต่มันจะดีกว่านี้ ถ้าพี่แบงค์ไม่ส่งจูบลงมาแล้วส่งลิ้นเข้ามาควานในปาก ลิ้นเย็นชืดถูกส่งเข้ามาทำให้ผมต้องปฏิเสธลิ้นที่ส่งมานั้นแต่เหมือนยิ่งต้านทานคู่ต่อสู้ยิ่งได้ใจ กลิ่นแอลกอฮอล์ของเราสองคนดื่มมาผสมปนเปกันกับกลิ่นบุหรี่ที่พี่แบงค์แอบสูบทำให้รู้สึกเร้าใจอย่างประหลาด
ไม่นานเสื้อก็หลุดพ้นออกไปจากร่างกาย พี่แบงค์ยึดมือทั้งสองข้างผมเอาไว้กับเตียงแล้วกัดลงมาตรงหน้าอกอย่างแรงถ้าในยามปกติผมจะต้องโวยวาย แต่ตอนนี้เหมือนโหมอารมณ์ที่เร่าร้อนให้ปะทุขึ้นไปอีก กางเกงที่รัดติ้วของผมถูกกระชากลงอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกันกับพี่แบงค์ที่จัดการกางเกงของตัวเองออกอย่างรวดเร็วเช่นกัน เราสองคนกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่บนเตียง
พี่แบงค์กัดตามร่างกายผมเป็นระยะ ตอนนี้อารมณ์กระเจิงไปหมดแล้ว พี่แบงค์เดินไปหยิบโลชั่นที่โต๊ะเครื่องแป้งมาแล้วก็จัดการป้ายตรงช่องแคบที่บั้นท้ายผมก่อนใช้นิ้วควานเข้าไปช้า ๆ จาก หนึ่งนิ้ว เป็นสองนิ้ว แล้วก็สามนิ้ว อีกมือหนึ่งก็รูดท่อนลำของผมไปด้วย ผมยันตัวเองขึ้นมาจากเตียง
ผมผลักหน้าอกพี่แบงค์ให้นอนราบลงไปกับเตียง แล้วลุกขึ้นมาจัดการต่อเอง เมื่อชโลมท่อนเนื้อของพี่แบงค์ด้วยโลชั่นจนทั่วแล้วก็บิดใช้มือกำหลวม ๆ ตรงส่วนปลายแล้วบิดไปมา สร้างความกระสันให้กับพี่แบงค์ไม่น้อย ฮะฮ่า ส่งเสียง อาห์ ออกมาอย่างไม่ขาดปากเลย
ผมหยัดตัวขึ้นคร่อมพี่แบงค์เอาไว้ค่อย ๆ กดตัวเองลงมาช้า ๆ โอยปวดหน่วงในท้องน้อยชะมัด เมื่อรู้สึกตึงตรงบั้นท้ายก็ถอยออกตั้งหลักใหม่ แล้วค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจลงมาช้า ๆ พร้อมกับที่พี่แบงค์ส่งเสียงซี๊ดออกมาไม่ขาดปาก เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้ว ผมก็ค่อย ๆขยับตัวขึ้นลงเป็นจังหวะ บางทีก็ใช้มือยืนหน้าอกพี่แบงค์บ้าง บางที่ก็แอ่นตัวไปด้านหลัง พี่แบงค์ดันตั้งขึ้นมาจูบกับผม ตอนนี้เหมือนเราสองคนนั่งจูบกันอยู่โดยที่ส่วนนั้นไม่ได้หลุดออกจากตัวผมเลย
พี่แบงค์ดึงตัวผมให้นอนลงไปจูบกับพี่แบงค์โดยที่ผมยังอยู่ด้านบน หลังจากนั้นพี่แบงค์เป็นฝ่ายกระแทกขึ้นมาเสียงเนื้อกระทบเนื้อในท่านี้ ทำให้เกิดเสียง ตับ ตับ อยู่ตลอดเวลา หากไม่โดนพี่แบงค์ปิดปากด้วยปากแล้ว ผมก็คงต้องสงเสียงออกมาเหมือนกัน ก็เสียวสุดสุดไส้ขนาดนั้น
พี่แบงค์พลิกตัวผมให้นอนหงายแล้วก็จัดการกระแทกต่อ ผมก็ใช้มือรูดของตัวเองไปด้วย พี่แบงค์ยกขาข้างหนึ่งของผมขึ้นมาพาดบ่าโดนที่เจ้าหนูของพี่แบงค์ไม่มีโอกาสหลุดออกมาข้างนอก พี่แบงค์กลับมาใช้มือทั้งสองขึ้นสอดไว้ใต้ขาทำให้ตอนนี้ผมเหมือนอยู่ในท่าพับเข่าชิดออก แล้วพี่แบงค์ก็เหยียดตัวขึ้นเหมือนกำลังวิดพื้นอยู่ แล้วก็กลับมาในท่าปกติผมโน้มคอพี่แบงค์ลงมาแลกลิ้นกันนัวเนีย พี่แบงค์ถอนปากออกแล้วกระซิบผมว่า “ใกล้แล้ว” พี่แบงค์ก็กระแทกอยู่พักใหญ่ แล้วก็ถอดกายออกมา พี่แบงค์ก็ขยับตัวมาด้านหัวนอนรูดของตัวเองอีก สองสามทีหยาดหยดแห่งความรักก็กระฉุดเลอะเต็มหน้าผม กระตุกอยู่หลายทีกว่าจะหมด แล้วพี่แบงค์ก็หมดแรงนอนซบกับอกผม
...
โอย กี่โมงแล้ววะเนี่ย ทำไมมันร้อนแบบนี้ โอ้โห บ่ายสาม โอย ปวดหัว สงสัยจะแฮงค์ อาบน้ำหน่อยดีกว่า พี่แบงค์ยังนอนอุตุอยู่เลย เฮ้อ น่าแกล้งชะมัด พี่แบงค์ตอนนี้หลับตาดูหัวฟูยุ่งเหยิง พี่แบงค์กับผมดูยังไงก็เหมือนเข้ากันไม่ได้ เราไม่เหมือนกันสักอย่าง ที่ผ่านมามีแต่ผมสร้างเรื่องให้พี่แบงค์ตลอดเวลา แล้วพี่แบงค์ก็ให้อภัยตลอด นิสัยส่วนตัวผมแล้วเวลามีอะไรก็ไม่ค่อยจะบอกใครเท่าไหร่ คิดว่าตัวเองจะแก้ปัญหาได้ บางทีก็เลยเป็นเหมือนผมจงใจจะปิดบัง บางทีผมแค่ไม่อยากคนอื่นต้องเดือดร้อนไปด้วยก็เลยเลือกที่จะไม่บอก นั่นคือวิธีคิดของผม และมันก็ทำผมรู้ว่าการคิดเองเออเองบางทีมันก็ไม่ถูกเสมอไป
พี่แบงค์บอกว่าเวลามีอะไรให้บอกก็เพราะเวลามีเรื่องจะได้ช่วยกันคิดช่วยกันแก้ เพราะต่อไปนี้เรื่องทุกเรื่องไม่ใช่เรื่องของเราคนเดียว แม้มันจะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม ความโชคดีที่ผมได้รับนี้ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิต
ผมแกล้งบีบจมูกพี่แบงค์ พี่แบงค์ก็ตีหน้าผากเข้าให้ทีนึง
“มองอะไร”พี่แบงค์ลืมตาขึ้นมาถาม โหย แกล้งหลับอ่ะ
“ก็มองพี่ไง มองไว้ก่อน กลัวว่าวันหนึ่งจะไม่ได้มองอีก”
“ทำไมอ่ะ”
“ก็ถ้าวันนึงพี่เบื่อตองขึ้นมา พี่ก็ทิ้งตอง ตองทำแต่เรื่องให้พี่ตลอด”
“แล้วพี่ว่าอะไรไหม”
“หึ ก็ไม่ได้ว่าอ่ะ แต่ก็กลัวว่าวันนึงพี่จะเบื่อตอง”พี่แบงค์เอามือมาขยี้หัวผมเล่นแบบนี้เคยทำ
“พี่เข้าใจว่าตองเป็นคนอัธยาศัยดี แล้วบางคนก็เข้าใจความอัธยาศัยดีของตองผิด ท็อปก็คงเหมือนพี่ตอนแรก ๆ ไง ลากไปไหนก็ไป เห็นตองไม่ว่าอะไร ยอมทุกเรื่องก็เลยคิดไปเองว่าชอบไง”อ้าวนี่กรูเป็นคนใจดีขนาดนั้นเลยเหรอว่ะ เออ ถึงว่าคราวไอ้ท็อปมันถึงได้ใจ ก็เค้าเป็นพวกต่อต้านความรุนแรงอ่ะผิดด้วยรึไง ห๊ะ ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนไม่ชอบมีปากมีเสียง ใครให้ทำอะไรก็ทำ จะไม่ค่อยหืออะไรกับเขาเท่าไหร่
“ตองเนี่ยนะอัธยาศัยดี”
“อือ คนนี้อ่ะแหละตัวสำคัญเลยล่ะ”แล้วก็เอานิ้วมาจิ้ม ๆ หน้าผาก
“หึ ว่าไปเรื่อย”เค้าเป็นคนบุคลิกรอมชอมต่างหาก หุหุ
“ชอบแจกยิ้มไปเรื่อย ไอ้ท็อปก็คงเคยโดนไอ้สองคนในผับเมื่อคืนก็ท่าจะใช่”เมื่อคืนกูไปทำเรื่องทิ้งไว้อีกแล้วเหรอ
“สองคนไหน”งงสิครับ งง เมื่อคืนก็จำได้ว่าไม่ได้ทำอะไรนี่นา
“ก็ไอ้โต๊ะข้างที่โผล่มาชนแก้วบ่อย ๆกับไอ้โต๊ะที่ไปกับอิจวนไง คุยกันจนจะหอมแก้มกันอยู่ละ”
“อ๋อ ก็มันถามมา ตองก็ตอบไปแค่นั้นแหละ ไม่ได้มีอะไรนะ”
“อืม ก็มองอยู่ เออ ตองไปโรบินสันกัน”
“ไปไมอ่ะ”
“เดินเล่น”แล้วเราสองคนก็อาบน้ำ แต่งตัว ออกไปโรบินสันกัน โอย หิวว้อย ยังไมได้กินอะไรเลยเนี่ย
เอิ๊ก อิ่ม กินไอติมเป็นอาหารมื้อแรกของวันเลยทีเดียว
“ตองอยากใส่นิ้วก้อยอ่ะ” พี่แบงค์พามาเลือกแหวน ก็แหวนเงินธรรมดานี้แหละครับ เกลี้ยง ๆ ไม่มีลวดลายอะไร ผมไม่ค่อยชอบอะไรที่เยอะ ๆ
“ทำไมอ่ะ”
“ก็นี่ไงจะได้คู่กับแหวนของแม่ไง” มันเคยเป็นแหวนของยายแล้วยายก็ให้แม่ แม่ก็มาให้ผม ผมใส่ไว้นิ้วนางข้างซ้าย ก็เลยว่าจะใส่แหวนวงใหม่ไว้นิ้วก้อยซ้ายจะได้คู่กัน เพราะรักเหมือนกันไง เรื่องของเรื่องก็คือเดินไปผ่านร้านแหวนแล้วเห็นว่ามันสวยดี สลักชื่อฟรี ก็เลยซื้อกันคนละวง
“TONG” “BANK”
แหวนพี่แบงค์วงใหญ่มากอ่ะ ผมเคยลองเอามาใส่เล่นต้องเอามาใส่นิ้วชี้เลยนิ้วนางใหญ่มากอ่ะคนนี้
เดินไปก็ดูของไป วันนี้วันเสาร์คนเยอะมาก ไหนจะครอบครัวมากินข้าวกัน ไหนจะแฟน ไหนจะเด็กมาทัศนะศึกษาแล้วแวะมาเที่ยว คนล้านแปด
ผมชวนพี่แบงค์ขึ้นไปร้านหนังสือกะว่าจะดูหนังสือซักเล่มพี่แบงค์บอกว่าดีเหมือนกันจะดูซีดีซักแผ่นไว้ในรถ ผมก็ได้หนังสือมาเล่มนึง พี่แบงค์ได้มา 4 แผ่น(ไหนตอนแรกบอกจะเอาแผ่นเดียวไงลุง) วันนี้เป็นวันว่างเราก็เลยเดินเล่นโดยไม่มีจุดหมายปลายทาง ผ่านแผนกเสื้อผ้าเด็กพี่แบงค์เอาที่คาดผมมิกกี้มาใส่ หูย น่ารักมากกก ขัดกับลุคมากอ่ะลุง คิดว่าจะขึ้นไปดูหนังกัน แต่ไม่รู้จะดูเรื่องอะไรดีคิดว่าเดี๋ยวค่อยขึ้นไปเลือกเอาข้างบนเอาก็แล้วกัน ขึ้นไปถึงชั้น 4 ก็ถึงหน้าโรงหนัง ผ่านห้องคาราโอเกะพี่แบงค์ก็ชวนร้องแต่หึ ไม่เอาอ่ะ คนเยอะ เต้นเป็นแร้งเป็นกาก็ไม่ได้
ไม่ได้ดูหนังนานมากอ่ะ ตั้งแต่หนังผีคราวที่แล้วก็น่ะไม่ค่อยได้มาดูกันเลย นาน ๆ จะมาทียิ่งช่วงที่แล้วสอบก็เหอะ อย่าฝันว่าจะได้มาดูเลย คนหน้าโรงหนังเป็นแสนวันนี้คนเยอะมาก เดินไปดูบอร์ดโปรแกรมหนังดีกว่า เดินไปก็เหมือนตัวเองเดินมากับศาลพระภูมิ มีแต่รุ่นน้องยกมือไหว้พี่แบงค์ตลอดทาง ของไอ้ตองมีแต่เพื่อนเดินมาตบหัว ฮึ่ย
แค้น
เอ๊ะ
นั่นใครเห็นข้างหลังคุ้น ๆ