หวัดดีๆๆ ((กระซิบๆ)) หวัดดีครับ อิอิ ย่ิงๆเข้ามา กลางๆดึก หลับกันหรือยา..ง?
วันนี้อยู่ดึก แห่~ หยุด3วันติด เลยโต้รุ้งได้ ..ตอนนี้ผมกำลังเขียนตอนพิเศษของเรื่องนี้อยู่นะครับ(แต่เนื้อเรื่องจริงๆอ่ะ เขียนจบไปแล้ว ดีใจๆๆๆ!! ) ...
ส่วนเนื้อหาของตอนพิเศษที่กำลังเขียนอยู่ อยากขอความเห็นจากคนอ่านน่ะครับ ว่าผมจะโพสต์คั่นกลางเรื่องไว้(คิดว่าถ้าโพสต์จะโพสต์ต่อจากตอนที่ท่านๆกำลังจะได้อ่านนี่แหละ) ดีมั้ยครับ? คือไม่รู้ว่ามันจะไปสะดุดอารมณ์คนอ่านมั้ย หรือว่าผมจะรอให้โพสต์จนจบเรื่องแล้วค่อยเอาตอนพิเศษมาลง? .. คือที่มาขอความเห็นก็เพราะตอนพิเศษที่เขียนเนี่ย มันจะเป็นเรื่องประมาณอดีตลึกๆของพีมน่ะครับ ประมาณว่าสาเหตุที่ทำให้เค้ากลายเป็นคนปิดกลั่นตัวเองไรประมาณนี้ ..เอาไงดีอ่ะ??
ขอความเห็นจากคนอ่านทุกท่านหน่อยนะครับ
--------------------------------
โอเค ฝอยเยอะแระ มาต่อกันเลยดีก่า (ความเดิมตอนที่แล้ว)---ติ้ง!---
“Time out! ไอ้อ่อน” เหมือนสวรรค์มาโปรด ถ้าตึกนี้มีหลายชั้นกว่านี้เรามีอันต้องจูบตอบเจ้าเด็กหื่นนี่ไปแน่ๆ กลัวใจตัวเองจริงๆ .. บรึ่ยย~! น้ำเชี่ยวมองตามคนตัวขาวน่ารักที่เดินไปอย่างไม่สนใจใยดีเค้าเลย ทิ้งไว้แต่.. คนร่างสูงที่ยืนอารมณ์ค้างอยู่เดียวดาย
....โธ่วุ้ย! คนอะไร ตายด้านรึป่าวเนี่ย เราออกจะหล่อเท่ขนาดนี้ หึ่ม!.... .
.
.
Chapter 12“เอ้า..พีม น้ำเชี่ยวมากันแล้วเหรอ มาๆนั่งก่อน...นี่เดโมเพลงสำหรับงานโฆษณา เอาไปฟังกัน” พี่ยีนส์พูดพร้อมกับส่งเนื้อเพลงทั้งหมดและเดโมให้กับสองหนุ่มดู
“ทั้งหมดมี5เพลงนะ เพลงช้าและเพลงเร็วคนล่ะเพลง อีกเพลงนึงก็เป็นเพลงเร็วร้องฟีเจอริ่งกันอีกเพลง ส่วนมินิคอนต่างๆรวมถึงทัวร์คอนเสิร์ตเราก็จะใช้เพลงในอัลบั้มทั้งของพีมและน้ำเชี่ยวร่วมกับ 5เพลงใหม่นี้ด้วยเลย ทางทีมผลิตและผู้ใหญ่เค้าเลยอยากให้ไปฟังกันมาก่อนเข้าห้องอัด อืม..ซัก3-4วันพอมั้ย ของพีมไม่น่าจะมีปัญหา ส่วนน้ำเชี่ยวอาจจะหนักหน่อยเพราะเราต้องถ่ายเอ็มวีพรุ่งนี้ คงกินเวลาซัก2วัน แต่ก็อดทนหน่อยนะน้ำเชี่ยว เรามีเวลาจำกัดกันจริงๆ”
“ไม่เป็นไรครับ น้ำเชี่ยวสบายมาก ช่วงนี้ปิดเทอมแล้ว ก็คงโอเคขึ้นล่ะครับ”
“โอเคถ้าน้ำเชี่ยวแฮ็ปปี้ พี่ก็ดีใจ ส่วนของพีมก็ไม่มีอะไรแล้วนะ จะลองฟังเพลงก่อนก็ได้เผื่อมีอะไรที่เราไม่ชอบ หรืออยากปรับเปลี่ยนตรงไหน จะได้คุยกับโปรดิวส์เค้าเลย”
“ครับ พีมก็ว่าจะเข้าไปคุยโจที่ห้องอัดพอดี” ซูเปอร์สตาร์หนุ่มพูดพลางพลิกแผ่นเพลงในมือไปมาก่อนจะคว้ากระเป๋ามาควานหาเครื่องเล่นเพลงเพื่อลองเปิดตัวอย่างเพลงที่เพิ่งได้รับ
“โอเค..น้ำเชี่ยว เดี๋ยวไปคุยคอนเซปเอมวีที่เราต้องถ่ายพรุ่งนี้กัน พี่นัดนางเอกไว้ ไม่รู้มารึยัง”
“ครับๆ”
เมื่อทั้งหมดออกมาจากห้องของยีนส์ ก็จะเอ๋เข้ากับสาวสวยร่างอวบผมดำยาวสลวยที่ดูเหมือนจะเพิ่งมาถึงพอดี
“
น้ำเชี่ย..ว!..เป็นไงไม่ได้เจอตั้งนานหล่อขึ้นมั้ยเนี่ย
คิดถึงจังเลย” สาวสวยร่างอึ๋มนัยน์ตาคมผมยาวเมื่อเห็นน้ำเชี่ยวเดินออกมาจากห้อง เธอก็ร้องทักเสียงสูงพร้อมกับโผเข้ามาเกาะเกี่ยวแขนซ้ายขวาของเด็กหนุ่มเอาไว้ทันที
“ข..ขวัญ ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้” น้ำเชี่ยวแทบทำอะไรไม่ถูก อยู่ๆยัยจอมขวัญนมโตโผล่มาได้ไงว่ะ พี่พีมจะเข้าใจผิดรึเปล่าเนี่ย
“เซอร์ไพรส์ไงน้ำเชี่ยว พี่เห็นน้ำเชี่ยวกะขวัญสนิทกันก็เลยชวนเค้ามาเป็นนางเอกให้ ดีใจมั้ย.. ยิ่งช่วงนี้มีกระแสข่าวอยู่ด้วย ทีมPRเค้าจะได้ทำงานกันง่ายหน่อย” เอ้อเหอ ให้มันได้งี้สิ.. ดีใจเหรอพี่..ไม่เลย ไม่ดีใจเลยซักนิด ชีวิตรักครั้งแรกของผมจะบรรลัยเอาน่ะสิ คนนี้ยิ่งจีบยากๆอยู่ด้วยอ่ะ
..ดูดิ ดูหน้าพี่พีมดิ เริ่มบึ้งแล้วอ่ะ ถ้าพี่พีมคิดว่าน้ำเชี่ยวกระล่อนเหมือนในข่าวบ้าๆพวกนั้น ใครจะรับผิดชอบล่ะเนี่ย โอ้ย!ตรูอยากจะบร้าตายโว้ยย.. จอร์ช! ช่วยเคโระด้วยๆๆๆ แงง~
“เอ่อ..งั้นเดี๋ยวพีมขอตัวก่อนนะครับ พี่จะได้ไปทำงานกัน ไปนะครับ” แม้น้ำเสียงที่พูดออกมาจะเรียบๆ นิ่งเหมือนไม่มีอะไร แต่เด็กหนุ่มกลับรู้สึกได้ถึงบรรยากาศ ที่เริ่มมาคุแปลกๆไป
..พี่พีมไม่มองหน้าน้ำเชี่ยวเลยอ่า ..
โธ่ว้อย........ย!!“ดะ..เดี๋ยวพี่พีม น้ำเชี่ยวไปด้วย น้ำเชี่ยวก็มีเรื่องจะปรึกษาพี่โจเหมือนกัน... อ..เอ่อ.เดี๋ยวน้ำเชี่ยวมานะพี่ยีนส์ของเวลา 5นาทีนะพี่” พูดเสร็จน้ำเชี่ยวก็วิ่งคว้าแขนของพีมออกไปทันที ไม่รีรอคำใดๆจากยีนส์หรือเสียงเจื้อยแจ้วของจอมขวัญที่ไล่หลังมาเลย
“โอ้ย!
ปล่อยนะ ปล่อย! ไอ้บ้านี่...แกจะไปหาโจก็ไปดิ มาลากฉันไว้ทำไมเล้า!
ปล่อยยย!! ชั้นจะกลับบ้านเว้ย” เมื่อถูกฉุดกระชากถูลู่ถูกังมาตามทาง ขายหนุ่มหน้าคว่ำก็พยามดิ้นสุดแรงจนน้ำเชี่ยวต้องหยุดพักหอบไปตามทาง
“พี่เป็นอะไรอะ..ไหนพี่บอกจะไปหาพี่โจไง แล้วทำไมตอนนี้จะกลับบ้านแล้วล่ะ พี่โกรธอะไรน้ำเชี่ยวหรือเปล่า หือ?”
“เรื่องของฉันน่า ฉันอยากจะกลับบ้านหรืออยากจะไปไหนมันก็เรื่องของฉัน นายมายุ่งอะไรด้วย รีบๆไปทำงานของนายเถอะ
ไป๊ๆ” อ๋อ..เราจำได้แล้ว ยัยนางเอกจอมขวัญคนนี้ที่เคยเป็นข่าวกับนายนี่นา เหอะ.. ตอนนี้ยัยนมโตนี่มาเป็นนางเอกให้ถึงนี่ นายคงไม่เหงาแล้วล่ะมั้ง ..คงไม่ต้องพึ่งฉันให้มาเป็นตัวตลกให้นายจีบเล่นไปวันๆแล้วล่ะ ..ไป๊ เชิญเลยไอ้น้ำเชี่ยว ไอ้ทุเรศ!
“
ไม่!..น้ำเชี่ยวไม่ไปไหนทั้งนั้นอะ พี่นั่นแหละที่ต้องมากับน้ำเชี่ยว” เมื่อเห็นว่าคนผิวขาวที่ดิ้นขลุกขลักอยู่เริ่มออกอาการทางน้ำเสียงและสีหน้าที่ขึ้นสีจนแดงกล่ำ แววตาที่เคยเป็นประกายสดใส ก็เปลี่ยนเป็นดุดัน ทำให้น้ำเชี่ยวตัดสินใจกระชากเอาร่างเล็กหนีเข้าห้องน้ำทันที
“พี่โกรธน้ำนี่
ใช่มั้ย? ทำไม่พี่ไม่เรียกชื่อน้ำ ทำไมพี่ไม่แทนตัวเองว่าพี่...
พี่โกรธน้ำอยู่ใช่มั้ย?”
“ใครโกรธ จะบ้าเหรอ ทำไมฉันจะต้องโกรธนายด้วย
หลงตัวเองไปมั้ยห๊ะ?”
“ก็พี่ทำเหมือนว่า พี่ไม่พอใจ พี่โกรธที่เห็นขวัญมาที่นี่
ใช่มั้ย?” เหอะ.. ทีอย่างนี้มาทำเป็นรู้ดี ทำไมไม่ใสซื่อเหมือนที่ผ่านมาล่ะว่ะ ไอ้เด็กกะล่อนเอ้ย
..โมโหเว้ยยยยยยยยย!! “บ้าป่าว? มันจะมีเหตุผลอะไรฉันถึงต้องเป็นขนาดนั้น ..แต่ ถึงฉันจะโกรธใคร หรือโกรธนาย มันก็เป็นเรื่องของฉัน
นายไม่ต้องมายุ่ง!” เจ้าของข้อมือขาวแผดเสียงใส่คนที่กำลังพันธนาการแขนทั้งสองข้างของเขาด้วยฝ่ามือ นึกสงสัยยิ่งนักว่าเจ้าเด็กนี่ช่างเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ทั้งที่เขาพยามดิ้นให้หลุดเท่าไหร่ก็เหมือนแรงจากฝ่ามือหยาบคู่นั้นจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
“พี่เองก็ชอบน้ำเชี่ยวใช่มั้ย..พี่เลยหึงน้ำเชี่ยวอย่างนี้อ่ะ” สองมือของเด็กหนุ่มพยามรั้งร่างของพีมเข้ามาใกล้ เขาอยากเห็นดวงตาแววใสคู่นั้นชัดๆ เขาอยากค้นความหมายจริงๆที่อยู่ข้างใน ..และถ้ามองไม่ผิด เด็กหนุ่มคิดว่า เขาสังเกตเห็นความหลุกหลิกไม่มั่นใจจากดวงตาคู่นั้น ไม่รู้ว่ามันเพราะอะไร แต่ถ้าจะให้คิดเข้าข้างตัวเอง เขาก็อยากจะเข้าใจว่าคนตรงหน้าคงแอบมีใจให้กับเขาบ้างจึงได้ออกอาการหึงหวงเช่นนี้
“
ใช่มั้ย! พี่เองก็ชอบน้ำ พี่รู้สึกเหมือนที่น้ำรู้สึก ใช่มั้ย? พี่”
“เหอะ! ชอบนายน่ะเหรอ หลงตัวเองมากไปมั้ง คนอื่นมีตั้งเยอะแยะ ทำไมฉันต้องชอบคนไร้สาระ วุ่นวาย น่ารำคาญอย่างนายด้วยห๊ะ” “หา..? ไร้สาระ วุ่นวาย น่ารำคาญเหรอ นี่น้ำทำให้พี่รำคาญอย่างนั้นเหรอ ที่น้ำทำทุกอย่าง พี่รู้สึกอย่างนั้นจริงเหรอ” สิ้นเสียงแหบที่เหมือนถูกสะกดให้ทุ้มต่ำจากริมฝีปากบาง มือหนาที่รวบข้อมือขาวของพีมไว้ ก็ค่อยๆคลายแรงออก ราวกับใครเอาค้อนปอนด์มาทุบหัวเด็กหนุ่มอย่างแรง เจ็บจนชาไปหมดทั้งหน้าทั้งร่างกาย... ทำไมนะ คำพูดเพียงไม่กี่ประโยคของคนๆนี้ถึงได้ทำร้ายเขาได้อย่างร้ายกาจขนาดนี้..
..เราเป็นตัวน่ารำคาญสำหรับพี่พีมจริงๆอย่างนั้นใช่มั้ย ..ที่ผ่านมาทั้งหมดเขาไม่เคยเห็นความหมายเลยอย่างนั้นเหรอ
“
เออใช่ ชั้นรำคาญ ไม่ชอบทุกสิ่งที่นายทำ ทุกอย่างที่นายส่งมา ขนมเค้กนั่น แมสเสจเลี่ยนๆที่นายส่งมาบ่อยๆนั่นด้วย
ได้ยินชัดมั้ย ทีนี้เชิญนายกลับไปตามหานางเอกของนายได้รึยัง ชั้นของตัวกลับบ้านก่อนล่ะ ขอให้สนุกกับการทำงานแล้วกัน”
ซูเปอร์สตาร์หนุ่มระเบิดอารมณ์ใส่น้ำเชี่ยวอย่างกร้าวร้าว เขารู้ตัวเองดี นี่คือข้อเสียที่สุดของเขา โมโหแล้วพาล ไร้เหตุผล ปากไม่ตรงกับใจ แต่จะให้ทำยังไงได้ เขาไม่อยากเจ็บไม่อยากเป็นคนโง่ให้คนอื่นหลอก เพราะมันเจ็บปวด เค้ารู้รสชาติของมันดี
.
.
...พีมกระแทกเท้าออกจากห้องน้ำด้วยความโกรธแต่ก็ต้องชะงักแทบเสียหลัก เมื่อออกมาก็เจอแจ๊กพ็อตเข้าจังเบ่อเร่อ เพราะเจ้าโปรดิวเซอร์หนุ่มหัวทองดันยืนพิงกำแพงพ่นควันขาวปุ้ยๆ พร้อมกับมะเร็งซองใหญ่ในมือ
“โจ..นายมายืนอยู่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ก็มานานพอที่จะรู้เรื่องบางอย่างแล้วกัน.. ไง? ไม่เจอกันหลายวัน คุยกันหน่อยมั้ยล่ะเพื่อน” ชายหนุ่มหน้าตี๋ผมทำสีเป็นเอกลักษณ์มือวางอันดับหนึ่งด้านการแต่งเพลงและทำนองของบริษัทเพื่อนสนิทที่สุดในวงการของพีม เอ่ยปากชวนซี้ปึ้กไปที่ห้องทำงานของเขาอย่างรู้ทันว่าตอนนี้พีมคงต้องการระบายอะไรบางอย่างกับใครซักคนแน่ๆ
“นายได้ยินทั้งหมดแล้วเหรอ” พีมเอ่ยถามเพื่อนอีกครั้งหลังจากเข้ามาถึงห้องทำงานส่วนตัวของโจ
“อืม..ดีนะที่เป็นชั้น ถ้าเป็นคนอื่นนายสองคน คงได้ขึ้นหน้าหนึ่งแน่.. ไงล่ะ ตกลงเรื่องมันเป็นมายังไง?”
“ก็..ไอ้เด็กบ้านั่น อยู่ดีๆมันก็มาบอกว่าชอบฉัน รักฉัน มาตามจีบฉันอยู่พักนึง แล้ว! ล..แล้วมาวันนี้ ยัยนางเอกนมอึ๋มนั่นก็โผล่มา..แล้ว แล้ว..”
“แล้วนายก็อารมณ์หึงพุ่งพล่านเลยใช่มั้ย” โจมองท่าทางเลิ่กลั่กของพีมที่เอาแต่เดินวนไปวนมา จนเค้าแทบจะตาลาย ก่อนจะพูดจี้คนปากไม่ตรงกับใจให้ตรงจุดซะเลย
“
เอ้ย!บ้าแล้ว นายอย่ามามั่ว หึงเหรอ ฉันจะหึงไปทำไมเราไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย ..ฉ..ฉันแค่ เจ็บใจที่มันมาโกหกฉัน ทำกับฉันเหมือนฉันเป็นของเล่น ก็แค่นั้น” ริมฝีปากบางบุ้ยใบ้ปากยื่นปากยาวพูดวกไปวนมาแทบไม่เป็นประโยค จนโจแทบจะหลุดขำ ยิ่งไอ้ท่าทางอึกอักๆมือไม้อยู่ไม่สุขและดวงตาเรียวที่กำลังเหลือกโตนั่นด้วยแล้ว
..นี่คงจะชอบเจ้าเด็กนั่นเข้าไปซะเต็มเปาเลยสิเพื่อนกู เฮ้อ..
“พีม..ชั้นโจนะโว้ย! เพื่อนของแก เพื่อนนายตั้งแต่วันแรกที่นายเข้าวงการ ทำไมชั้นจะดูนายไม่ออก อารมณ์นายเป็นยังไงทำไมฉันจะไม่รู้ สเป็คผู้หญิงนายแบบไหน รึว่า นายชอบผู้ชายลักษณะยังไง ทำไมฉันจะไม่รู้”
“เออๆ..จะย้ำอีกนานมั้ยว่ะเนี่ยเรื่องผู้ชายเนี่ย กลัวฉันไม่รู้ตัวเองรึไง” พีมกระแทกตัวนั่งลงบนโซฟายาวแล้วดึงทึ้งหมอนอย่างหงุดหงิด ที่ถูกรู้ทัน ทำให้โจ้อดไม่ได้ที่จะแอบหัวเราะกับอาการกระฟัดกระเฟียดของคุณชายเจ้าอารมณ์ตรงหน้า
“เฮ้อ..ไอ้เรื่องที่ว่าเด็กนั่นจะชอบหรือไม่ชอบนายจริงๆน่ะ ฉันไม่รู้หรอก นายคงต้องดูเอาเอง...แต่มีอยู่เรื่องนึงที่ฉันพอจะบอกนายได้นะว่า น้ำเชี่ยวกับยัยนางเอกจอมขวัญนั่นน่ะ ไม่มีอะไรในกอไผ่จริงๆ ฉันยืนยันได้ เพราะช่วงที่ยัยนั่นมาเกาะแกะมัน ตอนนั้นฉันต้องเข้าห้องอัดกับมันบ่อยๆ น้องมันยังมานั่งบ่นกับฉันเลยว่าไม่รู้จะทำตัวยังไง พูดกับนักข่าวมันก็ไม่รู้จะพูดยังไง กลัวไปทำให้ภาพผู้หญิงเค้าดูไม่ดี ..ไอ้เด็กนั่นน่ะ มันไม่เคยชอบใครจริงจัง ไม่เคยมีความรักไม่เคยมีแฟน ยัยจอมขวัญนั่นมันก็บอกมันไม่ได้ชอบ แต่มันเกรงใจ แล้วก็ปฏิเสธไม่เป็น ข่าวที่เคยมีมันก็บอกว่าซวย เพราะโดนปาปารัสซี่แอบถ่ายใช้มุมกล้องทั้งนั้น ..แต่ตอนนี้บอกตรงๆว่าฉันเองก็อึ้งเหมือนกันว่ะ “
“เอ่อ.. ไม่คิดว่ามัน....เอ่อ....ไม่คิดว่า..มัน..จะชอบผู้ชาย"
“ทำไม..
ผู้ชายอย่างชั้นมันเป็นยังไงไม่ทราบ” พีมหันมาชักสีหน้า ดวงตาเรียวค้อนควับใส่โจ้ทันทีที่ประโยคสุดท้ายหลุดออกมา
“
เอ้ย..ไม่ใช่ๆ ชั้นไม่ได้เจาะจงว่าเป็นนาย ชั้นหมายถึงรวมๆนะ นายจะมาค้อนมาเขี้ยวใส่ชั้นทำไมว่ะ ไอ้บ้า เดี๋ยวพ่อควักออกมาขายซะหรอกลูกกะตาอ่ะ ..ไงหายปี๊ดแตกเรื่องเมื่อกี้แล้วเหรอ.. แต่ฉันว่า นายทำกับน้องมันแรงไปนะ"
“เหรอ O*o ..นายว่าชั้นพูดแรงไปเหรอ?” ชายหนุ่มหน้าหวานพุ่งตัว ลุกขึ้นมาถามโจ้ด้วยสีหน้าบ้องแบ้วแบบคนที่ลืมว่าทำผิดอะไรไปบ้างทันที
“หึหึ ..แรงไปงั้นเหรอ? ชั้นว่ามันแรงชิบหาย มากกว่าว่ะ ..นายพูดอะไรออกไปจำไม่ได้หรือไง.. ฉันว่า ถ้าเด็กมันรักมันหลงนายเอาจริงๆแล้วล่ะก็ ไม่ว่าใครโดนแบบนั้น ก็คงหัวใจสลายไปแล้วล่ะ”
..หัวใจสลาย ขนาดนั้นเลยเหรอ ไม่มั้ง? .. ก็คนมันพูดไปแล้ว จะให้ทำยังไงเล่า ก็มันโมโหนี่ - -'
“นายเนี่ยน๊า.. เมื่อไหร่จะหัดแก้นิสัย บลาๆๆๆ บลาๆๆๆ บลาๆๆ~ ………………………. บลาๆๆ~”
ซูเปอร์สตาร์หนุ่มได้แต่นั่งฟังเพื่อนซี้ตาปริบๆ แต่เนื้อความที่อีกคนสื่อออกมาไม่ได้เข้าหัวสมองมากรอยหยักเลยสักนิด ..ในใจก็คิดเข้าข้างตัวเองไปว่า ที่ผ่านมาก็เคยโม้งเม้งด่าว่าเจ้าเคโระนั่นออกบ่อย ครั้งนี้อาจจะพูดแรงไปนิด อย่างดีเจ้านั่นอาจจะงอนแล้วหายหน้าไปสักสองสามวัน รอให้มันลืมๆไปก่อนเดี๋ยวค่อยโทรไปง้อก็ได้ว่ะ เฮ้อออ~
“
พลั่ก! ---
เฮ้ย! ไอ้ไส้เดือนเทวดา เอ็งฟังข้าอยู่รึป่าวเนี่ยห๊ะ สอนไม่รู้กี่รอบแล้วเนี่ย ไม่รู้จักจำ จะให้ช่วยคลายรอยหยักในกระโหลกอีกสักป้าบมั้ยห๊ะ!!” โปรดิวเซอร์หนุ่มประเคนฝ่ามือเข้าที่หัวถุยๆอย่างจัง เมื่อเห็นเพื่อนตัวดีเอาแต่นั่งทำตาแป๋วเลื่อนลอยอย่างนี้ทุกครั้งเวลาที่เขาบอกหรือเตือนในสิ่งที่เป็นข้อบกพร่องเดิมๆของเจ้าตัว ..บางทีก็เหนื่อยใจเหลือเกิน ไม่รู้ว่ามันไม่รู้ตัว หรือว่ามันไม่อยากจะแก้ไขข้อเสียของมันเองกันแน่ ไอ้เพื่อนคนนี้
“เฮ้อ..ชั้นล่ะชักจะสงสารน้องมันแล้วว่ะ เด็กมันยังเวอร์จิ้นแล้วดันมาเจอเสือเจ้าอารมณ์อย่างนายเนี่ย...สงสารจับใจเลยจริงๆ”
“อะไร..ใครเป็นเสือ นายว่าฉันเป็นเสืองั้นเหรอ” ง่ะถูกแทงใจดำอีกหนึ่งดอก - -‘ เมื่อกี้ก็เป็นไส้เดือน เกย์กับไส้เดือนไม่เหมือนกันนะเว้ยๆๆ เชอะ!
“ก็จริงนี่หว่า ถึงตอนนี้ลายมันจะถูกลบไปบ้างแล้ว แต่ชั้นก็ไม่เคยลืมวีรกรรมที่นายเคยก่อไว้หรอกนะ”
“เออๆ..เลิกพูดไปเลย ขี้เกียจฟัง ตอนนั้นชั้นแค่สับสนในตัวเองโว้ย ตอนนี้ชั้นก็เป็นคนใหม่แล้วไง เลิกทุกอย่าง นายไม่เห็นเหรอ...ไม่เอาไม่พูดด้วยแล้ว ซ้อมเพลงดีกว่า...
ไหนๆเอาเพลงใหม่มาฟังเด๊ะ” ง่ะ.. ไอ้หัวทองนี่ มันจะขุดประวัติศาสตร์มาพูดทำไม เดี๋ยวไล่ไปเป็นครูสอนชีวะซะนี่ เดี๋ยวก็ไส้เดือน เดี๋ยวก็เสือ ยั้วเยี้ยะไปหมด ชิ!
“เออ..ให้มันจริงเถอะสงสารเด็กมัน ชอบก็บอก ไม่ชอบก็บอกมันไปตรงๆ ทำตามหัวใจตัวเองอย่าปากแข็งให้มันมากนัก ทำเป็นมั้ย ชั้นเตือนไว้แค่นี้แหละ”
---
ก็อกๆ ก็อกๆๆ---
“
ครับ..เข้ามาเลยครับ”
“อ้าว..ไงไมกี้ แบงค์ มากันเร็วเว้ยวันนี้.. เดี๋ยวพี่เดินไปดูห้องอัดก่อน รอกันที่นี่แป๊บ ..เออไมค์ นี่พี่พีมรู้จักแล้วยัง...”
“อ๋อ รู้จักกันดีเลยครับ ไอ้น้ำมันเคยพาไปเมาปลิ้นกับพวกผมแล้ว ใช่มั้ยพี่พีม” ไมค์พูดพลางเดินไปนั่งข้างๆพีมแล้วโยกหัวไหล่ชนซูเปอร์สตาร์หนุ่มไปมาอย่างสนิทสนม
...แต่นั่นยิ่งทำให้โจ้ส่งสายตาอย่างมีเลิศนัยมาให้เจ้าเสือเกือบจะสิ้นลายของเขา พร้อมธนูทางสายตาอีกหนึ่งดอกเข้าปักที่กลางหน้าผากนักร้องหนุ่ม..
‘เหอะๆ ข้ารู้อีกเรื่องแล้วนะเอ็งไอ้พีม ถึงขนาดเคยไปเมาด้วยกันมาแล้ว ยังไม่ยอมรับตัวเองอีกเหรอ’.
.
“ไงพี่พีม..ช่วงนี้งานยุ่งมากเหรอ หน้าดูเหนื่อยๆนะ” หนุ่มตี๋มาดกวนถาม เมื่อแอบสังเกตเห็นนักร้องรุ่นพี่ดูซึมๆไปไม่เหมือนทุกวัน
“ก็ยุ่งเหมือนเดิมนั่นแหละ..”
“
เอ้ย..ไมค์เอ็งจะมองพี่เค้าให้ทะลุไปเลยมั้ยว่ะ เดี๋ยวซุปเปอร์สตาร์ของเราสึกหมด ไอ้นี่” หนุ่มแบงค์ปรามเพื่อนร่วมวงอย่างขำๆ เมื่อเหลือบไปเห็นไมกี้ที่เอาแต่นั่งจ้องเสื้อตัวสวยบนตัวพีมอย่างไม่ละสายตา
ไม่รู้มันจะสนใจอะไรนักหนาก็แค่แจ๊คเก็ตแพงๆธรรมดาๆ ..ไอ้บ้ายี่ห้อเอ้ย
“อ๋อ..เหรอ ไม่มีไรเสื้อสวยดีนะพี่..ขอได้ปะ” ไมค์พูดกลบเกลื่อนพร้อมกับเอามือซ้ายถูกคิ้วไปมาอย่างลืมตัว..จะไม่ให้ตกใจได้ไง ก็เขาจำได้แม่นเสื้อตัวนี้ ยี่ห้อนี้ สีขาวแบบนี้ ไซส์ประมาณนี้ ใช่เลย วันนั้นที่ไอ้น้ำเชี่ยวมันลากเขาไปซื้อเป็นเพื่อนมัน
..นี่มันบังเอิญ หรือว่ากรูฝันไปว่ะเนี่ย ไอ้เอี้ยยยน้ำเชี่ยว มรึงปิดบังกรูๆๆๆๆ
“ไอ่บ้านี่..ชักลามปามแระ ไปเร็วพี่โจมาตามแล้ว...พี่พีมเดี๋ยวพวกผมขอตัวก่อนนะครับ”
“อืม..เต็มที่นะ”
************************
ตอนหน้าจะให้เป็น ตอนพิเศษมาลงก่อน หรือจะต่อเลย โพสต์บอกกันด้วยนะครับ ..ไปแระ B a l l o o n