โห! ซาดิสท์เหลือหลาย หรือว่าพี่นายชอบเเบบนี้
เเล้วหมอชาลีจะเก็บสารวัตร รึจะโดบเก็บเองเนี่ย
อิ อิ ก็ไม่ถึงขนาดเลือดตกยางออกหรอกครับ แค่ฟกช้ำดำเขียวก็พอ
อืมม มีคนดักคอตอนจบเอาไว้น่ะ เลยต้องขอนั่งคิดเพื่อปรับโครงเรื่องครึ่งหลังหน่อยนะคร้าบ
ขอให้ทุกท่านสุขสันต์และสุขกระสันวันวาเลนไทน์กันถ้วนทั่วนะครับ
คิดสิ่งใดก็ขอให้ได้สิ่งนั้น อยากได้ใครก็ขอให้ได้คนนั้น
(วาเลนไทน์นี้ก็อย่าเสียตัวเพราะความประมาทนะคร้าบบบ
ป.ล. ของขวัญวาเลนไทน์จากผู้เขียน ขอเอาเรื่องกุ๊กกิีกของชายหนุ่มคู่หนึ่งมาแทรกความเครียดๆ ช่วงนี้ของเรื่อง เพลิงรักนะครับ (หวังว่าคงไม่ว่ากันนะว่าผมโพสสะเปะสะปะไม่เข้าหมวดหมู่) --- ก็เพราะผมขี้เกียจไปหาลิงก์ของเรื่่อง เจ้าชู้นักหลอกให้รักซะเลย อ่ะดิ
เจ้าชู้นักหลอกให้รักซะเลย บทพิเศษ (แก้เซ็ง)หลายเดือนหลังจากที่ปลาไหลใส่สเก็ตอย่างธีรดนย์กลายมาเป็นแฟนกับเด็กดื้ออย่างวิธวินท์
ธีรดนย์เดินเข้าไปในสถานีตำรวจและเห็นวิธวินท์นั่งหน้านิ่งเรียบอยู่หน้าโต๊ะของนายร้อยเวรจึงเดินเข้าไปหา วิศวกรหนุ่มหน้าเด็กยังไม่เงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มร่างสูงซึ่งยืนเท้าสะเอวอยู่ข้างๆ จนธีรดนย์พูดขึ้นมาว่า
“จริงๆ เลย ใครบอกให้ขับรถมอเตอร์ไซด์ขึ้นทางด่วน คิดอะไรอยู่ฮึวิธวินท์ ทำอะไรซ่าๆ แบบนี้มันเกินไปแล้วนะ”
“ผมรีบ” วิธวินท์ตอบโดยไม่มองธีรดนย์
“รีบมากจนได้มานั่งสงบสติอยู่ที่โรงพัก เงินเสียค่าปรับก็ไม่มีซักบาท อะไรกัน โตขนาดนี้แล้วยังทำกระเป๋าตังค์หายอีก ” ธีรดนย์พูดแล้วหันไปหาร้อยเวรแล้วบอกว่าเขามาพบรองผู้กำกับสถานีตำรวจทางด่วน 2
วิธวินท์ไม่ตอบโต้ เอาแต่นั่งนิ่ง มือจับป้ายชื่อตั้งโต๊ะของร้อยเวรพลิกไปพลิกมาอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
“รออยู่นี่นะ” ธีรดนย์ก้มลงสั่ง ‘เด็กดื้อ’ “แต่ เอ๊ะ ก็คงต้องรอสินะเพราะไปไหนไม่ได้นี่นา”
ธีรดนย์พูดเสร็จก็เดินตรงเข้าไปยังห้องทำงานของรองผู้กำกับฯ และใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีก็เดินออกมา ร้อยเวรรีบยกมือขึ้นทำความเคารพชายหนุ่มทันทีราวกับเป็นผู้บังคับบัญชาก็ไม่ปานเพราะเมื่อไม่ถึงหนึ่งนาทีที่ผ่านมาท่านรองผู้กำกับฯ โทรศัพท์ออกมาจากห้องทำงานและสั่งการให้ปล่อยตัวผู้กระทำผิดกฎจราจรบนทางด่วน
วิธวินท์ลุกขึ้นทันทีแล้วเดินออกไปยังด้านหน้าของสถานีทำตำรวจเพราะเข้าใจอย่างชัดแจ้งว่าธีรดนย์ ‘จัดการ’ กับปัญหาจนเป็นที่เรียบร้อย
“รีบไปไหนวิธวินท์ หรือรีบพอๆ กับที่ต้องขับรถขึ้นทางด่วน นี่ดีนะผมเส้นใหญ่ ไม่งั้นโดนจับยัดเข้าห้องขังแทนค่าปรับแล้วล่ะ” ธีรดนย์เดินตาม “ขอบใจผมซักคำหน่อยสิ อุตส่าห์มาประกันตัวไ
“ขอบคุณครับ” วิธวินท์หันมาตอบแล้วเดินลงจากบันไดตรงไปยังรถมอเตอร์ไซด์ของตัวเอง
“แค่นี้หรือ” ธีรดนย์ทำเสียงไม่อยากจะเชื่อ
“ที่จริงผมไม่ได้บอกให้คุณมา”
“อายุทธของคุณขอให้ผมมาดู” ธีรดนย์กระแทกเสียงตอบ
“คุณไม่ได้อยากมาเอง”
“ถ้าผมเป็นคนรู้ก่อนคนแรกผมก็จะมาเร็วกว่านี้โดยไม่ต้องให้ใครโทรไปบอก” เสียงของธีรดนย์ห้วนขึ้น “พอมีเรื่อง คุณกลับโทรศัพท์หาคุณอายุทธ ทำไมไม่โทรหาผม รู้ไหมนี่ว่าใคร ผมรู้จักตำรวจ รู้จักคนใหญ่คนโตเยอะแยะ ระดับรัฐมนตรีก็มีนะ ผมแค่เอ่ยปากคำเดียวทุกคนพยักหน้าหมด”
วิธวินท์ไม่ตอบ เดินลิ่วไปยังมอเตอร์ไซด์ BMW สีน้ำเงินของตัวเองแล้วยกหมวกนิรภัยขึ้นกำลังจะสวมแต่ธีรดนย์เอื้อมมือไปดึงหมวกออกมาจากมือของชายหนุ่มขาซิ่ง
“จะไปไหน” ธีรดนย์ถาม
“กลับบ้านสิครับ” วิธวินท์ตอบเสียงราบเรียบ เอียงหน้ามองธีรดนย์ด้วยหางตาแล้วมองตรงไปข้างหน้า
“ทิ้งรถไว้นี่เถอะ ผมจะสั่งให้ตำรวจยกรถกลับให้ กลับกับผมเถอะนะ วันนี้ผมขับรถใหม่มา จากัวร์ SJ600 เชียวนะวิธวินท์ เพิ่งถอยป้ายแดงมาใหม่ๆ เบาะนุ่มมาก เครื่อง 6 ลิตร ในประเทศไทยเพิ่งได้รถมาไม่ถึงห้าคัน โน่นแน่ะ จอดอยู่โน่น เห็นหรือเปล่า” ธีรดนย์ชี้ศีรษะไปยังรถเก่งสปอร์ตคันหรูซึ่งจอดอยู่ไม่ห่าง
“ผมชอบขับมอเตอร์ไซด์” วิธวินท์ยักไหล่
“เราไม่ได้ค้างด้วยกันมาเกือบอาทิตย์แล้วนะวิธวินท์” ธีรดนย์เปลี่ยนน้ำเสียงเมื่อเห็นว่าแฟนหนุ่มขาซิ่งทำเสียงไม่ใส่ใจกับของเล่นชิ้นใหม่ของตัวเอง
“ขอหมวกด้วยครับ” วิธวินท์ยื่นมือออกมา
“ไม่ให้” ธีรดนย์สายหน้า กอดหมวกนิรภัยไว้แนบกับอกแต่พลันก็รีบกระโดดเข้าขวางเพราะอีกฝ่ายที่กำลังนั่งคร่อมอยู่นั้นได้ติดเครื่องเตรียมออกรถ
“วิธวินท์ ยังไม่เข็ดอีกหรือ เพิ่งโดนจับ เดี๋ยวก็โดนจับหน้าโรงพักเพราะขับรถไม่สวมหมวกกันน๊อคอีกหรอก ทำไมดื้อแบบนี้” ธีรดนย์ทำเสียงอ่อนใจ
“หลีกทางด้วยครับ”
“ถ้าไม่หลีกจะชนหรือไง” ธีรดนย์เลิกคิ้ว “เอาสิ จะขับรถชนแฟนก็เอาเลย”
“ผมจะไปรอที่คอนโดคุณ” วิธวินท์พูดด้วยเสียงราบเรียบเช่นเคย ก่อยจะยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ตามไปให้ทันนะครับ ถ้าคุณไปถึงหลังผมเกินห้านาที ผมจะไม่อยู่รอ”
“เอางั้นหรือ อยากแข่งกันนักใช่ไหม จากัวร์ SJ600 เลยนะพ่อลิงน้อย” ธีรดนย์ปรายตาไปมองรถสปอร์ตใหม่เอี่ยมของตัวเองแล้วยื่นหมวกนิรภัยให้วิธวินท์และพูดต่อว่า
“ห้ามหลอกกันนะวิธวินท์ กรุณาอย่าโกหก พูดต้องทำตามที่พูด บอกว่าไปนอนคอนโดผมก็ต้องไปคอนโดผมจริงนะ ห้ามออกนอกเส้นทางเด็ดขาด”
“ผมบอกแล้วไงว่าจะไปรอที่คอนโดคุณ” วิธวินท์พยักหน้าแล้วสวมหมวกนิรภัยจากมือของธีรดนย์
“สัญญาต้องเป็นสัญญานะ” ธีรดนย์ย้ำ
วิธวินท์พยักหน้าอีกครั้งแล้วทะยานรถออกไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ธีรดนย์ยืนมองยิ้มๆ ชั่วอึดใจแล้วรีบวิ่งไปที่รถของตัวเองเพื่อเร่งตามมอเตอร์ไซด์ขาซิ่งให้ทัน
“ที่รัก ขับรถซิ่งแบบนั้นเดี๋ยวก็โดนตำรวจจับข้อหาขับรถเร็วหรอก” ธีรดนย์กดปุ่มเพื่อนเข้าเกียร์รถเก๋งคันงามแล้วพุ่งรถตามคนรักไป มือขวาซ้ายบังคับพวงมาลัยอย่างคล่องแคล่ว มือขวากดปุ่มโทรศัพท์เพื่อโทรหาใครบางคนซึ่งรู้จักเขาดีเพราะเขาเป็นคนที่ 'กว้างขวาง' ไม่ใช่น้อย
“วิธวินท์จ๋า แล้วเจอกันนะจ๊ะ ดื้อๆ อย่างคุณก็ต้องเจอแบบนี้ล่ะ รู้จักธีรดนย์น้อยไปซะแล้ว ยังไงๆ ผมก็ถึงก่อนอยู่แล๊ว” ธีรดนย์พูดและหัวเราะอยู่คนเดียว
****จบตอนพิเศษแก้เซ็ง****
ง๊ง งง ทำไมเขียนเรื่องที่พระเอกเจ้าชู้กะล่อนได้ง่ายจังอ่ะ เรื่องเพลิงรักนี่เขียนย๊ากยาก
(รู้อยู่นะ ว่ามีบางคนจะเข้ามาตอบกระกระเทียบ) 555
Hapปี้ วาเลนไทน์ คร้าบบบ