[27]
“มึงใจเย็นสิวะ”
“กูไม่เย็น กูจะคุยกับน้ำให้รู้เรื่อง”
หลังจากที่ไอ้ดินลากผมลงมาที่รถได้แล้ว ผมก็ยังโวยวายต่อไม่หยุด
“คุยกันตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์หรอกวะ”
“แล้วไม่คุยตอนนี้ น้ำจะกลับมาหากูไหมหละ”
“เรื่องนี้มึงก่อเองนะไอ้ดิน โทษใครไม่ได้หรอก”
ผมหันไปมองหน้าไอ้กัน ก็ที่กูต้องเป็นคนบ้าแบบนี้เพราะใครหละ
“ไอ้กันมึงก็รู้ว่ากูชอบน้ำ แต่มึงยังแอบมีอะไรกัน แบบนี้มึงยังเป็นเพื่อนกูหรือเปล่า”
“น้ำก็ด้วย ปากก็บอกว่ารักกู แต่ทำไมถึงยอมมีอะไรกับมึงง่ายๆ”
“มึงจะให้กูรู้สึกยังไง ทั้งเพื่อนทั้งคนที่ชอบหักหลังกู”
ผมเริ่มพูดถึงความรู้สึกของผมหลังจากเห็นภาพวันนั้น
“ทีมึงยังมีอะไรกับคนอื่นไปทั่ว ไม่คิดว่ามึงหักหลังต้นบ้างหรือไง”
“กูไม่เคยมีอะไรกับคนพวกนั้น มันก็แค่คู่ควงชั่วคราว”
“แล้วกูจะเชื่อมึงได้ยังไง”
ผมเริ่มหงุดหงิดกับท่าทางเรียบเฉยของไอ้กัน
“มันคือความจริง!!!” ผมตะโกนออกไป ใส่หน้าไอ้กัน
“มึงบอกว่ามึงไม่เคยมีอะไรกับใคร แต่สิ่งที่คนอื่นเห็น มันไม่ใช่แบบนั้น” ไอ้กันเริ่มพูด หลังจากพวกผมเงียบกันไปสักพัก
“ใครจะคิดไงก็เรื่องของพวกนั้น ความจริงก้คือกูไม่เคยมีอะไรกับใคร”
“ทีมึงพูดกูกับต้นต้องเชื่อ แต่พอกูหรือต้นอธิบายว่าพวกกูไม่เคยเป็นอะไรกันมากกว่าพี่น้อง ทำไมมึงไม่เชื่อบ้าง”
ผมกำลังจะอ้าปากพูด แต่ก็ถูกไอ้กันขัดไว้ก่อน
“คืนนั้นต้นนอนกอดกูก็จริง แต่มันไม่มีอะไรมากกว่านั้น”
“และที่สำคัญที่สุด ต้นคิดว่ากูเป็นมึง ต้นถึงกอดกู ไม่ใช่เพราะต้นอยากมีอะไรกับกู”
ผมเริ่มนิ่งฟังเรื่องของน้ำ ก่อนหน้านี้ผมยอมรับว่าผมวู่วามเกินไป
ผมยืนยันว่าผมไม่มีอะไรกับผู้หญิงเหล่านั้น เพราะมันคือความจริง
แต่ทำไมพอน้ำมาอธิบายว่าไม่มีอะไรกับไอ้กัน ผมถึงไม่เชื่อหละ
พอเจอเหตุการณ์เข้าใจผิดกับตัวเอง ถึงได้เข้าใจน้ำ
น้ำไม่เคยมีอะไรกับไอ้กัน............ผมมันบ้าไปเองคนเดียว
“แล้วมึงรู้ได้ยังไงว่าน้ำคิดว่ามึงเป็นกู”
ผมเริ่มถามด้วยเสียงอ่อยๆ
“พี่ดิน น้ำรักพี่ดินนะครับ” คำพูดของไอ้กันที่มันกระซิบบอกผม
ทำให้ผมรู้สึกชาไปทั้งตัว นี่ผมทำอะไรลงไปเนี่ย
ผมไม่ไว้ใจน้ำ ถึงขั้นใช้คำพูดร้ายๆว่ากล่าวน้ำตลอด
เพราะความคิดไปเองของผมงั้นหรอ
เมื่อมาเข้าใจตอนนี้ มันยังทันอยู่ไหมน้ำ
ยังทันที่พี่ดินจะกลับมาให้น้ำรักอีกไหม
---น้ำครับ พี่ดินขอโทษ....................---