ตอนพิเศษ11 Wonderful Tonight..
ตกเวลาประมาณหลังเที่ยงกูไปรับสลิ่มที่มหาลัย และไปรับองุ่นที่เรียนพิเศษพร้อมกัน ไอ้มิ้วค์ไปรอกับองุ่นที่โรงเรียนแล้วเรียบร้อย มันโทรมาขอสลิ่มแบบกะทันหัน สลิ่มเลยต้องอนุญาตให้ไอ้มิ้วค์ไปด้วย วันนี้ต้องไปซ้อมดนตรีที่บ้านของไอ้ติสเหมือนเดิมเพราะ..ประหยัด
“อ่าวหวัดดีเฮีย”
“โห หวัดดีพี่ทิด” พวกมันโวยวายทักกูกันยกใหญ่ มีหลายคนที่กูเคยเห็นหน้าและไม่เคยเห็นหน้า ทุกคนต่างมองมาที่กูและไอ้มิ้วค์
“กร๊าก สไตล์ใหม่ เป็นเจสซีไงเฮีย ปืช..โย่ว” ไอ้วิทย์ทำท่าทำทางแร็พใส่กูแถมยังหยิบหมวกที่หัวกูไปใส่ที่หัวมันซะงั้น
“ลามปาม” กูตบหัวมันเบาๆแต่ไม่ได้แย่งหมวกคืนมา
“หวัดดีครับองุ่น” ไอ้เจ๋งยิ้มหวานหยาดเยิ้มทัก
“หวัดดีค่ะพี่เจ๋ง” นี่ไม่ใช่เสียงองุ่นแต่อย่างใด สลิ่มยืนซ้อนน้องสาวตัวเองพร้อมกับเลียนเสียงตอบแทนเรียบร้อย
“K” ไอ้เจ๋งด่า คนอื่นยืนขำ
“ไปซ้อมเลยไอ้เหี้ย ใครอนุญาตให้มึงหม้อน้องกู” สลิ่มเข้าไปลากคอเพื่อนตัวเองเข้าไป
“องุ่น..มานี่ ห้ามห่างพี่เกินหนึ่งเมตร ไว้ใจใครไม่ได้ทั้งนั้น..เข้าใจไหม” สลิ่มทำหน้าตาจริงจัง
“โหหหห..” พวกมันโห่
“ได้ข่าวว่าน้องมึงมีแฟนมาด้วยนี่หว่า ก็ให้แฟนน้องมึงดูแลไปดิวะ” ไอ้ติสเล่นดอกใหญ่ กูยักคิ้วตอบให้ไอ้ติสอย่างพอใจ
“.....................” สลิ่มหันมาค้อนไอ้มิ้วค์ที่ยืนอยู่ข้างๆกู
“แฮะๆ” ไอ้มิ้วค์ยิ้ม มันเอามือลูบท้ายทอยตัวเองด้วยอาการเขิน
“เขินเหี้ยไร” สลิ่มว่า ไอ้มิ้วค์หุบปากลง
“พี่อ่ะ” องุ่นปรามพี่ชายตัวเอง
“พี่เชนมาแล้ว” ไอ้เวพูด กูหันไปมองรถเบนซ์ที่เพิ่งขับเข้ามาในบ้านของไอ้ติส
“.....................” สลิ่ม ไอ้เขต ไอ้วิทย์และไอ้เวหันมาจ้องหน้ากูเขม็ง กูยืนนิ่งจนไอ้เชนเดินลงมาจากรถ มันต้องผ่านกูไปก่อนถึงจะเดินเข้าไปในตัวบ้านได้
“.....................” ไอ้เชนหันมามองหน้ากู กูเลิกคิ้วมองตอบทั้งๆที่ตอนนี้กูแทบไม่มีคิ้วจะไปกวนตีนมัน =_=
“ซ้อม” ไอ้เชนพูดลอยๆเหมือนสั่ง
“ถุ้ย” กูสบถแกมขำ
“เฮีย” ไอ้เขตเข้ามาห้ามกู เพราะหลังจากที่กูทำเสียงแบบนั้นไปทุกคนก็เงียบลงในทันที
“เออ กูรู้น่า” กูบอกมัน
“ค้าบ” ไอ้เขตตอบเสียงยานคาง
“มาแล้ว ลูกคุณหนู” ไอ้เขตพูดพร้อมกับเหลือบมองไปที่หน้าบ้าน กูหันไปมองเห็นไอ้เชลโลมาพร้อมกับเชลโลของมัน
“หวัดดีครับ” มันยกมือไหว้มือเดียวเพราะอีกมือไม่สามารถยกได้เพราะถือเชลโลอยู่
“แม่ไม่มาเฝ้าเหรอวะ” ไอ้เขตแซว
“พี่ก็..” เชลโลตอบเขินๆ พวกมันพากันเดินเข้าบ้านไป มีบางส่วนที่นั่งอยู่บนรถมอเตอร์ไซด์ของตัวเอง สายตาทั้งกูและไอ้มิ้วค์สำรวจรถมอเตอร์ไซด์ทุกคันอย่างสแกน
“กูขอร้อง..” สลิ่มเดินมาหากู กูเหลือบกลับมาสนใจที่สลิ่มอีกครั้ง
“มึงอย่าปากหมาได้ไหม” มันพูดคิ้วขมวด
“.....................” กูหันหน้ามองไปทางอื่น
“เมตร” มันย้ำเสียง
“เออๆ” กูตอบส่งๆ เดินนำเข้าบ้านมา ไอ้มิ้วค์เดินตามตูดกูเข้ามาด้วย กูเดินไปนั่งที่โซฟา ไอ้เชนนั่งอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือ
“วงติสก่อนเลย” มันบอกทุกคน พวกไอ้ติสประจำเครื่องดนตรีของตัวเองและซ้อมกันไป ผิดบ้างดีบ้างทำให้เสียเวลาแก้โน้ตกันยกใหญ่ กว่าที่วงสลิ่มจะได้ซ้อมกูกับไอ้มิ้วค์นั่งรออยู่เกือบสองชั่วโมง ส่วนองุ่นเข้าไปวอร์มเสียงกับสลิ่มอีกห้องหนึ่ง
“เบื่อไหม” กูถามไอ้มิ้วค์
“ไม่” มันรีบส่ายหัว
“แปลกดี ไม่เคยดูใกล้ๆ” มันบอก
“หึ..” กูหัวเราะเอาแขนพาดไปบนไหล่ของมัน ไอ้มิ้วค์ไม่ค่อยไปไหนมาไหนอยู่แล้ว เรียนอย่างเดียว ส่วนเรื่องงานอดิเรกก็ขลุกอยู่กับรถเก่านี่แหละ เพื่อนที่แก๊งรถเก่าของมันก็มีเรียนบ้างเหี้ยบ้างปนกันไป แต่ส่วนมากไอ้มิ้วค์จะนั่งดูอย่างเงียบๆไม่เคยไปสุงสิงมากอยู่แล้ว มันไม่ค่อยตามเพื่อนเท่าไหร่ กูก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะกูสงสารพ่อแม่กูน่ะนะ
“เพลงไรก่อน” ไอ้เชนถามสลิ่มที่เดินกลับเข้ามาที่ห้องซ้อมดนตรี
“เท็ดดี้ อีฟยูเวิร์ด แล้วก็ร็อคแอนโรล” สลิ่มตอบ
“โอเค ตามนั้นแล้วกัน..ซ้อมตามนี้ทุกวันนะ เรียงตามเพลงที่ต้องขึ้นเวที สองวันสุดท้ายพี่จะให้ครูที่โรงเรียนมาดูให้แล้วกัน พี่นัดไว้แล้ว” ไอ้เชนบอก พวกมันพยักหน้าตอบ
“หรือว่าจะไปซ้อมที่โรงเรียนก็ได้ น้องๆมันจะได้เห็นด้วย..เอาไง” ไอ้เชนถาม ทุกคนเงียบเหลือบตามองกันและกัน
“ที่โรงเรียนก็ได้ ไม่ได้กลับไปนานละ” สลิ่มตอบ
“โอเค..” ไอ้เชนพยักหน้า มันเหลือบมามองกูหน่อยนึง กูหลบสายตามองไปทางอื่นเพราะไม่อยากมีเรื่องอย่างที่สลิ่มขอไว้
พวกสลิ่มเตรียมเครื่องดนตรีของตัวเอง ไอ้วิทย์ใช้กีตาร์ตัวใหม่ที่มันเพิ่งถอยมาเมื่อต้นเดือน Gibson ตัวละสี่แสนกว่า ไอ้เขตเบสตัวใหม่ที่เพิ่งซื้อมาเมื่อต้นปี ส่วนสลิ่มกีตาร์ตัวใหม่ใสแจ๋ว Martin สองแสนกว่าที่น้ามันเพิ่งสั่งซื้อมาให้จากอังกฤษ น้าของสลิ่มบินมาตอนกลางเดือนพฤษภาคมแต่ไม่ได้เจอกับสลิ่มเพราะสลิ่มไปจีนนั่นแหละ ขนาดไม้กลองของไอ้เวยังใหม่ เห็นว่าไอ้วิทย์เป็นคนสั่งซื้อให้พิเศษ กูคาดว่ามันคงไม่ใช่แค่ไปเล่นดนตรีกันแล้วแหละ พวกมันคงกะเอาเครื่องดนตรีคู่ใจไปทับกันเต็มที่กันเลยทีเดียว
“กูหมันไส้กีตาร์ไอ้เหี้ยวิทย์ฉิบหาย ถุ้ย..ไอ้เหี้ย!!” ไอ้เจ๋งสะบัดหัวไปมาอย่างกวนตีน พวกมันหัวเราะกันยกใหญ่โดยเฉพาะเจ้าของกีตาร์ พอไอ้เวให้สัญญาณกลองพวกมันเริ่มบรรเลงดนตรีในทันที การซ้อมของพวกมันครั้งนี้ดูจะหนักแน่นกว่าทุกๆครั้ง เหมือนปล่อยความดิบเถื่อนบนตัวพวกมันออกมาค่อนข้างชัดเจน พวกมันต้องเริ่มจริงจังตั้งแต่การซ้อมวันนี้เพราะอีกไม่กี่อาทิตย์ก็จะบินไปสิงค์โปรแล้ว ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่การไปโชว์แต่ดูเหมือนทุกคนต่างก็รู้ว่าแต่ละวงไปโดยผ่านการซ้อมอย่างหนักมาแล้วด้วยกันทั้งนั้น
“.....................” ไอ้เชนให้สัญญาณว่าให้พวกมันหยุดเล่น พวกสลิ่มงง
“วิทย์..ก่อนห้องสุดท้ายพี่ขอแบบโอเวอะไดร์ฟเลย สลิ่มด้วย”
“ก่อนเข้าห้องสุดท้าย จบด้วยวิทย์ ขึ้นด้วยวิทย์..เวฟังวิทย์อย่างเดียวเลยนะครับ” ไอ้เชนสั่ง ทั้งสองคนพยักหน้ารับ กูอดนึกไม่ได้ว่า..หน้าอย่างไอ้เหี้ยนี่ก็ทำหน้าตาเป็นงานเป็นการก็เป็นกับเค้าด้วย นึกว่ากวนส้นตีนกูเป็นได้อย่างเดียว
“เวลาที่เปลี่ยนเพลงให้ฟังกลองอย่างเดียว เวต่อเลยทันทีนะ ไม่มีการพูดหรืออะไรทั้งนั้น..เวลามีจำกัด”
“ครับ” พวกมันพยักหน้ารับรู้
“โอเค..เริ่มใหม่” ไอ้เชนสั่ง เพลงที่วงสลิ่มต้องไปเล่นที่สิงค์โปรซ้อมกินเวลาไปชั่วโมงกว่าๆ ต่อด้วยเพลงอคูสติกที่เชลโลได้เล่นร่วมด้วย และการซ้อมสำหรับที่ต้องไปเล่นที่สิงค์โปรจบแค่นั้น การซ้อมต่อไปเป็นแบบอคูสติกเหมือนกัน อันนี้ต้องอัดเทปจริงในวันจันทร์ที่บ้านสลิ่มเพื่อส่งเทปเข้าประกวดเพื่อไอ้วิทย์ นี่เป็นงานที่ไอ้วิทย์จะได้ทำผลงาน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นคะแนนในวิชาดนตรีที่มันจะได้รับด้วย อคูสติกที่ต้องอัดเทปในวันจันทร์มีองุ่นและเชลโลมาร่วมด้วยเหมือนกัน เห็นสลิ่มมันเล่าไว้อย่างนั้นนะ..
“องุ่น..ขอสายเอหน่อย” เชลโลบอกองุ่น เห็นว่าสองคนนี้อายุเท่ากันรึไงนี่แหละ ส่วนไอ้เขตเป็นรุ่นพี่มันปีเดียว กูนั่งมองทั้งสองคนที่สื่อสารกันเฉพาะดนตรีคลาสสิก ส่วนไอ้สามสี่ตัวที่เหลือกำลังขลุกอยู่กับการพูดคุยเกี่ยวกับเครื่องดนตรีของพวกมัน องุ่นเล่นไวโอลินสายเอ ส่วนไอ้เชลโลก็สีในสายเดียวกัน
“Bread and Butter เชลโล ไวโอลิน คาฮอง กีตาร์สอง” สลิ่มนับเครื่องดนตรี กูนั่งมองหน้าตาที่เคร่งเครียดของมัน
“ดีสเวิร์ด..เชลโล อิเล็กโทน กีตาร์ คาฮอง เบส”
“Ain’t no sunshine” ทุกคนยืนมองสลิ่มเป็นตาเดียว
“เบสไอ้เขต กีตาร์ไอ้วิทย์ อิเล็กโทนกู องุ่น เชลโล คาฮอง..จบ เคลียร์!” มันกระแทกเสียงเมื่อมันเคลียร์กับความคิดของมันเรียบร้อยแล้ว
“ฮ่าๆๆๆ เหี้ย..ตกลงงานใคร” ไอ้ติสหลุดขำ
“กูก็ว่า” สลิ่มส่ายหัว ไอ้เชลโลกับองุ่นตั้งสายเครื่องดนตรีของตัวเอง พวกไอ้เขตหยิบเก้าอี้มาเรียงหน้ากระดานเพื่อจัดให้นั่งในแบบที่มันต้องการ
“ฮื้อ..” องุ่นคิ้วขมวดมองไปที่เชลโลที่สีเชลโลอยู่ ไอ้เชลโลยังไม่หยุดสีแต่มันกลับเงยหน้ามององุ่น
“ฮึ..” ไอ้เชลโลทำเสียงและเลิกคิ้วมององุ่น กูนั่งมองสองคนอย่างงงๆว่าทั้งสองคนทำหน้าและทำน้ำเสียงแปลกใจแบบนั้นทำไม
“อ๋อ” ไอ้เชลโลทำหน้านึกขึ้นได้ องุ่นขำออกมา
“ตัวเองเล่นทีอยู่แท้ๆ ยังมามองหน้าเราอีกอ่ะ” องุ่นพูดยิ้ม ไอ้เชลโลยิ้มเขิน
“ลืม..แล้วก็ไม่บอกล่ะ ลาชาร์ฟก็ไม่บอก ก็ว่าทำไมเสียงมันแปลกๆ” ไอ้เชลโลว่า กูว่าเมื่อกี้ไอ้เชลโลคงเล่นผิดโน้ตละมั้งทั้งสองคนถึงได้ทำหน้าแปลกใจกันแบบนั้น กูหันไปมองไอ้มิ้วค์ มันนั่งหน้าเครียดมองเชลโลและองุ่นอยู่
“หึงเหรอมึง” กูกระซิบแกล้ง
“บ้า” แหม..ตอบได้ขัดกับหน้าตามึงมากนะ
“เฮ้ย!” พวกกูหันไปมองตามเสียงกันเป็นตาเดียว ไอ้ติสทำตาเหลือกไปมาส่งสัญญาณไปทางนอกห้อง
“........................” ทั้งวงของสลิ่มและวงของไอ้ติสเองเบิกตาโพรงเหมือนเข้าใจว่าไอ้ติสกำลังส่งสัญญาณบอกอะไร
“หวัดดีค่ะพี่ๆ” ผู้หญิงแต่งตัวเปรี้ยวจัดคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับผู้หญิงอีกสองคน
“หวัดดีจ้ะ” ไอ้เจ๋งยิ้ม กูหันไปมองพวกสลิ่ม มันรวมตัวกันหันไปมองหน้าไอ้วิทย์ ไอ้วิทย์ยิ้มแหยเกาหัวตัวเองเหมือนทำตัวไม่ถูก ซึ่งกูพอจะเดาออกว่าผู้หญิงพวกนี้น่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับไอ้วิทย์แน่ๆ
“เอ่อ..” สลิ่มหันมาทางโซฟาที่มีทั้งกู ไอ้มิ้วค์ พวกไอ้เจ๋งและผู้หญิงที่เพิ่งเข้ามาเมื่อกี้นั่งอยู่
“คือ..น้องแอมครับ พอดีพวกพี่กำลังซ้อมกันอยู่น่ะ พวกพี่ต้องการความเป็นส่วนตัว” สลิ่มพูดบอกด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง นี่เป็นคำขอร้องหรือประโยคบอกเล่าหรืออะไรไม่รู้ แต่ที่รู้ๆคือผู้หญิงพวกนี้หน้าเสียทันที
“ต้องขอโทษด้วย รบกวนพวกน้องๆไปรอที่อื่นก่อนได้ไหมครับ” สลิ่มบอกแถมผายมือไปที่ประตูห้องอีก กูเห็นไอ้ติสนั่งกลั้นขำเต็มที่ เจ้าของห้องได้แต่นั่งกลั้นขำ ทำให้กูเองก็จะขำตามไปด้วยน่ะสิ
“ค่ะ” ผู้หญิงคนหนึ่งตอบ เธอเดินออกจากห้องไปพร้อมกัน
“.......................” ทุกคนเงียบมองหน้ากัน และพวกมันก็พร้อมใจกันถอนหายใจ
“ขอบอกเลยว่า กูไม่รู้เรื่อง” ไอ้วิทย์ยกมือขึ้นเหมือนต้องการยืนยันว่ามันไม่ผิด
“ไม่รู้ เด็กมึง..ไม่ใช่เด็กกู” สลิ่มยักไหล่
“อ่าวไอ้เหี้ย” ไอ้วิทย์ว่าหน้าเสีย มันหันไปมองหน้าไอ้เว ไอ้เวเอาแต่ตีกลองคาฮองไม่สนใจมัน
“เมื่อวานน้องมันเจอกู แล้วถามว่ามึงจะมาไหม..กูบอกว่ามา น้องมันเลยขอมาดูน่ะ กูจะห้ามก็ยังไงอยู่..มึงก็รู้ว่ากูไม่มีเทคนิคในการปฏิเสธหญิงสวยๆ หึ..ก็เลยปล่อยให้มา เพราะกูรู้อยู่ละว่าไอ้เหี้ยหลิ่มต้องไล่ ฮ่าๆๆ” ไอ้เจ๋งเล่าด้วยความภูมิใจ
“ไม่ได้ยุ่งตั้งนานแล้วด้วย” ไอ้วิทย์พูดเสียงห้วนเหมือนเป็นประโยคที่ต้องการจะฟ้องบอกทุกคน
“หึหึ” สลิ่ม ไอ้เขต ไอ้ติสหัวเราะพร้อมกัน
“ไอ้เว” สลิ่มเรียก
“หื้อ” ไอ้เวเงยหน้ามองสลิ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“หันไปมองหน้ามันหน่อยเหอะ เดี๋ยวมันเล่นผิดบ่อยๆ กูคนร้อง..กูเจ็บคอ” สลิ่มพูดอมยิ้ม ไอ้วิทย์ยิ้มแหยๆให้ไอ้เวเหมือนจะยิ้มก็ไม่สามารถยิ้มได้เต็มที่เท่าไหร่
“.......................” ไอ้เวจ้องหน้าไอ้วิทย์เขม็ง
“เชื่อก็ได้” ไอ้เวบอก
“ครับ” ไอ้วิทย์ตอบ มันยิ้มน้อยๆ
“ประโยคมันสั้น แต่ทำไมกูรู้สึกอยากจะอ้วก” มือกลองวงไอ้เจ๋งว่าทำเอาพวกกูหัวเราะพร้อมกัน
“โอเค..เริ่มด้วยเบรด แอน บัตเตอร์ ต่อด้วยดีสเวิร์ด จบด้วยแอ้นโนว ซันชาย” สลิ่มบอก
“เล่นไปเรื่อยๆละกัน ผิดก็ข้ามไป” ไอ้วิทย์บอก
“เอิ่ม..” ไอ้เชลโลชูมือขึ้น
“โล่ไปคิดโน้ตมาใหม่” มันพูดอย่างกล้าๆกลัวๆ
“.......................” ทั้งวงจ้องหน้ามันเขม็ง สายตาที่กระทั่งกูยังอ่านไม่ออกว่าพวกมันมองเชลโลด้วยความรู้สึกยังไง
“เอ่อ..ไม่เป็นไร เอาโน้ตเก่าก็ได้ครับ คือตรงนี้มันเหมาะกับการขึ้นอินโทร ซึ่งผมไม่ได้กะจะเอาผมเด่นนะ..แต่มันก็สวยดีก็เลย เอ่อ..อยาก จะ เล่น นิดหน่อย ก็ได้..แต่ถ้า ไม่ได้ ก็..เอ่อ” ไอ้เชลโลพูดตะกุกตะกักพร้อมกับหลบสายตาของทุกคนในวง
“พวกกูว่าอะไรมึงรึไง” ไอ้วิทย์หัวเราะ
“ก็..”
“เพลงไร เล่นให้ดูดิ” ไอ้วิทย์สั่ง
“ครับผม” ไอ้เชลโลยิ้มกว้างทันที ไอ้เชลโลเล่นเพลงที่มันบอกว่ามันไปคิดโน้ตมาใหม่ให้ทุกคนได้ฟัง และทุกคนในวงก็ชอบ ไอ้วิทย์เป็นคนจับโน้ตนี้เข้าใส่ในอินโทรเพลง This World ที่องุ่นจะต้องร้อง ซึ่งดูเหมือนไอ้เชลโลก็จะพอใจ ทุกคนก็ด้วยเหมือนกัน..
หลังจากนั้นพวกมันเริ่มซ้อมเพลงทั้งหมดที่ต้องเล่นในวันจันทร์ ไอ้เวเริ่มอินโทรด้วยกลองประจำกาย ต่อด้วยไอ้เชลโล ไวโอลินขององุ่นที่บรรเลงอินโทรไปได้สองสามห้อง ดนตรีตัวอื่นๆก็เล่นไปตามทำนอง พวกมันเล่นเพลงที่ว่าไปอย่างละสองสามรอบจนเป็นที่หน้าพอใจ มีแก้โน้ตเพลงและเปลี่ยนทำนองกันนิดหน่อยแต่ทุกอย่างก็เป็นไปได้ด้วยดี..
....................
....................
หลังจากที่ซ้อมดนตรีเสร็จ กู ไอ้มิ้วค์ สลิ่มและองุ่นพากันมาที่ร้านเค้กที่สลิ่มสั่งไว้สำหรับงานวันเกิดของแม่มันในวันพรุ่งนี้
“กินไรดี” สลิ่มถาม
“องุ่นอยากกินอะไร” มันหันไปถามน้องสาวตัวเอง ไอ้มิ้วค์ยืนมององุ่นตาปริบๆ
“พี่มิ้วค์กับพี่เมตรอยากกินอะไรคะ” องุ่นยิ้มถาม กูกับไอ้มิ้วค์ยิ้มแหยตอบเมื่อโดนสายตาสลิ่มหันมามองพิฆาตใส่
“อะไรก็ได้ครับ” กูตอบแทนไอ้มิ้วค์
“องุ่นอยากกินราเม็ง แซลมอนด้วย” องุ่นยิ้ม
“งั้นกินโออิชินะ” สลิ่มสรุป
“อืม” กูพยักหน้า
“ครับ” ไอ้มิ้วค์ยิ้มตอบ พวกกูพากันไปที่ร้านโออิชิ กูกับไอ้มิ้วค์นั่งด้วยกัน ส่วนสลิ่มกับองุ่นนั่งตรงข้าม ซึ่งกูนั่งตรงกับน้ององุ่น ส่วนไอ้มิ้วค์นั่งตรงกับพี่เมียในอนาคตของมัน
“พรุ่งนี้พี่เมตรก็ไปด้วยกันนะคะ แม่ก็คงอยากจะเจอเหมือนกัน พี่ๆทุกคนไปกันหมดเลย เราจองโต๊ะใหญ่ไว้หลายโต๊ะอ่ะค่ะ” องุ่นบอก
“พี่คนนอก มันจะดีเหรอ”
“ดีสิ..นะพี่สลิ่ม ให้พี่เมตรกับพี่มิ้วค์ไปด้วยนะ” องุ่นหันไปจับแขนพี่ชายตัวเองอย่างขอร้อง
“......................” สลิ่มเงียบ หันไปมองทางอื่น
“องุ่น” ไอ้มิ้วค์เรียกเสียงเบา องุ่นหันมาขยิบตาให้ไอ้มิ้วค์เหมือนบอกให้มันหยุดพูด
“พี่สลิ่มมมมมมม” องุ่นเอาหัวไปซบไหล่พี่ชายตัวเอง
“อืมๆ” สลิ่มพยักหน้าส่งๆ
“เย้..อย่าลืมชวนพี่โมทไปด้วยกันนะคะ”
“ไปแน่นอนอยู่แล้ว ไอ้โมทก็คงอยากเจอแฟนน้องชายตัวเองชัดๆ..อีกครั้ง” กูยิ้ม
“.......................” สลิ่มหันมามองค้อนกู กูยักคิ้วตอบให้ องุ่นนั่งเขินหน้าแดง
“วันหลัง..ไปดูหนังกับพี่นะ ไว้พี่จะไปรับ” กูเท้าแขนลงบนโต๊ะ
“ค่ะ” องุ่นพยักหน้าทันที
“ไม่ได้” สลิ่มว่าเสียงดัง
“ไม่ได้รับอนุญาต ใครก็ห้ามไปไหนทั้งนั้น..มึงด้วย หุบปากไปเลย” มันว่ากู
“อะไร พูดไม่เพราะเลยนะครับ” กูกวนมัน เพราะสลิ่มเคยบอกกูว่ามันไม่ชอบให้เพื่อนๆมันพูดไม่เพราะต่อหน้าองุ่น เพราะมันเองจะพูดเพราะกับน้องสาวของมันตลอด ซึ่งกลายเป็นว่าเพื่อนๆจะรู้ดีเมื่อเวลาที่มีองุ่นอยู่ด้วย พวกมันจะพยายามไม่พูดเรื่องใต้สะดือมากนัก