มาตามสัญญา.....
เสียงเพลงคลอเบาๆ ขับให้บรรยากาศในร้านนุ่มนวลมากขึ้น แสงไฟสลัวๆ ยิ่งทำให้โรแมนติก แต่ทั้งหมดไม่เท่ากับฝ่ามือที่แอบกุมกันอยู่ใต้โต๊ะ และนั่นคงวิเศษมากถ้าทั้งหมดนั่นกำลังเกิดขึ้นกับผม เพราะไอ้ที่กำลังเกิดขึ้นจริงๆ คือผมกำลังนั่งอยู่ในร้านอาหารตามสั่งข้างหอพัก มีไม่มีเสียงขับบรรยากาศมีเพียงเสียงตะหลิวกับเสียงตะโกนสั่งอาหาร ส่วนฝ่ามือที่แอบกุมกันนั้นยิ่งแล้วใหญ่เพราะผมกำลังนั่งคนเดียว
วัน นั้นที่แมนหนีไปเตะบอลกับเพื่อนผมโมโหมาก แต่ก็เหมือนทุกครั้ง แมนกลับมาถึงห้องก็ขอโทษพร้อมกับให้สัญญาว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก รุ่งขึ้นก็ทำตัวดี ออกไปซื้อข้าวมารอผมตื่น จัดห้อง ซักผ้า ล้างห้องน้ำโดยที่ผมไม่ต้องบอก พร้อมชวนผมออกไปเช่าหนังกลับมาดูสองคน หลังจากนั้นแมนก็แทบไม่ได้ออกไปทำกิจกรรมอะไรกับเพื่อนอีก แต่...ไม่ใช่เพราะสำนึกหรอกนะ เป็นเพราะเรากำลังจะสอบต่างหาก พอสอบเสร็จทุกอย่างก็กลับมาอีหรอบเดิม และหนักกว่าเดิมด้วยเพราะปิดเทอมย่อยมักไม่ค่อยมีใครกลับบ้าน เวลาแสนสนุกของเขาล่ะ
“ไง”เสียงทักมาพร้อมกับเสียงเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ผมเงยหน้าจากจานข้าวผัดที่กำลังเขี่ยอยู่ก็พบเพื่อนสนิทที่ไม่ค่อยได้เจอกัน
“มาทำไรวะ”ที่ถามอย่างนี้เพราะรู้ว่ามันไม่ได้อยู่หอ
“รับ เพื่อนไปกินเที่ยว ไปด้วยกันมั้ยเป้”ความจริงแล้วผมกับน็อตเป็นเพื่อนตอนเรียนมัธยม อยู่ห้องเดียวกันแต่ไม่ใช่กลุ่มเดียวกัน ถึงอย่างนั้นเราก็ยังสนิทกันจากกิจกรรมต่างๆ
“เที่ยวไร ไม่ไปหรอก”
“วันเกิดกู ไปเหอะ เลี้ยง”
“แฮปปี้ๆ แต่ไม่ไปว่ะ”ผมเอื้อมมือไปตบไหล่มันเบาๆ พร้อมส่งยิ้มแทนของขวัญที่ไม่มีให้
“ป้า เก็บตังค์!”ไอ้น็อตตะโกนจบก็วางเงินของตัวเองแล้วคว้าแขนผมเดินออกนอกร้าน ยัดผมใส่รถมันแล้วขับออกมา มันขับไปรับเพื่อนอีกสองคน จากนั้นก็ขับเรื่อยๆ จนมาถึง...บ้านมัน และเพื่อนบางส่วนอยู่ที่นี่แล้ว บางคนผมรู้จักอยู่แล้ว ส่วนคนที่ไม่รู้จักก็พอจะเนียนตีซี้ไปได้
“ไงวะมึง สนุกจนลืมเจ้าของบ้านเลยรึไง”น็อตเดินมานั่งข้างผมหลังจากที่มันขลุกอยู่ใน วงไพ่ ส่วนผมยังนั่งดื่มเหล้ากับเพื่อนบางคนที่ไม่สนใจร้องคาราโอเกะหรือไพ่
“เสือก”ปากผมมันขยับไปเอง แต่คงไม่แปลกเพราะตอนนี้ก็ตีสองแล้ว และผมนั่งดื่มอย่างเดียวตั้งแต่สี่ทุ่ม
“เชี่ยนี่เมาแล้วปากหมาไม่เปลี่ยน ง่วงก็ไปนอนห้องกูได้นะเว้ย”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูเรียกแท็กซี่กลับได้”ผมส่งข้อความไปบอกแมนแล้วว่ามางานวันเกิดเพื่อน แต่...ไม่ได้บอกว่าจะกลับหรือค้าง
“ไส หัวขึ้นห้องไปเลย นั่งไม่ตรงกระแดะจะกลับคนเดียว”ไอ้น็อตผลักหัวผมนิดเดียวแต่ผมแทบฟุบลงไป หมอบกับพื้น ถึงจะพูดคุยรู้เรื่องแต่บังคับร่างกายตัวเองไม่ค่อยได้แฮะ
“ลุก เลยมึง เดี๋ยวกูพาไปนอน พวกมึงกลับไม่ไหวก็หาที่นอนกันเองนะเว้ย ห้องพ่อแม่กับพี่กูห้ามนอน นอกนั้นได้หมด”น็อตหิ้วปีกผมพาขึ้นชั้นบนแล้วตรงเข้าห้องนอนมัน ผมรีบตรงดิ่งไปที่เตียงอย่างไม่รักษามารยาท
“อาบน้ำก่อนมั้ยมึง”
“ฮื้ออ”มันเขย่าตัวผมแต่ผมพลิกหนี
“เป็นห่าอะไรวะ กูไม่เคยเห็นมึงเมาขนาดนี้เลย นั่งกอดขวดเหล้าจนเพื่อนกูยังเป็นห่วงเลย”
“เสือก”
“ขอคำอื่นบ้างเหอะเชี่ยเป้ อกหักหรือวะ”
“พ่อมึง”
“ห่า เอาคำเดิมก็ได้”
“เสือก”
“ขอ ปุ๊บได้ปั๊บ ดีจริงนะมึง ลุกมาคุยกับกูดีๆ ดิ๊ เป็นห่าไรเมาแล้วร้องไห้เนี่ย”มันพูดถูก ที่ไอ้น็อตลากผมขึ้นมาไม่ใช่เพราะเห็นว่าผมเมามาก แต่เป็นเพราะผมกำลังจะร้องไห้ต่างหาก ตลอดเวลาจากร้านอาหารมาถึงบ้านมัน และจนถึงตอนนี้ ผมพะวงอยู่แต่กับโทรศัพท์มือถือที่ไม่มีทั้งข้อความหรือการโทรกลับ หากคิดในแง่ดีแมนก็คงไว้ใจผมมากจากข้อความสั้นๆ ที่บอกว่าจะไปกินเหล้าฉลองวันเกิดกับเพื่อน และไม่ได้บอกว่าจะกลับห้อง หรือในแง่ร้าย...เขายังไม่ได้อ่านข้อความ ไม่ก็...ไม่สนใจ
“ตกลงมึงอกหักหรือเปล่า”
“เสือกจริงๆ อกหักไม่อกหักเกี่ยวไรกับมึง”ผมเอาเท้ายันที่เอวมันเบาๆ แต่มันดันคว้าเท้าผมไปวางบนตักแทน
“ก็ถ้ามึงอกหักกูจะได้ปลอบไง”
“ไปห้องน้ำเลยมึง”ผมดึงเท้าตัวเองกลับมาแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมขาไว้ น็อตหัวเราะเบาๆ กับการกระทำของผม
“กูพูดจริงนะนี่ ถ้ามึงฟรีแล้วกูจะได้เสียบ”
“เสียบห่าไร กูเพื่อนมึงนะ”จากผ้าห่มที่คลุมแค่ขา ผมเลื่อนขึ้นมาคลุมถึงคอเลยดีกว่า เก็บอวัยวะทุกส่วนให้มิดชิดคงดีที่สุด
“กูหมายถึงเป็นแฟนกันมั้ย”
“ถ้ากูไม่ได้คบใครก็ไม่ได้หมายความว่าต้องคบมึงนี่ เมาก็ไปนอนไปห่าน็อต”
“กูชอบมึง ชัดยัง”เวรกรรม ไอ้น็อตดันล้มมาทับผมโดยที่ผมไม่สามารถลุกหนีได้เพราะผ้าห่มเฮงซวย
“ลุกไปไอ้น็อต”
“มึง ตอบกูก่อนดิ กูจะได้ตัดสินใจว่าจะลุกหรือรุก”มันพูดยิ้มๆ แต่ผมค่อนข้างแน่ใจว่ามันพูดจริง จากที่เป็นเพื่อนกันมาผมรู้ว่ามันก็เป็นเกย์เหมือนกัน แถมเมื่อก่อนผมยังเคยแอบชอบมันด้วย
“กู...มีผัวแล้ว ชัดยัง”
“โอ เค กูลุกก็ได้ งั้นมึงเล่าได้แล้วว่าเป็นอะไร ผัวมีกิ๊กหรือเปล่า มึงอยากเอาคืนมั้ย แบบ...กูเสนอตัวนะ”มันลุกขึ้นนั่ง ผมก็รีบลุกขึ้นนั่งให้ห่างมันแล้วดึงผ้าห่มให้พ้นตัว
“กูไม่ได้มีปัญหาอะไรทั้งนั้น โอเคมั้ย”
“เหรออออ”
“..... ถ้าเป็นมึง...แฟนมึงส่งเมสเสซบอกว่าจะไปกินเหล้ามึงจะห่วงมั้ยวะ”ไม่รู้ทำไม ผมถึงถามมัน อาจเพราะผมอยากรู้ว่าคนอื่นจะทำแบบนี้มั้ย ทำแบบที่แมนทำกับผม
“ถ้า... กูเป็นแฟนมึง แล้วมึงบอกว่าจะไปกินเหล้ากับคนอื่น กูจะไปลากคอมึงกลับห้องไม่ก็ตามไปด้วย....ฟังดูดีมั้ยวะ”แรกๆ เหมือนซีเรียส แต่ลงท้ายกลับยิ้มยั่วผมเสียนี่
“กูถามจริงๆ”
“ก็ ต้องดูว่ากูคบแบบไหน จริงจังมั้ย คบนานหรือยัง หมดโปรโมชั่นหรือเปล่า ที่สำคัญที่สุดคือกูรักมากแค่ไหน”คำตอบนี้ก็ตรงเกินไปจนทำให้สร่างเมาได้เลย ย้ายมาอยู่ด้วยกันก็ต้องจริงจังอยู่แล้ว ส่วนคบนานหรือยังก็ร่วม...สี่เดือน ซึ่งน่าจะหมดโปรโมชั่นได้แล้ว และปัญหาใหญ่คือ...แมนรักผมหรือเปล่า
“กูมีข้อแนะนำดีๆ สำหรับมึงตอนนี้”
“....อะไร”
“
คบกับกู”
โอ้ว จ้อดดดดดดดดดดดด เนื้อเรื่องช่างเข้มข้นจริงๆซาร่า ก้ากกก ไปดีกว่า....รอต่อไปนะ คึคึ