...คบกับกู…
.......คบกับกู.........
.............คบกับกู............
“... คบ...กับ...”คำพูดที่ได้ยินวันนั้นยังดังซ้ำๆ อยู่ในหัว ทั้งน้ำเสียง สีหน้า ก็ยังติดตาจนเหมือนกับคนพูดนั่งอยู่ข้างหน้า...คบ...กับ.....
“เป้!!”
“เฮ้ย! ตกใจหมด เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง”อยู่ดีๆ แมนก็ยื่นหน้ามาตะโกนข้างหู ผมผงะจนแทบจะตกเตียง
“ก็...ผมเรียกตั้งหลายครั้งแล้ว สะกิดก็แล้ว เป้ไม่รู้สึกตัวสักทีนี่ เหม่ออะไรอ่ะ”แมนรั้งตัวผมให้กลับมานั่งตัวตรงเหมือนเดิม
“เหม่ออะไร ใครเหม่อ แค่เหนื่อยๆ แล้วแมนมีอะไร”ผมเผลอทำสีหน้าหงุดหงิดใส่แมนโดยไม่ตั้งใจ แต่ก็เล่นเอาแมนหน้าเสียไปเลย
“ตกใจเหรอ ขอโทษนะครับ ไม่ได้ตั้งใจ”
“ช่างเหอะ แล้วมีไรล่ะ”
“หิวข้าวแล้ว ไปกินข้าวกัน”แมนลุกขึ้นยืนข้างเตียงพร้อมดึงมือผมให้ลุกตาม แต่ผมยื้อแขนตัวเองเอาไว้
“เป้ยังไม่หิวอ่ะ แมนไปคนเดียวแล้วกัน”
“งั้นผมซื้อมากินนี่นะ เป้เอาอะไรเดี๋ยวซื้อเผื่อ”
“แมน ก็กินที่ร้านนั่นล่ะ กินนี่ก็ต้องล้างจานอีก ยุ่งยาก”ผมจะหยิบการ์ตูนมาอ่านต่อ แต่เหลือบไปเห็นโทรศัพท์ตัวเองมีข้อความเข้าไปหยิบมากดอ่าน
“กินในกล่องก็ได้นี่”
“ตามใจแมนแล้วกัน เป้จะออกไปหาเพื่อนแล้ว”ผมรีบลุกจากเตียงแล้วคว้ากระเป๋าสตางค์เดินตรงไปที่ประตู แต่แมนก็คว้าแขนผมไว้อีกครั้ง
“เดี๋ยวสิ เดี๋ยวๆ ไปไหน แล้วจะกลับตอนไหน หนังที่เช่าเมื่อวานเรายังไม่ได้ดูกันเลยนะ”
“ไป หาเพื่อนแถวนี้ แมนมีอะไรอีกป่ะ สายแล้วเดี๋ยวเพื่อนรอ”ผมเปิดประตูห้องแต่แมนก็ยังไม่ยอมปล่อยแขนสักที แถมโทรศัพท์ก็สั่นไม่หยุดเพราะเจ้าของข้อความเมื่อครู่เปลี่ยนจากการส่งข้อ ความเป็นโทรหาแทน
“กลับตอนไหนล่ะ หมู่นี้เป้เที่ยวบ่อยนะ”
“ก็ปิดเทอมนี่แมน จะให้เป้อยู่แต่ห้องหรือไง ขอเป้ไปหาเพื่อนบ้างเหอะ ทีแมนยังขลุกกับเพื่อนกับบอลได้ทุกวันเลย”
“ก็....”
“ช่าง เถอะๆ เป้ไปล่ะ”ผมรีบเดินออกจากห้องก่อนที่แมนจะพูดอะไรจบ วิ่งลงมาถึงหน้าหอก็เห็นรถคันเดิมจอดอยู่ฝั่งตรงข้าม ผมรีบวิ่งข้ามถนนแล้วขึ้นรถที่ใช้บริการบ่อยในช่วงนี้
“เป็นอะไร หน้าซีดๆ”น็อตทักทันทีที่ผมนั่งหอบอยู่ในรถ ผมเหลียวซ้ายแลขวาให้แน่ใจว่าไม่มีคนรู้จักอยู่แถวนี้
“รีบๆ ขับไปดิ”
“ไปไหนล่ะ”
“ไปไหนก็ไปเหอะ เร็วๆ ดิ”
“หึ ผัวอยู่อ่ะดิ”
“จะไปไม่ไป พูดมากเดี๋ยวลงเลยนี่”
“คร้า บๆ”น็อตขับรถออกจากซอยหอพักผมได้สักพักผมถึงค่อยหายใจคล่องหน่อย อยู่ดีๆ ไอ้น็อตก็ส่งข้อความบอกว่ารออยู่หน้าหอ ลงมาหาหน่อย ผมล่ะกลัวแมนจะเห็นจริงๆ ความจริงตั้งแต่วันนั้นที่น็อตขอคบกับผม ผมก็ยังไม่ได้ให้คำตอบอะไร น็อตก็มีโทรมาคุยเล่นบ้าง บางทีก็มารับผมไปกินเหล้ากับเพื่อนๆ มัน เปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อย บ้านมันบ้าง หอเพื่อนมันบ้าง ก็สนุกดีนะครับ ไม่เครียด แต่จะเครียดเวลามันมาโดยไม่บอกล่วงหน้าแล้วผมอยู่กับแมนนี่สิ
“แล้วนี่จะไปไหนเนี่ย”
“ดู ชุดมึงก่อนเหอะ พูดเหมือนไปไหนได้นอกจากบ้านกู”น็อตใช้สายตาส่งมาให้ผมสำรวจตัวเอง ก็คนมันรีบนี่ เสื้อยืดกางเกงเจเจรองเท้าแตะ ดีนะกางเกงตัวนี้ของแมนเลยยาวเลยเข่าผมเยอะ ไม่งั้นคงอายกว่านี้
“แล้วบ้านมึงมีอะไร ตั้งวงกันอีกล่ะสิ”
“บ้านกูไม่ใช่โรงเหล้านะ พักบ้างอะไรบ้าง ทำไม ไปเที่ยวบ้านกูเฉยๆ ไม่ได้รึไง”
“ถามเฉยๆ ไม่ต้องมากวน”
“แวะซื้อหนังไปดูกันมั้ย ขนมด้วย”
“ตามใจ แต่กูไม่ลงนะ”อายครับ น็อตแต่งตัวซะดูดี ตรงข้ามกับผมที่สภาพเหมือนเด็กล้างรถมัน
เข้า บ้านน็อตมาได้ก็ตรงขึ้นห้องมันเลย พ่อแม่มันยังไม่กลับจากต่างจังหวัด ส่วนพี่มันออกไปข้างนอก ผมนั่งพิงขอบเตียงเพราะไม่กล้าขึ้นไปนอนบนเตียงมันทั้งๆ ที่ยังไม่อาบน้ำ
“ขอใช้ห้องน้ำหน่อยดิ เหนียวตัว”
“ซก มกว่ะ ตั้งแต่ตื่นยังไม่ได้อาบล่ะสิ ผ้าเช็ดตัวกับเสื้อผ้าในตู้ใช้ตามสบาย”น็อตชี้ไปที่ตู้เสื้อผ้าหน้าห้องน้ำ ผมก็รีบเดินไปเปิดตู้หยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำโดยไม่ต่อล้อต่อ เถียงเลย อายครับ
ผมอาบน้ำจนสะอาดเรียบร้อยก็เดินออกมาในเสื้อผ้าชุด เดิม กลิ่นหอมของอาหารโชยมาจนท้องแทบร้อง ผมมองโต๊ะญี่ปุ่นที่วางหน้าทีวีแล้วหิวขึ้นมาทันที
“หิวข้าวพอดีเลยว่ะ หอมน่ากินดี ไปซื้อมาเหรอวะ”
“กูทำเองเว้ย อร่อยนะขอบอก”
“จริงดิ แน่ใจว่ากินแล้วไม่ตาย”
“พูดงี้ไม่ต้องแดกเลย”น็อตดึงจานข้าวตรงหน้าผมไป จะคว้าไว้ก็คว้าไม่ทัน
“โอ๋ๆๆ อย่างอนเด้ วางๆ โหมีทั้งข้าวผัด แกงจืดวุ้นเส้น มีหมูแผ่นอีกต่างหาก กินแล้วตายก็ยอมนะเนี่ย”
“ไม่ ต้องตอแหลใส่เลย แดกไป”ไอ้น็อตว่ายิ้มๆ แล้ววางจานข้าวผัดไว้เหมือนเดิม ผมรีบลงมือกินทันที ต้องยอมรับว่ามันทำอาหารเก่งนะครับ รสชาติไม่ต่างจากซื้อกินเลย ผมกินไปก็เงยหน้ามองมันไปด้วย จนมันคงทนไม่ไหวเลยจ้องหน้าผมบ้าง
“มองทำไม หลงกูแล้วล่ะสิ”
“แน่ใจนะว่าไม่ได้ซื้อมา”
“เดี๋ยวกูส่งกลับบ้านเก่าเลยนี่”
“อย่ามึงโมโหสิวะ กูถามนี่เพราะจะชมหรอกน่ะ อร่อยเหมือนซื้อกินเลยนะเว้ย เปิดร้านอาหารได้เลยนะ”
“มึงอย่าลืมสิว่าบ้านกูทำร้านอาหารอยู่แล้ว จะให้เปิดแข่งกับพ่อแม่ตัวเองรึไง”
“อ้าวเหรอ ไม่รู้นี่หว่า”ผมไม่รู้จริงๆ นะว่าครอบครัวมันทำกิจการอะไร ถึงจะเคยเรียนด้วยกันแต่ไม่ได้สนิทกันขนาดจะรู้ลึกอะไรมาก
“เออ จำเอาไว้ด้วยล่ะ บ้านกูทำร้านอาหาร กูเลยได้อานิสงค์เรื่องเข้าครัวมาบ้าง ลองไม่ทำกินเองสิ พ่อกูได้ไล่ออกจากบ้านพอดี”น็อตส่ายหน้ายิ้มๆ อย่างไม่ถือสาที่ผมไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับตัวมัน แต่สายตามันนี่แหละที่ทำให้ผมเขิน เหมือนมันจะสื่อเพื่อบอกว่า...ไม่เป็นไร แต่ช่วยสนใจกันหน่อย....ไม่ยักรู้ว่ามันอ้อนทางสายตาเก่งขนาดนี้
“แต่อร่อยจริงๆ นะ งั้นเดี๋ยวกินเสร็จกูล้างเอง”ผมเลิกจ้องหน้ามันแล้วก้มหน้าตั้งใจกิน
“ไม่ เป็นไร มึงเป็นแขก นั่งดูหนัง...เออ ลืมเปิดหนังเลย แผ่นอยู่ไหนวะ”น็อตพูดพร้อมคว้าถุงหน้าทีวีมารื้อหาแผ่นหนัง จัดแจงเปิดหนังก่อนจะกลับมานั่งกินข้าวต่อ ความจริงก็ไม่อยากจะคิดเปรียบเทียบอะไรหรอกนะ แต่...น็อตกับแมนนี่...ต่างกันจริงๆ
“เป้...โทรศัพท์”
“หือ... อื้อ....”แรงเขย่าที่ไหล่ทำให้ผมพลิกตัวหนีไปอีกข้าง แต่น็อตยังไม่วายดึงให้ผมนอนหงายเหมือนเดิม แถมยังวางโทรศัพท์มือถือผมลงบนหน้าอกอีก สงสัยสั่นมากไปจนไอ้น็อตที่นอนใกล้ๆ มันตื่น
“รับเปล่า โทรหลายรอบแล้ว”
“อื้อ ออ.....ใครวะ......ฮัลโหล”ผมบ่นแบบหงุดหงิดก่อนจะกดรับโดยไม่ได้ดูชื่อคนโทร เข้า แต่พอได้ยินเสียงเท่านั้นล่ะ อาการง่วงงุนหายเป็นปลิดทิ้ง
“เป้อยู่ไหน”
“แมน เหรอ มีอะไรรึเปล่า”ผมรีบลุกขึ้นนั่ง จัดผมให้เข้าทรง มองไปนอกหน้าต่างเห็นฟ้ามืดสนิทแล้ว นี่ผมเผลอหลับจนดึกเลยเหรอเนี่ย เวรแล้ว
“ก็แล้วเป้อยู่ไหนล่ะ สามทุ่มแล้วทำไมยังไม่กลับอีก แมนรอกินข้าวอยู่นะ”แมนถามผมด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงปนหงุดหงิด ถ้าให้เดาแมนคงโทรหาผมไม่ต่ำกว่าห้ารอบแล้วแน่ๆ
“อ้าว โทษที เผลอหลับน่ะ เป้อยู่บ้านเพื่อนอยู่เลย แมนหาข้าวกินไปเลย เดี๋ยวเป้กลับ”ผมรีบลุกขึ้นมองหากระเป๋าสตางค์ตัวเองแล้วปลุกเจ้าของบ้านที่ นอนเอาหมอนปิดหูไปด้วย
“บ้านใคร ให้แมนไปรับมั้ย”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวให้เพื่อนไปส่ง แค่นี้นะ”ผมรีบพูดแล้ววางสายก่อนที่แมนจะซักอะไรมากกว่านี้ เข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาแล้วมาดึงน็อตให้ลุกจากที่นอนอีกรอบ
“แฟนโทรมาตามเหรอวะ”มันลุกขึ้นนั่งได้ก็ถามอะไรที่มันน่าจะเดาได้ทันที ผมเองก็ไม่รู้จะตอบยังไง ได้แต่ว่ามันกลบเกลื่อนไป
“ยุ่ง”
“แน่ ล่ะซี้ ไอ้เรามันก็แค่ตัวสำรอง จะพูดอะไรก็ไม่ได้ น้อยใจเว้ย”น็อตพูดน้ำเสียงสะบัดนิดๆ ให้รู้ว่าแกล้งงอน แถมยังล้มตัวลงไปนอนเอาผ้าห่มคลุมหัวอีก ผมต้องเสียแรงยื้อผ้าห่มออกจากมันอีกรอบ
“ไอ้บ้า อย่ามาน้ำเน่า ไป ลุก ไปส่งหอหน่อยดิ”
“เชอะ จะรีบไปสวีทกะแฟนล่ะสิ เป้ใจร๊าย”
“อย่า มาเน่าไอ้น็อต ดึกแล้วก็ต้องกลับดิ จะไปส่งมะ ไม่ส่งจะได้กลับเอง”ไม่อยากเถียงกับมันล่ะ ให้มันตัดสินใจเองแล้วกันว่าจะเอายังไง บางทีกลับเองอาจจะสะดวกกว่า
“ไม่ มีง้อเลยอ่ะคนเรา”น็อตทำปากแบะเหมือนเด็กสามขวบ และนั่นทำให้ผมกลั้นหัวเราะไม่อยู่ มันก็เลยแกล้งเดินสะบัดเข้าห้องน้ำแล้วสะบัดหน้านำผมเดินลงไปข้างล่าง รู้จักมันมาตั้งนานเพิ่งเห็นมุมแบบนี้ของมันแฮะ
น็อตขับรถมาส่งถึงหน้าหอ ผมรีบวิ่งขึ้นมาถึงห้อง เดินมาหาแมนก็เห็นกำลังล้างเส้นมาม่าอยู่
“ทำอะไรน่ะแมน”
“จะผัดมาม่าแต่ดันใส่น้ำมันเยอะไป เลยเอามาล้างน้ำออกก่อนแล้วค่อยผัดใหม่”แมนล้างเส้นมาม่าเหมือนล้างผักเลย
“ล้างแล้วจะเอาผัดอีกเนี่ยนะ มันก็ติดกระทะหมดน่ะสิ”
“อ้าว เหรอ งั้น...ทำไงดีล่ะ”แมนหยุดมือแล้วมองผมแบบขอความช่วยเหลือ ซึ่งผมคิดออกวิธีเดียว
“แกะซองใหม่ดิ”
“ไม่เอาอ่ะ เปลือง งั้นต้มแทนก็ได้”
“แล้วไม่หาซื้อข้าวมากินล่ะ ง่ายกว่าอีก”แมนชอบทำอะไรให้ยุ่งยากเกินความจำเป็น แล้วสุดท้ายก็ลำบากผมทุกที
“ไม่ เอาอ่ะ กินคนเดียวไม่อร่อย แล้วเป้กินมาแล้วเหรอ”นี่แมนคงรอผมนานจนทนไม่ไหวเลยตัดสินใจกินมาม่า แล้วผมจะกล้าปล่อยให้แมนกินคนเดียวเหรอ
“ยังอ่ะ งั้นเดี๋ยวเป้ทำให้แล้วกัน ต้มนะ”ผมเดินไปหยิบมาม่าพร้อมไข่ไก่มาเพิ่มให้พอสำหรับสองคน
“อือ.....เป้ไปไหนมาทั้งวัน”
“ไป นั่งเล่นบ้านเพื่อน ทำไมเหรอ แล้ววันนี้แมนไม่ออกไปหาเพื่อนเหรอ”ดูจากสภาพห้องที่เต็มไปด้วยแผ่นหนังและ ถุงขนมแล้ว วันนี้แมนคงขลุกอยู่ในห้องทั้งวันแน่ๆ
“อาทิตย์หน้าต้องเริ่มซ้อมแล้ว ช่วงนี้แมนอยากอยู่กับเป้มากกว่า พรุ่งนี้ไปเที่ยวกันมะ ไปดูหนังกัน”
“...... เอาสิ จะได้ซื้อของเข้าห้องด้วย”รอยยิ้มกับสีหน้ารอลุ้นของแมนทำให้ผมใจอ่อนทุกที สิน่า ปิดเทอมแล้วทำตัวน่ารักแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
“เป้น่ารักที่สุด”แมนกอดผมจากด้านหลังแล้วหอมซอกคอจนผมต้องหดคอหนี
“นี่ๆๆ อย่าเพิ่งกวนตอนนี้สิ เดี๋ยวมาม่าได้ลวกมือพอดี”
“ไม่อยากกินมาม่าแล้วนี่ อยากกินเป้มากกว่า”
“ทะลึ่ง ”ผมตีแขนแมนที่เริ่มรุ่มร่ามกับกางเกงผม แมนก็แกล้งร้องเหมือนเจ็บเสียเต็มที่แต่ไม่วายหอมแก้มผมฟอดใหญ่แล้วเดินไป นั่งกางโต๊ะญี่ปุ่นรอ มาม่าสามห่อใส่ไข่หายไปอย่างรวดเร็วหลังจากวางบนโต๊ะ แมนเปิดหนังดูแต่ผมแค่เห็นหนังก็ตาจะปิดแล้ว วันนี้ดูที่บ้านน็อตสองเรื่องแล้ว ดูอีกเรื่องเห็นทีจะไม่ไหว พอผมเคลิ้มๆ จะหลับแมนเลยลุกไปปิดไฟเพราะรู้ว่าถ้าเปิดไฟผมจะนอนไม่หลับ
วันรุ่ง ขึ้นกว่าผมและแมนจะตื่นก็เกือบเที่ยง เราพลัดกันเข้าไปอาบน้ำแล้วค่อยออกจากห้อง ผมชวนแมนกินสุกี้เพราะไม่ได้กินด้วยกันนานแล้ว แมนก็ยอมตามใจ พอเราไปถึงห้างก็รีบไปดูรอบหนังแล้วซื้อตั๋วเอาไว้ก่อน เรามีเวลากินเกือบสองชั่วโมง แมนเป็นคนสั่งอาหารแถมยังสั่งได้ถูกใจผมอีก นานแล้วที่เราไม่ค่อยได้มีเวลาแบบนี้ร่วมกันสองต่อสอง อย่างนี้ค่อยสมกับเป็นแฟนกันหน่อย ไม่ค่อยมีคนรุมล้อมเหมือนเวลาไปไหนกับแมนพร้อมกลุ่มเพื่อนกลุ่มใหญ่ของเขา
“เฮ้ย! มาได้ไงวะ มาทำอะไรกัน”ให้ตายสิ นึกถึงหน่อยเดียวโผล่กันมาให้พรึ่บ เรียกว่าเกือบครบกลุ่มเลยทีเดียว
“มาดูหนังกับเป้ แล้วพวกมึงล่ะ”แมนหันมาทางผมให้เพื่อนๆ มันมองตาม ผมก็เลยส่งยิ้มให้พวกนั้นแทนคำทักทาย
“มาดูหนังเหมือนกัน เสร็จแล้วไปไหนต่อเปล่า พวกกูนัดเลี้ยงส่งพี่บาสเย็นนี้นะ”
“แล้วทำไมเพิ่งมาบอกวะ ไหนว่าปลายๆ เดือนไง”
“พี่เขาก็เพิ่งโทรหากูเมื่อเช้า กูก็โทรหามึงแต่ไม่ติด มึงเอาไงล่ะ ไปเปล่า เอาเป้ได้ด้วยก็ได้”
“ว่า ไงเป้ ไปด้วยกันนะ พี่บาสเขาได้งานที่หาดใหญ่น่ะ ลงไปแล้วกว่าจะได้เจอคงอีกนาน ไปนะ”พี่บาสเป็นรุ่นพี่ที่ชมรมของแมน เรียนจบปีนี้พอดี
“ไม่ล่ะ แมนไปกับเพื่อนเหอะ เดี๋ยวเป้กลับห้องเองได้”
“ไป ด้วยกันสิ นั่งสักแป๊บแล้วกลับก็ได้ นะๆ”ผมเอื้อมมือมาเขย่ามือผมแบบอ้อนๆ ผมก็ได้แต่ยิ้ม รวมถึงเพื่อนๆ แมนที่อมยิ้มขำกับท่าทางแบบนี้
“ไม่ล่ะ แมนไปสนุกเหอะ ฝากยินดีกับพี่บาสด้วยที่ได้งานเร็ว”พอผมส่งยิ้มให้เท่านั้นล่ะ แมนก็เลิกคะยั้นคะยอผมทันที
“เอางั้นเหรอ แล้วนี่พวกมึงจะไปตอนไหน ที่ไหน”
“ดูหนังเสร็จก็ไปบ้านพี่บาสเลย พวกกูหารกันซื้อเหล้าลังนึง มึงไปพร้อมกันเปล่า”
“กูหารค่าเหล้าด้วยแล้วกัน เดี๋ยวกูส่งเป้แล้วค่อยตามไปดีกว่า”
“ไม่ต้องหรอกแมน แมนไปกับเพื่อนเลยก็ได้ เดี๋ยวเป้นั่งแท็กซี่กลับ รีบคิดเงินเถอะ เดี๋ยวหนังจะเข้าแล้วนะ”
“งั้นก็ได้ ดูหนังเสร็จแล้วโทรหาแล้วกัน”
ผม กับแมนจ่ายเงินเสร็จก็รีบเข้าโรงหนัง แต่อารมณ์ผมน่ะหมดสนุกตั้งแต่เจอหน้าเพื่อนแมนแล้ว พวกเพื่อนแมนเหมือนมีแม่เหล็กน่ะครับ เจอกันเป็นได้ตัวติดกันตลอด ไม่สามารถแทรกแซงได้เลย ผมเหลือบมองแมนก็เห็นตั้งใจดูหนังเหมือนปกติ นึกๆ แล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ จะบอกให้แมนกลับพร้อมผมแล้วไม่ต้องไปเลี้ยงส่งก็ใจดำเกินไป แต่จะให้ไปกับแมนผมก็ฝืนตัวเองเกินไป ไปก็ไม่สนุก จะทำให้งานกร่อยเปล่าๆ คุยกันแต่เรื่องกีฬา ผมไม่มีความรู้สักนิด ไม่เหมือนอยู่กับน็อต รายนั้นบ้าเกมส์ บ้าการ์ตูนพอๆ กับผม กลุ่มเพื่อนมันก็เลยสไตล์คล้ายๆ ผมไปด้วยเลยเข้ากันง่าย ไม่รู้สึกแปลกแยกสักนิด.......เฮ้อ.......ทำไมคบกับแมนถึงเหนื่อยแบบนี้ เนี่ย
หลังจากแยกกันหน้าโรงหนัง แมนย้ำว่าค่อยมาซื้อของเข้าห้องด้วยกันวันหลัง ผมก็ตามใจเขา นั่งรถเมล์กลับห้องคนเดียว เดินเข้ามาในซอยก็เห็นรถน็อตจอดอยู่หน้าหอ แถมพอเห็นผมก็บีบแตรเรียกอีก
“มาได้ไง”ผมเดินไปคุยกับน็อตที่ลดกระจกลง
“ก็โทรหาตั้งหลายรอบไม่เห็นรับสาย นี่ว่าจะรออีกสิบนาทีก็จะไปแล้ว”
“แล้วรอทำไม มีอะไรหรือเปล่า”
“จะชวนไปกินเหล้า ไปด้วยกันเปล่า”
“..... ไปดิ กำลังเซ็งๆ”ผมหยุดคิดไม่นานก็เข้าไปนั่งข้างคนขับทันที ซึ่งครั้งนี้ตัดสินใจเร็วไปหน่อย หากผมได้ถามมันสักคำว่าไปกินที่ไหน ไปงานของใคร ผมก็คงจะรู้ว่า....ไม่ควรไปเลย
ตอนหน้างานเข้าแน่ คึคึ