ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์ และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน
ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0- - - - - - - - - - - - - - - - - -
อ ย่ า เ ก ลี ย ด กั น ก็ พ อ
“ รู้ว่าเธอไม่รัก ไม่มีใจให้ฉัน แต่เธอรู้ไหมหัวใจไม่มีเหตุผล
แลกทุกอย่างเพื่อคำว่ารัก รักแล้วเจ็บก็ยอมก็ทน อยู่อย่างคนที่รอให้เธอรัก
รู้ว่าเธอหนักใจ รู้ว่าลำบากใจ ที่ยังเห็นฉันทุ่มเทใจให้เธออย่างนี้
ไม่มีทางที่จะรักฉัน ทุกถ้อยคำฉันเข้าใจดี แต่ในวันนี้ยังทำใจไม่ได้เลย
อย่าบอกฉัน ให้ตัดใจ อย่าผลักไสฉันให้ไกลเลยอย่าขอ
ปล่อยให้ฉัน ได้เฝ้ารอ คนที่รักแค่ได้เฝ้ารอก็สุขใจ
รักที่เธอไม่รับ ช่วยทำเป็นไม่รู้ ปล่อยให้ฉันได้รักเธออยู่เหมือนเดิมได้ไหม
ไม่วิงวอนให้เธอสงสาร อ้อนวอนให้เธอมีใจ แค่อย่าใจร้าย อย่าเกลียดกันก็พอ ”
บทเพลงนี้ทำให้ผมนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ บทเพลงที่เข้าไปอยู่ในหัวใจของผม พร้อมกับ ชายหนุ่มคนนั้น ที่อยู่ดีๆ ก็ได้เข้าไปอยู่ในหัวใจเรียบร้อยแล้ว
ผมชื่อ ซิน ครับ ตอนนี้ อายุ ยี่สิบปีแล้ว เรียนอยู่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ตอนนี้ผมมีความรักครับ รักคนๆนึง ที่เป็นผู้ชายเช่นเดียวกับผม ,,, ใช่ครับ ผมเป็นเกย์ ชีวิตเส้นทางความรักของผมไม่เคยโรยด้วยกลีบกุหลาบ จบลงด้วยเซ็กซ์ หรือไม่ก็ความเจ็บปวดที่แสนทรมาน เส้นทางต้องห้ามของเกย์เกือบทุกคน คือการรักผู้ชายแท้ๆ ที่ไม่ใช่เกย์ด้วยกัน เพราะมันจะทำให้คุณไม่มีทางสมหวัง หรือถ้ามี เปอร์เซ็นต์ของมันก็จะน้อยมากเลยทีเดียว แต่ตัวผมเอง ก็ได้เดินเข้ามาบนเส้นทางรักต้องห้ามเส้นนี้เรียบร้อยแล้ว
ผู้ชายคนนั้นเป็นรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยของผมเองครับ เฮ้ออ!!... รักเด็กเข้าเสียแล้ว และก็เป็นผู้ชายแท้ๆซะด้วย ผมเจอน้องคนนี้ตั้งแต่วันปฐมนิเทศ จนเรื่อยไปถึงการรับน้อง ช่วงเวลานั้นผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับน้องคนนี้มากมายนัก ก็แค่เด็กผู้ชายคนนึงที่หน้าตาค่อนข้างดี อารมณ์ดี ขี้เล่น จนมาถึงตอนที่น้องเขาขึ้นปีสอง ความรู้สึกผมเองก็ได้เริ่มเปลี่ยนไป เพราะผมได้รู้จักน้องเขามากขึ้น รู้จักมุมมองการใช้ชีวิตที่เกินอายุ เราสองคนมีทัศนคติที่ตรงกันหลายๆอย่าง มันอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หัวใจของผมมีน้องเขาอยู่เต็มหัวใจ
สิ่งที่เกิดขึ้นกับผมตอนนี้มันทำให้ผมคิดย้อนไปในวันเวลาที่ผมได้อยู่ ได้พูดคุยกับน้องเขา ผมกับน้องคนนี้เราจะมีสิ่งที่เหมือนกันคือ การมามหาวิทยาลัยเช้ากว่าคนอื่น มันเหมือนเป็นการเบิกทางทำให้เราสองคนได้คุยกัน ทุกๆเช้าบริเวณหน้าตึกคณะ ตรงซุ้มสำหรับนั่งหรือทำกิจกรรมของสาขาวิชาที่อยู่ใต้ต้นหูกวางต้นใหญ่ ที่ให้ร่มเงาทั้งในยามท้องฟ้ามีแดด หรือท้องฟ้ามีเมฆฝน แม้มันเป็นในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ทำให้หัวใจของผมรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมา มีความสุขทุกครั้งกับการมามหาวิทยาลัย และการนั่งรอคอยใครบางคนที่อยู่ในหัวใจ
วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่ผมมาเช้า เพื่อที่จะนั่งรอไอ้เบิ้ล นายเบิ้ล หรือพี่เบิ้ล ซึ่งแล้วแต่ใครจะเรียก เพราะเมื่อคืนมันบอกมีเรียนเช้า วันนี้ท้องฟ้ามืดครึ้มนิดหน่อยเหมือนว่าฝนจะตก เวลาเจ็ดโมงสี่สิบห้านาทีที่ผมมาถึงมหาวิทยาลัย ก็เห็นเบิ้ลนั่งอยู่ที่ซุ้มที่ประจำของผมและมัน
“ ไง ! พ่อตัวดีวันนี้มาเช้ากว่าพี่ได้ไงเนี้ย ? ” ผมทักเบิ้ล
“ อ้าวพี่ ! มาเช้ามันผิดด้วยไง แหม ผมมาเร็วกว่าพี่วันนึงทำเป็นอารมณ์เสีย ” แล้วก็เป็นอีกครั้งนึงที่มันตอบกวนเบื้องล่างผม
“ เออ กูไม่เถียงแล้ว เถียงมึงไม่มีทางชนะเลยซักที ลื่นฉิบห-ย ” ผมตอบโต้มันด้วยท่าทางเบื่อหน่าย
“ โอ๋ ๆ ๆ อย่างอนนะคนดี .... เดี๋ยววันนี้เลี้ยงน้ำแดงของโปรด ” มันพูดแล้วทำท่าออดอ้อน ดูไปดูมาก็น่ารักไปอีกแบบ ผู้ชายตัวสูงๆ มาทำท่าแอ๊บแบ๊ว
“ โอเค ๆ ใครบอกพี่งอน แต่ก็ดีแล้วที่เลี้ยงน้ำพี่ แต๊งค์กิ้วนะจ๊ะ ” ผมตอบมัน
“ หึหึ ของฟรีเคยพลาดซะที่ไหนล่ะ ” มันหันหน้าไปพูดอีกด้าน มันคงคิดว่าผมคงไม่ได้ยิน
“ ของฟรีจากไอ้งกอย่างแก ใครจะไม่เอา วันนี้คงจะฝนตกแน่ๆ ดูดิ๊ เมฆมืดมาเลย ” ผมแอบอมยิ้มกับท่าทีของไอ้ตัวดี จอมขี้งก
“ แหม พี่คร๊าบบ ถ้าพี่ไม่ใช่คนพิเศษ ผมก็ไม่เลี้ยงหรอก เพื่อนผมเคยได้กินของจากเงินผมซะที่ไหน จงเก็บไว้ภูมิใจว่าไอ้เบิ้ลคนหล่อคนนี้ เลี้ยงน้ำพี่นะครับ” มันพูดแล้วทำหล่อของมัน แต่คำว่า
‘คนพิเศษ’ นั้น ได้ทำหัวใจของผมเริ่มเต้นผิดจังหวะอีกครั้ง
“ แหม ๆ ทำเป็นหน้าแดง แอบชอบผมอยู่ล่ะซิ พูดแค่นี้ทำเป็นเขิน กิ๊วๆ ๆ ” และก็เป็นอีกครั้งที่มันทำให้ผมอยากเอาอวัยวะเบื้องล่างก้านคอมันซักครั้ง
“ แกว่ามั๊ย? ว่าเช้านี้ต้องฝนตกแน่ๆ เลย เซงทั้งวันแน่ๆ ” ผมพูดเพื่อเป็นการเปลี่ยนเรื่อง เพราะกลัวว่าความลับที่ผมเก็บไว้ตลอดเวลาที่ผ่านมา มันจะเปิดเผยขึ้นมา
“ แหม ๆ คนเรา เปลี่ยนเรื่องซะได้ แต่ผมว่าน่าจะตกนะ นั่นไง ! พูดไม่ทันขาดคำ ฝนก็โปรยลงมาแล้ว พี่นี้แม่นจริง เป็นญาติกับหมอลักษณ์คอนเฟิร์มป่ะเนี้ย ? ” มันสามารถพูดสองเรื่องในรอบเดียวได้เก่งจริงๆ นับถือ ๆ
“ ญาติฝ่ายพ่อมึงดิ แล้วหมอลักษณ์เขาฟันธงโว้ย ไม่ใช่คอมเฟิร์ม มึงนี่กวนตีนได้ทุกวันนะ ” ผมเริ่มเก็บอารมณ์ด้านมืดไม่อยู่ คนอะไรกวนตีนได้ทุกวัน
“ จ๊ะ ๆ ไม่กวนแล้วเดี๋ยวพี่หน้าแก่กว่านี้ขึ้นมาอีก ยิ้มหน่อยซิคนดีของโผมม ” มันพูดเสียงท้ายให้ยาวเพื่อให้มันดูน่ารักมั้งน่ะ แต่เอ๊ะ ! อะไรนะ
คนดีของผม มันพูดในสื่งที่ผมต้องกลับมานั่งคิดอีกครั้ง
‘กูก็อยากเป็นคนดีของมึงนะ แต่กูรู้ว่ากูเป็นได้แค่พี่ชายสำหรับมึงแค่นั้นจริงๆ กูกลัวที่จะบอกความรู้สึก บอกคำๆนั้นออกไป’ ผมคิดในใจอีกครั้ง
“ พี่ซิน พี่ซินโว้ย ! เป็นไรไปอะ เงียบเลย ผมพูดไรผิดป่ะเนี้ย ก็พี่เป็นพี่ชายของผมนี่ แล้วพี่ก็เป็นคนดี งั้นพี่ก็ต้องเป็นคนดีของผมซิ ” มันพูดพร้อมเอามือของมันมาสัมผัสที่แขนของผม เมื่อผมมีอาการผิดปกติไป
“ ก็คงเป็นได้แค่พี่ แค่พี่ชายคนนึงเท่านั้น ” ผมพูดเสียงเบาๆ เพื่อที่จะไม่ให้มันได้ยิน
“ งั้นผมเปลี่ยนเรื่องดีกว่า แล้วพี่ไม่มีฟงไม่มีแฟนกับคนอื่นบ้างไง ? ” มันถามด้วยความสงสัย
“ จะมีได้ไงล่ะหน้าตาพี่อย่างกะเงือก หน้าลาวขนาดนี้ใครจะเอาไปทำแฟน ” ผมพูดด้วยเสียงติดตลก (หน้าเงือกหมายถึง คนที่หน้าตาไม่ดี )
“ พี่ว่าไหม? คนเรามันก็แปลกเนอะ ชอบมองของที่รูปร่างหน้าตา แต่ทำไมไม่ยอมมองที่จิตใจ ” มันพูดเสียงเรียบแกมประชดประชัน
“ สังคมเราก็แบบนี้แหละ สิ่งที่จับต้องได้ก่อนคือรูปลักษณะภายนอก ถ้าไม่ชอบก็ไม่เอา ถ้าชอบก็เก็บไว้ดูอีกทีว่าข้างในของชิ้นนั้นๆ ตรงอย่างที่ชอบหรือปล่าว? ” ผมพูดด้วยความคิดว่ามันเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นของจิตใจมนุษย์ ณ ขณะนี้
“ ก็ถูกของพี่ล่ะนะ เป็นใครก็มองที่ภายนอกไว้ก่อน เรื่องนิสัยค่อยว่ากันอีกที ” มันตอบด้วยท่าทีของมัน
“ แล้วแกล่ะะ ทำไมถึงไม่มีแฟน ? ตั้งแต่จะจีบน้องคนนั้นแล้วแห้วกลับมา ก็ไม่เห็นแกจะจีบใครอีก ” ผมถามพร้อมมองหน้าของเบิ้ลด้วยความสงสัยที่มันติดค้างในจิตใจของผมมานาน
“ ผมก็บอกพี่แล้วนี่ ตอนนี้ไม่อยากมีแฟน มีแฟนแล้วต้องมานั่งง่องแง่ง ง้อกันไป งอนกันมา เทียวรับเทียวส่ง ผมว่าเอาเวลาที่เสียไปมานั่งเรียนหนังสือหนังหาดีกว่า ” มันตอบด้วยความไม่สนใจอะไร
“ จ้า พ่อคนขยันเรียน วันๆเอาอะไรมาเรียนบ้างว่ะอยากจะรู้ เห็นแต่กระเป๋าผ้าใบแห้งๆ สกรีนรูปคิตตี้ของแก บวกกับสมุดสองเล่มกู้ชาติ เนี่ย? ” ผมถามด้วยความหมั่นไส้
“ คุณพี่ซินครับ ถึงมีสมุดแค่สองเล่ม แต่ก็รวมความรู้อันมหาศาลของทุกวิชาไว้ในนี้นะ มันสามารถเอาวิชานั้นกับวิชานี้ มันเกี่ยวข้องกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ ” มันเถียงด้วยความกะล่อนของมันอีก พร้อมกับทำท่าให้ดูเวอร์ตลอดเวลา
“ เออ ๆ ไม่พูดแล้ว เฮ้อ !! ฝนเริ่มตกหนัก สงสัยเราต้องนั่งกันอยู่อย่างนี้อีกสักครึ่งชั่วโมงแน่ ๆ ” ผมบ่นแล้วหันมองท้องฟ้าที่มีฝนตกลงมาอย่างหนัก
“ อึดอัดมากหรอที่นั่งกับผมเนี่ย !! ” มันถามผมพร้อมขึ้นเสียง
“ ถ้าพี่อึดอัด พี่จะรอแกเพื่อที่จะคุยกันตอนเช้าทุกวันหรอ ? แล้วพี่จะรอแกกลับบ้านทุกวันหรอ? ” ผมถามกลับด้วยเสียงเบาๆ
“ แล้วพี่รู้สึกยังไงกับผมล่ะตอนนี้ ” มันถามคำถามนี้คำถามที่มันถามมา เป็นคำถามที่ผมตอบไม่ได้ ไม่ใช่เพราะไม่รู้คำตอบ แต่เพราะผมไม่กล้า ผมกลัว กล้วว่าถ้าตอบไปตามความรู้สึก ตามความจริงที่อยู่ในใจ ผมจะเสียคนที่ผมรักไปตลอดกาล ผมยอมที่จะกักเก็บมันไว้ กลบมันไว้ ถึงจะเจ็บปวดหัวใจเพียงใด ผมก็ยอม เพียงมีมันอยู่กับผม แค่นี้ก็พอแล้ว
ยิ่งมันทำดีกับผม ...
ยิ่งมันพูดคุยกับผม ...
ยิ่งมันไม่ทำท่ารังเกียจทั้งๆ ที่มันรู้ว่า
ผมเป็นเกย์ ... เพศที่ชอบผู้ชายด้วยกันยิ่งมันทำให้รู้สึกดีๆกับมันขึ้นเรื่อย ๆ …
ก็ยิ่งทำให้ตัวผมเอง ยอมที่จะเจ็บปวดต่อไปอย่างนี้ดีกว่า
ผมรู้สึกถึงความร้อนบนขอบตาทั้งสอง หน้ากากแห่งความสุขของผมกำลังพังทลาย ต่อหน้าชายคนนี้ คนที่เข้ามาเติมเต็มอยู่ในหัวใจของผม ผมเฝ้าบอกตัวเองว่ามันคือคนที่ผมไม่มีทางได้ครอบครอง ความสัมพันธ์ระหว่างเราไม่มีทางพัฒนาไปมากกว่านี้ มีเพียงฐานะพี่ชายเท่านั้น คือสิ่งที่ผู้ชายคนนี้จะมอบให้ผมได้ ผมควรจะมีความสุข กับการได้อยู่ตรงนี้ ข้างๆมัน เฝ้ามองคนที่ผมรักมีความสุข แต่ทำไมผมกลับไม่มีความสุขเลย หัวใจของผมเจ็บปวดเหลือเกิน
“ ก็รู้สึกว่าแกเป็นน้องของพี่ไง น้องชายคนนึงที่พี่สนิทที่สุด คิดไรมากป่ะเนี้ยไอ้ตัวดี” ผมตอบออกไป โดยการเลือกที่โกหกหัวใจตัวเองอีกครั้ง ข่มความรู้สึกทั้งหมดเพื่อพูดประโยคนี้ให้ดูเป็นธรรมชาติที่สุด
“โอเคๆ น้องชายที่แสนดี ... ฝนหยุดตกแล้ว เดี๋ยวผมไปเรียนก่อนนะพี่ เรื่องน้ำแดงอ่ะ ตอนเย็นเจอกัน รอผมกลับบ้านด้วยนะพี่ชาย....” มันพูดเสียงทะเล้นแอบกวนๆ อีกครั้ง
“ไปแล้วนะพี่ ... อย่าลืม รอผมด้วย ไม่งั้น น้ำแดงอด!!” มันลุกขึ้นจากซุ้มแล้วหันมากำชับกับผมอีกครั้ง
“เออๆ รออยู่แล้ว ไว้เจอกันตอนเย็นแล้วกัน ที่เดิมนะ ” ผมตอบมัน โดยผมอมยิ้มให้มันเมื่อเห็นมันเดินจากผมไป
ใต้ร่มเงาของต้นหูกวางเหลือผมนั่งอยู่เพียงลำพัง นั่งมองน้ำฝนที่ค้างอยู่บนใบไม้ ค่อยๆหยดลงสู่พื้น
ครั้งนี้ผมยังปิดบังความรู้สึกตัวเองไว้ทัน แต่ถ้าความรู้สึกมันเอ่อล้นมากไปกว่านี้ เหมือนเม็ดฝนที่กระหน่ำลอดผ่านพุ่มในที่แน่นหนานี้ลงมาได้ ผมจะทำอย่างไร ผมได้แต่หวังว่าจะไม่มีวันนั้น ผมไม่อยากจะเสียมันไป แต่ถ้ามันมาถึง ผมคงต้องบอกออกไป
“ พี่รักแก แกไม่ต้องรักพี่หรอก แต่ขอได้ไหม อย่าเกลียดกันก็พอ "- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ปล. ผู้อ่านทุกท่านครับ ฉบับนี้เป็นฉบับปรับปรุงใหม่ โดยได้ความช่วยเหลือจากพี่ Nari-P โดยการกล่อมเกลาสำนวนให้ดีขึ้น
และ เป็นฉบับสุดท้ายที่จะแก้ไข ส่วนฉบับเก่าขออนุญาตลบทิ้ง แต่ขอขอบคุณทุกคอมเมนต์ ทุกกำลังใจ จากผู้อ่านทุกคน
ขอบคุณทุกคนอีกครั้งนะครับ มีอะไรติชมได้นะครับ มีโครงการที่จะทำเป็นนิยายต่อ แต่ไม่รู้จะเอายังไงกับมันดี ว่าจะให้ออกมาในรูปแบบไหน
*** ขออนุญาตแก้ไขคำห้อยท้ายของชื่อเรื่อง เพื่อลดความรุงรังของหัวข้อ แต่หากผู้แต่งมีเรื่องแจ้งเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขชื่อเรื่องได้ตามปกติค่ะ
ทิพย์โมบอร์ดนิยาย