แอบย่องๆมาตอนสายๆ
"อ่อน ตื่นได้แล้วมึง เช้านี้เราต้องรีบกลับบ้านกันนะ"
"อื้มมมมม อย่ายุ่ง จานอนนนนนนนนน" มันหนีมือผมไปจนสุดอีกฝั่งของเตียง ผ้าห่มก็ห่อตัวมันอยู่อย่างกะหนอนดักแด้ ขี้เซาตลอด
"วันนี้เราต้องกลับบ้านกัน จำไม่ได้เหรอ?" ผมก็ทำไรมากไปกว่าคลานตุ้บๆไปเขย่าตัวให้มันตื่นไม่ได้หรอก เดี๋ยวมันเหวี่ยงแต่เช้า ขี้เกียจมีปัญหา แต่เพื่อนๆชอบบอกว่าผมกลัวมัน
"อื้มมมมมม" มันปัดมือผมออก แล้วลากผ้าห่มคลุมจนมิดไปทั้งตัว
เมื่อเห็นว่าปลุกไปมันก็คงไม่ตื่น ผมเลยขอไปจัดการเรื่องตัวเองให้เสร็จก่อน เพราะนี่ก็ยังมืดอยู่ ให้มันนอนต่ออีกหน่อย เพราะกว่ามันจะได้นอนเมื่อคืนก็เหนื่อยแล้ว
เข้าห้องน้ำเป็นลำดับแรก ผมใช้เวลาไม่นานมากในห้องน้ำเพราะตอนนี้ฟ้ายังไม่สว่างเลย โคตรหนาว
ผมออกมาจากห้องน้ำ มันยังนอนท่าเดิมเป๊ะ
กลัวมันขาดอากาศหายใจตาย เลยไปดึงผ้าห่มที่คลุมหน้ามันไว้ออก อ่อ ผมเปิดโคมไฟเอา เพราะอ่อนมันไม่ชอบแสงจัดๆตอนมันนอน อันนี้ผมก็ไม่ได้กลัวมันนะ แค่ไม่อยากมีปัญหาอีกนั่นแหละ
แต่งตัวไรเสร็จผมก็เข้าครัว เช้าๆแบบนี้ง่ายๆครับ ข้าวต้มหมู อุ่นท้องดี อิ่มท้องด้วย
จัดการไรเสร็จเรียบร้อยก็หกโมงพอดี มีอย่างเดียวที่ยังไม่เสร็จคือไอ้หนอนตัวอ่อนที่ยังนอนแช่อยู่บนเตียง ไหลตายไปยังไม่รู้ป่านนี้
"โจ๊ก !!!! ทำไมมึงไม่ปลุกกูตั้งแต่เช้ามืดวะ เห็นมั๊ยสายเลย" อื้อ หือ ยังมีหน้ามากล้าพูดแบบนี้อีกเนาะ
"นี่ถ้ากูเป็นมึงนะอ่อน กูจะไม่กล้าพูดแบบนี้เลย" วิ่งกันไปก็เถียงกันไป เหนื่อยเป็นสองเท่าเลยทีนี้
คือเมื่อเช้าตอนที่ผมไปปลุกมันรอบสอง มันก็ยังไม่ยอมตื่นอยู่ดี อื้มๆ อ้าๆ อยู่นั่นแหละ ผมหมั่นไส้เลยถีบมันไปทีหนึ่งก่อนจะออกมานั่งกินข้าวต้มเปิดทีวีข้างนอกดูเบาๆ
แต่พอมันตื่นเท่านั้นแหละ เสียงดังห้องแทบแตกโวยวายใส่ผมใหญ่หาว่าผมไม่ปลุกมัน ผมก็ไม่ได้พูดไร ขี้เกียจ นั่งมองมันวิ่งพล่านรอบห้อง พอยิ่งรีบก็ยิ่งลนลาน เข้าห้องน้ำลืมผ้าเช็ดตัว ใส่กางเกงแต่หาเข็มขัดไม่เจอ ใส่รองเท้าผ้าใบแต่เชือกรองเท้าไม่รู้อยู่ไหน มันก็ขอให้ผมช่วยแหละ แต่ผมไม่ช่วย มันเลยวิ่งพล่านเป็นหนอนโดนไฟลนก้นแบบที่เห็น พอเสร็จเรียบร้อย ก็จะไปเลย แต่ผมไม่ยอม ต้องกินข้าวก่อน ผมตั้งใจทำตั้งแต่เช้ามืด อีกอย่างข้าวเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุด มันนั่งกินไป ก็บ่นผมไป หาว่าผมชอบบังคับมัน ผมก็ปล่อยมันพูดไป ขี้เกียจเถียง
กินเสร็จก็รีบวิ่งออกมาหน้าซอยเพื่อจะนั่งรถเมล์ไปยังท่ารถที่จะกลับบ้าน แต่ด้วยความที่วันนี้ใครๆก็ต้องการจะกลับบ้านกันทั้งนั้น ภาวะรถแน่นก็เกิดขึ้น นั่งกันสองชิดสาม แต่ผมกับอ่อนยืนตลอด เพราะขึ้นปลายสายแล้ว ผมได้ยินคนข้างหลังพูดขึ้นว่า 'นี่ถ้ากูท้องขึ้นมา กูจะรู้มั๊ยว่าใครเป็นพ่อลูกกู' คิดดูละกันครับว่ามันแน่นขนาดไหน ผมกับอ่อนนี่หันมามองตากันโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ต่างก็ยิ้มกับประโยคที่ได้ยินเมื่อกี้ มันพูดไม่ออกเสียง แต่ผมอ่านปากมันได้ว่า "กู ไม่ ท้อง" ดูความกวนตีนของมันเองละกัน ผมไม่อยากบรรยาย
ลงจากรถเมล์ได้ก็ต้องออกเดินต่ออีกหน่อยกว่าจะถึงคิวรถตู้ที่จะกลับบ้าน
พอไปถึงคิวรถตู้ที่จะกลับบ้าน พ่อช้าง แม่ช้าง คนจะเยอะไปไหนครับ??????
"ทำไมคนเยอะงี้วะ เพราะมึงเลยโจ๊ก ไม่ยอมปลุกกูเอง" โอ้โห
"นี่คุณไม่คิดจะโทษตัวเองหน่อยเหรอครับ?"
"ก็กูไม่ผิดอ่ะ เหรอมึงคิดว่ากูผิด?" ผมถอนหายใจใส่หน้ามันแรงๆ ก่อนจะเดินออกไปซื้อตั๋ว
พวกผมได้คิวรถออกตอนเวลาสิบโมง นั่นหมายความว่าพวกผมต้องนั่งรออยู่ที่นี่สองชั่วโมง คนเยอะมาก เยอะจนล้นออกมาจากห้องพักผู้โดยสาร
"ทำไมคนต้องมากลับวันเดียวกับกูด้วยวะ กลับกันวันอื่นไม่ได้รึไง" ผมว่าแล้วไอ้นี่มันต้องบ่นเป็นหมีกินผึ้ง แต่โชคดีที่ตอนนี้ไม่ร้อนเท่าไร ไม่งั้นหูผมคงชากว่านี้แน่
"คนอื้นเค้าก็มีแม่ รักแหม่เหมือนมึงนิ ประเทศนี้ไม่ใช่มึงคนเดียวซะหน่อยที่มีแม่"
"
"
"
"
"
"
"
"
"ไม่ต้องมายิ้มเลยมึง "
"เอ้า ยิ้มก็ผิดอีกกู ระหว่างรอ กูว่าเราไปเดินดูของกันดีกว่า เผื่อจะได้ไรไปฝากห่อๆแม่ๆกันบ้าง"
"ไม่ไป กูขี้เกียจเดิน"
"งั้นก็รออยู่นี่แหละ กูไปคนเดียว"
"เชี่ยนี่ ไม่คิดจะง้อกูหน่อยเหรอ?"
"ง้อให้มากไม ก็ได้แล้วนิ" มันหน้าเหวอเลย จะพูดก็ได้แต่ทำปากพะงาบๆ
ผมเดินดูของไปเรื่อยๆ ก็ไม่ได้จะดูอะไรหรอกกครับ เรียกว่ามาหาของกินไปให้มันนั่นแหละ เมื่อเช้ามันรีบกิน ไม่อิ่มท้องหรอก ไหนจะนั่งรอสองชั่วโมง ไหนจะต้องนั่งรถอีกสามชั่วโมง มันยิ่งเป็นคนกินเก่งๆอยู่
สงสัยคงโกรธผมจริง ไม่เห็นตามมาเลย แต่ก็ช่างเหอะเดี๋ยวค่อยซื้อของโปรดไปง้อมันก็ได้
ผมได้ของไปง้อมันเยอะพอสมควร มันชอบกินของหวาน มันบอกกินแล้วรมณ์ดี ผมเลยซื้อขนมหวานแบบไทยๆไปให้ มันชอบมาก ฝอยทองทั้งเปียกและกรอบ เม็ดขนุน แล้วก็ทองหยอด หม้อแกงสองถาด แล้วก็ขนมชั้น อ่อ ชาเขียวมะนาวอีกสองขวด
แค่นี้มันคงหายงอนผมแล้วแหละ
แต่ตอนนี้ผมกำลังจะงอนมันแล้ว
เชี่ย นั่งหน้าระรื่นม่อสาวน่ารักใหญ่เลย
นั่นไง มันหันมาเห็นผมแล้ว มีสะดุ้งนิดหน่อยแต่ก็ยังไม่ยอมลุกออกมา
ผมก็ไม่อยากเข้าไปคุยด้วย ไม่อยากขัดจังหวะ เลยเดินออกมานั่งข้างหน้า วางขนมที่ซื้อมาไว้ข้างตัว
นั่งอีกสักสิบนาที อ่อนก็ยังไม่ออกมา ติดลมมั้ง แต่เดี๋ยวมึงจะติดตีนกู คอยดู
"ขอโทษนะค่ะ ที่ตรงนี้ว่างมั๊ย?" อย่างแหล่ม
ผมยิ้มให้เธอ เธอก็ยิ้มตอบ ยิ่งแหล่มเข้าไปอีก ผมพยักหน้าให้เธอ
"ไม่ว่างครับ ทั้งคนทั้งเก้าอี้"
"เหรอค่ะ งั้นขอโทษด้วยคะ"
"ไม่เป็นไรครับ ที่ว่างไม่ค่อยมีเลย อืมมมมม งั้นเดี๋ยวคุณนั่งตรงนี้ก็ได้ ส่วนผมกับ
มัน จะไปหาที่นั่งตรงอื่น "
"ไม่เป็นไรค่ะๆ เดี๋ยวน้ำไปหาที่ตรงอื่นก็ได้ พวกคุณมาก่อน"
"ไม่เป็นไรครับ คุณเป็นผู้หญิง ลำบากกว่าพวกผม พวกผมยืนเอาก็ได้ ส่วนคุณยืนนานเดี๋ยวน่องโตไม่สวยกันพอดี ของผมน่องยิ่งโตยิ่งดี เตะทีได้น้ำหนัก " มองกูไม แล้วจะยืนคุยกันข้ามกูอีกนานมั๊ยครับ
"งั้นเรานั่งด้วยก็ได้นี่ค่ะ ที่ว่า'น่าจะพอ เดี๋ยวน้ำจะทำตัวเล็กๆค่ะ"
"ไม่ต้องทำก็ได้ครับ คุณน้ำก็ตัวเล็กอยู่ดี อ่อ เรียกว่าหุ่นดี ดีกว่า" ผมหยอดไปหนึ่งฮุกแถมเนียนด้วยการเรียกชื่อ แต่ได้กลับมาหนึ่งฮักเต็มๆที่หลัง จุกเลย
"กูเห็นแมงวันบนหลังมึง เลยตบให้ คุณนั่งเถอะครับ เรื่องแค่นี้เล็กน้อยมาก"
"นั่งด้วยกันก็ได้นะค่ะ" เออ ก็นั่งๆไปดิ คิดไรมาก ผู้หญิงเค้าชวนทั้งที เดี๋ยวเค้าจะคิดว่าเรารังเกียจ แย่เข้าไปอีก
"อย่าดีกว่าครับ ถ้านั่ง อาจมีคนถึงตายได้"
-
พูดจบมันก็เดินออกไปเลย ผมองตาม แต่ก็ยังนั่งที่เดิมอยู่ แถมยกขนมให้มีทีว่างสำหรับคุณน้ำนั่งได้ด้วย
"เชิญครับ"
"ไม่ตามเพื่อนไปเหรอค่ะ?" เธอถามพลางนั่งพลาง
"แฟนครับ"
"หืม?"
"มันเป็นแฟนผมเอง ไม่ใช่เพื่อนหรอกครับ" ผมบอกเธอยิ้มๆ
"น้ำขอโทษ น้ำไม่ทราบค่ะ" หน้าเธอเสียเลย คงคิดว่าทำให้ผมกับมันเข้าใจผิดกัน
"ไม่เป็นไรครับ เรื่องเล็ก คุณเดินทางคนเดียวก็ระวังตัวหน่อยนะครับ ขอโทษนะครับ ยิ่งหน้าตาแบบคุณยิ่งต้องระวังตัว" ผมหันไปมองทางที่มันเดินไปเมื่อกี้
"งั้นผมไปก่อนนะครับ โชคดี"
"โชคดีค่ะ แล้วก็ขอบคุณด้วย" ผมยิ้มให้ก่อนเดินไปหามัน
"อ่ะ หนม"
เงียบ
"ของโปรดมึงทั้งนั้นเลย"
เงียบ
มันไม่รับ ผมก็วางไว้ข้างๆตัวมันนั่นแหละ หยิบหมวกออกมาจากเป้ เพราะแดดเริ่มแรงแล้ว
"หื้ม?"
"ใส่ซะ แดดเริ่มแรงแล้ว"
"แล้วมึงอ่ะ?" มันจะถอดหมวกออก แต่ผมจับเอาไว้
"เพื่อคนที่กูรัก" ผมยักคิ้วกวนตีนใส่มันไปทีหนึ่ง ไม่รู้เพราะแดดร้อนหรือว่าเขินผมกันแน่ ผมเห็นแก้มมันเป็นสีขึ้นมา
"ดี งั้นยืนไปเลย ไหนหนมอ่ะ กูหิวแล้ว" เค้าเรียกกลบเกลื่อน
มันนั่งกินหนมไป ก็หลบตาผมไป พอมันยิ่งเขิน ผมก็ยิ่งแกล้ง เอาหน้ายื่นไปใกล้ๆมัน
ว่าไป ผมกับมันก็คบกันมาสี่ปีแล้ว แต่มันก็ยังเขินผมอยู่บ่อยๆ แต่ผมก็ชอบนะ ดูไม่กร้านโลกดี น่าดูแล น่ารัก แต่บางทีก็น่าโดนตีนบ้าง ดื้อเกิน
"จูน"
"อ่ะ อ้าว มิ้นท์" ถึงกับติดอ่าง เพิ่งคุยกันเมื่อกี้มีเรียกชงเรียกชื่อกันด้วย
มองกูไม
"มิ้นท์จะขึ้นรถแล้ว จูนคุยสนุกดี นี่เบอร์มิ้นท์นะ ว่างๆก็โทรด้วย "
"เอ่อ ๆ คือ คือ ว่า......."
"ครับ แล้วผมจะให้มันโทรไป" ผมยื่นมือไปรับกระดาษลายน่ารักที่ยื่นมาตรงหน้ามันแทน ถ้าไม่รับไว้เดี๋ยวผู้หญิงจะเสียน้ำใจเอา
"ค่ะ งั้นไปนะ " ผมพอจะทราบว่าอ่อนมันชอบผู้หญิงน่ารักแต่ดูห้าวๆหน่อย เพราะเห็นมันมองผู้หญิงสไตล์นี้บ่อยสุด แต่มันก็ทำได้แค่มองแหละครับ หึหึหึ รู้กันอยู่ว่าเพราะอะไร เพราะใคร
"อ่ะ เอาไป โทรหาเค้าด้วยละ " ผมยื่นเบอร์โทรนั้นให้มัน แต่มันไม่รับ
"รับมาเอง ก็โทรไปเองดิ" กล้าพูด
"เค้าอยากคุยกะมึง ไม่ใช่กู อีกอย่าง นั่นสเปคมึงไม่ใช่เหรอ?"
"ไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อย กูก็แค่"
"เออๆ กูเข้าใจ แฟนกูมันหล่อ น่าดู น่ามอง"
"มึงไม่โกรธนะ?"
"กูเคยโกรธมึงด้วยเหรอ?"
"ประจำ"
"พูดมาก อ่ะ น้ำ เดี๋ยวติดคอตาย"
ผมกับมันได้นั่งเบาะหลังสุด แบบเบาะยาวทีเดียว รถที่ผมนั่งเป็นรถตู้ขนาดเล็กจุแค่สิบสองคน แล้วที่นั่งเบาะหลังมันจะทรมานก็ตรงที่เด้งดึ๋งดีเหลือเกิน บางครั้งเด้งจนตัวลอยอ่ะ จะนอนก็นอนไม่ได้เพราะขยันเด้งเหลือเกิน
แถมที่ผมนั่งๆได้สี่คน และตอนนี้ก็เต็มอัตราศึก ดีหน่อยตรงที่เป็นผู้ชายทั้งหมด รถกระแทกทีหนึ่งก็เอนๆกันได้บ้าง ไม่ต้องเกร็งเหมือนนั่งกะผู้หญิง เพราะกลัวจะไปโดนส่วนที่ไม่ควรโดนของผู้หญิงเข้า มันนั่งติดหน้าต่างฝั่งซ้ายมือ ถัดมาก็ผม เด็กช่างมั้ง แล้วก็ผู้ชายวัยน่าจะทำงานแล้ว อายุน่าจะเยอะกว่าผมซักสองสามปีมั้ง
"โจ๊ก กูมึนหัว หัวกูหมุนติ้วๆเลย"
"จะอ้วกด้วยป่ะ?"
"ไม่รู้ มันมึนๆ หนักๆ"
"งั้นหลับก่อน"
"หลับไงอ่ะ "
"ซบไหล่กูนี่แหละ" มันไม่ตอบไร ผมเลยจับหัวมันให้ซบกับไหล่ผม อีกสองคนหันมามองด้วย ผมเลยหันไปยิ้มให้ทีหนึ่ง เรื่องของคนในครอบครัวครับ
มันก็หลับไปเลยเกือบชั่วโมง
"โจ๊ก กูจะอ้วก" หน้ามันดูผะอืดผะอมเอามากๆ ตานี่หยีเลย
"เดี๋ยวๆ กูหาที่รองก่อน" ผมรีบบอกมัน เพราะหน้ามันดูท่าจะไม่ไหวแล้ว ผมหาไม่ถนัดเพราะหัวมันยังพิงกับไหล่ผมอยู่เลย
"โจ๊....อ้วกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก โอ้กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" มันอ้วก จนหยุดอ้วก น้ำตานี่ไหลท่วมแก้มเลย ตาก็แดง แก้มก็แดง ผมอยากเช็ดหน้าให้มันด้วยมือของผมเองใจแทบขาด แต่ผมทำไม่ได้ เพราะ
"โจ๊ก มือมึงเลอะอ้วกกูเต็มหมดเลย" มันพูดพลางก็เช็ดปากด้วยมือมันเองนั่นแหละพลาง คนทั้งรถหันมามองกันที่ผมสองคน กลายเป็นจุดสนใจไปเลย แต่ผมไม่มีเวลามากพอที่จะสนใจคนรอบข้าง เพราะคนตรงหน้าน่าห่วงกว่าเยอะ
"แค่มือที่ไหนละ ทั้งเสื้อทั้งเกงกู โดนอ้วกมึงหมดเลย"
"ขอโทษ ก็ไม่ได้ตั้งใจซะหน่อย"
"ก็ยังไม่ได้ว่าอะไรนี่ครับ แล้วเป็นไงบ้าง ดีขึ้นยัง?"
"โล่งขึ้นเยอะ แล้วมึงคิดไงเอามือมารองอ้วกกู
รักกูมากอะดิ" ประโยคหลังนี่พูดเบาๆให้ได้ยินกันสองคนเท่านั้น คนบ้าไร แซวตัวเองก็เป็น แถมยังเขินเองด้วย
"คิดไม่ทันอ่ะดิ เห็นมึงอ้วก ตกใจหาอะไรไม่ทัน"
"ชิส์"
"พวกพี่เป็นไงบ้าง แวะห้องน้ำมั๊ย เดี๋ยวผมบอกคนขับให้"
"ขอบคุณมากน้อง ขอโทษด้วยเหม็นอ้วกกันทั้งรถเลย"
"คิดไรมากพี่ เรื่องอ้วกมันห้ามกันได้ที่ไหนละ"
"ขอบใจมากน้อง อ่อน แวะห้องน้ำหน่อยนะ มึงจะได้ล้างหน้าบ้วนปากซะหน่อย"
"อื้ม....ขอบคุณมากครับ" อ่อนมันหันไปพยักหน้าขอบคุณน้องเด็กช่าง
"เล็กน้อยพี่ พี่ๆเดี๋ยวแวะปั๊มหน่อยครับ มีคนจะเข้าห้องน้ำ" มันตะโกนซะรถแทบแตก แต่ก็ต้องตะโกนแหละเพราะพวกผมเล่นนั่งซะหลังสุด
"ได้ๆน้อง" ผมหันไปพยักหน้าขอบคุณน้องเด็กช่างอีกครั้ง
"เป็นไงบ้างมึง ดีขึ้นหน่อยมั๊ย ได้ล้างหน้าล้างตา"
"ดีขึ้นเยอะแล้ว มึงเหอะ รีบไปล้างตัวดีกว่ากลิ่นอ้วกหึ่งเลย" อ้วกมันแต่ดันไม่โดนมันซักกะติ๊ด แต่ผมกลับรับเต็มๆ
"เดี๋ยวกลับมาล้าง ไปซื้อทิชชูให้มึงก่อน"
"ขอบคุณนะ" ทุกครั้งที่อ่อนรู้สึกอยากจะขอบคุณอย่างจริงจัง มันจะพูดแบบนี้ทุกครั้ง ผมยิ้มแก้มแตกไปเลย
"ก็รักไปแล้วนี่ ทำไงได้" จีบแฟนตัวเองนี่ก็ให้ความรู้สึกแปลกๆดีนะครับ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
"เป็นไงบ้างพี่? ให้ผมช่วยไรมั๊ย?" น้องเด็กช่างคนเดิมนั่นเอง นี่ถ้าผมให้โล่น้องมันได้ ผมมอบให้เลย เด็กช่างแบบนี้ก็มีเยอะนะครับ แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเจอหรือเปล่าเท่านั้นเอง แล้วถ้าเจอจะเจอแบบไหน เพราะงั้นอย่าเหมารวมละกัน
"งั้นพี่รบกวนขอให้น้องอยู่เป็นเพื่อนมันหน่อย หน้ามันยังซีดๆอยู่เลย พี่จะไปซื้อทิชชู่ในเซเวนหน่อย"
"ผมไปซื้อให้ก็ได้นะ"
"พี่ไปเองดีกว่า ว่าจะซื้อไรมากินซะหน่อยด้วย"
"อ่อ ครับ"
"แล้วเราจะเอาไรบ้างละ พี่เลี้ยงขอบคุณ"
"งั้นผมไม่เกรงใจนะ ขอโค้กหนึ่งป๋อง แล้วก็หนมปังห่อหนึ่ง อ่อ เลย์สาหร่ายอีกถุงหนึ่งด้วย ถุงใหญ่นะ ขอบคุณครับ" มันยิ้มทะเล้นมาทีหนึ่ง นี่ดีนะที่มันบอกว่าไม่เกรงใจ ถ้ามันบอกว่าเกรงใจผมจะกระทืบมันซะที
ขึ้นรถคราวนี้ อ่อนมันหลับยาวตลอดทางเพราะผมซื้อยาเมารถมาให้ ไม่อยากเห็นมันทรมานตอนอ้วก ให้มันหลับไปเลยดีกว่า ยอมเมื่อยไหล่หน่อยหนึ่ง ดีกว่าเห็นมันอ้วกจนหน้าดำหน้าแดง
"พี่สองคนเป็นแฟนกันเหรอ?"
"อืม"
"ผมว่าแล้ว เห็นพี่ดูแลพี่อีกคนหนึ่งดีเหลือเกิน ขนาดเอามือรองอ้วกให้ สุดยอดไปเลยพี่" ไม่ใช่ไรหรอก ตอนนั้นกูคิดไรไม่ทัน ตกใจ
"ยังไงก็ขอบใจนะ"
"เล็กน้อยพี่ แต่พวกพี่สองคนดูยังไงก็ไม่เห็นจะเหมือนกะเทยเลย"
"ก็พวกพี่ไม่ใช่กะเทย"
"อ้าว แล้วพวกพี่เป็นไรอ่ะ เพื่อนผมก็มีนะแบบนี้ แต่ผมเห็นมันกรี๊ดกร๊าดเสียงดังน่ารำคาญ ไม่เห็นแมนแบบพี่สองคนเลย" มึงมาจากดาวอังคารเหรอ ถึงไม่รู้จักเกย์
"เกย์มั้ง เห็นใครๆก็เรียกกันแบบนี้ " ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่เคยนิยามในสิ่งที่ผมเป็น ในสิ่งเราเป็น
"แต่แฟนพี่น่ารักจริงว่ะ พี่เองก็หล่อนะ " มีว้งมีวะแล้วเว่ย
แล้วผมกับมันก็คุยกันมาตลอดทางจนถึงที่มันต้องลง มันลงก่อนผม
"พี่โจ๊ก ผมไปนะ "
"อืม ขอบใจอีกครั้ง"
"ขอดูหน้าแฟนพี่ใกล้ๆแทนได้ป่ะ?"
"เดี๋ยวกูเตะกลิ้ง ลงไปเลยมึง"
"ฮ่าๆๆๆ ขี้หวงวะ แต่ก็หวงได้แหละ น่ารักซะขนาดนี้" คือคุยกันมาตลอดทาง เลยสนิทกันไปเลย มันชื่อบอย เรียนช่างปวส.1
เด็กกว่าผม 2 ปี
"อ่อนๆๆ ถึงแล้วมึง ลงกัน" ผมตบแก้มมันเบาๆปลุกให้ตื่น
"อื้มมมมม" อีกและ
"ตื่นดิ เดี๋ยวกูทิ้งไว้บนรถเลยนิ"
"อื้มมมม" ผมผลักให้มันออกจากบ่าผมจะได้เก็บกระเป๋าให้เรียบร้อย สะพายของตัวเองเสร็จ ก็
"อ่ะ นี่เป้มึง สะพายเองด้วย"
"ถือให้หน่อย หนัก" ดูมันๆ แต่ผมก็ยอมถือให้เพราะเห็นว่ามันยังมึนๆอยู่ สงสัยฤทธิ์ยายังไม่หมด เพราะอยู่ได้ถึง 12 ชั่วโมงมั้ง ใช่เปล่า อันนี้ผมไม่ชัวร์
นั่งวินกันมาจนถึงบ้านมัน ตอนแรกว่าจะนั่งกันมาคนละคัน แต่ไอ้นี่จะหลับตลอด เลยอัดคันเดียวมานั่นแหละ
จ่ายค่าโดยสารเสร็จผมก็เปิดประตูรั้ว ไอ้นี่ก็จะหลับตลอด ยืนคอตกเป็นไก่โดนโรคไปได้
"หวัดดีครับพ่อ หวัดดีครับแม่"
"อ้าว โจ๊ก หวัดดีลูก แล้วไหนบอกแม่ว่าจะมาถึงกันตอนสายๆ นี่มันบ่ายไปแล้วนะ พ่อแม่กำลังเป็นห่วงอยู่พอดี โทรไปก็ไม่รับ"
"เมื่อเช้าตื่นสายกันนะครับแม่ อีกอย่างวันนี้คนเยอะเลยรอรถนานไปหน่อย"
"จ๊ะๆ มาถึงปลอดภัยก็ดีแล้ว แล้วนี่หิวกันมั๊ย เดี๋ยวแม่ไปอุ่นกับข้าวให้"
"แล้วนั่นจูนเป็นไร พ่อเห็นไม่พูดไม่จา ก้มหน้าตลอดเลย"
"อ๋อ มันเมารถนะครับ ผมเลยให้มันกินยาแก้เมาไปเม็ดหนึ่ง สงสัยฤทธิ์ยายังค้างอยู่"
"งั้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันก่อนไป เดี๋ยวแม่อุ่นของกินไว้ให้"
"ครับ'
“เป็นไงบ้างครับ? ตื่นมาอาบน้ำไหวมั๊ย?” ผมปล่อยมันนอนยาวบนเตียง ส่วนผมก็เตรียมผ้าเช็ดตัว เสื้อผ้าชุดใหม่ไว้สำหรับผมและมัน
“โจ๊ก มึนหัว มันหนักๆ”
“ยังปวดมากอีกเหรอ?” ผมวางสิ่งที่กำลังทำแล้วเดินไปนั่งข้างๆมัน
“มันหนักๆ แต่ไม่ปวด”
“ตรงไหน?”
“ทั้งหัวเลย”
“มา เดี๋ยวช่วย” ผมก้มลงจุ๊บปากมันไปทีหนึ่ง
“มั่วแล้วมึงอ่ะ กูมึนหัว ไม่ใช่ปวดที่ปาก” แต่เมื่อกูก็เห็นว่ามึงให้ความร่วมมือนะ
“แล้วช่วยได้มั๊ยละ?”
“ก็ นิดนึง” ฮ่าๆๆๆๆๆ มันเอาผ้าห่มคุลมปิดทั้งหัวเลย
“มา คราวนี้ช่วยจริงๆแล้ว ”
“จริงนะ?”
“จริงดิ” นั่นแหละมันถึงยอมมุดหัวออกมาจากผ้าห่มได้
ผมก็ไม่ได้ทำไรมากหรอก ไม่ใช่หมอนิ ทำได้แค่ลูบๆหัวมันไปมา เหมือนที่เคยทำทุกครั้งเวลามันไม่สบายแล้วไม่ยอมไปหาหมอ
“ดีขึ้นยัง?”
“ยังเลย”
“งั้นไปหาหมอกันดีกว่า”
“ไม่ไป”
“แล้วเมื่อไรจะหาย ถ้าเป็นมากกว่านี้จะทำไง”
“มันเป็นอาการปกติของคนกินยาเมารถเว่ย มันจะมึนๆ หนักๆแบบนี้แหละ ต้องนอนให้เต็มอิ่มนั่นแหละ มันถึงจะหาย มึงนี่ขี้โวยวายจริง อาบน้ำก็ดีขึ้นแล้ว” ก็กูไม่รู้นิ
“งั้นอาบน้ำกัน?”
“อาบให้ด้วยนะ”
“อ่อยกันป่ะเนี่ย”
“มึงนี่หื่นขึ้นหน้าแล้วนะ”
“ไปๆ เลิกเล่นได้แล้ว พ่อแม่คอยอยู่”
“ตกลงอาบให้กูนะ”
“กูมีทางปฏิเสธงั้นสิ”
“ไม่มี” ผมก็ยอมมันตามเคยนั่นแหละ ขี้เกียจเถียงด้วย เหนื่อย
“เป็นไงบ้างจูน ดีขึ้นยังลูก?”
“สวัสดีครับพ่อ สวัสดีครับแม่ ดีขึ้นแล้วครับ ได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ สดชื่นขึ้นเยอะ”
“นั่งลงๆลูก จะได้กินข้าวกัน”
“ของโปรดผมทั้งนั้นเลย”
“แม่ก็ทำไว้ให้เราทั้งสองคนนั่นแหละ ทำไว้ตั้งแต่มื้อเช้า แต่กว่าจะได้กินเกือบมื้อค่ำ กินๆ อย่าพูดมาก”
“แล้วนี่โจ๊กจะกลับบ้านหรือว่านอนนี่ลูก?”
“ผมคงกลับบ้านนะครับแม่ คิดถึงพ่อกับแม่เหมือนกัน”
ผมหันไปมองหน้ามัน เพราะตลอดที่ผ่านมาเราอยู่ด้วยกัน กินด้วยกัน นอนด้วยกันตลอด แต่สองสามวันนี้ มันต้องอยู่กับพ่อแม่มัน ผมเองก็ต้องอยู่กับพ่อแม่ผมเหมือนกัน แต่มันก็ดูจะเข้าใจ ไม่เห็นโวยวายหรือทำหน้าไม่พอใจ แถมยังยิ้มให้ด้วย
“ให้กูไปส่งมั๊ย?”
“มึงไปนอนพักเหอะ เดี๋ยวกูนั่งวินไปได้”
“งั้นเอารถกูไปใช้ดิ”
“ไม่ดีกว่า เผื่อมึงอยากเอาไปแวนซ์บ้าง”
“ตามใจ โทรหากูด้วยละ”
“ถ้าไม่โทรละ?”
“ก็ลองดู ไปได้แล้ว กูจะนอน อ้อ อย่าไปเสะแถวไหนต่อละ เดี๋ยวกูโทรเข้าบ้านแล้วไม่เจอมึง มึงอาจตายได้” โหดตลอด
“ครับๆๆๆ กลัวแล้ว จูบหน่อย”
“ทะลึ่งแล้วมึง เดี๋ยวฟ้าก็ผ่าหรอก กลางแจ้งซะขนาดนี้”
“ถ้าในที่ลับ หมายความว่ายอม”
“จัดไป ฮ่าๆๆๆๆๆ” มันพูดเองก็ขำเอง
“สวัสดีครับพ่อ สวัสดีครับแม่”
“จ๊ะลูก แล้วไหนบอกแม่ว่าจะมาตอนเช้าๆไง หรือว่าไปเล่นบ้านโน้นมา”
“เปล่าครับ ก็เพิ่งมาถึงนี่แหละ แต่ไปแวะบ้านโน้นมาแป๊บหนึ่ง พอดีเมื่อเช้าตื่นสายกันอ่ะครับ คนก็เยอะ เลยรอรถนานมากกกกกกกกกก”
“แล้วกินไรมายัง?”
“ผมกินมาจากบ้านโน้นแล้วครับ”
“เป็นไงคุณ ผมบอกแล้วว่าเจ้าโจ๊กมันต้องไปบ้านโน้นก่อนอยู่แล้ว กับข้าวคุณเป็นหมันเลย” แป่ว
“พอดีอ่อนมันไม่ค่อยสบายนิดหน่อย ผมเลยพามันไปส่ง แล้วก็อยู่กินข้าวเป็นเพื่อนมัน ”
“อ้าว แล้วจูนเป็นไรมากเปล่าลูก”
“มันเมารถอ่ะแม่ ไม่เป็นไรมากหรอกครับ แม่” ผมเดินเข่าไปกอดแม่และหอมแก้มแม่เอาดื้อๆ เล่นเอาแม่ถึงกับงงไปเหมือนกัน
“จะมาอ้อนอะไรแม่อีกละพ่อตัวดี จะให้ไปขอสาวหรือหนุ่มที่ไหนอีกละ”
“โหแม่ ดูพูดเข้า ผมก็มีแค่หนุ่มนั่นคนเดียวแหละครับ”
“แม่จะไปรู้ได้ไง ก็เห็นร้อยวันพันปี ไม่เคยมาอ้อน”
“เปล่าอ้อนซะหน่อย แค่รักแม่ ไม่ได้รักแค่วันแม่นะ รักทุกวันเลย หอมหน่อยๆ ” ผมหอมแก้มไปหลายฟอดเลย ชื่นใจ
“เบาๆหน่อยโจ๊ก แก้มแฟนพ่อช้ำหมด”
“แฟนพ่อแต่แม่ผมนิ”
“แม่แก แต่เมียพ่อ”
“โอเคครับคุณพ่อ อ่ะแม่กลับไปหาแฟนแม่เหอะ ขี้หวงเวอร์ ”
“เล่นไรกันพ่อลูกคู่นี้ แม่เขิน ไม่มีผู้ชายมาแย่งแม่กันแบบนี้นานแล้ว นะ รู้สึกสดชื่นจัง” แม่ผมไปแล้วครับ
“แม่ งั้นผมไปกินข้าวก่อนนะครับ”
“กินมาแล้วไม่ใช่เหรอโจ๊ก พ่อเค้าพูดเล่นนะ อย่าคิดมาก”
“ผมเผื่อท้องไว้แล้วครับ” ผมทำแบบนั้นจริงๆนะ เพราะผมรู้ว่ายังไงที่บ้านผม แม่ก็ต้องทำกับข้าวไว้รอเหมือนกัน
มื้อเย็นผมก็ลงมาช่วยแม่ทำกับข้าว ส่วนพ่อก็ไปดูแลลูกรัก ต้นไม้นั่นแหละที่เรือนเพาะชำหลังบ้าน ไม่เกิน สองปี บ้านต้องกลายเป็นสวนพฤษศาสตร์แน่เลย กับข้าวเสร็จ ผมก็ไปตามพ่อมาทานข้าวพร้อมกัน
“พ่อครับ ทานข้าวได้แล้ว”
“พ่อเห็นแกมีความสุข พ่อก็ดีใจ” มามุขไหนของพ่อเนียะ
“พ่อดีใจ ผมก็มีความสุขเหมือนกันครับ”
“โจ๊ก แล้วจูนไม่มาบ้านเราบ้างเหรอลูก”
“ไม่รู้มันเหมือนกัน ไม่เห็นมันพูดไรเลย”
“คุณก็ จูนมันก็อยากอยู่กับครอบครัวมันบ้างสิ ” ผมก็คิดเหมือนพ่อนั่นแหละ
“แม่ก็ยังไม่ได้ว่าไรซะหน่อย แค่ถามดู” ผมกินข้าวมื้อนี้ มันอิ่มๆ จนไปถึงใจเลย มันคนละความรู้สึกกับตอนที่กินข้าวกับคนรัก มันอธิบายไม่ถูก แต่รู้สึกและสัมผัสได้
กินกันเสร็จผมก็ขอจัดการเรื่องเก็บกวาดเอง
แม่จะไม่ยอม แต่ผมบอกอยากทำจริงๆ นั่นแหละถึงยอม
อาบน้ำไรเสร็จก็มานอนกลิ้งบนเตียง แล้วก็โทรหามัน
“อาบน้ำยัง?”
“อาบแล้ว”
“แปรงฟันยัง?”
“แปรงแล้วคร้าบบบบบบบคุณ” ฮ่าๆๆๆๆ อยากจีบแฟนตัวเองโว้ยยยย
คุณกันสัพเพหาสาระไม่ได้หรอก แค่อยากคุย อยากได้ยินเสียงเฉยๆ
จนได้ยินมันหาวนั่นแหละ
“พรุ่งนี้ให้ไปหามั๊ย?”
“ไม่ต้อง กูมีนัดแล้ว”
“นัดไร นัดกะใครอีก”
“ไม่ต้องมาเสียงแข็งใส่กูเลยมึง บอกไปมึงก็ไม่รู้จักหรอก”
“ตามใจๆ แสดงว่าพรุ่งนี้มึงจะไม่อยู่บ้าน”
“ใช่ เจอกันวันจันทร์ทีเดียวเลย ไปเจอกันที่คิวรถเลยนะ เดี๋ยวกูไปเอง” ไอ้นี่ทำตัวน่าสงสัย แต่ก็ดี ผมจะได้ทำไรที่ตั้งใจเอาไว้สะดวกหน่อย