คิดถึงงงงง ที่นี้เป็นที่สุด
ไม่ได้แวะมานานสำหรับที่นี่ เพื่อนคงลืมผมไปแล้วเพราะว่าผมเงียบไปเกือบครึ่งปีได้ ผมไม่ได้ไปไหนหรอกผมแค่หลบไปอยู่ที่ ที่ผมควรจะไป แต่ก็ช่างมัน
มันผ่านมาแล้ว แล้วผมก็ทำใจได้แล้ว
ครึ่งปีที่ผ่านมามันเป็นอะไรที่ผมไม่อยากรู้จักใคร ผมลาออกจากงานทั้งที่เพิ่งทำได้แค่เดือนกว่า ทั้งที่เป็นงานที่ผมเองคิดว่าสบายได้เงินดี เพื่อนทำงานก็ดีแต่สภาพจิตใจมันกลับแย่ เพราะมีแต่เรื่องวุ่นวายให้ผมต้องขอเดินออกมา 1 ก้าวแล้วถอยห่างจากทุกคนที่ผมรู้จัก กลับไปทบทวนชีวิตว่าตัวผมเองต้องการอะไรกันแน่ผมรู้สักอึดอัดกับสิ่งที่ผมเก็บไว้ตั้งกว่าครึ่งปี ผมลืมวันลืมคืนไม่อยากจำ ผมได้แต่ทำงานใหม่ที่ห่างไกลผู้คน ไม่ต้องรู้จักใครมาก
ผมขอระบายความรู้สึกที่อัดอั้นหน่อยครับ อย่าคิดว่าผมเป็นคนเก็บกดนะแต่ผมไม่รู้จะพูดกับใคร ตอนนั้นเพื่อนคนสนิทผมบวช(คิมหันต์) และสึกออกมาผมไปรับที่เพชรบูรณ์กะว่าจะไปแสดงความยินดีกับมันหลังจากที่บวชเสร็จแล้วได้เบียดกับน้องหมวยหน้าตาดีตอนที่ผมไปผมเจตนาดีหวังว่าเพื่อนผมคงจะทำใจได้แล้วเพราะเพิ่งบวชมาตั้ง 1 พรรษากว่าๆ ครั้งแรกที่ผมเห็นคิม ผมยิ้มให้แล้วกวักมือ แต่แทนที่มันจะเดินเข้ามาหาผม คิมกลับเข้ามากอดผมซะผมตกใจ ผมตกใจจริงๆ เพราะว่าเพื่อนผมมันร้องไห้ ผมได้แต่งงกับสิ่งที่มันเกิดผมได้แต่เอามือลูบหลังและถามเบาๆว่าเป็นอะไรแต่ทุกครั้งที่ผมถามคิมก็กอดผมแน่นขึ้นเรื่อยๆ จนผมต้องละแขนออกและแยกคิมออกจากตัวผม คิมผอมไปมากแก้มตอบลงและคล้ำมากขึ้น
""""""" คิมเป็นอะไรว่ะทำยังกับไม่เคยเจอกู ซึ้งในรสพระธรรมล่ะสิมึง ยิ้มหน้าบานเลย (ผมหยอกคิมเผื่อมันจะหยุดทำหน้าที่ผมไม่อยากเห็น)ผมพูดต่อ ไปพล่ามไปเรื่อยจนพูดว่า
~~~ หยุดสักที โน๊ตนายหยุดสักที ผมนิ่งและสงสัยผมจ้องแววตาที่ตอนนี้ดูสับสนและร้อนรน
~~~ โน๊ตหากสมมุติว่าเรากำลังแข่งขันวิ่งกันอยู่ซึ่งอีกไม่กี่เมตรนายก็จะถึงวิ่งเข้าเส้นชัย และถ้าเราเป็นคู่แข่งนายแล้วเกิดล้มจนวิ่งเข้าเส้นชัยไม่ได้นายจะทำยังไงนายจะวิ่งเข้าเส้นชัยแล้วทิ้งเราให้เราเจ็บปวด หรือนายจะช่วยเรา นายบอกเราทีโน๊ตเราอยากรู้
"""""" ไม่รู้สิเพราะไม่เคยวิ่งแข่งชนะใครสักที แต่ถ้าคนคนนั้นเป็นนายเรื่องชนะคงไม่คิด ถ้าจะเข้าเส้นชัยก็ต้องไปด้วยกันจะทิ้งเมิงได้ไงเพราะเรื่องชนะคงไม่มีสำหรับกูอยู่และ แข่งอะไรแพ้ตลอด ผมหัวเราะกลบเกลื่อน คิดโผเข้ามากอดผมอีกรอบแต่รอบบนี้ดูเหมือนว่าผมก็กอดมันแบบความรุ้สึกอยากจะกอด แต่ผมไม่ได้เหลือบมองเห็นว่าคนใส่ชุดดำ ท่าทางเหมือนตำรวจมายืนตั้งแต่เมื่อไหร่
,,,,,คุณคิมครับ เตี่ยคุณคิมเรียกแล้วครับท่านให้ผมมาตาม
~~~ ไปเรียกเตี่ยมาให้เราหน่อยเรามีเรื่องจะคุยกับเตี่ยถ้าเตี่ยไม่มาเราก็จะไม่ไปจะกลับไปนุ่งผ้าเหลืองตลอดชีวิตฝากบอกเตี่ยด้วย
ผมตกใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะผมไม่รู้ต้นสายปลายเหตุว่าเกิดอะไรขึ้น ผมได้แต่นึกฉงนในใจแต่ก็ไม่ได้ถามคิมได้พูดปลอบไปว่ามีอะไรก็ค่อยพูดกันคิมจับมือผม มือคิมเย็นมากและมีเหงื่อไหลออกมาจนผมรู้เลยว่าอาการแบบนี้มันเป็นอาการของคนตื่นกลัวหรือกำลังหนักใจอะไรอยู่สักครู่เดียวเตี่ยของคิมเดินมาแต่ให้ลูกน้องอยู่ห่างจากที่ผมยืนอยู่กับคิมประมาณ 10 เมตรได้บรรยากาศมันอึมครึมมากแต่ก็ไม่มีใครเริ่มประเด็นต่างกันต่างมองกัน จนคิมละจากมือผมไปจับมือเตี่ย
~~~ เตี่ย คิม ขอโทษ เตี่ยนะ แต่คิมทำอย่างที่เตี่ยให้คิมทำไม่ได้ เพราะว่า คิมหันมามองหน้าผมและหยุดที่จะพูดต่อ จนผมเริ่มรู้สึกว่ามันไม่ได้แต่แล้วสิ่งที่ผมได้ยินมันกลับทำให้ชีวิตของเกือบจะไม่ได้มาพิมพ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ~~~ เตี่ย คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเตี่ยคือคนที่คิมรักมากที่สุด ยังไม่ทันขาดคำ ผลั้ว!!!! ดังสนั้นมากจนผมยืนอึ่ง เตี่ยคิมตบคิมแทบไม่ต้องพูดเลยว่าแรงแค่ไหน เตี่ยคิมหันมามองผมแล้วชี้หน้า พร้อมพูดกับคิมว่า เมิงคิดว่าไอ้นี่สำคัญมากกว่าเตี่ยหรือ!!!! เตี่ยคิมชี้มาที่ผม """"" เคยบอกรื้อแล้วนะว่าให้เลิกยุ่งกับลูกอั้ว รื้อไม่ฟังอั้วให้เงินก็ไม่เอาจนลูกอั้วไปแบบนี้ เฮ้ยมาเอาตัวคุณคิมไป ผมได้แต่อึ่งกับเหตุการณ์ที่เกิดในใจผมสงสารคิมมาก และเกลียดตัวเองที่ไม่ยอมหยุดคิดว่าคิมคงคิดแค่เพื่อนตัดใจได้ ทำใจได้แล้วแต่มันไม่ใช่ยิ่งผมไปเยี่ยมไปหา แสดงความห่วงใยมันเหมือนยิ่งผูกคิมไว้กับผมแน่นขึ้น ผมทำได้แต่เสียใจกับการไม่พูดอะไร
~~~ โน๊ต บอกเตี่ยไปสิว่าโน๊ตรักคิม เราอยู่ด้วยกันได้ ให้คิมอยู่กับโน๊ตนะ ไปทำงานที่ไหนก็ได้นะ คิมไม่อยากได้สมบัติของเตี่ยหรอก เตี่ยยกให้ใครก็ได้ โน๊ตให้คิมไปด้วย คิมได้ออนวอนให้ผมพาไปด้วยแต่มันเป็นไปไม่ได้เพราะผู้ชายสองคนที่มากับเตี่ยคิมลากคิมขึ้นรถและล็อคประตูและเตี่ยคิมก็หันหลังกลับไปที่รถและจากไป เรื่องทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วจนผมแทบคิดไปว่ามันฝันหรือเปล่าแต่นั้นคือความจริง
ผมเดินออกมาจากวัดได้ประมาณครึ่งชั่วโมง ผมนั่งอยู่ศาลาพักเพื่อทบทวนตัวเองว่าจะทำยังไงต่อไป ทั้งที่ตอนนั้นมันมืดไปหมด ผมกำลังทำให้เพื่อนรักลำบากผมนั่งได้ไม่นานก็นั่งรถขึ้นมาเพื่อจะไป ท่ารถกลับนครสวรรค์ แต่สิ่งที่ผมไม่คาดคิดอีกเรื่องคือ ลูกน้องเตี่ยคิมดักรอผมที่ท่ารถ และลากผมไปขึ้นรถ ผมกลัวมากตอนนั้นนึกว่าตัวเองจะไม่รอด คิดไว้แล้วว่าไม่โดนเก็บก็ต้องมีอะไรให้ตกลง ผมเจอเตี่ยคิมในที่ผมไม่คุ้นเหมือนกับรีสอร์ทที่ปลูกบนตีนเขาที่ไหนที่ผมไม่เคยไป ผมยังไม่ทันพูดอะไร พ่อคิมเข้าตบผมจนผมหน้าชาและรู้สึกว่าปากของผมจะโดนฟันจะเลือดกลบปาก
;~~ รื้อเป็นใครว่ะ กล้ามากที่มาหยีบหน้าคนอย่างอั้ว และที่ตามมาคือมือและตีนที่ทยอยเข้ามาใส่ตัวผม ตอนนั้นรู้สึกชาไปทั้งตัว แก้มทางด้านซ้ายผมรู้สึกว่ามันจะบวมจนมันนูนจนที่สามารถเห็นด้วยสายตาของผมเอง ผมไม่กลัวตายแต่อยากให้เขาฆ่าผมให้ตายไปเลยดีกว่า อย่ามาทรมานผมแบบนี้เลย หลังจากที่ทำผมจนซะใจของเขาแล้ว ผมได้แต่ลืมตาที่ตอนนั้นแทบจะปิดแล้วด้วยซ้ำ เลือดที่ไหลจากปากและจมูกมันย้อยตกพื้นจนดูเหมือนว่าใครเอาสีหยดเป็นจุดๆ แต่ต่างที่มันคือเลือดของผม เตี่ยคิมนั่งลงเหมือนว่าจะเหนื่อย
~~~ รื้อกินเหล้ากับอั้วไหม อั้วเครียด เตี่ยคิมรินเหล้าใส่แก้วแล้วสาดเข้ามาที่หน้าผม ทรมานมากครับตอนนั้นมันแสบซะจนผมต้องร้องโอดครวญ แสบจนแทบอยากสลบไปไม่รู้สึกอะไร หรือตายไปเลยก็ได้ มันคงจะดีกว่านี้ ~~~อั้วให้โอกาสรึ้ออีกครั้งไปจากลูกอั้วซะอย่าให้อาคิมเห็นอีก ไม่งั้นอั้วจะส่งรื้อไปคุยกับโครตรึ้อในนรก ไอ้เก๋าจิ้ง ปั้ก!!! เตี่ยคิมลุกคนมาเตะที่ลิ้นปี่ผมจะผมรู้สึกว่าจุกมากเหมือนหายใจไม่ออก มารู้ตัวอีกทีอยู่ที่ท่ารถ คนมุงดูผมเต็มไปหมดคงคิดว่าผมตายแล้วแต่เมื่อตำรวจมาถึงถามว่ามีใครเห็นคนมาทิ้งผมไหมปรากฎว่าไม่มีใครเห็น แต่ความจริงทุกคนรู้ว่าใครแต่ไม่มีใครพูด ตอนนี้ผมเจ็บมาก ผมไอจนเป็นเลือด นั้นคงเพราะช้ำใน พรุ้งนี้มาต่อนะครับผมยังเล่าไม่จบเลยครับ (ปล.คิดถึงเสมือคิมหันต์)