Imprison 28: คนสำคัญ (อ่านทอล์คด้วยน่ะจ๊ะ )
“..เจ็บมั้ย?..” มือหนาแนบแก้มเบาพร้อมกับผ้าขาวที่ถูกส่งให้ ทำให้คนตัวเล็กที่นั่งเงียบหันมามอง เมฆมองหน้าคนที่ยื่นมือมาหา ก่อนจะถอนใจ..
“..นิดหน่อย” เขาตอบอย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่นัก ไอ้เรื่องชกต่อยกันมันก็เป็นเรื่องปกติ จะต่อยใครหรือโดนใครต่อย มันก็เป็นเรื่องที่เขาเจอประจำอยู่แล้ว..
“..ดันมาซ้ำแผลเก่าซะได้ “ กันย์บ่นลอยๆพลางมองใบหน้าหวานที่ฟกช้ำไปด้วยร่องรอยต่างๆ ทั้งรอยหมัดและรอยเลือด.. เขาลุกไปค้นอุปกรณ์ปฐมพยาบาลในห้องหาหยุกยาที่พอจะรักษาแผลบนใบหน้านั้นได้
“..เหอะ....ก็เพราะใคร ไม่ใช่น้องชายสุดที่รักรึไง..” เมฆบ่นลอยๆ เอนตัวพิงพนักเก้าอีกแล้วมองร่างสูงที่กำลังหยิบจับอุปกรณ์ทางการแพทย์อยู่ นัยน์ตาเขาหรี่ลงน้อยๆเมื่อเห็นว่าร่างนั้นถอนใจเฮือก..
“..ใครกัน สุดที่รัก ไม่เห็นรู้จัก..” คนโดนกระทบกระเทียบทำหน้าไม่สนใจ ก่อนจะวางอุปกรณ์ลงบนโต๊ะข้างๆ แล้วเริ่มลงมือทำแผลให้กับคนที่ชอบหาเรื่อง
“..ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ชอบหาเรื่องตลอดเลยน่ะ..แต่ไหนแต่ไรมาล่ะ.. “ กันย์บ่น พลางเช็ดใต้ดวงตาที่มีรอยเขียวคล้ำด้วยท่าทีอาดูร..
เขายิ้มน้อยๆยามนึกไปถึงวันที่เด็กชายตัวน้อยร้องไห้โยเยยามถูกเพื่อนแกล้งแล้ววิ่งมาหา”พี่ชาย”ให้เขาทำแผลให้เจ้าตัวประจำ จนกลายเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจที่ทำให้เขาคิดอยากจะเป็นหมอ
แต่คนฟังกลับนิ่ง..
“..แล้วไง...” เมฆขมวดคิ้วใส่อย่างไม่พอใจ “..อย่ามาพูดเรื่องเก่า ไม่ชอบ..”
“..ก็ได้ๆ...” รับปากแล้วไล้รอยแตกบนริมฝีปากเล็ก รอยเลือดสีสดเลอะบนเรียวปากยังส่งเห็นจางๆทำให้อดสงสารไม่ได้ มองแก้มที่เคยขาวใสน่ารัก บัดนี้มันกลายเป็นสีเขียวเข้มปนม่วง ฟกช้ำและบวมเป่งไปหมดอย่างน่าอดสู
สบตาคู่โตที่มองตรงมาก่อนจะก้มลงไปหา ประคองใบหน้าที่เจ็บช้ำนั้นอย่างเบามือราวกับมันจะแตกสลาย..ก่อนจะแลบเรียวลิ้นออกมาแตะกลีบปากที่แตกระแหงเบาๆ ส่งความอ่อนโยนคล้ายจะปลอบประโลมให้คลายความเจ็บ..และค่อยๆไล้วนบนริมฝีปากแดงจัดแม้ในใจอยากจะขบกัดให้สมกับความปรารถนาแต่เพราะรู้ว่าเจ้าตัวยังเจ็บ จึงได้แต่ไล้เบาๆไม่ได้รุกล้ำแต่อย่างใด ขณะที่เจ้าตัวเล็กนิ่วหน้าสะดุ้งนิดๆ..
“..อือ.....”ครางพ้ออกมาเบาๆเพราะมันเจ็บแปลบ..แม้ปะปนกับความนุ่มหวานๆที่ล่อลวงให้เขาเคลิ้มตามได้ไม่ยาก แต่ความเจ็บระบมที่มากขึ้นเมื่อคนตรงหน้าเริ่มละโมบเหมือนจะกลืนกินริมฝีปากของเขาให้สม อยากทำให้เมฆต้องตีแขนหนาแรงๆให้เจ้าตัวผละออก..
“..เจ็บ...” บ่นแล้วยกแขนทาบปากที่แดงเห่อ ก้มหน้างุดซ่อนหน้าที่แดงไม่แพ้กันอย่างรวดเร็ว
“..ขอโทษๆ..ไม่ทำแล้ว...รอหายก่อนดีกว่า..” รับคำพลางดึงแขนเจ้าตัวเล็กออกจากใบหน้า แล้วยิ้มตาใสเสียจนคนจะพาลโกรธไม่ลง..
“...เหอะ....” ก็เลยได้แต่บ่นงึมงำไปตามเรื่อง..
นั่งมองคนที่ก้มหน้าก้มตาทำแผลให้ด้วยสีหน้าจริงจังแบบนั้นแล้วก็ได้แต่เงียบ เมฆลอบกวาดตามองไปทั่วๆห้องพยาบาล ก็เห็นแต่อุปกรณ์ทำแผลกับยาชนิดต่างๆเท่านั้น แอบเห็นแฟ้มบันทึกอาการเจ็บป่วยของนักโทษเปิดทิ้งไว้..และขมวดคิ้วเมื่อเห็นรายชื่อหนึ่ง..
“..มันเป็นอะไร?..”
“ใครเหรอ?..” ถามพลางค่อยๆกดปลาสเตอร์ปิดแผลบนดั้งจมูกอย่างเบามือ
“..ไอ้วิทย์..”
“..ขาเจ็บมั้ง..เอาขาไปให้อะไรบาดไม่รู้ ลึกพอดูเชียว นี่ยังไม่ได้ตรวจดูเลย ไม่รู้จะหายรึเปล่า..” กันย์บอกพลางหันไปเก็บแฟ้มไว้ในลิ้นชัก หันไปทางเมฆที่ทำแผลเสร็จแล้วและกำลังนั่งเงียบ.. “ ทำไมเหรอ?..”
“..ก็รู้อยู่นี่ ว่ามันคิดยังไง?..” เจ้าตัวว่า ทำเสียงขึ้นจมูกอย่างไม่พอใจ
“..มันไม่ใช่เรื่องที่พี่ต้องสนใจซักหน่อย.. “ กันย์ลากเก้าอี้มานั่งประจันหน้าเจ้าเด็กน้อยขี้อิจฉา สบตาอย่างไม่ระหยี่..
“..เหรอ...ก็แน่สิ พี่ก็อ่อยแบบนี้ไปเรื่อยๆจะได้ประโยชน์ทั้งขึ้นทั้งล่องสิน่ะ!!! “ เจ้าตัวถลึงตาแล้วพูดเสียงดัง “ ..ทำเป็นสุภาพบุรุษ คอยดูแลอย่างนู้นอย่างนี้ คลื่นไส้...”
“..นี่....” คนเป็นหมอหรือเคยเป็นหมอ ท้วงขึ้นมาเบาๆ..
“..อะไร !! “ รับเสียงห้วนแล้วถลึงตาใส่อีกรอบ
“..หึงก็บอกมาสิ..”
“ ไม่ใช่เรื่องนั้นซะหน่อย !! “ แว้ดขึ้นมาแม้ใบหน้าจะแดงก่ำ แล้วละล่ำละลักว่าต่อไปทันควัน “ ไอ้คนทำน่ะไม่คิด แต่คนคิดน่ะก็รู้อยู่ ซักวันเหอะจะเจอดี “
“ ไม่เห็นจะต้องสน..” กันย์ตอบเรียบๆ แล้วพูดต่อทันทีเมื่อคนตรงหน้าทำท่าจะเถียง “ คิดแล้วยังไง ไม่เห็นมีอะไรเสียหาย..ดีเสียอีกที่จะไม่กล้าทำอะไรพี่..เพราะชอบ...”
“..เห็นแก่ตัว..”
“..พี่ไม่สนหรอกน่ะ ว่าจะต้องทำอะไรให้ใครเจ็บ..แค่คนที่รักไม่เป็นไร..ก็พอแล้ว..” มือหนาวางแปะลงบนกระหม่อมแล้วขยี้เบาๆ.. “..ใครที่ทำให้เมฆของพี่เจ็บ..พี่ไม่ปล่อยไว้แน่..”
“..ผมไม่ใช่คนสำคัญขนาดนั้นหรอกน่ะ.. “ เม้มปากแน่นแล้วสะบัดหัวออกจากสัมผัสนั้น
“..ไม่สำคัญกับคนอื่น แต่สำคัญกับพี่ พี่ไม่ยอมให้เมฆต้องเจออะไรร้ายๆอีกแล้ว..เวลามีอะไรก็ต้องบอกพี่ เข้าใจไหม ? “
“..กระทั่งเรื่องเหี้ยพี่โตน่ะเหรอ?..”
“..ทุกเรื่อง..” กันย์พยักหน้า ไม่หวาดหวั่นกับสายตาที่มองมาอย่างไม่แน่ใจของเจ้าตัว
“..บ้าเอ้ย..พี่ไม่ได้มีคนคุ้มหัวอย่างพวกมันน่ะ เดี๋ยวก็ลำบากซะเปล่าๆ..” เมฆบ่นเสียงดังแล้วมองหน้าคนพูดตรงๆ “ ทำเป็นเก่งไปเหอะ เดี๋ยวได้เจอพวกมันเล่นเอา..”
“..ก็ไม่ได้จะยอมแต่แรกอยู่แล้วนี่.. “ กันย์ยิ้มแล้วหัวเราะขึ้นมาลอยๆ “ ยังไงตัวช่วยสำคัญรายนึง..ก็ไม่กล้าทำอะไรพี่..ส่วนตัวถ่วงอีกราย ก็มองว่าพี่...เป็นเทวดาสำหรับเขาไปแล้ว..”
“ ที่สำคัญ เหมือนว่าจะคุมไม่อยู่ซะด้วยสิ.. “ หมายถึงใครคงไม่ต้องบอก..
“..โง่อย่างนั้นก็สมควร ..” เมฆแบะปากไม่พอใจก่อนจะนึกอะไรได้แล้วหันไปมองหน้าคนพูดทันที.. “ ทำไมต้องอะไรกับไอ้เนมนัก ไม่เห็นเข้าใจ..มันมีอะไรกัน???”
“..เรื่องนั้น....” คนถูกถามชะงักเล็กน้อยแล้วหรี่ตาลงอย่างใคร่ครวญ.. “..เคยได้ยินไหม...เรื่อง”การพนัน”กันระหว่างพวกนักโทษใหญ่ๆในคุก..”
“..พนัน...” เมฆขมวดคิ้ว อย่างไม่เข้าใจ..
“..เอาง่ายๆ..ก็...อย่างเช่น นักโทษติดคุกคดีร้ายแรงที่ต้องอยู่ในนี้สามสี่สิบปี สร้างอิทธิพล สร้างดินแดนของตัวเองมาแล้ว..หรือนักโทษบางรายที่”ติดคุกแต่ชื่อ” ส่วนตัวก็ไม่ได้อยู่ในนี้ด้วยซ้ำ พวกนี้น่ะชอบพนันกันด้วยเรื่องแบบนี้..”
“...............”
“ ตั้งแต่ย่างเท้าเข้ามาในเรือนจำ..หรือตั้งแต่ถูกพิพากษาจำคุก ชื่อของเราแต่ละคนน่ะ ผ่านการรับรู้จาก”เจ้าพ่อ”ทั้งหลายมาแล้ว..ทีนี้ลองคิดเล่นๆสิว่า เจ้าพ่อที่มีเงินล้นมือ มีอิทธิพลมากมาย นึกอย่างเล่นอะไรสนุกๆดู อย่างการเดิมพันอะไรเล็กๆน้อยๆกับเด็กใหม่ที่เข้ามา มันจะเป็นยังไง?..” กันย์ขมวดคิ้วน้อยๆก่อนจะเอ่ยออกมาอีก
“..เมฆคิดว่าตัวเองโชคร้าย ที่ต้องมาเจอเรื่อง”รับน้อง”ตอนเข้ามาใหม่ๆ...แต่ถ้าเทียบกับบางคน ที่เหมือนตัวหมากในอุ้งมือ ที่ปล่อยให้คนโน้นคนนี้โยกเล่นตามใจชอบ แล้วเราก็วิ่งไปวิ่งมา โดยไม่รู้ตัวเลยว่ามันวนอยู่ในฝ่ามือของใครบางคนที่กำลัง”สนุก”กับการดิ้นรนของเราอยู่..”
“..มิน่า...” เมฆนิ่งไปพัก ก่อนจะนึกถึงประโยคที่ไอ้พี่โตบอกเขาไว้ เมื่อเขาบอกว่าไอ้เด็กใหม่นั่นดูจะโชคดี เสียเหลือเกิน
“ กุว่ามันดี..ที่มาถูกเวลา..แต่โชคร้ายน่ะ..มากกว่ามึงแน่ๆ..”ก็คงจะจริงอย่างที่พี่โตมันว่า...
“..ชีวิตแบบนั้น มันน่าสมเพชในสายตาคนมองน่ะ ว่ามั้ย?..” กันย์ถอนใจเบาๆแล้วมองหน้าคนฟัง “ เอาเถอะ ในเมื่อเล่าให้ฟังแล้ว ก็จะเล่าให้ฟังทั้งหมดแล้วกัน..”
“..เล่ามาสิ...” ว่าแล้วก็จ้องหน้าคนพูด นึกหงุดหงิดไม่น้อยกับเรื่องที่เขาไม่ได้รู้มาก่อน นึกแล้วอารมณ์เสียไม่น้อย แล้วกับพี่ชายที่ท่าทางเหมือนจะแสนดีตรงหน้า กลับรู้ไปซะทุกเรื่อง...รู้ดี..เสียจนเขาคิดว่ามันจะเกินไปรึเปล่า..
“..อย่างรายที่เข้ามา...ไม่ใช่รายแรก.ก็แค่หมากอีกตัวที่จะมีคนพยายามลากมันไปให้ถึงอีกฝั่ง อย่างเด็กคนนั้น..ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษหรอก ก็แค่”ถูกเลือก” ก็เท่านั้น...”
“..จะบอกว่านั่นเป็นสาเหตุที่มีแต่คนไปตอมไอ้เนมยังกะแมงวันเรอะ..” เมฆพึมพำแล้วยักไหล่ “ ก็แล้วไง..สุดท้ายก็เหี้ยพี่โตมันได้ไปอยู่ดี..ก็ได้มันไปตั้งแต่ตอนแรก...”
“..มันไม่ใช่ได้แบบนั้นซะหน่อย “ กันย์หัวเราะเมื่อคนตรงหน้าบ่นงึมงำ.. “..ได้...น่ะหมายถึงเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนให้เข้ามาอยู่กับฝ่ายตัวเองแบบ”ถาวร” ไงล่ะ นั่นถึงจะเรียกว่าได้และชนะไปจริงๆ..”
“..ไอ้ควายนั่นคงจะคิดออกอยู่หรอก..” คนฟังพาลไปนึกถึงท่าทีของอีกฝ่ายแล้วส่ายหัวออกมาอย่างระอาใจ.. “ มันไม่ใช่คนโง่ แต่ถ้ายังดันทุรังแบบนั้นต่อไป ก็ไม่ต่างอะไรกับควายตัวนึง..นี่ขนาดเหี้ยพี่โตจัดการไปรอบสองรอบแล้ว ยังเหมือนเดิม..”
“..อื้ม...” ฟังแล้วรับคำขณะที่คนพูดขมวดคิ้วแล้วหันไปจ้องเขม็ง
“ อย่าบอกน่ะเว้ย ว่าที่ชอบไปอ่อยแถวนั้นบ่อยๆ แถมทำตัวอย่างกะพ่อพระนั่น...” เมฆชี้หน้าหล่อแล้วแบะปาก แต่คนโดนชี้หน้ากับไม่หยี่ระ พยักหน้าหงึก..ทำเอาคนชี้อ้าปากค้าง..
“ แต่สุดท้ายก็ไม่สมหวังล่ะว่ะ..” เจ้าตัวบ่นงึมงำ..
“ อะไรเล่า..เรื่องมันเพิ่งจะเริ่มต่างหาก..ถึงลากมาไม่ได้ แต่ก็ทำให้หมอนั่นโดนเรียกไปหาแล้ว..”นี่ก็ยังไม่ยอมรับ..ทำให้เมฆเริ่มครุ่นคิด..
“..แล้ว...เหี้ยพี่โตจะรู้มั้ย..” เมฆขมวดคิ้ว เอ่ยเครียดๆยามนึกถึง “ จะรู้มั้ยเรื่องนี้..แล้ว...ถ้ารู้..”
“..หมอนั่นรู้..” คำพูดนั้นทำให้คนฟังเกร็งตัวขึ้นฉับพลัน สีหน้าซีดเผือก!!..
“..มะ...ไม่....มัน...ผม......” ริมฝีปากสั่นระริก..รู้สึกหวั่นกลัวขึ้นมาทันทีที่ได้ยิน ความทรงจำร้ายๆที่พบเจอจากการขัดคำสั่งเริ่มลอยวนเข้ามาในสมอง ทำให้ตัวสั่นอย่างช่วยไม่ได้ เมฆสั่นศรีษะช้าๆขบริมฝีปากตัวเองอย่างหวาดหวั่น..
“..ไม่เป็นไรๆ....” มือหนาลูบศรีษะแล้วดึงมาซบไหล่ยามที่เห็นน้องชายที่รักตัวสั่นระริก.. “ ไม่เป็นไรน่ะ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก พี่อยู่ตรงนี้แล้ว พี่จะปกป้องคนสำคัญของพี่..ไม่ให้เกิดอะไรขึ้นกับเมฆอีกแน่ !!..”
“..แต่....ถ้า....พวกมัน..รู้...”เนื้อตัวสั่นระริกน่าสงสารยามที่ถูกโอบกอบทำให้กันย์เม้มปากแน่น...นึกโกรธ..เคืองแค้นเจ้าพวกเดนคนที่ทำให้คนสำคัญของเขากลายเป็นแบบนี้..
มองเห็นร่างเล็กๆกอดเขาแน่นราวกับลูกแมวน้อย เนื้อตัวสั่นเทาเต็มไปด้วยร่องรอยความทรงจำที่โหดร้าย..และทุกครั้งที่คนตรงหน้าต้องพบเจอ เขาคนนี้..ทั้งที่รัก...แต่มันจะไปถึงช้าก้าวหนึ่งเสมอ..เขาไม่สามารถปกป้องก้อนเมฆที่อ่อนไหวจากสายลมที่โหดร้ายได้เลยสักครั้ง จนกระทั่งมันเปื้อนไปด้วยสีหม่นของความร้าวร้านที่ยากจะลบล้าง..
“...ไม่เป็นไร...คราวนี้..จะไม่มีอะไรมาขวางพี่ได้อีกแล้ว..” กันย์กดใบหน้าหวานให้ซบกับแผ่นอกของตนด้วยสายตาอ่อนโยนนักยามทอดมองร่างเล็กในอ้อมแข็ง มือหนาลูบเบาๆ..บนเส้นผมนุ่ม
“..ไม่ว่าจะต้องร้ายกับใคร พี่ก็ไม่สนหรอกน่ะ..เพื่อคนที่พี่รักแล้ว..” สายตาอ่อนโยนสบกับดวงตาที่สั่นไหว เมฆเม้มปากแน่นอย่างไม่แน่ใจ แต่ก็ซบลงตรงอกหนาอีกคราแล้วกอดรัดแน่น..ร้องออกมาอย่างหวาดหวั่น..
“..อยู่กับผม..น่ะ....อยู่กับผม..”
“..อืม...พี่จะอยู่กับเมฆ..”
“..อย่าทิ้งผมไปอีกเลย..อย่าปล่อยผมไว้คนเดียว..ผมไม่อยากอยู่คนเดียวอีกแล้ว..”
“..ไม่ทิ้งแล้วคนดี...พี่จะอยู่กับเมฆตลอดไป..”ดวงตาอ่อนหวานสบกับตาคู่สีน้ำตาลที่ฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำใส กันย์เอื้อมมือเช็ดน้ำใสตรงสองแก้มและเบ้าตาบนใบหน้าสวยช้าๆ..
ใบหน้าหล่อเหลาโน้มเข้าไปใกล้ มองดวงหน้าหวานของเด็กน้อยที่ชัดตรงหน้าด้วยแววตาแสนรัก จนตาคู่นั้นปิดพับลงด้วยความขัดเขิน เขาจึงจูบลงบนเปลือกตาแผ่วเบา..และก้มลงประทับรอยจูบหวานๆแก่เด็กน้อยดั่งคำสัญญา..
“..อือ...” เสียงครางสั่นๆผะผ่าวริมหูทำให้เขาอดอมยิ้มนึกถึงวันคืนเก่าๆขึ้นมาไม่ได้ ดวงตาพราวยามจ้องมองใบหน้าแดงเรื่องของเด็กหนุ่ม..เขายิ้ม..จับดวงหน้าหวานมาซุกไหล่..
แล้วแววตาอ่อนโยนก็แปรเป็นแข็งกร้าว ยามมองสบดวงตาอีกคู่ที่ฉายแววตกตะลึงไม่น้อยจากด้านนอก ที่มองผ่านรอยแง้มของประตูห้อง..กันย์เอื้อมมือคว้าม่านสีฟ้าแล้วรูดปิดสีหน้าราวกับจะร้องไห้นั่นให้พ้นจากสายตา..
...ไม่จำเป็นต้องมีใคร..หากมีคนสำคัญของเขาอยู่ข้างๆ..
...ไม่จำเป็น..แม้กระทั่งเจ้าของแววตาดื้อดึงคู่นั้นก็ตาม..
จมูกหนาซุกลำคอขาวที่ยังหอมหวานแม้จะมีร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกาย แต่เขาก็ไม่นึกรังเกียจสักนิด..ตรงกันข้ามมันกลับทำให้เขาอยากปกป้องดูแล”คนสำคัญ”คนนี้ให้มากขึ้น..และจะไม่ยินยอมให้ใครมาทำร้ายอีก.. ลิ้นสากหนาไล้ลำคอขาวแล้วขบมันเบาๆจนเจ้าตัวสะดุ้งเฮือก..
“..อือ...พี่...” เสียงครางสั่นๆดังมาจากเจ้าตัวน้อยทำให้เขาชะงัก..เมฆมีสีหน้าสีเคอะเขินอย่างที่เขาไม่ได้เห็นมานาน สีหน้าของ”น้องเมฆ” ที่พี่ชายคนนี้คิดถึงนักหนา ทำให้หัวใจพองโตด้วยความตื่นเต้นระคนปิติ..
“..เอาแต่บอกว่าคนสำคัญ...ไม่เห็นบอกรักผมซักคำ..” น้ำเสียงพ้อของเจ้าตัวช่างน่ารักนัก..เขาควรจะรู้สึกอย่างนั้น แต่คำพูดนั้นกลับเหมือนมีอะไรบางอย่างกระแทกเข้ามาตรงที่ไหนสักแห่งในหัวใจ..ทำให้ลำคอแห้งผากนักยามกล่าวออกมา
“..ครับ..พี่รักเมฆน่ะคนดี..”
เจ้าเด็กน้อยของเขาก้มหน้างุด กอดคอแล้วกระซิบคำรักหวานหูเช่นกัน กันย์ยิ้มออกมาช้าๆ..คล้ายกับได้ยินเหมือนเสียงสะอื้นจากภายนอก..หรือส่วนไหนสักแห่ง..ในสมองของเขา..
....เป็นน้ำเสียงที่หดหู่ และลบมันออกไปไม่ได้..พอๆกับแววตาเศร้าๆที่ติดตา..
กันย์หลับตาลงช้าๆ..กอดคนสำคัญ ของเขาไว้ในอ้อมแขน..เมื่อลืมมันไม่ได้ ก็ไม่จำเป็นต้องลืม..ก็แค่ทำเป็นไม่สนใจมันซะ..เพราะเขามี”คนสำคัญ” อยู่ตรงนี้แล้ว..
.......Oh bad Guy!! รักร้ายๆของผู้ชายในคุก.......
คงมีหลายคนเริ่มเชียร์สามพีคู่นี้แล้วสิน่ะ..เพราะคู่เอกมันไม่รักกันซักที แถมไม่มีมือที่สามอีกกี่ชาติมันจะรักกันได้ว่ะนั่น (นั่นสิน่ะ)
พี่กันย์เป็นพวกชอบสปอยล์ตัวเองรึเปล่าหว่า..เหมือนย้ำคิดย้ำทำว่าตัวเอง”ต้องรู้สึกแบบนี้”
ฟีลของคู่นี้ต่างกับคู่วิทย์กับกันย์น่ะ เพราะฟีลเมฆกับกันย์จะเป็นอารมณ์ประมาณรำลึกอดีต ปนหลอกตัวเองหน่อยๆของใครไม่ก็ใครสักคนนี่ล่ะ แต่พอพี่กันย์มาแรดกับเมฆปุ๊บ ฟีลจะเปลี่ยนเป็นน่ารักปนฮาบวกกับหวานปะแล่มๆ เหมือนรักเก่าสู้กับรักใหม่ จะว่าไปเราก็ชอบ (คู่เลว)แบบนี้น่ะ แต่จะเอาจบแบบใครได้ไปดีหนอ เพราะชอบแบบ(รักต้องฆ่า)นี้เหมือนกัน
ส่วนเรื่องตอนที่แล้ว ใครที่ไม่เข้าใจไรท์เตอร์ก็ขอโทษด้วยน้า เรื่องการเขียนก็จะพยายามต่อไปค่ะ
ส่วนบทที่แล้ว ขอเฉลยเลยแล้วกันว่าหลักๆที่เราจะสื่อ ก็คือ..
คำถาม..ทำไมอิพี่โตเปลี่ยนฟีลเร็วชิบบบบ ... คำตอบมันอยู่ตรง “การเข้าแทรกแซงทางการเมือง..อุ้ย..เรื่องมือที่สามชอบชุบมือเปิบต่างหาก ถ้าอ่านสามบทหลังประกอบกันแล้วก็จะแจ้งชัดว่ามันคือผู้ใด..
คำถาม..ทำไมไอ้เนมมันดู”โง่”จังเลยฟ่ะ...คำตอบ โง่ในสายตาของคน(ที่คิดว่าตัวเอง)ฉลาดน่ะค่ะ
คำถาม..สัตว์น่ะพอเห็นหน้าใครครั้งแรกก็จะนึกว่ามันเป็นแม่..คำตอบ คล้ายๆกับการอธิบายนิสัยของเนมในสายตาพี่โตว่า กูรู้น่ะ ถึงกูจะร้ายกับมึงอีกกี่หน หรือร้ายกับมึงแค่ไหนพอกูหันมาดีกับมึงมึงก็จะกลับมาอยู่กับกูเอง เพราะเรียกง่ายๆว่าเนมติดภาพที่เหมือนจะดีของพี่โตในตอนแรกๆไปแล้ว และลบความรู้สึกนั้นไม่ได้ ถึงจะโกรธหรือโดนทำร้ายยังไงไอ “ความรู้สึกดีในตอนแรก” ก็จะกลับมาทำให้ไม่สามารถไปจากพี่โตได้ค่ะ
คำถามสุดท้าย..เรื่องนี้มันมี"คนดี"อยู่จริงๆกคนมั้ย....ก็กลับอ่านชื่อเรื่องเอาเองเหอะ
ส่วนที่เหลือ ปิดโลดดดดด
และในตอนนี้ คงรู้กันแล้วชิมิ..ว่า ทำไม นายเอกของเราถึงซวยหมาและเป็นที่ต้องการ รวมถึงถูกพี่โตดึงตัวไว้ซะขนาดนั้น..
ปอลอ.. เรื่อง “การติดคุกแต่ชื่อ” เกิดขึ้นในเมืองไทยจริง ในคดีของทายาทตระกูลดังตระกูลหนึ่ง ย้อนไปประมาณปีพศ. 25XX บอกแค่นี้ล่ะเหวย กลัวโดนหางเลข..แค่เขียนเรื่องนี้อายุก็สิ้นไปอีกสิบวันแล้ว(ห้าๆ)
ปอลอสอง..เสียใจที่ต้องบอกว่า การพนันแบบนี้ ไม่ได้เป็นเรื่องกุขึ้นมา มันเกิดขึ้นจริงว่ะค่ะ