OH!! Bad Guy รักร้ายๆของผู้ชายในคุก!! [by Silence_Serin] บทส่งท้าย Update 30.09.54
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: OH!! Bad Guy รักร้ายๆของผู้ชายในคุก!! [by Silence_Serin] บทส่งท้าย Update 30.09.54  (อ่าน 2191063 ครั้ง)

leogemini

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ได้มาเม้นท์นานมาก ตามมาเก็บครับ

ออฟไลน์ ishiya

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
เห็นบอกว่าจะอัพวันนี้  :เฮ้อ:

dek_jun_rai

  • บุคคลทั่วไป

Cacao

  • บุคคลทั่วไป
อ่านรวดเดียวจบเลยแต่ใช้เวลานานอยู่3วัน ฮาาาาาา เยอะและยาวนานมากค่ะ ในที่สุดก็อ่านทันตอนล่าสุดแล้วว วว เย้ !!  :mc4:
สารภาพว่าเคยกดเข้ามาเรื่องนี้แล้วก้ปิดไปทั้งๆที่ยังไม่ได้อ่าน ชอบใช้คำว่า*ไว้ก่อน*อยู่เรื่อยเลยละ แล้วก็ละลืมม มมม  :o8:
แต่พอวันก่อนว่างๆเลยลองกดเข้ามาอ่านดู..... ฟิคสนุกมากกกกเลยค่า  :กอด1: ชอบมากเลย อ่านแล้วอ่านรวดเดียวเลยอ่ะ
มีหลายตอนที่ งง กับ เทกซ์ไลน์อยู่เหมือนกัน บทสนทนาที่อ่านแล้วเหมือนจะเป็นของไคก็ได้ในเรื่องมันขึ้นมาสะแบบนั้น
แต่ก็ยังสนุกอยู่ดี เพราะไอที่ไม่เข้าใจนั่นละมันทำให้ลุ้นๆไปเลยว่า สรุปแล้วพวกนี้กำลังทำอะไรกันอยู่ 555
555 พร่ำเพ้อพรรณนามาก ถ้าจะให้พูดถึงตัวละครคงไม่หวั่นไม่ไหวเลยอ่ะ ชอบบบบบบบบบมากกกกก รักทุกคนสุดๆๆๆๆๆ
โดยเฉพาะ ไอเนมของพี่โต กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด :serius2: :jul1: :กอด1: :z2: :z3: :z10: :z13:
อ่านไปก็ขำไปบางตอนก็ด่ากันสาดเสียเทเสีย แต่ไอช๊อตสวีทนี่ก็ไม่เกรงใจไคหน้าไหนทั้งสิ้นทั้งปวงในโลกา 5555
เวลาหวานใส่กันนี่ชอบมากกกกอ่ะ เพราะพี่โตไ่ม่ค่อยน่าจะหวานได้สักเท่าไหร่ แต่เจอเนมเข้าไป ว่าก้อนหินก็ก้อยหินเหอะ
หิหิ เจอน้ำหวานแบบเนมหยดเข้าไปทุกวันมันจะไม่กร่อนได้ไงค่ะ ห้าๆๆๆ ส่วน3ผี ก็ชอบค่ะ เป็นอะไรที่เข้าใจยากดี
อ่านแล้วลุ้นๆ มึนๆ ว่าสรุปแล้วไคจะได้กับไคบ้าง เพราะเค้าสลับกันได้หมดจนคนอ่านเดาไม่ออกเลยอ่ะ  :เฮ้อ:
บางทีอ่านก็กลุ้มใจเวลาพวกป๋าโผล่มา ลุ้นนสุดๆ ยิ่งตอนต่อไปนี่โคตรลุ้น :z3:

ปล รออ่านตอนต่อไปสุดๆเลยจ้า  o13

Saint De Jupiter

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ puchi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 762
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
 :call:อย่าเล่นสงกรานต์เพลินจนลืมนะ อิอิ เค้ารออยู่

Monkizzz

  • บุคคลทั่วไป
กลัวจะเป็นตอนจบที่แสนเศร้าจริงๆ

donjai11

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ♥Täsinä→l3€LL♥

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
มาต่อเถอะนะคะ

คนอ่านรอจนใจจะขาดแล้ว

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
Improbable 16 : ท้าทาย


        เสียงกริ่งร้องดังลั่นขึ้นมาท่ามกลางอากาศร้อนระอุในเวลาบ่ายสองโมงของวัน นักโทษหลายคนที่ยืนทำงานตากแดดหัวแดงอยู่ท่ามกลางแสงอาทิตย์สว่างจ้าจนมองเห็นเปลวแดดไหวระยับ ต่างเงยหน้าขึ้นมาจากงานที่ทำอยู่ด้วยความสนใจและสงสัย ว่าเหตุใดกริ่งเรียกประชุมถึงได้ดังลั่นขึ้นในเวลาเช่นนี้...

     เช่นเดียวกับผมที่ค่อยเงยหน้ามาจากถุงเพาะชำสีดำในมือ ใช้แขนปาดหยดเหงื่อออกจากผิวหน้าแล้วค่อยๆลุกขึ้น เกือบจะหน้ามืดเพราะความร้อนและอุณหภูมิสูงลิ่วแบบนี้เสียแล้ว

    มองสบตานักโทษหลายรายที่ยังมีสีหน้างวยงงสงสัย ผมพยายามคิดว่าเดือนนี้...ปีนี้ วันที่นี้มีกำหนดการณ์ นัดหมาย หรืออะไรที่สำคัญบ้างไหม แต่สมองก็ยังคงพบเจอแต่ความว่างเปล่า ที่สุดแล้วก็ได้แต่เดินออกไปล้างมือและจัดการตัวเองลวกๆเพื่อไปรวมตัวกันตามสัญญาณ หลังจากผู้คุมเดินมาหาแล้วเป่านกหวีดปี๊ดๆกับควงกระบองมาแต่ไกล

      กลิ่นเหงื่อบวกกับอากาศร้อนอบอ้าวไม่ใช่สิ่งที่พึงประสงค์เอาเสียเลยสำหรับในยามนี้ นักโทษที่นี่ร้อยทั้งร้อยก็เป็นผู้ชาย และกลิ่นเหงื่อกลิ่นตัวของผู้ชายหลายคนมารวมกัน อย่าได้จินตนาการเลยครับว่าเป็นแบบไหน ไอ้เนมได้แต่บอกสั้นๆว่ามัน"ร้ายกาจ"อย่างไม่น่าเชื่อ 

       กระทั่งผู้คุมสั่งให้ไปนั่งรวมตัวกันในโรงอาหารแทนที่จะเป็นลานซีเมนต์กลางเสาธงที่มีแดดจ้า โรงอาหารยกพื้นสูงให้อากาศถ่ายเทสะดวกก็ไม่อาจจะทำให้ความร้อนและอากาศอับจนหายใจออกไม่สะดวกทะเลาลงได้เลย..

      เหล่านักโทษที่มานั่งรวมตัวกันต่างมีสีหน้าหงุดหงิดกับอากาศร้อนอบอ้าวอีกทั้งหน้านิ่วด้วยความสงสัย  ไอ้เนมนั่งทำหน้านิ่วคิ้วขมวดตามชาวบ้านมานั่งเรียงแถวกันติดๆ เดินเข้าไปนั่งตามแถวที่พรรคพวกของพี่โตและห้องขังเดียวกันนั่งอยู่ มองสีหน้าแต่ละคนที่งวยงงและไม่เข้าใจพอกัน ก่อนจะมองเห็นพี่โตที่นั่งหน้าบูดอยู่หัวโต๊ะ และไม่มีใครกล้าเบียดใกล้ด้วยกลัวรัศมีความน่าสยองจากตาพี่แกจ้องให้ตัวทะลุ

      "...พี่โต." ผมออกปากทักพลางแทรกตัวไปนั่งพรวด ซึ่งแน่นอนว่าเหล่าสมุนของพี่โตก็ขยับที่ให้โดยอัตโนมัติจะมีใครกล้ามานั่งข้างพี่แกล่ะครับ ถ้าไม่ใช่ผม หึหึ

      "...มาแล้วเหรอ?"  พี่โตหันมามองหน้า ริมฝีปากกระตุกยิ้มออกมาบางๆทำให้ผมยิ้มรับ ขยับตัวไปนั่งใกล้อีกนิด ขณะที่รอบกายยังคงมีเสียงพูดคุยกันแซงแซ่

   พรวด....

      "......." ผมอ้าปากจะพูด...แต่คำพูดทุกอย่างก็หยุดลงแค่นั้นเมื่อมีร่างของไอ้ตัวกวนตีนที่ไหนไม่รู้เสือกมาแทรกตัวนั่งอยู่ตรงหน้าพี่โตอย่างไม่รู้สึกรู้สา...

หัวคิ้วผมกระตุกยิก มองหน้าไอ้เป้ที่นั่งตรงข้ามพี่โต ใบหน้ายังคงประดับรอยยิ้มระรื่น และหันมาสบตาผมที่นั่งข้างพี่โตด้วยรอยยิ้ม..

..ว่าแต่ใครเชิญมึงมา...?

      ไม่อยากจะพูดว่าไอ้เป้มันทำตัวกวนเบื้องล่างผมทุกวัน ไอ้เรื่องมันย้ายไปอยู่กับกลุ่มพี่โตแทนที่ผมก็อุตส่าห์จะไม่คิดจะไม่เคืองมากแล้วนะ  แต่นี่มันยังจะมาป้วนเปี้ยนรอบตัวพี่โตไม่ห่างแบบนี้อีกเหรอ ขอบอกว่านับอาทิตย์จากที่ย้ายไปอยู่กับกลุ่มพี่วิทย์นอกจากในห้องขังผมกับพี่โตแทบไม่มีเวลาอยู่กันสองคนเลย ไม่ทำอย่างอื่นก็มีไอ้ตัวเสือกเรื่องชาวบ้านอย่างไอ้เป้อยู่ตลอด ผมอุตส่าห์นิ่งไม่พูดเพราะพี่โตก็ท่าทางหงุดหงิดและนานไปก็ทนมันไม่ได้เหมือนกับผม แต่นี่มันชักจะมากขึ้นไปทุกวันๆจนอยากถีบมันให้หัวทิ่มบ้างแล้วนะ

   ไม่รู้หรอกว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของป๋าที่ส่งมันมา และจุดประสงค์ที่แท้จริงในพฤติกรรมที่มันทำอยู่คืออะไร..แต่มันนี่ล่ะทำผมอยากกระทืบคนอยู่เรื่อย

และแน่นอน...ไอ้เนมไม่เคยลืมว่าป๋าสั่งไอ้เป้มาถวายตัวให้พี่โต..ไม่มีทางลืม..

ถึงพี่โตจะไม่เอามัน แต่ถ้าไอ้เป้ยังจะมาป้วนเปี้ยนข้างๆแบบนี้ แถมยังไปอยู่กลุ่มเดียวกับพี่โตด้วย บอกตามตรงว่าผมเคืองมันและเหม็นขี้หน้ามันจริงๆ 

      "..มีเหี้ยไร? " พี่โตกระชากถามเสียงห้วน เหลือบมองผมที่หน้านิ่วคิ้วขมวด

      " อ้าว..นั่งไม่ได้เหรอพี่? "อย่าทำหน้าตาไม่รู้เรื่องอะไรได้ไหม? มึงรู้อยู่แก่ใจแท้ๆ แบบนี้มันกวนตีนนะครับไอ้เป้

      "....มีเหี้ยไรก็ว่ามา " สีหน้าพี่โตมืดทะมึนบ่งชัดว่าไม่คิดจะเจรจาพาทีอะไรกับมันมากกว่าความจำเป็น ผมมองหน้าไอ้เป้ที่ส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ มันเหลือบมองทางเวทีด้านหน้าซึ่งยังไม่มีใครขึ้นมากล่าวอะไรเเว้บหนึ่งก่อนจะหันกลับมา

      "..มีพัสดี.."


ปึก !

      " เฮ้ยหลีก....กูจะนั่ง "ฝ่าเท้าอันแสนคุ้นของพี่วิทย์ที่สะกิดแผ่นหลังของไอ้เป้อย่างแผ่วเบา เป็นผลให้มันหมุนตัวเซลงจากม้ายาวอย่างดงาม...หรือจะกล่วถึงอาการนี้ได้ด้วยภาษาปกติได้ว่า โดนถีบจนกลิ้งตกโต๊ะ

         เสียงหัวเราะขำของเหล่านักโทษทำให้ผมยิ้มมุมปากมองไอ้เป้ที่ลูบก้นแล้วนั่งลงอย่างทุลักทุเลด้วยสีหน้าเจื่อนแล้วยิ้มขัน มันเหลือบตามองพี่วิทย์ แต่ทำไม่ได้แม้กระทั่งจะยิ้มหรือหน้าบึ้งใส่ เพราะหน้าพี่วิทย์บึ้งกว่ามันหลายขุมยิ่งนัก

      "...พี่....ผมนั่งก่อนนะ "ไอ้เป้ว่าเสียงอ่อย ยืนกระเผลกมามองม้ายาวหน้าละห้อย เพราะโต๊ะเต็มไปแล้ว และมันที่กลายเป็นคนมาช้าก็ต้อง...นั่งพื้น

       " ........นี่มันที่กู  "  พี่วิทย์ปรายตามามองไอ้คนท้วงแว้บเดียวแล้วขึงตาใส่อย่างดุดัน " อยากนั่งก็มาแย่งสิ "

       " แหม ใครจะกล้าล่ะพี่ "ไอ้เป้ว่าเสียงอ่อย แต่เหมือนมันจะฟื้นตัวจากการถูกจู่โจมได้แล้ว จึงหันมาทำตาใส สีหน้าระรื่นต่อไปโดยไม่รู้สึกผิด

       " ไป! " แต่พี่วิทย์ไม่ขำ ตะโกนไล่ไอ้เป้ให้ไปไกลๆตีนอย่างรวดเร็วด้วยน้ำเสียงเข้มจัด ผมมองเห็นมันทำตาขุ่นอย่างไม่พอใจครู่หนึ่งก่อนจะเดินลงไปรวมกับพวกที่นั่งลงบนพื้นแต่โดยดี

          เสียงเคาะไมค์เบาๆดังขึ้นทำให้เราต่างต้องหันไปมองหน้าเวทีอีกครั้ง ผมมองเห็นผู้คุ้มในชุดเต็มยศเรียบร้อยกำลังจัดไมค์เคาะทดสอบเสียง ก่อนจะสะดุ้งกับปลายนิ้วที่เคยคุ้นแตะลงบนผิวแก้มและปาดเช็ดมันเบาๆ

       "..แก้มเปื้อนอะไรมา " พี่โตบ่นลอยๆพลางดึงนิ้วกลับ ผมชะโงกดูปลายนิ้วของคนพูดก็พบกับสีดำของดินด่างที่ติดแก้ม มันคงจะมาจากเศษดินเศษทรายที่อยู่ในเรือนเพาะชำแน่ๆ

       "...โต.." พี่วิทย์ครางงึมงัมในลำคอ สีหน้ามืดทะมึนนั้นทำให้ผมกับพี่โตจะมาอี๋อ๋อกันโดยเมินแกไม่ได้ พี่โตถอนหายใจยาว ละสายตาจากรอยเปื้อนตรงหน้าผมมามองสบตาพี่วิทย์ที่มีสีหน้าเคร่งเครียด

       "..ว่าไง ? "

       " เรื่อง...ย้าย..." พี่วิทย์เหลือบตามามองผมที่นั่งข้างๆเล็กน้อย แน่นนอนว่าประโยคนั้นทำให้ผมขมวดคิ้วมุ่น เพราะพบว่ามันเกี่ยวกับตัวเองเต็มๆ

       " ทำไม? " พี่โตเอื้อมมือมาดึงหูผมเบาๆอย่างหยอกล้อ แล้วเริ่มเอามือที่เปื้อนดินนั้นป้ายคอผมอย่างหยอกล้อ

       "...อย่าน่า..มันคัน..." ผมบ่นงึมงัมกับคนเล่นพิเรน แต่พี่โตหัวเราะหึๆ ยังคงเล่นต่อไปโดยไม่สนใจคำท้วงของผม

      " ช่วยสนใจกูหน่อยได้ไหมพวกมึง? " พี่วิทย์เอ่ยเสียงเครียด จ้องหน้าผมกับพี่โตเขม็ง บอกกล่าวโดยไร้เสียงว่าให้เลิกออเซาะกันเสียที

      "..มึงมีอะไรก็ว่ามา "พี่โตคำรามในลำคอแล้วส่ายหัว ยอมละมือจากลำคอผมในที่สุด แต่เปลี่ยนมากอดเอวแทน..เอาเหอะ อย่างน้อยก็ไม่คันล่ะว่ะ

      "..กูอยากย้ายคน..." พี่วิทย์เอ่ยเสียงเคร่ง ปลายนิ้วเคาะโต๊ะอย่างใจร้อนไม่น้อย

      " อีกแล้ว...ทำไมมึงชอบหนีปัญหานักว่ะ " พี่โตขมวดคิ้วใส่ ผมหันไปมองหน้าพี่วิทย์อย่างจริงจังด้วยอีกคน เพราะรู้แล้วว่าคนที่พี่วิทย์อยากให้ย้ายออกไปน่ะ คือใคร "  ทะเลาะกันแม่งก็ย้าย เดี๋ยวดีกันแล้วมึงก็จะมาขอย้ายอีกใช่ไหม? งั้นกูบอกป๋าย้ายพวกมึงสามตัวไปอยู่คนละแดนเลยดีกว่าไหม จะได้หมดเรื่องหมดราวซะที "

       "....แล้วมึงจะให้กูทำยังไง ? " พี่วิทย์จ้องหน้าพี่โตเขม็ง "กูคุยแล้ว กูพอแล้ว กูจบ แต่พวกมันไม่จบ มึงจะให้กูทำยังไงหา? "

       " มึงแน่ใจเหรอว่าจบ? ถ้าจบจริงจะยังมีคนมาวุ่นวายกับมึงแบบนี้อยู่อีกเหรอ? "พี่โตจ้องมองสีหน้าเคร่งเครียดของพี่วิทย์อย่างหงุดหงิดพอกัน " วิทย์.....มึงไปคิดดีๆว่าจะเอาไง ตอนนี้มีเรื่องมากพอแล้ว อย่าให้กูต้องมาปวดหัวกับเรื่องไม่เป็นเรื่องของพวกมึง "

       "......."

        " แล้วอีกอย่าง...ยังไงมึงก็ต้องทำงานกับไอ้กันย์ต่อ...อย่าให้กูรู้ว่ามันเหลวไม่เป็นท่า ไม่งั้นกูเอาตายทั้งคู่แน่ " ผมชักสีหน้าเหยเมื่อพี่โตออกลายโหด มองหน้าเคร่งของพี่วิทย์แล้วก็อดจะสงสารไม่ได้...แต่ก็นะ...ไม่รู้จะทำยังไงดี

        " หรือจะให้กูขอย้ายไอ้ตัวปัญหาของพวกมึงออกจากแดน..." พี่โตเกริ่นด้วยสีหน้าดุดัน

        "...มันไม่ใช่แบบนั้น...ถ้ามีปัญหา พวกกูก็มีทั้งสามคนนั่นแหละ "พี่วิทย์ถอนหายใจเมื่อฟังคำพูดนั้น

        "..รู้ตัวก็ดี เพราะฉะนั้นการที่พวกมึงมาขอคนนั้นคนนี้ย้ายไปมามันไม่ใช่การแก้ปัญหา..โยนไอ้โง่คนนึงรับส่งกันไปมาอย่างกับบอลไม่เบื่อบ้างเหรอพวกมึง  "พี่โตมีสีหน้าเหม็นเบื่อชัดเจนเมื่อเอ่ยถึงไอ้โง่ที่ว่า...มองแล้วนึกสงสารเมฆนิดๆ เพราะท่าทางความเหม็นขี้หน้าระหว่างมันกับพี่โตคงไม่มีวันหายแน่ๆ

         "ไปคุยกันให้เรียบร้อย"จริงๆ"ซะ....ไม่อยะ..."

       "..พี่วิทย์........"

        " ไปไกลๆ !! " พี่โตพูดยังไม่จบประโยค ไอ้เมฆผู้ถูกเอ่ยถึงผู้ซึ่งไม่เคยจะกล้าเข้าใกล้พี่โตในรัศมีสามก้าวชิด ใช้ความกล้าที่ขุดมาจากไหนไม่รู้เดินมาหาแล้วร้องเรียกพี่วิทย์เสียงอ่อย..แต่ไม่ทันที่มันจะได้พูดจบประโยค แค่อ้าปาก พี่โตก็หันขวับไปตวาดใส่มันดังลั่น พร้อมกับชี้หน้าพี่กันย์แล้วขึงตาใส่ทันที..

        "......" พี่กันย์เดินเข้ามาคว้าแขนเมฆให้ ออกห่างจากกลุ่มของพี่โต ขณะที่โรงอาหารที่เคยจ๊อกแจ๊กจอแจบัดนี้เงียบกริบด้วยเสียงตวาดที่ดังลั่นเมื่อครู่


     ตึกๆๆ

        ".....ขอบคุณครับ..สำหรับนักโทษชายทางนั้นที่ช่วยให้เงียบกันได้ ทั้งๆที่ผู้คุมเป่านกหวีดยืนคุมมาตั้งนานก็ยังเสียงดัง " จู่ๆเสียงเคาะไมค์และเสียงพูดเรียบเรื่อยก็ดังออกมาจากเครื่องขยายเสียง น้ำเสียงคนพูดเรียบรื่นแลดูอัธยาศัยดี แต่ทว่าความนัยของมันกลับทำให้ผู้คุมหลายคนมีสีหน้าเคร่งขึ้น ขณะที่สีหน้าไม่พอใจของพี่โตเปลี่ยนไปเป็นความสงสัยปนระแวง

      ชายหนุ่มในชุดสีกากีของข้าราชการ รองเท้ามันปลาบและที่ไหล่ประดับยศที่มากพอดู ทำให้หัวคิ้วของผมขมวดเข้าหากันทันควัน ใบหน้าของชายคนนั้นบ่งอายุว่าน่าจะประมาณสามสิบกว่า แลดูหล่อเหลาสะอาดสะอ้านพอดู แน่นอนว่าไม่ได้ดูดีเพียงแค่เพราะเทียบกับในนี้ที่มีแต่นักโทษชายตัวกระดำกระด่าง แต่ดูดีพอๆกับอาจารย์ธีระ ที่ยืนเขียนเอกสารเซ็นอะไรสักอย่างอยู่ไม่ไกล..

        "..ที่เรียกมาประชุมกันวันนี้..เนื่องจากมีหลายเรื่องจะแจ้งให้นักโทษทุกท่านได้ทราบ." ชายคนนั้นเริ่มออกปากพูดอย่างรวดเร็ว นัยน์ตาของเขากวาดมองเหล่านักโทษมากหน้าหลายตาที่นั่งอยู่ภายในโรงอาหาร " ก่อนอื่น..ผมขอแนะนำตัว..ผม เป็นพัสดีคนใหม่ของที่นี่... ปรมัตถ์  กิจกรรธรณ์ ครับ "

       เสียงพูดนั้นเว้นช่วงลงเมื่อผู้คุมพากันนำปรมมือ และนั่นทำให้เหล่านักโทษต่างก็พากันปรบมือตาม แม้จะมีสีหน้างวยงงไม่น้อย หลายคนเริ่มขยับปากพูดคุยกันอย่างสงสัย เพราะเราต่างจำได้ดีว่าพัสดีคนก่อนเพิ่งเข้าประจำที่นี่เมื่อไม่ถึงปีมานี่เอง เพราะอะไรกันถึงได้ออกไปที่อื่นเร็วขนาดนั้น

       " พัสดีกรณ์...ได้ออกไปกะทันหันเพราะปัญหาด้านสุขภาพ สำหรับใครที่เป็นห่วง จะเขียนจดหมายหาท่านก็ได้นะครับ ผมคิดว่าท่านคงจะดีใจ " พัสดีคนใหม่พูดถึงพัสดีคนก่อนที่เป็นลุงอายุเหยียบเลขห้า พลางมองไปยังกองเอกสารและกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะไม่ไกล..คาดว่านั่นคงหมายถึงกระดาษสำหรับเขียนจดหมายที่ทางเรือนจำจัดให้..

        "...และวันนี้ นอกจากจะมีเรื่องการรับตำแหน่งของผมแล้ว ยังมีเรื่องสำคัญประกาศให้ทุกคนทราบ " พัสดีกระแอมเบาๆพร้อมกับกวาดตามองนักโทษทุกคนที่อยู่ในเรือนจำด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

        " เนื่องจากระยะนี้ มีข่าวการพบสิ่งเสพติดในเรือนจำ และสิ่งผิดกฏหมายเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเราจะเปลี่ยนการตรวจเรือนนอน จากเดือนละครั้ง เป็นเดือนละสองครั้งแทน โดยจะเป็นการสุ่มตรวจ ไม่มีการบอกล่วงหน้า " คำพูดนั้นทำให้สีหน้าของนักโทษหลายคนเคร่งขึ้นทันควัน "  และในช่วงนี้...ทางเรือนจำได้พบว่ามีการ"พยายาม"ก่อความวุ่นวายในนี้บ่อยครั้ง...."

    นัยน์ตาคู่นั้นกวาดมองทั่วบริเวณ แต่เพราะอะไรไม่รู้ผมถึงรู้สึกร้อนวูบกับสายตาที่เหมือนจะกวาดมาทางกลุ่มของผมและพี่โตอย่าง"จับจ้อง"

         " ข่าวเหตุการณ์ก่อจลาจลของนักโทษในเรือนจำอื่นๆที่เกิดขึ้นในระยะนี้ ทำให้ทางกรมได้สั่งให้เรือนจำแต่ละที่จับตาดูนักโทษที่มี"อิทธิพล"เป็นพิเศษ ดังนั้นผมจึงขอส่งสารเตือนสั้นๆ สำหรับคนเหล่านั้น " แน่แล้ว..คราวนี้ผมไม่ได้รู้สึกไปเอง  เพราะนัยน์ตาและคำพูดนั้นส่อมาทางพี่โตอย่างชัดเจน  หากแต่คนข้างกายผมไม่ได้มีท่าทีหวาดหวั่นแต่อย่างใด พี่โตมีสีหน้าสงบนิ่งขณะที่จ้องมองไปทางพัสดีที่ยืนอย่บนเวทีเตี้ยๆของโรงอาหารอย่างเคร่งขรึม

        " ...การสร้างอิทธิพลและก่อความวุ่นวายในเรือนจำ ไม่ว่าจะทางใดก็ตาม หากพบว่าเกิดขึ้น หรือมีความ"พยายาม"ที่จะทำให้มันเกิดขึ้น จะต้องได้รับโทษสถานหนัก.." คำพูดเน้นหนัก และนัยน์ตาจ้องมองนักโทษทุกคนอย่างเคร่งขรึม คำพูดนั้นเว้นช่วง ให้ความเงียบอวลอยู่ในโรงอาหาร ก่อนที่พัสดีคนใหม่จะยิ้มออกมาอีกครั้ง

        " สุดท้าย...นักโทษคนใดที่ต้องการจะถวายฏีกาขอพระราชทานอภัยโทษเนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนม์พรรษาขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ให้ตรวจสอบคุณสมบัติและฟังขั้นตอนต่างๆจากรองพัสดีสุกฤษครับ.."

              เอ่ยสั้นๆแล้วพัสดีคนใหม่ก็ถอยหลังเดินลงไปยังข้างเวที จากนั้นรองพัสดีก็เดินเข้ามาคุยเรื่องการยื่นเรื่องทูลเกล้าฯ ถวายฏีกาขอพระราชทานอภัยโทษ กล่าวถึงคุณสมบัติที่ต้องเป็นนักโทษชั้นดี ที่ต้องคดีถึงที่สุด ชดใช้ความผิดมาแล้วหนึ่งในสามของความผิดและมีการบำเพ็ญประโยชน์ ทำความดีความชอบ ซึ่งหากนักโทษคนใดเข้าเกณฑ์เหล่านี้ก็ให้ไปลงชื่อกับผู้คุมส่วนเรื่องเอกสารและทุกขั้นตอนในการถวายฏีกา ทางเรือนจำจะดำเนินการให้ทั้งหมด

          ผมเท้าคางนั่งฟังเรื่องการขอพระราชทานอภัยโทษอย่างครุ่นคิด แม้จะรู้ว่าตัวเองยังไม่ถึงขึ้นที่จะสามารถขอพระราชทานอภัยโทษได้ ก็ตามที แต่ผมก็คิดไว้แล้วนะ ว่าถ้าถึงเวลาแล้วจะทำอย่างไรดีจะทำตัวแบบไหน เตรียมตัวยังให้ให้โอกาสมาเป็นของตัวเองให้เร็วที่สุด ทั้งเรื่องตั้งใจเรียนให้จบ ทั้งพยายามทำตัวดีไม่มีเรื่อง และตั้งใจจะเอาความสามารถของตัวเองมาทำประโยชน์ให้ได้มากที่สุด เพื่อที่สักวันจะได้อยู่ในขั้นที่สามารถขอพระราชทานอภัยโทษได้

       นักโทษหลายรายรอบตัวผมมีท่าทีสนใจบ้าง ไม่ก็เฉยๆบ้าง ทว่าร่างของผู้ชายข้างตัวผมกำลังนั่งคุยกับพี่วิทย์ด้วยสีหน้าครุ่นคิด ทั้งสองคนพูดอะไรกันงึมงัมเบาๆในเรื่องที่ผมพยายามเอาหูไปนาเอาตาไปไร่มากที่สุด  เพราะเห็นว่าพี่โตแกมองมาหลายทีแล้ว คาดว่าคงไม่อยากให้ผมรู้ เพราะกลัวจะไปสะกิดต่อมเสือกของไอ้เนมเข้าที่ไหน แต่จะออกไปให้ไปไกลๆก็กะไรอยู่ เพราะพี่โตคงรู้ดีว่าการให้ผมไปทำงากับกลุ่มพี่วิทย์โดยไม่บอกเหตุผล ก็โดนไอ้เนมอาฆาตมากพออยู่แล้ว..ซึ่งก็ถูกแล้วล่ะครับ ผมจะทำเป็นไม่ได้ยินเอง เพราะงั้นห้ามไล่..

       "..เนม...ขยับหน่อยสิ " เสียงที่ดังขึ้นบนหัวทำให้ผมที่กำลังเท้าคางมองรองพัสดีพูดไปเรื่อยๆขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจที่มีคนขัดจังหวะ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองมนุษย์ที่ยืนค้ำอยู่เหนือหัวอย่างไม่สนใจว่าผู้คุมและพัสดีที่ยืนอยู่แถวนั้นจะเขม่นเอา....และอ้าปากหวอออกมาอย่างตกใจเล็กน้อยถึงปานกลาง ก่อนจะยอมขยับที่ทางให้คนที่มาแต่โดยดี

       คนที่พูดประโยคนั้นคือพี่ทินที่ได้ข่าวว่าถูกย้ายไปทำกับกลุ่มอื่นเหมือนกับผมเช่นกัน  แกมาพร้อมกับผู้ชายหน้านิ่งๆเหี้ยมๆคนหนึ่งที่ผมไม่เคยรู้จัก ฝ่ามือของฝ่ายนั้นตะปบวางอยู่ที่ไหล่พี่ทินซึ่งมีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก พี่ทินแกยิ้มให้ผมแบบฝืดๆก่อนจะออกแรงผลักไหล่ผมเบาๆให้ขยับเว้นที่ให้

      พี่โตเงยหน้ามองคนที่มาแล้วขมวดคิ้วพลางส่ายหัวอย่างเสียไม่ได้ และแน่นอนว่านักโทษที่ยืนกันเป็นกระจุกและเปลี่ยนที่ทางกันท่ามกลางกลุ่มคนอย่างไม่สนใจสายตาพัสดีและผู้คุมมองอยู่จะตกเป็นเป้าสายตา และได้ข่าวว่าเขากำลังคุยเรื่องผู้มีอิทธิพลทั้งหลายอยู่แหมบๆ แบบนี้ไม่เรียกท้าทายแล้วจะเรียกอะไร?

       พี่ทินนั่งลงข้างผม ขณะที่ผู้ชายคนนั้นก็หันไปนั่งลงข้างตัวพี่วิทย์ในที่สุด ผมกระพริบตาปริบๆพยายามทำหน้านิ่งสนใจเสียงรองพัสดีที่คุยแจ้วๆอยู่หน้าเวที และไม่สนใจสายตาของผู้คุมที่จ้องเขม็งมาชนิดว่าอยากเอากระบองเพ่นกบาลพวกผมทีละคนแล้วลากคอไปขังเดี๋ยวให้รู้แล้วรู้รอด

      "...เอ้อ....มาไงอ่ะพี่ " ผมอ้าปากทักพี่ทินหลังจากที่มากันแล้วก็นั่งเงียบอยู่แบบนั้น พี่ทินหันมามองหน้าผมแล้วพยักหน้ารับ

      "...มาคุยด้วย " ว่าแล้วพี่แกก็ยักไหล่ หัวเราะหึและพยายามทำหน้าตาชิลนักหนา แต่ก็อย่างว่านะ...ขนาดผมยังดูออกเลยว่าพี่แกเกร็งขนาดไหนตอนอยู่กับเฮียโหดนี่..และพอไอ้เนมเหลือบมองพี่แกอีกครั้งก็ไม่คิดจะว่าพี่ทินหรอกที่เกร็งน่ะ ในเมื่อพี่คนนี้แกน่าขนลุกออก

     หน้าตานิ่งๆ ใบหน้ามีรอยแผลจากของมีคมอยู่ที่ปลายคาง นัยน์ตาดุและขุ่นขวางชนิดที่ว่ามองแล้วยังชวนให้ขนลุกวาบ ผิวสีทองแดงและไรหนวดจางๆใต้จมูกส่งผลให้ความแมน เถื่อน เข้ม สูงปรี้ดชนิดที่ว่าผมไม่คิดจะเทียบและทำให้พี่โตดูเป็นคุณชายขึ้นอีกหลายขุม เป็นคนประเภทที่ว่าอยู่ใกล้แล้วชวนตัวลีบ หายใจและขยับกายไม่สะดวก นับว่าเป็นผู้ชายที่ไม่น่าอยู่ใกล้เอาซะจริงๆ

       "..ใครอ่ะ ? "ออกปากถาม พลางเหล่มองพี่โหดนิดๆ

       "..อยากรู้จักถามพี่โตมึงเอง "พี่ทินถอนหายใจเฮือกด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่ายเกินจำเป็น นั่นยิ่งทำให้ผมอยากรู้ ว่าพี่โหดคนนี้คือใคร และกำลังจะมาทำอะไรกับพี่โต

       " แฟนพี่เหรอ? "ถามตามข่าวลือที่ได้ยินมา แต่ทำเอาพี่ทินถลึงตาพรืด มือก็บินมาฉาบลงบนหัวผมโป๊กใหญ่จนหลบไม่ทัน

       " ห่า....บ้านมึงสิ " ด่าผมเหยงแล้วตั้งท่าจะซัดกำปั้นใส่หัวผมอีกซักดอก ถ้าพี่โตที่นั่งข้างๆจะไม่ใช้สายตาห้ามไว้ ทำให้ผมหัวเราะลอยหน้าลอยตา หึหึหึ..โทษทีนะพี่ แบ๊คอัพเรามันต่างกัน

       "...นี่ไอ้คม...แดนสิบ..." พี่โตเป็นฝ่ายพูดเองแล้วมองหน้าผม ปลายนิ้วชี้ละนิ้วโป้งตั้งฉากเข้าหากันเก้าสิบองศาเหมือนปืน ก่อนจะจ้ำมันลงที่หน้าผากเหม่งๆของไอ้เนมแล้วจิ้มมันเบาๆ พร้อมกับทำเสียงปัง..

        " มันเคยเป็นมือปืนน่ะ ต้องคดีฆ่าคนตายห้าศพ ...ดูที่ขามันสิ "ว่าแล้วพ่อคนที่ออกปากนินทาตรงหน้าแบบไม่กลัวมีเรื่องก็ชี้ให้มองไปยังใต้โต๊ะ...นั่นทำให้ผมขมวดคิ้ว ตั้งท่าจะก้มลงไปจริงๆ แต่โดนพี่ทินดีดหูใส่อีกรอบซะก่อน

        " ก้มไปทำไม ไอ้ควายนี่...อยากโดนมันหมายหัวรึไงว่ะ " กณะซิบขู่อาฆาตแล้วพี่แกก็เอื้อมมือมาจิกกระหม่อมที่มีผมอันน้อยนิดของไอ้เนมให้ยืดขึ้นที่เดิม...เพื่อพบกับสายตาประหัตถ์ประหารกันระหว่างพี่โตและพี่คม...มือปืนห้าศพ...หยึย..

        "....แล้วช่วงนี้พี่ไปไหน........"

        " ลุกได้แล้ว ! " ก่อนจะอ้าปากคุยกับพี่ทินอีกสักประโยคให้หายคิดถึง(เปล่าหรอก ความจริงผมแค่กลัวพี่โหดที่นั่งหน้าพี่ทินกับพี่โตจะฆ่ากันตายเท่านั้นล่ะ) พี่โตก็ร้องสวนขึ้นมาพลางลุกพรวด นั่นทำให้ผมรู้ว่าการประชุมของเหล่าผู้ต้องขังได้จบลงแล้ว พร้อมกับร่างของนักโทษนักร้อยที่เริ่มเรียงแถวกันแล้วค่อยกรูเข้าไปยังเรือนนอนของตนเพื่อรอการตรวจค้นเรือนนอนซึ่งจะทำเป็นครั้งแรกวันนี้

        เดินออกไปข้างพี่โตท่ามกลางเสียงพูดคุยจ๊อกแจ้กถึงพัสดีคนใหม่ และสารเตือนที่ยื่นมาส่งให้ตรงหน้าแล้วพี่โตและกลุ่มก็ยังแสดงเจตนาพร้อมจะงัดข้ออย่างไม่มีถอย ชวนให้หวั่นใจกับคงามกล้าที่บ้าบิ่นแบบนี้เสียจริงๆ

        ผมเหลือบมองเสี้ยวหน้าของพี่โตที่ทำหน้าขรึม ไม่พูดไม่จา ไอ้อยากจะคุยก็อยากอยู่หรอก ถ้าเพียงแต่ข้างกายพี่โตจะไม่มีพี่โหดที่น่ากลัวกว่า และพี่วิทย์ที่ตอนนี้น่ากลัวยกกำลังสองเพราะมีพี่กันย์เดินทำหน้าระรื่นอยู่ไม่ไกล ข้างตัวผมมีพี่ทินยืนอยู่  ว่าแล้วผมก็นึกถึงคำพูดของพี่โตขึ้นได้...จึงได้ก้มไปมองพี่คม..ที่ขา...?

       

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
  ข้อเท้าล่ำสันตามขนาดตัวทั้งสองข้างดูปกติดีไม่มีอะไรแปลกไป ทั้งความสมบุกสมบันของมันที่มีอยู่ตามปรกติของนักโทษที่ใช้ความผิดมาหลายปี แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้ผมตัวเย็นวาบคือโซ่ตรวนขนาดเล็กที่อยู่ในข้อเท้าสองข้างของคนๆนี้..

   มันไม่ได้เป็นโซ่ที่มีตรวนขนาดใหญ่ล่ามไว้อย่างพวกป๋ากับผู้พันในเรือนจำพิเศษแบบที่ผมเคยเห็น ทว่ามันเป็นโซ่ขนาดเล็ก ความยาวพอสมควร ท่อนเหล็กที่ล๊อกขาทั้งสองข้างนั้นก็มีขนาดไม่ไหร่ มันดูบางและเก่ากว่าของพวกป๋ามากนัก.. แต่มองแล้วก็ยังชวนให้แปลกใจพอๆกับขนลุกวาบ

    รู้อยู่หรอก ว่านักโทษทั่วไปที่เจอคดีหนักๆก็ต้องถูกล่ามโซ่ ตีตรวนไว้เช่นกัน แต่ทว่าผมก็เพิ่งเห็นเอากับตาตอนนี้นี่เอง ดูแล้วน่าอดสู พอๆกับน่ากลัวและน่าขนลุกจริงๆ..

    ผมมองตามแผ่นหลังของพี่โตด้วยสายตาครุ่นคิด พลางขมวดคิ้วแน่น ไม่รู้ว่าคนๆนี้คิดอะไร ถึงชวนคนน่ากลัวอย่างพี่คมมาคุยด้วย..คิดแล้วก็เหลือบมองพี่ทินที่ยืนอยู่ข้างๆอย่างเห็นใจไม้น้อย พอจะรู้แล้วว่านอกจากหน้าโหด เพราะสาเหตุอะไรที่พี่ทินต้องเกร็งและกลัวพี่คมขนาดนี้..

       " กี่ปีวะพี่..." ผมกระซิบถามคนข้างกายเบาๆ ... พี่ทินหันมามองอย่างสังสัย ก่อนจะมองตามสายตาผมไปแล้วร้องอ้อในลำคอ

        " สามสิบมั้ง " พี่ทินตอบงึมงัมไม่ดังนัก เพราะคนที่นินทาก็เดินนำอยู่ตรงหน้า

        " ทำไมอยู่แดนธรรมดา " ผมสงสัย เพราะติดนานขนาดนี้ ก็น่าจะไปอยู่กับพวกป๋าไม่ก็ผู้พันได้นี่

         " ก็เป็นคนธรรมดาไง " พี่ทินหัวเราะหึ สีหน้าออกจะหยามหยันเล็กน้อย เมื่อเอ่ยถึงเรือนจำพิเศษที่ว่า...

      คิดตามแล้วผมก็เห็นด้วยในใจ เพราะเรือนจำพิเศษ ชื่อก็บอกแล้วว่าเรือนจำพิเศษ ทั้งที่อยู่ก็สะดวกสะบายกว่าที่นี่มากมาย คนที่อยู่ในนั้นก็ย่อมไม่ธรรรมดา ต้องเป็นทั้งผู้มีอิทธิพล เงินหนา และแน่นอนว่าต้องติดคุกนานหลายสิบปี..กระทั่งเป็นนักโทษที่รอการประหารเสียด้วยซ้ำ..

     เพราะงั้นคนธรรมดาที่ติดคุกนาน ยังไงก็ต้องอยู่กับคนธรรมดาด้วยกันงั้นสินะ..

        ลอบถอนใจกับระบบยุติธรรมที่ไม่เคยยุติธรรมจริงๆเสียทีแล้วผมก็สาวเท้าตามหลังพี่โตไป หากแต่ฝีเท้าที่จะก้าวตามพี่โตที่เดินเลี้ยวเข้าไปยังหลังโรงอาหารกลับถูกคว้าไหล่หมับ..

       "..กลับเรือนจำ เขาจะตรวจ " พี่ทินส่งเสียงเข้มมาเตือนผม ทั้งด้วยแววตาและคำพูดเชิงอย่ายุ่ง แสดงออกชัดเจน

       " ผมไปไม่ได้เหรอ? "มองหน้าแล้วถามกลับ พี่ทินพยักหน้ารับช้าๆ หากแต่พูดไปอีกเรื่อง

        " ผู้คุมมาตรวจแล้วไม่เจอ...จะยุ่ง "

        " แล้วนั่น.......ทำไมมันไปได้ " ผมถอนหายใจเฮือกกับคำตอบของพี่ทิน ก่อนจะตวัดสายตาไปยังไอ้เป้ที่เดินดุ่มตามกลุ่มพี่โต พี่กันย์ พี่วิทย์ และพี่โหดรายนั้นไปด้วยท่าทีไม่รู้สึกรู้สาใดๆ  ผู้คุมมาตรวจแล้วไม่เจอพี่โตกับพวก อาจจะยังพออนุโลมได้เพราะเป็นขาใหญ่ ยังไงก็มีพวกป๋าที่มีเอี่ยวกับผู้คุมคอยคุ้มกะลาหัวอยู่แล้ว...แต่กับไอ้เป้...เด็กใหม่ที่เพิ่งเข้ามา มันมีสิทธิ์หายหัวไปตอนเขาตรวจห้องขังกันด้วยเหรอ?

        "...มึงอย่าทำเป็นไม่รู้หน่อยเลยน่า " พี่ทินถอนหายใจเฮือก มองหน้าผมอย่างนึกรำคาญใจ " มันเป็นคนของใคร มึงก็รู้ อย่าซักไซ้มากเรื่อง แค่เพราะมึงไม่ชอบมัน กูก็ไม่ชอบเหมือนกันล่ะ แต่ทำไงได้  ไป....รีบไปได้แล้ว "

             พี่ทินรุนหลังผมให้เดินเข้าห้องขังไปด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย ที่สุดแล้วผมก็ได้แต่ถอนหายใจเฮือกแล้วเดินตามพี่ทินไปอย่างไม่อาจจะเถียงได้ แน่นอนว่าที่พี่ทินพูดมันถูกต้อง แต่ผมก็ยังไม่ค่อยพอใจ จะว่าอิจฉาก็ได้ ที่มันเป็นศูนย์กลางของอะไรหลายๆอย่าง ไม่เหมือนผมที่ถูกถีบออกมานอกวงโคจรแล้ว ถึงจะเพราะพี่โตเป็นห่วงก็เถอะ..

    ..พูดถึงเรื่องนี้ ไอ้เป้ก็คงเหมือนผมตอนนั้นล่ะมั้ง เมื่อสามปีก่อนที่อะไรๆก็พุ่งเป้ามาที่ผมกันหมด ทั้งปวดหัว ทั้งสับสน ทั้งเครียดจนอยากจะตาย ถึงจะคิดว่าดีแล้วที่ไม่ต้องเจอแบบเดียวกับมันอีก...แต่ยังไงผมก็...หงุดหงิดอยู่ดี

...ก็คนที่มันไปเกี่ยวข้องด้วยก็ยังคือพี่โต...และยังคงเป็นพี่โตอยู่วันยังค่ำ

จะช่วยอะไรพี่ได้บ้างไหมนะ? ผมอยากรู้จริงๆ จะช่วยอะไรพี่โตได้บ้างนอกจากจะทำตัวไม่เป็นปัญหา เงียบๆตามคำสั่งของพี่โตอยู่แบบนี้..

ไม่อยากให้พี่โตทำหน้าเครียด ไม่มีความสุขอยู่แบบนี้เลยจริงๆ

      ตึก !

         ฝีเท้าของชายหนุ่มเบื้องหน้าผมชะงักลงโดยไม่รู้ตัว จนผมเผลอเดินชนโดยไม่ได้ตั้งใจ ไอ้เนมกระพริบตาปริบๆมองแผ่นหลังของพี่ทินที่อยู่ตรงหน้า ขมวดคิ้วกับเสียงเเซงเเซ่และเสียงพูดคุยกันของนักโทษในห้องขังที่ดังขึ้นมาด้วยนัยยะอันร้อนรนผิดปกติ อีกทั้งร่างที่นิ่งงันไปของผู้ชายตรงหน้าทำให้ผมยิ่งนึกสงสัย

       ค่อยเดินแหวกผู้คนออกไปยืนข้างกายพี่ทินที่นิ่งเงียบ พบว่านี่คือในเรือนนอนของพวกเราเอง หากแต่ภาพที่อยู่ถัดจากลูกกรงเหล็กสามสี่ซี่ไปไม่มากนัก คือเสื้อผ้าข้าวของที่ถูกคนกระจุยกระจาย มีร่างของผู้คุมสองสามนายยืนคุมเชิงอยู่โดยรอบ และภายในห้องขังนั้นมีร่างของพัสดีคนใหม่ และผู้คุมอีกสองนายที่ก้มตัวค้นข้าวของภายในเรือนอน..

       และภาพที่ทำให้ผมเบิกตากว้าง คือสิ่งที่อยู่ในมือของพัสดีคนนั้น...

บุหรี่...และ..โทรศัพท์มือถือ ?

        การมีของสองสิ่งนี้ในโลกภายนอกเรือนจำมันอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ หรือผิดปกติอะไรนักหนา แต่นี่มันไม่ใช่ การมีบุหรี่อยู่กับตัว ไม่ต่างจากการมีกัญชาหรือใบกระท่อมสักห่อเท่าไหร่ เพราะที่นี่ห้ามเสพสิ่งเสพติด บุหรี่ถือเป็นข้อห้ามแรกๆที่ต้องปฏิบัติตามโดยไร้ข้อบิดพลิ้ว แม้ว่าความจริงแล้วมันจะเป็นของที่จะหาก็หาได้ และนักโทษหลายรายก็นำมันมาแลกเปลี่ยนกัน แต่ว่าก็ไม่ใช่ของที่จะให้ผู้คุมเห็นอยู่ดี

    แต่ทว่า นี่มันยังไม่อันตรายเท่าโทรศัพท์....โทรศัพท์มือถือในเรือนจำ การมีมันอยู่กับตัวคงไม่ต่างกับการมียาบ้า ต้องหลบหลีกซุกซ่อนเสียยิ่งกว่าอะไร หากผู้คุมเห็นหรือจับได้โทษของมันหนักหนาเสียยิ่งกว่าการมีบุหรี่ติดอยู่กับตัวเสียอีก เพรานั่นมันหมายความว่าเราสามารถติดต่อกับโลกภายนอก ติดต่อกับคนนั้นคนนี้ได้

     แม้นักโทษจะไม่ได้ถูกห้ามติดต่อกับคนภายนอก แต่นั่นมันหมายถึงกรณีมาเยี่ยม และการโทรหาก็โทรได้แต่ครอบครัวที่มาเยี่ยมเท่านั้นไม่ได้หมายความว่าจะโทรไปหาใคร จะติดต่อใครก็ได้..

  ข่าวการจับยาบ้า หรือข่าวการสั่งค้ายาจากนายใหญ่ที่อยู่ในคุก...ติดต่อกันด้วยวิธีนี้...สั่งการกันด้วยเจ้าอุปกรณ์อิเล็กทอรนิกส์เครื่องเล็กๆนี้...เพราะฉะนั้น มันจึงเป็นของ"ต้องห้าม"ที่ใครมีมันกับตัว ถือว่าเป็นโทษหนัก...

แล้วนี่....

      ผมจ้องมองโทรศัพท์มือถือเครื่องโบร่ำโบราณในมือของพัสดีอย่างตกตะลึงและสงสัย เจอมันในนี้ เจอมันที่เรือนอนนี้ ทั้งที่ผมไม่เคยรู้เลยน่ะหรือ?

พี่โตมีบุหรี่อยู่กับตัว จะสูบหรืออะไรบ้างผมพอรู้...ถึงจะใจหายวาบที่ถูกจับได้แต่ก็ขอบอกว่าไม่แปลกใจอะไรที่ผู้คุมจะเจอมันหากที่โตเก็บไว้ในเรือนนอนจริงๆ

...แต่กับโทรศัพท์มือถือ ผมไม่เคยรู้ว่ามี ผมไม่เคยเห็นว่ามันอยู่ตรงไหน...ไม่รู้เลย

แล้วผู้คุม ไปคุ้ยเจอในที่นอนของพี่โต ได้ยังไงกัน?

     "..ชิบหายแล้ว " เสียงสถบจากปากพี่ทินที่อยู่ข้างตัวยิ่งทำให้เลือดในกายเย็นเฉียบ...และยิ่งหน้าซีดลง..เมื่อพบว่าพัสดีกวาดตามองพวกเรา...เหล่านักโทษในเรือนจำนี้ด้วยสายตาเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด..

      "....ใครเป็นคนนอนที่นี่? "   แน่นอนว่าเมื่อสิ้นคำถามนั้น สายตาของทุกคนก็มองมาที่ผมเป็นจุดเดียว...

...............     

สวัสดีค่ะ
มาอัพช้ามาก ไม่มีข้อตัว..
ความจริงแจ้งว่าจะมาอัพตั้งแต่วันที่สิบ...แต่ว่าเน็ตไม่มีค่ะขอโทษด้วยจริงๆ จะออกไปช่วงสงกรานต์ก็เหมือนฆ่าตัวตายชัดๆเลยรอมาจนวันนี้ ขอโทษทุกคนด้วยนะค่ะ
ตัวละครสำคัญในเรื่องออกมากันครบแล้วล่ะคะ ไม่มีใครออกมาให้จำกันอีกละ
ส่วนตอนนี้..เนมเอ๊ย...ไม่ได้อยู่ตรงกลาง แค่อยู่ขอบๆของเรื่องก็ซวยได้นะลูก เพราะตราบใดที่นังปุ้ยเป็นคนเขียน แกก็คงไม่พ้นซวยอ่ะ (วิ่งหลบตรีนนังหนูเนม)

    สาระน่ารู้

การทูลเเกล้าฯถวายฏีกาขอพระราชทานอภัยโทษ

     การทูลเเกล้าฯถวายฏีกาขอพระราชทานอภัยโทษนั้นจะมีขึ้นในวโรกาศอันเป็นมงคลต่างๆที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์หรือเหตุการณ์สำคัญของบ้านเมือง ผู้ต้องขังและผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้องมีสิทธิยื่นเรื่องได้ทันทีที่คดีถึงที่สุด สำหรับนักโทษประหารต้องยื่นเรื่องทูลเกล้าฯภายใน 60วันหลังจากคดีถึงที่สุด  สิ่งที่ต้องใช้ในการยื่นเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษคือ เรื่องราวทูลเกล้าฯลงลายมือชื่อผู้ยื่น  เอกสารประกอบอ้างในฏีกาทูลเกล้า เช่น หนังสือรับรองความประพฤติในกรณีทำความดีความชอบ  บำเพ็ญประโยชน์ การศึกษา อบรม ใบรับรองแพทย์กรณีเจ็บป่วยฯลฯ  สำเนาคำพิพากษาทุกชั้นศาล เอกสารหลักฐานอื่นๆ และต้องเป็นนักโทษที่รับโทษไปแล้วถึงหนึ่งในสาม  ทางเรือนจำจะจัดเอกสารทั้งหมดส่งไปยังกรมราชทัณฑ์เพื่อเสนอความเห็นผ่าน รมต.กระทรวงยุติธรรมเพื่อนำความขึ้นกราบบังคมทูลฯ ผ่านสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เมื่อทรงมีวินิจเป็นเช่นใด จะส่งผลให้ทงกรมราชทัณฑ์ได้ทราบและแจ้งผลให้ผู้ยื่นเรื่องฏีกาทราบผลโดยเร็ว

สิ่งของที่ห้ามผู้ต้องขังนำเข้าหรือมีไว้ในขณะอยู่ในเรือนจำ
 ยาเสพติดให้โทษ วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทและสาระเหย
สุรา หรือของมึนเมาอย่างอื่น
อุปกรณ์สำหรับเล่นการพนัน
เครื่องมือหรืออุปกรณ์สำหรับใช้ในการหลบหนี
อาวุธ วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืน ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน
 ของเน่าเสีย หรือของมีพิษต่อร่างกาย
น้ำมันเชื้อเพลิง
สัตว์มีชีวิต
เครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ หรือเครื่องมือสื่อสาร รวมทั้งสิ่งของสำหรับอุปกรณ์ดังกล่ว
วัตถุ เอกสารหรือสิ่งพิมพ์ซึ่งอาจทำให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยหรือขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน
    หากมีติดตัวมา จะต้องนำฝากญาติหรือบุคคลภายนอกหรือจัดจำหน่าย หรือทำลายเสีย  ผู้ใดนำเข้าหรือมีไว้ในเรือนจำจะมีความปิดทางอาญาและทางวินัย
ที่มา :   หนังสือคู่มือการใช้ชีวิตในเรือนจำ กรมราชทัณฑ์ สำนักทัณฑวิทยา  ( เว็บไซต์ รายการวิทยุ ทนายคลายทุกข์ สถานีวิทยุ Am 63o khz )

pimlovejames

  • บุคคลทั่วไป
รีบปั่นอ่านมาตั้ง 1 อาทิตย์ แทบไม่ได้เที่ยวสงกรานต์เลย 555

น่ารักอะ อยากมีแบบนี้มั่งจัง  :-[:pighaun:

งงอยู่ว่าทำไม พี่โตถึงเกลียดเมฆอะ ใครรู้ช่วยตอบที อิอิ  :z3:


ออฟไลน์ PAnppyJunJii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
น้องเนม   

ซวย!!!!     :serius2:


dea

  • บุคคลทั่วไป
งานเข้าแล้วมั๊ยล่ะเนม  :เฮ้อ:

อิผู้คุมคนใหม่ต้องมีอะไรๆๆๆ แน่ๆเลย

สุขสันต์ปีใหม่ไทยย้อนหลังนะค่ะ

รอตอนต่อไปจ๊า  :L2:

m_pop91

  • บุคคลทั่วไป
สงสารเมฆอ่ะตอนนี้

REFICUL

  • บุคคลทั่วไป
วุ่นวายได้ใจ  o13
อยากอ่านเรื่องสามผีอ่าาา  :o8: อยากอ่านพี่วิทย์~
พี่ทินกัีบพี่คมนี่  :impress2: ขออ่านด้วยได้มั้ย หุหุ  :z1:


ไม่ได้อ่านมา 3 สัปดาห์ได้มา 2 ตอน :a5:......ไม่เป็นไีรๆ เพราะว่ามันสนุก~ รอตามต่อนะค่ะ  :L2:

ออฟไลน์ puchi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 762
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
งานเข้าแล้วเนมเอ๋ยยยยย

พัสดีคนใหม่นี่ท่าทางจะเอาเรื่องน่าดูเลย

สามผีก็ยังไม่เคลียร์สงสารกันถ้วนหน้าไปหมด

nok_aree

  • บุคคลทั่วไป
งานเข้านู๋เนมซะแล้ว  :เฮ้อ:

สงสารเมฆจังเลยค่ะ คนแต่ง  :sad11:

โจ๊กกุ้ง

  • บุคคลทั่วไป
เนมจะโดนขังเดี่ยวอ๊ะป่าวอ่า  อีพัสดีคนใหม่น่ากลัวนะ 

ออฟไลน์ Pumpkin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
หันมามองเนมก็ใช่ว่าจะเป็นที่นอนของเนมนี่นา เนอะ?? อาจจะเป็นของอิพี่โตก็ได้นี่นา



เค้ามีอะไรจะบอกแหละ ปลื้มพัศดีคนใหม่คนนั้นจังเลยอ่ะ ถึงแม้ว่าบทบาทพี่แกจะเป็นปรปักษ์กับพวกพี่โตก็ตามที

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






Sornpattra

  • บุคคลทั่วไป
ความซวย มาถามหาพี่โตเข้าจนได้
ทำไงกันดีฟระ

งานนี้ต้องมีใครมาใส่ร้ายพี่โต ชัวร์
ปอลอ ถึง  พี่กันย์ไม่ต้องมาให้พี่ วิทย์แกเห็นหน้าเลย ไป ไสหัวไปเลย
ไอ่บ้าพี่กันย์ดันมาเกลียดพี่วิทย์ ทำไมวะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-04-2011 17:04:57 โดย Sornpattra »

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
เครียด  งานนี้พี่โตอ่อมแน่

lovevva

  • บุคคลทั่วไป
 o22อ่ะ ไม่นะ ทำไมรู้สึกว่างานจะเข้าหนูเนมซะแล้ว :z3:

JipPy

  • บุคคลทั่วไป
กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด




มาต่อ แล้ว ดีใจ มากมาย




เรื่องราว  เริ่มเข้าสู่จุดไคแม็คแล้ววว ว ว วว ว ววู้ๆ

ออฟไลน์ ishiya

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
อ่านตอนนี้เเล้วบอกได้คำเดียวว่า "ชิบหายเเล้วววววววว"
พัสดีคนใหม่มันจะดีเเละมีคุณธรรมจริงๆ หรือป่าว ไม่ใช่เป็นคนของป๋าอีกคนล่ะนะ อ่านเรื่องนี้เเล้วระเเวงไปหมด คาดเดาได้ยากจริง ๆ
รอลุ้นตอนหน้าว่าน้องเนมจะเป็นยังไง เฮ้อ....

ออฟไลน์ afternoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 301
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
ชิบหายแล้วววววว หนูเน๊มมมมมมมมม  o22

Cacao

  • บุคคลทั่วไป
เหมือนงานจะเข้าพี่โต แต่ไปๆมาน้องเนมซวยกว่า  :call:
รออ่านตอนต่อไปว่าไคจะซวยกว่ากัน และไคซวยสุด...
ไม่พ้นไอเนมของพี่โตแน่เลยอ่ะ  :a5:

ออฟไลน์ ~มือวางอันดับ1~

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
งานเข้านู๋เนม  o22เฮียมะอยู่ :z2:+1

ออฟไลน์ ♥Täsinä→l3€LL♥

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
งานเข้า  แล้ว  น้องเนม o22

ออฟไลน์ JAROEN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-9

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด