Imprison 54: คำโกหกหรือความจริง
นัยน์ตาสีเข้มหรี่ลงเล็กน้อย เหมือนเจออะไรไม่พึงประสงค์..เมื่อมองเห็นตัวเขา...ที่เดินมาพร้อมกับวิทย์..
แววตาที่นึกเกลียดชังมาตลอดกวาดผ่านอย่างรวดเร็วราวกับไม่อยากเห็น ไม่อยากมองให้เสียเวลา..ก่อนจะหันไปมองสบตาคนข้างกาย..ด้วยแววตาที่หงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด..
“..นี่น่ะเหรอธุระที่มึงว่า?...” แววตากล่าวหาที่มาพร้อมกับอาการฮึดฮัดนั้น ไม่ได้ทำให้คนข้างตัวนึกโกรธ เจ้าตัวเพียงแค่ยักไหล่เล็กน้อย ทำราวกับท่าทีชวนโมโหนั้นไม่เคยเกิดขึ้น..
“..ก็ประมาณนั้น..”
“..หึ....” น้ำเสียงขึ้นจมูกไม่พอใจของขาใหญ่แห่งแดนสิบสอง ทำให้ชายหนุ่มอีกคนที่ติดสอยห้อยตามกันมาหน้านิ่ว ใบหน้าที่ฉายแววงุนงงน้อยๆเหลือบไปมองคนตัวโตที่ทำหน้าไม่พอใจ แล้วถอนหายใจเฮือก
“..ลำพังตอนนี้ตัวเองก็หน้าตาไม่หล่ออยู่แล้ว จะมาบึ้งอะไรให้น่าเกลียดกว่าเดิมเนี่ย...” เจ้าของคำพูดนั้นทำให้บรรยากาศที่เริ่มจะตึงเครียดขึ้นมาพลันหายวับไปทันควัน โตส่ายหน้าช้าๆเป็นเชิงระอาก่อนจะวาดมือขึ้นเหนื่อศรีษะเจ้าตัวเล็ก กำปั้นทุบลงไปอย่างไม่เบาแรงนัก เรียกเสียงโวยวายจากคนข้างตัวได้ทันควัน..
“..พูดยังกะมึงหล่อตาย..” วาจาเสียดแทงด้วยใบหน้านิ่งสนิทนั่น ทำให้คนฟังหน้ามุ่ย ก่อนจะแบะปากลงทันควัน..
“..หล่อกว่าพี่ตอนนี้ก็แล้วกัน เหอะ !! “ เอามือลูบผมที่มีไม่เท่าไหร่ของตัวเอง แล้วก็ออกปากเถียงอย่างไม่ยอมแพ้..
“...โถ อย่างมึงเนี่ยน่ะหล่อ..หัดดูความจริงก่อนจะมาหลงตัวเองดีกว่ามั้ง..ไอ้เนมเอ๊ย..” วิทย์หัวเราะก๊ากก่อนจะลงมือขยี้เส้นผมที่เหลือไม่มากบนศรีษะของเจ้าตัวอย่างเร็ว เรียกเสียงโวยวายจากเจ้าคนโดนรังแก กับรอยยิ้มสมใจของชายหนุ่มร่างใหญ่ที่ยืนอยู่ข้างๆ..
...ทว่ารอยยิ้มประดับบนริมฝีปากที่ยังคงเป็นรอยบวมช้ำได้ไม่นาน แววตาของโตก็หรี่ลงอย่างไม่พึงใจเมื่อมองเห็นดวงตาที่ลุกวาบ...ของเจ้าคนที่กำลังยืนอยู่ข้าง”เพื่อน”ของเขา..
และเหมือนจะรู้ถึงกระแสของความไม่พอใจที่เริ่มก่อตัว..ดวงตาคู่นั้นจึงลุกวาบขึ้นและหันมาสบมองทันที..
“...มีอะไรเหรอครับ..” น้ำเสียงถามเรียบสนิทและเฉยชาเช่นคนไม่รู้จัก แต่ดวงตาที่วาววับคู่นั้น..ทำให้ไม่อาจแปรเป็นความรู้สึกอื่นใดได้เลย นอกจากความแค้นเคือง..และ ไม่พอใจ...
“..ก็เปล่า..แค่สงสัย..ว่าแผลที่หน้านั่น..หายดีรึยัง ก็แค่นั้นเอง..” รอยยิ้มแสยะตรงมุมปากทำให้คนมองสะดุ้งเฮือก วิทย์หน้าซีด เผลอกุมแก้มตัวเองทันควัน..แตะลงไปบนรอยแผลสีเข้ม ที่ลากยาวนั้นอย่างระแวดระวังขณะที่ดวงตาลุกวาบ..สบมองอย่างคนไม่ยอมอ่อนข้อ..
..ชายหนุ่มเม้มปากแน่น จ้องหน้าคนพูดอย่างแค้นเคือง ไม่พอใจก ระทั่งรอยแผลก็ยังรู้สึกว่ามันปวดแปลบขึ้นมาอีกครั้ง..
...ยังจำได้ดี รสชาติของคมมีดที่บาดลงบนผิวแก้ม..ชาหนึบ..ก่อนจะเจ็บแปลบ..
...เลือดซีเข้มที่ไหลกระเซ็น..และน้ำหนักของฝ่าเท้าที่กดทับผิวเนื้อ กระทั่งถ้อยคำสาปส่งที่ติดหู..
...งูเห่า...ทรยศ...กระทั่ง...ไม่รัก...
...คำพูดที่ไม่อยากฟัง..ว่าคนที่รักนักหนา ไม่ได้มีใจให้กับตนแล้ว..
คิดพลางตวัดสายตาไปมองคนข้างกายที่กำลังยิ้มเริงร่า และแววตาที่มองกลับมา..ยิ่งทำให้นึกหวั่นไหว..
ดวงตาคู่นั้น..ยังไม่สะท้อนเงาของตนเองเลยแม้แต่น้อย..
“...ไม่เป็นไรแล้วล่ะพี่..แค่โดนหมากัด..”
คำพูดนั้นทำให้แววตาคนฟังเบิกขึ้นอย่างไม่พอใจ ก่อนที่โตจะยิ้มออกมาด้วยท่าทีเมินเฉย
“..ถ้าคิดว่าแค่นั้นก็ไม่เป็นไร..เพราะหมาที่มึงคิดว่ามีไม่กี่ตัว..ความจริงแล้ว..มันมีมากกว่านั้นเยอะ..”แววตาที่มองมาเย็นชาเสียจนเมฆขยับตัวห่างไปอย่างนึกหวาดหวั่นไม่น้อย..
“..ขอให้งูเห่าอย่างมึงฉกให้ตายทุกตัวก็แล้วกัน..ไม่งั้น มึงนั่นแหละจะถูกกัดจนหัวขาดกระเด็น..”
“....ก็ให้ระวังเหมือนกันเถอะ!!....” สูดหายใจลึก มือจิกเข้ากับแขนซ้ายของตัวเองด้วยความหวาดหวั่น วิทย์เม้มปากแน่น พยายามสบมองแววตาที่มองมาอย่างไม่หวั่น แต่ทว่า ก็เป็นไปได้ยากยิ่ง..เมื่อดวงตาคู่นั้นราวกับจับจ้องเขาไปเสียทุกอิริยาบถ..ทุกการกระทำ เสียจนหายใจไม่ออก..
“..หึ...ถ้าคิดว่าน้ำหน้าอย่างมึง..กับไอ้หมาตัวนั้นจะทำอะไรได้..ก็ลองดูสิ..” โตเอ่ยออกมายิ้มๆ แต่นั่นทำให้คนฟังชะงัก..เมฆหรี่ตาลงช้าๆ พยายามทำเป็นไม่สนใจ..ไม่ใส่ใจ แต่ก็เป็นไปด้ากเหลือเกินเมื่อคิดว่าคนตรงหน้ารู้เรื่อง..และแผนการ์ณองพี่ชาย...ทั้งหมดแล้ว..
“..มีอะไรกันเหรอ?..” วิทย์เอ่ยปากถาม พร้อมกับแตะไหล่เจ้าตัวเบาๆ นั่นทำให้แววตาที่สั่นสะท้านเมื่อครู่..เหมือนจะได้สติ..
“..เปล่า...” เอ่ยตอบ..กลืนน้ำลายลงคอช้าๆ..รู้สึกกระทั่งว่าน้ำลายตนเองขมเฝื่อน..บาดคอเกินจะทน..
“..ดีแล้ว...” แววตาที่ส่งมาคราวนี้ทำให้นัยน์ตาที่มองค้างกระพริบช้าๆก่อนจะหรุบตาลงและผุดรอยยิ้มขึ้นมา...
..แค่ตาฝาดไป..เพียงเท่านั้น..
แค่ฝัน แค่มองพลาด แค่...ตาลาย..ว่านัยน์ตาคู่นั้นไม่สะท้อนความรักออกมา..
..ทุกสิ่งที่มองเห็น..ไม่ใช่ความจริง..
“..แล้วนี่กินข้าวรึยัง..” วิทย์ออกปากบ่นงึมงำ พร้อมกับลูบท้องตัวเองไปมา “สาดเอ๊ย...หิวจนปวดกระเพาะไปหมดแล้ว..”
“..เหอะ..แล้วใครใช้มึงไปซะนาน..ไปถามพวกห้องครัวเองสิ..กูไปล่ะ..” เอ่ยพลางคว้าแขนคนข้างกายแล้วลากออกมาทันควัน..ไม่สนใจน้ำเสียงถามไถ่นั่นแม้แต่น้อย..นั่นทำให้วิทย์หัวเราะออกมาเบาๆ..มองไปยังเพื่อนรัก..กับ...เด็กอีกคนที่ทำให้มันยิ้ม..และมีความสุข..
มือลูบบนไหล่ผอมของคนข้างตัวเบาๆ..ทอดสายตามอง..ด้วยแววตาอ่อนโยน..
“..ถ้า...มีความสุขแบบนั้นบ้าง..ก็คงดีสิน่ะ..”
ถ้อยคำนั้น ทำให้คนได้ฟังชะงัก วิทย์หรุบตาลงต่ำ..หลังจากมองเห็นเสี้ยวหน้าเปื้อนยิ้มของชายหนุ่ม ยามหรุบตาลงเขามองเห็นฝ่ามือที่ว่างเปล่าคู่นั้น..จึงเอื้อมมือสอดประสานแอบอิงเข้าหาไออุ่นที่เขาต้องการด้วยหัวใจที่อ่อนล้าและสั่นไหว..
.......Oh bad Guy!! รักร้ายๆของผู้ชายในคุก......
.
จานอาหารตรงหน้าถูกวางลงช้าๆ..พร้อมกับช้อนสแตนเลสสีเหล็ก สายตาหรุบต่ำจ้องมองจานข้าวที่คุ้นเคย
..อาหารก็เป็นเช่นทุกวัน..จะห่วย..หรือจะน่ากิน ก็ไม่มีสิทธิเลือกอะไรได้..เพราะมันไม่ใช่..สิทธิของนักโทษในคุก ไม่ใช่หน้าที่ที่คนทำผิดจะมาร้องเรียน..ไม่พอใจ..หรือกล่าวถึงความไม่พึงใจของตนเอง..นั่นไม่สามารถทำได้
ทว่าแม้ร่างกายจะถูกพันธนาการ..จองจำด้วยลูกกรงหรือโซ่ตรวน หัวใจเท่านั้นที่มีอิสระ..
..แต่กระทั่งหัวใจ..ก็ยังต้องทนทุกข์..สับสนกับทางเลือกที่ไม่อาจจะรู้ผลของมัน..
“..ทำหน้าแบบนั้น..เป็นอะไรไป?..” ฝ่ามืออุ่นๆที่ทาบลงบนศีษะ ราวกับจะแทรกซึมความอบอุ่นลงบนหัวใจที่หนาวเหน็บ..ทำให้เมฆขยับยิ้มออกมา..ทว่าก็เป็นรอยยิ้มที่เย็นชืด..เฉยชาอยู่ในที..
ทั้งที่ได้ในสิ่งที่หัวใจต้องการแล้ว..แต่ทำไม..เพราะอะไร..ถึงรู้สีกว่างเปล่า..ใจหาย..
“..เปล่า...ไม่มีอะไร..” ตอบรับออกไปเบาๆพร้อมกับกลืนอาหารเช้าให้ลงกรเพาะไปอย่างรวดเร็ว จนแทบไม่รู้สึกถึงรสอาหารด้วยซ้ำ..แต่ก็ดีแล้ว เพราะอาหารที่นี่..ไม่รู้รสชาติอะไร ยังจะดีเสียกว่า..
“...งั้นเหรอ..” มือคู่นั้นละออกไปทันควัน..ชวนให้รู้สึกใจหายลึกๆ..จนต้องเงยหน้าไปมองหน้าเจ้าของมือ และยิ่งต้องขมวดคิ้วด้วยความงวยงงมากกว่าเดิม..เมื่อตาคู่นั้นหันไปทางอื่น..ด้วยที่ทีไม่พอใจ
“..ถ้าไม่พอใจจะมา..ทำไมไม่อยู่ตรงนั้นซะล่ะ..” น้ำเสียงเรียบเฉย..เอ่ยขึ้นมาช้าๆ ก่อนจะเอ่ยถามด้วยซ้ำ..
“..ไม่ใช่แบบนั้น...” เมฆออกปากท้วงขึ้นมาทันที ไม่ใช่ว่าเขาไม่เต็มใจ ไม่อยากมา ไม่ใช่..
..แต่..การจากมา ออกห่างจากพี่ชายคนสำคัญและปล่อยให้ยืนอยู่ตรงนรั้นเพียงลำพัง..มันจะไม่ใจร้ายไปหรือ..ไม่...ชวนให้สงสาร..หรือใจหายบ้างหรืออย่างไร..
“..แล้วอะไร..? “ วิทย์เลิกคิ้ว..หันมามองหน้า แววตาคู่นั้นยังขุ่นมัวด้วยความไม่พอใจ “ จะอยู่กับคนทางโน้นก็ไม่เลือก มาอยู่กับทางนี้ก็ไม่ชอบ..จะเอายังไง..”
“..ผมเกลียดไอ้โต..และรู้..ว่าพี่...ก็แค่อยากแก้แค้นพี่กันย์..”
“................” ถ้อยคำนั้นทำให้คนฟังชะงัก...ดวงตาเบิกกว้างขึ้นช้าๆ..ก่อนจะหรี่ลงราวกับระวังภัย..
“...แปลกใจรึไงที่รู้...” เมฆยิ้มฝื่นๆออกมาเมื่อเห็นท่าทางแบบนั้น แม้ว่าหัวใจเขาจะสั่นไหว ด้วยความเจ็บปวดก็ตาม..
“..ก็เปล่า..” วิทย์ยิ้มมุมปากออกมากับคำถามนั้น ชายหนุ่มหลับตาลงช้าๆ ราวกับครุ่นคิด ก่อนจะค่อยมองไปยังร่างที่นั่งมองเขาเบื้องหน้า “ก็รุ้อยู่..รู้ทั้งสองเรื่องนั่นล่ะ..เมฆ...”
“...........” คราวนี้เป็นเมฆที่ต้องเงียบ พร้อมกับจ้องหน้าคนพูดอย่างครุ่นคิด
“..รู้...ว่ามึงอ่ะ เกลียดไอ้โตแค่ไหน ..เรื่องนี้ไม่ต้องมีใครบอกก็รู้..นิสัยแบบนั้น..” วิทย์บิดริมฝีปากลงคล้ายจะล้อเลียน “..ส่วนเรื่องที่ทำไปเพราะอยากเอาชนะไอ้กันย์..นั่น...ถ้ามึงไม่รู้..กูก็ไม่รู้จะพูดยังไง..”
“..มาตอนนี้แล้ว..จะมีใครมาเฝ้าเพ้อฝันถึงความรักอันบริสุทธิ์สดใสเหมือนนิยายน้ำเน่าอยู่อีกรึไง..รักน่ะมันรักได้...แต่ต่อให้รักแค่ไหน..ก็ไร้ประโยชน์..” แววตาคนพูดหรุบต่ำลงพร้อมกับหัวเราะในลำคอแผ่วเบา..เปลือกตาที่หรุบต่ำลงปกปิดไม่ให้เมฆมองเห็นรแววตาของคนพูด...บางทีถ้าหากเขามองเห็น..อาจจะนึกเสียใจที่เลือกทางนี้..หรือไม่อย่างนั้น ก็อาจจะนึกสมเพช.. ทุเรศเจ้าคนที่ไม่อาจลืมตามามองคนที่ตัวเองใช้คำว่า”รัก”หลอกล่อเพื่อให้ทำสิ่งที่ตัวเองต้องการ..
“...ผมรู้..... “ เมฆเพียงแต่ยิ้มรับด้วยแววตาสั่นไหว..รู้..รู้ดีว่าความรัก...ที่เขาจงใจจะเข้ามาคว้านั้น หาได้งดงามหรือสวยสดเช่นวาดหวัง..มันเป็นเพียงความรัก..
...รัก...รักที่โง่งมและขลาดเขลา..
“...แล้ว...ตามมาทำไม..อยู่กับคนที่รัก...มันดีกว่าไม่เหรอ..? “ วิทย์เหลือบมองคนตรงหน้าเพียงครู่ก่อนจะระบายรอยยิ้มชาเฉยบนริมฝีปาก
“..ก็เพราะรักไง..” เมฆยิ้ม..ยิ้มให้ชายหนุ่มตรงข้าม ก่อนจะตักข้าวในจานออกมาเป็นคำ และบรรจงยัดมันลงในปากที่อ้ากว้างอย่างเชื่องช้า..
“...โง่.....” เอ่ยถ้อยคำถากถางทั้งที่ริมฝีปากยังเคี้ยวหยุบหยับ ทำให้เมฆหัวเราะขันรับคำพูดนั้นด้วยรอยยิ้มล้อเลียน ก่อนจะอ้าปากรับข้าวจากฝ่ายตรงข้าม และเคี้ยวมันด้วยดวงตาที่ร้อนผ่าว..
“...พี่กำลังจะทำร้ายพี่ชายที่ผมรัก..” วาจากล่าวหานั้นไม่ได้ทำให้คนฟังนึกโกรธหรือฉุน ตรงกันข้าม วิทย์ กลับหัวเราะเบาๆ..พลางคว้าแก้วน้ำมาดื่ม..
“.แล้วไง..ก็กุเกลียดมัน...” อ้าปากรับข้าวอีกคำจากอีกฝ่าย มองสบแววตาที่สั่นไหวและดวงตาร้อนผ่าว..ก็ทำเพียงแค่ยิ้ม..ยิ้มพร้อมกับตักอาหารไปจ่อบนริมฝีปากของมันเท่านั้น..
“...มึงก็กำลังจะทำร้ายเพื่อนรักกู..” รอยยิ้มของคนฟังหยักขึ้นคล้ายจะยิ้ม..
“..แล้วไง...ก็ผมเกลียดมัน..” ก่อนจะอ้าปากรับอาหารจากช้อนของฝ่ายตรงข้าม..สบมองแววตาที่แห้งผาก..และรอยรื้นเบาบางในแววตาคู่นั้นก็ราวกับกำลังสั่นไหว..
“...แล้วมึงจะอยู่ฝ่ายไหน?..” เนื้อไก่ที่สับและจนเปื่อยยุ่ยจ่ออยู่บนริมฝีปาก จึงอ้างับเข้าไปในปากอย่างรวดเร็ว ตามด้วยน้ำซุปที่ชืดจางและเย็นจนไร้รสชาติ..นอกจากมันจะเย็นชืดแล้ว ยังขมปร่า..
“...พี่อยู่ฝ่ายไหน..ผมก็อยู่ฝ่ายนั้น..” ผักคะน้าที่เยิ้มด้วยน้ำมันถูกส่งมาตรงหน้า แม้จะไม่ชอบกินก็ยังฝืนกลืนมันลงไป แต่ก็ขมจนต้องคว้าน้ำซุปมาซดล้างปาก
“..ถึงจะเป็นฝ่ายเดียวกับคนที่มึงเกลียด..? “ ข้าวในจานกำลังพร่องลงอย่างรวดเร็ว..ขณะที่น้ำซุปเย็นชืดถูกส่งมาให้กลั้วคอแก้กระหาย..
“..ถ้าจะอยู่ฝ่ายเดียวกับพี่กันย์..พี่จะยอมไปรึไง..”เมล็ดข้าวสีเข้มหล่นลงบนพื้นโต๊ะ มือหนาจึงแตะปัดให้ไกลคล้ายจะรำคาญ..มองจานข้าวของตนและอีกฝ่ายที่พร่องลงไปมากแล้วจึงยิ้มมุมปากราวกับจะขบขัน..
“..ฆ่ากูให้ตาย..แล้วเอาไปแค่นั้น..”
“..อย่าท้าน่ะ..”
“..แล้วคิดว่าไงล่ะ..”ระบายรอยยิ้มบนริมฝีปาก ครั้งแล้วครั้งเล่าราวกับมีความสุขนักหนา ทั้งที่สมองตื้อทึบ หัวใจก็ด้านชาราวกับถูกหวดด้วยกระบองหนักเป็นรอยครั้ง..ทุกคราที่สบมองแววตา ทุกครั้งที่ตอบคำถาม..ราวกับมีคมมีดที่มองไม่เห็น ค่อยจ่อลงบนก้อนเนื้อบนอก แล้วค่อยๆเชือดมันลงไปทุกครั้ง..ทุกคราที่ได้ฟังถ้อยคำที่เอ่ยออกมา..
.. นัยน์ตาสองคู่เพียงสบมองกันเงียบๆ ก่อนจะเริ่มใช้ช้อนตักอาหารบนจานของตัวเองอีกครั้ง
“...ผมรักพี่...”
“..รู้แล้ว...”
“...รักมาก...มากเลยน่ะ..”
“..อืม...”
“ จะไม่พูดอะไรบ้างหรือไง..” เลิกคิ้วขึ้นช้าๆ สบมองดวงตาของคนฟังที่ทำเพียงเลิกคิ้วขึ้นช้าๆ วิทย์ตักข้าวในถาดแบ่งออกมาเป็นชิ้นพอดีคำอีกครั้ง ก่อนจะยื่นให้คนตรงหน้า
“ กูรักมึง...” แต่กูก็โกหก..
ริมฝีปากคู่นั้นอ้างับเข้าไปอย่างรวดเร็ว.
“..กูเกลียดมึง..” นั่น...ก็โกหก..
“..แล้วตกลง..รู้สึกยังไงกันแน่..”เลิกคิ้วขึ้นคล้ายจะไม่เข้าใจคำตอบ..คนฟังเพียงแต่โคลงศรีษะเบาๆ แล้วยกน้ำดื่มขึ้นมาช้าๆ..
“..ทั้งสองอย่าง..” วางแก้วน้ำที่ว่างเปล่าลงข้างกาย ก่อนจะเอื้อมมือไปแตะแก้มาวที่มีรอยแผลเป็นสีเข้มเหลืออยู่ชัดเจน..วิทย์ยิ้มออกมาช้าๆ..ขระที่ลูบรอยแผลนั้นตามรอยยาวและไล้ผิวแก้มของเจ้าตัวแผ่วเบา..
“....มึง...ทำให้กูต้องฆ่าไอ้นพ..” มองแววตาที่ฉายแววไม่แน่ใจของคนตรงหน้าแล้วยิ้ม..ยิ้มออกมาช้าๆ ใช่ว่าจะไม่รู้เรื่องที่เพื่อนของตนต้องเผชิญ ยามที่เขาลงมือทำร้ายลูกน้องในแกงค์..รู้..ว่าผู้ที่ร่วมมือคือใคร..รู้ ว่างูเห่าตัวนั้น...อยู่ที่ไหน..
“...มึง...คิดจะ..ทำร้ายเพื่อนรักของกู..ทุกอย่าง..ทุกทาง..”รอยยิ้มบนริมฝีปากของตนเองกว้างขึ้น ขณะที่ใบหน้าของอีกฝ่ายซีดลงจนแทบไร้สีเลือด “..และยัง..ร่วมมือกับพี่ชายที่แสนดีของมึง..แต่แสนเลวสำหรับคนอื่น..พยายามล้มพวกกู..ล้มแกงค์ที่พวกกูใช้ชีวิตทั้งชีวิตแลกเอามา..”
แกร๊ง....
ช้อนสเตนเลสหลุดจากฝ่ามือลงไปยังจานสังกะสีเคลือบสีขาว ดังขึ้นเบาๆ ท่ามกลางโรงอาหารที่ผู้คนเริ่มจางหายไป..
ขณะที่ร่างของอีกฝ่ายเข้าประชิด สีสันในแววตาหายไปจนไม่เหมือนเดิม ไม่ใช่แข็งกร้าวน่ากลัว..ไม่ได้เคียดแค้น ชิงชัง หรือสงบนิ่ง มีเพียงแววตาเรียบเรื่อย เฉยเมยคล้ายจะเล่าเรื่องราวอันไม่สลักสำคัญออกมาสักเรื่องเท่านั้น..
ลุกขึ้นจากเก้าอี้ยาวที่นั่งอยู่ ยืดตัวขึ้นมาประจัญ เผชิญหน้าและสบตากับแววตาของคนที่ตนเองเฝ้าฝันหา รอยยิ้มน้อยๆที่ระบายบนใบหน้าของอีกฝ่ายช่างน่าเคลือบแคลงสงสัย ว่าเกิดอะไรขึ้นกับใบหน้าของตนในยามนี้ เพราะมันช่างร้อนผ่าวเสียจนใกล้จะลุกไหม้..และสั่นไหว..แทบไม่กล้าลืมตา..
“..กูรู้ดี..ว่า”งูเห่า” ตัวนั้น อยู่ที่ไหน..” เสียงกระซิบแผ่วเบาใกล้ใบหูเสียจนต้องหลับตาลงช้าๆ พร้อมกับแม้มริมฝีปากทั้งสองข้างเข้าหากันแน่น..แน่นเสียจนเจ็บแปลบ..
“..งูตัวนั้น..กูจะขอรับไว้เอง..” อ้อมแขนที่รัดอยู่บนกายนั้นทั้งแข็งทื่อและร้อนผ่าว เจือความอบอุ่นไว้ให้สัมผัสเพียงเสี้ยว ทว่านั่นก็มากพอ..มากเกินพอแล้วที่จะลืมตาขึ้นมาสบมอง..
“..จะฉกก็ได้..แต่ขอให้ฉกแล้วตายไปด้วยกันทั้งคู่เถอะ..”
พร้อมกันนั้น ริมฝีปากร้อนผ่าวก็เข้ามาทาบทับ...มันร้อน ร้อนเสียจนแทบลุกไหม้..ร้อน...ร้อนจนแก้วน้ำใกล้มือก็ไม่อาจจะบรรเทาความรุ่มร้อนนั้นได้..
หลับตาลงช้าๆ...พลางเอื้อมมือกำเสื้อสีเข้มไว้แน่น..พึมพัมด้วยริมฝีปากแดงก่ำของตัวเอง..เพียงแผ่วเบา.ทว่าชัดเจนและหนักแน่น..
“..ก็ได้...ผมจะเป็นคนฆ่าคุณเอง..”
..หากวันไหนที่งูตัวนี้เลื้อยมาฉก..ก็จะขอฉกให้ตายตกลงไปด้วยกันทั้งคู่..
ไม่ว่าจะเป็นรักก็ดี หรือเกลียดก็ตาม ความรู้สึกทั้งหมด..ขอให้มันจบลง..ในวันที่หมดลมหายใจ..
..ไม่ว่าสิ่งนั้น จะเป็นความจริงหรือคำโกหกก็ตาม..
.......Oh bad Guy!! รักร้ายๆของผู้ชายในคุก......
.
สวัสดีค่ะ..
ดราม่ามหานครมาอีกแล้ววว..
รู้สึกชอบตอนนี้กว่าตอนที่แล้วน่ะ..ส่วนน้องเนมกับพี่โตมาแป๊ปเดียว มาให้ถูกแย่งซีนแล้วจากไป ฮ่าๆ..
ชอบความรู้สึกในตอนนี้น่ะค่ะ แบบว่า..ไม่ว่ามันจะจริงหรือจะโกหก..ยังไงมึงกับกุก็ตายด้วยกันแล้วกัน และชอบตอนป้อนข้าวกันมากที่สุด..แบบว่าอืม..พวกแกป้อนข้าวกันด้วยอารมณ์แบบไหน? (พาลนึกไปถึงหนังพิศวาสฆาตกรรมที่ตัวเอกถูกป้อนข้าวแล้วร้องไห้โฮๆชอบก๊ล)
จะว่าไปแล้ว ทั้งเมฆทั้งวิทย์นี่..เป็นประเภทคลั่งรัก รักต้องฆ่าทั้งคู่สิน่ะ..เขียนตอนนี้แล้วรู้สึกสะใจอิพี่กันย์ชอบกล(แฟนคลับคุณหมอจะไม่เหลือแล้วมั้ง)
ตอนหน้าเจอกันแบบไฟท์ติ้งเซอร์ไวเวอร์ค่ะ หุหุ ..
ปล. ใครว่านิยายเรื่องนี้มันโหดโคตรซาดิสต์อ่ะ ใจร้ายยย

นิยายเค้าออกจะน่ารักใสๆ