วู้ มาอัพเเล้วค่า ร้อนๆส่งจากเตากันเลยทีเดียว เอิ้กก
มาทำหน้าที่หลังจากหายไป(อีกแล้ว) โดนใบสั่งก็ต้องมาล่ะค่ะทุกท่าน คึคึคึ
ขอบคุณทุกเรปเเทนคุณพี่ปุ้ย และขอบคุณทุกการติดตามค่า
:impress3:คิดถึงเล้าเป็ด คิดถึงชาวเล้า
ไปอ่านเลยฮ่าาาา
Imprison 41: ความสำคัญ
สิ้นคำถามนั้นก็มีเพียงความเงียบที่เกิดขึ้น...
พี่วิทย์ที่นั่งมองหน้าต่างนอกห้องพยาบาลหันมามองหน้าผมด้วยแววตาแปลกประหลาด ส่วนมือใหญ่ที่ละจากดวงตาของผมวางบนไหล่ บัดนี้ผละจาก และยังคว้าเสื้อมาใส่พลางเดินดุ่มออกไปข้างนอก..
ผมชะงัก หันไปมองแผ่นหลังของคนตัวโตที่น่าจะอยู่ตอบคำถามเสียก่อน แต่พอหันมากลับสะดุ้งเฮือก กับนัยน์ตากลมๆของพี่วิทย์ที่จ้องเป๋งมาที่ผม...
“ เอ่อ...” ผมอึกอักกับแววตาที่มองมาไม่น้อย ขณะที่พี่วิทย์ผละออกห่าง พิงตัวไว้บนพนักเตียงอย่างเดิม..
“..มันเป็นคนเลวนักเหรอ?..” จู่ๆก็ถามออกมาเรียบๆ นั่นทำให้ผมขมวดคิ้ว พลางเสียงย้ำก็ดังขึ้นอีก “ กูถามว่าในสายตามึง ไอ้โตมันเป็นคนเลวนักรึไง..?..”
“............” ผมไม่รู้จะพูดยังไง ก็ไม่รู้สิน่ะ แต่คิดว่าคงไม่ใช่คนดี จะพูดว่าพี่โตเลวซะเต็มประดาก็คงไม่เต็มปาก แต่จะพูดว่าดีนักหนาก็คงเป็นการโกหก..สรุปคือ..พี่โตในตสายตาผมก็เป็นคนที่เอียงได้ทั้งดีทั้งเลว จะเป็นแบบไหนมากกว่ากันก็คงนับได้จากพฤติกรรมการทำตัวในแต่ล่ะกรณี ซึ่งบางครั้งดีใจหาย ส่วนบางครั้งก็..ร้ายเชี่ยๆ..
“..กูว่าไอ้โตมันก็เลวเหมือนกันน่ะ..เหมือนกูเป๊ะ..” พี่วิทย์ว่าพลางชี้เข้าหาตัวเองหน้าตาใสซื่อ..
“............ “ ผมพยักหน้ารับ แม้จะยังไม่เข้าใจว่าจะมาบอกผมทำเพื่อ..
“..แต่ทั้งที่เป็นแบบนั้น..มันก็เป็นเพื่อนที่ดีของกู..และเป็นลูกพี่ที่ดีของลูกน้อง..” พี่วิทย์พูดออกมาเรียบๆ “ ไม่คิดบ้างเหรอ ว่ากับคนเชี่ยๆอย่างไอ้โตทำไมถึงมีคนติดสอยห้อยตามซะขนาดนั้น..คิดว่าเพราะอิทธิพลหรืออำนาจของมันแค่นั้นรึไง..?.. “
“.........”
“..อิทธิพลกับอำนาจอาจจะทำให้คนยอมติดตาม แต่ถ้าเป็นคนไม่สนใจลูกน้อง ใช้งานพวกมันแบบโหดร้าย ถ้าไม่ใช่ลูกพี่ที่ดี..ก็ไม่มีใครติดตามได้นานหรอก..แล้วกับมึง...มาถามว่าตัวเองจะโดนแบบนั้นบ้างไหม?..กูถึงอยากรู้ ในใจมึงคิดว่าไอ้โตมันเลวมากนักรึยังไง..หรือจะเชื่อใจอะไรมันไม่ได้อีกแล้ว..” พี่วิทย์ว่าพลางจ้องหน้าผมเขม็ง..กอดอก..
“...ไม่ใช่พวกพี่รึไง..ที่สอนผม..” ว่าอย่าไว้ใจใคร..อย่าเชื่อใจใคร...ไม่ใช่เพราะคนพวกนี้เหรอที่ทำให้ผมผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า..แล้วใครจะกล้า..เชื่อใจหรือไว้ใจอีกครั้ง..เพื่อที่จะถูกหักหลัง..อีกครั้ง..และอีกครั้ง..
ถึงสิ่งที่ผ่านมา อาจจะเป็นหลักประกันให้ผมได้ครึ่งหนึ่งว่าผมจะไม่ถูกปฏิบัติอย่างเดิมอีก แต่กับพี่โต..ใครจะเอาอะไรมาประกันได้ ว่าผมจะไม่โดนแบบเดิม..อีก หรือต้องมีชีวิตแขวนไว้กับความพอใจเป็นครั้งคราวหรืออามณ์ขึ้นๆลงๆของคนๆหนึ่ง..
“....เหรอ...” พี่วิทย์ถามออกมาง่ายๆด้วยสายตาไร้แววสำนึกผิดหรืออะไรทั้งนั้น ก่อนจะเหยียดยิ้มเครียด..
“..รู้ไหมว่าทำไมไอ้นพต้องตาย..”
“....ไม่...”
“..แล้วรู้ไหม..ว่าใครเป็นคนสั่งให้ฆ่ามัน..” พี่วิทย์ถามอีก แต่คำถามนี้..ผมคิดว่าตัวผม..ตอบได้...
“..พี่โต...”
“..นั่นก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่มึงคิดว่าตัวเองต้องเจอแบบเดียวกับมันรึไง..? “ พี่วิทย์ถอนใจเฮือก มองหน้าผม
“กูก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงให้มึงเข้าใจ..พวกกูน่ะ ไม่ได้มีแค่ตัวคนเดียว พวกกูมีลูกน้อง มีนายมีพรรคพวกที่ต้องคุ้มกะลาหัวและใช้งานมัน..การอยู่บนที่ลสูงน่ะ ปีนขึ้นมามันยังไม่ง่ายเท่าการรักษาตำแหน่งกับฐานะพวกนี้ไว้..กูทำพลาด..กูจบ..ลูกน้องกูจบ..กูรอด ลูกน้องกูก็รอด พวกกูต้องรับผิดชอบชีวิตและทุกๆการกระทำของลูกน้องอย่างพวกมึง คิดว่ามันสบายเหรอ..หรือติดว่าพวกกูอยากทำ อยากจะฆ่าไอ้นพให้ตายไป ทั้งที่มันเป็นลูกน้อง..เคยกินข้าวด้วยกัน เคยหัวเราะ เคยยิ้มด้วยกันมา มึงคิดว่าคนเป็นๆที่ไหนมันอยากจะทำ..”
“...แล้วมึงคิดเหรอ..ว่าที่ไอ้โตมันถูกมึงแทง..นั่นจะเป็ยนแค่การเล่นตลกของไอ้พวกเหี้ยข้างบนนั่น..”
“...เป็นเพราะคุมผมไม่ได้รึไง..” ผมถาม สบตาพี่วิทย์นิ่ง
“ ผมรู้ว่าที่พี่พูดเพราะอยากให้ไอ้ลูกน้องหัวเน่าแบบผม เข้าใจซะบ้างว่าการเป็นหัวหน้าหรือลูกพี่มันไม่ได้สบาย ผมก็รู้หรอกว่าที่พี่โตถูกผมแทงเพราะคำสั่งนั่นมันมีผลยังไง..แต่จะให้ผมเชื่อใจ คนที่เคยเอาข้าวคลุกเศษดินมาให้กินด้วยเวลาแค่วันเดียว มันง่ายไปมั้ยกับความไว้ใจของผมที่ถูกทำลายลงไป..ถ้าความรู้สึกของคนมันกู้คืนมาง่ายขนาดนั้น..ก็คงไม่มีคนมาเสียใจทีหลังหรอก..”
ผมพูดพลางสบตาพี่วิทย์ มองสบแววตาที่วูบไหวเพราะคำพูดของผมแล้วก็ถอนใจเฮือก ใช่ว่าจะไม่รู้กับสิ่งที่หลายคนพยายามยัดเยียด บอกว่าผมไม่ต้องกลัวอะไรแล้วต่อจากนี้..ไม่ต้องกังวลอะไรอีกเพราะพี่โตจะจัดการให้..ผมกลายเป็นหนึ่งในพรรคพวกที่พวกเขาต้องปกป้องแล้ว..แต่แล้วไง ไอ้คำพูดพล่อยๆหรือท่าทีเป็นนมิตรนั่น จะยืนยันได้เหรอ ว่านับจากนี้ไปผมจะไม่ถูกปฏิบัติอย่าง ”หมา” ยามที่ใครเขาไม่พอใจอีก..
...ถึคำถามที่ผมถามออกไปจะทำร้ายจิตใจคนฟัง..แต่กับคนพูดอย่างผม จะมีใครกล้าพอจะยืนยันว่าจะไม่เป็นเหมือนเดิมแล้วบ้าง..?
ในเมื่อพวกเขาพูดเองว่าอย่าไว้ใจใคร อย่าฝากชีวิตไว้กับใคร จะผิดอะไรถ้าผมถามแบบนั้น..
...ถึงมันจะทำร้ายจิตใจใคร ก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องสน..
“ยังไงก็เถอะ... “ คำพูดของพี่วิทย์ทำให้ผมผละออกจากภวังค์
“..มึงจะคิดยังไงก็ตามใจ กูพูดอะไรไม่ได้มาก..หรือพูดไปมึงก็คงไม่คิดจะฟัง.. กูไม่อยากให้มึงมองไอ้โตในแง่ร้ายจนเกินไป พวกมึงยังดีที่ผ่านจากไอ้เรื่องราวทุเรศๆของไอ้เหี้ยสองตัวนั่นมาได้..กูคงหวังมากไปที่จะให้มึงกับไอ้โต..เฮ้อ.....”
บ่นแล้วก็ถอนใจ คำพูดสุดท้ายนั่นทำให้ผมนิ่วหน้า หวังอะไร?..เขาหวังอะไรกับการที่ผมกับพี่โตไม่ได้โกรธจนฆ่ากันตายหลังจากไปเจอพวกป๋ามา..หวังจะให้รัใคร่ปรองดองแน่นแฟ้น.หรือหวังให้ผมอัพเกรดตัวเองกลายมาเป็นสมุนมือขวาของพี่โต..?
“...เอ้อ..แล้วผมต้องไปส่งของเมื่อไหร่?..” ผมถามออกไปเรียบๆ แม้จะเจ็บแปลบยามคิดถึงเรื่องที่ต้องทำ..แต่ว่า..ถ้าไม่ทำมันก็คง...
“..อีกสองอาทิตย์.. “ พี่วิทย์ตอบพลางหันมามองหน้าผม “ กูรู้ว่ามึงไม่อยากทำ หลังงานนี้ถ้าไม่มีคำสั่งมา..มึง..ก็คงไม่ได้ทำ..อีกแล้ว..มั้ง...”
“..เลี่ยงได้ด้วยเหรอ?.. “ ผมถามหน้าบูดบึ้ง กับคนที่ตอนนี้คงกลายเป็นสมาชิกแกงค์นี้เต็มตัวแล้ว จะเลี่ยงงานแบบนี้ได้ยังไง..
“..ได้สิ.. “ พี่วิทย์ว่าพลางยักไหล่ “ คนอยากทำแทนมึงมีเยอะแยะ ทำแล้วก็ใช่จะเสียเปล่า ได้อะไรตอบแทนตั้งเยอะ..มีแต่มึงล่ะมั้ง ที่ทำท่าจะตายเอา.. “
“..ไม่ได้อยากได้ของที่ต้องทำอย่างนั้นแลกหรอกน่า... “ผมหน้ามุ่ย แค่มีข้าวกินก็พอแล้ว ผมไม่ได้ต้องการอะไรนอกจาก..เสียงไวโอลิน...
เสียงกังวานของเครื่องสายที่ผมหลงใหลดังแว่วออกมาทำให้ผมชะงักกึก เรื่องวุ่นวายที่เข้ามามันทำให้ผมเกือบลืมเรื่องไวโอลินที่ผมอยากเล่นไปซะสนิท ตอนนี้ที่ไม่มีอะไรแล้ว..ผมจะขอเล่นมันได้ไหมนี่..
“...ทำหน้าอย่างกับหมาหงอย..” พี่วิทย์บ่น พลางลุกพรวดออกจากเตียง ผมหันไปมอง ตั้งท่าจะประคองถ้าพี่ท่านจะเซล้มไป แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น พร้อมกับแรงปัดที่แขนผมเบาๆและเสียงบ่นของเจ้าตัว..
“..กุเจ็บแค่ไหล่ คอ แล้วก็หลังหู ได้เกี่ยวเชี่ยไรกับพุง..ไปดูไอ้โตนู่น..” ว่าพลางเดินตัวปลิวไปค้นหาพลาสเตอร์ยาในกล่องปฐมพยาบาลบนโต๊ะหมอหน้าตาเฉย ผมหันไปมองพร้อมกับกระพริบตาปริบๆอย่างพูดไม่ออก..
แอ๊ด....
เสียงเปิดประตูดังขึ้นอีกครั้งทำให้ผมชะงัก พร้อมกับพี่วิทย์ที่กำลังแกะพลาสเตอร์ปะเข้าที่คอสะดุ้งเฮือก หันวับมามองร่างสูงในชุดเสื้อกาวน์สีขาวที่ยืนอยู่ตรงประตูพร้อมรอยยิ้มพิมพ์ใจประดับบนใบหน้า..
... พี่กันย์ยิ้มให้ผมแค่แว้บเดียวแล้วหันไปมองพี่วิทย์ที่กำลังเก้ๆกังๆปิดพลาสเตอร์ที่แผลอยู่ รอยยิ้มบนใบหน้ากว้างขึ้น ทว่ากลับแลดูเย็นยะเยือกพิกล..
“..เวลาจะเอายาหรือของใช้อะไร..อย่าหยิบเองโดยพละการสิครับ..” ว่าพลางเดินเข้าไปปิดกล่องที่ถูกค้น พี่วิทย์ขยับห่างพี่กันย์อย่างรวดเร็ว พร้อมกับรอยยิ้มกระตุกตรงมุมปากแบบสั่นๆ
“..ช่วยไม่ได้..ใครบอกให้ไม่อยู่..” วาจาไร้ความรู้ผิดชอบทำให้ผมยิ้มเหย มองเห็นมุมปากพี่กันยืกระตุกยิกคล้ายจะยิ้มไม่ออก จนผมอยากวิ่งหนีไปให้พ้นมวยคู่นี้เสียเหลือเกิน..
“..งั้นก็เชิญนั่งให้ผมเปลี่ยนผ้าพันแผลได้แล้วครับ..” เอ่ยพลางคว้าหมับเข้าที่ไหล่ของคนจะหนี บีบพร้อมลากให้นั่งลงบนเก้าอี้บุนวมหน้าโต๊ะ ผมมองเห็นพิ่วิทย์ส่งสายตาจ้องเขม็งประมาณว่าเอ็งต้องนั่งเป็นตอไม้อยู่ที่นี่ แต่ว่ารอยยิ้มเย็นๆที่พี่กันย์ส่งมานี่สิ..ทำผมชักไม่แน่ใจ..
“..เนมครับ...พี่ว่าจะบอก..ลองคุยกับอาจารย์ธีระดูแล้ว..คิดว่าน่าจะเข้าไปลองได้ถ้าฝีมือถึงขอทำเรื่องกับทางเรือนจำได้ไม่เป็นไร..”คพูดนั้นทำให้ผมชะงัก ตาเบิกกว้าง..
“..จริงเหรอครับ!!..”
“ ครับ..” สิ้นเสียงรับคำพร้อมกับรอยยิ้มผมก็ถลาออกจากห้องพยาบาลทันควัน โดยทิ้งเสียงร้องเรียกของพี่วิทย์ที่ดังออกมาจากห้องพยาบาลไว้เบื้องหลัง..
โทษทีน่ะครับ ยังไงโอกาสในการเล่นไวโอลินอีกครั้งของผมก็สำคัญกว่า..
..กว่าสงครามของสองคนนั่นล่ะน่ะ
.......Oh bad Guy!! รักร้ายๆของผู้ชายในคุก.......
เขาเกลียดมัน..
แน่นอนว่าวิทย์คิดแบบนี้นับแต่ต้องพบเจอเรื่องบัดซบทั้งหลายจากคนเหี้ยๆอย่างไอ้กันย์ คนอย่างเขามันรักแรงเกลียดแรง โดยเฉพาะกับคนอย่างไอ้กันย์..ไอ้คนเหี้ยๆที่ทำเรื่องเลวๆไว้กับเขามากมาย..
แน่นอนว่าตัวเขาใช่จะเป็นคนดีอะไรนัก..แต่ทว่า..เก็ไม่เคยทำร้ายใคร..ด้วยเรื่องแบบที่มันทำ..
ริมฝีปากเม้มแน่นอย่างขัดเคือง วิทย์จ้องหน้าเจ้าคนที่กำลังจัดหาหยูกยามารักษาแผลของเขาเขม็ง รอยเลือดและรอยแผลยังไหลพราก หลังจากที่เขาเผลอ”แทง”ไอ้นพลงไปด้วยความขาดสติและโมโหจากคำยั่วยุของมัน..และ..ทำให้ต้องถูกผู้คุมพาตัวมาสอบสวน ลดชั้นนักโทษและตัดวันหยุดรวมทั้งวันลดโทษไปด้วย..
...นั่นเพราะมันคนเดียว..
ยิ่งคิด ใบหน้าก็ยิ่งง้ำตาเขียวปั๊ด แม้จะยังดีที่แผลซึ่งเขาเขาได้รับ พอจะเฉไฉพวกผู้คุมได้ว่าเป็นการป้องกันตัวและแผลไอ้นพก็ไม่ได้หนักขนาดตาย มันยังพักอยู่ในห้องพยาบาล..อีกแห่ง..
แต่ทว่า..ที่เรื่องทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้..มันเพราะใคร..
ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้หมอเหี้ยนี่ !!
“..เอามือออกจากแผลด้วยครับ..” น้ำเสียงเรียบๆเอ่ยพร้อมกับมือที่ปัดมือเขาออก กวาดลำลีชุบแอลกอล์ฮอล์ลงไปในแผลจนเจ็บแปลบ..
“..มึงทำเชี่ยแบบนี้กับกูทำไม..กูไปทำอะไรให้มึง..” วิทย์กัดฟันกรอด ถามออกไปเสียงต่ำ แม้จะถือว่าเป็นศัตรู อยู่คนละฝั่งกัน แต่ทว่าเขากับมันก็ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางอะไรกันเลยสักครั้งไอ้กันย์ยังคงเป็นนักโทษชั้นดีและเขาก็ยังเป็นตัวก่อเรื่องของแดนอยู่เสมอ..ทว่า ก็ไม่เคยมีเรื่องอะไรกัน..
..มันคอยดูแลสารพัดแผลของเขา..จนตัวเขาเผลอใจไป..รัก..มันเสียด้วยซ้ำ..
“โอ๊ย...” วิทย์สะดุ้งเฮือก ยามถูกสำลีกดตรงแผล รสชาติของแอลกอล์ฮอล์ฆ่าเชื้อนั้นเจ็บแสบจนต้องสะดุ้ง ขณะที่หูแว่วเสียงหัวเราะในลำคอแผ่วเบา..นั่นทำให้ฟังแล้วต้องเม้มปากแน่น..
“..กูเกลียดมึง..” วิทย์สถบออกมาอย่างสุดกลั้น..
เสียงหัวเราะแผ่วต่ำเบาลง ทว่ามือยังไม่สะดุดด้วยซ้ำ ยังคงลากไปตามรอยแผลเป็นทางยาวอย่างต่อเนื่อง
“..ก็ตามใจสิครับ..ไม่ได้ห้าม..”
“..ไอ้เหี้ย..”
“..เหรอ..” ฝ่ามือชุบแอลกอล์ฮอล์ละจากบาดแผลตรงหลังหู..ก่อนที่มือหนาจะบีบคางแน่น จับเชิดสูงพลางกดแอลกอล์ฮอล์ลงไปอย่างแรงจนสะดุ้งเฮือกทั้งร่าง วิทย์กัดฟันกรอด มือขวาพุ่งไปหาใบหน้าของคนทำ แต่มืออีกข้างกำไว้แน่น
ตาสบตาท่ามกลางความเงียบ แววตากร้าวแข็งสบกับแววตาวาววับด้วยแรงโทสะ..
“..อยากถูกขังลืมรึไง?..” กันย์เอ่ยเสียงห้วน บีบแขนคนตรงหน้าแน่น มืออีกข้างจับใบหน้านั้นเชิดสูง.. “ถามว่าทำทำไม..แล้วไม่ถามตัวเองบ้างล่ะ ว่าทำอะไรไว้กับคนอื่นบ้าง..”
“..อะไรของมึง..? “ วิทย์ยอมละกำปั้นลงมาพูดคุยด้วยสีหน้าบูดบึ้ง แม้อยากจะแก้แค้นแค่ไหน แต่เขาก็รู้ ว่าการทำร้ายร่างกาย เพิ่มคดีให้ตัวเองอีกไม่ใช่เรื่องฉลาด
“ ..หึ... “ กันย์บิดริมฝีปากอย่างไม่พอใจ “..ความจำสั้นจังน่ะ..เคยทำอะไรกับใครไว้ไม่เคยสำนึก ผลกรรมมันเลยตามสนอง เรื่องแค่นี้คิดเองไม่เป็นเหรอครับ..?..”
“..แต่กูไม่เคยทำอะไรให้มึง..” วิทย์ตะคอกใส่อย่างไม่พอใจ..จะเอาสาเหตุงี่เง่าแบบนี้มาเป็นคำตอบงั้นเหรอ?..
“..แล้วไม่เคยทำไว้กับคนอื่นหรือไง !!!!!” น้ำเสียงตะโกนดังใส่หน้าพร้อมใบหน้าเคียดขึ้งนั้นทำให้วิทย์สะดุ้งเฮือก กันย์ละมือจากปลายคางมน สะบัดหน้าไปทางอื่นเพื่อลดความโกรธแค้นที่พุ่งขึ้นมา
“..เคยมองเห็นแก้วใบสวยๆที่เราทะนุถนอมมาอย่างดีมันร้าวแตกเพราะมือคนอื่นรึเปล่า..มองแล้วรู้สึกยังไง?..มีความสุขใช่มั้ยกับการทำลายของที่คนอื่นเขารักนักหนา !!! “ ..กันย์เขวี้ยงเศษสำลีในมือทิ้งลงบนพื้นด้วยความไม่พอใจ ตวัดสายตามองคนที่นั่งอึ้งอยู่บนเตียง
“..มองเห็นมั้ย..แววตาที่เขามองมาน่ะ ว่ามันทุกข์ทรมรรแค่ไหน มีความสุขมากใช่ไหมกับการเหยียบย่ำความรู้สึกของคนอื่นเล่น ..ผมก็ทำอยู่นี่แล้วไง...กูก็ทำให้มึงเห็นแล้วนี่ ว่ามันเป็นยังไง !!!!!”
ใบหน้าโกรธแค้นดวงตาวาววับนั่นยังติดตาเสียจนเมื่อมือหนาคว้าผ้าก๊อซมาปะลงบนแผลแล้วปิดทับแผลอย่างแรงจนตัวสั่นหัวคลอนไม่ได้อยู่ในความสนใจ ชัดเจนเสียจนมองเห็นแต่ใบหน้าและฝ่ามือที่สั่นระริกเพราะความดกรธยากจะระงับ..
....ความโกรธของคนที่ของสำคัญถูกทำลาย..
คนสำคัญของมัน..คนที่เขาเหยียบย่ำ..ทำร้าย..
“..ไอ้เมฆ....” วิทย์ก้มหน้านิ่ง พึมพำเสียงเบาแทบกระซิบ...
“..หยุด...หยุดพูดได้แล้ว..” กันย์เม้มปากแน่น..เหมือนจะใช้ความพยายามอย่างมากในการระงับสติอารมณืไม่ให้เข้ามาทำร้าย..หรือทำอะไรเขาไปมากกว่านี้..
หลับตาลง..เอนตัวลงกับพนักพิง..
ได้ยินเสียงฝีเท้าที่ย่ำห่างออกจากเตียงพยาบาล..และแว่วเสียงประตูเปิดออก..
วิทย์มองหน้าเพื่อนมนิทที่เดินเข้ามาหาด้วยแววตาครุ่นคิด..หากไอ้โตมันทำพลาด..ก็คงต้องเจออะไรไม่ต่างจากเขา..
มองแววตาปวดร้าวของไอ้เมฆที่เขาเห็นเพียงชั่วครู่.. มองเห็นเด็กน้อยในวันวานที่เขาเป็นผู้ดูแล..และชักนำสู่ขุมนรกที่มันไม่ต้องการ..
..มันเป็นคนสำคัญ..เป็นหัวใจ..และโลกทั้งใบของคนอีกคนหนึ่ง..
และคนๆนั้น.ก็เป็นหัวใจของเขา..
...ส่วนหัวใจมันล่ะ...?..
วิทย์ไม่ได้โง่พอจะไม่รู้ว่าไอ้เมฆคิดยังไงกับตัวเอง..ทว่านั่นก็เป็นอดีต
กับปัจจุบันแล้วเขาไม่กล้า..กระทั่งจะคิด..
..จนกลัวว่าเด็กคนนี้ของไอ้โต จะเป็นแบบนั้นไหม..
การพนันขันต่อของคนพวกนั้น..ไม่จำเป็นต้องใช้อะไรมากกว่าคน แต่การพนันของพวกเขาต่อรองกันด้วยชีวิตต่อชีวิต..
กลัวว่าไอ้โตต้องเจอแบบเดียวกัน..กลัวว่าไอ้หมาโง่ของมันจะไม่ต่างไปจากไอ้เมฆของเขา..
แต่เพราะมันกับเด็กคนนั้นเข้มแข็ง...เข้มแข็งเกินกว่าจะถูกทำลายด้วยน้พมือของคนอื่น..พวกมันจึงมายืนอยู่ตรงหน้าเขาได้อีกครั้ง ด้วยสภาพเละเทะ..แต่ดีกว่าที่คิด..
อย่าน้อยก็ดีกว่าคำท้าทายที่เขาพูดกับไอ้กันย์ตอนพวกมันยังไม่มา..
....แม้ว่าไอ้เด็กน้อยของไอ้โตจะยังหวาดกลัวและไม่กล้าจะไว้ใจ..
แต่อย่างไรก็ยังดีกว่าเขา..ดีกว่าตัวเขาที่ทำลายทุกอย่างลงไปด้วยตัวเอง..
..เพราะเชื่อว่าต่างก็เข้มแข็ง ทั้งที่จริงไม่ใช่..
และปัจจุบัน..กับสถานการณ์ไม่น่าไว้ใจที่เขาเจอ..กับการอยู่กับไอ้ตัวอันตรายสองต่อสอง หลังจากหมาน้อยของไอ้โตวิ่งตามเสียงสีซอนั่นไปเรียบร้อยแล้ว..
วิทย์ค้อนใส่เจ้าคนที่หายไปเสียจนตาคว่ำ..พลางนิ่วหน้ากับแรงกดแผลไม่เบานักนั่น..
“..มึงนี่ถนัดใช้ของหลอกล่อจริงน่ะ..เหี้ย..” บ่นใส่ แต่คนฟังเพียงหัวเราะหึ..เพียงแต่ไม่ขำ..
วิทย์หรี่ตาลงช้าๆ..รู้ว่าคนอย่างไอ้กันย์..ตราบใดที่เขาหรือมันไม่หายจากโลกนี้กันไปข้าง มันก็จะไม่เลิกราวีคนที่ทำร้ายคนที่มันรักนักหนาแน่ๆ..อยากจะรู้นัก..ว่าคนอย่างมันจะใช้อะไรมาทำร้าย เอาอะไรมาจ้องล้างผลาญกันอีก..
หรือมันคิดว่ามันเหนือกว่าตรงที่เขารัก..
..แล้วมันคิดว่าตัวมันดีกว่า..ตรงฐานะที่จะทำอะไรได้ไม่ลำบาก
ก็ลองดู..เขาก็อยากจะลองฟาดกับมันดูซักตั้ง..
...เพราะเกมส์นี้ยังไม่จบ..และมันยังไม่ยอมเผยไพ่ใบต่อไปซักที..
วิทย์หรุบตาลงต่ำ...ก่อนจะเปิดขึ้นอีกครั้งยามที่มองสบแววตาของคนที่กำลังเปลี่ยนแผลให้..
“...ถ้ากูรักไอ้เมฆ...มึงจะยอมให้กูอยู่กับมันได้รึเปล่า...”
..ถ้าหากจะลองเสี่ยงพนัน..ก็ไม่มีอะไรจะเสีย.
. .......Oh bad Guy!! รักร้ายๆของผู้ชายในคุก.......
ใครลืมไปแล้วบ้างว่าน้องเนมหวังอะไรอยู่ ฮ่า....
..ใสเจียที่ความหวานยังมาไม่เพียงพอ แบ่งเนื้อที่ให้ดราม่าแบบว่านิดนึง ตอนหน้ายังมีหวานต่อค่ะ ฮ่าๆ..
ถ้าถามว่าเฮียโตหายไปไหน บอกได้คำเดียวค่ะ ว่ารายนั้นน่ะ “งอน” ฮ่าๆๆๆ