We belong together 42
...แม็คค่อนข้างจะแปลกใจที่ผมยังเฮฮาปาร์ตี้ได้ตามปกติ ออกจะร่าเริงกว่าทุกวันด้วยซ้ำ ทั้งที่ควรจะกังวล กับเรื่องโทรศัพท์มือถือของเค้า เข้าไปอยู่ในห้องผมได้ยังไง...ไม่ได้เฟคนะ...ผมมีความสุขจริง ๆ มีความสุขกับการเริ่มแผนป่วนแม็คแบบนิ่ม ๆ...ด้วยการเก็บข้อมูลจากการยืนจับกลุ่มกับพี่ ๆ เม้าท์แขกกันหน้าฟร้อนท์ ซึ่งแม็คเป็นคนคุยเก่งอยู่แล้ว...เค้าค่อย ๆ หลุดเรื่องบางอย่าง ซึ่งผมก็เก็บรายละเอียดได้มากจนไม่อยากจะฟังแม็คเพ้อเจ้ออีกต่อไป…
*
*
...รู้เขา...รู้เรา...รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง...ตอนนี้ผมรู้ทั้งแม็ค และพี่ยอดแล้ว...ทันที่ที่เลิกงาน ผมจึงรีบชวนพี่ยอดขี่มอเตอร์ไซค์เข้าตัวเมือง โดยอ้างว่าอยากไปซื้อของใช้จำเป็น และเบื่อธรรมชาติ อยากไปเปิดหูเปิดตาบ้าง...
“...มองอะไรพี่ยอด...” ผมถามเมื่อเห็นพี่ยอดมองเสื้อผ้าของผม ซึ่งผมก็ตั้งใจแต่งออกมาให้ดูดีกว่าปกตินิดนึง
“...พี่แต่งตัวอย่างนี้ เดินกับทีมได้หรือเปล่าอ่ะ...” พี่ยอดก้มดูเสื้อผ้าตัวเองบ้าง ซึ่งก็ไม่พ้น เสื้อยืด กางเกงบอล แต่สภาพดีกว่าใส่เล่นบอลที่ชายหาดเหมือนทุกวัน
“...ขอให้ใส่เสื้อผ้าเหอะ...ปกติเห็นขยันถอดจัง...” ผมกัด
“...ไม่มั่นใจเลย...” พี่ยอดบ่น
“...ไปกันเหอะ...จะได้กลับไม่ดึก...” ผมเดินนำพี่ยอดออกมาจากห้อง แอบยิ้มนิด ๆ ไม่มั่นใจอย่างนี้สิดี
*
*
...เสื้อยืดเก่า ๆ ของพี่ยอด ถ้าไปอยู่บนร่างกายคนอื่น คงดูไม่จืด...แต่ผมมองยังไง พี่ยอดก็ดูดีอยู่เสมอ...เสื้อยืดเก่า เนื้อผ้าจะทิ้งตัวแนบกับกล้ามอก และกล้ามเนื้อหลัง...ผมมองช่วงบ่ากว้างของพี่ยอดแล้วอดไม่ได้ที่จะซบหน้าลงไป...กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากตัวพี่ยอดเล่นเอาผมเคลิ้ม...ทั้ง ๆ ที่ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมใกล้ชิดกับพี่ยอด...แต่เป็นอะไรไม่รู้ เวลาที่อยู่ใกล้พี่ยอดทีไร ผมต้องปั่นป่วน ใจเต้นแรงทุกที...
“...พี่ยอด...ทีมอยากสระผมอ่ะ...หาร้านทำผมกันเหอะ...พี่ที่ฟร้อนท์บอกว่าห้างนี้มีร้านนึง...ทำผมดีมากเลยนะ...” ผมบอกชื่อร้านไป ขณะที่เดินเข้าประตูห้างใหญ่ที่สุดในตัวเมือง
“...อ๋อ...อยู่ชั้นสอง...ทีมสระเองไม่ได้เหรอ...ทำไมต้องเข้าร้านด้วยล่ะ...”
“...สระเองมันไม่สะอาด...ร้านเค้าสระด้วยนวดด้วย สบายหัวจะตาย...ถ้าพี่ยอดอายก็ไม่เป็นไร...ไปนั่งเล่นเกมรอทีมก่อนก็ได้...ทีมผมสั้นแค่นี้ แป๊บเดียวก็เสร็จ...” ผมตีหน้าเศร้า
“...โอเค...ไปก็ไป...เดี๋ยวพี่นั่งอ่านหนังสือรอในร้านนี่แหละ...ไม่อยากเดินเพ่นพ่าน...เฮ้อ...ไม่เคยตามใจใครขนาดนี้เลยนะเนี่ย...” พี่ยอดพูดเขิน ๆ
“...ถ้าพี่ยอดตามใจทีมแค่ไหน...คืนนี้ทีมก็ตามใจพี่ยอดเท่านั้นอ่ะ...ร้านอยู่ไหนล่ะ...รีบไปกันเหอะ...” ผมยิ้มให้พี่ยอดแบบมีความหมาย พี่ยอดหลบตา แล้วรีบเดินนำไป แต่ผมแอบเห็นพี่ยอดอมยิ้มแก้มตุ่ยเลย
*
*
...ผมใช้เวลาไม่นานในการหว่านล้อมให้พี่ยอดตัดผมตามทรงในหนังสือที่ผมเลือกไว้... พี่ยอดดูจะเกร็ง ๆ กับการเปลี่ยนทรงผมแฟชั่นจ๋าขนาดนี้...เค้าบอกว่าปกติเค้าจะตัดผมที่บาร์เบอร์ในตลาด และไม่เคยตัดผมที่ราคาเกินแปดสิบบาทเลย..แต่ครั้งนี้ราคาสระซอยหลายร้อย...และผมก็รีบจ่ายให้ เพราะไม่อยากให้พี่ยอดเดือดร้อนเพราะความต้องการของผม...
“...พี่ไม่มั่นใจเลยอ่ะ...” พี่ยอดพูดพลางจับผมตัวเอง ขณะเราเดินออกมาจากร้าน
“...หล่อดีออก...” ผมพูด แต่มองไปทางอื่น
“...เหรอ...แล้วทำไมทีมไม่มองพี่ล่ะ...”
“...ก็เขินอ่ะ...ถ้าตัดทรงนี้ตั้งแต่แรก...คุณกรณ์สู้ไม่ได้เลยนะเนี่ย...” ผมชม
“...เวอร์...” พี่ยอดพยายามทำหน้าขรึม แต่ผมรู้ว่าเค้าเขิน
“...หน้า ผม ผ่านแล้ว...เดี๋ยวทีมซื้อเสื้อผ้าให้ใหม่ดีกว่า...” ผมพูดแล้วรีบเดินจ้ำเข้าร้านเสื้อผ้ายี่ห้อดังที่ไปเปิดสาขาที่นั่น
*
*
...ไม่ได้ช็อปสะใจแบบนี้มานานแล้ว...สนุกจริง ๆ ผมต้องใช้ทั้งไม้แข็ง และไม้อ่อน เพื่อให้พี่ยอดยอมใส่เสื้อผ้าแบบที่ผมเลือกให้ในหลายสไตล์...ตอนที่มันอยู่บนราว พี่ยอดก็ทำหน้ายี้...แต่พอเค้าลองใส่ ผมแอบเห็นแววตาพึงพอใจแว๊บ ๆ ถ้ามันไม่แพง พี่ยอดคงไม่ลำบากใจอย่างนี้...แต่...ผมเป็นคนพาเค้ามา...ผมก็รีบจ่ายเงินค่าเสื้อผ้าให้เค้าอีก...
“...ทีม...ทำไมต้องจ่ายเงินให้พี่ด้วยล่ะ...พี่ซื้อเองได้นะ...” พี่ยอดพูดเสียงแข็งเมื่อ เราเดินพ้นร้านออกมา
“...พี่ยอดทำอะไรให้ทีมมาเยอะแล้ว...คิดเป็นเงินไม่ได้เลยด้วยซ้ำ...ทีมซื้อให้พี่ยอดแค่นี้ ทีมผิดเหรอ...” ผมตีหน้าเศร้าอีกครั้ง
“...ไม่ผิดหรอก...แต่พี่ไม่ชอบทำให้คนอื่นเดือดร้อน...”
“...เออว่ะ...ทีมมันเป็นคนอื่นนี่หว่า...ถ้าพี่ยอดคิดอย่างนั้น เดี๋ยวทีมเอาไปให้ไผ่ก็ได้...” ผมดึงถุงเสื้อผ้ามาจากมือพี่ยอด แล้วเดินก้าวยาว ๆ ออกไป
“...เฮ้ย...อย่างอนดิ...รอพี่ด้วย...ทีมอยากให้พี่ทำอะไร พี่ทำให้ได้หมดเลย...อย่างอนนะ...นะ...” พี่ยอดวิ่งตามมาง้อ แย่งถุงเสื้อผ้าไปถือเหมือนเดิม พี่ยอดคงลืมตัว ลืมอาย ดีนะว่าห้างต่างจังหวัดในเวลานี้ คนไม่เยอะแล้ว
“...จริงเหรอ...” ผมหันไปถาม
“...จริงสิครับ...”
“...งั้นไปซื้อรองเท้ากัน...”
“...หา...”
“...ไปเร็ว ๆ เดี๋ยวร้านปิด...” ผมเดินกวาดตามองเพื่อหาร้านรองเท้าดี ๆ คิดเอาไว้ว่าจะซื้อให้ซักสามคู่ รองเท้าหนัง รองเท้าผ้าใบ และรองเท้าแตะ
*
*
“...ชอบผู้ชายทำผมทรงนี้อ่ะ...เท่ดี...” “...โห...ผู้ชายคนนั้นแต่งตัวน่ารักจัง...” ผมยังจำคำพูดของแม็คเมื่อตอนกลางวันได้ดี...พรุ่งนี้เค้าจะได้เห็นพี่ยอดในแบบที่ถูกผมเมคโอเวอร์เรียบร้อย ตั้งแต่หัวจรดเท้า...แหม...รสนิยมของผมกับแม็คนี่มันตรงกันจัง...ทุกอย่างที่แม็คบอกชอบ ผมก็ชอบเหมือนกัน...เพียงแต่ผมไม่ได้ให้ความสำคัญกับคนที่รูปร่างหน้าตาภายนอก...ผมชอบพี่ยอดในแบบที่เค้าเป็น...แต่ถ้าเอามาปรับลุคนิดหน่อย คุณกรณ์ก็คุณกรณ์เถอะ...อยากรู้ว่าแม็คจะทำหน้ายังไง เมื่อเห็นนิวพี่ยอด ที่เปลี่ยนแบบชั่วข้ามคืน...
“...มันไม่เยอะไปหน่อยเหรอทีม...” พี่ยอดมองดูกองเสื้อผ้าใหม่หลายตัว และรองเท้าอีกสามคู่
“...ไม่หรอก...นาน ๆ ซื้อที...ไม่ได้ซื้อทุกวันนี่...” ผมเถียง แต่แอบคิดในใจว่า ไม่เยอะหรอก หลักพันปลาย ๆ เท่านั้นแหละ
“...ของเยอะอย่างนี้...เอาไปไว้ห้องทีมดีกว่าเนอะ...แล้วต่อไปทีมก็ย้ายมานอนห้องพี่...เอาห้องทีมไว้เก็บของอย่างเดียว...” พี่ยอดพูดเองเออเอง
“...จัดดี ๆ ก็เก็บได้หมด...”
“...ไหนบอกว่าคืนนี้จะตามใจพี่ไง...” พี่ยอดทำจมูกย่น
“...โอเค...ได้...” ผมรับคำ แต่ไม่กล้ามองหน้าพี่ยอด เขินจัง พี่ยอดเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ผมทรงใหม่ถูกปัดให้ยุ่ง ๆ เปิดหน้าผาก ให้เห็นหน้าใสที่มีแป้งเด็กทาไว้บาง ๆ
“...งั้นไปนอนกันเหอะ...พี่ง่วงแล้ว...”
“...เดี๋ยวทีมขอเก็บของอีกแป๊บนึง...พี่ยอดง่วงก็ไปนอนก่อนดิ...”
“...ไม่เอา...ไปนอนพร้อมกันเลย...ของเอาไว้เก็บพรุ่งนี้เช้า...ยังไงก็ต้องส่งซักก่อนนี่...ไม่ต้องรีบหรอก...ไหนบอกจะตามใจพี่ไง...” พี่ยอดย้ำอีกครั้งด้วยสีหน้ายิ้มๆ
“...เอ้า...ก็ได้...ไม่น่าพูดเลยกรู...” ผมบ่น ก่อนลุกขึ้นไปล้างมืออีกครั้ง แล้วเดินตามพี่ยอดเข้าห้องนอน
*
*
...แม้ในแสงสลัว ผมยังเห็นพี่ยอดดูดีในทรงผมทันสมัยแบบนี้...ทรงเก่าของพี่ยอดดูรุงรัง แต่ก็เถื่อนได้ใจ...ทรงใหม่ ดูสดใสกระชากวัย เพิ่งรู้ว่าช่างผมต่างจังหวัดก็เก่งที่ใช้กรรไกรซอยผมได้ละเอียด และจัดทรงได้ถูกใจจริง ๆ...ผมมองหน้าพี่ยอดได้ไม่นาน ก็ต้องพลิกตัวหันหลังให้เค้าด้วยความเขิน...
“...ที่ว่าจะตามใจพี่อ่ะ..หมายถึงทุกอย่างเลยหรือเปล่า...” พี่ยอดกระซิบข้างหู เล่นเอาผมขนลุกเกรียว
“...คิดว่าไม่นะ...”
“...เฮ้อ...” พี่ยอดถอนหายใจเฮือกใหญ่
“...ก็ลองบอกมาก่อนสิ ว่าอยากได้อะไร ถ้ายอมได้ทีมก็ยอม...” ผมพลิกตัวกลับไปหาพี่ยอดเหมือนเดิม และมองเค้าแบบท้าทาย
“...บอกไม่ได้หรอก...มันต้องทำเลย...” พี่ยอดพลิกตัวขึ้นคล่อมผมทันที
“...แค่นี้เหรอ...” ผมยั่ว พี่ยอดหัวเราะหึหึ ก่อนจะซุกหน้าลงมาที่จุดอ่อนของผมที่ซอกคอ
“...กลัวเหรอ...”
“...พี่ยอด...คอทีมจะแดงหรือเปล่าเนี่ย...” ผมถามเสียงสั่น
“...ไม่หรอก...พี่ไม่ได้ทำอย่างนั้น...”
“...แล้วที่มันแดงเป็นจ้ำ ๆ เค้าทำกันยังไงเหรอ...”
“...ไม่บอก...”
“...ทำไม่เป็นอ่ะดิ...”
“.............................” พี่ยอดไม่ต่อล้อต่อเถียง แต่จู่โจมจุดเดิมอีกครั้ง ผมถึงกับผวากอดพี่ยอดเมื่อเค้าใช้ลิ้นดุน และเม้มปากอย่างแรงที่ซอกคอผม
“...พอแล้ว...พี่ยอด...พอเถอะ...” ผมห้ามเสียงขาดเป็นช่วง ๆ
“...พรุ่งนี้ไปส่องกระจกดูซะ...” พี่ยอดพูดยิ้ม ๆ แล้วพลิกตัวลงนอนที่ของเค้า แต่ยังเอาแขนขามาก่ายผมอยู่
“...โห...ถ้าเป็นรอยทีมจะทำยังไงเนี่ย...” ผมทำเสียงเครียด
“...ใส่เสื้อเชิ้ตมีปก ไม่มีใครเห็นหรอก...แต่...ถ้าคนเห็นก็ดีสิ...เค้าจะได้รู้ว่าทีมมีแฟนแล้ว...” พี่ยอดยิ้ม ผมต้องหันหลังให้ เพราะกลัวจะอดใจไม่ไหว พี่ยอดทำให้ใจผมกระเจิดกระเจิงหลายครั้งแล้วนะ ยิ่งนอนอยู่บนเตียงเดียวกันอย่างนี้ แถมยังเล่นถึงเนื้อถึงตัวสุด ๆ บางครั้งผมต้องเกร็งจะแทบเป็นตะคริว
*
*
...ผมตื่นเช้ากว่าปกติ เพราะต้องรีบเอาเสื้อผ้าชุดใหม่ทั้งหมดไปส่งซัก เพื่อจะได้แห้งทันใส่เย็นนี้...อาบน้ำเสร็จ ก็ใส่เสื้อเชิ้ต กางเกงสแล็ค หอบเสื้อผ้าออกไปให้แม่บ้านซัก...ในห้องแม่บ้าน ผมเห็นพี่คนที่เปิดประตูห้องให้แม็คเข้าไปเอาโทรศัพท์วางไว้เพื่อสร้างสถานการณ์ ผมจึงเดินเข้าไปหาทันที...
“...พี่ครับ...วันนั้นพี่เปิดประตูให้แม็คเข้าห้องผมทำไมเหรอ...” ผมถามด้วยสีหน้าเป็นมิตร และยิ้มให้เค้านิด ๆ
“...แม็ค...อ๋อ...ฟร้อนท์มาใหม่น่ะเหรอ...” พี่แม่บ้านทำท่านึก
“...นั่นแหละพี่...”
“...เค้าบอกว่าทีมลืมมือถือไว้ในที่ฟร้อนท์ จะเอามาคืน...พี่ก็เลยเปิดห้องให้ เห็นว่าเป็นฟร้อนท์เหมือนกัน...อีกอย่างโทรศัพท์มันแพง พี่ไม่กล้ารับฝากไว้...เอ่อ...ทีมไม่ต้องกลัวนะ ที่นี่ไม่มีขโมยหรอก...” พี่เค้ารีบพูดเมื่อเห็นผมขมวดคิ้ว
“...อ๋อ...ทีมไม่กลัวอยู่แล้ว เพราะของมีค่า เราใส่เซฟไว้...ในห้องแทบไม่มีอะไร...” ผมพูดยิ้ม ๆ เพราะพี่แม่บ้านดูเป็นกังวล กลัวผมจะเอาเรื่อง
“...พี่ขอโทษนะ...”
“...ไม่เป็นไรพี่...ปกติพี่ก็ต้องเปิดห้องทำความสะอาดทุกห้องอยู่แล้ว...พวกเราไว้ใจพี่จะตาย...ทีมแค่สงสัยว่าโทรศัพท์มันเข้ามาอยู่ในห้องได้ยังไง...ไม่มีอะไรหรอกพี่...อีกอย่างทีมไม่ได้แขวนป้าย Do not disturb ไว้ด้วย...พี่ไม่ผิดนี่...” ผมพูดเพื่อให้เค้าสบายใจขึ้น
*
*
ระหว่างทางกลับ ผมเห็นแม็คเดินมาจากชายหาด คงเพิ่งกลับจากวิ่งออกกำลังกายตอนเช้า...ผมหยุดทักในฐานะ “เพื่อนร่วมงาน” คนหนึ่ง...
“...มอร์นิ่งจ้า...” ผมทักด้วยสีหน้าระรื่นมีความสุข
“...ทำไมตื่นเช้าจัง...” แม็คถาม แต่ตาจ้องเขม็งที่คอผม ซึ่งผมตั้งใจแบะคอเสื้อออก ตั้งแต่เห็นแม็คเดินมาแต่ไกล
“...เอ่อ...เมื่อคืนนอนเร็ว...ไม่มีอะไรทำอ่ะ...” ผมแกล้งทำเป็นอึกอัก
“...คงไม่ได้นอนอย่างเดียวมั้ง...” แม็คทำเสียงเหมือนจะพูดเล่น แต่แววตา ไม่ใช่เลย
“...นอนจริง ๆ นะ...พี่ยอดก็นอน...ป่านนี้ยังไม่ตื่นเลย...สงสัยจะเพลีย...” ผมยั่ว
“...อืม...เราขอไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะ...เดี๋ยวไปทำงานสาย...” แม็คตัดบทด้วยสีหน้าไม่ดีนัก
“...จ้ะ...เราก็ต้องไปปลุกพี่ยอดเหมือนกัน...ปกติเค้าก็ตื่นเช้ามาออกกำลังกาย...แต่ถ้าคืนไหนใช้พลังงานเยอะ ๆ ก็ไม่ต้องรีบตื่นมาออกกำลังกาย...” ผมพูดให้แม็คเข้าใจไปเรื่องนั่นอย่างเดียวเลย
*
*
...ผมขยับคอเสื้อให้เข้าที่เมื่อแยกกับแม็ค ไม่อยากให้คนอื่นเห็นรอยจ้ำแดง ๆ ที่ต้นคอผม...โรงแรมนี้ ถ้ามีข่าวอะไร เรื่องจะถูกเม้าท์กระจายต่อไปทุกแผนก...เร็วยิ่งกว่า CNN ซะอีก...
“...คอแดงเชียว...คนอื่นจะว่าไงไม่รู้นะ...แต่เราชอบให้คนแสดงความเป็นเจ้าของอย่างนี้อ่ะ...มีรอย Kiss mark บนตัวนี่มันเร้าใจดีอ่ะ...แบบให้คนรู้ แต่ไม่กล้าถาม...ว่าเมื่อคืนไปทำอะไรมา......” เสียงแม็คดังก้องในหูผม เป็นอีกข้อมูลหนึ่งที่แม็คหลุดปากคุยเมื่อวานนี้..และนี่เป็นแค่ Appetizer สำหรับเช้านี้เท่านั้น... Main course ยังรอจ่อคิวอยู่...
…To be continued…
****************************************************************************
…ขอบคุณทุกกำลังใจ...ทุกคำติชม...ท่าทางคนอ่านจะชอบให้ทีมเหวี่ยงเยอะ ๆ แต่ทีมของเราไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้นนะ...เอ...หรือว่าจะโหดดีหว่า...อย่าลืมว่า เรื่องนี้พิมพ์สด ๆ ออกมาจากหัว ก็ลงไปที่แป้นคีย์บอร์ดเลย เพราะฉะนั้น อะไรก็เกิดขึ้นได้ 555++
...ติดตามตอนต่อไป เร็ว ๆ นี้...
…เป้...