We belong together 43
...เช้าวันต่อมา...ตอนแรกพี่ยอดไม่ยอมลงมากินข้าวที่แคนทีน แต่จะกินขนมปังที่ผมซื้อมาจากห้างเมื่อวานเป็นอาหารเช้าในห้อง...พี่ยอดเขินกับลุคใหม่ที่ยังไม่ชิน...ผมต้องใช้ตัวเองมาต่อรอง ถ้าพี่ยอดไม่กินข้าว ผมก็ไม่กินเหมือนกัน...และจะไม่กินขนมปังด้วย...พูดจบผมก็ลุกขึ้นไปใส่สูท เตรียมไปทำงานทันที...พี่ยอดถึงได้ยอมรีบใส่ถุงเท้ารองเท้าวิ่งตามให้ผมไปกินข้าวเช้าที่แคนทีนเหมือนทุกวัน...
“...เฮ้ย...ช่างใหม่...” ช่างศิลป์ตะโกนทัก
“...น้องคะ ซื่ออะไรคะ...” ฝ่ายบุคคลร้องถาม
“...มีแฟนหรือยังจ๊ะพ่อหนุ่ม...” ป้าแม่บ้านแกล้งแซว
“...ทีม...พาน้องใหม่มากินข้าวเหรอลูก...” ป้าแม่ครัวพูดยิ้ม ๆ
“...จ้ะป้า...นี่ช่างจอร์จ...เพิ่งมาใหม่...” ผมรับมุข
“...โห...แซวอยู่นั่นแหละ...หิวแล้วป้า...มีอะไรกินมั่งครับ...” พี่ยอดทำเป็นโวยวายกลบเกลื่อน แต่หน้าแดงแปร๊ด
*
*
...นาน ๆ จะเห็นพี่ยอดเขินจนทำอะไรไม่ถูก...มาดช่างหนุ่มผู้ขึงขัง...โหด...เถื่อน...ดุ...ใคร ๆ ก็เกรงใจ...ตอนนี้กลายเป็นหนุ่มหล่อหน้าใส กับทรงผมซอยไล่ระดับที่ถูกจัดทรงด้วยแว๊กซ์ให้เข้ารูปเข้ารอย...ทุกสายตาในแคนทีนมองมาที่พี่ยอดที่นั่งก้มหน้าก้มตากินข้าว...
“...มองอะไรทีม...” พี่ยอดถามด้วยอาการเก๊กขรึม ขณะที่เราเดินไปทำงานหลังอาหารเช้า
“...พี่ยอดน่ารักอ่ะ...อยากเห็นตอนใส่ชุดใหม่จัง...” ผมชมตรง ๆ พี่ยอดเหมือนจะยิ้ม แต่ยังติดเก๊กอยู่
“...แค่นี้พี่ก็รู้สึกแปลก ๆ แล้วนะ...ไม่คุ้นเลย...”
“...อีกวันสองสามวันก็ดีขึ้น...เชื่อทีมสิ...ลุคนี้ดูดีกว่าตอนเถื่อน ๆ ตั้งเยอะ...”
“...ทีมชอบแบบนี้เหรอ...” พี่ยอดถามเสียงเบา
“...ไม่ว่าพี่ยอดจะเป็นแบบไหน ทีมก็ชอบหมดแหละ...แต่ลุคนี้มันแปลกตาดี...ตรงจอนเนี่ย เท่มากเลยอ่ะ...ช่างตัดผมเก่งจริง ๆ...” ผมยื่นมือไปลูบจอนพี่ยอดเบา ๆ หางตาแอบเห็นแม็คเดินตามมาทางเดียวกันอยู่ไม่ห่าง
“...ค่าตัดผมแพงขนาดนั้นก็ต้องตัดดีอยู่แล้ว...” พี่ยอดยังกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่ผมออกให้เมื่อวาน
“...แหม...แต่คุ้มนะ...หล่อขนาดนี้ขอควงวันนึงได้ป่าว...” ผมล้อพี่ยอด
“...ควงทุกวันก็ได้...” พี่ยอดพูดยิ้ม ๆ แล้วจับมือผมเดินจูงไปจนเกือบถึงหลังฟร้อนท์
“...อ้าว...แม็ค...ตามมาตั้งแต่เมื่อไหร่...” ผมแกล้งทำเป็นตกใจเมื่อเห็นแม็คเดินหน้าบึ้งตามมาเข้างานเหมือนกัน
“...พี่ยอดตัดผมใหม่เหรอ...นึกยังไงอ่ะ...” แม็คไม่สนใจผม หันไปคุยกับพี่ยอดแทน
“...ทีมพาไปตัดเมื่อวานนี้...ตลกเหรอ...” พี่ยอดเริ่มเสียเซล์ฟ
“...ไม่หรอก...แต่สงสัยว่าทำไมพี่ยอดถึงยอมเปลี่ยนลุคขนาดนี้...” แม็คจ้องหน้าพี่ยอด
“...ทีมอยากให้พี่ทำ พี่ก็ทำ...” พี่ยอดพูดยิ้ม ๆ ผมแทบจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก...ลุ้นกับคำตอบพี่ยอด ดีมากที่ไม่ทำให้ผมเสียหน้า
“...พี่ยอด...ทีมไปออนฟลอร์ก่อนนะ...รอบดึกจะได้กลับบ้าน...” ผมยิ้มให้พี่ยอดนิดนึงก่อนจะเดินจากมา ทิ้งให้แม็คอยู่กับพี่ยอด อยากจะรู้ว่าเค้าจะทำยังไง
“...ตอนกลางวันจะกินข้าวเมื่อไหร่...โทรบอกพี่ด้วยนะ...” พี่ยอดพูดตามหลัง ผมหันไปขยิบตาให้เป็นเชิงตกลง แม็คหน้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด พี่ยอดยิ้มให้แม็คทีนึง ก่อนเดินแยกไปทำงาน
*
*
...ผมไม่ได้แกล้งแม็คด้วยคำพูดที่พวกนั้น...ถ้าไม่มีแม็คอยู่เมื่อเช้า ผมกับพี่ยอดก็คุยกันประมาณนี้อยู่แล้ว...เรื่องนัดไปกินข้าว หรือจับไม้จับมือ พี่ยอดชอบนัวเนียอย่างนี้อยู่แล้ว ส่วนผมก็ชอบเกาะแข้งเกาะขา แต่เราทั้งคู่ก็ต้องดูสถานที่ และโอกาสด้วย...ไม่ใช่เดินย้วยกันตามที่สาธารณะ...
...ตรงทางเดินระหว่างแคนทีนมาฟร้อนท์ มันคือริมกำแพง อีกด้านก็เป็นตัวอาคารโรงแรม...ไม่มีคนเดินผ่านนัก เพราะเป็นทางไปฟร้อนท์แผนกเดียว...และช่วงเวลาเช้า ๆ อย่างนี้รอบดึก ยังไม่เลิกงาน รอบเช้าปกติก็เข้างานแล้ว...จะมีเฉพาะเด็กใหม่อย่างแม็ค กับเด็กฝึกงานอย่างผม ที่เข้างานแปดโมงเช้า...ผมก็เลยเดินจับมือกับพี่ยอดมาจนถึงหน้าฟร้อนท์ และแม็คก็ดันเห็นภาพบาดตานั้นเอง...ไม่ได้ตั้งใจนะ...แต่โอกาสที่จะยั่วประสาทแม็คมันมาเอง มาแบบถูกที่ ถูกเวลาซะด้วย... “...คู่นั้นน่าอิจฉาจัง...เดินจับมือกันตลอดเลย...”…แม็คเคยพูดเอาไว้เมื่อวาน อาหารจานที่สองจึงถูกเสิร์ฟให้แม็คไปง่าย ๆ อย่างนี้...
“...ทีม...เค้าเม้าท์กันว่าแฟนแกตัดผมใหม่หล่อระเบิดไปเลย...แกไปทำอีท่าไหนมันถึงยอมถอดรูปยะ...” พี่รุจเดินตรงเข้ามาถามผมทันทีที่แขกเริ่มซาลงในช่วงสาย แม็คเม้มปากแน่น ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้ม แล้วเดินเนียนมาฟังใกล้ ๆ
“...ไม่มีอะไรหรอกเจ้...ทีม แค่ชวนไปเดินเล่นในห้าง แล้วก็อยากนอนสระผมสบาย ๆ ซักวันนึง...ตั้งแต่มาฝึกงาน ไม่เคยเข้าร้านทำผมเลย นาน ๆ ให้ช่างสระที เกาซะสะใจ หนังหัวแทบหลุด...พอดีเห็นแบบผมในหนังสือมันเหมาะกับพี่ยอด ก็เลยบอกให้ตัด...อยากเปลี่ยนลุคเค้าบ้างอ่ะ...” ผมพูดไปยิ้มไปแบบมีความสุขสุดริด
“...ตั้งแต่เจ๊รู้จักกับมันมา ไม่เคยเห็นมันยอมใครขนาดนี้เลยนะ...ท่าทางมันจะเอาจริงเว้ย...”
“...เดี๋ยวเจ๊จะได้เห็นพี่ยอดนิวลุคแบบเต็ม ๆ เย็นนี้...” ผมพูดทิ้งท้ายไว้ ก่อนที่จะเดินไปรับแขกที่ลากกระเป๋ามาเช็คเอ้าท์
*
*
...เมื่อถึงคิวผมได้พักกลางวัน...ผมก็โทรไปบอกพี่ยอด เพื่อให้เค้าเดินขึ้นมารับผมที่ฟร้อนท์ จริง ๆ แล้วเป็นคำสั่งพี่รุจที่อยากเห็นพี่ยอดนิวลุค...เมื่อเช้านี้เค้ามาส่งผมแค่ด้านหลังฟร้อนท์ จึงไม่มีใครเห็น แต่ก็ยังมีคนโทรมาเม้าท์ให้เจ๊แกฟังได้อีก...แอบสงสัย เรามาฝึกงานโรงแรม หรือสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นกันแน่ฟะ...
“...โอ้ มาย กู๊ดเนสสสสสสสสสสสสส...” เสียงพี่รุจดังลอดออกมานอกฟร้อนท์
“...เป็นอะไรเจ้...” พวกเราเปิดประตูเข้าไปดู นึกว่าใครข่มขืนพี่รุจ
“...ทีม...รู้มั้ย...ตอนมันเรียนมัธยมนะ...หล่อสู้ตอนนี้ไม่ได้เลยอ่ะ...ยอด...ถ้าแกไม่หลับหูหลับตาทำแต่งาน ปล่อยเนื้อปล่อยตัวจนโทรม...ชั้นคงยอมเป็นเมียแกไปนานแล้ว...”
“...โห...เจ้...” พี่ยอดเกาท้ายทอยตัวเอง จะเก๊กขรึมก็ไม่ได้ เพราะตอนนี้ทุกสายตาในฟร้อนท์มองเค้าอยู่ โดนรุมจ้องแบบนี้ พี่ยอดไปไม่เป็นเลยทีเดียว
“...ขนาดโทรม ๆ ยังมีคนจ้องจะงาบตั้งหลายคน...” ผมพูดลอย ๆ แต่แม็คขมวดคิ้ว หน้าบึ้ง
“...ดูพี่เค้าดี ๆ นะ...อยากปล่อยให้หลุดมือไปล่ะ...” พี่รุจแซว
“...ไม่หรอกเจ๊...พี่ยอดอ่ะ...ลูกไก่ในกำมือ...จะบีบก็ตาย จะคลายก็ตาย...ใช่มั้ย...” ผมปล่อยมุข พี่ ๆ หัวเราะกันใหญ่
“...ครับ...ยอมทีมคนเดียวนี่แหละ...โหดจริง ๆ...” พี่ยอดรับมุข
*
*
...พักกลางวัน ผมไม่คิดว่าแม็คจะกล้าตามมากินข้าวด้วย...แต่แม็คก็ขอตามมาจนได้...ดี...ถ้ามีโอกาสเมื่อไหร่ ผมจะเอาให้กระอักเลย...ไม่ได้โหดร้ายนะ...แต่ท่าทาง คำพูด หรือแม่แต่แววตาของแม็ค มันบ่งบอกถึงการอยากเอาชนะ...ระหว่างทางเดินไปแคนทีน พี่ยอดโดนประกบด้วยผมและแม็ค...แม้ว่าพี่ยอดจะเบี่ยงตัวมาทางผม แต่แม็คก็ยังเดินเบียดจนพี่ยอดต้องปล่อยให้เบียดต่อไป เพราะผมแทบจะติดกำแพงอีกด้านแล้ว...
“...โอ้โห...วันนี้ช่างใหญ่เราควงฟร้อนท์สองคนเลยเว้ย...” ป้าแม่ครัวแซวเสียงดัง ตอนนั้นมีแค่เมดไม่กี่คนในแคนทีน
“...ควงคนเดียวป้า...อีกคนมากินเป็นเพื่อนเฉย ๆ...” ผมคล้องแขนพี่ยอดทันที แม็คอึ้ง
“...ป้ารู้แล้ว...เมื่อก่อนยอดมากินข้าวเวลาปกติเหมือนคนอื่นที่ไหน...พอทีมมาอยู่นี่แหละ ถึงได้กินข้าวเป็นเวลา...”
“...ผมงานยุ่งป้า...” พี่ยอดแก้ตัว
“...แล้วเดี๋ยวนี้ไม่ยุ่งเหรอจ๊ะ...ตามรับตามส่งกันทุกวันเลย...นี่ขนาดอยู่ห้องเดียวกันนะ...”
“...ป้าตักไอ้นั่นให้หน่อย...” แม็คชี้ไปที่กับข้าว และกระแทกเสียงพูด ป้าแม่ครัวถึงกับหุบยิ้ม และรีบทำงานตามหน้าที่ เพราะรู้ว่าแม็คเป็นน้องคุณกรณ์ ถ้าเป็นคนอื่นป้าแกคงสวนแล้ว
“...เค้าเป็นอะไรอ่ะ...” ป้าพูดเสียงเบา เมื่อแม็คเดินถือถาดอาหารไปนั่งที่โต๊ะ
“...เค้าคงหิวมั้งป้า...ไม่มีอะไรหรอก...วันนี้แขกเยอะ...เหนื่อยอ่ะ...” ผมแก้ตัวให้
*
*
...บนโต๊ะอาหาร...ผมกับพี่ยอดก็ยังเฮฮากันตามปกติ...แม็คกินไปได้นิดเดียวก็เริ่มเขี่ยข้าวในจาน คิ้วขมวดตลอดเวลา...ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรกับแม็ค เพราะพอผมหันไป แม็คก็เมินหน้าหนี...แล้วใครจะแคร์ล่ะ...จัดให้อีกซักดอกละกัน....
“...พี่ยอด...มะระไม่ขมเหรอ...” ผมถามพี่ยอด ปกติอาหารแคนทีนจะมีประเภทน้ำ หรือซุปให้ด้วยทุกมื้อ วันนี้เป็นมะระตุ๋นเห็ดหอม
“...ไม่ขมนะ...” พี่ยอดตอบ แถมยังกินโชว์อีกชิ้น
“...กินของขม...ชมเด็กสาว...เล่าความหลัง...” ผมพูดลอย ๆ
“...ว่าพี่แก่เหรอ...” พี่ยอดหัวเราะ แม็คหันมามองด้วยหางตา
“...ไม่ขมจริงอ่ะ...” ผมถามอีกครั้ง
“...ไม่ขมจริง ๆ ลองดูสิ...” พี่ยอดตักมะระที่อยู่ในถ้วยชิ้นสุดท้าย แล้วใช้ช้อนหันเป็นชิ้นเล็ก ๆ ก่อนยื่นมาป้อน
“...ไม่เอา...”
“...พี่ป้อนให้ ไม่ขมหรอก...อ้ำ...” พี่ยอดทำเหมือนผมเป็นเด็ก
“...ลองก็ได้...” ผมหลับตาปี๋ เมื่อมะระที่พี่ยอดป้อนให้เข้าปาก
“...เป็นไงมั่ง...” พี่ยอดลุ้น
“...มะระอะไรหวานจัง...” ผมแกล้งทำตาเยิ้มใส่พี่ยอด แม็คเบะปาก
“...หวานจริงเหรอ...พี่ยอดแม็คอยากชิมมั่งอ่ะ...” แม็คแทรกขึ้นมา
“...เดินไปตักสิ...” ผมเบรก
“...ถ้าพี่ยอดป้อน น่าจะหวานนะ...”
“...ไม่หรอก...เอางี้ เดี๋ยวพี่เดินไปตักถ้วยใหม่มาให้ทั้งสองคนเลยละกัน...” พี่ยอดทำท่าจะลุก
“...ไม่ต้องหรอกพี่...เกรงใจ...วันหลังค่อยลองกินก็ได้...” แม็คห้าม
“...อืม...จะรีบไปทำงานต่อ...ถ้าไม่รังเกียจ แม็คจะลองชิมชิ้นที่เหลือจากเราก็ได้นะ...เผื่อมันจะหวานเหมือนที่เรากิน...” ผมเริ่มหงุดหงิด แม็คมองมาด้วยสายตาไม่ยอมกัน
“...กินได้อยู่แล้ว...เราไม่ถือหรอก...แต่พี่ยอดต้องป้อนด้วยนะ...ไม่รู้ว่ามะระหวานเพราะพี่ยอดป้อนหรือเปล่า...” แม็คยั่วโมโหผม
“...แม็คกินเองดีกว่านะ...” พี่ยอดเลื่อนจานให้แม็ค
“...อี๋...ขมอ่ะ...กินเข้าไปได้ยังไง...” แม็คทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก และรีบกินน้ำตามจนหมดแก้ว
*
*
...ช่วงบ่าย...ผมกับแม็คก็ห่าง ๆ กันไป ซึ่งแม็คเองก็พยายามจะเข้ามาเซ้าซี้ แต่ผมก็หาทางเลี่ยงไปจนได้...ตอนนี้ความสัมพันธ์ของผมกับแม็คเริ่มชัดเจน...เราไม่ได้เป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีต่อกันนัก...แต่นั่นก็เป็นเรื่องส่วนตัว...ซึ่งผมจะพยายามไม่เอามาให้กระทบกับงาน...
“...มะระยังขมติดปากอยู่เลย ขนาดแปรงฟันแล้วนะ...” แม็คเดินเข้ามาในวงเม้าท์ของผมกับพี่อีกคน
“...เวอร์แล้วน้อง...”
“...จริง ๆ...เนี่ยกินน้ำไปเป็นขวดแล้วยังไม่หายเลย...”
“...ลองกินน้ำใต้ศอกมั้ยล่ะ...เผื่อจะหายขมปาก แต่ไปขมขื่นใจแทน...” ผมกัดขำ ๆ พี่เค้าก็หัวเราะ แต่แม็คสะบัดหน้าเดินหนีไปเลย
*
*
...เลิกงาน ผมรีบกลับห้องเพื่อจัดการแปลงโฉมพี่ยอดอีกรอบ...ก่อนออกจากฟร้อนท์ผมทิ้งระเบิดไว้ด้วยการบอกพี่ ๆ ว่าวันนี้จะพาเด็กใหม่ไปเดินเล่นริมทะเล...และเด็กใหม่คนนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพี่ยอดที่โดนจับแต่งตัวด้วยชุดที่ผมเลือกให้เมื่อวานนี้...เป็นชุดลำลองสบาย ๆ สีสดใส ซึ่งถ้าให้พี่ยอดซื้อใส่เอง คงไม่มีทางเลือกชุดพวกนี้มาให้รกตู้เสื้อผ้าแน่นอน...
“...เราแค่ไปกินข้าวที่แคนทีนเองนะ...ต้องใส่แบบนี้เลยเหรอ...” พี่ยอดมองตัวเองในกระจก
“...นี่ธรรมดานะ...” ผมพูดยิ้ม ๆ
“...ธรรมดาของพี่ก็แค่เสื้อยืด กางเกงบอล...” พี่ยอดเถียง
“...มันก็ไม่ต่างกับชุดนี้เท่าไหร่หรอก...เสื้อยืดเหมือนกัน...กางเกงขาสั้นเหมือนกัน...แต่แบบ และเนื้อผ้ามันดีกว่าเท่านั้นเอง...ไปกันเหอะ..เดี๋ยวมืด...” ผมลากพี่ยอดออกจากห้องจนได้
*
*
...เมื่อก่อนอยู่กับต้าคนที่หล่อล้ำแบบไม่มีทีติในเรื่องรูปร่างหน้าตา...แต่ทำไมเราไม่มีความสุขอย่างนี้หว่า...พี่ยอดที่ดูขัดเขินตอนแรก เริ่มจะชินกับสายตาพนักงานโรงแรมคนอื่นที่มองมาด้วยความชื่นชม มีเสียงแซวเป็นระยะ จากตอนแรกที่เดินก้มหน้าก้มตา...ไม่นานนักพี่ยอดคนเดิมก็กลับมา กล้าแซวกลับ และส่งสายตาหวานเยิ้ม...พวกนั้นกรี๊ดพี่ยอดในลุคผู้ชายเจ้าสำอาง และแววตาเจ้าชู้ที่ไม่เคยเห็น...
...ความสุขแบบนี้ หาไม่ได้ในกรุงเทพฯ เราสองคนเดินไปตามชายหาด มองดูพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน ลมเย็น ๆ พัดปะทะตัว ทำให้เสื้อยืดเนื้อดีแนบกับอกที่แข็งแกร่งของพี่ยอด...ผมมองพี่ยอดเพลินจนเค้ารู้ตัว และหันมา ผมหลบตาแทบไม่ทัน...ผมเขินจึงทำเป็นมองไปรอบ ๆ แต่ต้องมาหยุดที่ระเบียงห้องพัก...มองไกล ๆ ก็รู้ว่าเป็นใคร...อยู่กันพร้อมหน้าทั้งพี่ทั้งน้อง พวกเค้ากำลังมองลงมาที่ผมกับพี่ยอด...แต่ผมไม่สนใจหรอก...อยากมองดีนัก...งั้นจัดให้อีกดอกด้วยการหอมแก้มพี่ยอดโชว์ซะเลย...พี่ยอดดูจะตกใจ แต่ก็ยิ้มรับเมื่อมองรอบ ๆ แล้วไม่เห็นพนักงานโรงแรมคนอื่นอยู่แถวนั้น...พี่ยอดไม่ได้เงยหน้ามองที่ตึก อยากรู้เหมือนกัน ถ้าพี่ยอดรู้ว่าผมหอมแก้มเค้าต่อหน้าคุณกรณ์ แล้วพี่ยอดจะรู้สึกยังไง...
...พี่ยอดอารมณ์ดี และจะพาผมไปกินข้าวที่ตลาด เค้าบอกว่าไหน ๆ ก็หล่อแล้ว ขอไปกินไกล ๆ หน่อย...แม่ค้าเจ้าประจำหลายคนแซวพี่ยอด แต่พี่ยอดชินซะแล้ว โดนแซวทั้งวัน...เค้าดูมีความมั่นใจมากกว่าเดิม...พอมั่นใจ อะไรก็ดูดีขึ้น...เรากินข้าวเย็นเสร็จ ก็เดินเล่นหาขนมกินต่อ...กว่าจะกลับก็ดึกมากแล้ว...ซ้อนมอเตอร์ไซค์พี่ยอด กอดเอวแน่น ซบหน้าบนไหล่กว้าง...มีความสุขจริง ๆ...
*
*
...ทันทีที่เปิดประตูเข้าห้อง...ผมเกือบเหยียบสิ่งของบางอย่างบนพื้น...พี่ยอดเปิดไฟผมถึงได้เห็นว่าเป็นซีดี...เราสองคนมองหน้ากันด้วยความสงสัยว่าสิ่งที่อยู่ในแผ่นซีดีคืออะไร...เพลง...หนัง...หรือรูปภาพ...และใครสอดเข้ามาใต้ประตู ระหว่างที่เราไม่อยู่ห้อง...
***************************************************************************
...ขอบคุณสำหรับคำติชม...และกำลังใจ...ช่วงนี้ยุ่ง ๆ กับโอทีลูกน้อง ทำให้มาต่อช้าไปนิดนึง...ตอนนี้มาแบบเบา ๆ อยากจะให้ผู้อ่านได้รับรู้ว่าทีมกำลังมีความสุข...แต่อย่าลืมว่า ความสุขมักอยู่กับเราได้ไม่นาน...ซีดีแผ่นนั้นคืออะไร ใครเป็นคนส่งให้...และเรื่องราวต่อไปจะเป็นอย่างไร...ติดตามได้เร็ว ๆ นี้...
...เป้...