We belong together 29
…พี่ยอดหายใจแรงขึ้นจนเหมือนหอบ และเบียดเข้ามาชิดกว่าเดิมจนผมอึดอัด...ในใจก็คิดว่ากรูไม่ใช่พระอิฐพระปูนนะ...ถึงจะใช้ธรรมมะเข้าข่ม พยายามหายใจเข้าออกช้า ๆ อย่างมีสติ...แต่พี่แกทั้งเบียด ทั้งบดเข้ามาขนาดนี้ ผมใจเต้นแรง ตัวร้อนวูบวาบ...นอนตัวเกร็ง...
...แต่ก่อนที่อะไรจะไปกันใหญ่...พี่ยอดก็ถอนหายใจ และคลายกอดผมให้หลวมขึ้น...ผมถอนหายใจเช่นกัน...พี่ยอดรู้ว่าผมยังไม่หลับก็ขยับตัวกอดแน่น ๆ อีกครั้ง...แค่กอดเท่านั้น...แล้วผมก็รอดจากการโดนยัดเยียดความเป็นสามี (ด้วยความเต็มใจ) ไปได้อย่างหวุดหวิด...
*
*
...ผมนอนจนเต็มอิ่ม ตื่นมาอีกทีก็ยังมืดเหมือนเดิม...นึกได้ว่าเมื่อคืนเรานอนในห้องพี่ยอดนี่นา พี่ยอดปิดม่านมิดชิด มินาละ ถึงได้มืดขนาดนี้...ผมกระเด้งตัวลุกขึ้น พี่ยอดไม่อยู่บนเตียงแล้ว...ผมเปิดประตูออกมา เห็นพี่ยอดกำลังค่อย ๆ หัดเดินให้เป็นปกติ...แต่เห็นสีหน้าเค้าแล้วผมรู้เลยว่าเค้าต้องเจ็บมาก...ตอนนี้มันบวมมาถึงน่องเค้าแล้ว...
“...พี่ยอด...จะบ่ายแล้ว...กินข้าวหรือยัง...” ผมออกมาก็โวยทันที
“...เรียบร้อยทั้งสองมื้อแล้วครับ...” พี่ยอดตอบยิ้ม ๆ
“...ลงไปกินเองเหรอ...”
“...ครับผม...”
“...ทำไมไม่ปลุกทีมอ่ะ...”
“...พี่อยากให้ทีมพักผ่อนเยอะ ๆ ก็เลยไม่ได้ปลุก...”
“...ทีมลืมตั้งนาฬิกาปลุกเองแหละ...แย่จัง...” ผมบ่นกับตัวเองเบา ๆ
“...ไม่เป็นไรหรอก...พี่ยังเดินได้อยู่...แล้วพี่ก็ขอข้าวต้มกุ้งมาฝากทีมด้วย...” พี่ยอดเดินกระเผลกไปเปิดตู้เย็น
“...ไม่ต้อง...พี่ยอดนั่งเฉย ๆ เลย...เดี๋ยวทีมจัดการเอง...” ผมเดินไปพยุงพี่ยอดให้เค้านั่งพัก
“...ทีมเอาไปอุ่นที่ไมโครเวฟข้างล่างก่อนนะ...” พี่ยอดบอก
“...โอเค...เดี๋ยวทีมไปอาบน้ำ แต่งตัวแป๊บนึง...” พูดจบ ผมก็วิ่งเข้าห้องไปเตรียมตัวอาบน้ำทันที
*
*
...หลังอาหารเช้าในเวลาเกือบบ่ายสองของผม...พี่ยอดหลับไปอีก คงเพราะเจ็บข้อเท้าที่ตอนนี้มันบวมจนน่ากลัว...ผมโทรไปหาเพื่อนสาวเพื่อจะชวนไปหาของกินมาไว้ตอนเย็นนี้...สองคนนั้นก็เพิ่งตื่นได้ซักพัก มีเสียงเฮฮาแซวน้องไผ่เป็นระยะ...แสดงว่าไผ่ยังอยู่ที่ห้องนั้น...ผมเลยกะว่าจะชวนมิ้นท์ไปซื้อของกันสองคน ปล่อยให้แก้วอยู่กับไผ่...แต่ยังไม่ทันจะพูดเสียงโทรศัพท์ในห้องผมก็ดังขึ้น...
“...สวัสดีครับ...”
“...ทีม...แขกในสายจะคุยด้วย...พี่จะปล่อยสายเลยนะ...เชิญค่ะ...” พี่โอเปอเรเตอร์บอกผมโดยไม่ถามความพร้อมของผมเลย
“...เป็นไงมั่งทีม...”
“...อ้าว...เดวิด...มีอะไรให้ไอช่วยเหรอ...”
“...ไอเพิ่งตื่น ก็เลยโทรมาหายู...ตอนนี้ยูว่างมั้ย...ไปเที่ยวกันเถอะ...” ผมหันไปมองพี่ยอดที่นอนหลับสนิท
“...ไอเกรงว่าจะไปไม่ได้นะ...ขอโทษด้วย...แต่เพื่อนไอว่าง เค้าสามารถพายูไปเที่ยวทั่วเมืองนี้ได้นะ...เค้าเป็นคนในพิ้นที่...ยูสนใจมั้ย...ไอจะได้นัดให้...”
“...พวกมิ้นท์เหรอ...ได้สิ...ดีเลย...ช่วยนัดให้ไอด้วยนะ...ไอพร้อมแล้วในตอนนี้...” เดวิดพูดเสียงตื่นเต้น
“...แล้วโปรแกรมทัวร์ของทางโรงแรมที่ยูจองไว้เมื่อวานล่ะ...”
“...ไอส่งข้อความไปยกเลิกตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว...”
“...โอเค...รอแป๊บนึงนะ...เดี๋ยวไอโทรกลับ...”
*
*
...มิ้นท์กรี๊ดซะหูผมแทบแตก เมื่อผมวิ่งลงไปบอกมันเรื่องที่เดวิดจะให้พวกมันและไผ่พาไปเที่ยว...ชีไม่สนใจอะไรทั้งนั้นวิ่งเข้าวิ่งออก แต่งหน้า ทาครีมกันแดด เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่อย่างรวดเร็ว...ระหว่างนั้น ผมเพิ่งสังเกตว่าไผ่ใส่เสื้อผ้าที่เตรียมมาเองจากบ้าน แสดงว่ามีการเตรียมพร้อมว่าจะมาค้างตั้งแต่เมื่อคืน...ผมให้ไผ่เสนอโปรแกรมสำหรับทริปนี้ และผมจะไปอธิบายคร่าว ๆ กับเดวิดก่อน...จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องการสื่อสารทีหลัง...แต่จะว่าไปผมก็ไม่ได้กังวลอะไรมากนัก เพราะมิ้นท์เองก็สื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี ส่วนแก้วเองก็พูดได้ฟังออก แต่ไม่มั่นใจเท่ามิ้นท์...
*
*
...หลังจากผมจัดการโทรนัด และลงไปอธิบายทริปนี้ให้เดวิดฟังพร้อมด้วยเพื่อนสาวที่หน้าโรงแรม...ซึ่งใช้เวลานานพอสมควร เพราะมัวแต่เม้าท์กันเรื่องเมื่อคืน และเรื่องทริปนี้ ซึ่งผมเห็นว่ามันต้องสนุกแน่นอน...ไผ่จะพาไปหาของกินรองท้องที่ตลาด ก่อนจะพาไปลงเรือเพื่อไปเที่ยวเกาะที่มีแต่คนบอกว่าสวยนักสวยหนา...มันต้องสวยอยู่แล้ว อากาศก็ดี...พวกเค้าคงได้เห็นพระอาทิตย์ตกดิน และอาจจะเล่นน้ำทะเลกันที่เกาะ...น่าไปด้วยจังเลย...แต่ผมจะทิ้งพี่ยอดไว้คนเดียวอย่างนี้ไม่ได้...
*
*
...เมื่อส่งพวกนั้นเสร็จ...ผมก็วิ่งกลับห้อง...พี่ยอดตื่นแล้ว...ล้างหน้าล้างตาใหม่ดูสดใสขึ้น...เค้ามองดูผมยืนหอบอยู่หน้าแอร์...วิ่งมาเหนื่อยมาก ร้อนด้วย...ไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องวิ่ง...พยายามปฏิเสธตัวเองว่า เราไม่ได้ห่วงพี่ยอดขนาดนั้น...แต่มันก็ไม่มีเหตุผลอื่นนี่หว่า...
“...เหนื่อยมั้ย...” พี่ยอดถามยิ้ม ๆ
“...นิดหน่อย...”
“...เหนื่อยก็หยุดสิ...”
“...ก็หยุดแล้วอ่ะ...” ผมเถียงแบบงง ๆ
“...ยัง...ทีมยังวิ่งไป วิ่งมาอยู่ในใจพี่นี่ไง...” พี่ยอดพูดเองอายเอง
“...โห...พี่ยอด เน่าได้อีกนะเนี่ย..” ผมหันหน้าหนี เพื่อไม่ให้เค้าเห็นผมแอบยิ้ม
“...ปกติพี่ไม่ได้เป็นแบบนี้นะ แต่พี่ชอบเวลาทีมเถียงพี่อ่ะ...น่ารักดี...” พี่ยอดแก้ตัวแบบเขิน ๆ
“...โรคจิตป่าว...” ผมถามกวน ๆ กลับ
“...พี่ว่าพี่เป็นโรคจิตนะ...จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เวลาทีมอยู่ใกล้ ๆ อ่ะ...” พี่ยอดหยอดอีก
“...เป็นอะไรมากหรือเปล่าเนี่ย...” ผมถามยิ้ม ๆ ทำตัวไม่ถูก
“...เป็นคนที่แอบรักเค้าข้างเดียว...” พี่ยอดทำตาซึ้ง
“...ได้...เล่นใช่มั้ย...” ผมถามแล้วลงไปนั่งซุกพี่ยอด
“...เฮ้ย...ทีม...เป็นอะไร...” พี่ยอดตกใจ
“...เป็นคนที่ต้องการความรัก...” ผมพูดอ้อน ๆ มองพี่ยอดตาเยิ้ม ได้ผล พี่ยอดอมยิ้มหน้าแดงหูแดงไปหมด
“...ทีม...มุขแบบนี้ขอพี่เล่นคนเดียวได้ป่าว...ทีมเล่นอย่างนี้พี่เขินนะ...” พี่ยอดพูดอ้อมแอ้ม
“...ไม่ได้เล่นซักหน่อย...ทีมต้องการความรักจริง ๆ นะ...” ผมสอดแขนกอดพี่ยอดแน่น
“....กลางวันแสก ๆ เลยเหรอ...รอมืดก่อนดีกว่ามั้ย...” พี่ยอดทำเสียงหื่น
“...ไม่เอาอ่ะ...” ผมลุกขึ้น พี่ยอดยิ้มแล้วลุกตาม ผมหันมอง แล้วก้าวเท้าเร็ว ๆ เข้าห้อง พี่ยอดเดินกระเผลกตาม
*
*
...ผมอมยิ้มเมื่อพี่ยอดเดินเข้ามาประกบด้านหลังผม...ดูเค้าจะกล้า ๆ กลัว ๆ ที่จะทำอะไรมากกว่านั้น...ผมหยิบกระเป๋าเงิน และโทรศัพท์ไว้ในมือ แล้วหันหน้าเข้าหาพี่ยอดทันทีแบบที่เค้าไม่ตั้งตัว...ตาเราประสานกันในแสงสลัวของห้องนอน...ไม่มีคำพูดใด ๆ ออกจากปากเราทั้งคู่...หน้าผมค่อย ๆ ขยับไปหาพี่ยอดใกล้เข้าไป...ใกล้...และใกล้จนปากเราเกือบจะสัมผัสกัน...
“...ไปขี่รถเล่นกันเถอะพี่...” ผมขยับตัวออก
“...อืม...ทีมอยากไปไหนอ่ะ...แต่พี่ขี่รถไม่ได้นะ...” พี่ยอดบอกหลังจากที่เอามือนวดขมับไล่ความมึน ที่ผมแกล้งเค้าเมื่อกี้
“...ไม่มีปัญหา...ทีมขี่เองได้...”
“...อย่างทีมเนี่ยนะ...ขี่มอไซค์เป็น...” พี่ยอดทำหน้าแปลกใจ
“...ทำไม...ควายทีมก็ขี่เป็น...” ผมพูดยืด ๆ
“...โห...ลูกสาวกำนัน...เก่งไปทุกอย่างเลยนะ...”
“...เดี๋ยวโดน...ตกลงจะไปมั้ย...” ผมถามพลางขยับตัวจะออกไปข้างนอก
“...ไปสิ...รอพี่ด้วย...”
“...หายไม่ทันวันอังคารแน่...” ผมหัวเราะเบา ๆ ยั่วโมโห เมื่อเห็นพี่ยอดพยายามจะเดินตามผมให้ทัน
“...หายทันแน่นอน คอยดูสิ...แล้วที่ทีมรับปากว่าจะยอมพี่อ่ะ...อย่าลืมละกัน...”
“...ไม่ลืมหรอก...สำหรับพี่ยอด...ทีมยอมทุกอย่างแหละ...” ผมเข้าไปพยุงพี่ยอด แล้วแกล้งเอาหัวพิงไหล่เค้า
“...พูดเล่น หรือพูดจริงเนี่ย...”
“...หายให้ทันก่อนเหอะ...” ผมไม่ตอบ แต่พูดยิ้ม ๆ เพราะคิดว่าพี่ยอดหายไม่ทันแน่
*
*
“...พี่ยอด...รอแป๊บนึง...ทีมลืมทาครีมกันแดด...” ผมให้พี่ยอดนั่งรอที่โซฟา แล้ววิ่งเข้าห้องไปหยิบครีมกันแดดออกมาทาข้างนอก
“...ทาแล้วไม่ใช่เหรอ...” พี่ยอดถาม
“...รู้ได้ไง...”
“...ก็พี่ได้กลิ่นครีมนี้จากตัวทีมอ่ะ...”
“...โห...จมูกดีจังเลยนะ...” ผมพูดแก้เขิน
“...ชมหรือด่าเนี่ย...”
“...ชมสิ...ใครจะกล้าด่าพี่ยอดล่ะ...ครีมกันแดดมันต้องทาบ่อย ๆ ...มานี่ ทีมทาให้พี่ยอดด้วยดีกว่า....” ผมนั่งข้าง ๆ พี่ยอด แล้วละเลงครีมลงบนแขนล่ำ ๆ ของพี่ยอด ไรขนอ่อน ๆ ลู่ไปตามเนื้อครีม ลูบไปลูบมา ทำไมรู้สึกแปลก ๆ วะ ผมสลัดหัว ไล่ความคิดบ้า ๆ ออกไป
“...ไม่ต้องทาหน้าเหรอ...” พี่ยอดถามงง ๆ ไม่รู้งงเพราะอยู่ดี ๆ ผมสั่นหัว หรือเพราะเห็นผมหยุดทาแค่นั้น
“...อันนี้มันสำหรับผิวตัว...ถ้าผิวหน้าต้องอีกอันนึง...ไม่เหนียวเหนอะหนะ...พี่ยอดจะลองทาป่าว...”
“...เอาหน่อยก็ดี...เดี๋ยวตากแดดหน้าดำแล้วทีมจะไม่ชอบ...” พี่ยอดทำตาหวานอีกแล้ว ได้...หยอดมา...เดี๋ยวกรูจะหยอดกลับไปสองเท่าเลย ผมคิดแล้ววิ่งไปเอาครีมกันแดดสำหรับทาหน้าออกมา
“...เดี๋ยวทีมทาให้พี่ยอดก่อนดีกว่า...” ผมบีบครีมออกมา แล้วป้ายที่ปลายจมูกตัวเอง ก่อนจะจู่โจมพี่ยอดแบบไม่ให้เค้าตั้งตัว...พี่ยอดนั่งตัวแข็งให้ผมใช้ปลายจมูกตัวเองค่อย ๆ เกลี่ยครีมกันแดดเนื้อนุ่ม แต่มันก็ไม่ทั่วหน้าหรอก ผมแกล้งพี่ยอดไปงั้นแหละ...ในที่สุด ผมก็ใช้นิ้วเกลี่ยครีมให้พี่ยอดที่นั่งอึ้ง มองผมตาค้าง...
“...ครีมยี่ห้อนี้ เค้าทาแบบนี้เหรอ...” พี่ยอดถามเบา ๆ
“...ใช่...”
“...อย่าเอาไปทาให้ใครนะ...นอกจากพี่คนเดียว...” พี่ยอดก้มหน้าก้มตาพูด ผมยิ้ม เพราะยกนี้ผมชนะ...สะใจที่ทำให้พี่ยอดเขินได้ขนาดนี้
*
*
...กว่าเราจะทำอะไรเสร็จ...กว่าจะค่อย ๆ พากันเดินลงมาถึงที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ ก็ใช้เวลานานพอควร...แต่ก็ดีไปอย่างเพราะแดดเริ่มอ่อนลงแล้ว...วันนี้ผมเป็นคนขี่...พี่ยอดซ้อน...ลมทะเลเย็น ๆ พัดปะทะหน้าของผม
“...ทีม...ใส่แว่นก็ได้นะ...เดี๋ยวฝุ่นเข้าตา...” พี่ยอดบอก ผมก็เลยควักแว่นกันแดดสีชายี่ห้อดังขึ้นมาใส่...
“...โห...ทีม...แว่นใหญ่กว่าหน้าอีกนะนั่นน่ะ...” พี่ยอดแซวเมื่อผมใส่แว่นเสร็จ มันเป็นแว่นแฟชั่น ก็เลยค่อนข้างใหญ่นิดนึง
“...เวอร์...”
“...เหมือนคุณนายขี่มอเตอร์ไซค์ไปเก็บค่าแชร์เลย...” พี่ยอดยังแซวไม่เลิก
“...ที่ต้องใส่แว่นใหญ่ ๆ เนี่ย ไม่ได้กลัวฝุ่นเข้าตานะ...แต่กลัวความรักเข้าตามากกว่า...” ผมเอนตัวไปพิงพี่ยอดแล้วพูด...พี่ยอดยิ้มแล้วกอดเอวผมซะแน่น ดีที่แถวนั้นไม่ใช่แหล่งชุมชน จึงไม่น่าเกลียดนัก
*
*
...บรรยากาศ และวิวข้างทางมันสวยจนผมต้องจอดรถเพื่อซึมซับความสวยตรงหน้าให้นานที่สุด...อากาศก็ดี...คนที่มาด้วยก็น่ารัก...พี่ยอดตามใจ ปล่อยให้ผมขี่มอเตอร์ไซค์ไปในทุกเส้นทางที่ผมอยากไป...แม้ว่าช่วงหนึ่ง ผมจะขี่หลงเข้าไปในป่าช้า...พี่ยอดหัวเราะแทบตกรถ เมื่อผมร้องกรี๊ด ๆ ตลอดทางออกจากป้าช้านั้น...
...เราแวะกินข้าวเย็นที่ร้านริมหาดบรรยากาศดี...อาหารอร่อย และไม่แพง...เมื่ออิ่มกันแล้ว เราย้ายลงไปนั่งกับพื้นทรายมองพระอาทิตย์ตกดิน...ผมคุยกับพี่ยอดไปด้วย และใช้ไม้ที่อยู่แถวนั้นเขียนชื่อตัวเองลงบนทรายไปด้วย...พี่ยอดมองจนผมเขียนเสร็จ พี่ยอดก็ขอไม้จากมือผมไปเขียนบ้าง...ผมเงยหน้ามองพี่ยอดทันทีที่เห็นว่าเค้าเขียนอะไรต่อจากชื่อผม...
...Team + Yod…แล้ววาดกรอบรูปหัวใจล้อมรอบสองชื่อนั้น...
****************************************************************************
...ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกรีพลาย ทุกคำติชมนะครับ...มาช้าไปนิดนึง ต้องขอโทษด้วย...รู้สึกดีจริง ๆ ที่ได้เห็นคนใหม่ ๆ เข้ามาติชม รู้สึกตื้นตัน ที่เห็นยูสเซอร์เดิม ๆ เข้ามาให้กำลังใจ และรออ่าน...เพราะพวกคุณ ทำให้ผมต้องรีบกลับบ้าน ไม่แวะแRดที่ไหน...ประหยัดไปได้เยอะเลย...
...อันนี้ขอส่วนตัวนิดนึง...คุณ ifwedo เป็นคนแรกที่รีพลายผลงานเก่าของผมที่บอร์ดปาล์ม และเป็นคนแรกที่เพื่อนผมซึ่งเป็นเจ้าของเรื่องได้คุยเอ็มด้วย...ตอนนี้เอ็มตัวนั้นก็ยังใช้อยู่นะ แต่เป็นผมได้สิทธิ์คุยแทน...ได้รับรู้เรื่องในบอร์ดที่เราคุ้นล็อคอินกันแล้ว ยังไงก็ยังติดตามผลงานเขียนรีวิว หรือระบายความรู้สึกของ 1 อยู่นะจ๊ะ...
...เป้...