Don’t forget about us >>> We belong together (Special Chapter III Part 1)
...คืนนั้นแม็คป่วนร้านหาเรื่องคอมเพลน เรียกเด็กจะเอาโน่นเอานี่ไม่หยุด พอตกดึกก็แกล้งเมาดิบยั่วยวนกวนประสาทจนผมต้องเดินหนีเข้าไปในครัว ไม่อยากมองแม็คมากกว่านี้ เพราะกลัวว่าคืนนี้เพื่อนเก่าผมอาจจะได้คลานกลับบ้าน...ถ้าเจอกันข้างนอก อย่าคิดว่าผมจะปล่อยให้แม็คกวนได้ขนาดนี้ คงได้มีลงไม้ลงมือ ยอมเสียค่าปรับคดีทะเลาะวิวาท หรือทำร้ายร่างกายแน่นอน...
“...ทีม...แม็คจะกลับแล้ว เค้าให้มาเรียกน่ะ...” แก้วเดินเข้ามาตามผมในครัว
“...ออกไปส่งเค้าหน่อยสิ...” พี่ยอดสำทับเมื่อเห็นผมทำท่าเบื่อหน่าย
“...โอเค...คิดซะว่าไปส่งคุณกรณ์ก็ได้...” ผมแกล้งยิ้มระรื่นแล้วลุกขึ้น
“...งั้นไม่ต้องออกไปอ่ะ...ฝากไปบอกเค้าว่าทีมยุ่งละกัน...” พี่ยอดรีบห้ามแล้วบอกแก้ว
“...เอ่อ...” แก้วพูดไม่ออก ผมรู้ว่าแก้วไม่อยากจะโดนเหวี่ยงกลับมา
“...เราไปด้วยกันก็ได้พี่ยอด...ยังไงเค้าก็เป็นลูกค้า...แก้ว...บอกเค้าว่าเรารอส่งที่รถนะ...” ผมจูงมือพี่ยอดออกไปรอที่ลานจอดรถ เผื่ออดใจไม่ไหวจะได้มีพื้นที่กว้าง ๆ สำหรับวางมวย
*
*
...แม็คไม่เคยเห็นผมจ้องหน้าหาเรื่องแบบนี้มาก่อน ตอนทำงานด้วยกัน เราอยู่ในกฎระเบียบของโรงแรม และเกียรตินิยมของผมยังค้ำคออยู่ วีนมากไม่ได้...แต่ตอนนี้เราสองคนเจอกันนอกร้าน ถ้าแม็คแรงมาก็จะเจอแรงกลับ ถึงรู้ว่าการใช้กำลังไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา แต่ถ้ากวนมาก ๆ ก็จะขอเอาเท้ากระแทกปากมันซักทีเพื่อความสะใจ...
*
*
...บรรยากาศตึงเครียด...คนภายนอกที่ไม่รู้อะไรคงไม่คิดว่านี่คือการมาส่งลูกค้าหรอก เพราะมันเหมือนคนกำลังจะมีเรื่องกันมากกว่า...ผมยืนกอดอกจ้องหน้าแม็ค ส่วนพี่ยอดยืนประกบหลังผมคอยระวังไม่ให้คุณกรณ์เข้าใกล้ สุดท้ายแก้วก็ต้องเป็นคนพูดลา ขอบคุณที่มาใช้บริการตามเรื่องตามราว...
“...ถอยไม่ได้...ไม่เห็นเหรอรถเยอะแยะ มาโบกให้หน่อยสิทีม...” แม็คตวัดเสียงใส่ผม
“...ถ้าแม็คถอยไม่ได้ งั้นเราจะถอยให้ แล้วแม็คไปนอนขวางที่ถนนไว้นะ...” ผมกวน
“...นี่...เราเป็นลูกค้านะ...” แม็คพูดเสียง
“...เป็นลูกค้าแล้วไงล่ะ...ถอยออกไปเถอะ เดี๋ยว รปภ. เค้าก็มาโบกให้เองแหละ...เราไม่มีหน้าที่โบกรถ เพราะเราเป็นเจ้าของร้าน...” ผมเดินไปเกาะประตูรถแม็คแล้วก้มหน้าไปพูดเสียงต่ำก่อนจะยิ้มกวน ๆ ให้ครั้งนึงแล้วเดินเข้าร้าน
*
*
...ไม่รู้ว่าผมคิดผิดหรือเปล่าที่ตั้งท่าสู้ไม่ถอยจนทำให้ตอนนี้ทั้งคุณแซนและแม็คไม่โผล่มาที่ร้านเลย แต่กลับโทรมาหาพี่ยอดแทนซะงั้น...ยังดีที่พี่ยอดไม่เคยรับสาย หรือโทรกลับ...สองคนนั้นก็ยังไม่ละความพยายาม ยังส่งข้อความหวาน ๆ เข้ามือถือพี่ยอดเพื่อยั่วผมอีก... ไม่รู้ไปเอาเบอร์พี่ยอดมาจากไหน ผมเองก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะถ้าตอบกลับไป มันเหมือนผมขี้หึงถึงขนาดต้องเช็คมือถือแฟน แต่จริง ๆ แล้วพี่ยอดเป็นคนบอกผมทุกครั้งที่สองคนนั้นติดต่อมา...
“...กูเริ่มจะทนไม่ไหวแล้วนะ...” ผมพูดเสียงดังในเย็นวันหนึ่ง
“...มึงอึดมากเลยนะทีม...ถ้าเป็นกูอีไฮโซนั่นโดนไปนานแล้ว...” มิ้นท์ใส่อารมณ์ตามสไตล์
“...แต่ยังดีนะที่พี่ยอดไม่ได้เล่นด้วย...” แก้วพูดยิ้ม ๆ
“...อีมิ้นท์ มึงว่าแก้วมันดูมีความสุขผิดปกติป่าววะ...” ผมแซว
“...เคลียร์กับวาดะซังแล้วเหรอ...” มิ้นท์ถาม แก้วหุบยิ้มทันที
“...เราก็เหมือนเดิม ไม่มีอะไรนี่...”
“...ไม่จริงอ่ะ...” ผมแหย่ต่อ
“...บอกว่าไม่มีอะไรก็ไม่มีอะไรสิ...” แก้วรีบลุกหนี
“...กูว่ามี...” ผมกับมิ้นท์สุมหัวกันเม้าท์ต่อ
*
*
...ที่ผ่านมาเราคงมัวแต่ยุ่งเรื่องของตัวเองเกินไปจนลืมสังเกตคู่ถ่านไฟเก่าอย่างไผ่กับแก้ว...พอเริ่มจับตาดูความเคลื่อนไหวถึงได้เห็นความผิดปกติของทั้งคู่...ตอนดึกเป็นช่วงเวลาที่แคชเชียร์ยุ่งจนแทบไม่มีเวลากระดิกตัวไปทำอะไร...ไผ่กับแก้วก็นั่งคุยกันอยู่หลังร้านด้วยท่าทีสนิทสนมกันเหมือนเมื่อหลายปีก่อน...
“...เฮ้ย...มึงว่าสองคนนั้นเค้า...” มิ้นท์กระซิบ
“...บ้าเหรอ...ไม่มีอะไรหรอก...”
“...แต่กูว่ามันผิดปกตินะ...ดูสิ...มีจับมือกันด้วย...”
“...แก้วมันไม่รู้เหรอว่าในร้านมันมีกล้องวงจรปิดเกือบทุกจุด...” ผมชี้ให้มิ้นท์ดูกล้องด้านบน
“...มันคงบริสุทธิ์ใจมั้ง...” มิ้นท์พูดเสียงเบา
“...แต่แฟนไผ่กับคุณวาดะรับไม่ได้หรอก...” ผมพึมพำ
“...นั่นสิ...แฟนไผ่คงรับไม่ได้ถ้าผัวจะมีกิ๊กเป็นผู้ชายด้วยกัน...”
“...เออ...วาดะซังก็คงรับไม่ได้ ถ้าแฟนตัวเองมีกิ๊กเป็นช่างในผับ แถมยังไปยุ่งกับคนมีลูกมีเมียแล้ว...”
*
*
...ผมกับมิ้นท์เดินออกมาหน้าร้านเงียบ ๆ ต่างคนต่างมีเรื่องต้องคิด...ไม่นานนักแก้วก็เดินมานั่งทำงานต่อด้วยสีหน้าสดชื่น...ไผ่เองก็เดินตามมาแต่ไม่กล้าสบตาพวกผมเหมือนมีอะไรปิดบัง...ในที่สุดเราก็แยกย้ายกันไปทำงานตามหน้าที่ โดยเก็บเรื่องทั้งหมดไว้เป็นความลับ...
*
*
...พี่ยอดเห็นผมเคร่งขรึมผิดปกติก็ถามด้วยความห่วงใย แต่ผมพูดอะไรไม่ได้จนช่วงบ่ายวันต่อมา เมื่อเจอหน้ามิ้นท์หัวข้อสนทนาของเราก็คือความคืบหน้าของแก้วกับไผ่...คุยไปคุยมาดันอยากรู้ว่าคุณวาดะระแคะระคายอะไรหรือเปล่า แล้วทำไมเค้าถึงยุ่งซะจนไม่มีเวลาดูแลแก้ว...โทรเรียกนังคิมเบอรี่มาที่นี่ดีกว่า ตอนนี้ชีเป็นผู้ช่วยคุณวาดะ หน้าที่ที่ผมเคยทำมาก่อน ถ้าคุณวาดะยุ่งเพราะการจัดตารางงานของนังคิม ผมต้องจัดการเทรนใหม่ซะหน่อย...
“...นี่...หล่อน...ทำไมไม่จัดตารางงานคุณวาดะให้ดี ๆ ยะ...” มิ้นท์ถามทันทีที่คิมมานั่ง
“...คุณวาดะเค้าจะแตก Product Line...ช่วงนี้เลยยุ่ง ต้องหาลูกค้าเยอะมาก...ใครจะเหมือนมึง...ปล่อยให้ผัวควงตะหลิวอยู่คนเดียวในครัว แต่เมียออกมานั่งเม้าท์ข้างนอกเนี่ย...” คิมกัด
“...เจอหน้ากันไม่ได้ ต้องกัดกันตลอด...”
“...แหม กัดกันขำ ๆ แหละ...คุณวาดะเค้าก็ทำงานแบบคนญี่ปุ่น แก้วน่าจะเข้าใจ...” คิมพูดเป็นการเป็นงาน
“...แก้วมันเข้าใจ แต่ถ้าคุณวาดะทำงานมาก ๆ อาจจะเสียแก้วไปเลยนะ...”
“...อะไรยังไง...” คิมตาโต ทำหน้าอยากรู้อยากเห็น
*
*
...เราจำเป็นต้องเล่าเรื่องทั้งหมดให้คิมฟัง เพื่อจะได้หาแนวร่วมในการแก้ไขปัญหาระหว่างแก้วกับคุณวาดะ...คิมช่วยคิด ช่วยหาทางจัดตารางงานใหม่ให้คุณวาดะ ถึงแม้จะเสี่ยงกับการโดนเจ้านายดุ แต่ถ้าเอาข้ออ้างเรื่องสุขภาพมาอ้างน่าจะได้ผล คิมให้ผมช่วยพูดอีกคน เพราะคิมอยู่ในฐานะลูกจ้าง บางครั้งก็ไม่สามารถพูดอะไรตรง ๆ ได้...
“...ไม่ต้องทำเพื่อเราขนาดนั้นหรอก...” แก้วโผล่มาจากด้านหลัง คงได้ยินที่พวกเราคุยกันหมดแล้ว
“...ถ้าไม่ทำอะไรเลย แกกับคุณวาดะจะไปกันรอดเหรอ...” ผมถามอย่างเป็นห่วง
“...ถ้าไม่รอดก็ไม่เป็นไร...เราอยู่ได้...”
“...อยู่กับไผ่เหรอ...”
“...มิ้นท์...แกกำลังดูถูกเรานะ...” แก้วพูดจบก็หันหลังเดินหนี
“...ใจเย็น ๆ...พวกเราแค่พยายามช่วยให้คุณวาดะมีเวลาอยู่กับแกเยอะ ๆ ไง...” คิมจับแขนแก้วไว้
“...เราไม่สำคัญเท่างานของเค้าหรอก...เราเข้าใจดี...” แก้วดูจะใจเย็นลง
“...ชั้นขอโทษ...ชั้นไม่อยากให้แกปีนต้นงิ้วอ่ะ...” มิ้นท์บอก
“...ไม่เป็นไร...แกคงเข้าใจผิด...เรากับไผ่ไม่มีอะไรกัน...เค้าแค่ต้องการความช่วยเหลือ...”
“...ถ้าแกยืนยันว่าไม่มีอะไร พวกเราก็ต้องเชื่อแกอยู่แล้ว...” ผมมองหน้าแก้วแล้วยิ้มให้
*
*
...แต่...ความลับไม่มีในโลก...ไม่นานนักเรื่องของแก้วกับไผ่ลอดเข้าหูผมจากการเม้าท์ของพนักงาน...ยังดีที่แก้วอยู่ในระดับผู้บริหาร จึงไม่มีใครกล้าเม้าท์มาก ผมแอบไปถามกับพนักงานที่พอจะไว้ใจได้ เค้าบอกว่า มีคนเห็นคู่นั้นในกล้องวงจรปิด...ไผ่เข้าหาแก้วบ่อยมาก และเรื่องก็ฮือฮากันตอนที่มีภาพแก้วยื่นเงินให้ไผ่...ไม่รู้ว่าแก้วจะรู้เรื่องที่เค้าเม้าท์กันทั่วร้านหรือยัง เพราะแก้วขอลาพักมาสองวันแล้ว...ผมเองก็ไม่อยากจะรบกวนเวลาพักผ่อนของแก้ว จึงไม่ได้ติดต่อไปเลย...แต่เมื่อเห็นท่าไม่ดี ผมจึงต้องโทรไปถามว่าจะกลับมาทำงานเมื่อไหร่จะได้ให้แก้วเตรียมใจรับเรื่องพวกนี้ไว้...
“...คุณวาดะ...ขอโทษที่โทรมารบกวนยูนะ ไอติดต่อแก้วไม่ได้ ถ้ากลับบ้านไปฝากให้แก้วโทรมาหาไอหน่อยนะ...” ตัดสินใจโทรหาคุณวาดะ
“...อ้าว...แก้วไม่ได้ไปทำงานเหรอ...” คุณวาดะทำเสียงประหลาดใจ
“...แก้วลาหยุดมาสองวันแล้ว ไออยากรู้ว่าเค้าจะกลับมาทำงานอีกเมื่อไหร่...”
“...ไอก็ไม่ได้เจอเค้ามาหลายวันแล้วเหมือนกัน...”
“...อะไรเนี่ย...ยูไม่ได้สนใจแก้วเลยเหรอ...” ผมโวยวาย
“...ไอยุ่งมากช่วงนี้...” คุณวาดะพูดเสียงอ่อย
“...แล้วจะทำยังไง...ติดต่อแก้วไมได้เลย...”
“...ไอจะกลับห้องเดี๋ยวนี้แหละ...ยูมาเจอไอที่บ้านได้มั้ย...”
“...โอเค...ไอจะไปถึงที่นั่นภายในยี่สิบนาที...แล้วเจอกัน...”
*
*
...ผมหยิบกระเป๋า โทรศัพท์แล้วเดินไปสั่งงานกับมิ้นท์ไว้ ก่อนจะรีบเดินทางไปหาคุณวาดะที่คอนโด...เป็นห่วงทั้งแก้ว และร้าน ขนาดผู้บริหารยังรู้เรื่องนี้แล้วพนักงานระดับปฏิบัติการที่ต้องทำงานร่วมกันจะไม่รู้ได้ยังไง...ป่านนี้เรื่องคงเข้าหูแฟนไผ่แล้ว แก้วดันหายไปอีก ทีนี้ใครจะแก้ข่าว หรืออธิบายได้ล่ะ...
“...ทีม...แก้วขนของออกไปหมดเลย...” คุณวาดะเดินออกจากห้องมาพูดกับผมด้วยสีหน้าไม่ดีนัก
“...เค้าบอกอะไรยูหรือเปล่า...”
“...เอ่อ...เราไม่ได้เจอกันหลายวันแล้ว...”
“...นี่ถ้าไอไม่โทรมาถาม ยูก็คงไม่รู้ว่าแก้วหายไปสินะ...”
“...ไอเสียใจที่ดูแลเพื่อนยูไม่ดี...”
“...เพื่อนไอก็ผิดด้วยแหละ...ไม่คุยกันซะก่อน อยู่ดี ๆ ก็หนีไป...ยูพอจะรู้มั้ยว่าแก้วจะไปไหนได้บ้าง...”
“...อาจจะกลับบ้านที่ต่างจังหวัดนะ...”
“...พวกเราไม่มีเบอร์บ้านต่างจังหวัดของแก้วน่ะสิ...” ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่
“...งั้นเราไปหากันมั้ย...”
“...พรุ่งนี้ไอจะจัดการเองดีกว่า...ยูรีบเคลียร์งานของยูให้เรียบร้อยเถอะ...ถ้าไอตามแก้วเจอแล้ว ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของยูที่ต้องแก้ปัญหานี้...”
*
*
…ยังไม่ทันที่ผมจะเลี้ยวรถออกจากคอนโดคุณวาดะ ที่ร้านก็โทรเข้ามารายงานว่าผัวเมียตีกันในร้าน...ไผ่กับแฟนนั่นแหละ...ผมต้องบอกให้คนที่ดูแลรักษาความปลอดภัยจับแยกไว้ที่ออฟฟิศ ไม่ให้ลูกค้าเห็นภาพแบบนี้เด็ดขาด...แล้วผมจะไปจัดการเอง...แต่ไม่ทัน...ซักพักคนที่ร้านก็โทรมาอีกครั้งบอกว่าสองคนนั้นขอลาออก และพากันกลับบ้านไปแล้ว...ถ้าเป็นพนักงานทั่วไปผมก็ไม่เครียดเท่าไหร่ เพราะตอนนี้มีพนักงานเพียงพอแล้ว แต่กรณีนี้มันมีปัญหาเรื่องส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเนี่ยสิ...
*
*
...เรื่องพนักงาน กับเรื่องแก้วก็ทำให้ผมปวดหัวจะแย่แล้ว พอถึงร้านเจอลูกค้านรกอย่างแม็คมาเที่ยวอีก...แม้ว่าวันนี้พี่ยอดจะไม่ได้เข้าร้าน เพราะพรุ่งนี้เค้ามีประชุมที่โรงงานตอนเช้า แต่แม็คก็ยังมาป่วนร้านผมได้ หาเรื่องคอมเพลน หาเรื่องแกล้งเด็กเสิร์ฟ แซวนักร้อง โวยวายรบกวนลูกค้าคนอื่น...มิ้นท์ไม่ยอมให้ผมออกไปฉะกับแม็คเพราะกลัวว่าผมจะวีนแตก ปัญหาจะยิ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม...
******************************************************************************************************
...ขอบคุณที่ติดตาม ขอบคุณสำหรับคำติชม คำแนะนำทุกคอมเม้นท์เลยนะครับ...และต้องขอโทษด้วยที่หายไปนาน พี่น้องใน Facebook จะรู้ว่าคอมผู้เขียนพัง พอซ่อมเสร็จดันจำพาสเวิร์ดเข้าเล้าไมได้ซะอีก เพิ่งจะจำได้เมื่อคืนตอนดึก ๆ วันนี้เลยรีบมาต่อ และขอต่อแบบแยกเป็น 2 Part เพื่อแก้ตัวที่ทำให้รอนาน...
...แล้วเจอกันใหม่เร็ว ๆ นี้ครับ...
...เป้...