We belong together (Season III) ตอนที่ 12
...บนถนนสุขุมวิทช่วงเลิกงาน รถติดแค่ไหนใครก็รู้ ผมถึงเลือกที่จะจอดรถไว้ร้านมิ้นท์แล้วขึ้นรถไฟฟ้ามาเอ็มโพเรี่ยม...มีเวลาเหลือก่อนที่แจ็ค และพี่ยอดจะมาถึงแน่นอน ไหนจะวนหาที่จอดรถอีก จากออฟฟิศมาเอ็มโพเรี่ยมถ้าขับรถมาใช้เวลาเกือบชั่วโมง แต่ถ้าใช้รถไฟฟ้าก็สิบห้านาทีเท่านั้น...
...ผมไม่ให้ความหงุดหงิดมาครอบงำสติ ทั้งที่แอบคิดว่าช่วงที่รถติดแบบนี้ เค้าอยู่ด้วยกันสองต่อสอง อีเด็กเวรนั่นจะออดอ้อนออเซาะพี่ยอดขนาดไหน....ยิ่งคิดยิ่งโมโห...ผมลงจากรถไฟฟ้าได้ก็เดินลิ่ว ๆ ไปชั้นโรงหนัง เช็ครอบหนังที่คิดว่าพี่ยอดกับเทมส์อาจจะขึ้นมาดูด้วยกัน...และจากการสังเกตตอนสองคนนั้นเรียกเช็คบิล ถ้าคนไม่มีเวลาที่จำกัด จะไม่ทำท่าแบบนั้น แสดงว่าสองคนนี้ต้องไปไหนกันต่อโดยมีเวลามาเป็นตัวกำหนด ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นการดูหนังที่เทมส์ชวนตั้งแต่เมื่อเย็น...
“...ทีมจะดูหนังเหรอครับ...” แจ็คถามเขิน ๆ ไม่เข้าใจจะเขินทำไม
“...เปล่า...ไปหาคนรู้จักแป๊บนึง...แจ็คไปด้วยกันหน่อยนะ...” ผมมัดมือชก
“...ได้ครับ...”
“...ถ้าทีมทำอะไรแปลก ๆ ก็ช่วยรับมุขด้วยล่ะ...เดี๋ยวทีมหน้าแตก...” ผมพูดยิ้ม ๆ แจ็คพยักหน้ารับ
“...ผมว่าเรื่องแฟนทีมแน่ ๆ เลย...คนที่นั่งกินข้าวอยู่อีกโต๊ะถัดไปเมื่อกี้ใช่มั้ยครับ...”
“...รู้ได้ไงอ่ะ...” ผมตกใจ
“...โห...มองผมอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อขนาดนั้น ใครไม่รู้ก็บ้าแล้ว...” แจ็คหัวเราะ
“...นั่นแหละ...ช่วยหน่อยเหอะ...”
“...มันจะดีเหรอครับ...”
“...แจ็ค...ถ้าแจ็คมีแฟนแล้วแฟนพาคนที่แจ็คไม่ชอบมากินข้าวดูหนัง แจ็คจะรู้สึกยังไง...ถ้าเค้าทำได้ ทีมก็ทำได้เหมือนกัน...” ผมเผลอพูดเสียงดัง
“...โอเค...ใจเย็น ๆ ผมช่วยก็ได้...แต่อย่าให้เค้ามาต่อยผมนะ...” แจ็คยิ้มแหย ๆ
“...อุ้ย...ขอโทษ...ถ้าแจ็คลำบากใจก็ไม่เป็นไรนะ...ทีมมีแผนสำรองไว้แล้ว...”
“...ไม่เป็นไรครับ...จริง ๆ แล้วก็น่าสนุกดีนะ...ไม่เคยทำอะไรแบบนี้เหมือนกัน...”
*
*
...เซนส์เรายังแม่นเหมือนเดิม...พี่ยอดกับเทมส์ยืนรอเวลาหนังเข้าโรงอยู่ไม่ไกล...ผมกับแจ็คก็ทำเป็นยืนดูตารางหนัง เหมือนจะเลือกว่าเราจะดูเรื่องไหนดี...มีกระซิบกระซาบ หัวเราะคิกคัก ถ้าไม่มีใครรู้มาก่อน คงคิดว่าเราเป็นคู่รักกันแน่นอน...ผมแอบหันไปยิ้มมุมปากให้พี่ยอด เห็นเค้านั่งขบกรามแน่น...เอาสิ...เดินเข้ามาสิ...
“...ทีม...เค้าจะฆ่าผมป่าว...” แจ็คกัดฟันพูด
“...นี่มันในห้าง เค้าทำอะไรไม่ได้หรอก...” ผมปลอบ
“...ผมว่ามีอะไรก็คุยกันดี ๆ เถอะ...”
“...คุยแน่ แต่ตอนนี้ขอแยกเค้าสองคนออกมาก่อน...” ผมพูดพลางจูงมือแจ็คไปดูตารางหนังอีกช่อง
“...ทีม...ทีม...ทีม...” พี่ยอดเรียกชื่อผมสามครั้งด้วยเสียงที่ค่อย ๆ ดังขึ้น เพราะผมไม่หันไปหาเค้าซักที
“...อ้าว...เรียกทีมเหรอ...ได้ยินเป็นเทมส์อ่ะ...” ผมกัด
“...มากับใคร...” พี่ยอดถามเสียงแข็ง ตามองจ้องแจ็คเขม็ง
“...แจ็ค...นี่พี่ยอด...พี่ของทีม...พี่ยอด...นี่แจ็ค...เค้าเป็นคนสำคัญในอนาคตของทีมเลยนะ...” ผมแนะนำโดยเน้นคำว่าพี่ และ คนสำคัญ ก่อนจะหันไปยิ้มให้แจ็ค
“...ขอตัวกลับก่อนนะครับ...” พี่ยอดดึงแขนผมออกมา โชคดีที่คนเริ่มทยอยเข้าโรงหนัง ทำให้ไม่เป็นที่สนใจมาก
“...พี่ยอดไปดูหนังสิ...เทมส์รออยู่นะ...ทีมจะกลับโรงแรมกับแจ็ค...” ผมสะบัดแขนเบา ๆ แต่ไม่ลืมยั่วเค้าต่อ
“...ไม่ดูแล้ว...กลับบ้าน...” พี่ยอดบีบแขนผมแรงขึ้น
“...ทีมจะกลับโรงแรมกับแจ็ค...” ผมพูดเสียงแข็งและแกะมือของเค้าออก
“...ได้...พี่จะขับตามไป...”
“...ไม่ต้องเลย...กลัวว่าเราจะเข้าม่านรูดเหรอ...”
“...คุณจอดรถชั้นไหน...” พี่ยอดไม่สนใจกับคำพูดประชด แต่หันไปกระชากเสียงถามแจ็ค
“...วันนี้พี่ยอดคงดูหนังด้วยไม่ได้...แค่กินข้าวมื้อนึงก็น่าจะพอสำหรับเทมโพรารี่อย่างเธอแล้วนะ...” ผมพูดเบา ๆ กับเทมส์ และยิ้มมุมปากให้ก่อนจะหันไปหาสองคนนั้นที่ยังนัดแนะว่าจะตามกันไปยังไง
“...พี่ยอด...พี่ยอดจะให้เทมส์ดูหนังคนเดียวเหรอ...” อีเด็กเวรนั่นถามเสียงแข็ง
“..............................” พี่ยอดเงียบ
“...แจ็ค...เราไปดริ้งค์กันที่ทองหล่อใกล้ ๆ นี่ดีกว่า ราตรีนี้ยังอีกยาวนาน...” ผมกดดันพี่ยอด
“...เทมส์...เอ่อ...” พี่ยอดอ้ำอึ้ง
“...ไปกันเถอะแจ็ค...” ผมจูงมือแจ็คออกไปจากวงสนทนา
“...เดี๋ยวทีม...รอพี่ด้วย...” พี่ยอดพูดไล่หลัง ผมหันไปเห็นเค้าคุยอะไรซักอย่างกับเทมส์ แล้วก็เดินก้าวยาว ๆ ตามมา
*
*
...คุณพระช่วย...อินทีเรียดีไซน์เนอร์รวยขนาดนี้เลยเหรอ...รถสปอร์ตคันหรูตรงหน้าทำให้ผมแทบจะเดินกลับไปขึ้นรถพี่ยอด...เพื่อนผมจะรู้ว่าผมไม่ชอบรถสปอร์ตเป็นการส่วนตัว เพราะรู้สึกว่ามันไม่คุ้ม รถคันเล็กนั่งได้สองคน แต่ราคาแพงกว่ารถใหญ่ที่นั่งได้เจ็ดคนซะอีก...ไม่เคยนั่งมาก่อน แต่พอได้นั่งรถแจ็คแล้วรู้สึกว่ามันก็แปลกไปอีกแบบ เสียงเครื่องมันดังนุ่ม ๆ ในรถ แต่ผมชอบเสียงเงียบ ๆ แบบรถผมมากกว่า...
“...นี่น่ะเหรอคุณยอด...พวกคนงานหญิงชมนักชมหนาว่าทั้งหล่อทั้งใจดี...หล่อน่ะ ผมไม่เถียง แต่ใจดีนี่สิ...” แจ็คพูดพลางทำคอย่น ความลับแตกเลย คนงานที่มาทำบ้านคิดว่าผมกับพี่ยอดเป็นพี่น้องกัน หวังว่าแจ็คคงไม่พูดไป
“...เค้าคงโกรธแหละ...”
“...น้องคนนั้นหมือนทีมเลยเนอะ...” แจ็คพูดถึงเทมส์
“...พยายามจะทำตัวให้เหมือนมากกว่า...”
“...แล้วกลับไปนี่จะทะเลาะกันต่ออีกหรือเปล่าครับ...”
“...คิดว่าไม่นะ...เพราะตอนนี้ทีมนอนโรงแรม ไม่ได้นอนที่คอนโดพี่ยอดแล้ว...”
“...ทีมจะให้ผมไปส่งที่โรงแรมไหนครับ...”
“...ทีมจอดรถไว้ที่ร้านเพื่อนอ่ะ...เพื่อนคนที่เป็นหุ้นส่วนที่ทำร้านอาหารไง...แจ็คจะลองคุยด้วยเลยมั้ย...”
“...เอาไว้วันหลังดีกว่าครับ...ผมกลัวคุณยอดจะมาเตะ...นี่ก็ขับจี้ท้ายรถผมแบบไม่กลัวชนเลย...” แจ็คเหลือบมองกระจกหลัง
“...ไม่ต้องไปสนใจเค้าหรอก...เลี้ยวซอยหน้าเลยครับ...” ผมบอกแจ็ค
“...โห...พอออกนอกเส้นทางคุณยอดโทรตามเลยสิ...” แจ็คพูดพลางหัวเราะเบา ๆ เมื่อโทรศัพท์ผมดังทันทีที่รถเลี้ยวเข้าซอยลัด
“...รถใหญ่อย่างพี่ยอด ถ้าซิ่งแข่งกันสู้แจ็คไม่ได้แน่ ๆ...ไปวนมอเตอร์เวย์ซักรอบดีมั้ย...” ผมแกล้งแหย่แจ็ค ก่อนจะตัดสายพี่ยอดทิ้ง
“...ขอผมลงตรงนี้แล้วทีมขับรถผมไปเลยดีกว่า...” แจ็คพูดขำ ๆ
*
*
...มิ้นท์ออกมาต้อนรับผมที่หน้าร้านด้วยอาการระริกระรี้ที่เป็นธรรมชาติของมัน...แต่เนื่องจากพี่ยอดยืนกอดอกพิงรถมองตาเขียวอยู่ไม่ไกลทำให้เราพูดคุยแนะนำตัวกันได้ไม่นานแจ็คก็ขอตัวกลับ โดยที่ผมไม่ลืมบอกเค้าว่าร้านนี้เป็นแหล่งระดมสมองของโปรเจคนี้...ต่อไปเราจะใช้ร้านมิ้นท์เวลาจะคุยเรื่องงาน เพราะตั้งแต่วันจันทร์หน้าผมก็ไม่ต้องไปทำงานกับพี่ยอดแล้ว...มีอะไรให้มาเจอกันที่นี่ได้ตลอดเวลา...
“...กลับบ้าน...” พี่ยอดใช้เสียงโทนเดิมในการชวนผมกลับบ้าน ซึ่งผมคิดว่ามันคือการสั่ง
“...ก็กำลังจะกลับนี่ไง...” ผมเดินไปเปิดประตูรถ พี่ยอดแทรกตัวเข้ามานั่งอีกด้าน
“...ขึ้นมาทำไม...ลงไปเลย...” ผมไล่
“...พี่จะไปส่งให้ถึงโรงแรม จะได้มั่นใจว่าไอ้คนนั้นมันไม่ตามไปอีก...”
“...ไร้สาระ...ถ้าจะไปเจอกันที่โรงแรม ทีมก็ให้เค้าไปส่งแล้วสิ...”
“...เออ...ไม่รู้แหละ...พี่หึง...โอเคป่ะ...” พี่ยอดพูดเสียงอ่อนลง
“...หึงทำไม...เราเป็นพี่น้องกันแล้วนี่...”
“...โห...พี่หึงตั้งแต่เมื่อตอนบ่ายแล้ว...เห็นแอบลงมาคุยกันกระหนุงกระหนิง...” พี่ยอดทำเสียงประชด
“...ลงมาดูด้วยตัวเองนี่ไม่เห็นเลยเหรอว่าเค้ามีแฟ้มเอกสาร มีโน้ตบุ้คมาพรีเซนต์งาน...คุยกันกระหนุงกระหนิงตอนไหน...หา...” ผมกระแทกเสียงถาม พี่ยอดอึ้ง
“...แล้วเมื่อกี้ล่ะ กินข้าวแทบจะป้อนกันอ่ะ...มีจูงมือกันไม่อายคนอื่นเลยนะ...” พี่ยอดโวยวายกลบเกลื่อน
“...............................” ผมจ้องหน้าพี่ยอดด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม
“...โอเค...พี่ผิดเอง...พี่ขอโทษที่ประชดทีมก่อน...”
“...ทีมกับแจ็คมาคุยเรื่องงานสำคัญบางอย่างที่ทีมยังไม่พร้อมจะบอกพี่ยอดได้ในตอนนี้... “
“...ครับ...ถ้ายังไม่พร้อมจะบอก พี่ไม่ถามก็ได้...ทีมไม่ชอบคนเซ้าซี้นี่นา...เรากลับบ้านกันเถอะนะ...” พี่ยอดเปลี่ยนโหมดมาอ้อนแค่นี้จนผมใจอ่อนยวบ
“...ทีมจะไปโรงแรม...”
“...พี่ไปด้วย...”
“...ทีมไม่ชอบคนเซ้าซี้...” ผมพูดเสียงเรียบ
“...โอเค...ขับรถดี ๆ นะ...พรุ่งนี้มาปลุกพี่ด้วยล่ะ...” พี่ยอดยิ้มเจื่อน ๆ ก่อนจะเปิดประตูรถลงไป
*
*
...ผมไปโรงแรมเพื่อเก็บข้าวของทำการเช็คเอ้าท์แล้วกลับไปที่คอนโดพี่ยอด...ไหน ๆ เค้าก็ยอมรับผิดแล้วว่าเป็นฝ่ายหึงผมแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ แถมยังประชดด้วยการพาอีเด็กเวรนั่นไปเที่ยวต่อหน้าผม...แต่จะว่าไปเราก็มีส่วนผิดที่งอนไม่เลิก...และยังคิดเข้าข้างตัวเองว่าเป็นฝ่ายถูกตลอด...ที่พี่รุจพูดมาเมื่อวันก่อนทำให้ผมคิดได้เยอะ แต่ก็อดทำตัวเหมือนเดิมไม่ได้...นิสัยที่แย่ที่สุดคือชอบเอาชนะจนลืมคิดถึงจิตใจคนอื่น...ต่อไปจะพยายามไม่กวนใจพี่ยอดแล้ว...ยิ่งพอมาเจอกับตัวในเรื่องธุรกิจ เรื่องที่บางครั้งต้องอาศัยอิทธิพล ทำให้ผมเข้าใจพี่ยอดมากขึ้นว่าทำไมเค้าต้องยอมคุณวัฒนาขนาดนั้น...
****************************************************************************
...ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกคำติชมนะครับ...ตอนนี้มาแบบเบา ๆ อีกแล้ว...ตอนต่อไปจะเป็นตอนที่ 13 ถ้าจำกันได้ สองซีซั่นที่ผ่านมา เรื่องนี้จะไม่มีตอนที่ 13 เพราะผู้เขียนไม่ชอบเลขนี้เป็นการส่วนตัว...ตอนหน้าจะเป็นตอนแรก และตอนเดียวที่ผู้เขียนวางพล็อตไว้...จากความตั้งใจที่จะให้จบบริบูรณ์ในตอนที่ 15 ดังนั้นพล็อตที่คิดไว้จะเป็นตัวกำหนดตอนจบของเรื่องนี้...แต่ก็คิดไว้หลายพล็อตนะครับ...ขอเช็คความเห็นผู้อ่านก่อน...ตอนหน้าไม่ว่าจะพล็อตไหน รับรองมี Surprise แอบกลัวว่าจะมีผู้อ่านรู้ใจคนเขียนจนเดาเรื่องถูก...ไม่แน่นะ อาจจะพลิกพล็อต ตามอารมณ์คนเขียน ณ เวลานั้น หรืออาจจะเอาความเห็นผู้อ่านมายำรวมกันก็ได้...
...โจทย์นี้มันท้าทายจริง ๆ...แล้วพบกันใหม่เร็ว ๆ นี้...
...เป้...
...ขอบคุณที่เข้ามาเม้าท์กันใน Facebook นะครับ...รักทุกคนเลย...