"ตอนที่ 2/4"
อาหารเช้ามื้อนี้เป็นมื้อที่ผมกินอิ่มและมีความสุขในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา กลุ่มเพื่อน ๆ ของผม กับกลุ่มเพื่อน ๆ ของบูมคุยกันได้ถูกคอมาก ๆ
ทั้ง ๆ ที่ปกติเพื่อน ๆ ของผมไม่ค่อยได้พูดคุยกับเพื่อน ๆ ในกลุ่มของบูมเท่าไหร่เลย แต่วันนี้กลับดูเหมือนว่าพวกเราสนิทสนมกันมานานมากๆแล้ว
ผมกับบูมต่างก็แอบสบตาและจับมือกันตลอด แต่ก็ไม่ได้เปิดเผยอะไรมากมายเพราะเพื่อน ๆ ในกลุ่มของบูมยังไม่รู้เรื่องที่ผมกับบูมคบกัน
ช่วงเวลาที่อยู่ที่อ่าวไผ่เป็นเวลาที่ผมกับบูมมีความสุขกันมาก ทั้งเล่นน้ำ เดินผจญภัยลัดเลาะไปตามหาดต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เราจะไปกันเป็นกลุ่ม
จะมีบางครั้งเท่านั้นที่แอบหนีไปเที่ยวกันสองต่อสอง เช่น การไปเดินริมหาดในตอนเช้า ๆ กันสองคน มีแอบไปเล่นน้ำกันบ้าง แต่ก็จะไม่นานนักเพราะเดี๋ยวจะมีคนสงสัย จนกระทั่งได้เวลาเดินทางกลับบ้าน
หลังจากที่พวกเรากลับมาถึงฝั่งแล้ว บูมกับผมก็ขอตัวแยกออกมาจากกลุ่มเพื่อนๆ โดยบูมให้เหตุผลว่า บ้านผมและบ้านของบูมอยู่ไม่ไกลกันนัก ซึ่งมันเป็นทางผ่านที่จะไปบ้านบูมพอดี
เค้าเลยจะพาผมไปส่งจะได้ไม่เสียเวลาวกรถไปมา ซึ่งพวกเพื่อน ๆ ผมก็เข้าใจ แต่ก็มีมาแอบแซวเล็ก ๆ ว่า ได้แฟนแล้วทิ้งเพื่อนอะไรประมาณนั้น แต่พวกมันก็ไม่ได้ว่าอะไร
ผมกับบูมนั่งคุยกันมาตลอดทางขากลับจากระยอง จนกระทั้งเรามาใกล้จะเข้าเขตกรุงเทพแล้ว ผมก็พูดในสิ่งที่ผมเป็นกังวลมาตลอดขึ้นมา
“บูมว่า....เราจะทำยังไงกันดี ถ้าเกิดม๊าบูมรู้เรื่องของพวกเราเข้า เราว่าเรื่องมันคงจะไม่จบง่าย ๆหรอกนะ”ผมพูดด้วยสีหน้ากังวล แต่บูมเองกลับไม่ได้ใส่ใจอะไร
“รู้ก็รู้ดิ ไม่เห็นจะต้องปิดเลย ถ้าม๊าเราไม่ยอมนะ เราย้ายไปอยู่บ้านโยก็ได้ จริงป่ะ ว่าแต่ว่า แม่ของโยจะยินดีที่จะรับเราเป็นลูกเขยอ๊ะป่าว”บูมหันมาพูดด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ แบบไม่สะทกสะท้านกับปัญหาที่จะตามมา
“บูมอ่ะ พูดเล่นอยู่เรื่อย เราซีเรียสนะ...เอาจริง ๆ ดิ”ผมค้านขึ้นด้วยความกังวล
“อ่ะจริง ๆ ก็ได้คร๊าบบบ....เอาเป็นว่าเราจะไปคุยกับม๊าของเราเอง ส่วนโยก็ไม่ต้องทำอะไร ปล่อยให้เป็นหน้าที่เราเอง สบายมาก”บูมพูดด้วยสีหน้ามั่นใจ
“เออ แล้วถ้าเกิดอาร์ทไปพูดอะไรอีกล่ะ เราจะทำยังไงดี”ผมเริ่มวิตกจริตเพิ่มขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้ว่า เรื่องที่ผมกับบูมคบกัน อาร์ทนั่นแหละที่เป็นคนคาบข่าวไปบอก
“โยก็จัดการไปเลยสิ เราว่าโยร้ายกว่าเราอีกนะ คนนี้เรายกให้ เราไม่อยากไปยุ่งด้วยหรอก”บูมแกล้งแซวยิ้ม ๆ
“ไม่อยากยุ่งหรือว่าตัดใจไม่ได้มากกว่ามั้ง...ถ่านไฟเก่าท่าทางจะยังไม่มอดอ่ะดิ”ผมแซวกลับไปบ้าง
“หึงหรอ....”บูมหันหน้ามาทำท่าล้อเลียนผม
“ใครหึง....ขับรถดี ๆ เถอะ เรายังไม่แต่งงานเลยนะ ยังไม่อยากตาย”ผมเตือนชายหนุ่ม เพราะเค้าชอบหันหน้ามาคุยกับผมเวลาขับรถ แถมยังชอบขับรถเร็วอีก
“ใครบอกว่าเราจะแต่งด้วยล่ะ”บูมยังแซวผมไม่เลิก
“แล้วบูมกับเราแต่งงานกันได้ซะที่ไหนเล่า เอ้ออออ”ผมส่ายหน้าช้า ๆ บูมได้แต่ยิ้ม ๆ
“งั้นเอาเป็นว่าพวกเราแบ่งกันจัดการกับเรื่องนี้นะ เราจะพูดกับม๊าเราเอง ส่วนโยก็โน่นอาร์ทนู่นเลย”บูมพูดสรุป
“แล้วเราจะไปจัดการอะไรกับเค้าได้ล่ะ เค้ามายุ่งกับบูมอีกหรอไง”ผมถามด้วยความสงสัยเพราะตลอดเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมาผมแทบจะไม่ได้รับรู้ข่าวคราวอะไรของบูมเลย
มีบ้างนิดหน่อยเท่านั้นที่ได้ยินมาจากคนอื่น แต่ก็ไม่ได้ลึกซึ้งมากมาย
“ก็มาเรื่อย ๆ นะ แต่เราไม่สนใจหรอก เราก็เลยเลี่ยง ๆ ไป ส่วนใหญ่จะให้แพทช่วยมากกว่า บางทีก็จะให้แพทมากันให้หรือไม่ก็แกล้งบอกว่ามีนัดกับแพทบ้าง” บูมพูดยิ้ม ๆ
“แพทนี่ก็ดีเนอะ คอยช่วยเหลือบูมตลอดเลย” ผมรู้สึกดีเมื่อนึกถึงสิ่งที่หญิงสาวได้ช่วยเหลือพวกผมเอาไว้ในหลาย ๆ เรื่อง
“ก็ใช่อ่ะดิ เราต้องขอบใจแพทนะเนี่ย ถ้าไม่ได้แพทกับเพื่อน ๆ ของโย เราก็ไม่มีทางได้โยคืนมาหรอก” บูมทำท่าตกใจที่หลุดปากพูดเรื่องสำคัญออกมา
“ว่าไงนะ แพทเกี่ยวอะไรว่าใหม่ดิ๊ แถมยังมีพวกเพื่อน ๆ เราด้วย พวกเค้าไปเกี่ยวอะไร” ผมถามย้ำอีกครั้ง
“เปล่าไม่มีอะไร” บูมแกล้งเฉไฉ แต่ก็ไม่ทันแล้วเพราะผมได้ยินชัดเจน
“ไม่จริงหรอกบอกมาเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นโดน” ผมหรี่ตามองบูมอย่างเยือกเย็น
“คร๊าบ ๆ ๆ กลัวแล้วครับ แต่ถ้าบอกแล้วโยสัญญานะว่าจะไม่ว่าอะไรเราอ่ะ”
“อืมมม....ก็ได้ ว่ามาเลย” ผมพยักหน้ารับ
“ก็แพทเค้าช่วยเราสืบเรื่องที่โยจะมาพักผ่อนกับพวกเพื่อน ๆ หลังสอบเสร็จให้เราอ่ะ แล้วทีนี้พอเค้ารู้เรื่องก็ไปขอความร่วมมือกับโบ รวมไปถึงช่วยคิดแผนการณ์กับพวกเพื่อน ๆ โยให้ด้วย
ไม่อย่างงั้นเราไม่มีทางไปเจอกับโยที่อ่าวไผ่หรอก แล้วโบยังบอกอีกว่าโยชอบไปถ่ายรูปตอนก่อนพระอาทิตย์ขึ้นทุกครั้งถ้าไปทะเล เราเลยตามไปเจอถูกไง พวกนี้โบเป็นคนบอกทั้งนั้นแหละ”
บูมอธิบายแผนการทั้งหมดให้ผมฟัง
“หึ หึ หึ ดีนะ รวมหัวกันวางแผนมาหลอกเรา”ผมหัวเราะอย่างน่ากลัว
“ก็โยอ่ะ ชอบเอาแต่คิดถึงใจคนอื่นอยู่นั่นแหละ ไม่คิดถึงความรู้สึกของเราบ้างเลย เราเลยต้องขอให้คนอื่นช่วย แต่ก็ถือว่าคุ้มนะเพราะเราก็ได้โยกลับมา” บูมพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจนิด ๆ
“หึ หึ หึ อยากไปอ่าวไผ่หรือ ไอ้โบ.....แก ต้องไปนอนที่แคร่ไม้ไผ่แน่ ๆ....ไอ้ออฟ....ไอ้กาย......มิน่าทำไมถึงอยากไปนักอ่าวไผ่ทั้ง ๆ ที่ไปกันมาตั้งหลายรอบ เดี๋ยวเหอะเจอดีแน่”
“โยจะไปทำอะไรพวกเค้าอ่ะ พวกเค้าอุตส่าห์ช่วยเราให้กลับมาคืนดีกันนะ” บูมพูดเพื่อเตือนสติผม แต่ก็เห็นจะไม่ได้ผล
“ดีกันหรอ จอด ๆ ๆ ๆ จอดรถตรงนี้แป๊ปนึง” ผมชี้ไปที่ข้างทางเพื่อให้บูมจอดรถ
“ให้เราจอดรถทำไมอ่ะ” บูมขับรถเข้ามาจอดรถที่ข้างทางแล้วหันกลับมาถามผม
“.......โอ๊ย โอ๊ย โอ๊ยยยย ไม่กล้าแล้วครับ วันหลังไม่กล้าหลอกแล้วครับ ยอมแล้ว ยอมแล้ว” บูมร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเพราะผมบิดเอวบูมอย่างแรงด้วยความหมั่นไส้
“ดี ครั้งนี้จะยกโทษให้ แต่ถ้ามีครั้งหน้าละน่าดู ไปขับรถต่อไปได้แล้ว” ผมสั่งให้บูมขับรถต่อไป หลังจากที่ผมได้ระบายอารมณ์ไปนิดๆหน่อยๆแล้ว อิอิ
จริง ๆ แล้วผมก็ไม่ได้โกรธอะไรมากมายนักหรอก แต่ไม่ชอบที่พวกเค้ารวมหัวกันเท่านั้นเอง
“อูยยย เจ็บนะ ถ้าเอวหลุดไปจะทำยังไงเนี่ย ไม่กลัวเป็นหม้ายหรอ”บูมทำตัวงอเอามือลูบเอวด้วยความเจ็บปวด แต่ผมก็ทำเป็นไม่สนใจอยากร่วมมือกันดีนัก
“ไปได้แล้ว บิดหน่อยเดียวเอง จะเอาอีกไหม”ผมทำท่าจะบิดเอวบูมอีก
“ครับ ๆ ๆ ขับแล้วครับ คุณชาย” บูมรีบเข้าเกียร์แล้วออกรถไปด้วยความรวดเร็ว
“ดี วันหลังจะได้ไม่กล้า” ผมยิ้มอย่างพอใจ
“คิดถูกคิดผิดวะเนี่ยกูที่กลับมาคืนดีกับคนซาดิสต์ ๆ แบบนี้” บูมบ่นเบา ๆ
“อะไรนะ ใครซาดิสต์พูดใหม่ดิ๊” จริง ๆ แล้วผมก็ได้ยินนะ แต่ก็ไม่ว่าอะไร เพราะสงสารบูมเหมือนกันแหละ บิดแรงไปนิด
“เปล่า ๆ ๆ ไม่มีอะไรครับ ไม่มีอะไร” บูมลนลานรีบออกรถ จนผมอดที่จะหวาดหวั่นไม่ได้ ก็พี่ท่านปกติก็ขับรถเร็วอยู่แล้ว นี่ขับรถเร็วกว่าเก่าแถมยังมองผมไปมองผมมาอีกอ่ะ ไม่แกล้งแล้วดีกว่า
หลังจากที่ผมได้ล้างแค้นบูมสมใจแล้ว ก็ต้องหันไปจัดการเจ้าพวกเพื่อน ๆ ตัวดีของผม ด้วยการส่ง message ไปให้ไอ้ตัวการ (โบ)
“เรารู้เรื่องทั้งหมดแล้ว จำเลยยอมรับสารภาพหมดเลย ระวังความลับจะถูกเปิดบ้างนะ ดูแลตัวเองให้ดีๆนะ ไอ้โบ........”
จากนั้นผมก็แอบหัวเราะคิ๊กคัก จนบูมอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมผมต้องดีใจขนาดนั้น กะแค่ส่ง message
ผมเลยเฉลยให้ฟังว่า ผมกำความลับของไอ้โบเอาไว้มากมาย ป่านนี้มันคงจะกระวนกระวายใจน่าดู เล่นกะใครไม่เล่น อิอิ เพราะถ้าเกิดผมต่อสายไปหาแฟนมันนิดเดียว
ชะตากรรมสยองในรูปแบบเดิมๆที่มันเคยได้รับจะกลับมาทันที นั่นไงมันโทรมาแล้ว รับสายหน่อยดีกว่า
“โย เราขอโทษ ยกโทษให้เราเถอะนะ เราอุตส่าห์ช่วยให้บูมกับโยคืนดีกันนะ”ไอ้โบส่งเสียงอ้อนมาเลย
“อย่าไปเชื่อมัน ๆ วู้ ๆ ๆ”ออฟกับกายส่งเสียงอยู่ใกล้ ๆ จนไอ้โบหันกลับไปตวาด “นี่พวกแกไม่ช่วยก็เงียบ ๆ ได้ป่ะ”
“หึ หึ หึ....ก่อนจะทำก็ไม่คิด ช่วยไม่ได้ เราโทรไปแล้ว ระวังตัวเองให้ดี ๆ เหอะ”ผมแกล้งอำมันครับ และก็ได้ผลจริง ๆ ด้วย
“ไอ้โย ไอ้เพื่อนเลว @#$(*&^%^%$%%$” มาเป็นชุดเลยครับ แต่ผมไม่ฟังมันหรอก เอาแต่หัวเราะ จนบูมหันมาปราม
“เออ ๆ ๆ ยังไม่โทรไปบอกหรอกน่า.......หรือว่าจะให้ต่อสายเลยไหม”ผมพูดหัวเราะ ๆ
“อย่าเลยครับ ยอมแล้วครับ คุณโยจะเอาอะไรครับเดี๋ยวกระผมจะจัดการให้ทุกอย่างเลยครับ นะครับ นะ” ดูมันดิ เปลี่ยนโทนโคตรเร็วเลย
“เออ ๆ ๆ ไม่เอาอะไรแล้ว แค่นี้แหละ”ผมหัวเราะแล้วก็วางสายไป
“แกล้งคนพอหรือยังเนี่ย พวกเรายังคงมีคดีความค้างเก่ากันอยู่นะ เราก็เพิ่งจะนึกขึ้นได้” เอาละสิ คดีเรื่องอะไรอีกละเนี่ย ผมหันไปจ้องบูมอย่างสงสัย
“คดีอะไรอีกอ่ะ”ผมถามอย่าง งง ๆ
“ก็เรื่องไอ้พี่วิทย์นะสิ ทีนี้ตาเราเอาคืนบ้างนะ....ไหนบอกว่าเป็นแฟนกันไง จำเลยก็รับสารภาพมาหมดแล้วเหมือนกัน...
แต่ตอนนี้เรื่องนี้พักไว้ก่อน รอให้ถึงบ้านก่อน คืนนี้ค่อยชำระคดีกัน โดนแน่ๆ ห้ามบ่น ห้ามปฏิเสธ ไม่งั้นโดนอย่างหนัก”บูมทำเสียงเข้มจนผมเริ่มหวั่น
“งั้นบูมส่งเราแค่นี้แหละนะ เดี๋ยวเรากลับเองได้ พอดีเรานึกขึ้นได้ว่ามีธุระที่ต้องไปทำก่อนกลับบ้านอ่ะ” ผมรีบหาทางหลบหนี
“ไม่ได้ อย่ามาโมเมซะให้ยากเลย ไปด้วยกันนี่แหละ.....เดี๋ยวก็รู้ หึ หึ หึ”บูมเร่งความเร็วรถเพิ่มขึ้นจนผมเริ่มกลัว ก็พี่ท่านเหยียบซะมิดเลย อะไรกันเรื่องแค่นี้เอง แล้วพี่วิทย์ไปสารภาพทำไมนะ ผมได้แต่นึกในใจ....
“งั้นเราขอโทษก็ได้นะ นะ หายโกรธเราหรือยังอ่ะ นะ นะ” ผมแกล้งทำเป็นใจดีสู้เสือ แล้วเอื้อมมือไปดึงแขนบูมเพื่ออ้อนขอความเห็นใจ
“ไม่ยกโทษให้ จนกว่า........”บูมพูดแค่นั้น
“จนกว่าอะไร......”ผมถามย้ำอีกครั้ง แต่บูมก็ไม่ตอบได้แต่นิ่งเงียบไปตลอดทาง
ผมนั่งอึดอัดอยู่บนรถ จนกระทั่งรถเลี้ยวเข้าไปในบ้านผม วันนี้แม่กับพ่อของผมไม่อยู่บ้านซะด้วยเพราะต้องไปทำธุระที่เชียงใหม่ แล้วจะเลยไปเยี่ยมคุณลุงกับคุณป้าของผมด้วย
วันนี้ผมเลยต้องแปรสภาพมาเป็น จำเลย โดยปริยาย แบบไม่มีใครมาเป็นตัวช่วยเลยอ่ะ
“มานี่เลย....เราต้องมาสะสางคดีกัน.”บูมลากผมขึ้นไปบนห้อง
“สะสางอะไรอีกล่ะ เราขอโทษแล้วนะ เบา ๆ หน่อย ดิ”ผมบ่นไปตลอดทาง
สุดท้ายไม่ต้องบอกนะครับ ว่าวันนี้จะจบลงตรงไหน ต้องเดากันเอาเองแล้วกัน........อิอิ
จบตอนที่ 2/4 ดีกว่าครับ ช่วงนี้ยังคงเป็นเรื่องเบา ๆ ก่อนนะครับ เพราะปัญหาต่าง ๆ มันยังมาไม่ถึงแต่ก็ใกล้จะเข้ามาเต็มทีแล้ว ขอบคุณนะครับที่ติดตาม
************************************************************