"คำว่ารักฯ Part II รักแท้แม้เวลามิอาจพราก by Yo เองครับ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: "คำว่ารักฯ Part II รักแท้แม้เวลามิอาจพราก by Yo เองครับ  (อ่าน 82741 ครั้ง)

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
ปอนด์จะมาไม้ไหนอ่ะ :confuse:

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
จามาบอกรักโยหรอ....  :laugh5: :laugh5:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
เหอเหอ สงสัยปอนด์อาจจะเห็นบูมกับโยม้าง เลยเศร้า  :sad4:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
"ตอนที่ 3/1"
    ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าในขณะที่บูมยังคงนอนอยู่ข้าง ๆ เพราะตั้งใจจะโทรไปขอบคุณแพทสักหน่อย ที่อุตส่าห์ช่วยเหลือผมให้ปรับความเข้าใจกับบูมไว้ตั้งหลายครั้งแล้ว

    “แพทหรอ เราขอบใจมากเลยนะที่อุตส่าห์ช่วยเรา”ผมกล่าวขอบคุณหลังจากปลายสายรับแล้ว

    “ขอบใจเรา โยมาขอบใจเราเรื่องอะไรหรอ”แพทแกล้งถามหยั่งเชิงทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้ว (ผมคิดเอานะ)

    “เอาเป็นว่าเราขอบใจแล้วกันนะ ขอบใจในทุกๆเรื่องเลย” ผมเลยแกล้งพูดให้กำกวมเข้าไว้

    “ไม่เป็นไร เราเป็นเพื่อนกันก็ต้องช่วยกันสิ แล้วบูมล่ะเป็นไง” เห็นไหมแพทพลาดจนได้

    “บูม......บูมทำไมหรอ มีอะไรหรือเปล่า เราไม่ได้เจอเค้ามาตั้งนานแล้วนะ ก็อย่างที่แพทรู้อยู่ มีอะไรหรือเปล่า เราตั้งใจจะมาขอบใจเรื่องที่แพทให้เรายืมเลคเชอร์ตอนก่อนสอบน่ะ”

    นั่น...ผมได้ทีแกล้งอำแพทกลับไป

    “อ้าวหรอ....เปล่า ๆ ๆ ไม่มีอะไร แล้วโยไปเที่ยวมาสนุกไหม”แพทรีบกลบเกลื่อน

    “อืมม...ก็ดีนะ เขาใหญ่บรรยากาศดีมาก ๆ เลย” ผมแอบขำที่ยังคงอำแพทต่อไป แต่ไม่ให้แพทรู้

    “อ้าว โยไม่ได้ไป อ่าวไผ่หรอกเหรอ”แพทร้องด้วยความตกใจ

    “เปล่า ไม่ได้ไป....ทำไมหรอ พอดีเราเกิดไม่อยากไปเที่ยวทะเล เลยลากพวกเพื่อน ๆ เราไป camping ที่เขาใหญ่น่ะ” ผมยังคงอำต่อไป

    (ตอนนี้น้ำตาผมเริ่มจะไหลบแล้วครับ ก็มันอดหัวเราะไม่ได้ แต่ยังไงก็ต้องฟอร์มไว้ก่อนเดี๋ยวหลุด)

    “ตายแล้ว.........”แพทร้องด้วยความตกใจ

    “เป็นอะไรหรอ......มีอะไรหรือเปล่า แพท” ผมแกล้งถามทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้ว

    “เปล่า ๆ ๆ แล้ว ไม่มีอะไรหรอกจ๊ะ” แพทปฎิเสธ

    “555 เราแกล้งอำแพทเล่นน่ะ ตอนนี้เรากลับมาคบกับบูมเหมือนเดิมแล้ว ขอบใจมาก ๆ เลยนะ เราแค่อำแพทเล่นน่ะ”ผมเฉลยให้แพทฟังก่อนที่แพทจะหัวใจวายซะก่อน

    “โหหห....อำกันได้ โยอ่ะใจร้าย เราก็นึกว่าแผนที่เราอุตส่าห์วางไว้ เสียไปหมดแล้วนะเนี่ย เฮ้อออ...โล่งอก”แพทพูดอย่างโล่งใจ

    “555 ก็อยากรวมหัวกันวางแผนก่อนดีนัก เราเลยแกล้งอำกลับไง”ผมหัวเราะชอบใจ

    “อ้าว.....ถ้าไม่ทำอย่างงั้น โยก็ไม่ยอมไปเจอกับบูมที่นั่นน่ะสิ เห็นเป็นนินจา ผลุบ ๆ โผล่อยู่นั้นแหละ

    มหาวิทยาลัยก็ไม่ค่อยไป เวลาเราเห็นบูมเอาแต่มองหาโยแล้วเราก็รู้สึกอดสงสารไม่ได้ เลยพยายามหาทางช่วย” แพทพูดเสียงเศร้า

    “แหะ แหะ แหะ ยังไงก็ขอบใจนะแพท” ผมหัวเราะอย่างสำนึกผิดนิด ๆ

    “จ๊ะ แล้วบูมล่ะ ตอนนี้อยู่ไหน” แพทถามเสียงใส

    “นี่ไง นอนอุตุ อยู่ข้าง ๆเนี่ย ขี้เกียจมาก ๆเลย” ผมพูดพร้อมกับชำเลืองมองชายหนุ่มขี้เซาข้าง ๆ

    “555 จ๊ะ ถ้าอย่างนั้นเราไม่กวนแล้วนะ แล้วค่อยคุยกันนะ” หญิงสาวหัวเราะและวางสายไป

    “ได้ครับ ขอบใจนะแพท”

    หลังจากที่ผมวางสายจากแพทเรียบร้อยแล้ว ผมก็หันกลับไปดูสภาพชายหนุ่มที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงแล้วได้แต่ส่ายหน้าช้า ๆ พลางเอื้อมมือไปสะกิดเบา ๆ

    “นี่บูม จะสายแล้วนะ ตื่นได้แล้ว เราหิวแล้วอ่ะ”ผมสะกิดชายหนุ่ม

    “..................................”( ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก)

    “บูมตื่นได้หรือยัง เราหิวแล้วนะ ไปอาบน้ำกัน จะได้ไปหาอะไรกินกันข้างนอก” ผมเริ่มสะกิดแรงขึ้น

    “................................” ( ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก)

    “งั้นก็ได้ไม่ตื่นใช่ไหม..............นี่” มุขเดิม...ผมจัดการบิดเอวบูมแรง ๆ จนชายหนุ่มสะดุ้งตื่นขึ้นมา

    “โอ๊ยยยยยยย......คราวนี้เล่นแรงเลยนะ ซาดิสต์หรือเปล่าเนี่ยโยอ่ะ” บูมบ่นเบา ๆ

    “ใครกันแน่ที่ซาดิสต์ เราเรียกบูมตั้งหลายครั้งแล้วนะ บูมก็ยังไม่ยอมตื่นนิ” ผมพูดพร้อมกับลุกขึ้นจากเตียง

    “ก็คนมันเพลียอ่ะ จะรีบตื่นไปไหนตั้งแต่เช้า มา.....โยมานอนนี่ด้วยกันนะ นะ นะ นะ” บูมเอื้อมมือมาจะฉุดผมลงไปนอนด้วย

    “ไม่เอา เราหิวแล้วอ่ะ ไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลย” ผมพยายามฝืนเอาไว้

    “ไม่เอา..อีกแป๊ปนึงได้ไหม..เราขอนอนอีกแป๊ปนึงนะ” บูมอ้อน

    “ไม่ได้.........ตามใจแล้วกัน งั้นเราไปอาบคนเดียวก็ได้” ผมแกล้งพูดแล้วเดินออกไป แบบไม่สนใจ

    “หา....อะไรนะ......มาแล้วครับ มาแล้ว รอด้วย ๆ ๆ” บูมรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งตามผมมา

    หลังจากที่พวกเราอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมกับบูมก็ออกไปข้างนอกเพื่อหาอะไรกินกันสองคนและจบลงด้วยการไปดูหนังที่เมเจอร์เอกมัยจนกระทั่งถึงเวลาเย็น

     บูมกับผมก็แยกย้ายกันกลับบ้านเพราะผมมีนัดกับเพื่อน ๆ ผมต่อโดยที่บูมเดินไปส่งที่รถไฟฟ้า ทีแรกบูมก็จะไปส่งแต่ผมไม่อยากให้เค้าย้อมไปย้อนมา

     อีกอย่างเค้ายังไม่ได้กลับบ้านเลย ผมเลยให้เค้ากลับไปเลย......

    ผมเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าจากเอกมัยไปได้สักระยะก็สังเกตุเห็น ชายหนุ่มท่าทางคุ้น ๆ คนนึงเดินขึ้นมาจากสถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ ทันทีที่ชายหนุ่มเห็นผมนั่งอยู่ก็รีบเดินตรงเข้ามา

    “อ้าวโย มาได้ยังไงเนี่ย”ชายหนุ่มเอ่ยถาม

    “เราไปดูหนังที่เมเจอร์มา แล้วปอนด์ล่ะ ไปทำอะไรมา ทำไมวันนี้ปอนด์สีหน้าไม่ดีเลย”ผมเอ่ยทักหลังจากสังเกตุเห็นสีหน้าชายหนุ่มตรงหน้า

    “โยว่างไหม เราขอเวลาหน่อยได้ป่ะ เรามีเรื่องอยากจะคุยด้วย ได้ไหมครับ”ปอนด์พูดด้วยน้ำเสียงและสายตาที่วิงวอน จนผมอดที่จะสงสารชายหนุ่มไม่ได้.........

    จบตอนที่ 3/1 ขอบคุณที่ท่านที่ติดตามนะครับ

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
ลงซ้ำอ่าคับ.... :confuse:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
คืนดีกันแล้ว . . .  :like6:




ปล.พี่พูห์ลงซ้ำงับ

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
"ตอนที่ 3/2"

    “โยว่างไหม เราขอเวลาหน่อยได้ป่ะ เรามีเรื่องอยากจะคุยด้วย ได้ไหมครับ”ปอนด์พูดด้วยสายตาที่วิงวอน จนผมอดที่จะสงสารชายหนุ่มไม่ได้

    “พอดีว่าเรานัดพวกโบเอาไว้น่ะ แต่ไม่เป็นไร เพราะยังไม่ถึงเวลานัดหรอก ไปหาอะไรดื่มแล้วก็คุยกันที่สยามแล้วกันนะ”ผมตอบตกลงเพราะเห็นสีหน้าเศร้าของชายหนุ่มตรงหน้า

    “ขอบใจนะ”ปอนด์ตอบเสียงเศร้า

    หลังจากที่เราออกจากสถานีรถไฟฟ้า ผมก็เลือกร้าน ucc ที่สยามเพราะผมนัดพวกโบเอาไว้ที่นั่นด้วย

    “แล้วโยนัดกับพวกโบไว้กี่โมงอ่ะ”ปอนด์ถามหลังจากพวกเราเข้าไปนั่งที่โต๊ะเรียบร้อยแล้ว

    “ก็สักทุ่มนึงอ่ะ”ผมตอบแล้วหันไปสั่งเครื่องดื่มกับพนักงานเสิร์ฟ

    “แล้วแฟนโยเป็นยังไงบ้างอ่ะ เรายังรออยู่นะ”ปอนด์แซวผมยิ้ม ๆ

    “ก็ลุ่ม ๆ ดอน ๆ อ่ะปอนด์ (ไม่กล้าโกหกเพราะมันเป็นเรื่องจริงอ่ะ) แต่เราว่าปอนด์ไม่รอเราแล้วมั้งเห็นจีบรุ่นน้องอยู่ไม่ใช่หรอ”ผมแซวปอนด์กลับไปบ้าง

    “..................................”ทันทีที่ปอนด์ได้ยินเรื่องที่ผมแซว ชายหนุ่มก็เริ่มมีอาการเศร้าซึมและเริ่มมีน้ำตามาคลอที่ตาทั้งสองข้างจนผมรู้สึกตกใจ

    “เป็นอะไรหรือเปล่าปอนด์ เราพูดอะไรผิดหรือเปล่า เราขอโทษนะ”ผมตกใจรีบขอโทษที่ทำให้ชายหนุ่มเสียใจ

    “เปล่าโยไม่ได้ทำอะไรผิดหรอก เราต่างหากที่เป็นคนผิดเองแหละ เราผิดที่โง่ไปจีบน้องเค้า ไปหลงเชื่อน้องเค้า เรามันโง่เอง”ปอนด์พูดพร้อมกับกำหมัดแน่น

    “เกิดอะไรขึ้นหรอ ปอนด์เล่าให้เราฟังได้นะ ถึงแม้เราจะช่วยอะไรไม่ได้มาก แต่เราก็ยินดีที่จะรับฟังเรื่องของปอนด์นะ อย่างน้อยๆ ปอนด์ก็จะได้ระบายมันออกมา จะได้สบายใจขึ้นบ้างไง”ผมพูดด้วยความจริงใจ

    “.........ก็อย่างที่โยรู้นั่นแหละ หลังจากที่เราเจอโยกับแฟนโยครั้งนั้น เราก็พยายามตัดใจจากโย พอมาพักหลังเราก็ได้เจอน้องเค้าตอนไปรับน้องที่คณะ ทีแรกเราก็ไม่ได้สนใจอะไรหรอก แต่น้องเค้าเข้ามาคุยกับเราก่อน เราเลยคิดว่าจะลองเปิดใจดูบ้าง แต่แล้ว.........”ปอนด์เล่าเรื่องด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ

    “แต่แล้วอะไรหรอ...........”ผมถามหลังจากที่ปอนด์หยุดเรื่องเอาไว้สักพัก

    “แต่แล้วเราก็ต้องมาเจ็บซ้ำอีก เพราะจริง ๆ แล้วน้องเค้ามีแฟนอยู่แล้ว และที่มาคบกับเราเพราะเห็นว่าเราค่อนข้างมีชื่อเสียงที่คณะ เลยแกล้งท้ากันกับเพื่อนเค้าว่าจะจีบเราติดหรือเปล่า”ปอนด์นิ่งเงียบไปอีก

    “ปอนด์คิดมากไปเองหรือเปล่า แล้วปอนด์ไปรู้เรื่องนี้มาจากไหน”ผมถามกลับไป

    “ก็พอดีเราไปกินข้าวที่ เอ็มโพเรี่ยมกับเพื่อนเรา แล้วดันไปได้ยิน กอล์ฟ (แฟนปอนด์) พูดกับแฟนเค้าอ่ะดิ เราเลยทนไม่ไหว เดินเข้าไปหา ดีนะที่เพื่อนเราฉุดไว้ก่อนไม่งั้นมีเรื่องแน่ ๆ เราเลยเดินกลับออกมา นี่รถเรายังอยู่ที่เอ็มโพเรี่ยมอยู่เลย”ปอนด์เล่าต่อ

    “อ้าววว...แล้วเพื่อนปอนด์ล่ะ”ผมถามอย่างสงสัย

    “เราบอกว่าเราอยากอยู่คนเดียว เราเลยเดินออกมาขึ้นรถไฟฟ้าก็พอดีเจอโยพอดี”ปอนด์ยิ้มเจือน ๆ

    “อืมม....มาเจอเราพอดี เราไม่น่ามากวนปอนด์เลยเนอะ เรานี่แย่จริง ๆ ขึ้นรถไฟฟ้าไม่ได้ดูตามาตาเรือ”ผมแกล้งพูดขำ ๆ เพื่อทำให้บรรยากาศดีขึ้น

    “ไม่หรอก....พอเราเจอโย เราก็เริ่มรู้สึกไม่อยากอยู่คนเดียวแล้ว เราอยากจะพูด อยากจะคุยกับโย จริง ๆ นะ ไม่ใช่ว่าเราจะเข้ามาเป็นตัวป่วนระหว่างโยกับแฟนนะ”ปอนด์รีบชิงออกตัวก่อน

    “ไม่เป็นไรหรอก เราเข้าใจดี บางครั้งเวลาที่เราเสียใจ เราก็อยากมีใครสักคนหนึ่งคอยรับฟังเรื่องของเราอยู่ใกล้ ๆ ก็แบบที่เราเคยเป็นไง”ผมยิ้มให้อย่างจริงใจ จริง ๆ ผมก็รู้สึกผิดด้วยที่มีส่วนทำให้ปอนด์ต้องไปเจอคนไม่ดีอย่างน้องกอล์ฟ

    “ขอบใจโยมากนะ ยิ่งเห็นโยเป็นอย่างงี้เรายิ่งตัดใจไม่ได้”ปอนด์ยิ้มเศร้า ๆ

    “สักวันปอนด์จะต้องได้เจอคนที่คู่ควรกับคนที่ดีอย่างปอนด์”ผมให้กำลังใจชายหนุ่ม

    “ขอเป็นโยได้ไหม...............เราล้อเล่น”ปอนด์หัวเราะกลบเกลื่อน ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร มีแต่เพียงที่จะคิดหาวิธีที่จะทำให้ปอนด์คลายความเสียใจลงได้

    “............จริงอ่ะ........แล้วปอนด์จะทำยังไงต่อไปอ่ะ”ผมถาม

    “ก็คงจะเลิกกันแหละ ไม่น่าไปหลงเชื่อเด็ก ๆ เลย ตามไม่ทันจริง ๆ เห็นทำตัวใสซื่อ ทำตัวอ่อนโยน เห็นอกเห็นใจคนอื่นเลยหลงเชื่อ ที่ไหนได้”ปอนด์กลับมาเศร้าอีกครั้งเมื่อพูดถึงน้องกอล์ฟ

    “เราเพิ่งรู้ว่าปอนด์ชอบเด็ก”ผมแหย่ปอนด์อีกครั้งเพราะไม่อยากให้ปอนด์เศร้า

    “จริง ๆ แล้วโยรู้หรือเปล่าว่าทำไมเราถึงตกลงเป็นแฟนกับเค้า” ปอนด์ถาม

    “ทำไมหรอ......”

    “ก็เพราะน้องเค้ามีบางส่วนคล้ายโยไงเราเลยตอบตกลง”ปอนด์ยิ้มให้เจือนๆ

    “...........................................”จุกครับ เจอหมัดสวนของปอนด์หมัดนี้ทั้งจุก ทั้งเสียใจ แถมยังทำให้ผมรู้สึกผิดเพิ่มขึ้นที่เป็นตัวการทำให้ชายหนุ่มที่แสนดีต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้

    “................เฮ้ย ไม่เป็นไร โยอย่าทำหน้าแบบนี้ดิ อย่าคิดมาก เราเป็นคนเลือกเอง เราก็ต้องยอมรับในสิ่งที่เราทำ”ปอนด์รีบพูดเพื่อทำให้ผมสบายใจ

    “เรา........เรา.........เราขอโทษนะปอนด์ ถ้าไม่ใช่เพราะเรา ปอนด์คงไม่เป็นแบบนี้.......”ผมขอโทษเสียงเศร้า

    “เราบอกแล้วไงไม่เป็นไร เอ้า ดื่มน้ำก่อน เดี๋ยวพวกโบมาเห็นว่าเราทำให้โยเป็นแบบนี้ พวกเค้าคงจะฆ่าเราแน่”

    “............เราขอโทษจริง ๆ นะ”ผมยังคงย้ำคำ ๆ นี้ให้ปอนด์รู้ว่าผมรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ

    “ไม่เป็นไร เห็นมั้ยว่าเราไม่รู้สึกอะไรแล้ว.....แค่เราได้คุยกับโยเราก็พอใจแล้ว”ชายหนุ่มยิ้มให้ผมอย่างจริงใจ

    เรานั่งคุยกันต่อไปได้สักพัก ไอ้เจ้า สามวายร้ายก็เดินตรงเข้ามาจู่โจมผมและปอนด์อย่างไม่ทันตั้งตัว

    “แหม....เพิ่งแยกกับแฟนก็หันมาหาเศษหาเลย เลยนะ”ไอ้ออฟกัดผมกับปอนด์

    “ใช่....นี่เพิ่งจะคืนดีกับแฟนก็เอาเลยนะ”ไอ้โบร่วมผสมวง

    “มีอะไรหรือเปล่าโย”จะมีก็แต่กายเท่านั้นที่พอจะจับความรู้สึกของผมและปอนด์ได้ ส่วนไอ้สองวายร้ายนั่นไม่ได้รู้อะไรเลยผมได้แต่ส่ายหน้า

    “พอดีเราอกหักอ่ะ เพิ่งโดนคนหลอกมา แล้วก็เจอโยพอดี เลยมาปรับทุกข์ด้วยแค่นั้นเอง ไม่มีอะไรหรอก”ปอนด์ยิ้มให้เศร้า ๆ

    “อ้าวหรอ เราขอโทษที่พูดไม่ดีออกไป”ออฟกับโบ ทำตัวลีบอย่างกับตะเกียบแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ และยิ่งทำตัวลีบขึ้นไปอีกเมื่อเห็นสายตาอำมหิตของผมที่จ้องมองเค้าสองคนอยู่

    “ขอโทษคร๊าบบบบบบ คุณชายอย่าทำอะไรผมเลยนะครับ กระผมไม่กล้าแล้วครับ”ไอ้โบสันหลังวะ รีบขอโทษผม....

    “แล้วนี่รู้สึกว่าพวกแกจะไปยืนผิดข้างหรือเปล่าเนี่ย ใครกันแน่ที่เป็นเพื่อนพวกแก หา....ตั้งแต่ไปเกาะละ ตกลงแกเป็นเพื่อนใครกันแน่”ผมเริ่มฉุน ๆ ที่เห็นพวกเพื่อน ๆ ผมไปเข้าข้างบูม (ปล่อยให้เราอยู่โดดเดี่ยวได้ไงไม่รู้ สงสัยมีใต้โต๊ะแน่ ๆ)

    “แหม.....คิดมาก พวกเราก็ต้องเข้าข้างแกสิโย อย่าคิดมากจริงไหม โบ กาย”ออฟรีบชิงแก้ตัว

    “จริง ๆ”โบกับกายพยักหน้ารับ

    “มีอะไรกันหรอที่เกาะน่ะ”ปอนด์ถามอย่างสงสัย

    “ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่พอดีมีละครมาถ่ายทำน่ะ อูยยย...หวานซะ เป็นฉากคืนดีกันน่ะ”ไอ้โบพูดกระทบชิ่งมายังผม (ตายแน่ไอ้โบ)

    “อ้าวหรอ.......”

    “ไม่มีอะไรหรอกปอนด์อย่าไปเชื่อไอ้โบเลย มันบ้า.....แล้วปอนด์จะทำยังไงถ้าเจอกับน้องเค้าอีกล่ะ เราว่าเค้าคงไม่รามือหรอก”ผมถามอย่างเป็นห่วงเพราะผมก็พอได้ยินกิตติศัพท์เด็กคนนี้มาพอสมควรแต่ทีแรกผมไม่เชื่อและคิดว่าไม่น่าจะใช่เพราะเห็นว่าน้องเค้าซื่อ ๆ เหมือนที่ปอนด์เล่าเหมือนกัน

    “ก็ยังไม่รู้เลย ต่างคนต่างอยู่ดีกว่า อีกไม่ถึงปีเราก็จะจบแล้ว อย่าไปยุ่งกับเค้าเลยดีกว่า ยิ่งยุ่งยิ่งเสียเปล่า ๆ”ปอนด์ตอบ

    “มันก็จริงนะ แต่ถ้าปอนด์มีอะไรให้เราช่วย บอกเราได้เลยนะ เรายินดี”ผมยิ้มให้อย่างจริงใจ

    “มีอะไรก็บอกแล้วกัน”ไอ้โบ ออฟกับกายพยักหน้ารับ

    “ขอบใจพวกนายมาก ๆ เลยนะ เราสบายใจมากแล้วล่ะ แล้วนี่พวกโยนัดกันไม่ใช่หรอ”ปอนด์เอ่ยทัก

    “ไม่มีอะไรหรอก นัดกันออกมาหาอะไรกินน่ะ อยู่หอเซ็ง ๆ มีแต่วัตถุโบราณ ออกมาหาเด็กรุ่น ๆ เป็นอาหารตามั่งก็ดี”ดูไอ้โบมันพูดเข้า ถ้าแฟนมันมาได้ยินนะ....

    “ได้ทีนะโบ เวลาอยู่ต่อหน้าเค้าให้มันกล้า ๆ แบบนี้หน่อย”ออฟแขวะจนไอ้โบหน้าจ๋อย

    “ปอนด์ไปกินกับพวกเราไหมล่ะ ไหน ๆ ก็มาแล้ว”กายชวน

    “จะดีหรอ”ปอนด์ตอบอย่างเกรงใจ

    “ทำไมจะไม่ดีล่ะ ไม่เห็นมีอะไรเลยไปกินด้วยกันหลาย ๆ คนสนุกดีออก อีกอย่างตัวหารจะได้เยอะ ๆ”ไอ้โบ ไอ้ขี้งก

    “ไปดิ ๆ ๆ”กายชวนอีกครั้ง

    “ไปก็ไป....แล้วจะไปที่ไหนกันล่ะ”ปอนด์ถามยิ้มๆ

    “ทีแรกก็กะจะกินที่นี่แหละ แต่พอมีตัวหารมากขึ้นไปหาอะไรกินที่แถวหลังสวนไหม”ไอ้ขี้งกโบเสนอ

    “โอเค......งั้นเราต้องไปเอารถก่อนนะ พอดีเราจอดไว้ที่เอ็มโพเรี่ยมน่ะ”ชายหนุ่มบอก พวกผมพยักหน้ารับแล้วเรียกพนักงานมาเช็คบิลเพื่อไปหาอะไรทานกันต่อ แล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน


    จบตอนที่ 3/2 ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ

    ******************************************************

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
แล้วถ้าบูมเจอจะเข้าใจผิดมั้ย  :ped144: เดี๋ยงก็งอนกันอีกหรอก

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
นึกว่าจะกลับมาบอกรักโยซะอีก....  :pandalaugh:

.............ว่าแต่ระวังตัวนะ.....โลกกลม...เดี๋ยวบูมเห็น... :laugh5: :laugh5:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
เหอ เหอ สงสารปอนด์   :3028:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
"ตอนที่ 4/1"


หลังจากที่ผมกลับมาถึงบ้านแล้วผมก็เดินขึ้นไปบนห้องนอน กำลังจะเข้าไปอาบน้ำ ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือผมดังขึ้น

“มีอะไรคร๊าบบบ เรากำลังจะอาบน้ำ เดี๋ยวเราโทรกลับได้เปล่า”ผมรับสายชายหนุ่มหลังจากที่ดูเบอร์เรียบร้อยแล้ว

“โหหหห....อะไรอ่ะ คนเค้าอุตส่าห์โทรมาหา แทนที่จะคุยสักนิดก็ไม่มี”บูมพูดน้ำเสียงน้อยใจนิด ๆ

“ก็อาบน้ำก่อนได้ไหมล่ะ เหนียวตัวมาก ๆ เลยวันนี้ นะ นะ นะ สัญญาว่าจะรีบโทรไปหาเลย นะ นะ”

ผมอ้อน เพราะรู้สึกเหนื่อยและเหนียวตัวมาก ๆ

“ก็ได้ ๆ อย่านานนะ”บูมพูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยจะพอใจ

“อืมมม.....ครับผม”ผมรับคำแล้ววางสายเดินเข้าห้องน้ำไป

หลังจากที่ผมอาบน้ำเสร็จ ก็ลืมเรื่องที่จะต้องรีบโทรไปหาบูมซะสนิทเลย จนกระทั่งหลับไป

แต่แล้วผมก็ต้องตกใจตื่นเพราะเสียงมือถือที่ถูกโทรมาอย่างกระหน่ำ

“ทำไมไม่โทรมา ไหนสัญญาว่าจะโทรมาหาเราหลังจากอาบน้ำเสร็จไง เราไม่สำคัญเลยใช่ไหม ฯลฯ”

บูมใส่อย่างไม่ยั้งจนผมที่งัวเงียลุกขึ้นมารับสาย (สติยังไม่ครบเลยอ่ะ) พูดกลับไป

“ทำไมหรอ มีอะไรหรือเปล่า เราง่วงอ่ะ” ผมพูดโดยไม่ค่อยมีสติเท่าไหร่ (ก็คนมันง่วงแล้วหลับไปจริง ๆ นิ)

“.....................................” เงียบ

“มีอะไรหรือเปล่าอ่ะ” นั่นสติยังไม่กลับมาอีก ชะตากำลังจะขาดยังไม่รู้ตัวอีก

“...........................................”เงียบ อีกครับ แล้วอยู่ดี ๆ ก็วางสายไปเลย

“อะไรวะ ใครโทรมา” ผมยังคงงัวเงียไม่รู้เรื่อง แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเมื่อกี้บูมโทรมาและผมสัญญาว่าจะโทรกลับ

 ผมเลยรีบโทรกลับไป

ผมพยายามต่อสายไปหาชายหนุ่มหลายครั้งแต่เค้าก็ไม่ยอมรับสายแถมยังปิดมือถือทิ้งอีก

ผมเลยต้องจำใจวางสายไปแล้วคิดว่าวันรุ่งขึ้นจะรีบโทรไปหาในตอนเช้า

หลังจากที่ผมตื่นนอนในตอนเช้า สิ่งแรกที่ผมคิดได้ ก็คือ ผมต้องรีบโทรไปหาบูมทันที

เพราะเมื่อวานสัญญาแล้วก็ไม่ได้โทรกลับ แถมพอเค้าโทรมาผมก็พูดจาอะไรไม่รู้เรื่องอีกอ่ะครับ

“บูมหรอ เมื่อคืนเราโทรไปทำไมไม่รับสาย แถมยังปิดมือถือทิ้งอีก”ผมถามทันทีที่ชายหนุ่มรับสาย

“แล้วทำไมล่ะ แค่ไม่อยากคุยด้วย มีอะไรหรือเปล่า”บูมพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ปนโมโหนิด ๆ

“.............................”ผมอึ้งกับคำพูดที่ชายหนุ่มตอบมา

“มีอะไรหรือเปล่าเราจะรีบไปมหาวิทยาลัย”บูมยังคงเย็นชา

“เป็นอะไรหรือเปล่า ถ้าไม่พอใจอะไร เราขอโทษก็ได้นะ พอดีเมื่อวานเราเพลียจริง ๆ เลยเผลอหลับไป”

ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงอย่างสำนึกผิด

“แล้วไง มีอะไรอีกไหม”บูมยังคงเย็นชาต่อไป

“ทำไมบูมพูดแบบนี้อ่ะ เราบอกแล้วไงว่าเราขอโทษ”ผมเริ่มน้อยใจนิด ๆ ที่ทำไมบูมไม่เข้าใจซะเลย

“แล้วไง มีอะไรอีกไหม” บูมยังคงทำเป็นไม่สนใจผมอีก

“................................................”ผมเริ่มเงียบ และน้อยใจมาก ๆ

“ถ้าเงียบเราวางแล้วนะ”บูมพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบเหมือนกับไม่มีความรู้สึก

“ตามใจ ถ้ากล้าวางก็เลิกกันไปเลย”ผมตะโกนด้วยความน้อยใจปนโมโหสุด ๆ

“...........ตื๊ด ๆ ๆ...........”บูมวางสายลงไปจริง ๆ ส่วนผมได้แต่อึ้งปนสับสน

หลังจากที่ผมวางสายจากบูม ผมรู้สึกสับสน เสียใจ และน้อยใจมาก ๆ ที่บูมทำกับผมแบบนี้

วันนี้ผมจึงไปเรียนด้วยสีหน้าที่บอกบุญไม่รับมาก ๆ

“ไงไปทะเลาะกับใครมาอีกล่ะ ท่าทางแบบนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทะเลาะกับใครมา”

ไอ้โบทักผมทันทีที่ผมเดินเข้าไปหาที่ห้องสมุด

“เออ อย่าพูดได้ป่ะคนกำลังอารมณ์ไม่ดี”ผมพูดอย่างอารมณ์เสีย

“นั่นไงจี้ใจดำเลย”ออฟล้อ

“เออ อย่าพูดได้ป่ะ ช่างมันเหอะ”ผมพูดอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่

“แล้วทะเลาะกันเรื่องอะไรอีกล่ะ ทะเลาะกันได้ทุกวันคู่นี้”ไอ้โบบ่น

“ก็คิดดูดิเมื่อวานกว่าเราจะกลับถึงบ้าน เราก็เหนื่อยแล้วใช่ป่ะ ง่วงด้วย บูมโทรมาแล้วเราว่าเดี๋ยวเราจะโทรกลับไปหา

แต่เราดันเผลอหลับอ่ะดิ พอเค้าโทรมาเราก็ยังงัวเงีย ๆ พูดไม่ค่อยรู้เรื่องเค้าเลยปิดโทรศัพท์มือถือหนีไปเฉยเลย”

ผมระบายความอัดอั้นออกมา

“แกก็โทรไปง้อเค้าหน่อยดิ”ออฟพยายามหาทางช่วย

“ก็เราโทรไปแล้วเค้าก็ปิดมือถือหนี วันนี้โทรไปเค้าก็ไม่ยอมพูดด้วย

จนเราทนไม่ไหวเพราะเค้าพยายามตัดบทไม่ยอมคุยเราเลย เราเลยโมโหว่าเค้าไปว่าถ้าวางหูเลิกกันไปเลยนะ

เค้าก็วางหูไปเฉยเลย คิดดูดิ”ผมพูดอย่างอารมณ์เสีย

“หา......แกจะบ้าเหรอโย ทำไมแกไปพูดแบบนั้น ปกติแกไม่น่าจะพูดแบบนี้นิ”ออฟพูดอย่างตกใจ

“ไม่รู้เหมือนกันอ่ะออฟ อาจจะเป็นเพราะเราโมโหด้วยมั้งที่เค้าพูดไม่รู้เรื่อง”ผมพยายามหาข้อแก้ตัว

“ไม่ว่าจะโมโหแค่ไหน เป็นใครถ้าเอาเรื่องเลิกไม่เลิกมาขู่ เป็นใครๆ ก็โกรธทั้งนั้นแหละ

ทางที่ดีแกไปขอโทษเค้าเลย”ไอ้โบสนับสนุนความเห็นของออฟ

“เราก็ว่าแบบนั้นด้วย รีบไปเหอะ”กายก็สนับสนุนออฟกับโบเช่นกัน

“ไม่.......เราจะไม่ไปขอโทษ เพราะเราไม่ผิด อาจจะผิดที่เราพูดแรงไปหน่อย แต่ทำไมเค้าไม่พยายามเข้าใจเราบ้างล่ะ

เราก็เหนื่อยเป็นนะ แถมเราก็โทรไปง้อก่อนแล้วด้วย เราไม่สนใจละ ไปเรียนดีกว่า”

ผมไม่สนใจคำเตือนของพวกเพื่อน ๆ ผม แล้วลุกจากโต๊ะเดินนำไปที่ห้องเรียน ซึ่งเพื่อน ๆ

ผมได้แต่ส่ายหน้าในความดื้อรั้นของผมในครั้งนี้

ผมเดินผ่านเพื่อน ๆ ของบูมขณะที่กำลังจะเข้าไปในห้องเรียนซึ่งผมก็ยิ้มทักทายปกติ

ผิดกับคุณชายบูมที่ทำตัวเย็นชาเหมือนกับผมไม่มีตัวตนอย่างงั้นแหละ

ยิ่งบูมทำแบบนี้ผมยิ่งหมั่นไส้ เลยแกล้งทำเป็นไม่สนบ้าง......

ตลอดคาบเรียน เพื่อน ๆ คงจะสังเกตุเห็นสิ่งผิดปกติระหว่างผมกับบูม

เพราะ ผมกับบูมต่างไม่มองหน้าไม่พูดกันเลยตลอดทั้งคาบ

จนทำให้ กลุ่มเพื่อน ๆของผม เพื่อน ๆของบูม และกลุ่มของแพทที่ตอนนี้พวกเราจับกลุ่มนั่งใกล้กัน

ต่างก็รู้สึกไม่ค่อยจะดีนัก (มีเฉพาะ กลุ่มเพื่อนผม กับแพทเท่านั้นที่รู้เรื่องผมกับบูม

ส่วนคนอื่นจะรู้แค่ว่า ผมกับบูมสนิทกันมากเพราะบ้านอยู่ใกล้กัน)

แม้ว่าผมกับบูมจะไม่พูดกัน ไม่มองหน้ากัน แต่จริง ๆ แล้ว เราสองคนต่างก็แอบมองอีกฝ่ายนึงเสมอ

เพราะหลายครั้งที่สายตาของผมกับบูมต่างก็มาประสานกันพอดี

แต่ก็เป็นผมอีกนั่นแหละที่คอยหลบตาแกล้งมองผ่านไปทางอื่น

(ผมนั่งเก้าอี้เยื้อง ๆกับบูม ซึ่งนั่งหน้าผมไปแถวนึงแต่ถัดไปทางซ้ายมืออีกตัวนึง

แล้วไอ้ที่ตามาผสานกันเนี่ยเค้าแกล้งหันหลังกลับมาคุยกับไอ้โบ โธ่เอ๊ยยย...รู้หรอกน่า)

เรานั่งเรียนแบบนี้จนกระทั่งหมดคาบเรียน พวกเพื่อน ๆ ผมเลยชวนทุกคนไปโยนโบว์ลิ่งและทานอาหารด้วยกัน

เพราะวันนี้พวกเราไม่มีเรียนแล้ว ซึ่งทุกคนก็ตกลง และนัดแนะกันไปที่ห้างเมเจอร์รัชโยธินเพราะใกล้บ้านเพื่อน ๆ หลายคน

 และก็เป็นไอ้โบกับแพทอีกนั่นแหละที่จัดแจงใช้ให้ผมกับบูมไปหาซื้อถุงเท้ามาเผื่อทุกคน

เพราะถ้าไปซื้อที่นั่นจะแพงกว่ามากเพราะพวกผมไปกันหลายคน

(ทำไมต้องเป็นผมกับบูมก็ไม่รู้ ทำไมคนจะโกรธกันมั่งไม่ได้หรือไง)

ผมกับบูมเลยอยู่ในสภาพยอมจำนน และต้องไปหาซื้อถุงเท้า

ทั้ง ๆ ที่ไปแวะซื้อเอาที่ห้างก็ได้ ผมเลยต้องออกมากับบูมสองคน ส่วนที่เหลือก็ไปด้วยกัน

บูมรีบเดินนำผมไปโดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่าผมกำลังนับคนอยู่ว่ามีกี่คนจะได้ซื้อถุงเท้ามาครบ

พอผมนับเสร็จ บูมก็เดินไปตั้งไกลละ ผมเลยต้องรีบเดินตามให้ทัน (ทีใครทีมันนะ)

จนกระทั้งมาถึงรถของบูมที่ตอนนี้ชายหนุ่มสตาร์ทรถและจอดรออยู่แล้ว ผมเลยต้องเดินขึ้นไปบนรถอย่างไม่สบอารมณ์นัก

ตลอดทางผมไม่พูดกับบูมเลย และไม่มองหน้าเค้าด้วย

จนเราสองคนต่างก็อึดอัด บูมเลยขับรถเร็วขึ้น เร็วขึ้นเรื่อย ๆ จนผมทนไม่ไหว........


“จะรีบไปไหน รังเกียจเรามากหรือไง ทำไมต้องรีบอย่างงั้นด้วย”

ผมถามอย่างเหลืออดจนคนที่กำลังขับรถชะลอความเร็วลงและยิ้มที่มุมปากอย่างผู้มีชัยที่ผมต้องยอมพูดก่อน

“หา....ถามไม่ได้ยินหรือไง จะเอายังไงก็ว่ามาเลย”ผมชักจะเหลืออดแล้วนะมาเล่นจิตวิทยากับผม

“..............................................”ชายหนุ่มเงียบอีกครั้ง ยิ่งทำให้ผมเหลืออด

“เงียบใช่ไหม นี่.........................”ผมบิดไปที่เอวชายหนุ่มอย่างแรงจนอีกฝ่ายต้องร้องออกมา

“โอ๊ยยยยยยยยยยยย........เจ็บนะโว๊ยยยย”บูมร้องออกมา

“เจ็บก็อย่ากวนสิวะ โมโหเหมือนกันนะโว๊ยยย จะเอาไงก็ว่ามาเลย” ปกติผมไม่เคยพูดกับบูมแบบนี้เลย ทำให้บูมอึ้งไปเล็กน้อย

“…………………”ชายหนุ่มเงียบพลางลูบเอวไปพลาง

“ตกลงจะเอายังไง ถ้าไม่ชอบกันก็อย่ามามองหน้ากัน จะได้ตัดใจกันไปเลย”ผมพูดอย่างมีน้ำโห

“ทำไมเอะอะๆ คำก็เลิก สองคำก็เลิก ตกลงโยอยากจะเลิกกับเรานักเหรอไง”

บูมเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างซีเรียสและดูจริงจังมาก...........


จบตอนที่ 4/1 แล้วครับ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม ช่วงนี้ต้องรีบ ๆ เข้ามาต่อเรื่องให้.....อิอิ

 
****************************************************

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
:sad2:..ทาเลาะกันเรื่องเดิมๆ...

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
ทะเลาะกันอีกแล้วอ่ะ :serius2:

เฮ้อ . . . เชียร์ปอนด์ดีกว่า :yeb:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
ลิ้นกะฟันทะเลาะกันแต่บ่อยก็ไม่ดีนะเดี๋ยวปากเป็นร้อนใน  :laugh5: :laugh5: :laugh5:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ทะเลาะกันอีกแล้ว  :serius2:  :serius2:  :serius2:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
"ตอนที่ 4/2"


“ทำไมเอะอะๆ คำก็เลิก สองคำก็เลิก ตกลงโยอยากจะเลิกกับเรานักเหรอไง”บูมเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างซีเรียสและดูจริงจังมาก...........
“แล้วมาพูดแบบนั้นใส่เราทำไมล่ะ คนเค้าก็โมโหเป็นนะ”ผมพูดน้ำเสียงที่เริ่มสั่น

“แล้วเราโมโหไม่เป็นหรือไง คนที่ควรจะโกรธน่ะเราต่างหากไม่ใช่โยนะ”ชายหนุ่มพูดพร้อมกับหยุดรถที่ข้างทาง

“ก็เราโทรไปง้อแล้วไง จะเอายังไงอีก ต้องให้เรากราบขอโทษเลยไหม”ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นขึ้นเรื่อย ๆ

“แล้วทำไมต้องมาบอกเลิกด้วย รู้ไหมว่าคนฟังจะรู้สึกยังไง”ชายหนุ่มถามเสียงดุขึ้น

“พอเลย ๆ ถ้าบูมไม่ทำแบบนั้นกับเรา เราก็ไม่พูดหรอก แถมยังมาตัดส่ายโทรศัพท์เราอีก”ผมพยายามข่มอารมณ์เอาไว้

“ได้ถ้างั้นเราขอโทษที่เราทำแบบนั้นกับโยแล้วกัน แล้วเรื่องที่โยผิดสัญญาอ่ะจะว่ายังไง”บูมถามกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนขึ้น

“..............................................” เงียบ (ที่เงียบนี่ไม่ได้งอนอะไรหรอก แต่กำลังสำนึกผิดอยู่)

“เราขอโทษแล้วนะ ทำไมยังเงียบอีกล่ะ ยังไม่พอใจอีกหรอไง”บูมถามด้วยน้ำเสียงโมโหนิด ๆ อาจจะเพราะนึกว่าผมยังไม่หายโกรธก็ได้

“…………………….” ผมเงียบอีกครั้งนึง ไม่รู้จะพูดยังไง

“ตกลงโยไม่รู้เลยใช่ไหม ว่าที่เราทำไปทั้งหมดเพราะอะไร และ เพราะใคร”บูมพูดด้วยน้ำเสียงซีเรียส

“คือ..................”ผมเริ่มออกเสียงอย่างตะกุกตะกัก

“ว่าไงโยไม่รู้เลยใช่ไหม”บูมถามอีกครั้ง

“.................ooo………...”ผมหันไปหอมแก้มบูมเบา ๆ

“เราขอโทษนะบูม เราผิดเองแหละที่ไม่รักษาสัญญา เราขอโทษนะ ยกโทษให้เราได้ไหม”ผมพูดเสียงสะอื้นๆนิด ๆ ออกมาอย่างสำนึกผิด

“เราก็ไม่ได้ว่าอะไรนิ เราแค่น้อยใจที่โยไม่เห็นความสำคัญของคำสัญญาระหว่างเราแค่นั้นเอง รู้ป่ะคืนนั้นเรารอโยทั้งคืนเลย จนเราทนไม่ไหว ต้องโทรกลับไปหา แถมโยก็ยังคุยไม่รู้เรื่องอีก”บูมลูบศีรษะผมอย่างแผวเบา

“เราไม่เคยเห็นว่าบูมไม่สำคัญเลยนะ แต่ก็คนมันง่วงอ่ะ เราเลยเผลอหลับไป บูมยกโทษให้เราได้ไหม นะ นะ นะ”ผมพูดเสียงอ้อน ๆ

“ได้.......แต่โยต้องสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วนะ แถมโยยังแกล้งทำมาเป็นไม่สนใจเราอีก รู้ไหมว่าเราเสียใจแค่ไหนที่โยทำแบบนั้นกับเรา”บูมพูดจนผมรู้สึกอึ้ง เพราะไม่นึกว่าบูมจะเป็นคน sensitive แบบนี้

“ก็บูมทำแบบนั้นกับเราก่อนอ่ะ”ผมแซวบูมกลับไป

“นี่แน่ะ ก็คนกำลังงอนอ่ะ อยากให้แฟนมาง้อ ก็ดันทำเป็นไม่สนใจเราเหมือนกับคนไม่รู้จักกัน อุตส่าห์ลงทุนแกล้งทำเป็นหันมาพูดกับโบ ก็ทำเป็นเฉย” บูมบีบจมูกของผมอย่างเอ็นดู (หรือหมั่นไส้ก็ไม่รู้)

“ก็........เราก็งอนมั่งดิ”ผมเริ่มอ้อนบูมบ้าง

“พอเลยๆ ....งอนก็เก่ง....ใจก็อ่อน.....แถมยังหาเรื่องปวดหัวมาให้ไม่ได้หยุดเลย....คิดถูกหรือเปล่านะที่มาเป็นแฟนกับโย” บูมทำท่าคิด

“ว่ายังไงนะ..........”ผมถามเสียงเขียว

“555 ล้อเล่น..........แต่โยสัญญานะว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก เราไม่อยากให้เวลาที่พวกเราทะเลาะกัน ต่างฝ่ายต่างก็พูดว่าจะเลิกกัน รู้ไหมตอนที่โยพูดแบบนั้น เราเครียดมากเลยนะ เอาแต่คิดว่าทำไมโยถึงพูดแบบนั้น ความรักของเรามันไม่มีค่าเลย หรือโยไม่รักเราแล้ว”บูมพูดเสียงเศร้าปนน้อยใจ

“ได้เราสัญญา.....เราจะไม่พูดแบบนั้นอีก”ผมพูดพร้อมกับโน้มไปหอมแก้มบูมเบา ๆ จนตอนนี้ทั้งบูมกับผมต่างก็โผเข้ากอดกัน แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ของบูมก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะ (จะโทรมาทำไมตอนนี้) บูมเลยผละออกไปเพื่อรับสาย แล้วหันมาบอกผมว่า พวกเพื่อน ๆ ผมล้มเลิกโปรแกรมที่จะไปโยนโบว์ลิ่งกันแล้ว ให้สลายตัวได้เลย ผมเลยได้แต่ส่ายหน้ากับแผนการณ์ของพวกเพื่อน ๆ ตัวดีของพวกเราทั้งสองคน

หลังจากที่เราสองคนปรับความเข้าใจกันแล้ว ผมกับบูมก็ขับรถกันไปเรื่อย ๆ บูมดึงมือผมไปกุมเอาไว้อย่างหวงแหน จนกระทั้งไปถึงร้านอาหารแห่งนึงเลยแวะเข้าไปทานอาหารกัน เพราะนี่ก็บ่ายมากแล้ว

“จะรับอะไรดีคะ”พนักงานสาวถามขึ้นหลังจากที่ผมกับบูมนั่งเปิดเมนูไปได้สักครู่

“เอา ….” ผมสั่งอาหารแล้วหันไปถามบูม “บูมจะกินอะไร”

“เอาน้ำใบบัวบกก่อนเลยได้ป่ะครับ กำลังช้ำในเลยเนี่ย เพิ่งโดนคนทุบมา”บูมแกล้งพูดยิ้ม ๆ

“ขอโทษค่ะ ที่นี่ไม่มีน้ำใบบัวบกค่ะ รับเป็นน้ำเก๊กฮวยแทนได้มั้ยคะ”พนักงานสาวปฏิเสธเสียงใส

“งั้นไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมไปหาต้มเองก็ได้ คงต้องกินบ่อย ๆ เพราะโดนทำร้ายร่างกายบ่อยช่วงนี้”บูมยังคงแกล้งแซวผมไม่เลิก “งั้นเอาเป็น ........ กับน้ำเปล่าก็พอครับ”

“ค่ะได้ค่ะ”

หลังจากที่พนักงานเดินจากไปแล้วผมก็ทำตาดุใส่ทันที

“เราว่าแค่กินน้ำใบบัวบกคงจะไม่พอมั้ง เดี๋ยวคงต้องลงไปแช่ทั้งตัวเลยคอยดู”ผมแกล้งทำตาเขียวใส่

“หูยยย....ทำไมโหดอย่างงี้อ่ะ ไม่กลัวแฟนตัวเองเจ็บหรอคร๊าบบบบ”บูมทำเสียงอ้อน

“ไม่รู้......ถ้าทำอะไรผิดอีก เราก็จะจัดการ”ผมพูดพร้อมทำมือบิดไปมาด้วยความหมั่นเขี้ยว

“ใครกันแน่ เมื่อกี้ยังเห็นร้องไห้อยู่เลยทำเป็นว่าคนอื่นเค้า”บูมแซว

“ใคร ใคร.....”ผมแกล้งเฉไฉ

“ใครก็ไม่รู้.....เราขอโทษที่ทำไม่ตัวไม่ดี เราขอโทษ”บูมทำเสียงเล็กเสียงน้อย

“ล้อหรอ.....วันหลังจะไม่ง้อละ”ผมแกล้งงอน

“โหห ... ใจน้อยอีกต่างหาก.....อ่ะ ไม่แกล้งแล้ว แต่โยต้องสัญญาก่อนนะว่าวันหลังจะไม่พูดว่าเลิกกับเราอีก”บูมกลับมาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง (ครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ ถามย้ำอยู่นั่นแหละ)

“ไม่สัญญา..........”ผมแกล้งพูดพร้อมกับสังเกตสีหน้าบูมที่เริ่มจะงอนนิด ๆ ละ

“อ่ะ ๆ ๆ ก็ได้ แค่นี้ทำเป็นใจน้อย หัวก็ไม่ล้านสักหน่อย เราก็บอกไปตั้งหลายครั้งแล้วไง ว่าเราจะไม่พูดอีก”ผมพูดล้อชายหนุ่ม จนบูมกลับมาอมยิ้ม

“งั้นวันนี้เราไปค้างที่บ้านโยนะ”บูมได้ที รีบ วกเข้าแผนการณ์

“นั่นแน่ เพิ่งจะมาค้างบ้านเราเอง ไม่เอาหรอก เดี๋ยวคนสงสัยว่าทำไมบูมมาค้างบ่อย” ผมพูดเตือนชายหนุ่มแต่ก็ดูจะไร้ผลยังไงไม่รู้

“ช่างเค้าดิ คนเค้ารักกันก็อยากจะอยู่ด้วยกันสิ จริงป่ะ หรือไม่โยก็มาค้างที่บ้านเราก็ได้” บูมเสนอไอเดีย

“ยิ่งไม่ได้ใหญ่ ถ้าม๊าบูมรู้เข้ามีหวังได้เลิกกันจริง ๆ แน่” ผมพูดอย่างหวาดหวั่น

“เราจะไปพูดกับม๊าเอง เราว่าม๊าเข้าใจ” ชายหนุ่มแสดงความมั่นใจ

“อย่าเลย เดี๋ยวจะทะเลาะกันเปล่า ๆ” ผมยังคงลังเลเพราะไม่อยากให้ครอบครัวต้องมาทะเลาะกันเพราะผมคนเดียว

“ไม่หรอก งั้นเอางี้ พรุ่งนี้โยไปกับเรา เราจะนัดม๊าไว้ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นเราจะจัดการเอง ขออย่างเดียว โยอย่าเพิ่งท้อและหนีเราไปก่อนก็พอ” บูมพูดด้วยสายตาวิงวิน

“ก็ได้ตามใจบูมนะ....แต่เราบอกตามตรงว่าเราไม่ค่อยสบายใจจริง ๆ” ผมพูดด้วยสีหน้าวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด

“เหอะน่า เชื่อเราดิ ไม่มีอะไรหรอก อย่าคิดมาก เอ้าอาหารมาแล้ว....มากินข้าวกัน” บูมพยายามทำให้ผมไม่เครียด

หลังจากที่เรากินอาหารกันเรียบร้อยแล้ว บูมก็จัดการนัดม๊าของบูมให้กลับมาร่วมทานอาหารเย็นที่บ้านในวันพรุ่งนี้ เพราะปกติม๊าของบูมจะไม่ค่อยได้กลับมากินข้าวที่บ้านเท่าไหร่ (ทีแรกก็เกือบจะนัดไม่ได้เพราะว่าม๊ากับป๊าของบูมต้องไปกินข้าวกับลูกค้า ดีนะที่บูมหัวไวบอกมีเรื่องจะปรึกษาเลยนัดได้สำเร็จ)

บูมขับรถมาส่งผมถึงบ้าน ผมเดินเข้าไปในบ้านด้วยความรู้สึกกลัว สับสน และวิตกกังวลปน ๆ กัน เพราะผมเคยเผชิญหน้ากับม๊าของบูมมาครั้งนึงแล้ว และผมเองที่เป็นฝ่ายยอมถอยออกมาหลังจากที่ได้พูดคุยกับม๊าของบูมแล้ว และในวันพรุ่งนี้จะเป็นอีกวันนึงที่ผมจะต้องเผชิญกับเค้าอีกเป็นครั้งที่สอง ผมเลยไม่รู้ว่าจะทำตัวยังไงดี ยิ่งคิดก็ยิ่งว้าวุ่นใจ…………แล้วเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น

“โยหรอ ปอนด์เองนะ ว่างอยู่หรือเปล่า”ชายหนุ่มส่งเสียงทักทายจากปลายสายอีกด้านด้วยความเกรงใจ

“อืมม.....ว่าง มีอะไรหรือเปล่าปอนด์ ดูน้ำเสียงไม่ค่อยจะดีเลย”ผมพูดเพราะจับน้ำเสียงที่ไม่ปกติของปอนด์ได้

“ก็.......เอ่อ....คือ...”ปอนด์อึกอัก ๆ

“มีอะไรก็พูดมาเลย เพื่อนกัน ถ้ามีอะไรช่วยกันได้เราก็จะช่วยเต็มที่”ผมพูดอย่างเต็มใจ

“คือว่า.........” ปอนด์ลังเลที่จะเอ่ยคำ ๆ นั้นออกมา

“ว่าอะไร............” ผมถามอีกครั้ง

“คือ.......โยช่วยมาเป็นแฟนเราได้ป่ะ”ปอนด์พูดด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ

“หา.........อะไรนะ”ผมร้องด้วยความตกใจ

จบตอนที่ 4/2 แล้วครับ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ

 *************************************************

abcd

  • บุคคลทั่วไป
 :o  เจ๊ยๆๆๆ ปอนด์เล่นไรแผลงๆป่าวเนี่ย อยู่ดีๆโทรมาขอให้โยเปงแฟนง่ายๆแบบนี้เรยเหรออ

รอๆลุ้นๆต่อไป  :yeb:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
ขอกันง่ายๆอย่างนั้นเลยเหรอ :o

น่าสนแหะ ไปขอบ้างดีกว่าตรู :haun5:

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
จาเอาไปเย้ยคนเก่าหรอ.... :serius2: :serius2:

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
 :o

ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ทำ นะโย ปรึกษาบูมก่อนก็ได้  :try2: :try2: :try2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
อ้าวปอนด์ ขอกันง่าย ๆ เลยแฮะ  :laugh3:
มีปัญหาอาไรรึเปล่า  :impress:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
"ตอนที่ 4/3"

    “คือ.......โยช่วยมาเป็นแฟนเราได้ป่ะ”ปอนด์พูดด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ

    “หา.........อะไรนะ”ผมร้องด้วยความตกใจ

    “เปล่า ๆ ๆ ไม่ใช่แบบนั้น....พอดีกอล์ฟมาตามตื้อเรา บอกว่าเค้าเลิกกับแฟนเค้าแล้ว และเค้ารักเราจริง ๆ แต่เราไม่เชื่ออ่ะ เรารำคาญเลยบอกไปว่า เรามีแฟนใหม่แล้ว น้องเค้าก็ยังไม่เชื่อเลยท้าให้เราพาแฟนไปเจอน้องเค้าถึงจะเชื่อ ทีแรกเราก็กะจะเอาเพื่อนที่คณะไป แต่ติดที่เค้ารู้จักเพื่อนเราหมดทุกคนเลย เพราะอยู่คณะเดียวกัน เราเลยหมดหนทางต้องมาขอความช่วยเหลือจากโยนั่นแหละ”ปอนด์อธิบายเรื่องให้ฟังอย่างเร็ว ก่อนที่ผมจะหัวใจวายซะก่อนเพราะแค่นี้เรื่องของผมก็ยังไม่จบเลย

    “เฮ้ออออออออ....ค่อยยังชั่วหน่อย นึกว่าเอาอีกแล้ว”ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก

    “โหหหหหหหห.....เราแย่ขนาดนั้นเลยหรอ”ปอนด์พูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจ

    “เปล่า ๆ ๆ เราไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น เราแค่กำลังกลุ้มใจเรื่องของเราอยู่น่ะ” ผมรีบบอกปฎิเสธ

    “โยกลุ้มใจเรื่องอะไรหรอ” ปอนด์ถามด้วยความห่วงใย

    “ก็นิดหน่อย ไม่มีอะไรหรอก” ผมพยายามบอกปัดแต่ว่า....

    “โยไม่ไว้ใจเราหรอ” ชายหนุ่มพูดเสียงเศร้า

    “เปล่าเราแค่.........” ผมกำลังตัดสินใจว่าจะเล่าดีหรือไม่.....

    “แค่อะไร มีอะไรก็ปรึกษาเราได้นะ เรายินดี...........”

    “ก็เรื่องมัน..................................” ผมเล่าเรื่องระหว่างผมกับม๊าของบูมให้ชายหนุ่มฟัง รวมไปถึงนัดของบูมในวันรุ่งขึ้นด้วย

    “เราว่านะ ถ้าบูมเค้าการันตีแบบนั้น โยก็น่าจะไว้ใจในตัวเค้านะ” ปอนด์พยายามให้กำลังใจผม

    “เราก็ไว้ใจเค้าอ่ะนะ แต่ที่เราไม่ไว้ใจก็ม๊าของเค้าอ่ะดิ เรายังไม่รู้เลยว่าจะทำหน้ายังไงดีเวลาที่เจอเค้า” ผมพูดด้วยความกังวลอย่างมาก

    “ก็เป็นแบบที่โยเป็นอ่ะดีแล้ว อย่าไปคิดมากเลย เราว่าพ่อแม่ทุกคนก็อยากให้ลูกมีความสุข และยอมรับในสิ่งที่ลูกเป็นทุกคน อาจจะใช้เวลาบ้าง แต่เราเชื่อว่าโยและบูมจะผ่านพ้นมาได้แน่” ปอนด์พยายามปลอบใจผม

    “ขอบใจมาก ๆ เลยอ่ะ ปอนด์ เราสบายใจขึ้นมากเลย” ผมพูดอย่างสบายใจขึ้นนิดหน่อย

    “ไม่เป็นไร ว่าแต่ว่า เรื่องนั้นโยช่วยเราได้หรือเปล่า” ชายหนุ่มวกกลับไปเรื่องเดิมอีกครั้ง

    “ได้น่ะมันได้อยู่ แต่ปอนด์แน่ใจหรอว่าเค้าจะเชื่อเรา” ผมถามอย่างไม่แน่ใจ

    “เชื่อดิ นะ นะ นะ บอกบูมให้รู้ก่อนก็ได้ หรือไม่พาไปด้วยก็ได้”

    “เฮ้อออ...........” ผมถอนหายใจอย่างคิดหนัก เพราะถ้าเรื่องรู้ถึงหูบูมละก็มีหวัง.......

    “อย่าถอนหายใจดิครับ”

    “555 เอาเป็นว่าเราจะช่วยแล้วกัน แต่ขอเป็นอีกสอง สามวันได้ป่ะปอนด์ ขอเราผ่านวิกฤตการณ์ของเราไปได้ก่อนนะ” ผมรับคำอย่างไม่ค่อยเต็มใจนักและในใจก็พยายามหาทางอื่นเพื่อช่วยปอนด์อยู่.......

    “ได้ ๆ ๆ โยน่ารักที่สุดเลย เฮ้อออออ....ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียดาย” อย่าพูดแบบนั้นดิ เดี๋ยวยิ่งช่วยไม่ได้ใหญ่

    “เสียดายอะไร” ผมแกล้งถามทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจ

    “ก็ไม่น่าปล่อยโยไปให้บูมเลย” ปอนด์ตอบกลับอย่างอารมณ์ดี

    “อ้าว.........”

    “ล้อเล่น...........” ชายหนุ่มรีบแก้ตัว

    “โอเค ๆ งั้นตกลงตามนี้นะ แล้วยังไงเราค่อยนัดกันอีกทีนะปอนด์” ผมรีบสรุปเพราะมีสายซ้อนเข้ามาแล้ว....ใครเนี่ย สงสัยจะ....

    “ได้ครับ ขอบใจมาก ๆ ๆ ๆ ๆ เลยนะโย.....บายครับ ฝันดีนะ”

    “บาย” ผมเอ่ยลาและกดสลับสายทันที

    “มีอะไรอีกล่ะ วางแผนอะไรมาดัดหลังเราอีกป่ะเนี่ยคุณชายโบ” ผมกดสลับสายโทรเมื่อเห็นเบอร์ที่โชว์เข้ามา

    “ใครจะกล้าละครับ แค่อยากจะโทรมาถามว่า ที่ทะเลาะกับบูมคืนดีกันหรือยัง เพื่อนอุตส่าห์หาเวลาให้” ไอ้โบนักวางแผนโทรมาตามผลงาน

    “เออ.....ขอบใจ ดีแล้ว แต่ไอ้ที่ไม่ดีน่ะ.....................................” ผมเล่าเรื่องที่ผมนัดกับบูมเพื่อไปพบม๊าของเค้ารวมไปถึงเรื่องที่ปอนด์มาปรึกษาเมื่อสักครู่ให้โบฟังและผมก็เริ่มจะเห็นเค้าของสิ่งที่สามารถช่วยเหลือปอนด์ได้แล้ว....

    “แล้วแกจะทำยังไงกับนัดของแกพรุ่งนี้อ่ะโย ท่าทางพรุ่งนี้งานหนักแน่ ๆ” ไอ้โบถามอย่างขยาด

    “ก็นั่นอ่ะดิ แต่เราปลงแล้วอ่ะโบ อะไรจะเกิดก็ปล่อยให้มันเกิด อย่างมากก็เลิกกันอีกรอบ” ผมเริ่มปลงกับชีวิต

    “จะบ้าหรอ ปากไม่เป็นมงคลเลย อุตส่าห์กลับมาคืนดีกันขนาดนี้แล้ว รีบตบปากตัวเองเลย” โบพูดอย่างอารมณ์เสีย

    “เว่อร์ละ ๆ แค่เปรย ๆ เฉย ๆ ไม่เลิกหรอกน่า จะบ้าหรอ” ผมตอบกลับอย่างขำ ๆ (นี่รู้สึกจะเชียร์บูมออกนอกหน้าเหลือเกินนะ ได้ใต้โต๊ะหรือเปล่าเนี่ย)

    “เออ ให้มันได้อย่างงี้สิ” ไอ้โบลอบถอนใจ (นั่นไงน่าสงสัย)

    “โบ.........มีเรื่องอะไรให้ช่วยหน่อยได้ป่ะ” ผมได้ทีเลยแอบดัดหลังมันมั่ง อิอิ

    “เรื่องอะไรอีกล่ะ ถ้าให้เราไปเป็นเพื่อนไม่เอานะโว๊ยยย” โบรีบออกตัว (ทีงี้ละไม่กล้า)

    “โธ่เอ๊ย นึกว่าจะแน่......ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอกน่า........ก็อย่างที่เล่าไปว่าปอนด์เค้ามาขอความช่วยเหลือ...............”ผมพยายามลำดับเหตุการณ์เรื่องของปอนด์ให้ไอ้โบฟังอย่างละเอียด เพื่อ......

    “แล้วไง จะให้เราช่วยยังไงหรอ” นั่นไงในที่สุดก็หลงกลไอ้โบ....

    “ก็โบช่วยแกล้งไปเป็นแฟนกับปอนด์แทนเราให้หน่อยได้ป่ะ” ผมไม่รอช้ารีบชิงความได้เปรียบ

    “อ้าวแล้วทำไมต้องเป็นเราด้วยล่ะ โยก็ไปเป็นเองสิ เค้าขอร้องโยนะ ไม่ใช่ขอร้องเรา” อ้าว....ไอ้โบ ทำไมไม่ช่วยล่ะ

    “เหอะน่า........ก็แกลองคิดดูดิว่าบูมขี้หึงขนาดไหน ถ้าลองเราไปบอกเรื่องนี้กับเค้า เค้าคงจะไม่ว่าเราหรอกนะ อีกอย่างเราก็เพิ่งจะคืนดีกันด้วย นะโบ ถือว่าช่วยเพื่อนตาดำ ๆ เถอะนะ ไหน ๆ ก็ช่วยกันมาขนาดนี้แล้ว” ผมชัดแม่น้ำทั้งห้าเพื่ออ้อนไอ้โบ

    “แล้วไม่ให้ไอ้กายไปเป็นล่ะ แล้วไม่กลัวแฟนเรารู้บ้างหรอ” ไอ้โบถามกลับ (ไหนบอกเลิกกลัวแฟนแล้วไงวะ)

    “แล้วแฟนแกจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ อีกอย่างไอ้กายมันจะยอมหรือ พูดอะไรไม่คิดเลยไอ้นี่” ผมพยายามโน้มน้าวอย่างไม่ลดละ

    “เออ จริงว่ะ เดี๋ยวโดนมันด่าอีก เออ ๆ ๆ เอายังไงก็เอาวะ มาขนาดนี้แล้ว เพื่อเพื่อน เพื่อนแฟนเพื่อน และเพื่อ เพื่อนของเพื่อน อีกที” ไอ้โบนึกมโนภาพถ้าโดนไอ้กายด่าเรื่องนี้คงจะไม่เหลือชิ้นดี เลยยอมจำนน

    “ขอบใจมาก ๆ เลยโบ เดี๋ยวต้องรีบโทรไปบอกปอนด์ก่อน แค่นี้นะ ขอบใจว่ะโบ บาย” ผมรีบตัดบทเพราะกลัวมันเปลี่ยนใจ


    หลังจากที่ผมวางหูจากไอ้โบ ผมก็รีบโทรไปแจ้งข่าวเรื่องการเปลี่ยนตัวแสดงจากผมมาเป็นไอ้โบแทนกับปอนด์ ซึ่งปอนด์ก็ไม่ได้ว่าอะไร แถมยังดีใจซะอีก ขอบอกขอบใจผมซะยกใหญ่ที่หาคนช่วยได้ เพราะปอนด์เองก็กลัวว่าถ้าบูมมาเห็นแล้วแผนจะแตกเช่นกัน (เฮ้ออออ นั่นไหมล่ะ มีแต่คนกลัว)

    หลังจากที่ผมวางหูโทรศัพท์จากปอนด์และกำลังจะเดินไปหยิบเสื้อผ้าเพื่อที่จะอาบน้ำ ก็ได้ยินเสียงมือถือผมดังขึ้น.......

    “รีบรับเลยนะวันนี้”เสียงชายหนุ่มหัวเราะอย่างอารมณ์ดีดังขึ้นหลังจากที่ผมรับสาย

    “จะไม่รีบรับได้ยังไงล่ะ เดี๋ยวก็มีใครบางคนแถวนี้งอนอีก” ผมแซวบูมกลับไป

    “ใครก็ไม่รู้เนอะ เราว่าหน้าตาต้องหล่อมาก ๆ แน่เลย 555” หลงตัวเองที่สุด

    “บูมรอแป๊ปนะ เดี๋ยวเราจะไปหาของก่อน” ผมได้ยินแบบนั้นก็ยิงมุขกลับทันที

    “หาอะไรหรอ” นั่นไงหลงกลแล้ว

    “หาถังขยะน่ะ กำลังจะอ้วก 555” ผมหัวเราะอย่างสะใจ

    “อะไรกัน นี่พวกเรา..xxx..แค่ไม่กี่วัน ท้องแล้วหรอ ท่าทางเชื้อเราคงจะแรงน่าดู 555” โห.....สุดยอดมุขท่านพี่บูม

    “บ้าอ่ะดิ หลงตัวเอง......” ผมพูดอย่างเขิน ๆ

    “หลงคนที่กำลังพูดด้วยมากกว่า.....หลงจนถอนตัวไม่ขึ้นเลย.....” หูยยย.....คิดได้ไงอ่ะหวานมาก ๆ

    “อารมณ์ไหนเนี่ย” ผมพูดแบบเขิน ๆ

    “โหหหหหหหหหหหหหหห......โยอ่ะ ไม่โรแมนติคเลย คนอุตส่าห์พูดหวาน ๆ ด้วย” ชายหนุ่มบ่น

    “555 อ้าว.......กำลังโรแมนติคหรอ เอาใหม่ ๆ อ่ะ 5 …4…3…2…1 action”

    “พอเลย ๆ จำไว้เลย วันหลังอย่ามาขอให้พูดนะ งอนแล้วด้วย” บูมพูดงอน ๆ

    “อ่ะ โอ๊วววว ๆ ๆ อย่างอนเลยนะ อ่ะโรแมนส์ ก็ โรแมนส์นะครับ”

    “ไม่.............” ชายหนุ่มยังคงงอนไม่เลิก

    “นะ นะ นะ” ผมอ้อนกลับ

    “ไม่นอกจากจะให้เราไปค้างด้วยก่อน” นั่นไงในที่สุดหางจิ้งจอกก็โผล่ออกมาจนได้

    “เอาอีกละ งอนแบบนี้หวังผลนี่นา” ผมพูดอย่างรู้ทัน

    “555 นะ นะ นะ ได้ไหม ๆ นะ นะ นะครับ อยากนอนกอดโยทั้งคืนเลย” บูมอ้อน

    “ถ้าแค่กอดอย่างเดียวก็โอเค” ผมแหย่เล่น

    “โหหหหหหหหหหหหห........ไรอ่ะ ชอบพูดดักคออยู่เรื่อยเลย ไม่สนแล้ว ยังไงก็ต้องให้เราไปค้างด้วยนะ เพราะเรามารอข้างล่างแล้ว” นั่นไงแผนร้ายไหมล่ะ มัดมือชกเฉยเลย

    “อะไรนะ.........” ผมอุทานออกมา

    “ก็ดูที่หน้าต่างดิ”

    “แผนร้ายมาก ๆ เลยนะ” ผมพูดเบา ๆ

    “อ้าวก็เราเป็นห่วงอ่ะ โยนอนคนเดียวไม่ใช่หรอช่วงนี้อ่ะ” นี่ไม่ใช่ห่วงแล้วมั้ง....

    “ไม่ต้องมาอ้างเลย”

    “เดี๋ยวค่อยคุยได้ป่ะ โยลงมาเปิดประตูหน่อยดิ จะได้เอารถเข้า” บูมเร่งให้ผมรีบลงมาเปิดประตู

    “ไม่........กลับไปเลย” อย่างนี้ผมต้องแกล้งซะหน่อย เลยปฎิเสธไป

    “ใจร้ายว่ะ แฟนใครอ่ะ ใจร้าย” ชายหนุ่มบ่นพึมพำ ๆ

    “ไม่รู้ โสด”

    “โสดจริงหรือเปล่า เราชอบของโสด ๆ หวานดี”

    “พอเลย ๆ เดี๋ยวเราลงไปเปิดประตูให้”

    “เร็ว ๆ นะ คิดถึงจะแย่อยู่แล้ว”

    “พอเลย ๆ เพิ่งแยกกันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงเนี่ยนะ รอแป๊ปนึงนะ”

    หลังจากนั้นผมก็เดินลงไปเปิดประตูเพื่อให้รถชายหนุ่มเข้ามาจอดในบ้านและเดินเข้าไปในบ้านด้วยกัน.......

    จบตอนที่ 4/3 แล้วครับ นี่เป็นตอนสุดท้ายของอาทิตย์นี้แล้วนะครับ เพราะอาทิตย์หน้าคงจะมีงานที่ต้องรีบสะสางอีกเยอะ   .....ยังไงจะรีบมาต่อให้นะครับ ใครที่รอไม่ไหว ก็เข้ามาอ่านทีละนิดนะครับ อิอิ

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
คืนนี้สงสัยจามีให้จิ้น :haun1:

เป็นกำลังใจให้นะครับพี่พูห์ สู้ๆ สู้โว้ย :yeb:

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
  จบตอนที่ 4/3 แล้วครับ นี่เป็นตอนสุดท้ายของอาทิตย์นี้แล้วนะครับ เพราะอาทิตย์หน้าคงจะมีงานที่ต้องรีบสะสางอีกเยอะ   .....ยังไงจะรีบมาต่อให้นะครับ ใครที่รอไม่ไหว ก็เข้ามาอ่านทีละนิดนะครับ อิอิ

 :o เผลออ่านจนจบแล้วอ่ะ ไม่ยอมน๊า :serius2: :serius2: :serius2:

ยังไงก็จะรอนะคับ  :yeb: :yeb:

คนโพสสู้ๆ  :ped149: :ped149:

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
เข้าบ้านอีนาง...แล้วจะปล่อยอีนางหั้ยรอดได้อย่างไร.... :haun4: :haun4:

ออฟไลน์ tsuyu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
  :dont2:  อย่าให้รอนานนะค่ะ

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
รออ่านอยู่นะ อย่าให้รอนานนะ :serius2:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
หุหุ นานเท่าไหร่ก็จะรอค๊าบบบบ   :dont2:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
"ตอนที่ 5/1"

วันนี้ผมไปมหาวิทยาลัยกับบูมด้วยความรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก เพราะเย็นนี้ผมมีนัดที่จะต้องไปเจอกับม๊าของบูม ผมยังไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวอย่างไร ในเมื่อครั้งที่แล้วผมเป็นฝ่ายที่จะบอกม๊าของบูมเองว่าผมจะยอมเป็นฝ่ายถอยซะเอง แต่แล้วในครั้งนี้อยู่ดี ๆ ผมกับบูมก็กลับมาคบกันเหมือนเดิมอีก แถมบูมยังพามาเจอกับม๊าของบูมอีก ผมเลยทำหน้าไม่ถูก ไม่รู้จะทำตัวอย่างไรดี ยิ่งคิดก็ยิ่งสับสน จนทั้งคาบเช้าของวันนี้ผมเรียนหนังสือไม่รู้เรื่องเลย เอาแต่เหม่อและคิดเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา ยิ่งคาบบ่าย ผมว่าผมยิ่งเรียนไม่รู้เรื่องขึ้นไปอีก ผมเลยตัดสินใจโดดออกมาดีกว่า ซึ่งเพื่อน ๆ ผมรวมทั้งบูมเองก็เข้าใจและไม่ว่าอะไร บูมเลยพาผมไปสงบสติอารมณ์และทำใจก่อนจะเดินทางไปหาม๊าของบูมด้วยกันในตอนเย็น
บูมชวนผมมาเดินดูเสื้อผ้าที่ห้างแห่งหนึ่งแถวลาดพร้าว เพราะต้องการให้ผมได้ผ่อนคลายจะได้ไม่เครียด แต่ที่ไหนได้ คนกำลังอารมณ์แบบนี้จะมีกะจิตกะใจเลือกซื้อของไปได้ยังไง สรุปแล้วว่าผมเลยต้องเป็นฝ่ายเดินตามซะมากกว่า แล้วคุณชายบูมก็ไม่ได้สะทกสะท้าน สนอกสนใจอะไรเลย ท่านพี่ก็เอาแต่เดินเลือกซื้อของ เข้าร้านนู้นออกร้านนี้อย่างสบายใจ แถมยังให้ผมเป็นคนช่วยดูอีกว่าใส่แล้วจะเหมาะไหม อะไรประมาณนั้น (เฮ้อออออ ทำไมเค้าไม่ได้ตื่นเต้นอะไรบ้างเลย----ผมคิดอยู่ในใจ)

หลังจากที่เรา (ส่วนใหญ่ก็ของบูมทั้งนั้นแหละ) เลือกซื้อของอย่างพอใจแล้ว เราก็เดินไปหาร้านนั่งเพื่อฆ่าเวลา เพราะอีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเวลานัดที่ทุกคนรอคอย.......

“เป็นอะไรไป โยยังตื่นเต้นอยู่อีกหรอ ไม่ต้องไปห่วงหรอกน่า มีเราอยู่ที่นั่นทั้งคน” บูมถามอย่างจับอาการของผมได้

“ก็ใครจะไปอารมณ์เย็นแบบบูมได้ล่ะ เดินเลือกของอยู่ได้ คนยิ่งกำลังตื่นเต้นอยู่”ผมบ่น

“อ้าว.....เป็นงั้นไป ก็ที่เราพามาที่นี่ ก็เพื่อที่จะให้โยผ่อนคลายจะได้หายตื่นเต้นไง” บูมพูดยิ้ม ๆ

“ยิ่งตื่นเต้นอ่ะดิไม่ว่า เวลาเตรียมตัวก็ยิ่งไม่ค่อยจะมีอยู่ อยู่ดี ๆ ก็นัดมาเจอ” ผมเริ่มเครียดขึ้น

“อ่ะมา....งั้นเดี๋ยวเราปลอบเอง มา...”บูมทำท่าจะลุกขึ้นมาโอบผม จนผมต้องทำตาเขียวใส่เพราะนี่มันกลางร้านอาหารในห้าง

“พอเลย ๆ เราไม่ได้ล้อเล่นนะเนี่ย”ผมพูดอย่างอารมณ์เสีย

“ก็ได้ๆ ไม่แกล้งแล้วก็ได้.....แต่เราว่า โย ไม่ต้องกังวลอะไรหรอก เราบอกแล้วไงว่า เราอยู่ที่นี่ทั้งคน ถึงผลมันจะออกมาเป็นยังไง เราขออย่างเดียว เราขอแค่ให้โยอยู่ข้างเราแค่นั้นก็พอ เพราะเรื่องอื่นๆ เราไม่ใส่ใจหรอก ยังไงซะสักวันนึงม๊าเราก็ต้องเข้าใจพวกเราอยู่ดี ไม่ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนก็ตาม เราก็จะยืนยันคำเดิม”บูมพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

“เฮ้อออออออ......เราละกลัวว่าจะไม่ได้เป็นอย่างงั้นน่ะสิ”ผมพูดอย่างกลุ้มใจ แต่ก็ใจชื้นนิดหน่อยที่ได้ยินชายหนุ่มพูดแบบนั้น

“ทำไมแฟนเราขี้กลัวแบบนี้นะ ไม่น่าเชื่อ เห็นโหดขนาดนั้น เอาอย่างงี้แล้วกัน คืนนี้เห็นทีเราคงต้องไปนอนปลอบขวัญซะหน่อยแล้ว”บูมแซวเล่นพลางทำหน้ากรุ่มกริ่มอย่างมีแผน

“ทำเป็นพูดดี ถึงเวลาอย่ามาเป็นแบบเราละกัน”

“555 ไม่มีทาง เรามีวิธีแล้วกัน” บูมพูดอย่างเชื่อมั่นในแผนที่ตัวเองวางไว้

“บูมมีแผนอะไร บอกเรามั่งดิ” ผมถามอย่างสนใจ

“ไม่บอก”ชายหนุ่มส่ายหน้ายิ้ม ๆ

“ทำไมอ่ะ บอกหน่อยเหอะ นะ นะ”ผมอ้อน

“ไม่บอก จนกว่า คืนนี้โยจะมาค้างที่บ้านเราก่อน”ชายหนุ่มเสนอ

“จะไปค้างได้ยังไงล่ะ นี่แค่ให้เราเจอกับม๊าบูมอีกครั้ง เรายังกล้าๆ กลัว ๆ อยู่เลย แล้วนี่ยังจะให้เราไปค้างด้วยอีก เราไม่ตายหรอ”ผมส่ายหน้าอย่างหวั่น ๆ

“เรารับประกันได้ว่า ไม่มีอะไรหรอก เชื่อเราดิ”บูมบอกอย่างมั่นใจ

“เฮ้อออออออ...........”ผมถอนหายใจด้วยความรู้สึกอึดอัดและสับสน

หลังจากนั้นเราสองคนก็เดินทางมารอทานอาหารที่บ้านของบูมซึ่งตอนที่เรามาถึงม๊าของบูมยังคงติดงานแต่โทรกลับมาบอกว่าจะเข้ามาอีกประมาณ ครึ่งชั่วโมง บูมจึงพาผมขึ้นไปนั่งรอบนห้องและฝากป้าเล็กให้ช่วยขึ้นมาเรียกถ้าม๊าของบูมมาถึง.......เรานั่งรอม๊าของบูมได้สักพัก ป้าเล็กก็ขึ้นมาตามให้ลงไปทานอาหาร.....

“บูม....เราตื่นเต้นอ่ะ....”ผมพูดด้วยความรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากขณะกำลังจะเดินลงไปที่ห้องอาหาร

“ไม่ต้องห่วงหรอก เรามีวิธีหรอกน่า ถึงกล้าพาโยมาขนาดนี้”บูมพยายามปลอบ แต่ผมก็ยังคงตื่นเต้นอยู่ดี

ทันทีที่ม๊าของบูมเห็นผมขณะที่เดินลงไปพร้อม ๆ กับบูม ม๊าของบูมก็แสดงสีหน้าและพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่นัก

“แล้วไหนบอกมีเรื่องจะปรึกษากับม๊า แล้วนี่เอาเพื่อนเรามาทำไม”ม๊าบูมพูดพลางมองผมด้วยหางตา

“สวัสดีครับม๊า รบกวนด้วยนะครับ”ผมไหว้ม๊าของบูม แต่ม๊าของบูมก็ทำท่าไม่ค่อยจะสนใจผมเท่าไหร่

“ไหนมีเรื่องอะไรก็รีบว่ามา ม๊าจะรีบไปทำธุระกับป๊าต่ออีก” ม๊าขอบบูมพูดกับบูมขณะที่พวกเรานั่งลงเรียบร้อยแล้ว (บรรยากาศน่าอึดอัดที่สุด)

“ก็ไม่มีอะไร....แค่บูมจะพาโยมาให้ม๊ารู้จักก็แค่นั้นเอง” เอาละสิ บูม........โยนระเบิดมาแล้ว......ดูดิม๊าหันขวับมาทางผมด้วยสายตาไม่พอใจอย่างมาก

“อะไรนะ กะแค่เพื่อนคนเดียวทำไมต้องนัดม๊ามาเจอด้วย....เราจะเกินไปหน่อยแล้วนะบูม” ม๊าพูดด้วยน้ำเสียงที่ดังมาก จนผมรู้สึกตัวลีบ ๆ พิกล “แล้วอีกอย่างม๊าก็เคยเจอเค้าแล้ว แล้วจะมาแนะนำอะไรอีก” ม๊าพูดอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่

“เออ.......ใช่ ม๊าเคยเจอโยแล้วนิ บูมก็ลืมไป” เอาละสิ มุขไหนเนี่ย ไหนบอกว่ามีแผนเด็ดไง ทำไมยังไม่ปล่อยออกมาอีก

“ถ้าวันหลังกะอีแค่เรื่องแค่นี้ อย่ามารบกวนเวลาของม๊าอีกนะเข้าใจไหม” ม๊าของบูมเหล่มาทางผมนิดหน่อยแล้วพูดขึ้นมา “ม๊าไม่ชอบคนกลับกลอก ต่อหน้าอีกอย่างลับหลังอีกอย่าง ยิ่งคนไม่รักษาสัญญายิ่งไม่ชอบเข้าไปใหญ่ จริงไหม” ม๊าแกล้งหันมาพูดกับผมจนผมหน้าชาไปเลย...........

**************************************************************************

จบตอนที่ 5/1 แล้วครับ ขอโทษนะครับที่ให้รอ แต่จะพยายามเคลียร์งานให้จบนะครับ ขอบคุณครับ
 

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
 :เฮ้อ: รู้สึกคุณแม่บูมม่ายปลื้มง่ะ  :เฮ้อ:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด