หวัดดีครับ
ผมยังไม่หายป่วยเลย ขอพี่เค้ามาอัพเรื่องน่ะครับ แฮะแฮะ
หลายวันมานี้ ไม่ค่อยได้ทำอะไรเลยครับ
ได้แต่นอน กับนอนน่ะครับ
รู้สึกว่าตัวเองนี่ขี้เกียจจัง
ก็ขอโทษทุกคนด้วยนะครับที่ไม่ค่อยได้ลงเรื่อง.....
ขอผมหายดีก่อนนะ จะมาลงบ่อยๆเหมือนเดิมครับ
แต่ถ้าขอพี่เค้าได้ ก็จะแว่บมาอัพนะครับ......>_<...
......................
จะคนนี้หรือคนไหนก็รักนายคนเดียว
~~29~~
ออกจากลิฟท์มาก็มองหาคนที่มารับที่นั่งพักแขก
เห็นมีคนนั่งอยู่ หลายคนแต่ผมไม่รู้ว่าเป็นคนไหนที่มารับผมน่ะครับ
แล้วแต่ละคนที่นั่งอยู่ ก็ไม่มีคนไหนที่บ่งบอกว่าเป็นคนขับรถเลยสักคนเดียว
ผมก็เลยเดินไปถามที่พนักงานครับ
พี่เค้าก็บอกว่าเป็นคนที่กำลังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ ผมก็เลยเดินไปหา
" หวัดดีครับ ใช่ที่พี่กิ๋มให้มารับผมหรือเปล่าครับ "
" ใช่ครับ "
พี่เค้าก็เงยหน้ามองผม
" เอ่อ....สวัสดีครับ...... "
ผมไม่รู้จะพูดอะไรต่อครับ
คนๆนี้หน้าตาดีมาก ผมตัดสั้น
อายุก็คงจะประมาณ 30 ทั้งการแต่งตัว ทั้งบุคลิก
และที่สำคัญ หน้าตามีส่วนคล้ายพี่กัทมากด้วยครับ
" เรียบร้อยหรือยังครับ "
" คะ ครับ ครับเรียบร้อยแล้วครับ ไปกันได้เลย " ผมตะกุกตะกักบอกไปครับ
แล้วพี่เค้าก็ลุกขึ้นยืน
เดินนำผมออกไปที่รถ ผมก็เดินตาม
มองจากด้านหลังเปรียบเทียบความสูงแล้ว
คนๆนี้สูงไล่เลี่ยกันกับพี่กัท คงจะเป็นญาติสนิทคนหนึ่งของพี่กัทแน่ๆครับ
ขึ้นรถมาได้
พี่เค้าก็ขับรถออกจากคอนโดโดยที่ไม่พูดคุยอะไรกับผมสักคำ
ผมเองก็เงียบเหมือนกันครับ ไม่รู้จะพูดอะไรด้วยครับ
ผมก็มองข้างทางไปเรื่อยๆ
หันกลับมาก็เจอพี่คนนี้มองผมอยู่ก่อนแล้ว
" เอ่อ มีอะไรหรือครับ "
" ไม่มีอะไร แค่มองเฉยๆ "
พูดแล้วก็หันไปขับรถต่อ โดยที่ไม่พูดอะไรเหมือนเดิม
ผมก็หันหน้ากลับมองข้างทางต่อเช่นกัน
ไปได้อีกสักพักรถก็ติดไฟแดง
ผมก็หันหน้ากลับมา ก็เห็นพี่เค้ามองผมอีกครับ
" เอ่อ มีอะไรเหรอเปล่าครับ " ผมอดถามไปไม่ได้ครับ
" เราน่ะชื่ออะไร "
" วันวานครับ เรียกวานก็ได้ครับ " ผมบอกไปครับ
" อืม...ชอบไอ้กัทมันเหรอ "
" .................. " เป็นคำถามที่ผมตอบไม่ได้ครับ
ผมไม่รู้ว่าคนๆนี้ถามผมเพราะอะไร
ความรู้สึกมันบ่งบอกว่า ไม่ใช่จะถามผมแค่เฉยๆเท่านั้นน่ะครับ
" ทำไมล่ะ ไม่ชอบหรือไม่รู้ "
" .....ชอบครับ............ " แต่ครั้งนี้ผมตัดสินใจตอบ
ก็ช่างเถอะ จะถามผมด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม ผมแค่ตอบตามที่ผมรู้สึกน่ะครับ
" แน่ใจเหรอ "
" ...แน่ใจครับ ผมไม่โกหกตัวเองหรอกครับ " ผมบอก
" อืม.........อันนั้นมันเป็นเรื่องอนาคต "
พูดแล้วก็หันไปสนใจกับการจราจรตรงหน้า เมื่อรถด้านหน้าเริ่มออกวิ่ง
ตลอดทางตั้งแต่ตอนนั้น
พี่เค้าก็ไม่ได้ถามหรือชวนคุยอะไรอีก
แค่หันมามองผมเป็นบางครั้งเท่านั้น จนมาถึงบ้านยายครับ
ลงรถมาได้
ก็เห็นพี่กิ๋มเดินออกมาหาทันที
" หวัดดีครับพี่กิ๋ม " ผมยกมือไหว้
" สวัสดีจ๊ะน้องวาน "
" มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าครับ "
" มีสิ เยอะเลยนะ แต่พี่ว่าน้องวานเข้าไปหาคุณยายก่อนดีกว่า ท่านบ่นถึงตลอดเลย "
" ครับพี่ แล้วยายอยู่ที่ไหนล่ะครับ "
" อยู่ในบ้านนั่นแหล่ะจ๊ะ เอออาเกรียง อาช่วยพาน้องวานเข้าไปหาคุณยายหน่อยสิ กิ๋มจะไปเอาของก่อน "
พี่กิ๋มหันมาบอกพี่ที่ไปรับผมครับ
ผมก็หันไปมอง ตอนนี้รู้แล้วครับว่าคนที่ไปรับผมชื่อ เกรียง
แล้วได้ยินพี่กิ๋มเรียกอาเกรียง งั้นผมเองก็คงต้องเรียกอาเกรียงด้วยคนน่ะครับ
อาเกียงก็ไม่พูดอะไร
แล้วก็เดินนำผมเข้าไปข้างในบ้าน
คุณยายแค่เห็นผมเดินเข้ามา ก็กวักมือให้ผมเข้าไปหา
ผมก็เข้าไปครับ
มีผู้ใหญ่นั่งอีก 3 คน ก็คงจะเป็นญาติๆของคุณยาย
หรือไม่ก็อาจจะเป็นเพื่อนบ้านหรือคนรู้จักน่ะครับ
" สวัสดีครับยาย สวัสดีครับ " ผมยกมือไหว้คุณยาย และก็รวมทั้งทุกๆคนที่นั่งอยู่ด้วย
ก็เห็นยิ้มให้ผมกันทุกคนครับ
" หวัดดีครับป้า หวัดดีครับลุง " อาเกรียงก็ไหว้คนที่นั่งอยู่ครับ
" หวัดดีจ๊ะนายตำรวจสุดหล่อ "
" 555 "
" แกนี่ไม่เจอนาน ดูหล่อขึ้นมากเลยนะเนี่ย " ป้าคนเดิมพูดชมอาเกรียงครับ
" จริงเปล่าครับป้า "
" จริงสิจ๊ะ แล้วเป็นไงบ้างล่ะ งานหนักมั๊ย " ป้าก็ถามอาเกรียงอีก
แล้วอาเกรียงก็คุยเล่นกับป้ากับลุงครับ
ผมเองก็ไม่ได้ฟังนักหรอกครับ เพราะคุณยายดึงผมให้ไปนั่งด้วย
" เป็นไงเรา อาเกรียงมันแกล้งอะไรเราหรือเปล่าจ๊ะ " คุณยายถามผมครับ
ผมก็มองไปที่อาเกรียง ที่กำลังหัวเราะเสียงดังกับพวกป้า พวกลุงอยู่
" ก็เปล่าหรอกครับ ไม่มีอะไร "
" เจ้าเกรียงมันเป็นอาเจ้ากัทมันจ๊ะ ตอนนี้เป็นตำรวจอยู่ทางเหนือ "
คุณยายบอกผม
แล้วคุณยายก็เล่าให้ผมฟังเรื่องของอาเกรียง
ผมก็เลยรู้ว่า อาเกรียงเป็น ลูกคนเล็กสุด อายุยังไม่เต็ม 30 ดีเลยครับ
ห่างจากพ่อพี่กัทเป็นสิบปี
เรียนจบมาก็สอบติดตำรวจ และก็ยังเป็นโสดด้วยครับ
นั่งคุยกับคุณยายได้สักพัก
ผมก็ขอคุณยาย ไปช่วยพี่กิ๋มเตรียมของครับ
คุณยายก็ไม่ว่าอะไร ผมก็เดินไปด้านหลังของบ้าน ที่เห็นคนหลายคนช่วยกันเตรียมของกันอยู่
" พี่กิ๋มครับ มีอะไรให้วานช่วยมั๊ยครับ "
ผมถามเมื่อเดินไปที่พี่กิ๋มซึ่งกำลังเช็ดทำความสะอาดจานอยู่
" อ้าว คุณยายยอมปล่อยตัวมาแล้วเหรอจ๊ะ "
" ครับผม "
" 555 งั้นมานั่งตรงนี้ ช่วยพี่เช็ดจานก็ได้จ๊ะ "
พี่กิ๋มเลื่อนตัวไปข้างๆ เว้นที่ให้ผมนั่งสะดวกๆน่ะครับ
" ครับ "
แล้วผมก็ลงไปนั่งข้างพี่กิ๋ม หยิบผ้าแห้งขึ้นมาแล้วก็เช็ด
ก็นั่งทำนั่งคุยกับพี่กิ๋มจนจาน ชามที่วางอยู่หมดครับ
ตอนที่นั่งเช็ดจานนั้น ก็อยากถามถึงพี่กัทครับ
แต่ว่า ผมก็ไม่ถาม เพราะไม่รู้ว่าจะถามพี่กิ๋มว่ายังไงดีน่ะครับ
แล้วหลังจากที่ช่วยพี่กิ๋มเช็ดจานชามเสร็จ ก็ไปช่วยอาๆป้าๆ ที่พี่กิ๋มแนะนำผมให้รู้จักต่อครับ
ก็ช่วยเด็ดพริก ช่วยหั่นผักครับ
เรื่องแบบนี้ผมก็พอทำๆได้ อยู่ที่บ้านก็ช่วยแม่บ่อยๆน่ะครับ
ก็สนุกดี ถึงจะเหนื่อยบ้างก็เถอะ
ผมรู้สึกดีนะ ที่เห็นงานทำบุญแบบนี้แล้วก็ทำอาหารกันเอง ช่วยกันทำดูวุ่นวาย แต่ก็สนุกดีครับ
เพราะส่วนมาก
ที่ต้องการความสะดวกสบาย ก็จะสั่งอาหารที่ทำสำเร็จตามร้านมาซะมากกว่า
ไม่ค่อยเห็นจะทำกันเองแบบนี้มากนักน่ะครับ
กว่าจะช่วยทำอะไรต่างๆเสร็จก็สายแล้วครับเกือบ 10 โมง
เนื้อตัวเต็มไปด้วยเหงื่อครับ
รู้สึกเหนียวตัวจนอยากจะอาบนํ้าเลยล่ะครับ
ถ้าเป็นที่บ้านผมก็คงไปอาบนํ้าแล้ว แต่ที่นี่ไม่ใช่เลยต้องทนเหนียวตัวแบบนั้น
เดินมานั่งพักข้างบ้าน
มีต้นไม้สวยๆปลูกอยู่เยอะเลยครับ ลมก็มีพัดพอสบายๆ
นั่งได้ไม่นานนักพี่กิ๋มก็เดินมาหา
" แอบมาหลบตรงนี้เองเหรอจ๊ะ พี่เดินตามหาซะทั่วเลย "
" ตรงนี้ลมพัดสบายน่ะครับ แล้วพี่กิ๋มมีอะไรเหรอครับ ให้ช่วยทำอะไรอีกหรือเปล่า "
" ก็ไม่มีอะไรแล้วล่ะจ๊ะ เห็นว่าน้องวานเหนื่อยเลยจะมาบอกให้ขึ้นไปอาบนํ้าก่อนน่ะจ๊ะ "
พี่กิ๋มบอกผม ยิ้มให้ด้วยครับ
" ไม่เป็นไรหรอกครับ "
" ไปอาบเถอะ ไม่ต้องเกรงใจพี่หรอก ตามสบายเลยจ๊ะคิดว่าเป็นบ้านของน้องวานเองเลยนะ "
" แต่.............. "
" มาเถอะจ๊ะ ยังมีเวลาอีกตั้งนานกว่าพระจะมาน่ะ "
" เอ่อ งั้นก็ได้ครับ วานขอรบกวนนะครับ "
ผมบอก ก็ดีเหมือนกันครับ เหนียวตัวมากๆเลยล่ะ
โชคดีที่ติดเสื้อยืดไว้ในเป้อีกตัว
ไม่งั้นถึงอาบนํ้าใหม่ แต่ถ้าใส่เสื้อตัวเดิมมันคงรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่น่ะครับ
ผมก็ลุกขึ้น เดินตามพี่กิ๋มขึ้นไปบนบ้านชั้นบน
ถึงแล้วมองไปก็เห็นว่ามีห้องอยู่หลายห้องเลยครับ
ผมรู้แค่ห้องพี่กัทที่ผมจำได้ ที่มาครั้งแรกแล้วพี่กัทอุ้มผมเข้าไปที่ห้องแรกน่ะครับ
นอกนั้นผมก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นห้องใครนัก
พี่กิ๋มก็พาผมเดินผ่านห้องต่างๆ จนมาสุดทาง
ผมมองเห็นทางซ้ายมีบันไดขึ้นไปไม่สูงมากอยู่น่ะครับ
" น้องวานขึ้นไปอาบนํ้าที่ห้องข้างบนนั่นได้เลยจ๊ะ " พี่กิ๋มบอกผมครับ
" แล้วไม่มีคนอยู่ข้างบนเหรอครับ "
" ไม่มีหรอกจ๊ะ เจ้าของห้องมันอยู่ไหนก็ไม่รู้ น้องวานใช้ได้เลยนะ "
" แต่ว่าเจ้าของเค้าไม่ว่าวานแน่นะครับ " ผมถามอีกเพื่อความแน่ใจน่ะครับ
" ไม่ว่าหรอก พี่รับรอง "
พี่กิ๋มบอกผมครับ
ก็ไม่รู้ว่าเป็นห้องใคร แต่พี่กิ๋มยืนยันแล้ว ผมก็มั่นใจครับ
" เปิดตู้หยิบผ้าเช็ดตัวในนั้นได้เลยนะ เดี๋ยวพี่ลงไปดูข้างล่างต่อก่อน น้องวานตามสบายเลยจ๊ะ "
พี่กิ๋มบอกเสร็จก็เดินกลับลงไปข้างล่าง
ตัวผมก็เดินขึ้นบันไดไปห้องข้างบน
ข้างบนนี้มีอยู่ห้องเดียวครับ เป็นห้องใต้หลังคาด้วย
ผมเปิดประตูห้องเข้าไป
ก็เห็นว่ามีอุปกรณ์ความสะดวกพร้อมทุกอย่าง และห้องก็ไม่ได้ใหญ่มากนักครับ
แต่ก็ดูน่าสบาย คงจากการจัดห้อง รวมทั้งสีของห้องที่เป็นสีฟ้าอ่อนด้วยมั้งครับ
ผมวางเป้ลงบนเตียงนอน
สงสัยเหมือนกันว่าที่ห้องนี้เป็นห้องของใคร แต่ก็ไม่อยากเดาหรอกครับ
เพราะว่าไม่รู้จริงๆ
ผมเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าที่อยู่อีกด้านของเตียงนอน
เป็นตู้ที่ใหญ่พอสมควรครับ
เห็นผ้าเช็ดตัววางเป็นระเบียบอยู่หลายผืน
ผมก็หยิบมาผืนนึงครับ
ปิดตู้แล้วเดินมาที่เตียงนอน ถอดเสื้อกับกางเกงออก เหลือแค่กางเกงชั้นในตัวเดียว
ผมเอาผ้าเช็ดตัวมาพันแล้วถอดกางเกงในออกวางไว้
เสร็จก็เดินเข้าห้องนํ้าไปครับ
เปิดนํ้าใส่อ่างนํ้า หยิบผงนํ้าหอมที่มีวางอยู่ไม่ไกลนักมาใส่ แล้วก็ลงไปแช่ครับ
กลิ่นหอมที่รู้สึกมันคล้ายกลิ่นของใครบางคน
แต่ตอนนั้นมันรู้สึกสบายจนไม่อยากจะคิดอะไรต่อ
และก็แทบจะไม่อยากลุกขึ้นเลยล่ะครับ
ผมนอนแช่นํ้าได้เกือบ 20 นาทีก็อาบนํ้าต่อจนเสร็จ
หยิบผ้ามาเช็ดตัว แล้วเอามาพันเอวไว้เดินออกมาจากห้องนํ้าครับ
ผมเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าอีกครั้ง หยิบผ้าเช็ดตัวผืนเล็กออกมาอีกผืนหนึ่ง
แล้วก็เอามาเช็ดหน้า เช็ดหัวรวมทั้งตัวด้วยครับ
เดินไปที่เตียงนอน หยิบเสื้อในเป้ออกมาใส่ ตามมาด้วยกางเกงครับ
" อ๊ะ... "
อุทานด้วยความตกใจครับ ที่อยู่ๆก็มีคนมากอดผมทางข้างหลัง
กลิ่นหอมจากคนที่กอดผม เป็นกลิ่นเดียวกับที่ติดตัวผมตอนนี้เลยครับ...
๐
๐
๐
...................................
จบตอนแค่นี้ครับ
ค้างหรือไม่ค้างก็ไม่รู้เน๊อะ..............
อย่าฆ่าผมนะครับสงสารผมเถอะนะแค่ป่วยนี่ก็จะแย่อยู่แล้ว
เห็นมีคนป่วยอยู่หลายคน
ก็ขอให้หายป่วยกันเร็วๆนะ แล้วก็สุขภาพแข็งแรงกันทุกคนด้วยครับ
ขอบคุณทุกๆคนครับ
วันวานครับผม...^_^...