ขอบคุณทุกกำลังจายยย หายเหนื่อยเยย

****************************************************************
บทที่ 4ค่ำคืนของสองเรา หลังจากที่เฮละโลมาช่วยกันเก็บของที่คอนโดผมแล้ว เพราะญาติฝาแฝดของผมจะมาเช่าห้องผมต่อ และอีกสองวันจะเข้ามาดูห้องและมาเที่ยวกรุงเทพเพื่อหาที่เรียนกวดวิชา คุณนายแสนดียังมากระซิบผม
“น้องเป้ เดี๋ยวค่าเช่าแม่จะโอนเข้าบัญชีน้องเป้นะลูก”
นี่หละครับคุณนายแสนดีของผมทั้งๆที่คอนโดนี้ก็คุณนายซื้อเองแท้ๆ เพื่อให้ผมได้มีที่อยู่ เพราะผมต้องมาทำงานที่กรุงเทพ แล้วนี่แม่ของผมยังจะเอาค่าเช่ามาให้ผมอีก ผมเลยอยากจะร้องไห้จริงๆ ความรู้สึกว่ารักแม่มากที่สุดมันไม่รู้ว่ามาจากไหน จู่ๆน้ำตาผมไหลออกมาเอง แม่ผม คุณนายแสนดี ช่างเป็นแม่ที่เสียสละเพื่อผมมากมายจริง ทั้งๆที่ตั้งแต่เล็กๆ ผมนี่สาวแตกแต่ก็แตกแบบเงียบๆ แม้ทุกคนจะหยามเหยียดเพียงใด ก็มีแม่ผมนี่หละครับที่กอดและปลอบโยนผมอยู่เสมอ กำลังใจของคุณนายแสนดีทำให้ผมรู้สึกว่าความแปลกเพศของผมไม่ใช่สิ่งที่น่าอายแต่อย่างใดถ้าเราแสดงออกในทางที่ถูกที่ควร ตูอย่างเงินเดือนแรกที่ผมที่ได้รับจากการทำงานทุกบาททุกสตางค์ผมก็เอาไปให้แม่ คุณนายแสนดีทำหน้างงๆ
“เอาซองอะไรมาให้แม่หละ น้องเป้”
“แม่เปิดดูนะ น้องเป้ให้แม่”
คุณนายแสนดีถึงกับน้ำตาซึมเมื่อเปิดดูข้างใน
“เงินเดือน เดือนแรกของน้องเป้ไงคับ น้องเป้ให้แม่”
“อุ๊ย น้องเป้ เอาเก็บไว้ใช้เถอะ ลูก ทำงานซะผอมเลย แค่นี้แม่ก็ภูมิใจมากที่สุดแล้วลูก”
คุณนายแสนดียื่นซองคืนมาให้ผม จนผมต้องยืนกรานไม่ยอมจนคุณนายต้องต้องยอมแพ้ไปเอง ท่ามกลางสายตาของคุณพ่อผมที่มองมาแล้วยิ้มอย่างเงียบๆตามลักษณะของคุณพ่อ ที่ผมทั้งรักและทั้งเกรงใจ
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
หลังจากที่ไอ้หน้าขาวพาผมมาดูคอนโดหรูแห่งนั้นแล้ว ก็มีการขนของเข้าไปกว่าจะจัดของเสร็จก็ปาเข้าไปค่ำๆแถมผมจะต้องนอนที่คอนโดเก่าก่อนเนื่องจากวันรุ่งขึ้นจะได้มีการทำบุญขึ้นบ้านใหม่โดยไอ้หน้าขาวเป็นคนเตรียมข้าวของกันจ้าหละหวั่น แม้กระทั่งต้องไปหาฟักลูกโตกับหินก้อนใหญ่ ขนมทองขนมเงิน ต้นไม่ทองต้นไม้เงิน ความวุ่นวายเริ่มตามมาเมื่อแม่ของผมกับแม่ไอ้หน้าขาวต่างก็งัดตำรามาคนละตำราการหาของตระเตรียมเลยวุ่นเป็นสองเท่า
“เเม่จะต้องหาฟักมาทำไป แล้วหินทำไมต้องใช้หินก้อนใหญ่”
ไอ้หน้าขาวมันถามคุณนายแม่ของมัน
“ตายอด เขาว่าอยู่เย็นเหมือนฟัก หนักเหมือนหินไงจ๊ะ”
“ทำไม ไม่ใช้หินก้อนเล็กหละแม่ ยอดจะได้เก็บในตู้ปลา”
“กินก้อนเล็กมันจะหนักได้ไงหละลูก อย่ามาพูดดี รีบไปหาหินก้อนโตๆ มา”
กว่างานทำบุญขึ้นบ้านใหม่จะผ่านไปก็บ่ายแล้ว ทีนี้หละครับเพื่อนๆ ก็มาเยอะทั้งเพื่อนผม เพื่อนของไอ้หน้าขาว ดูวันนี้นังต้องมันจะร่าเริงเป็นเป็นพิเศษ เพราะเพื่อนไอ้หน้าขาวมันมีแต่หน้าตาเกลี้ยงๆ ใสๆ กันทุกคน ส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่พื้นเพฐานะดี บางคนผมยังไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็นหน้าด้วยซ้ำ ทางผมนอกจากเพื่อนที่สนิทที่บริษัทเก่าอย่างพี่นก ป้าสุดสงวน และอีกสองสามคน แล้วก็ครอบครัวผม มาดาม และก็นังต้อง ส่วนเพื่อนไอ้หน้าขาวมันมาเยอะมาก
ผมยังนึกขำวันนั้นไม่หาย ภาพที่ไอ้หน้าขาวมันแบกหินก้อนโตไว้บนบ่าขวา ส่วนแขนซ้ายก็อุ้มฟักเขียวลูกโต ส่วนผมก็น่าอายเหมือนกัน ที่คุณนายแสนดีจัดแจงให้ผมหาบกระบุงที่ ใส่หม้อ ใส่ไห ใส่ครก แถวหิ้วเตาที่มีถ่านหุงข้าวสีดำๆ อีกด้วย ดีนะที่วันนั้นฤกษ์ขนของเข้าบ้านมัน หกโมงเช้ากับสามสิบเก้านาที ถ้าหากว่ามันสายๆแล้วเพื่อนๆ ผม และเพื่อนไอ้หน้าขาวมันมา ไม่รู้ว่างานนี้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ขนาดไอ้หน้าขาวยังแอบบ่นอุบอิบ
“น้องเป้ นี่ดีนะที่คุณแม่ไม่ให้พี่โห่ด้วย”
“ถ้าคุณแม่ให้โห่ พี่ยอดกล้าโห่ปะหละ ทำมาเป็นพูดดี”
“กล้าสิ พี่โห่ แล้วน้องเป้ก็ฮิ้วววไง”
“บ้าสิ ใครกล้าก็บ้าแล้ว”
“อ้าว ไหงตอนเด็ก น้องเป้เคยบอกว่า ไม่มีอะไรใต้ดวงอาทิตย์ ที่กระเทยไทยทำไม่ได้ นอกจากตั้งท้องกับทำเสียงให้เป็นผู้หญิง”
“ก็ตอนนี้น้องเป้ไม่ได้เป็นกระเทยแล้วนี่”
ผมกระซิบกระซาบกับไอ้หน้าขาว
“แล้วตอนนี้น้องเป้เป็นอะไร”
“ตอนนี้น้องเป้เป็นผู้หญิง”
“เออ...ดีแล้ว เดี๋ยวคืนนี้พี่จะพิสูจน์”
“เสียใจด้วย คืนนี้น้องเป้จะเป็นเกย์ กล้าปะหละ”
“ถ้าเป็นน้องเป้หละ พี่กล้าเสมอ ไม่ว่าน้องเป้จะเป็นอะไรก็ตาม”
ไอ้หน้าขาวมันพูดแล้วมองตาผมแน่นิ่ง ผมก็จ้องตามันตอบ ผมรู้ครับว่ามันพูดจริง เพราะแววตาของมันแน่วแน่จนผมต้องเบนสายตาออกมาหน้าแดงก่ำ
“อุ้ย...พูดกันเรื่องเข้าหอคืนนี้เหรอคุณยอด เห็นอีนังเป้หน้าแดง อุ้ย..อย่ามาหวานแถวนี้นะ เห็นใจคนที่ยังหาแฟนไม่ได้มั่ง”
นังต้องมันสอดขึ้นมาเมื่อมันเห็นผมกระซิบกระซาบกับไอ้หน้าขาว และผมหน้าแดงๆ
“แฟนคนที่ล้านหนะสิ ที่แกยังหาไม่ได้”
ผมเลยกัดมันมั่ง เมื่อก้าวผ่านประตูห้องมาแล้ว นับเป็นการขนของขึ้นบ้านใหม่ครบตามตำราพิลึกพิลั่นของคุณนายทั้งสองแล้ว
เมื่อตอนบ่ายแขกก็ยังเยอะมากเหมือนเดิม จนคับห้องไปหมดขนาดที่ว่าห้องนี้เป็นห้องชุดขนาดใหญ่และกว้างพอสมควร ห้องนอนห้องหนึ่งที่ใช้ในการเก็บของขวัญดูเหมือนมันจะมีของขวัญเกือบเต็มห้อง ทั้งที่ตกลงกันแล้วว่าวันนี้ห้องนอนห้องหนึ่งจะเป็นของผมอีกห้องหนึ่งจะเป็นของไอ้หน้าขาว แต่ดูเหมือนสถานการณ์มันจะไม่อำนวยเสียแล้ว เพราะบรรดาของขวัญที่รับมามันเกือบจะเต็มห้องเสียแล้ว
ผมมองดูบรรดากองกล่องของขวัญที่บรรดาเพื่อนๆ ญาติๆเอามาให้ เต็มห้องนอนผมไปหมด แล้วผมจะไปนอนที่ไหนดีหละคืนนี้ คิดว่าจะได้มีห้องส่วนตัว นอนกลิ้งบนเตียงใหญ่ๆ ให้ฉ่ำปอด ที่สำคัญคุณนายสองคุณนายรวมทั้งนังต้องมันจะมาค้างด้วยหนะสิ แล้ววงสุราก็เริ่มต้นขึ้น เหล้าและเบียร์หมด ไม่รู้ว่าวันนั้นผมต้องออกมาซื้อเหล้าเบียร์กี่เที่ยว เพราะมันเยอะมากจริงๆ แถมพอเมาก็เริ่มมีเสียงแซวมาแว่วๆ
“เมื่อไหร่จะค่ำเสียที จะได้ส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าหอ”
ไม่รู้ว่าใครพูด แต่ที่แน่ๆ เสียงมันมาจากวงที่ไอ้หน้าขาวมันนั่งอยู่แน่ๆ สภาพที่ผมเห็นในตอนนี้คือ ไอ้หน้าขาวมันนั่งโอนเอนไปมา ตาปรือเยิ้มฉ่ำ แก้มและปากของมันมีสีแดงระเรื่อ น่าหอมเป็นบ้า ยิ่งมันเสยผมที่เซ็ทไว้ได้รูป ขึ้นไปให้มันรุ่ยร่าย เซอร์ๆแบบนี้ ผมแทบจะกรี้ดสลบ ไม่คิดว่าไอ้หน้าขาวมันจะเถื่อนได้ใจดีแท้ขนาดนี้
“เฮ้ยมึงว่าน้องเป้มันน่ารักปะวะไอ้ยอด”
ไอ้พี่ชาติ เริ่มปากเสียขึ้นมาแล้ว นี่หละน๊า พอเหล้าเข้าปากทีไรกลุ่มนี้ มักจะหาเรื่องปากเสียเป็นประจำ
“น่ารัก สุดๆ เลยพี่”
ไอ้หน้าขาวพุดแล้วยื่นแก้วเหล้าไปชนกับพี่ชาติดังกริ๊ก
“โอ้ย...ทนไม่ไหวแล้ว อิจฉา เมื่อไหร่พี่ชาติจะบอกว่าน้องต้องน่ารักมั่งหละ”
“เอาไว้ให้พี่หาคนชมไม่ได้ก่อน ตอนนั้นพี่จะชมว่าน้องต้องน่ารักที่สุด”
“บ้า เงียบไปเลยนะพี่ชาติ ไปกินเหล้าต่อเลยไป”
นังต้องมันค้อนพี่ชาติขวับใหญ่ จนเรียกเสียงหัวเราะได้ครืนใหญ่ กลุ่มนี้สนิทกันมากนะครับเพราะว่าเจอกันในผับเวลาไปเที่ยวสมัยก่อนที่ผมกับไอ้หน้าขาวยังโกรธกันอยู่ ไปเที่ยวทีไรก็จะเจอกลุ่มนี้ทุกที แต่ก็ไม่รู้เลยว่ากลุ่มนี้จะสนิทกับไอ้หน้าขาวมาก่อน จนกระทั่งมาเห็นไปกินเหล้าด้วยกันถึงได้รู้ว่าไอ้หน้าขาวมันมีเพื่อนเยอะ ผิดกับผมที่มีเพื่อนน้อย มีไม่กี่คนหรอกครับที่จะสนิทกันกับผม นอกนั้นหละเป็นเพื่อนที่ไม่สนิท หรือเป็นลูกค้าที่ติดต่องานกันอันนี้ก็มีเยอะมากๆ
“น้องเป้ มากินเหล้าหน่อยเด้........”
ไอ้หน้าขาวเดินโซซัดโซเซถือแก้วเหล้ามาทางกลุ่มของผม
“ไม่เอา วันนี้ไม่อยากเมา”
“น่า ไม่เมาหรอก เดี๋ยวพี่ยอดจะดูน้องเป้เอง......... ด้วยชีวิต”
เสียงที่มันออกมาจากปากของคนเมามันคงจะค่อยหรอกครับ มันอ้อแอ้ลั่นไปทั้งห้อง เรียกเสียงโห่ และเสียงแซว จนผมรู้สึกว่าหน้ามันชา ที่สำคัญผมอายมาก
“แหม...สารภาพรักหวานซ๊า อิจฉานังเป้วะ”
นังต้องมันพูดดังๆ
“น้องพี่มันแน่โว้ย ต้องงี้สิน้องเป้ ตระกูลเรา มีทีเด็ดต้องประกาศให้โลกรู้”
ไอ้พี่ปอมันก็เอากะเขาด้วย
“ไอ้ยอด อย่าหักโหมนะมึง เดี๋ยวน้องเป้จะไม่ไหวเอา เพลาๆบ้างนะมึง อย่ารุนแรง”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้พวกกู จะเอาไข่ลวกมาฝากมึงนะ”
อีกหลายคำต่อหลายคำที่พูดออกมาจนผมแทบแทรกแผ่นดินหนีไปจากที่ตรงนั้น แถมไอ้หน้าขาวมันยังร่วมวงกับเพื่อนมันมาแซวผมซะอีก เฮ้อ...ไอ้น้ำเปลี่ยนนิสัย นี่ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าตอนไม่เมา ไอ้หน้าขาวมันจะกล้าพูด กล้าทำกับผมอย่างนี้หรือเปล่าน๊า....นี่ขนาดต่อหน้าทั้งคุณแม่ของมันและคุณแม่ของผมเชียวนะเนี่ย...........
***************************************************************************
สงสงสัยปะครับว่าทำไมพ่อของเป้ผมกับพ่อไอ้หน้าขาวเป้ถึงไม่ได้กล่าวถึงเลย เพราะท่านไม่มาร่วมงานด้วยสิครับ ถามพ่อแล้วพ่อบอกว่า
"พ่อเขินวะ ไอ้เป้ ผู้ชายมันจะนอนห้องเดียวกัน แถมเป็นลูกชายพ่ออีกทั้งคู่ เห็นกันมาตั้งแต่ตัวเล็กๆ พ่อไม่กล้าไปวะ"
นี่หละครับคุณพ่อที่แสนดีของเป้ แต่ยังไงครอบครัวเป้ไม่ได้มีปัญหาเกี่ยวกับที่เป้มาอยู่กับไอ้หน้าขาวนะครับ เพราะพ่อผมกับคุณพ่อไอ้หน้าขาวเขาคุยกันทุกวันครับเรื่องลูกๆ เป้นี่แย่จังนะครับทุกวันคุณนายแสนดีก็ยังโทรศัพท์มาถามไถ่ และทุกวันเป้จะต้องโทรไปคุยกับคุณพ่อเหมือนกันเพราะท่านไม่โทรหาเป้แน่นอน ยังไงก็ขอให้รักพ่อรักแม่นะครับ