.............
ซอเรนมองตามร่างบางที่แทบปลิวไปกับลมด้วยความผ่ายผอม เกือบสองเดือนมาแล้วที่ราเชลแทบไม่แตะอาหารเลย นับจากวันที่ทราบข่าวการตายของคนรักจนถึงวันนี้ราเชลก็แทบไม่พูดอะไรเลย ตอนแรกทุกคนพากันโล่งใจที่ราเชลไม่กลับคลุ้มคลั่งอาระวาด แต่เมื่อเวลาผ่านไปการเงียบเฉยของเด็กหนุ่มกลับน่ากลัวยิ่งกว่า
อีกคนที่อาการน่าเป็นห่วงคือกาย พอลลิ่ง เด็กหนุ่มคนนั้นมีอาการแตกต่างกับราเชลอย่างสิ้นเชิง ตอนไปรับศพที่ไหม้จนมองไม่ออก เด็กหนุ่มก็ล้มฟาดลงข้างเตียง แต่เมื่อฟื้นขึ้นมากายกลับสดใสร่าเริง ไม่พูดไม่เอ่ยอะไรถึงอุบัติเหตุ กลับพูดคุยราวกับเท็ดยังมีชีวิตอยู่ ทุกคนได้แต่สงสารแต่ไม่รู้จะช่วยอย่างไรเพราะนอกจากอาการเหล่านี้กายไม่มีอาการผิดปกติอื่นๆ เมื่อเด็กหนุ่มขอไปรับการผ่าตัดสะโพกครั้งที่สองที่เยอรมันจึงไม่มีใครค้าน นอกจากมารดาจะตามไปด้วยเท่านั้น
ทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมดเมื่อริชตาย หลักฐานที่จะมัดตัวเกรเซอร์ก็ไม่มี และเกลเซอร์ก็ไม่โง่พอที่จะเข้ามายุ่งกับทุกคนในครอบครัวของริชด้วยรู้ว่าตำรวจจับตาดูอยู่ เรื่องจึงเงียบหายเหมือนคลื่นกระทบฝั่ง
ราเชลออกจากโรงพยาบาลก็ย้ายมาอยู่ที่กระท่อมริมบึงนี่เป็นการถาวร แรกๆทั้งย่าและเพื่อนๆต่างก็แวะเวียนมาเยี่ยมไม่ได้ขาด แต่เมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มปกติดีจึงค่อยๆหายหน้ากันไป เหลือเพียงย่าที่มาอาทิตย์ละครั้งเท่านั้น
ดูเหมือนราเชลจะไม่ได้เดือดร้อนใจแต่อย่างใด เด็กหนุ่มชอบทำอะไรคนเดียวเงียบๆ จนบางวันก็แทบไม่ได้พูดกับซอเรนด้วยซ้ำแต่ชายหนุ่มก็ยังอดทนมาหาทุกวัน เวลาของราเชลหมดไปกับการทำงานบ้านเล็กๆน้อยๆเดินลัดเลาะไปตามริมทะเลสาบ แรกๆซอเรนก็กลัวว่าเด็กหนุ่มจะคิดสั้นแต่เมื่อสังเกตดูก็พบว่าราเชลไม่ได้มีความคิดแบบนั้นแน่ก็สบายใจขึ้น
ราเชลลอบมองคนที่เดินตามห่างๆด้วยความไม่สบายใจ เขารู้ว่าซอเรนห่วง แต่เขาไม่ต้องการ เด็กหนุ่มรู้ดีว่าเขาอยู่ที่นี่เพื่ออะไร... ราเชลกำลังรอ เขาแน่ใจว่าริชต้องกลับมา แม้ผลการชันสูตรจะยืนยันว่าศพที่พบเป็นศพของริชก็ตาม
แต่ราเชลเชื่อลางสังหรณ์ของตัวเอง เขาแน่ใจว่าริชยังไม่ตาย และริชต้องกลับมา ราเชลเชื่อในปาฏิหาริย์เสมอ ขนาดกายหายไปเกือบ7ปีก็ยังกลับมาหาเท็ดได้ แล้วริชเพิ่งหายไปไม่กี่สัปดาห์จะให้เขาเชื่อว่าริชตายนั้นเขายอมรับไม่ได้
ราเชลขมวดคิ้ว ไม่แน่ใจว่าตาเขาฝาดไปหรือเปล่าแต่เขาเห็นสุนัขวิ่งอยู่ริมบึงฝั่งตรงข้าม หรือว่าเจ้าของบ้านหลังนั้นกลับมาจากต่างประเทศแล้ว ราเชลเพ่งมองเมื่อสังเกตเห็นเงาวูบวาบ
“ราเชลกลับกันเถอะครับ” เสียงที่ดังขึ้นข้างหลังทำให้ราเชลสะดุ้ง เขาหันกลับมาเจอหน้าเจื่อนๆของหมอ
“ขอโทษทีผมไม่คิดว่าคุณกำลังเพลินอยู่เลยเรียก ดูอะไรอยู่ครับ?”
“ไม่มีอะไรหรอกครับหมอ…กลับก็ได้ครับ” ราเชลเหลือบมองบ้านนั้นอย่างเสียดาย เงาวูบวาบที่เห็นหายไปแล้ว สงสัยเจ้าของบ้านนั้นคงกลับมาหรือไม่ก็คงจ้างคนมาตกแต่งซ่อมแซมบ้าน เด็กหนุ่มละความสนใจเดินกลับบ้านพร้อมหมอ
ทันที่มื้อค่ำผ่านไปก็มีโทรศัพท์ตามตัวซอเรนจากโรงพยาบาล แม้จะค่อนข้างห่วงราเชลแต่หมอก็จำต้องรีบไป
“ปิดประตูล็อคเลยนะ ไม่ต้องไปส่งผมที่รถ แล้วถ้ามีอะไรก็โทรหาผมทันทีเข้าใจนะ”
“ครับ…หมอไปเถอะผมอยู่ได้”
ซอเรนออกมาขึ้นรถด้วยความกังวล ไม่ค่อยสบายใจนักที่ต้องทิ้งให้ราเชลอยู่คนเดียว แต่เมื่อมองไปทางคอกม้าก็เห็นร่างสูงๆซึ่งคงจะเป็นลุงไมค์ซอเรนก็รีบตะโกนบอก
“ฝากราเชลด้วยนะครับ” ลุงไมค์โบกมือตอบ ซอเรนขับรถออกไปด้วยความสบายใจกว่าเดิม
เสียงเพลงแผ่วหวานที่ดังขึ้นกลางดึกปลุกให้ราเชลตื่นขึ้นมาด้วยความแปลกใจ ครั้งแรกที่ได้ยินนั้นนึกว่ากำลังฝัน แต่เมื่อฟังจนแน่ใจเด็กหนุ่มก็อดลุกขึ้นไปมองหาที่มาไม่ได้ กระท่อมหลังเล็กของลุงไมค์ยังเปิดไฟสว่าง ราเชลมองอย่างแปลกใจเมื่อแน่ใจว่าเพลงที่ได้ยินดังมาจากที่นั่น เพิ่งรู้ว่าลุงไมค์ก็เป่าเม้าท์ออแกนด์ได้เพราะจับใจ ราเชลเปิดหน้าต่างออกกว้าง ขึ้นไปนั่งนขอบหน้าต่างฟังเพลงอย่างสบายใจ เสียงเพลงไพเราะค่อยๆเบาลงและเมื่อเพลงใหม่ดังขึ้น ราเชลก็สะท้านไปทั้งตัว น้ำตาอุ่นๆไหลลงมาช้าๆ เมื่อได้ยินเสียงเพลงที่คุ้นหู
“ริช…คุณอยู่ที่ไหน…เมื่อไหร่คุณจะกลับมาหาผมเสียที”
ราเชลหลับตาลง ปล่อยใจบอบช้ำให้ลอยไปหาอดีตอันวันชื่นนับจากครั้งแรกที่ได้สบตาริชจนถึงคืนวันที่ได้อยู่ด้วยกันที่นี่ เด็กหนุ่มมัวจมอยู่กับอดีตจนไม่ได้สังเกตว่าเสียงเพลงดังใกล้เข้ามาทุกทีจนกระทั้งเสียงเพลงหยุดลง
ราเชลลืมตาขึ้น สิ่งแรกที่เห็นคือดวงตาวาววามที่เป็นประกายล้อแสงไฟแรงต่ำข้างหน้าต่าง
“ริช…ไม่…เห็นภาพลวงตาอีกแล้ว…” ราเชลหลับตาลงและร้องไห้ด้วยความปวดร้าว เขาไม่เคยบอกหมอว่าเห็นภาพหลอนของริชอยู่บ่อยๆ
“ภาพลวงตาจูบเธอไม่ได้หรอกที่รัก” เสียงกระซิบอ่อนโยนตามด้วยลมหายใจร้อนๆริดรดหน้าผาก ราเชลผวาทั้งตัวเด็กหนุ่มเบิกตากว้างจ้องคนตรงหน้าอย่างตื่นตะลึง
“…ริช!…พระเจ้าผมไม่ได้ฝันไป ริชนี่คุณจริงๆใช่ไหม?” ราเชลละล่ำละลักออกมาหลังจากอึ้งอยู่นานกว่าจะหาเสียงตัวเองเจอ เด็กหนุ่มโผเข้าหาอ้อมแขนกว้างที่โอบรัดและดึงร่างบางออกมานอกหน้าต่าง
“ริชๆๆ…ใช่คุณจริงๆนี่ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหม…ผมไม่ได้เห็นภาพลวงตาใช่ไหม…คุณกลับมาแล้วจริงๆ คุณทำตามสัญญา คุณบอกแล้วว่าจะไม่ทิ้งผมอีก…ริช” ราเชลพร่ำพูดปนสะอื้น สองมือลูบไล้ไปทั่วใบหน้าคล้ำกร้าน
“ที่รัก…ฉันกลับมาอยู่กับเธอแล้ว ฉันไม่ใช่ภาพลวงตา เธอไม่เคยเห็นภาพลวงตาหรอกนะราเชล ทุกครั้งเธอเห็นฉันจริงๆนะ…อ้อยกเว้นในฝัน นั่นก็ฝันถึงฉันอยู่ดี”
“หมายความว่ายังไง?”
“ฉันอยู่ใกล้ๆเธอตลอดเวลานั่นแหละที่รัก แต่ที่ไม่ได้มาหาเพราะมันจำเป็นหากพวกมันรู้ว่าฉันยังไม่ตาย พวกมันต้องหาทางเอาตัวเธอไปต่อรองแน่…ครอบครัวเธอก็ต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย”
ราเชลได้แต่อึ้งริชเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฟัง
“เกลเซอร์เป็นทั้งญาติและหุ้นส่วนบริษัทที่เอเซีย เขายักยอกเงินบริษัทไปหลายร้อยล้านเพื่อไปเป็นทุนค้ายาเสพติด คนในบริษัทส่วนใหญ่เป็นคนของเขา เรื่องคงไม่แดงหากเขาไม่หันไปโกงหุ้นส่วนรายใหญ่ของบริษัทใหม่ของฉัน ทางนั้นตรวจสอบเงียบมากและติดต่อมาคุยกับฉันโดยตรง ฉันถึงได้หลักฐานการโกงของเขา ฉันกับเท็ดเข้าไปสืบจนเกือบได้เรื่องอยู่แล้ว มาพลาดที่เลขาของหุ้นส่วนดันเป็นคนของเกลเซอร์ ทางโน้นเลยซ้อนแผนโดยเอาคนของเข้ามาแทรกซึม รู้ไหมใคร?”
ราเชลได้แต่ส่ายหน้า ไม่กล้าเดา เพราะเท่าที่รู้คนของริชส่วนใหญ่อยู่มาตั้งแต่ริชยังเด็ก
“คนรักของเหลียง เหลียงไม่รู้ตัวเลยกระทั่งครอบครัวตกอยู่ในอันตราย เขาลอบส่งข่าวบอกเท็ดแล้วยังแทรกซึมฝ่ายนั้นให้จนกระทั่งเท็ดช่วยครอบครัวเขาได้
เหลียงเลยทำเป็นล่อให้ฉันไปติดกับ เราเกือบจับมันได้อยู่แล้ว แต่ตำรวจท้องที่ที่เป็นคนของพวกปล่อยให้มันหนีได้ พวกมันเลยเผาโกดังทำลายหลักฐาน แล้วฆ่าคนของเราไปหลายคน แถมยังส่งคนตามมาฆ่าฉันกับเท็ด ดีว่าเหลียงตามมาช่วยทัน เราเลยซ้อนแผนแต่งศพคนของพวกมันหลอกให้มันคิดว่าฆ่าได้สำเร็จ”
“แต่ผลการชันสูตรก็ยืนยันว่าเป็นศพที่ไหม้เกรียมนั่นเป็นคุณกับคุณเท็ดนี่ครับ”
“คนของหุ้นส่วนฉันเขามีทันตแพทย์ที่เชี่ยวชาญ เขาทำการตกแต่งฟันศพให้เหมือนกับฉันและเท็ด อีกอย่างหมอชันสูตรก็เป็นคนของเรา ตรวจกี่ครั้งผลก็เป็นไปตามที่เราสั่งทั้งนั้น”
“แต่หลักฐานที่คุณมีก็เอาผิดพวกมันได้ ไม่เห็นต้องเสี่ยงขนาดนั้น”
“แค่ที่แฮกเกอร์มามันไม่พอที่จะเอาตัวเกลเซอร์เข้าคุกหรอกนะ อย่างมากก็พวกปลาซิวปลาสร้อยที่เกลเซอร์จะบังคับให้มาเป็นแพะรับบาปเท่านั้น”
“แล้วทำไมคุณไม่บอกผมสักคำ?”
“ขอโทษที่รัก ฉันไม่กล้าปรากฏตัวเกรงว่าจะพลาดให้พวกมันไหวตัว แต่ผลก็คุ้มค่านะตอนนี้พวกมันโดนจับข้อหาขนยาเสพติดล็อตใหญ่ งานนี้ได้ตัวทั้งแก็งค์เพราะเกลเซอร์ประมาทที่ใช้เรือของตัวเองขนยา คงกะถอนทุนคืนเพราะของล๊อตที่แล้วถูกเผาทำลายหลักฐานไปหมด งานนี้ตำรวจสากลคงไม่ปล่อยให้หลุดง่ายๆ เส้นสายที่จะวิ่งเต้นก็ไม่มี อีกอย่างพ่อลงเล่นด้วยตัวเองคงไม่มีใครกล้ายื่นมือมาจัดการให้อีกแล้ว”
ราเชลจ้องมองหน้าคร้ามที่คล้ำและผอมลงกว่าเดิมมาก เด็กหนุ่มลูบไล้ใบหน้าระคายด้วยหนวดอย่างอ่อนโยน ถอนใจยาวแล้วซบหน้ากับอกอุ่นอย่างโล่งใจ
ริชประคองกอดคนรักไว้แนบแน่น ราเชลผอมเหลือเกิน เพราะเขาที่ทำให้เด็กหนุ่มต้องทุกข์ใจครั้งแล้วครั้งเล่า
“ขอโทษนะที่รัก ฉันผิดสัญญาอีกแล้ว…ทั้งๆที่เคยพูดว่าจะไม่ทำให้เธอทุกข์ใจอีก แต่วันนี้เธอก็ต้องร้องไห้เพราะฉันอีกแล้ว…หากต้องการให้ฉันทำอะไรฉันก็ยินดีทั้งนั้น ขอแค่เธอให้โอกาสฉันอีกครั้ง ต่อจากนี้ไปฉันจะไม่ทำให้เธอเจ็บอีก”
“ผมไม่ต้องการหรอกริช ผมจะขอจากคุณอย่างเดียวเท่านั้น…ต่อไปนี้จะทุกข์หรือสุข จะเป็นหรือตายขอให้เราอยู่ด้วยกันได้ไหม ผมไม่อยากรออีกแล้ว การรอคอยมันทรมาน สู้ให้ผมเผชิญไปพร้อมๆกับคุณเสียดีกว่า ให้ได้ไหมครับริช?”
“แล้วถ้าเรื่องนั้นมันอันตรายล่ะ?...เหมือนคราวนี้ พวกนั้นเจาะจงตัวเธอมากกว่าฉันเสียอีก มันรู้ว่าต้องได้ตัวเธอถึงจะบีบให้ฉันติดกับได้ หากไปด้วยกันอะไรจะเกิดขึ้น…ฉันไม่สนหรอกราเชลว่าชีวิตฉันจะเป็นยังไง ขอแค่รู้ว่าเธอปลอดภัยก็พอแล้ว”
“ผมก็คิดแบบนั้น…สัญญาสิริชไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นให้ผมไปด้วย หากคุณทิ้งผมไว้อีก ครั้งหน้าผมอาจไม่รอคุณก็ได้”
“อย่าขู่สิ…รู้หรอกน่าว่ามีคนคอยดูแลอยู่ถึงได้วางใจ”
“ไม่หึงหมอแล้วเหรอ?”
“หึง…แต่ทำไงได้ล่ะ…นอกจากเท็ดกับเจฟ คนที่ไว้ใจได้ว่าจะปกป้องราเชลด้วยชีวิตก็มีแต่เขาคนเดียว หมอรักเธอมากนะ ทั้งรักทั้งเสียสละอย่างที่ฉันทำไม่ได้ หากต้องเสียเธอให้คนอื่นก็ต้องให้ฉันตายไปแล้วนั่นแหละ เพราะถ้ายังมีชีวิตอยู่ฉันก็ต้องไปเอาตัวเธอกลับมาจนได้”
“คนเห็นแก่ตัว”
“แน่ล่ะ…อะไรที่เป็นของฉันจะไม่มีวันยกให้ใคร หากต้องเสียเธอฉันฆ่าเธอให้ตายไปด้วยกันเสียดีกว่า”
“จำไว้นะครับว่าวันนี้พูดอะไรไว้…ถ้าวันหน้าคุณผิดคำพูดผมจะทำอย่างที่คุณสัญญานี่แหละ ตายด้วยมือผมดีกว่ายอมให้คนอื่นจริงไหม?”
ริชยิ้มแห้งๆ ราเชลหัวเราะเสียงใสแต่ลูกนัยน์ตาวาววับจนชายหนุ่มหนาวหลังวาบๆ
..................................
สนามหน้าคฤหาสน์เวลบอร์นวันนี้คึกคักเป็นพิเศษ เด็กหญิงสามคนที่หน้าเหมือนกันราวกับพิมพ์เดียววิ่งไล่กวดกันไปมาจนสาวใช้ที่ช่วยกันยกอาหารออกมาจัดที่โต๊ะต้องคอยหลบ เสียงพูดคุยเฮฮาดังมาจากกลุ่มหนุ่มๆที่ยืนดื่มกันอยู่อีกด้าน ขณะที่เจ้าภาพสาวใหญ่คนงามหัวเราะเสียงใสอยู่ตรงกลางราวกับดาวล้อมเดือน
ราฟกับลินดานั่งคุยอยู่กับหญิงเหล็กแห่งเวลบอร์นด้วยสีหน้าสดใส นานๆสาวน้อยแฝดสามก็จะมาอ้อนขอขนมจากคุณตาคุณยายเสียทีแล้วก็กลับไปวิ่งเล่นใหม่ รถเบนส์สีทองคลานเข้ามาจอดอย่างนุ่มนวล แฝดสามหยุดกึกร้องวี๊ดอย่างตื่นเต้นวิ่งถลาออกไปรับมารดาทันที ฟลอเรนพาร่างอุ้ยอ้ายลงจากรถอย่างยากเย็น โดยมีหมอโจนาธานคอยประคอง
“พอแล้วจ๊ะสาวๆ ให้คุณแม่เดินหน่อยลูกเดี๋ยวจะล้มไปเสียก่อน มาจ๊ะมาทางนี้” ลินดาส่งเสียงปรามแฝดสามด้วยความเป็นห่วงเพราะเกรงว่าจะพันแข็งพันขาจนฟลอเรนล้มไป
“ไงจ๊ะแม่ลูกแมว ผลการตรวจเป็นไง แฝดอีกหรือเปล่า?”ริชแซวยิ้มๆ
“หมอบอกว่าน่าจะแฝดสาม หรืออาจจะมากกว่าก็ได้นะ” ฟลอเรนตอบหน้าตาเฉยแล้วหัวเราะคิกเมื่อเห็นหน้าแหยๆของพี่ชาย ริชชะโงกไปมองที่รถแต่ไม่เห็นใคร
“เจฟละ?”
“เดี๋ยวตามมา เห็นป๋าบอกว่าจะไปธุระนิดหน่อย” ฟลอเรนเรียกเจฟตามพวกเด็กๆจนติดปาก เจฟกลายเป็นคุณพ่อตัวจริงไปมากกว่าพ่อแม่แท้ๆของสามแฝดที่งานยุ่งอยู่ตลอดแต่กระนั้นก็มีเวลาผลิตทายาทตัวน้อยๆได้ไม่หยุด
“พี่สะใภ้ฉันละ” ฟลอเรนชะเง้อหาเมื่อไม่เห็นราเชลอยู่แถวนั้น
“อย่าเรียกให้ได้ยินเชียวนะงอนตายเลย โน้นบงการให้เขาจัดเปียโนอยู่ตรงที่ศาลาโน่น”
“ว้าว!ราเชลจะโชว์เปียโนเหรอ แหมเราโชคดีจังนะคะคุณที่เลื่อนงานออกไปได้ ไม่ได้ฟังมาตั้งนานแล้ว”
“ใครบอก ลูกศิษย์เขาเล่นต่างหาก” ริชตอบขันๆ
“หือ…ใคร?”
“น่าถึงเวลาก็รู้เอง…ไปนั่งก่อนดีกว่าแม่มองตาเขียวแล้ว”
“ไปก็ได้…อ้าว!บ้านพอลลิ่งมาแล้ว”
เชฟโรเลตกลางเก่ากลางใหม่แล่นเข้ามาจอดเทียบ ร่างบางโดดลงมาก่อน แล้วปราดเข้าไปประคองบิดา ดาน่า พอลลิ่งโดดตามลูกชายลงมาอย่างคล่องแคล่วแล้วหันมาช่วยกันประคองแดนนี่ แต่แดนนี่โบกมือปฏิเสธและใช้ไม้เท้าแทน
“สวัสดีครับ”
“สวัสดีจ๊ะ…ไงจ๊ะฟลอเรนมีน้องให้สามแฝดแล้วเหรอเนี่ย…กี่เดือนแล้วจ๊ะ?”
“เจ็ดเดือนค่ะ”
“แล้วมีแววว่าจะแฝดอีกหรือเปล่าครับ?”
“แฝดค่ะ เพิ่งไปอัลตร้าซาว์มา สงสัยพวกเด็กๆจะได้ช่วยกันเลี้ยงน้องทุกคน”
“หา!นี่แฝดสามอีกแล้วเหรอ?”
เท็ดที่เดินตามหลังมาอุทานอย่างตกใจ ฟลอเรนหัวเราะคิกอย่างสนุกสนานที่ได้เห็นสีหน้าแหยๆของทุกคน ลำพังแค่สามสาวของเธอก็ซนจนทุกคนเวียนหัวไปตามๆกันแล้ว นี่ยังจะมีมาเพิ่มอีกสาม คงได้หัวปั่นกันยิ่งกว่าเดิม
แต่ฟลอเรนรู้ว่าทุกคนทำเป็นตกใจไปอย่างนั้นเอง ถึงเวลาพวกลูกๆของเธอก็กลายเป็นสุดที่รักของทุกบ้านอยู่ดี
“ไงโจนาธานไม่เห็นพูดอะไรเลย” ริชแซวน้องเขยยิ้มๆ หมอหนุ่มเพียงแต่ยิ้ม คนตอบกลับเป็นภรรยาคนสวย
“ก็ฉันพูดแทนหมดแล้วเขาจะพูดอะไรอีกล่ะ”
“จริงจ้ะ…เธอน่ะพูดจนไอ้หมอมันจะเป็นใบ้อยู่แล้ว”
ฟลอเรนเชิดหน้าอย่างอวดๆ ก่อนจะบงการให้สามีพาไปนั่งกับลินดา โดยมีแดนนี่และดาน่าตามไปติดๆ พอมีเท็ดกับกายเข้ามาสมทบการสนทนาก็ดูจะครึกครื้นกว่าเดิม
ราเชลหันกลับมาเมื่อมีแก้วเย็นเฉียบแตะแก้ม ริชอมยิ้มส่งแก้วบรรจุน้ำผลไม้สีสดให้คนรัก ราเชลขอบคุณเบาๆรับแก้วไปดื่มและเกือบสำลักเมื่อโดนโอบเอวไว้แน่น
“อย่าทำอะไรรุ่มร่ามสิครับ”
“ไม่เห็นเป็นอะไรเลย คนอื่นๆเขาหวานกว่านี้อีก” ริชตอบหน้าตาเฉยแถมวางคางไว้บนไหล่บาง ราเชลหน้าแดงเมื่อเห็นช่างเปียโนเหลือบมองมาและรีบหันกลับไป เด็กหนุ่มกระทุ้งศอกเข้าใส่หน้าท้องแข็งข้างหลัง ริชแกล้งโอดโอยเสียงดังแต่ไม่ยอมปล่อย แถมยังก้มลงจูบแก้มเนียนแรงๆ ราเชลเหยียบเท้าชายหนุ่มเต็มแรง คราวนี้ริชสะดุ้งโหยง พออ้อมแขนคลายเด็กหนุ่มก็เดินหนีไปหาย่า ริชหัวเราะหึๆตามหลัง แต่แยกมารวมกลุ่มกับเพื่อนๆอีกครั้ง
“นี่ริชอย่าให้มันหวานมากนักนะ อย่าลืมสิว่านี่งานฉลองครบรอบแต่งงานของฉันกับชาล์ลนะไม่ใช่ของเธอ” ริวาน่าแซวเสียงใส ขณะที่คนอื่นๆหัวเราะกันครืน เจอร์รี่ส่งไพ่ให้ริวาน่าตัดแล้วรับมาวาง
“ดวงคุณดีจังฮะ…หืม…คุณกำลังจะมีโชคลาภครั้งใหญ่ อาจหมายถึงการเจรจาธุรกิจที่ประสบความสำเร็จหรือ…อาจหมายถึง…เด็ก! ริวาน่าคุณอาจกำลังจะมีเจ้าตัวเล็กก็ได้” เจอร์รี่อุทานอย่างตื่นเต้น ทุกคนหัวเราะชอบใจ ริวาน่าอายุเกือบ40 แล้วแม้จะดูสดใสและอ่อนกว่าวัยมาก แต่ก็ไม่น่าจะมีลูกได้ ขณะที่ทุกคนหัวเราะริวาน่ากลับนิ่งอึ้งจนทุกคนเอะใจ
“ริวาน่า…คุณกำลังจะมีเด็กเหรอ?” ริชอุทานอย่างตกใจ คนอื่นๆพลอยจ้องอย่างตื่นเต้น ริวาน่ายิ้มหน้าแหยๆแต่กลับพยักหน้า
“หา!แล้วนี่ชาร์ลรู้หรือยัง?”
“คือ…ตอนแรกฉันยังไม่ค่อยมั่นใจก็เลยไม่ได้บอก…แต่…แต่ก็มาแน่ใจเอาเมื่อวาน ฉันไปซื้อที่เทสต์มาตรวจ นี่กะว่าพรุ่งนี้จะไปหาหมออีกที”
“ว้าว!ดีจังครับ ถ้าราเชลรู้ต้องดีใจมากแน่ๆ”กายอุทานอย่างตื่นเต้น ริชวิ่ง
ถลาไปหาคนรักอย่างเอาหน้าเต็มที่
“ราเชล…มานี่หน่อยสิ” ริชโอบเอวบางดึงให้ลุกออกมาด้วยกัน ราเชลยิ้มให้ผู้ใหญ่ทุกคนอายๆก่อนจะรีบลุกตามมาและอดดึงมือริชออกไม่ได้
“อย่าทำอะไรรุ่มร่ามต่อหน้าผู้ใหญ่ได้ไหม?…ว่าแต่เรียกผมออกมามีอะไรเหรอ?”
“ดุจัง…งอนแล้วนะ ไม่บอกหรอกถ้าไม่พูดหวานๆก่อน”
“นี่ริชผมไม่ได้อยากรู้ อยากจะงอนก็งอนไปเลยผมไปละ”
“อ้าวเดี๋ยวดิ…จะไม่ง้อหน่อยเหรอ?”
“ไม่ง้อครับ…นี่ปล่อยสิมากอดผมทำไมเนี่ย ริช!ผมอายเขานะ มาเที่ยวกอดต่อหน้าคนได้ไง?”
“ไม่เห็นเป็นไรเลย ดูโน้นกายกับเท็ดก็หวานกันออก เจอร์รี่กับแมททิวก็นัวเนียหนุงหนิงกันมาตั้งแต่เช้าแล้ว หมอกับฟลอเรนก็ออกจะนอกหน้า ไม่รู้ว่าเธอจะอายไปทำไม”
“ไม่ต้องมาพูดเลย คนอื่นไงผมไม่รู้แต่ผมอายแล้วก็ไม่ชอบให้ริชทำแบบนี้ต่อหน้าคนอื่นอีก…ถ้าทำอีกเราแยกห้องกัน”
“ราเชลจ๋า…ไม่คุยเรื่องนี้แล้ว ผมมีเรื่องตื่นเต้นมาบอก”
“อะไรครับ?”
“ริวาน่ากำลังจะมีเด็ก”
“อะไรนะครับ”
“เธอกำลังจะมีน้อง ริวาน่าตั้งท้องแล้วนะ”
“โอ๊ย!จริงเหรอเนี่ย…นี่คุณพ่อรู้หรือยัง?”
“เธอยังไม่ได้บอกคนในบ้าน ที่พวกเรารู้เพราะเจอร์รี่ทายไพ่ให้ แล้วทักว่า
ริวาน่ากำลังจะมีลูก เธอถึงสารภาพว่าเพิ่งแน่ใจเมื่อวานนี้เอง กำลังจะไปตรวจอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ”
“ผมต้องบอกคุณย่าก่อน โอ๊ยนี่ถ้าพ่อรู้ต้องดีใจแทบตายแน่ๆ”
“ฉันว่าให้ริวาน่าบอกคุณย่าเองดีกว่า โน้นเดินมาโน้นแล้ว”
“ราเชล…เอ่อ…รู้แล้วใช่ไหม…โกรธหรือเปล่า?” ริวาน่าอึกอักอย่างไม่ค่อยสบายใจ
“ริวาน่าครับดีใจด้วยที่กำลังจะมีลูก ครอบครัวเราจะได้มีเด็กเล็กๆเสียที”
“ราเชลไม่โกรธเหรอ…ฉันแย่งคุณพ่อมาหนหนึ่งแล้ว แล้วนี่ยังมามีลูกกับพ่อเธออีก ฉันไม่สบายใจเลย”
“ผมรักคุณนะฮะ ผมไม่เคยคิดว่าคุณเป็นคนอื่นกลับรู้สึกเหมือนคุณเป็นแม่แท้ๆด้วยซ้ำ ไปครับไปบอกคุณย่าเถอะท่านต้องดีใจมากแน่ๆ”
ริวาน่ายิ้มให้ราเชลอย่างตื้นตัน เธอไม่กล้าปริปากบอกใครด้วยเกรงว่า
ราเชลจะไม่พอใจ หากเป็นเช่นนั้นเธอก็จะไปคลอดลูกที่อื่นและจะแอบเลี้ยงโดยไม่ให้คนในตระกูลเวลบอร์นรู้ แต่ผลกลับตรงกันข้าม ทันทีที่มารดาของสามีรู้นางถึงกับน้ำตาซึมด้วยความดีใจ ทุกคนต่างเข้ามารุมล้อมแสดงความยินดีเป็นการใหญ่ ริวาน่าตั้งปณิธานกับตัวเองเงียบๆ ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรเธอจะไม่ให้ลูกของเธอแข่งขันชิงดีกับพี่ชายเด็ดขาด เธอไม่อยากเห็นความแตกร้าวเหมือนกับที่ตระกูลแฮมิลตันต้องเผชิญมา
เสียงรถแล่นเข้ามาจอด เจฟโดดลงมาก่อน ตามด้วยเดนเซลและลอว์ลี่ เจอร์รี่โบกมือหยอยๆอย่างตื่นเต้น ลอว์ลี่วิ่งตัวปลิวมากอดพี่ฝาแฝด เดนเซลเดินตามมาเงียบๆและหัวเราะร่าเมื่อเห็นท้องป่องนูนของฟลอเรน
ริชเหลือบมองลอว์ลี่กับเดนเซลก่อนจะหันมามองหน้าเจฟฟรี่
“นี่เหรอธุระของนาย?”
“ความจริงต้องมีแจ็คมาด้วยครับ แต่รู้สึกว่ากำลังฮันนีมูนอยู่ที่ไซบีเรีย”
เจฟฟรี่ตอบยิ้มๆ ริชเหลือกตาขึ้นฟ้าออกจะทึ่งๆคนรักของแจ็ค เห็นวางท่าราวกับหงส์อย่างนั้นแต่กลับทรหดอดทนสมกับมีเลือดทะเลทรายอยู่ในตัวจริงๆ แต่จะว่าไปเขากับแจ็คตอนนี้ต้องนับว่าเป็นคู่แข่งกันเสียแล้วเพราะดูเหมือนกิจการหลายอย่างที่แจ็คไปช่วยคนรักบริหารจะมาแข่งกับกิจการของเครือแฮมิลตันอยู่ไม่น้อย
“นี่พี่ถ้าจะมาคุยกันสองคนละก็ กลับไปบ้านเลยไป”
เสียงน้องสาวตะโกนแซว ริชหันกลับไปพบว่าทุกคนพร้อมกันอยู่ที่สนามแล้วรวมทั้งเจ้าของงานก็มาถึงแล้วเช่นกัน เจฟฟรี่กับริชหันมามองหน้ากันก่อนจะหัวเราะแล้วตามไปสมทบ สามสาวน้อยวิ่งตัวกลมมาหา เจฟฟรี่คว้าตัวยกขึ้นอุ้มจนหมดทั้งสามคน ได้ยินเสียงอวดแจ้วๆว่าพวกเธอจะเล่นเปียโนให้ฟังเป็นการเซอร์ไพร์ททุกๆคน
ริชเดินตามเข้าไปนั่งบนเท้าแขนเก้าอี้ตัวที่ราเชลนั่ง เด็กหนุ่มเงยขึ้นมาหัวเราะอย่างสดใส วันวานที่เลวร้ายได้ผ่านพ้นไปอย่างสิ้นเชิง ราเชลในวันนี้เติบโตและหยัดยืนได้ด้วยตัวเองแล้ว
“ขอบคุณครับที่ทำให้ผมมีวันนี้...ผมรักคุณที่สุดในโลกครับ” ราเชลกระซิบบอกริชเบาๆ
ขณะที่ทุกคนส่งเสียงโห่ฮาเมื่อชาร์ลอุ้มภรรยาขึ้นจนตัวลอยเมื่อได้ฟังข่าวดี จึงไม่มีใครสังเกตว่ามีคู่รักแอบจูบกันอย่างดูดดื่ม
จบแล้วจ้า…
...............................
ขอบคุณทึ่ติดตามอ่านมาโดยตลอดนะ หวังว่าคงชอบนิยายทีมีชื่อภาษาอังกฤษกัน เพราะจะต้องทนอ่านกันอีก 2 เรื่อง
เดี๋ยวมีตอนพิเศษมาลงให้คะแต่ไม่ใช่คู่ริชและราชลนะ จะเป็นคู่ของใครตามอ่านกันนะ
